แชร์

บทที่ 258

ผู้เขียน: ซ่งจิ้น
หม้อบะหมี่หม้อใหญ่นั้นไม่ใช่แค่เยอะ แต่รสชาติยังแย่มากอีกด้วย

ตั้งแต่จำความได้ ซังหนี่ไม่เคยกินอะไรที่ไม่อร่อยขนาดนี้มาก่อนเลย

สุดท้าย เธอก็ทนไม่ไหวต้องเปิดเตาใหม่ แล้วต้มให้เขาอีกชามหนึ่ง

ฟู่เซียวหานก็ยืนดูเธออยู่ข้าง ๆ โดยตลอด

ซังหนี่หันไปกำลังจะบอกให้เขาออกไป แต่ฟู่เซียวหานเหมือนจะรู้ทันสิ่งที่เธอคิดอยู่ เขาพูดขึ้นตรง ๆ ว่า “ผมอยากดูไว้ ครั้งหน้าจะได้รู้ว่าต้องต้มยังไง”

“ประธานฟู่ นี่มันไม่สมกับฐานะของคุณหรอกค่ะ” ซังหนี่พูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ถ้าคุณต้องการ มีผู้หญิงอีกมากมายเต็มใจทำให้คุณอยู่แล้ว”

“ผมรู้”

ฟู่เซียวหานตอบกลับทันทีโดยไม่ลังเล

แต่คำตอบนี้ เหมือนจะแฝงความหมายอย่างอื่นด้วย

ซังหนี่เงียบไป

เธอไม่ได้พูดอะไรอีก เพียงแค่วางชามบะหมี่ลงบนโต๊ะ แล้วหมุนตัวจะเดินออกไป

“คืนนี้คุณได้บอกจี้อวี้หยวนแล้วหรือยัง?” ฟู่เซียวหานถามขึ้นมากะทันหัน “เรื่องความสัมพันธ์ของเรา”

“อืม”

“เขาตกลงแล้วเหรอ?”

“ใช่”

คำตอบของซังหนี่เรียบง่าย แต่ฟังดูเหมือนพูดขอไปที

ฟู่เซียวหานกลับไม่ได้พูดอะไรอีก

ไม่นาน ประตูห้องของเธอก็ถูกปิดลงอีกครั้ง

มุมปากของฟู่เซียวหานเม้มแน่นโดยไม่รู้ต
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 259

    “ประธานเสี่ยวซัง?”เมื่อเห็นว่าเธอเงียบไปนาน เจิ้งชวนที่อยู่ข้าง ๆ อดไม่ได้ที่จะเอ่ยเตือนขึ้นมาซังหนี่ได้สติกลับมา พลางส่งยิ้มตามแบบฉบับมืออาชีพ “ได้เลยค่ะ ขอบคุณประธานฟู่ที่ช่วยเป็นธุระให้นะคะ”“พวกเราเป็นหุ้นส่วนกัน ก็ต้องช่วยเหลือกันอยู่แล้วครับ”พูดจบ ฟู่เซียวหานก็ลุกขึ้น ยื่นมือไปทางเธอในห้องประชุมยังมีคนอื่นอยู่ และในสายตาพวกเขา ฟู่เซียวหานยังคงเป็นประธานฟู่ผู้ทรงอิทธิพลที่ทุกคนให้ความสนใจซังหนี่จึงทำได้เพียงยื่นมือไปจับตามมารยาทแต่พอจับมือกับฟู่เซียวหาน เธอกลับอดไม่ได้ใช้นิ้วจิกลงไปตรงกลางฝ่ามือเขาเบา ๆถึงเล็บของเธอจะไม่ยาวนัก แต่แรงกดนั้น ทำให้ฟู่เซียวหานต้องรู้สึกเจ็บแน่นอนซังหนี่เห็นคิ้วของเขายกขึ้นเล็กน้อยทันทีแต่เธอไม่รอช้า รีบกล่าวลา แล้วหันหลังเดินจากไปทันทีผู้จัดการธนาคารโจวที่ฟู่เซียวหานพูดถึงนั้น ถือเป็นคนใหญ่คนโตของธนาคารเมืองอิ๋น ถ้าเป็นซังหนี่ ต่อให้ติดต่อเรื่องงานกับธนาคารก็ไม่มีทางได้เจอตัวเขาโดยตรงแน่นอนแต่ฟู่เซียวหานไม่เหมือนกันซังหนี่รู้ดีว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฟู่เซียวหานทำธุรกิจกับเขา ความสัมพันธ์ส่วนตัวของทั้งคู่คงดีไม่น้อย และครั้งนี้

