“แล้วทำไมพี่ภัสถึงต้องสาปส่งคุณติณณ์ ทำไมพี่ไม่ชอบเขา”“ยังจะถามอีก เคยสังเกตผัวตัวเองบ้างไหมว่านิสัยเป็นยังไง วันดีคืนดีเขาก็พูดจาจิกกัดฉัน”“แต่พี่ภัสก็กัดเขาเหมือนกัน”ขวัญรดาไม่ได้เข้าข้างสามี แต่เธอเห็นอย่างนั้นจริงๆ คนทั้งคู่เจอกันคราวใดก็มักมีเรื่องให้ประคารมกัน บางครั้งขวัญรดายังคิดว่าติณณ์กับภัสสราทำตัวเหมือนเด็กๆ ด้วยซ้ำ “ผมรู้”คนที่นั่งเงียบๆ คอยปิ้งย่างบริการสาวๆ โพล่งขึ้น ซึ่งมันดึงความสนใจจากภัสสราที่นั่งเชิดหน้าเป็นนางพญาได้ เธอเหล่มองเอเดน นายคนนี้จะมารู้เรื่องของเธอได้อย่างไร แต่เธอไม่ถามหรอก...หากก็มีคนที่เก็บความอยากรู้ไว้ไม่ได้จนต้องถามขึ้นมาเอง “ทำไมหรือคะ หรือว่าพี่ภัสเคยมีเรื่องกับคุณติณณ์มาก่อน”ข้อสันนิษฐานของน้องสาวทำให้คนเป็นพี่สาวคันปากยิบๆ แต่เอเดนก็ชิงตอบเสียก่อน“คุณภัสไม่ชอบผู้ชายหรอก มันเป็นเรื่องธรรมดาของผู้หญิงสูงวัยที่ยังครองตัวเป็นโสด ผมมีคุณป้าสองคน ท่านมีอายุเกือบหกสิบปี คุณป้าของผมสวยมาก สมัยก่อนเนื้อหอม ผู้ชายมาจีบกันตรึม แต่คุณป้าก็ไม่ชอบใคร พวกเธอตั้งใจอยู่เป็นโสด ผมก็เลยชินกับอารมณ์ของผู้หญิงแนวนี้ คุณขวัญอย่าไปใส่ใจเลย คุณกับพวกเธอไม่เหม
อย่างนี้ค่อยเป็นติณณ์ขึ้นมาหน่อย ขวัญรดาแทบหลุดหัวเราะขำกับท่าทางยืดอกวางท่าบอกให้รู้ว่าตนไม่เป็นรองใครของเขา“ตอนที่พูดออกไปแล้ว ผมก็คิดได้ว่าไม่ควรพูด จากนั้นภัสก็ทำเมินไม่มองผมอีก จนเราเรียนจบมัธยมแล้วแยกย้ายกัน”“เรื่องแค่นี้จริงๆ หรือคะ”อย่างไรไม่รู้สินะ ขวัญรดาคิดว่าติณณ์ยังบอกเธอไม่หมด ส่วนภัสสราก็ปิดปากเงียบ รายนั้นง้างปากอย่างไรก็ไม่เปิดปากบอกเหตุผลสักที“แล้วขวัญคิดว่ามันจะมีอะไรอีก”“ขวัญพูดได้หรือคะ”“ขวัญเปิดประเด็นขึ้นมาเอง แล้วมาถามผมได้ยังไง”“ช่วงปีที่ผ่านมาพี่ภัสกับคุณแทบจะขบหัวกันทุกทีที่เจอหน้า ทั้งที่ก่อนหน้านี้สถานการณ์มันดีขึ้นแล้ว จนขวัญอดคิดไม่ได้ว่าคุณติณณ์กับพี่ภัสมีเรื่องขัดแย้งกันใหม่ในภายหลัง มันคงเกิดสักช่วงปีที่ผ่านมา...ไม่เกี่ยวกับเรื่องสมัยเด็กของพวกคุณ”เสียงหลุดหายไปในลำคอ ขวัญรดาเลี่ยงที่จะพูดออกมาตรงๆ เธอสังเกตว่าตั้งแต่ติณณ์เลิกคบกับคัทลียา ญาติสาวผู้มีดีกรีนางงามครองมงกุฎ ภัสสราก็ไม่ได้พูดดีๆ กับเขาอีกเลย ขวัญรดาค้นหาสาเหตุไม่เจอ เธอไม่รู้ว่ามันเป็นแค่ช่วงเวลาที่บังเอิญประจวบเหมาะหรือภัสสราไปเกี่ยวข้องกับการเลิกราของติณณ์กับคัทลียาเข้าจริงๆ “
