แชร์

บทที่ 100

ผู้เขียน: ซ่งจิ้น
ฟู่เซียวหานเหลือบมองหน้าจอโทรศัพท์ของเธอแวบหนึ่งก่อนจะย้อนถามกลับว่า “คุณไปไหนมา?”

ซังหนี่เม้มริมฝีปากแล้วตอบกลับว่า “ใครให้คุณเปลี่ยนกลอนประตูห้องของฉัน?”

“ตอบ คำถาม ฉัน มา”

สีหน้าของฟู่เซียวหานดูไม่ดีเอาเสียเลย

เดิมทีซังหนี่ตั้งใจจะโต้เถียงกับเขาให้ถึงที่สุด แต่เมื่อสบตาเขาอยู่พักหนึ่ง เธอก็ยอมตอบในที่สุด “โรงพยาบาล”

สีหน้าของฟู่เซียวหานเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขามองเธออีกครั้งตั้งแต่หัวจรดเท้า

ซังหนี่ไม่ได้สังเกตสายตาของเขา เพียงพูดต่อว่า “ตอนบ่ายพวกเขาบอกฉันว่าแม่ฉันฟื้นแล้ว แต่พอฉันไปถึงเธอก็หลับไปอีก ฉันเลยรออยู่ที่นั่นตลอด เพื่อดูว่าเธอจะฟื้นขึ้นมาอีกครั้งได้หรือเปล่า”

เสียงของซังหนี่แผ่วเบา และแฝงไปด้วยความเศร้าอย่างชัดเจน

สีหน้าที่เย็นชาของฟู่เซียวหานผ่อนคลายลงเล็กน้อย แล้วเขาก็เหมือนนึกอะไรขึ้นได้ ก่อนจะถามว่า “แล้วทำไมถึงไม่รับโทรศัพท์?”

“ฉันตั้งโหมดเงียบไว้ เลยไม่เห็น”

ซังหนี่พูดพร้อมกับถามต่อ “ตอนนี้ฉันเข้าบ้านได้หรือยัง?”

ฟู่เซียวหานจึงขยับตัวหลีกทางให้เธอเข้าไป

ซังหนี่โน้มตัวถอดรองเท้า แล้ววางกระเป๋าผ้าของเธอลง

จากนั้น เธอหันกลับมามองเขา “แล้วคุณมาที่นี่ทำไม?”

บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (5)
goodnovel comment avatar
เพื่อนเรียกว่า แคระ
รอเร็วนะคะรออยู่น้า ......อ่านอยู่แค่เรื่องเดียวเลย
goodnovel comment avatar
Mungming Yanphorot
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ
goodnovel comment avatar
มีนา กาต้า
เมื่อไร่จะupนะรออยู่นะคะ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 101

    ตอนที่ฟู่เซียวหานวางตะเกียบลง เธอก็วางตามด้วย“คุณจะไปได้หรือยัง?” ซังหนี่เอ่ยปากไล่แขกทันทีฟู่เซียวหานมองไปรอบ ๆ ก่อนจะถามว่า “ทำไมคุณถึงไม่อยู่ที่บ้านพักป๋อซีหยวนล่ะ?”“นั่นไม่ใช่บ้านของฉัน”คำตอบของซังหนี่ชัดเจนมากฟู่เซียวหานจ้องเธออยู่สักพักก่อนตอบว่า “ผมยกบ้านให้คุณได้นะ”“ไม่ล่ะ ฉันว่าที่นี่ก็ดีอยู่แล้ว”คำพูดของซังหนี่ทำให้ฟู่เซียวหานถึงกับพูดไม่ออกแต่คิ้วของเขาขมวดแน่นอย่างเห็นได้ชัด“คุณยังมีธุระอะไรอีกไหม?” ซังหนี่ถามอีกครั้งฟู่เซียวหานกลับไม่พูดอะไรต่อ เพียงลุกขึ้นแล้วพูดว่า “เอาผ้าเช็ดตัวสะอาดให้ผมสักผืน”พูดจบเขาก็เดินไปทางห้องน้ำทันทีซังหนี่รีบขวางเขาไว้ “คุณจะทำอะไร? ที่นี่มันบ้านฉัน!”“ป๋อซีหยวนเป็นบ้านของผม คุณก็เคยอาบน้ำและค้างคืนที่นั่นไม่ใช่เหรอ?”ซังหนี่ถึงกับพูดไม่ออกไปชั่วขณะตอนนี้เอง ฟู่เซียวหานได้เปิดประตูห้องน้ำเมื่อเห็นสภาพข้างใน คิ้วของเขาก็ขมวดแน่นขึ้นทันทีสำหรับที่แบบนี้ การไม่มีอ่างอาบน้ำถือเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แต่ฟู่เซียวหานไม่คาดคิดเลยว่าจะไม่มีแม้แต่พื้นที่อาบน้ำแยกต่างหาก ที่สำหรับอาบน้ำก็แค่มีผ้าม่านกั้นระหว่างอ่างล้างหน้าก