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 260

    ซังหนี่พูดจบ ฟู่เซียวหานถึงกลับชะงักไปทั้งตัว——คำพูดที่บาดลึกถึงใจถ้าเขาให้ความสำคัญกับเธอจริง ๆ อย่างที่แสดงออกมา ซังหนี่คิดว่าเพียงประโยคเดียวนี้ ก็คงทำให้เขานอนไม่หลับไปทั้งคืนแค่คิดถึงเรื่องนี้ เธอก็รู้สึกสะใจอย่างบอกไม่ถูกแม้ว่าเธอจะรู้ดีว่า คำพูดที่ทำร้ายความรู้สึกก็เหมือนดาบสองคม ที่ขณะปักลงกลางอกเขา ฝ่ามือของเธอเองก็ต้องเจ็บและเปื้อนเลือดไปด้วยเช่นกัน?แต่ตอนนี้ซังหนี่ขอแค่ให้เขาเจ็บมากกว่าตัวเองก็พอซังหนี่ไม่ได้มองเขาอีก หันหลังเดินออกไปทันทีเดินบนถนนที่ปูด้วยหินกรวดมันไม่ง่ายเลยซังหนี่รู้ดีว่าส้นเท้าของเธอถลอกจนเลือดออก แต่เธอไม่สนใจ ก้าวส้นสูงเข้าไปในร้านอาหาร ฟู่เซียวหานก็เดินตามหลังมาเงียบ ๆถึงจะบอกว่าเป็นร้านอาหารบ้าน ๆ แต่การตกแต่งของที่นี่ไม่ธรรมดาเลย พอซังหนี่เดินเข้ามาในโถงก็สะดุดตากับภาพวาดสองภาพที่แขวนอยู่ข้าง ๆ เธอคุ้นเคยตราประทับบนภาพนั้นเป็นอย่างดี——เป็นผลงานของคุณเยว่ระหว่างที่พนักงานพาพวกเขาไปที่ห้องส่วนตัวก็ถือโอกาสแนะนำร้านอาหารนี้ไปด้วยเขาบอกว่าวัตถุดิบทั้งหมดมาจากฟาร์มเลี้ยงสัตว์หลังภูเขา ไม่ว่าจะเป็นปลา หรือสัตว์ปีก ทุกอย่างถูกเชือดและ

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 261

    “คุณก็คิดว่ามันไม่เลวเลยใช่ไหม? ต้องบอกว่าทิวทัศน์ในเมืองอิ๋นสวยงามมาก ถ้าเปลี่ยนเป็นเมืองถงก็คงทำไม่ได้ขนาดนี้ คุณลองชิมซุปไก่ดูสิ ร้านข้างนอกพวกนั้นเทียบไม่ติดเลย ตอนนี้ร้านยังอยู่ในช่วงทดลองเปิด ผ่านไปสักพักต้องเป็นที่รู้จักในแวดวงอย่างแน่นอน...”ผู้จัดการธนาคารโจวเริ่มพูดไม่หยุดภายหลังซังหนี่ถึงได้รู้ว่า ร้านอาหารแห่งนี้...เขาก็มีหุ้นอยู่ด้วยแบบนี้ก็ไม่แปลกใจเลยซังหนี่นั่งอยู่ตรงนั้น ฟังอีกฝ่ายพูดเกี่ยวกับแผนการของร้านอาหารอยู่นาน ในที่สุดก็อดไม่ได้ที่จะลุกขึ้นยืน“ขอโทษนะคะ ฉันขอไปเข้าห้องน้ำสักครู่”ผู้จัดการธนาคารโจวมองเธอครู่หนึ่ง แต่กลับไม่ตอบอะไร และยังคงคุยกับฟู่เซียวหานต่อไปซังหนี่ไม่ได้ใส่ใจอะไร เพียงแค่ยิ้มเล็กน้อย แล้วหันหลังเดินออกไปร้านอาหารขนาดใหญ่ เวลานี้ดูเหมือนว่าจะมีแค่พวกเขาในห้องอาหารส่วนตัวเท่านั้น ซังหนี่เดินวนไปตามทางเดินอยู่พักหนึ่ง ถึงได้หาห้องน้ำเจอต้องยอมรับเลยว่า ที่นี่ตกแต่งได้ประณีตมาก แม้แต่ในห้องน้ำยังติดโคมไฟระย้า และกระจกบานใหญ่ที่สูงจากพื้นหลายเมตรนั้นทำให้รู้สึกไม่เหมือนกับอยู่ในห้องน้ำ แต่เป็นอยู่ในฟิตเนสมากกว่าซังหนี่จัดเสื้อผ้