ในบ้านสองชั้นหลังขนาดกลาง หลังจากที่พระเอกหนุ่มกลับไปแล้ว คุณวิจัยและคุณจงกลก็กลับมาถึงบ้าน ทั้งสองสามีภรรยายังทำงานในห้างสรรพสินค้าและโรงแรม ถึงแม้ลูกสาวคนโตกลายเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงและมีรายได้สูงไปแล้วก็ตาม ซึ่งเธอสามารถดูแลพ่อแม่ให้อยู่อย่างสบายได้ แต่พวกเขาก็มีเหตุผลของตัวเอง‘ภัสทำงานเหนื่อย เขาทำงานตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย เขาควรได้ใช้เงินของเขาอย่างเต็มที่ ไม่ต้องแบกรับภาระเลี้ยงดูใคร ส่วนพ่อกับแม่ก็ยังไม่แก่ เรายังทำงานได้ ที่สำคัญ...บ้านเราไม่ได้ลำบากอะไร’คุณจงกลเคยให้เหตุผลกับรายการโทรทัศน์ที่มีคอนเทนต์บุกบ้านคนดังในคราวนั้น บ้านหลังนี้ไม่ใหญ่โต ทีมงานหลายคนรู้สึกผิดคาด เพราะยังเป็นบ้านหลังเดิมที่สร้างมาจากน้ำพักน้ำแรงของสองสามีภรรยา ปัจจุบันทุกคนยังอาศัยอย่างพร้อมหน้า...เว้นแต่ลูกสาวคนเล็กที่เพิ่งแต่งงานแล้วแยกบ้านออกไป“วันนี้น้องมาที่บ้าน แล้วเอเดนก็มาบ้านของเราด้วยใช่ไหม”“แม่เห็นในกล้องวงจรปิดอยู่แล้ว ยังมาถามภัสอีก”ภัสสราดักคอ คนเป็นแม่ถึงกับค้อนใส่ นางไม่คิดจะสอดส่องความประพฤติของใครหรอก แต่ด้วยความที
“พี่ภัสตื่นหรือยัง”คิดถึงพี่สาวแม้เพิ่งเจอหน้ากันเมื่อวาน ขวัญรดาจึงส่งรูปแมวหน้าทะเล้นไปทักทาย กะจะวางโทรศัพท์ลงเพราะมั่นใจว่าพี่สาวยังไม่ตื่น แต่ข้อความตอบกลับก็ตามมาทันทีภัสสรา : ว่างไหมขวัญรดายิ้มกว้าง รู้สึกเหมือนตนกำลังจะมีประโยชน์กับใครสักคนขวัญรดา : ว่างค่ะ พี่ภัสมีอะไรให้น้องทำ บอกได้เลยภัสสรา : ไม่กล้าใช้เมียเศรษฐีหรอกขวัญรดา : ใช้เถอะ กำลังเหงาตบท้ายด้วยสติกเกอร์แมวหน้าหงอยเพื่อยืนยันความเหงาไปอีกหนึ่งรูป เธอรอพี่สาวตอบกลับอยู่หลายวินาที เมื่อจะส่งข้อความถามซ้ำ แต่อีกฝ่ายก็โทร.เข้ามาเสียก่อน หญิงสาวจึงรีบรับสาย“ขวัญกำลังอยู่บ้านหรือเปล่า”“ใช่ค่ะ ที่บ้านไม่มีอะไรให้ขวัญทำเลย ยังดีที่ปกติคุณติณณ์จะกลับบ้านในช่วงบ่าย ไม่งั้นขวัญคงเหงามากกว่านี้ เพราะวันๆ ไม่มีใครให้คุยด้วย นอกจากคนงานในบ้าน”เมื่อวานติณณ์มีประชุมจนถึงช่วงเย็น ขวัญรดาจึงขอเขากลับไปบ้านพ่อแม่ จังหวะดีได้เจอภัสสรากับเอเดนด้วย ซึ่งเธอนัดแนะกับเขาว่าขากลับให้เขาแวะไปรับเธอกลับมาบ้านด้วย เธอจึงไ