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 102

    ซังหนี่รู้สึกไม่ชินกับการกระทำของเขาในตอนนี้ กำลังจะคว้าผ้าเช็ดตัวกลับมา แต่ฟู่เซียวหานกลับพูดขึ้นว่า “รู้ไหมว่าวันนี้ผมได้ยินข่าวอะไรมา?”ซังหนี่ชะงักไปเล็กน้อย แล้วมองไปที่เขา“ผมอาจจะมีพี่น้องที่ผมไม่เคยรู้มาก่อน” เขาพูดด้วยน้ำเสียงสงบนิ่งดวงตาของซังหนี่หรี่ลงเล็กน้อย!“หมายความว่ายังไง...?”“หมายความว่า พ่อของผมอาจมีลูกนอกสมรส”ฟู่เซียวหานยังคงดูสงบนิ่ง ราวกับกำลังเล่าเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับตัวเองเลยซังหนี่ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงพูดเรื่องนี้กับเธอขึ้นมาในตอนที่พวกเขายังเป็นสามีภรรยากัน ก็ไม่เคยเปิดใจพูดคุยกันเลยสักครั้งเธอแทบไม่เคยถามอะไรเขาเลย ฟู่เซียวหานเองก็ยิ่งเงียบขรึมมากกว่าเธอเสียอีกบางครั้งแม้อยู่ใต้ชายคาเดียวกัน แต่พวกเขาไม่พบหน้าและไม่พูดคุยกันเป็นวัน ๆ ได้การเป็นสามีภรรยากันในแบบพวกเขา มันช่างตลกจริง ๆแต่ตอนนี้ จู่ ๆ ฟู่เซียวหานกลับพูดเรื่องส่วนตัวของตระกูลฟู่กับเธอขึ้นมาเป็นเพราะเธอไม่ใช่ภรรยาของเขาแล้วใช่ไหม เขาถึงไม่จำเป็นต้องปกปิดเรื่องอื้อฉาวเหล่านี้แล้ว?ซังหนี่ไม่รู้ดังนั้น ในตอนนี้ นอกจากความประหลาดใจแล้ว สิ่งที่เธอรู้สึกมากกว่ากลับเป็น...คว

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 103

    ——พวกเขาไม่เคยนอนร่วมเตียงเดียวกันมาก่อนไม่ว่าก่อนหน้านี้เขาจะทำให้เธอเหนื่อยล้าแค่ไหน เธอก็ยังจำได้ว่าต้องกลับไปที่ห้องของตัวเองเสมอดังนั้น จริง ๆ แล้วซังหนี่รู้สึกว่าพวกเขาไม่เหมือนสามีภรรยา แต่เหมือน...คู่หูกันมากกว่าคู่หูบนเตียง คู่หูในชีวิตประจำวันสำหรับซังหนี่แล้ว การนอนร่วมเตียงเดียวกันโดยไม่ทำอะไรเลย กลับเป็นความใกล้ชิดยิ่งกว่าการมีอะไรกันเสียอีกเพราะว่ามีแค่...คนที่รักกันจริง ๆ เท่านั้นที่จะทำแบบนี้ได้เธอกับฟู่เซียวหาน ไม่ใช่อย่างนั้นแน่นอนในตอนนี้ ซังหนี่นั่งยอง ๆ อยู่ข้างเตียงมองใบหน้าของฟู่เซียวหานขณะหลับใบหน้านี้ของเขา เธอเคยมองมาหลายครั้งแล้วทุกวันนี้ เพียงแค่หลับตาลง เธอก็สามารถวาดภาพโครงหน้าที่มีมุมเหลี่ยมคมชัดของเขาได้อย่างชัดเจน—เพราะในตอนเด็ก เธอเคยวาดมันมาหลายครั้งแล้วในตอนนั้น ฟู่เซียวหานสวมชุดนักเรียนสีขาว โดดเด่นและเป็นที่จับตามองที่สุดในโรงเรียนต่อมา เมื่อเขาโตขึ้นใบหน้าของเขายิ่งดูหล่อเหลาและสุขุมขึ้นตามกาลเวลา อีกทั้งยังแผ่ออร่าความสูงส่งและเยือกเย็นอย่างชัดเจน แม้ตอนนี้เขาจะอยู่ตรงหน้าเธอ แต่ซังหนี่กลับรู้สึกว่าเขา...ยังคงห่างไกลเหลือเ