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 262

    หลังจากมื้อค่ำจบลง เวลาก็ล่วงเลยไปเกือบสี่ทุ่มแล้วผู้จัดการธนาคารโจวดูเหมือนจะพอใจกับการเจรจาในคืนนี้มาก ก่อนจะแยกกันไปเขายังบอกกับซังหนี่ว่า อยากดูข้อเสนอของเธอก่อน ซึ่งท่าทีนั้นดูเป็นกันเองขึ้นมาก ซังหนี่จึงรีบตอบรับด้วยรอยยิ้มสดใสส่วนซังฉิงที่จู่ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นที่นี่ในคืนนี้ ดูเหมือนจะเป็นเพียงเงาที่ไร้ตัวตนตลอดการพูดคุย นอกจากตอนที่เธอขึ้นรถ และสายตานั้นของเธอที่มองฟู่เซียวหานสายตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความน้อยใจ ความเศร้า และความหวังฟู่เซียวหานตอบกลับเธอยังไงซํงหนี่เองก็ไม่ทันได้เห็น เพราะในวินาทีถัดมาซังฉิงก็ขึ้นรถไปแล้ว จากนั้นรถเบนท์ลีย์สีดำคันนั้นของผู้จัดการธนาคารโจว ก็แล่นหายไปในความมืดยามค่ำคืนอย่างรวดเร็วจากนั้นรอยยิ้มที่ซังงหนี่พยายามฝืนไว้บนใบหน้าก็จางหายไปในทันทีเธอไม่แม้แต่จะมองคนข้างๆ เพียงแค่หันหลังแล้วเดินตรงไปที่รถของตัวเองแต่ฟู่เซียวหานกลับคว้าแขนเธอไว้อย่างรวดเร็ว“จะทำอะไร?”ซังหนี่สะบัดมือของเขาออกทันที “เมื่อเช้าที่ฉันพูดกับคุณ ประธานฟู่ลืมไปแล้วหรือไง?”ฟู่เซียวหานเม้มริมฝีปากเล็กน้อย “ไม่ได้ลืม แต่คุณดื่มเหล้า จะขับรถไม่ได้”แน่นอนว่าซังหนี่เ

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 263

    พอเธอได้สติอีกที ริมฝีปากของเขาก็ประทับลงบนริมฝีปากของเธอแล้วพวกเขาผ่านประสบการณ์ที่ใกล้ชิดกันมามากมายต่างก็รู้จักร่างกายของอีกฝ่ายดียิ่งกว่าของตัวเองอีกแต่จนกระทั่งวันนี้…พวกเขาเพิ่งได้แลกจูบที่เหมือนเป็นของคู่รักกันจริง ๆ——ปราศจากความใคร่การเคลื่อนไหวของฟู่​​เซียวหานอ่อนโยนมาก เขาจูบลงบนริมฝีปากของเธอเบาๆ และเลียด้วยปลายลิ้น ท่าทางนั้น ราวกับกำลังสัมผัสกับสมบัติล้ำค่าที่เปราะบาง อย่างระมัดระวังจู่ๆ ในหัวของซังหนี่ก็รู้สึกหนักขึ้นมาไม่รู้ว่ามือของเธอจับคอเสื้อของเขาไว้แน่นตั้งแต่เมื่อไหร่ทันใดนั้น โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นเสียงใสกังวานนั้น เหมือนกับมือที่มองไม่เห็น ดึงซังหนี่ออกมาจากห้วงของความอ่อนโยนที่เลือนลางนั้น!ร่างกายของฟู่เซียวหานสั่นสะท้าน แต่ซังหนี่กลับตอบสนองโดยผลักเขาออกไปทันทีพร้อมกับดึงเท้าที่ถูกเขาจับไว้กลับมา“ฮัลโหล” เธอรับโทรศัพท์ ด้วยน้ำเสียงแหบพร่าเล็กน้อย แต่ความรู้สึกกลับคืนสู่ความสงบแล้ว“อืมใช่ ผมเห็นคุณแล้ว คุณอยู่ในรถ”สายโทรศัพท์มาจากคนขับรถรับจ้าง ซังหนี่ลดกระจกรถลง ยืนยันข้อมูลกับอีกฝ่าย ก่อนจะให้เขาขึ้นรถเมื่อมีบุคคลที่สามมาถึง บรร

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 264

    ซังหนี่ถูกฟู่เซียวหานอุ้มไว้บนหลัง แต่เมื่อเธอเห็นว่าประตูลิฟต์ปิด เธอก็พูดตรงๆ ว่า “ปล่อยฉันลงเถอะค่ะ”น้ำเสียงของเธอดูสงบนิ่ง น้ำเสียงออดอ้อนบ่นกับฟู่เซียวหานว่าเจ็บเท้าเมื่อครู่ไปไหนแล้ว?ฟู่เซียวหานเพิ่งดูออกว่าเธอแกล้งทำแต่เขาก็ไม่ได้เปิดเผย และยังทำตามความตั้งใจของเธอ และแสดงบทบาทที่เธอให้เขาต่อไปเวลานี้เสียงของซังหนี่ขึ้นมา แต่เขาก็ยังคงตั้งใจที่จะปล่อยมือหลังจากซังหนี่รออยู่สักพัก และรู้สึกหมดความอดทน “ฟู่เซียวหาน ปล่อยมือเถอะ”“เจ็บเท้าไม่ใช่เหรอ?” ฟู่เซียวหานกล่าว “ใกล้จะถึงแล้ว”“เมื่อกี้คุณก็เห็นแล้วไม่ใช่เหรอ?” ซังหนี่ไม่ปล่อยให้เขาทำเป็นไม่รู้เรื่อง และพูดออกมาตรงๆ ว่า “ซังฉิงแอบอยู่ที่ลานจอดรถ”“อืม เห็นแล้ว”“เพราะแบบนั้นฉันถึงให้คุณแบกฉัน”“อืม ผมรู้”ซังหนี่พูดความตั้งใจของตัวเองออกมาตรงๆ แต่ถึงอย่างนั้น ฟู่เซียวหานก็ยังไม่ยอมปล่อยมือจากนั้น เธอจึงกัดริมฝีปากแน่น “เพราะงั้นเข้าใจหรือยัง? ว่าฉันแค่หลอกใช้คุณอยู่อยู่”“เข้าใจแล้ว แต่ผมไม่สนใจ”ฟู่เซียวหานตอบกลับอย่างไม่ลังเลแม้ว่าซังหนี่จะรู้ว่าเขาน่าจะเดาอะไรบางอย่างได้อยู่แล้ว แต่พอได้ยินเขายอมรับต