“พี่ใบอ้อไม่สบายค่ะ”ขวัญรดาตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ซึ่งนักแสดงเจ้าบทบาทก็ไม่พลาดที่จะขยายความให้“นางปวดท้องเมน”ขวัญรดาปล่อยให้ช่างแต่งหน้าและช่างทำผมรุมล้อมภัสสรา ส่วนตัวเธอเองเดินไปดูเสื้อผ้าที่ทางรายการเตรียมไว้ให้ กระทั่งเห็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี เธอจึงกลับไปสมทบกับพี่สาว แล้วจึงเห็นพิธีกรคนดังคุยอยู่กับพี่สาวพอดี เมื่อฝ่ายนั้นเห็นเธอเข้าก็เบิกตาโตเหมือนตื่นเต้น“น้องขวัญหรือเนี่ย สวยขึ้นจนจำไม่ได้ ว่าอย่างไรล่ะเรา สบายดีไหม แล้วทำไมภัสไม่บอกพี่ว่าขวัญจะมากับภัส ไม่งั้นพี่จะขอเวลากับทางรายการไว้คุยกับขวัญด้วย”ฉายฉานพูดรัวไม่เว้นจังหวะให้ขวัญรดาได้ตอบ แถมตอนท้ายยังทิ้งคำพูดให้เธอประหลาดใจ“พี่ฉายจะสัมภาษณ์อะไรขวัญหรือคะ”“อ้าว! น้องขวัญเป็นสะใภ้หลายพันล้าน นาทีนี้ไม่มีใครน่าอิจฉาเกินน้องขวัญแล้วครับ คนแถวนี้อกหักกันเป็นแถบ จู่ๆ สุดหล่อก็ประกาศแต่งงาน ว่าแต่พอแต่งงานแล้ว น้องขวัญก็หายไปเลยนะ”“น้องของภัสไม่ใช่ดารา ทำไมถึงต้องโผล่มาให้พี่ฉายเห็นด้วย ก่อนหน้านี้ขวัญก็มีง
ภัสสราประหลาดใจที่ขวัญรดาชวนเธอไปกินข้าวแทนที่จะรีบกลับบ้านหลังจากทำงานเสร็จแล้วท่าทางของน้องสาวดูเป็นปกติ จะว่าเจ้าตัวเก็บความรู้สึกได้ ภัสสราก็ไม่อยากฟันธง เพราะแต่ไหนแต่ไรมา ไม่ว่ามีเรื่องอะไรเข้ามา ขวัญรดาก็ไม่เคยโวยวายให้ใครได้ยินอยู่แล้ว“เธอโอเคไหม”ภัสสราเอียงคอถามเมื่อทั้งสองคนเข้ามานั่งในร้านอาหารญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องวัตถุดิบที่ได้คุณภาพ ซึ่งล้วนนำเข้ามาจากประเทศต้นตำรับ“โอเคเรื่องอะไรคะ”“เรื่องเบอร์โทร.ที่ติณณ์ให้เธอไง”ตบท้ายด้วยเสียงจิ๊จ๊ะ นึกอยากจับขวัญรดาเขย่าแรงๆ เผื่อเจ้าตัวจะได้รู้สึกรู้สาขึ้นมาบ้าง นี่เป็นเรื่องของตัวเองแท้ๆ แต่ยังทำท่าทางนิ่งเฉย ตัวเธอเองเสียอีกที่ร้อนรุ่มจนแทบนั่งไม่ติด ร่ำร่ำจะไปฉีกอกน้องเขยตัวดีเสียให้ได้“อ๋อ! เรื่องนี้เอง เดี๋ยวขวัญค่อยไปถามเขาค่ะ”แลดูคล้ายขวัญรดาจะเป็นฝ่ายพูดให้เธอสบายใจ แทนที่เธอจะได้เป็นคนปลอบใจน้องสาวภัสสราถอนหายใจเฮือกใหญ่ ดูก็รู้ว่าทำไมติณณ์ถึงเลือกแต่งงานกับขวัญรดา ทั้งที่มีผู้หญิงหลายคนห้อมล้อมเขา เชื่อเลยว่าถ้า