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 104

    ในที่สุดฟู่เซียวหานก็ไปตามนัดเมื่อเห็นคนที่ยืนอยู่ตรงข้าม เขารู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง แต่ก็แค่แปลกใจเล็กน้อยเท่านั้น“สวัสดีค่ะประธานฟู่”คนตรงข้ามยิ้มให้ด้วยใบหน้าที่สดใสและเปล่งประกาย “ฉันคิดว่าคุณคงพอจำฉันได้ใช่ไหมคะ?”“ถังเหยา” ฟู่เซียวหานยังไม่ทันจะตอบ เธอก็ยื่นมือออกมาแล้วบอกคำตอบ “วันนั้นในงานเต้นรำหน้ากาก เราเคยเต้นด้วยกัน”“คุณถัง ยินดีที่ได้พบครับ”ฟู่เซียวหานไม่ได้พูดถึงเรื่องงานเต้นรำนั้นต่อ แค่จับมือกับเธอเบา ๆ“หลังจากนั้นทำไมคุณถึงหายไปเลยล่ะ?” ถังเหยาเอ่ยถาม“มีธุระด่วนครับ”“จริงเหรอคะ?”ถังเหยายิ้มเล็กน้อยรอยยิ้มนั้นแฝงไปด้วยความหมายบางอย่างฟู่เซียวหานกลับรู้สึกไม่ค่อยสบายใจความไม่สบายใจนี้ไม่ได้มาจากความกลัวที่คำโกหกของเขาจะถูกเปิดเผย แต่เป็นความรู้สึกที่เธอทำให้เขารู้สึกอึดอัดใจฟู่เซียวหานไม่กลัวที่จะพูดคุยกับคนที่ฉลาด แต่เขากลับเกลียดคนที่คิดว่าตัวเองฉลาดเกินไปถังเหยาก็ไม่ได้พูดเรื่องนั้นต่อ เธอเปลี่ยนหัวข้อและเริ่มคุยเรื่องอื่นกับฟู่เซียวหานเธอกับฟู่เซียวหานเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน ตระกูลถังและตระกูลฟู่ก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ไม่ต้องกลัวว่าจ

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 105

    มือที่อยู่ข้างกายกำแน่นขึ้นช้า ๆ “นี่…ทำไมฉันไม่เคยได้ยินว่าพวกคุณคบกันแล้ว?”“ข่าวของคุณคงไม่ทันสมัยพอมั้งคะ” ถังเหยาตอบกลับด้วยรอยยิ้มบาง ๆคำพูดนี้ทำให้ซังฉิงไม่รู้จะตอบโต้ยังไงต่อดีเธอทำได้เพียงหันไปมองฟู่เซียวหานฟู่เซียวหานที่กำลังมองไปที่ไหนสักแห่งอยู่ไกล ๆ ไม่รู้กำลังคิดอะไรอยู่“พี่เซียวหาน?”ซังฉิงเรียกเขา ฟู่เซียวหานถึงได้สติขึ้นมา จึงหันไปมองเธอ“เมื่อกี้บอกว่ามีธุระไม่ใช่เหรอคะ? คุณไปก่อนเถอะ?”ถังเหยากลับพูดขึ้นก่อนคำพูดของซังฉิงโดนแย่งพูดไป สายตามองไปที่ถังเหยาด้วยความโกรธ แต่ถังเหยากลับเหมือนไม่รู้สึกอะไร ยังคงยิ้มและสบตากับเธออย่างสบาย ๆ“งั้นผมไปก่อนนะ”พอพูดจบ ฟู่เซียวหานก็หันหลังและเดินจากไปซังฉิงเดิมทีอยากจะตามไปด้วย แต่ถังเหยาเดินมาขวางหน้าเอาไว้ “คุณหนูรอง มีเรื่องอะไรเหรอคะ?”“ฉันจะไปหาพี่เซียวหาน คุณมาขวางฉันทำไม?”“ใช่แล้ว ฉันยังไม่ได้แสดงความยินดีกับคุณหนูรองเลยนะ ได้ยินมาว่าคุณจะหมั้นกับคุณฉินม่อ? ยินดีด้วยนะคะ”เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ซังฉิงก็ขบฟันแน่นขึ้นทันที สายตาของเธอมองไปที่ถังเหยาด้วยความโกรธ ราวกับจะพ่นไฟออกมาเลยทีเดียวถังเหยายังคงย

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 106

    ซังหนี่มองคนตรงหน้าพักใหญ่ ก่อนจะพูดขึ้นว่า “ประธานเย่ คุณน่าจะรู้สถานะของฉันดีอยู่แล้ว”“รู้สิครับ ก่อนหน้านี้เราคงเคยเจอกันในงานเลี้ยงบางงานใช่ไหม?”“ฉันเพิ่งหย่ากับฟู่เซียวหาน” ซังหนี่พูดต่อ“อืม ได้ยินมาแล้ว การที่คุณตัดสินใจหย่ากับฟู่เซียวหานได้อย่างเด็ดขาด น่านับถือจริง ๆ ครับ”สำหรับคำพูดของซังหนี่ เย่จื่อหลานตอบรับด้วยรอยยิ้มทุกครั้ง ซึ่งทำให้ซังหนี่รู้สึกเหมือนหมดแรงที่จะพูดต่อไปชั่วขณะสุดท้าย เธอพูดเพียงแค่ว่า “ตอนนี้ฉันไม่อยากคิดเรื่องความรักค่ะ”“งั้นเหรอครับ? งั้นเราก็ไม่จำเป็นต้องคุยเรื่องความรักก็ได้” เย่จื่อหลานยิ้มแล้วพูดตอบ “เริ่มจากการเป็นเพื่อนก่อนก็ได้”ซังหนี่ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ“แบบนี้ถือว่าคุณยอมรับแล้วใช่ไหม? งั้นไปกันเถอะ”พูดพลางเขาก็ยื่นมือออกมาจะจับมือเธอ ซังหนี่ตกใจกับการกระทำของเขา รีบถอยหลังไปสองก้าวทันทีเขามองเธออย่างสงสัย “เป็นอะไรครับ? มือของผมมีพิษเหรอ?”“เปล่าค่ะ แค่นึกขึ้นได้ว่าฉันยังมีธุระ คงไปไม่ได้แล้ว”“โอ้? ธุระอะไรเหรอครับ?”“เรื่องงานค่ะ”“คุณยังมีงานอีกเหรอครับ? งานอะไร? หรือคุณแค่หาข้ออ้างมาปฏิเสธผม?” ซังหนี่เพียงแค่ยิ้มบา