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 265

    “ช่วยเขา? คุณหมายถึงให้เธอไปเอาใจโจวหลิงเหรอ?”“จะใช่หรือไม่ใช่ ผมไม่แน่ใจ และมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับผม”“คุณเห็นซังฉิงเป็นเหมือนน้องสาวไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้น้องสาวคุณตกต่ำถึงขนาดนี้แล้ว คุณไม่เป็นห่วงเลยเหรอ?”พอซังหนี่พูดจบ ฟู่เซียวหานกลับหัวเราะออกมาจากนั้น เขาเงยหน้าขึ้นมองเธอ “ตอนแรกผมยังคิดว่าผมเป็นฝ่ายหึงกับเรื่องไม่จำเป็นซะอีก ที่แท้คนที่กำลังหึงอยู่กลับเป็นคนอื่น”“คุณพูดถึงใคร?”ซังหนี่ถามกลับ ด้วยท่าทีสงบนิ่ง ราวกับเรื่องที่ตัวเองกับฟู่เซียวหานเพิ่งพูดเมื่อครู่ ไม่เกี่ยวอะไรกับตัวเองเลยแต่ฟู่เซียวหานก็ไม่ได้แซวต่อ เพียงแค่พูดว่า “สิ่งที่คุณกังวล น่าจะเป็นกลัวซังฉิงจะไปแทรกแซงแผนการของโจวหลิงมากกว่าหรือเปล่า?”ซังหนี่ไม่พูดอะไร และเห็นด้วยกับคำพูดของฟู่เซียวหานฟู่เซียวหานทิ้งสำลีในมือ แล้วพูดว่า “มันไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้”ซังหนี่เม้มริมฝีปาก “แต่ดูจากท่าทีของโจวหลิงที่มีต่อเธอในคืนนี้ เขาไม่น่าจะฟังเธอใช่ไหม”“เขาพาเธอมาด้วย ก็เป็นท่าทีอย่างหนึ่ง”ซังหนี่ไม่พูดอะไรถ้าเป็นอย่างนั้น แบบนี้สถานการณ์ก็ไม่ดีกับเธอแน่แม้ว่าเมืองอิ๋นจะมีธนาคารเพียงแห่งเดียวในเมือ

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 266

    ซังหนี่เอนศีรษะพิงโซฟาไฟในห้องนั่งเล่นยังเปิดอยู่ เวลานี้แสงสีขาวสว่างนั้นจ้าจนแสบตา ทำให้น้ำตาไหลออกมาจากหางตาของเธอโดยไม่รู้ตัว จากนั้นมือกำแน่น แต่กลับไม่รู้ว่าจะคว้าอะไร สุดท้าย ทำได้เพียงลดมือลง และจับเส้นผมของฟู่เซียวหานไว้อย่างไม่มีทางเลือกสูญเสียการควบคุมในทันทีแต่ซังหนี่ยังไม่ลืมเรื่องสำคัญ เมื่อฟู่เซียวหานลุกขึ้นและอุ้มเธอไว้ ซังหนี่ดึงสติกลับมา และเขาว่า“คุณคิดจะช่วยฉันยังไง?”ฟู่เซียวหานไม่ตอบ แต่ฝีเท้ากลับไม่หยุดซังหนี่เริ่มร้อนใจ มือกำคอเสื้อของเขาแน่น “ฟู่เซียวหาน คุณกำลังหลอกฉันอยู่รึเปล่า?”ฟู่เซียวหานโยนเธอลงบนเตียงในห้องนอน และโน้มตัวกดไว้ข้างบน “ซังหนี่ คุณใจร้อนเกินไปหรือเปล่า?”“บอกให้คุณเอาใจฉันเพื่อข้อแลกเปลี่ยน แต่ตอนนี้เธอยังไม่ทำอะไรก็หวังจะได้ผลประโยชน์แล้วงั้นเหรอ?”น้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยคำเตือนแต่ตอนนี้ซังหนี่กลับไม่กลัวเขาเลยสักนิด เพียงจ้องตาเขม็ง “ถ้าคุณเกิดเปลี่ยนใจทำไม่รู้จักฉันขึ้นมาล่ะ? ถ้าแบบนั้นจะทำยังไง?”“ก็คิดซะว่าคุณโชคร้ายไง”“คุณ...”ซังหนี่ยังพูดไม่จบ ฟู่เซียวหานก็โน้มตัวลงมาจูบริมฝีปากของเธอพอคิดถึงสิ่งที่เขาเพิ่งทำไป