สองทุ่มสิบนาทีเป็นเวลาที่ติณณ์ติดต่อภัสสราได้อีกครั้ง เมื่ออีกฝ่ายรับสาย เขาก็ถามเสียงเรียบ...“ดูหนังเสร็จแล้วใช่ไหม กลับบ้านกันเลยหรือเปล่า”“เธอถามฉันเหรอ ถามผิดคนหรือเปล่า”“ฉันอยากรู้ว่าขวัญจะกลับมาบ้านกี่โมง ยังไงขวัญก็ต้องไปส่งเธอก่อนไม่ใช่เหรอ”“อ๋อ! ฉันเข้าใจแล้ว”เสียงหัวเราะระรื่นแทรกเข้ามาในสาย ติณณ์ทำหน้างง เขาพูดอะไรให้ภัสสราขำได้ขนาดนั้น“คืนนี้ขวัญจะนอนค้างที่บ้าน พอดีฉันจะคุยงานกับขวัญน่ะ ฉันคิดว่าขวัญบอกเธอแล้วเสียอีก”“ฉันยังไม่รู้ ขวัญไม่ได้บอก”ติณณ์ขึ้นเสียงสูง มันเป็นเรื่องที่เขายากจะยอมรับได้...นั่นเมียของเขาทั้งคน ภัสสราเป็นแค่พี่สาว เธอมีสิทธิ์อะไรมายึดเอาเมียของเขาไป“โอ๊ะ! ตายจริง ฉันลืมไปว่าเธอยังไม่รู้ เพราะวันนี้ทั้งวันขวัญติดต่อเธอไม่ได้ แต่ไม่เป็นไร รู้ตอนนี้เลยก็แล้วกันว่าขวัญจะกลับไปที่บ้านของเธอพรุ่งนี้ เพราะคืนนี้ขวัญจะนอนที่บ้านของฉัน”“ภัส! เธอทำอย่างนี้ไม่ได้นะ”“ฉั
“ถามอะไรเนี่ย ขวัญจะมาบ้านนี้เมื่อไรก็ตามใจเถอะ”“พ่อไม่เห็นคิดเหมือนแม่เลย”ขวัญรดาบอกเสียงกระเง้ากระงอด เมื่อแม่พูดอย่างเปิดทางให้ หญิงสาวจึงเดินไปกอดเอวแม่และซุกอกอุ่นอย่างประจบคุณจงกลลูบศีรษะลูกสาว แล้วพูดเสียงอ่อนลง“เมื่อกี้ขวัญเดินย่องลงมาเพราะกลัวพ่อเห็นใช่ไหมว่าเมื่อคืนขวัญหนีกลับมานอนที่บ้าน”ขวัญรดาพยักหน้าหงึกๆ เงยหน้าขึ้นมามองแม่ตาแป๋วเหมือนตอนเด็กไม่ผิดเพี้ยน“พ่อเป็นห่วงขวัญและพ่อก็เกรงใจคุณติณณ์ด้วย ขวัญแต่งงานกับคุณติณณ์แล้ว คิดจะไปไหนมาไหนเหมือนเมื่อก่อนก็คงไม่ได้ ถ้ามาที่บ้านนี้ทั้งสองคนก็ไม่มีใครว่าอะไรหรอก แต่การที่ขวัญกลับมานอนค้างที่บ้านคนเดียวบ่อยๆ มันก็ดูไม่ดี ขวัญรู้ไหมว่าตั้งแต่แม่แต่งงานกับพ่อ แทบไม่มีวันไหนเลยที่พ่อกับแม่แยกบ้านกัน นอกเสียจากมีความจำเป็นเรื่องงานที่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดต้องเดินทาง แต่พอเสร็จจากงาน เราก็กลับมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ด้วยกัน”แม่ทำได้ เพราะพ่อเป็นพ่อ พ่อรักแม่คนเดียว พ่อไม่ใช่ผู้ชายอย่างคุณติณณ์...ขวัญรดาคิดค้านอยู่ในใจ แต่ไม่กล้าปริปากพูดให้แม่รู้เรื่
