ตอนที่ 35 เหยื่อติดเบ็ดเขายิ้มกริ่มแล้วมองไปยังเหยื่ออันโอชะที่อยู่ข้างหน้า“เฮียกะว่า พรุ่งนี้เฮียจะไปทำงานแล้ว ตั้งใจจะพาคนแถวนี้ไปด้วยสักหน่อย สงสัยต้องไปคนเดียวแล้วล่ะม๊างงง” คนพูดทำเป็นแกล้งพูดออกมาลอยๆ แต่คนที่ฟังตาโตเป็นไข่ห่าน“เฮียจะพาเอลิซไปด้วยจริงๆ หรอค่ะ” ฉันถามออกไปด้วยความตื่นเต้นเข้าทางคนตัวโตทันที เขายิ้มอย่างพอใจที่เหยื่อติดเบ็ด~~“ถ้าเอลิซตกลงอยู่กับเฮียในห้องนี้ทุกวัน...ทุกคืน เฮียจะพาเอลิซออกไปข้างนอกทุกวันเลยดีไหม” เขาพูดพร้อมกับยกมือขึ้นลูบศีรษะทุยเบาๆ“โอเคค่ะ เอลิซไม่ไปนอนที่ไหนแล้ว เฮียอย่าโกหกแล้วกัน” ความที่อยากออกไปข้างนอกบ้าง ฉันจึงรีบตอบตกลงในทันที“เฮียไม่โกหกเอลิซ หรอกค่ะ” เขาเอ่ยยิ้มละมุนฉันตื่นเต้น ยิ่งกว่านักโทษที่ได้รับการปล่อยตัว แม้ว่าการออกไปข้างนอกจะต้องไปกับเขา แต่ก็ดีกว่าทนอุดอู้อยู่แต่ที่นี่ความรู้สึกดีใจมากจนเข้าไปโผเข้าไปโอบกอดคอเขา ก่อนจะหอมแก้มสากซ้ายที ขวาที สลับไปมา แล้วบรรจงจุ๊บลงไปที่ปากหนาทรงเสน่ห์ที่ฉันหลงใหลจุ๊บ!! จุ๊บ! จุ๊บ!!ริมฝีปากอิ่มจูบเข้าไปที่ริมฝีปากหนาหลายครั้งหลายหน จนคนร่างหนาทนไม่ไหว ใช้มือประคองล็อกคอระหงให้อยู่
ตอนที่ 36 ใช้หัวใจในการรักษาผมค่อยๆ ไล้สูดดมความหอมกรุ่นตามร่างกาย เริ่มจากริมฝีปากนุ่มนิ่มที่ผมชอบ ความหวานนุ่มแสนละมุนทุกครั้งที่ผมละเลียดกินผมแทบไม่อยากละออกจากมันเลย มันเหมือนแหล่งพลังงานความสุขชั้นยอดที่คอยเติมความสุขให้ผมในทุกๆ วัน จนผมต้องคอยหมั่นเติมมันเข้าไปทุกครั้งที่มีโอกาส ถัดมาคือลำคองามระหงขาวเนียน จุดกระแสชีวิตที่นำพากลิ่นกายไปทั่วร่าง แค่ได้ลงไปสูดดมกลิ่นก็บังเกิดความดึงดูดที่ยากจะถอดถอน ถ้าให้ผมซุกอยู่ตรงนั้นทั้งวันผมก็ยินดีเป็นอย่างยิ่ง แล้วเมื่อเลื่อนลงมายังดอกบัวตูมคู่งามที่อวบอั๋นใหญ่โตเกินตัว เมื่อใดก็ตามที่ผมได้ใช้ปากครอบครองดอกบัวตูมคู่นั้นเป็นต้องฉกฉวยดื่มกินอย่างหื่นกระหายคล้ายกับเด็กน้อยผู้หิวโหย ความหอมหวานจะคละคลุ้งไปทั่วทั้งปาก จนยากจะเงยหน้าขึ้นมา...ถ้าเปรียบเทียบกับสิ่งที่ผมแวะชิมมาตลอดทางเป็นดั่งขนมหวานระดับมิชลินสตาร์แล้วละก็ จุดถัดไปผมยกให้เป็นอาหารชั้นยอดหนึ่งเดียวในโลก ที่พอได้ลิ้มลองแล้วยากจะลืมเลือน เป็นอาหารจานเดียวที่ผมกินอย่างไม่มีเบื่อและไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อยเมื่อยามได้กิน ทั้งยังเป็นแหล่งพลังงานไฟฟ้าที่ทำให้กระแสเลือดในร่างกายหมุนเวียนเ