บทล่าสุด

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 282

    ฟู่เซียวหานถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง แต่แววตาที่มองซังหนี่กลับไร้ซึ่งอารมณ์ใด ๆมีเพียงแค่...ความเย็นชาเท่านั้นมันเป็นสายตาของนักล่าที่จ้องมองเหยื่อ และยิ่งไปกว่านั้น มันคือสายตาของผู้ที่อยู่เหนือกว่ามองคนเบื้องล่างด้วยความเหยียดหยามร่างกายของซังหนี่สั่นสะท้านโดยไม่รู้ตัว!เขาแสร้งทำต่อหน้าเธอมานานเกินไปแล้วจนถึงตอนนี้ ซังหนี่เพิ่งนึกขึ้นได้——เขาไม่ใช่สุนัขที่เชื่อง แต่เป็นหมาป่าที่กระหายเลือดและเนื้อ!แต่ซังหนี่ตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว “ฟู่เซียวหาน คุณเป็นถึงผู้จัดการใหญ่ของจื้อเหอ แต่กลับใช้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาแบบนี้ ไม่กลัวคนอื่นหัวเราะเยาะหรือไง!?”“ไม่เป็นไร ยังไงตอนนี้ก็ไม่มีใครคานอำนาจผมได้แล้ว” ฟู่เซียวหานพูดช้า ๆ “อีกอย่าง โครงการรู่โจวใหญ่ขนาดนี้ จะให้คุณรับผิดชอบมันไม่ปลอดภัย ผมมีเหตุผลมากพอที่จะทำให้พวกเขาเชื่อ”ซังหนี่ไม่พูดอะไร แต่มือที่วางอยู่บนเข่ากลับค่อย ๆ กำแน่นขึ้น“แล้วไงต่อล่ะ?”ในที่สุด เธอก็เปล่งเสียงออกมาอีกครั้ง ถามว่า “คุณคิดว่าคำสั่งนี้จะหยุดฉันไม่ให้แต่งงานกับจี้อวี้หยวนได้เหรอ?”“ฉันบอกไว้เลยว่า ไม่มีทาง ตอนนี้ฉันยิ่งต้องแต่งงา

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 281

    ซังหนี่มองดูท่าทางสงบนิ่งของเขาแล้วกลับหัวเราะออกมา “ที่แท้เป็นแบบนี้เอง นี่เป็นแผนที่คุณกับฟู่เซียวหานร่วมมือกันเหรอ?”“ไม่ใช่แน่นอน”ซังหลินขมวดคิ้วก่อนจะพูดต่อ “ซังหนี่ เธอทำงานที่บริษัทมานานพอสมควรแล้ว คงรู้ดีว่าผลประโยชน์ของบริษัทต้องมาก่อนเรื่องส่วนตัว เข้าใจไหม?”ซังหนี่ไม่พูดอะไร แต่เธอกลับกัดฟันแน่นขึ้นจากนั้น ซังหลินก็เรียกอีกคนเข้ามาทันทีคนนั้น...ซังหนี่เองก็ไม่ได้รู้สึกแปลกหน้า——เกาต๋า อดีตผู้จัดการทั่วไปของบริษัทลูกเมืองอิ๋นเกาต๋ามีเครือข่ายอยู่ที่เมืองอิ๋นเป็นหลัก ดังนั้นตอนที่เขาถูกย้ายกลับสำนักงานใหญ่ ก็นับว่าเป็นการถูกลดบทบาทไปโดยปริยายแต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่ได้ทำให้เขาหมดอิทธิพลในบริษัท ยังคงก้าวหน้าและเอาตัวรอดได้เป็นอย่างดีโครงการครั้งนี้ ทางจื้อเหอก็ระบุให้เขาเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรงซังหนี่รู้ดีว่า ฟู่เซียวหานทำแบบนี้ก็แค่ต้องการยั่วโมโหเธอ“ประธานเสี่ยวซัง ไม่เจอกันนานเลยนะ”เกาต๋ายิ้มบาง ๆ แล้วเดินตรงไปหาซังหนี่ ก่อนจะยื่นมือออกมาแต่ซังหนี่กลับเมินเฉยไม่สนใจเธอเพียงแค่เหลือบมองเขาอย่างเย็นชา ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไป“ถ้าสองวันนี้เธอไม่ยุ่งก็เข้