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 107

    เมื่อซังหนี่มองไปที่เขา เย่จื่อหลานก็เห็นเธอเช่นกัน พร้อมกับยิ้มมุมปาก “อยู่ตรงนี้ไง!”......บ้านพักป๋อซีหยวน ฟู่เซียวหานนั่งอยู่ในห้องหนังสือ สายตาจับจ้องไปที่อีเมลบนหน้าจอ แต่ปลายนิ้วกลับกดหน้าจอโทรศัพท์ข้าง ๆ อยู่เป็นระยะแอปโซเชียลส่งข้อความแจ้งเตือนขึ้นมา แต่ฟู่เซียวหานเพียงแค่เหลือบมองเล็กน้อย โดยไม่สนใจอะไรต่อพอเลยเวลาห้าทุ่ม ก็มีเสียงจากประตูด้านนอกดังขึ้นในที่สุดนิ้วมือของฟู่เซียวหานชะงักไปชั่วครู่ แต่ยังไม่ลุกขึ้น เขาปิดหน้าจอโทรศัพท์ด้วยใบหน้าเรียบเฉยซังหนี่เดินเข้ามาอย่างเบา ๆเธอไปที่ห้องนอนของเขาก่อน แต่ไม่พบใคร จากนั้นจึงเปลี่ยนไปที่ห้องหนังสือประตูของห้องหนังสือถูกเขาปิดไว้ซังหนี่มาถึงหน้าประตู แต่กลับไม่ส่งเสียงใด ๆฟู่เซียวหานยังคงไม่สนใจเธอ เพียงจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ด้วยใบหน้าที่ไร้อารมณ์เวลาที่มุมล่างขวาขยับไปอีกสองนาที ในที่สุดเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นฟู่เซียวหานยังคงนิ่งเฉย ไม่มีปฏิกิริยาใด ๆซังหนี่รออยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะบิดลูกบิดประตูเข้าไป“คุณ...ยังทำงานอยู่อีกเหรอ?” เธอยืนมองเขาอยู่หน้าประตู เสียงของเธอแผ่วเบาและลังเลในที่สุดฟู่เซียวหาน

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 108

    ฟู่เซียวหานไม่ได้ซักถามเรื่องราวของคืนวันนั้นจากซังหนี่อีกซังหนี่เองก็ไม่ได้พูดถึงอีกเลยผ่านไปสองวัน เย่จื่อหลานชวนเธออีกครั้ง บอกว่าจะพาไปกินเกี๊ยวน้ำ ซังหนี่เพิ่งรู้เป็นครั้งแรกว่า การชวนคนออกไปข้างนอกสามารถตรงไปตรงมาได้ถึงขนาดนี้เย่จื่อหลานเป็นคนที่น่าสนใจจริง ๆเขารักสนุกและรู้วิธีเล่นให้สนุกเขาเติบโตในเมืองถงตั้งแต่เด็ก คนในวงการรู้จักเขาเกือบทั้งหมด แต่เขากลับไม่ชอบสถานบันเทิงยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยแสงสี ทุกครั้งเขาจะพาซังหนี่ไปตามตรอกซอยเก่า ๆบางครั้งก็เพื่อชิมอาหารอร่อยสักจาน บางครั้งก็เพื่อหาซื้อของเล่นชิ้นเล็ก ๆ ที่น่าสนใจเมื่อเทียบกันแล้ว ฟู่เซียวหานก็เติบโตในเมืองถงเช่นกัน แต่กลับไม่เคยพาซังหนี่ไปสถานที่แบบนี้ การออกไปกินข้าวตามลำพังไม่กี่ครั้งของพวกเขา ล้วนเป็นร้านอาหารที่หรูหราและดูดีทั้งนั้นครั้งเดียวที่เป็นข้อยกเว้นก็คือ ครั้งที่ซังหนี่พาเขาไปกินหม้อไฟแน่นอนว่าหม้อไฟครั้งนั้น พวกเขาก็ไม่ได้กินจนอิ่มเย่จื่อหลานกลับแตกต่างจากเขาโดยสิ้นเชิงในตัวเขา ไม่มีท่าทีเย่อหยิ่งแบบคนในแวดวงสังคมแม้แต่น้อยก่อนหน้านี้เขาพูดกับซังหนี่อย่างตรงไปตรงมา ——เธออย