“มันคือผักหวานป่า ขวัญไปเก็บมาจากริมรั้วบ้านคุณป้า คุณรู้จักผักหวานป่าหรือเปล่า”อดที่จะย้อนถามไม่ได้ หากพอเห็นคนที่เดินตามเข้ามาในครัวตีสีหน้าเก้อเขิน ขวัญรดาก็นึกอยากหัวเราะ เพราะเธอขำเขาจริงๆ“รู้จักสิ ผมเคยกิน มันก็อร่อยดี”“คุณเคยเห็นตอนมันอยู่ในถ้วยแกงแล้วใช่ไหม ขวัญว่าในซูเปอร์มาร์เก็ตก็น่าจะมีขาย คุณสำรวจสินค้าที่วางขายครบทุกแผนกหรือยัง”“ผมไม่แน่ใจ...แต่คิดว่าน่าจะยังไม่ครบนะ”ขวัญรดาส่งค้อน ส่วนติณณ์เห็นโอกาสเพียงน้อยนิดก็รีบฉวยไว้“ขวัญพาผมไปทัวร์สิ ยังไงคุณก็รู้เรื่องภายในห้างฯ ของเรามากกว่าผม ผมมันน้องใหม่เพิ่งเข้ามาทำงาน ไหนจะสู้คนที่ทำงานมาหลายปีอย่างคุณได้ล่ะ”“เมื่อก่อนคุณมัวแต่ทำอะไรอยู่”ติณณ์นิ่งค้างอย่างจนมุม เลือกที่จะไม่ตอบคำถาม เพราะกลัวเธอจะโยงคำตอบของเขาไปถึงเรื่องอื่นสำหรับขวัญรดา เมื่อไม่ได้คำตอบ เธอก็เลิกสนใจ หันมาทำกับข้าวมื้อเย็น วันนี้ป้าๆ ของเอเดนใจดีมาก พวกนางเตรียมของที่เธออยากกินไว้ให้ครบถ้วน แค่นึกถึง...ขวัญรดาก็น้ำลายสอแล้ว
“เพราะเรื่องนี้หรือคะที่ทำให้คุณกับพี่ภัสไม่ถูกกัน ขวัญคิดว่าพวกคุณไม่ถูกกันในช่วงเรียนมัธยมเสียอีก”“เรื่องนี้คงฝังใจภัส แต่ผมไม่ได้คิดอะไรอีก ผมย้ายไปเรียนที่โรงเรียนนานาชาติ แล้วกลับมาเจอภัสอีกทีก็ตอนเรียนมัธยม รู้หรือเปล่าว่าพอเห็นหน้าเพื่อนร่วมห้องเรียนคนนี้ ผมเซ็งมาก แทบอยากย้ายโรงเรียนหนี”ขวัญรดาหลุดเสียงหัวเราะคิกๆ ออกมา เธอรู้ฤทธิ์พี่สาวดีว่าเป็นคนไม่ยอมคน แถมยังเป็นคนจำเรื่องได้นานเสียด้วย“แล้วยังไงอีกคะ เล่ามาเลยนะ ขวัญคิดว่าคนร้ายกาจอย่างคุณต้องทำเรื่องอีกแน่ๆ คุณไม่ยอมอยู่เฉยๆ หรอก”“ใส่ร้ายผัว เข้าข้างพี่สาว”“มันจริงหรือเปล่าล่ะ”ติณณ์นิ่งคิดไปนาน เหมือนเขากำลังทบทวนความทรงจำ“ผมบอกภัสว่าน้องสาวของเธอเป็นของฉัน”น้ำเสียงธรรมดา แต่คนฟังหัวใจเต้นแรง“ขวัญเป็นอะไร เงียบไปเลย”ดวงไฟหัวเตียงส่องสว่างขึ้น หลังจากติณณ์ยืดแขนไปกดเปิดสวิตช์“คุณพูดเพราะอยากเอาชนะพี่ภัส”“สารภาพว่าตอนนั้นผมไม่ได้คิดอะไรอีกนั่นแหละ ผม
“ขวัญไม่มีประจำเดือน...”คนที่กำลังก้มหน้าก้มตากินอกไก่พริกไทยดำพูดขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย มันทำให้คนที่กินสลัดผักซึ่งนั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามโต๊ะม้าหินอ่อนต้องชะงักมือ หัวใจดวงน้อยเต้นโครมคราม ถ้าหากเขาเงยหน้าขึ้นมาสักนิดก็คงได้เห็นดวงหน้าหวานเลิ่กลั่กอย่างเก็บอาการไม่อยู่“ฉันฉีดยาคุม”นึกขอบคุณไหวพริบตัวเอง...