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 280

    บางทีอาจจะเพราะท่าทีของซังหนี่ที่ดูสับสนมากเกินไป จี้อวี้หยวนจึงอดไม่ได้ที่จะมองด้วยรอยยิ้มจากนั้นเขาก็ก้มศีรษะลงพร้อมจุมพิตเธอเบา ๆ ที่ริมฝีปากสัมผัสนั้นราวกับแมลงปอต้องน้ำ เพียงพริบตาเดียวก็จากไปแล้วก็ยื่นมือมาลูบศีรษะเธออีกครั้ง “เอาล่ะ เข้าไปเถอะครับ”ซังหนี่ยังคงสับสนอยู่บ้างเล็กน้อยแต่เธอก็ยังคงไม่ได้พูดอะไรออกมา แค่มองเขาก่อนจะหันหลังลงจากรถไปซังหลินกำลังรอเธออยู่ในห้องทำงานหลังจากที่ซังหนี่เข้ามา สิ่งแรกที่เขาถามแน่นอนว่าต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับโครงการรู่โจว“ฉันยังไม่รู้แน่ชัดว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้นกันแน่ เพราะอย่างไรเสียฉันก็แค่ได้รับการแจ้งเตือนจากอีกฝ่ายมาฝ่ายเดียวเท่านั้น แต่ประธานซังไม่ต้องกังวลไปนะคะ ฉันจะตรวจสอบให้ชัดเจนและให้คำตอบที่น่าพอใจกับคุณแน่นอนค่ะ”คำตอบซังหนี่เป็นทางการเป็นอย่างมากซังหลินจ้องมองเธออยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะเอ่ยว่า “เธอไม่ได้ติดต่อกับคนของจื้อเหอกรุ๊ปเลยหรือ?”“ยังไม่ได้ติดต่อเป็นการชั่วคราวค่ะ แต่ฉันจะ…”“นี่เป็นอีเมลที่ฉันเพิ่งได้รับมา เธอมาดูสิ”ซังหลินกลับเอ่ยขัดจังหวะการพูดของเธอโดยตรง พร้อมโยนเอกสารในมือของเขาไปยังซังหนี่ซังหนี

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 279

    เห็นได้ชัดว่าไม่มีอะไรอยู่บนนั้น แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกว่าบริเวณนั้นคันยุบยิบเล็กน้อยราวกับโดนขนของลูกแมวซุกไซร้คลอเคลีย และยังเหมือนกับตอนที่เขาสัมผัสเส้นผมของซังหนี่และในขณะที่ฟู่เซียวหานกำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องราวเหล่านี้ จู่ ๆ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากอีกฝั่ง “ขอโทษที่ปล่อยให้ประธานฟู่รอนานนะครับ”เมื่อได้ยินเสียงนั้น ฟู่เซียวหานก็เงยหน้าขึ้นพร้อมยิ้มบางเบา “ไม่เจอกันนานนะครับประธานเกา”……เรื่องที่โครงการรู่โจวโดนระงับการดำเนินการ ซังหนี่นับว่าเป็นคนที่ได้รับการแจ้งเป็นคนสุดท้ายในเวลานั้นเธอและจี้อวี้หยวนกำลังคุยกับคุณเยว่ เมื่อได้ยินเสียงจากคนที่อยู่ปลายสายเธอยังรู้สึกไม่ทันตั้งตัว “อะไรนะคะ?”“เป็นทางฝั่งจื้อเหอกรุ๊ปที่ระงับการดำเนินการครับ โดยบอกว่ามีปัญหาบางอย่างภายในทีมงานก่อสร้าง และพวกเขาจำเป็นต้องตรวจสอบให้ละเอียดก่อน”“ปัญหาอะไร?”“ผมเองก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ ทางจื้อเหอกรุ๊ปบอกเรามาเพียงเท่านี้”“ถึงแม้ว่าจะมีปัญหาในทีมก่อสร้าง แต่ขั้นตอนอื่น ๆ ก็ยังสามารถดำเนินการไปก่อนได้ หรือถ้ายังไม่สามารถทำได้ ตอนนี้ยังคงอยู่ในช่วงเริ่มต้นของโครงการ เราสามารถเปลี่ยนทีมวิ