ตอนที่ 37 ความลับร้านขายยา--- เซฟ Talk ---เวลาผ่านไปเนิ่นนานเท่าไรแล้วไม่รู้ ที่ผมนอนหลับไป อาจจะเป็นเพราะฤทธิ์ยาที่ทำให้ผมผ่อนคลายและนอนหลับสนิทผมค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้นอย่างช้าๆ ให้สายตาปรับโฟกัสก่อนจะมองไปรอบๆ ห้อง ผมน่าจะนอนหลับไปนานมาก จากที่ลองมองไปยังทางหน้าต่าง ก็ไม่พบว่ามีแสงสว่างสาดเข้ามาแล้ว มีเพียงไฟเล็กๆ ที่หัวเตียงที่พอทำให้เห็นบรรยากาศภายในห้องกลิ่นกายที่คุ้นเคยกระตุ้นให้ผมละสายตาจากหน้าต่างมายังด้านข้าง เมื่อหันมาก็พบเข้ากลับร่างนุ่มนิ่มที่ผมชอบนอนกอด นอนหลับตาพริ้มอยู่ข้างๆ ไม่รู้ว่าเธอขึ้นมานอนตั้งแต่เมื่อไร แต่มันทำให้หัวใจของผมอบอุ่นขึ้นมาทันทีผมค่อยๆ ขยับกายพลิกตัวหันไปมองใบหน้าเนียนหวานใส จมูกสวยที่รับกับใบหน้า ปากอิ่มน่าดึงดูด เธอจะรู้ตัวไหมว่าเธอ...อื๊ดดด...อื๊ดดด ~~โทรศัพท์ของผมที่วางข้างที่นอนสั่นขึ้น ทำให้ผมต้องละสายตาจากใบหน้าหวาน หันไปหยิบมาดูว่าใครโทรเข้ามาหน้าจอมือถือโชว์ชื่อผู้ที่ติดต่อเข้ามา ~~~ (กิต)เขาหยัดตัวขึ้นจากที่นอนอย่างแผ่วเบา เพราะไม่อยากจะรบกวนคนข้างๆ ให้ตื่น แล้วเดินไปยังริมหน้าต่างเพื่อคุยกับปลายสาย“ว่าไง” เขาทักปลายสายทันทีเมื่อก
ตอนที่ 38 ไปคุยกับคนรู้ใจมาณ Penthouseเขาเดินกลับมายังที่นอน ก่อนจะค่อยๆ ขึ้นเตียงอย่างแผ่วเบา ขณะที่กำลังจะเอนตัวลงนอนพร้อมกับวาดมือออกไปเพื่อกอดร่างนวลอยู่นั้นพรึ่บ!!ดวงตากลมโตสุกใส เปิดขึ้นอย่างกะทันหัน จนเขาตกใจผงะมือค้างกลางอากาศ“เฮียไปคุยโทรศัพท์กับใครมาค่ะ” เสียงหวานเอ่ยถาม พร้อมส่งสายตาคาดคั้นมาที่คนร่างโตที่ตอนนี้เบิกตา กว้างเพราะตกใจจากเหตุการณ์เมื่อครู่นี้เขารับรู้ได้ว่าในคำถามนั้น มีน้ำเสียงของความไม่พอใจอยู่ เขายิ้มกริ่มในใจ ก่อนจะทำหน้านิ่งตอบกลับไป“ไปคุยกะคนรู้ใจมา” เขาพูดแกล้งคนตรงหน้า เพราะอยากเห็นปฏิกิริยาบางอย่างที่เขาแอบคาดหวังอยากจะให้เธอแสดงออกมาร่างบางขมวดคิ้วทันที พร้อมกับปัดมือที่ค้างกลางอากาศทิ้ง แล้วหยัดตัวลุกขึ้นนั่ง คำตอบของคนตัวโตเสียดแทงเข้าไปกลางใจของคนตัวเล็ก จนจุกไปหมด“ถ้าคุณเซฟมีแฟนอยู่แล้ว คุณเซฟไม่ควรทำแบบนี้กับเอลิซนะคะ” ฉันบอกขณะที่สายตาจ้องไปที่ดวงตาของเขา ที่ยังคงมีความทะเล้นเหมือนไม่แคร์อยู่ในนั้น“เรียกเฮียสิ ไม่เรียกคุณเซฟ” เขาเอ่ยบอกโดยไม่สนใจสิ่งที่ฉันพูดเลย“เอลิซจริงจังนะคะ ถ้าคุณเซฟมีแฟนอยู่แล้ว เราก็ควรจะจบความสัมพันธ์กันเดี๋ย