บทล่าสุด

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 286

    ซังหนี่มองจี้อวี้หยวนอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มบาง ๆ “ไม่ต้องหรอกค่ะ แค่อยู่เป็นเพื่อนฉันแบบนี้...ก็พอแล้ว”พอเธอพูดจบ จี้อวี้หยวนก็ยื่นมือออกไป โอบเธอเข้ามาไว้ในอ้อมกอดแรงกอดของเขาไม่แน่นนัก แต่กลิ่นหอมอ่อน ๆ บนตัวเขากลับอบอวลเข้าสู่ปลายจมูกของซังหนี่ในทันทีซังหนี่ไม่ต่อต้านอีกต่อไป ค่อย ๆ ยื่นมือออกไป โอบรอบเอวของเขาไว้“อาการของคุณอาเป็นยังไงบ้าง?” จี้อวี้หยวนเอ่ยถาม“เส้นเลือดในสมองตีบเฉียบพลัน” ซังหนี่พูดด้วยเสียงแผ่วเบา “แต่ช่วยไว้ได้ทัน หมอบอกว่าถ้าเขาฟื้นขึ้นมาก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว”“อืม งั้นคุณกลับไปพักก่อนดีไหม? ผมจะเป็นคนเฝ้าให้เอง”“ไม่ต้องหรอก ฉันกลับไปก็นอนไม่หลับอยู่ดี คุณไม่เห็นเหรอว่าโทรศัพท์ฉันไม่หยุดดังเลย?”จี้อวี้หยวนไม่พูดอะไรอีกซังหนี่ไม่แน่ใจว่าเขากำลังรู้สึกผิดที่ช่วยอะไรเธอไม่ได้หรือเปล่า เลยพูดขึ้นมาก่อนว่า “งานแต่งไม่ต้องเลื่อนนะ คุณตาของคุณรอวันนี้มานานมากแล้ว จะทำให้ท่านผิดหวังไม่ได้”“แต่ว่า…”“ไม่ต้องห่วง แค่วันเดียวฉันยังพอจัดการได้ อีกอย่างตอนนี้ซังอวี๋อยู่ในช่วงสำคัญ ถ้าคุณเลื่อนงานแต่งออกไป คนอื่นอาจคิดว่าคุณเตรียมตัวหนีแล้วก็ได้”พูดจบ ซ

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 285

    ดังนั้นเมื่อก่อนเขามักเป็นฝ่ายออกคำสั่งต่อหน้าซังหนี่เสมอเขาไม่จำเป็นต้องปรึกษาซังหนี่ และไม่มีวันยอมให้เธอขัดขืนแต่ตอนนี้ เขากลับดูเหมือนเด็กคนหนึ่งที่สับสนหมดหนทาง เอ่ยถามซังหนี่ ว่าควรทำอย่างไร?ซังหนี่หลับตาลงครู่หนึ่ง ก่อนจะถามว่า “ตอนนี้มีใครรู้เรื่องนี้อีก?”พูดจบ เธอก็รู้ตัวทันทีว่าถ้อยคำของตัวเองผิดไป จึงรีบแก้ว่า “ไม่ว่าจะมีใครรู้เรื่องนี้หรือไม่ ต้องปิดข่าวทันที! ถ้าพรุ่งนี้ตลาดหุ้นเปิดเมื่อไหร่ ซังอวี๋คงได้จบสิ้นกันจริง ๆ!’ซังหลินไม่พูดอะไร นั่งนิ่งอย่างเหม่อลอย“ครอบครัวของเกาต๋าล่ะคะ? พวกเขายังอยู่ที่นี่ใช่ไหม? ตอนนี้คุณให้คนไปติดต่อพวกเขาทันที! ถ้าเกาต๋าติดต่อกลับมา แจ้งตำรวจเดี๋ยวนั้นเลย! คุณได้ยินไหม?!”คำพูดสุดท้ายของซังหนี่ ทำให้ซังหลินได้สติกลับมา เขาค่อย ๆ เอื้อมมือที่สั่นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาซังหนี่ไม่มองเขาอีก หันหลังเดินออกไปทันทีแต่ด้านหลังกลับเงียบสนิทเมื่อซังหนี่รู้สึกแปลกใจและหันกลับไปมอง เธอเห็นโทรศัพท์ของซังหลินตกอยู่บนพื้น ส่วนตัวเขากลับฟุบลงไปกับเก้าอี้และหมดสติไปแล้ว……ซังหนี่รีบติดต่อสำนักข่าวใหญ่ เพื่อปิดข่าวเกี่ยวกับซังหลินไว้แต่ในย