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 278

    เมื่อฟู่เซียวหานยังเป็นเด็ก ครั้งหนึ่งเขาเคยเจอแมวจรจัดในโรงเรียนของพวกเขาลูกแมวตัวนั้นอาจเพิ่งคลอดได้ไม่นานแต่ไม่มีแม่แมวอยู่เคียงข้าง มีเพียงมันตัวเดียวที่นอนอยู่บนพื้นหญ้าและส่งเสียงร้องอย่างอ่อนแรงฟู่เซียวหานเพียงเหลือบตามองมันแต่เขาไม่มีความเห็นอกเห็นใจที่เปี่ยมล้น ดังนั้นหลังจากเหลือบมองครั้งหนึ่งเขาก็เดินจากไปอย่างรวดเร็วแต่เขาไม่คาดคิดว่าลูกแมวตัวนั้นจะเดินตามหลังเขามาฝีเท้าของเขาไม่ได้นับว่าก้าวเดินช้า ทั้งที่ลูกแมวตัวนั้นยังไม่สามารถยืนได้อย่างมั่นคงแต่ยังคงยืนหยัดเดินตามเขามาทีละก้าวและในขณะที่ฟู่เซียวหานกำลังจะเดินไปถึงหน้าประตูโรงเรียน ในที่สุดเขาก็หยุดฝีเท้าลงจากนั้นก็หมุนตัวเดินไปที่ร้านของชำด้านข้าง พร้อมซื้อไส้กรอกมาหนึ่งชิ้นลูกแมวตัวน้อยกินอย่างมีความสุขดังนั้นนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ฟู่เซียวหานจะเจอมันทุกครั้งหลังเลิกเรียนมันเป็นฝ่ายริเริ่มเข้ามาหาเขาก่อน หลังจากซุกไซร้เข้ากับฝ่ามือของเขาแล้วจึงรอให้เขาป้อนอาหารด้วยความเชื่อฟังและนับตั้งแต่นั้น ฟู่เซียวหานก็มักจะเตรียมขนมไว้ในกระเป๋านักเรียนของเขาเสมอในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เขาแม้กระทั่งตั้

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 277

    ฟู่เซียวหานราวกับสงบสติลงแล้ว ในเวลานี้สองมือของเขายันเข้ากับพื้นโต๊ะ แผ่นหลังที่เหยียดตรงอยู่เสมอโค้งงอ เขาก้มศีรษะลง ดูจิตใจเหงาหงอยเศร้าซึมลงอย่างบอกไม่ถูกสวีเหยียนคิดอยากจะปลอบโยนเขา แต่ว่าสวีเหยียนไม่รู้เลยว่าตนควรจะพูดสิ่งใดและในขณะที่เขาลังเลนั้นเอง จู่ ๆ ฟู่เซียวหานก็เงยหน้าขึ้นพร้อมถามเขาว่า “มีบุหรี่ไหม?”สวีเหยียนชะงักไปกับคำถามที่เข้ามาอย่างกะทันหันนี้ หลังจากผ่านไปสักพัก เขาก็รู้สึกตัวและนึกขึ้นได้ว่าฟู่เซียวหานเลิกบุหรี่ไปตั้งแต่ก่อนหน้านี้เขารีบส่งซองบุหรี่ที่พกติดตัวไปอย่างไม่ลังเล พร้อมกล่าวว่า “บุหรี่ยี่ห้อนี้แตกต่างกับที่คุณคุ้นเคย ให้ผมสั่งคนไปซื้อมาให้ไหมครับ?”“ไม่ต้อง”ฟู่เซียวหานพูดพลางหยิบบุหรี่ออกจากซองสวีเหยียนรีบส่งไฟแช็กที่จุดไฟแล้วไปให้อย่างรวดเร็วเพราะมือของเขายังคง…สั่นระริกอยู่ตลอดเวลาสวีเหยียนอดไม่ได้ที่จะตัวสั่นเทาเมื่อเห็นท่าทีของเขาเช่นนั้น โชคดีที่ครู่ต่อมาฟู่เซียวหานจุดบุหรี่ได้ในที่สุดสวีเหยียนถอนหายใจด้วยความโล่งอกฟู่เซียวหานสุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้อีกครั้ง หลังจากจ้องไปที่วงควันบนอากาศสักพัก เขาก็กล่าวว่า “เธอกำลังจะแต่งงานแล้ว”

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 276

    ฟู่เซียวหานมองภาพนั้นอยู่นานจนกระทั่งสวีเหยียนและผู้จัดการฝ่ายดำเนินการเข้ามากล่าวรายงานกับเขาได้ครู่ใหญ่ และพบว่าเขาไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดกลับมาเลย สวีเหยียนถึงจะตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ “ประธานฟู่ครับ?”เมื่อได้ยินเสียงนั้น ฟู่เซียวหานก็เงยหน้าขึ้นมองเขาดวงตาล้ำลึกคู่นั้นยังคงเปี่ยมด้วยความสงบอย่างเคยสวีเหยียนรู้สึกไปแม้กระทั่งว่าเมื่อกี้เป็นเขาที่คิดไปเอง แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เพียงยื่นเอกสารในมือให้เขา “นี่เป็นเอกสารที่ทางแผนกดำเนินการเพิ่งนำมาครับ ต้องใช้ลายเซ็นของคุณ”ฟู่เซียวหานเหมือนจะเอ่ยตอบรับในลำคอ และหยิบปากกาที่วางด้านข้างขึ้นมาสวีเหยียนและคนที่ยืนด้านข้างยืนรออยู่ฝั่งตรงข้ามหากยึดตามความเร็วในการตรวจสอบเอกสารของฟู่เซียวหานในอดีต เอกสารชุดนี้ก็จะใช้เวลาเพียงไม่กี่สิบวินาทีเท่านั้น แต่ทั้งสองรอไปสักพักใหญ่ ก็พบว่าสายตาของฟู่เซียวหานยังคงหยุดอยู่ตรงหน้าแรกของเอกสาร“ประธานฟู่ครับ?”เขาทำได้เพียงเอ่ยถามอีกครั้ง ผู้จัดการฝ่ายดำเนินการกระทั่งเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ “ประธานฟู่ครับ เอกสาร…มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ?”ฟู่เซียวหานไม่กล่าวอะไรออกมา เพียงพลิกหน้