ขวัญรดาคิดว่าคำตอบนี้มันสมเหตุสมผลดี แต่อีกฝ่ายก็ยังถามซอกแซกถึงร่างกายของเธออยู่นั่นแหละ“เดือนแรกยังมีประจำเดือน”“ช่วงแรกก็ต้องมีประจำเดือนสิ แต่หลังๆ มันจะหายไป”ติณณ์พยักหน้าเออออตาม แต่สีหน้าของเขายังคงครุ่นคิด ขวัญรดารู้สึกอึดอัด เธออยากลุกหนี…แต่อย่าเลย เพราะมันจะส่อพิรุธกันไปใหญ่“ฉีดกี่เข็มแล้ว”“สอง”“ฉีดอีกเมื่อไร”“ทำไมต้องถามเยอะด้วย”ไม่รู้ว่าเขากำลังจับผิดหรืออยากรู้เรื่องของเธอจริงๆ แต่ขวัญรดาไม่ขอเสี่ยงดีกว่า ถึงเธอจะรู้เรื่องพวกนี้ดี เพราะแม่ให้ความรู้เรื่องการคุมกำเนิดกับเธอและพี่สาวมาตั้งแต่ย่างเข้าว
“คุณแต่งงานกับฉันทำไม”“อยากมีเมีย โอ๊ย!”ตะหลิวไม้ที่เพิ่งใช้กวนสลัดปลิวใส่เขาอย่างเหมาะเหม็ง คราวนี้ติณณ์หลบไม่ทัน“ขวัญเป็นอะไร ทำไมถึงทำนิสัยอย่างนี้ ไม่น่ารักเลย”“มันเหมาะกับคนอย่างคุณแล้ว”“ผมแย่มากหรือไง นอกจากเรื่องบอร์โทร. ผมยังทำอะไรที่ขวัญไม่พอใจอีก”“ฉันเกลียดคุณตั้งแต่ตอนที่คุณทิ้งฉันไปหลังวันแต่งงาน คุณเห็นฉันเป็นตัวอะไร ถ้าคุณอยากอยู่คนเดียว ถ้าคุณยังอยากมีพื้นที่ส่วนตัว คุณก็ใช้ชีวิตคนเดียวไปสิ คุณดึงฉันไปยุ่งเกี่ยวกับคุณทำไม”“ขวัญโกรธเรื่องนี้ด้วยหรือ ผมคิดว่า...” คิดว่าขวัญรดาไม่โกรธ ก็เขาไม่เคยเห็นเธอพูดถึงเรื่องนี้เลย หากติณณ์ก็หยุดคำพูดไว้แค่นั้น สถานการณ์อย่างนี้ เขาควรทำตัวเป็นผู้ฟังที่ดีไว้ก่อน“มันน่าโกรธหรือเปล่า ไม่มีผู้หญิงคนไหนยิ้มรับได้หรอกกับการที่ถูกผู้ชายที่เพิ่งแต่งงานทิ้ง แถมคุณยังเข้าหอกับฉันอีก พาฉันไปรู้จักคุณแม่ของคุณ พอครบทุกขั้นตอน คุณก็หายไปจากฉัน มันบ้าบอมาก ฉันไม่เคยคิดว่าชีวิตของฉันจะเดินมาถึงจุดตกต่ำอย่างนั้
ตะวันเคลื่อนคล้อยจนถึงเวลาเย็น แต่คนที่เปลือยท่อนบนยังนอนตากพัดลมอยู่ตรงระเบียงบ้าน ขวัญรดาที่เพิ่งเสร็จจากการทำอาหารเย็นเห็นเข้าก็อดที่จะถามเขาไม่ได้“คุณจะกลับบ้านกี่โมงคะ”“ไม่กลับ”ติณณ์ตอบฉับไว เปลือกตาหนาที่ปิดสนิทขยับขยุกขยิก ซึ่งขวัญรดารู้ตั้งแต่ต้นแล้วว่าเขาไม่ได้นอนหลับ พลันกายใหญ่ที่อุดมด้วยกล้ามเนื้อกำลังพอดีก็พลิกไปทางเธอ“ผมหิวแล้ว”ติณณ์ยันกายขึ้นมานั่ง สายตาเจ้ากรรมของขวัญรดาดันไปมองแผงอกกว้าง เห็นเม็ดเหงื่อผุดซึมออกมา อากาศยามเย็นยังคงร้อนอบอ้าว แม้สายลมจะพัดแผ่ว