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 284

    คำพูดของซังหนี่ก็กลายเป็นจริงอย่างรวดเร็วเพียงแค่วันรุ่งขึ้นหลังจากที่โครงการถูกส่งมอบให้เกาต๋า ทางจื้อเหอก็แจ้งให้เริ่มงานใหม่ทันทีแม้ว่างานของซังหนี่จะถูกส่งต่อให้เกาต๋าแล้ว แต่เธอก็ยังเป็นผู้จัดการใหญ่ของบริษัทลูก บางกระบวนการยังต้องผ่านเธออยู่ดีสองวันผ่านไป เกาต๋าบอกว่ามีงานที่ส่งต่อบางเรื่องยังไม่ชัดเจน พอดีว่าช่วงนี้ซังหนี่ลาพักเพื่อเตรียมงานแต่ง เขาจึงขอให้เจิ้งชวนไปช่วยงานแทนซังหนี่ไม่ได้ขัดข้องอะไรเพราะสุดท้ายแล้วนี่ก็เป็นโครงการของบริษัท ถ้ามีปัญหาเกิดขึ้น เธอเองก็ต้องรับผิดชอบไปด้วยเจิ้งชวนถูกเรียกตัวไปช่วยงานทันทีผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ เหลือเวลาอีกเพียงสองวันก่อนถึงวันแต่งงานของซังหนี่กับจี้อวี้หยวน ท่ามกลางค่ำคืนอันเงียบสงัด โทรศัพท์ของซังหนี่ดังขึ้น ปลายสายคือเจิ้งชวน“แย่แล้วครับประธานเสี่ยวซัง ติดต่อประธานเกาไม่ได้เลย!”ซังหนี่สะดุ้งตื่นจากความฝันอย่างฉับพลัน สมองยังมึนงงเล็กน้อย “เกิดอะไรขึ้น?”“ประธานเกาหายตัวไปครับ!” เจิ้งชวนพูดด้วยน้ำเสียงร้อนรน “ตั้งแต่บ่ายจนถึงตอนนี้ติดต่อไม่ได้เลย พวกเราลองไปที่บ้านเขาแล้ว แต่ครอบครัวเขาก็บอกว่าติดต่อไม่ได้เช่นกัน”

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 283

    “เข้าใจแล้ว”เมื่อได้ยินคำตอบ ฟู่เซียวหานจึงกดวางสายไป ก่อนจะหันไปมองออกไปนอกหน้าต่างในเงาสะท้อนของกระจกรถ เขากลับมองเห็นแก้มที่แดงก่ำของตัวเองอย่างชัดเจนเขายกมือขึ้นเช็ดเบา ๆมันก็เจ็บอยู่บ้าง แต่เขาผ่านเรื่องที่เจ็บกว่านี้มาแล้ว แผลเล็กแค่นี้ ไม่เป็นอะไรเลยสักนิดคิดได้ดังนั้น เขามองรอยฝ่ามือบนแก้ม แล้วกลับหัวเราะออกมาเบา ๆ……จื้อเหอและซังอวี๋ทั้งสองฝ่ายตัดสินใจอย่างรวดเร็ว เรื่องที่เกาต๋าเข้ามารับช่วงต่อโครงการรู่โจวก็ถูกประกาศภายในบริษัทในเวลาไม่นานทันทีที่ข่าวนี้เผยออกมา ทุกคนต่างประหลาดใจไม่น้อยแม้ว่าตอนนี้ซังหนี่ยังคงเป็นผู้จัดการบริษัทสาขาเมืองอิ๋น แต่ถ้าเกาต๋าถูกย้ายกลับไป คนที่นั่นทั้งหมดก็เป็นลูกน้องเก่าของเขาอยู่ดี แบบนี้ซังหนี่จะต่างอะไรกับผู้นำที่ไร้อำนาจกันล่ะ?แน่นอนว่าซังหนี่ไม่มีทางยอมมอบผลงานของตัวเองให้ใครง่าย ๆแต่ฟู่เซียวหานตั้งใจจะทำให้เธอเสียหน้า และเหมือนที่ซังหลินพูดไว้ เขาเป็นฝ่ายว่าจ้าง โครงการใหญ่อย่างรู่โจว เขาแค่ขอเปลี่ยนผู้รับผิดชอบเท่านั้น ซังอวี๋ที่เป็นฝ่ายถูกเลือกทำอะไรไม่ได้ นอกจากต้องยอมตามดังนั้น เอกสารที่ซังหนี่ตรวจทานซ้ำแล้วซ้ำเ