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 275

    เขาคิดว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เธอก็จะยังคงอยู่เคียงข้างเขาเสมอ ราวกับสายน้ำแร่อันแสนอ่อนโยนที่คอยโอบอุ้มทุกสิ่งทุกอย่างของเขาเอาไว้เขาไม่เคยคิดว่าเธอจะจากไปและมากกว่านั้นคือเขาไม่เคยคิดเลยว่าหลังจากที่เธอจากไป เขาจะรู้สึก…เจ็บได้ถึงขนาดนี้——ราวกับสูญเสียอากาศและแหล่งน้ำที่จำต้องพึ่งพาเพื่อความอยู่รอดดังนั้น เขาคิดผิดไปอย่างไรก็ตาม มันก็เหมือนกันกับในตอนแรกที่เขาไม่ยอมเปิดโอกาสให้เธอได้อธิบาย ตอนนี้ เธอเองก็ไม่เปิดโอกาสให้เขาเหนี่ยวรั้งเอาไว้เช่นกันความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา ได้ถูกเธอตัดสินโทษประหารชีวิตเอาไว้แล้ว……ไม่กี่วันหลังจากนั้น ซังหนี่ยังคงไปทำงานที่บริษัทตามปกติข่าวการแต่งงานกับจี้อวี้หยวนไม่ใช่เรื่องที่เธอกุขึ้นมา แต่เป็นสิ่งที่พวกเขาปรึกษากันอย่างดีและตัดสินใจลงมือทำเพราะเวลาของคุณตาของจี้อวี้หยวนใกล้จะหมดลงแล้วชายชราไม่นับว่าอายุมากนัก แต่ก่อนหน้านี้จู่ ๆ เขาก็ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคอัลไซเมอร์ หรือรู้จักกันทั่วไปว่าเป็นโรคสมองเสื่อมในผู้สูงอายุยิ่งไปกว่านั้น อาการของเขาทรุดตัวลงไปอย่างรวดเร็ว จี้อวี้หยวนเป็นหลานชายเพียงคนเดียวของเขา ความปรารถนาของผ

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 274

    ทันทีที่คำพูดนี้ของฟู่เซียวหานหลุดออกจากปาก ซังหนี่พลันตกตะลึงจากนั้นเธอก็หัวเราะออกมา “จริงหรือคะ? แล้วนับว่าคุณชนะหรือเปล่า?”ฟู่เซียวหานไม่ตอบคำถามของเธอ ราวกับรู้สึกว่าคำถามนี้ไม่มีความจำเป็นต้องตอบเขาจึงเดินถือสัมภาระออกไปทั้งอย่างนั้นเสียงปิดประตูไม่ดังไม่เบา ไม่เจือไปด้วยอารมณ์ใด ๆ ซังหนี่เองก็ไม่ได้เหลือบมองไปฝั่งนั้นเลยด้วยซ้ำกล่าวตามตรง เดิมทีเธอไม่คิดจะพูดถ้อยคำเมื่อกี้ไปสักนิดเพราะมัน…ไม่มีความหมายอะไรอย่างไรก็ตามความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็จบลงแล้ว การที่จะไปขุดคุ้ยอารมณ์จากเรื่องราวในอดีตขึ้นมาอีกครั้งช่างเป็นเรื่องที่ไม่มีความจำเป็นมันก็เหมือนกับผลไม้เน่าเสียที่แค่ต้องโยนทิ้งลงถังขยะไปก็เท่านั้น ทำไมต้องปอกเปลือกออกทีละชั้นเพื่อหาว่าตรงไหนกันที่เน่าเป็นจุดแรก?ท้ายที่สุดแล้ว บนมือก็หลงเหลือเพียงแกนกลางผลไม้ที่เน่าเปื่อยถึงจะยอมรับได้ในที่สุดว่า ——มันผิดมาตั้งแต่แรกแต่ซังหนี่เองที่อดใจไม่ไหวคำถามต่าง ๆ วนเวียนอยู่ในสมองของเธอ นับตั้งแต่เจิ้งชวนบอกกล่าวให้เธอฟังเกี่ยวกับเรื่องของจื้อเหอกรุ๊ป นับตั้งแต่เธอรู้เรื่องว่าคุณนายฟู่ได้ฟื้นคืนสติขึ้นมาแล้วไม

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status