แต่มันยังเป็นลมร้อนอยู่ดี“ขวัญไม่ได้ทำเผื่อ”“เราออกไปหาอะไรกินกันข้างนอกไหม”“ขวัญทำสลัดไข่ต้มไว้แล้ว”“งั้นขวัญทำให้ผมอีกที่สิ” ติณณ์บอกอย่างไม่รู้ไม่ชี้ แถมยังเสนอแนะหน้าตาเฉย “ผักสลัดอยู่แค่ตรงนี้ เดี๋ยวผมไปเก็บเอง ส่วนขวัญก็ทำไข่ต้มกับน้ำสลัดให้ผมด้วย”ชายหนุ่มเคลื่อนตัวอย่างว่องไว เขาหายไปยังแปลงผักข้างบ้าน ขวัญรดาหมดทางเลี่ยง เธอได้แต่เดิ
“บอกได้หรือยังว่าทำไมขวัญถึงมาพักที่นี่ บ้านหลังนี้มีอะไรที่บ้านเราไม่มี”ติณณ์ถามขึ้น หลังจากขวัญรดาหยอดเมล็ดผักลงในแปลงปลูกเสร็จแล้ว เขาไม่รู้ว่าเธอปลูกผักอะไร แต่ถ้าดูจากแปลงอื่นๆ ก็เห็นมีแต่ผักสลัด“ชอบปลูกผักหรือ” เขาถามต่อเมื่อเธอยังเงียบ“มันเป็นงานที่น่าสนใจสำหรับคนว่างงานค่ะ”“ขวัญอยากกลับไปทำงานหรือเปล่า”“คิดค่ะ แต่ขวัญไม่กลับไปทำที่เดิม”ที่เดิม...คืองานโรงแรมและห้างสรรพสินค้าของครอบครัวเขา ขวัญรดาเคยเป็นพนักงานที่นั่น ก่อนเธอจะลาออกมาเมื่อแต่งงานกับเขา“ขวัญโกรธผม...คิดว่าผมมีผู้หญิงคนอื่นใช่ไหม”ไม่อยากอ้อมค้อมแล้ว มัวแต่รอให้เธอพร้อมคุย เขารอจนตะวันบ่ายคล้อย เธอก็ยังไม่เลิกหมางเมินเสียที ขวัญรดาทำเหมือนเขาไม่มีตัวตน“ผมไม่มีผู้หญิงคนไหนทั้งนั้น ผมมีแต่ขวัญคนเดียว ตั้งแต่เราแต่งงานกัน ผมก็ไม่มองใครอีก ผมเพิ่งรู้จากคุณอาจงกลว่าขวัญเข้าใจผิดเรื่องรูปถ่ายในคืนที่ผมออกไปกินเหล้า”ขวัญรดาชะงัก เห็นได้ชัดว่าเรื่องนี้ทำให้เธอสนใจเขาขึ้นมา
การตามหาบ้านของป้าพระเอกคนดังไม่ใช่เรื่องยากสำหรับติณณ์ แค่จอดรถถามแม่ค้าขายขนมจีนรถเข็นข้างทาง เขาก็ได้รับคำตอบ“คุณเป็นดาราหรือเปล่า คุณหล่อไม่แพ้เอเดนนะ”คำถามชวนคุยพ่วงตามมาหลังจากแม่ค้าวัยกลางคนบอกเส้นทางให้เขาแล้ว“ไม่ใช่ครับ ผมเป็นเพื่อนของเขา”“แต่ป้าคุ้นๆ หน้าคุณอยู่นะ”ไม่ว่าเปล่า แม่ค้าทิ้งลูกค้าให้ยืนรออยู่หน้ารถเข็น ส่วนตัวเองก็เดินมามองเขาใกล้ๆ ติณณ์ได้แต่ยิ้มรับ หากไม่อาจเคลื่อนรถออก แม้หัวใจร่ำร้องอยากจะไปให้ถึงที่หมายไวๆ แล้ว“ผมขอตัวนะครับ”ทำท่าจะปิดกระจกหน้าต่างรถ หากแม่ค้าก็ไวเหลือใจ นางควักมือถือออกมาแล้วหันหลังย่อกายให้อยู่ในระดับเดียวกับเขา ก่อนจะถ่ายภาพเซลฟีคู่กับเขาอย่างว่องไว“คุณเป็นดาราแน่ๆ หล่อขนาดนี้อย่ามาหลอกป้าซะให้ยาก แต่ป้านึกไม่ออกว่าคุณชื่ออะไร เดี๋ยวป้าขอเก็บรูปไปคิดต่อที่บ้านก็แล้วกัน”ฟังธงโดยไม่เกรงใจใคร ก่อนจะปล่อยให้หนุ่มหล่อเจ้าของรถสวยเคลื่อนรถจากไปติณณ์วนหาบ้านของป้าเอเดนนานกว่าครึ่งชั่วโมง ทั้งที่มันอยู่ไม่ไกลจากจ