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 282

    ฟู่เซียวหานถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง แต่แววตาที่มองซังหนี่กลับไร้ซึ่งอารมณ์ใด ๆมีเพียงแค่...ความเย็นชาเท่านั้นมันเป็นสายตาของนักล่าที่จ้องมองเหยื่อ และยิ่งไปกว่านั้น มันคือสายตาของผู้ที่อยู่เหนือกว่ามองคนเบื้องล่างด้วยความเหยียดหยามร่างกายของซังหนี่สั่นสะท้านโดยไม่รู้ตัว!เขาแสร้งทำต่อหน้าเธอมานานเกินไปแล้วจนถึงตอนนี้ ซังหนี่เพิ่งนึกขึ้นได้——เขาไม่ใช่สุนัขที่เชื่อง แต่เป็นหมาป่าที่กระหายเลือดและเนื้อ!แต่ซังหนี่ตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว “ฟู่เซียวหาน คุณเป็นถึงผู้จัดการใหญ่ของจื้อเหอ แต่กลับใช้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาแบบนี้ ไม่กลัวคนอื่นหัวเราะเยาะหรือไง!?”“ไม่เป็นไร ยังไงตอนนี้ก็ไม่มีใครคานอำนาจผมได้แล้ว” ฟู่เซียวหานพูดช้า ๆ “อีกอย่าง โครงการรู่โจวใหญ่ขนาดนี้ จะให้คุณรับผิดชอบมันไม่ปลอดภัย ผมมีเหตุผลมากพอที่จะทำให้พวกเขาเชื่อ”ซังหนี่ไม่พูดอะไร แต่มือที่วางอยู่บนเข่ากลับค่อย ๆ กำแน่นขึ้น“แล้วไงต่อล่ะ?”ในที่สุด เธอก็เปล่งเสียงออกมาอีกครั้ง ถามว่า “คุณคิดว่าคำสั่งนี้จะหยุดฉันไม่ให้แต่งงานกับจี้อวี้หยวนได้เหรอ?”“ฉันบอกไว้เลยว่า ไม่มีทาง ตอนนี้ฉันยิ่งต้องแต่งงา

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 281

    ซังหนี่มองดูท่าทางสงบนิ่งของเขาแล้วกลับหัวเราะออกมา “ที่แท้เป็นแบบนี้เอง นี่เป็นแผนที่คุณกับฟู่เซียวหานร่วมมือกันเหรอ?”“ไม่ใช่แน่นอน”ซังหลินขมวดคิ้วก่อนจะพูดต่อ “ซังหนี่ เธอทำงานที่บริษัทมานานพอสมควรแล้ว คงรู้ดีว่าผลประโยชน์ของบริษัทต้องมาก่อนเรื่องส่วนตัว เข้าใจไหม?”ซังหนี่ไม่พูดอะไร แต่เธอกลับกัดฟันแน่นขึ้นจากนั้น ซังหลินก็เรียกอีกคนเข้ามาทันทีคนนั้น...ซังหนี่เองก็ไม่ได้รู้สึกแปลกหน้า——เกาต๋า อดีตผู้จัดการทั่วไปของบริษัทลูกเมืองอิ๋นเกาต๋ามีเครือข่ายอยู่ที่เมืองอิ๋นเป็นหลัก ดังนั้นตอนที่เขาถูกย้ายกลับสำนักงานใหญ่ ก็นับว่าเป็นการถูกลดบทบาทไปโดยปริยายแต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่ได้ทำให้เขาหมดอิทธิพลในบริษัท ยังคงก้าวหน้าและเอาตัวรอดได้เป็นอย่างดีโครงการครั้งนี้ ทางจื้อเหอก็ระบุให้เขาเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรงซังหนี่รู้ดีว่า ฟู่เซียวหานทำแบบนี้ก็แค่ต้องการยั่วโมโหเธอ“ประธานเสี่ยวซัง ไม่เจอกันนานเลยนะ”เกาต๋ายิ้มบาง ๆ แล้วเดินตรงไปหาซังหนี่ ก่อนจะยื่นมือออกมาแต่ซังหนี่กลับเมินเฉยไม่สนใจเธอเพียงแค่เหลือบมองเขาอย่างเย็นชา ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไป“ถ้าสองวันนี้เธอไม่ยุ่งก็เข้

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 280

    บางทีอาจจะเพราะท่าทีของซังหนี่ที่ดูสับสนมากเกินไป จี้อวี้หยวนจึงอดไม่ได้ที่จะมองด้วยรอยยิ้มจากนั้นเขาก็ก้มศีรษะลงพร้อมจุมพิตเธอเบา ๆ ที่ริมฝีปากสัมผัสนั้นราวกับแมลงปอต้องน้ำ เพียงพริบตาเดียวก็จากไปแล้วก็ยื่นมือมาลูบศีรษะเธออีกครั้ง “เอาล่ะ เข้าไปเถอะครับ”ซังหนี่ยังคงสับสนอยู่บ้างเล็กน้อยแต่เธอก็ยังคงไม่ได้พูดอะไรออกมา แค่มองเขาก่อนจะหันหลังลงจากรถไปซังหลินกำลังรอเธออยู่ในห้องทำงานหลังจากที่ซังหนี่เข้ามา สิ่งแรกที่เขาถามแน่นอนว่าต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับโครงการรู่โจว“ฉันยังไม่รู้แน่ชัดว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้นกันแน่ เพราะอย่างไรเสียฉันก็แค่ได้รับการแจ้งเตือนจากอีกฝ่ายมาฝ่ายเดียวเท่านั้น แต่ประธานซังไม่ต้องกังวลไปนะคะ ฉันจะตรวจสอบให้ชัดเจนและให้คำตอบที่น่าพอใจกับคุณแน่นอนค่ะ”คำตอบซังหนี่เป็นทางการเป็นอย่างมากซังหลินจ้องมองเธออยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะเอ่ยว่า “เธอไม่ได้ติดต่อกับคนของจื้อเหอกรุ๊ปเลยหรือ?”“ยังไม่ได้ติดต่อเป็นการชั่วคราวค่ะ แต่ฉันจะ…”“นี่เป็นอีเมลที่ฉันเพิ่งได้รับมา เธอมาดูสิ”ซังหลินกลับเอ่ยขัดจังหวะการพูดของเธอโดยตรง พร้อมโยนเอกสารในมือของเขาไปยังซังหนี่ซังหนี