ติณณ์ออกอาการงุนงงเมื่อคุณจงกลบุกขึ้นมาพบถึงห้องทำงาน แล้วถามถึงเรื่องที่นางได้ฟังมาจากภัสสรา“ผมไม่ทำแบบนั้นแน่นอนครับ”ติณณ์ยืนยันความบริสุทธิ์ใจ ในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกตกใจไปด้วย ไม่คิดว่าจู่ๆ ตนจะต้องตกอยู่ในฐานะผู้ต้องสงสัยว่านอกใจภรรยา“คุณติณณ์ไม่ทำ แต่คุณบอกว่าคืนนั้นเมามาก คุณมั่นใจหรือเปล่าว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนตามไปที่เพนต์เฮาส์”“ผมจำเรื่องคืนนั้นไม่ได้ทั้งหมด แต่ก่อนผมจะเมาจนไม่รู้ตัว ผมอยู่กับเพื่อนที่เป็นเจ้าของผับ มันบอกจะพาผมไปส่งที่เพนต์เฮาส์เอง ผมก็เลยดื่มต่อโดยไม่ได้สนใจอะไรอีก”“คุณติณณ์ต้องเคลียร์เรื่องนี้กับขวัญให้เข้าใจ ขวัญคงไม่ยอมทนอยู่กับเรื่องการนอกใจ เพราะแกมีปมกับมัน หวังว่าคุณติณณ์จะเข้าใจน้อง”“ผมเข้าใจครับ ผมไม่มีทางทำร้ายจิตใจขวัญด้วยเรื่องพวกนี้ คุณอาวางใจผมได้”“ไม่ทำร้ายจิตใจน้องด้วยเรื่องนอกใจ แล้วเรื่องอื่นๆ ล่ะ”แม่ยายถามทิ้งท้าย ติณณ์ยังไม่ทันได้ตอบหรือคำตอบของเขาอาจช้าเกินไป แม่ยายเลยขอตัวออกไปจากห้องทำงานเสียก่อน
ภัสสราทำหน้ายุ่งขณะตัดสายจากติณณ์ ตอนนี้มันสี่ทุ่มแล้ว แต่พ่อเจ้าประคุณยังโทร.มาคาดคั้นถามว่าบ้านที่ขวัญรดาพักอยู่นั้นมีลักษณะและสภาพเป็นอย่างไร เหตุเกิดเพราะติณณ์เพิ่งรู้ว่าขวัญรดาไม่ได้พักร่วมบ้านกับป้าของเอเดน เขาแทบจะปรี่ไปอ้อมใหญ่เสียเดี๋ยวนี้ จนเธอต้องยืนยันว่าบ้านคอนกรีตยกเสาสูงหลังนั้นปลอดภัยดี ตอนไปส่งขวัญรดา เธอก็สำรวจดูจนมั่นใจแล้ว“สมน้ำหน้า เจ้ากี้เจ้าการพาน้องหนีดีนัก”“แม่! ทำไมพูดอย่างนี้ ภัสไม่ได้เป็นตัวตั้งตัวตีเรื่องนี้สักหน่อย ยายขวัญเองต่างหากที่หอบเสื้อผ้าออกจากบ้านโน้น แล้วนายเอเดนก็ดันช่วยพาหนี ภัสแทบไม่มีบทบาทในเรื่องนี้เลย ได้แต่เออออไปกับพวกเขา ตอนนั้นภัสเสนออะไรไป ยายขวัญก็ตีตกหมด”“เพื่อนเราคนนี้ไว้ใจได้แค่ไหน”จู่ๆ คุณวิจัยก็ถามขึ้น สีหน้ายังคงเคร่งขรึม ภัสสราไม่รู้ว่าพ่อคิดเห็นกับเรื่องนี้อย่างไร แต่คำถามของพ่อก็ทำให้เธองุนงง“เพื่อนของภัส? ใครอะ”“เอเดน”ภัสสราถอนหายใจเฮือกใหญ่เหมือนกำลังเจอเรื่องหนักอก เธอค่อยๆ อธิบายให้พ่อเข้าใจไปทีละเปลาะ&ldqu