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 279

    เห็นได้ชัดว่าไม่มีอะไรอยู่บนนั้น แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกว่าบริเวณนั้นคันยุบยิบเล็กน้อยราวกับโดนขนของลูกแมวซุกไซร้คลอเคลีย และยังเหมือนกับตอนที่เขาสัมผัสเส้นผมของซังหนี่และในขณะที่ฟู่เซียวหานกำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องราวเหล่านี้ จู่ ๆ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากอีกฝั่ง “ขอโทษที่ปล่อยให้ประธานฟู่รอนานนะครับ”เมื่อได้ยินเสียงนั้น ฟู่เซียวหานก็เงยหน้าขึ้นพร้อมยิ้มบางเบา “ไม่เจอกันนานนะครับประธานเกา”……เรื่องที่โครงการรู่โจวโดนระงับการดำเนินการ ซังหนี่นับว่าเป็นคนที่ได้รับการแจ้งเป็นคนสุดท้ายในเวลานั้นเธอและจี้อวี้หยวนกำลังคุยกับคุณเยว่ เมื่อได้ยินเสียงจากคนที่อยู่ปลายสายเธอยังรู้สึกไม่ทันตั้งตัว “อะไรนะคะ?”“เป็นทางฝั่งจื้อเหอกรุ๊ปที่ระงับการดำเนินการครับ โดยบอกว่ามีปัญหาบางอย่างภายในทีมงานก่อสร้าง และพวกเขาจำเป็นต้องตรวจสอบให้ละเอียดก่อน”“ปัญหาอะไร?”“ผมเองก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ ทางจื้อเหอกรุ๊ปบอกเรามาเพียงเท่านี้”“ถึงแม้ว่าจะมีปัญหาในทีมก่อสร้าง แต่ขั้นตอนอื่น ๆ ก็ยังสามารถดำเนินการไปก่อนได้ หรือถ้ายังไม่สามารถทำได้ ตอนนี้ยังคงอยู่ในช่วงเริ่มต้นของโครงการ เราสามารถเปลี่ยนทีมวิ

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 278

    เมื่อฟู่เซียวหานยังเป็นเด็ก ครั้งหนึ่งเขาเคยเจอแมวจรจัดในโรงเรียนของพวกเขาลูกแมวตัวนั้นอาจเพิ่งคลอดได้ไม่นานแต่ไม่มีแม่แมวอยู่เคียงข้าง มีเพียงมันตัวเดียวที่นอนอยู่บนพื้นหญ้าและส่งเสียงร้องอย่างอ่อนแรงฟู่เซียวหานเพียงเหลือบตามองมันแต่เขาไม่มีความเห็นอกเห็นใจที่เปี่ยมล้น ดังนั้นหลังจากเหลือบมองครั้งหนึ่งเขาก็เดินจากไปอย่างรวดเร็วแต่เขาไม่คาดคิดว่าลูกแมวตัวนั้นจะเดินตามหลังเขามาฝีเท้าของเขาไม่ได้นับว่าก้าวเดินช้า ทั้งที่ลูกแมวตัวนั้นยังไม่สามารถยืนได้อย่างมั่นคงแต่ยังคงยืนหยัดเดินตามเขามาทีละก้าวและในขณะที่ฟู่เซียวหานกำลังจะเดินไปถึงหน้าประตูโรงเรียน ในที่สุดเขาก็หยุดฝีเท้าลงจากนั้นก็หมุนตัวเดินไปที่ร้านของชำด้านข้าง พร้อมซื้อไส้กรอกมาหนึ่งชิ้นลูกแมวตัวน้อยกินอย่างมีความสุขดังนั้นนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ฟู่เซียวหานจะเจอมันทุกครั้งหลังเลิกเรียนมันเป็นฝ่ายริเริ่มเข้ามาหาเขาก่อน หลังจากซุกไซร้เข้ากับฝ่ามือของเขาแล้วจึงรอให้เขาป้อนอาหารด้วยความเชื่อฟังและนับตั้งแต่นั้น ฟู่เซียวหานก็มักจะเตรียมขนมไว้ในกระเป๋านักเรียนของเขาเสมอในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เขาแม้กระทั่งตั้

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status