ตอนที่ 39 รังเกียจไหม!!ประโยคที่เขาเอื้อนเอ่ยบอกออกมา ยังคงดังก้องกังวานอยู่ในโสตประสาทและอบอวลอยู่ในหัวใจที่กำลังสั่นไหว ฉันเงยหน้ามองเขาด้วยความรู้สึกเต็มตื้น ข้างในหัวใจมันพองโตคับแน่นเต้นระรัวจนแทบจะกระเด็นกระดอนออกมานอกอกฉันทำได้เพียงกอดตอบเขากลับไป ใบหน้าซุกเข้ากับอกแกร่งหนาแน่นแข็งแรง ที่ให้ความอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก น้ำตาที่ค่อยๆ ซึมออกมาเปื้อนเปรอะไปที่ชุดนอนของเขาจนเขารู้สึกได้“ร้องไห้ทำไมค่ะ..” เขาถามด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้ม“รังเกียจที่จะเป็นเมียเฮียหรอ” น้ำเสียงเขาดูเป็นกังวลฉันซุกหน้าอยู่กับที่ โดยที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองเขาเลย...“ถ้าไม่รังเกียจก็เงยหน้ามาบอกเฮียหน่อยได้ไหม ว่าตกลงเป็นเมียเฮียไหมคะ” เขาพยายามดันตัวฉันให้เงยหน้าขึ้นมาสบตากับเขาฉันยังคงนิ่ง แม้น้ำตาจะแห้งเหือดไปบ้างแล้ว แต่กลับมีบางสิ่งที่ทำให้ฉันต้องหยุดคิด หลายสิ่งหลายอย่างในความคิดของฉันมันชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะความรู้สึกที่มีต่อเขาการที่เขาแกล้งลองใจฉัน มันไม่ใช่แค่เขาที่ได้เห็นอะไรชัดเจนขึ้น แต่เป็นตัวฉันเองด้วยที่ทำให้รู้ตัวเองว่าฉันนั้น ‘ยอมรับเขาเข้ามาในหัวใจ’ ฉันค่อยๆ ละตัวออกจากอกของเขา ก่
ตอนที่ 40 อาบน้ำให้หน่อยฉันไม่ได้เรียกป้าเสริมให้มาช่วย เพราะคิดว่าจะทำอะไรง่ายๆ ให้เขากิน โดยไม่ลืมที่จะมีเมนูไข่และอาหารเสริมต่างๆ เพื่อบำรุงร่างกายให้เขาและช่วยสมานแผลของเขาด้วยฉันเตรียมอาหารเสร็จเรียบร้อย จนผ่านไปสักพัก ~~เมื่อมองดูนาฬิกาก็คิดว่านานพอที่เขาน่าจะแต่งตัวเสร็จแล้วและน่าจะเดินลงมาได้แล้ว ทำไมป่านนี้เขายังไม่ลงมาอีก ฉันคิดด้วยความสงสัย หรือมีอะไรเกิดขึ้นกับเขา หรือว่าเขาลื่นล้มในห้องน้ำหรือเปล่านะ พอคิดได้ดังนั้นฉันก็รีบกุลีกุจอวิ่งขึ้นไปที่ห้องนอนเขาทันทีแกร๊ก~~เมื่อฉันเปิดประตูแล้วเดินไปถึงที่นอนก็พบกับร่างสูงสง่านอนกึ่งนั่งเหยียดตัวเอนหลังพิงกับหัวเตียงสายตาจับจ้องดูอะไรบางอย่างในแล็ปท็อปของตัวเองอยู่อย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว และเหมือนว่าจะไม่รู้ด้วย ว่าตอนนี้มีคนเข้ามาถึงในห้องนอนแล้ว ให้ตายเถอะ...ฉันรีบวิ่งมาแทบตายเพราะเป็นห่วงเขากลัวว่าจะลื่นล้ม แต่ที่ไหนได้กลับมานั่งจ้องแล็ปท๊อปหน้านิ่วอยู่ตรงนี้... นี่เขาจะรู้บ้างไหมว่าคนอื่นเขาเป็นห่วงจนคิดไปไกลขนาดไหนแล้ว ฉันได้แต่ยืนส่ายหน้าเบาๆแต่ดูท่าคนข้างหน้าจะไม่รู้อะไรเลย จนฉันต้องเอ่ยถามขึ้น“เฮียทำไมยังไม่ไปอาบน้ำ
ตอนที่ 41 (NC) ช่วยเฮียหน่อยเขาหันหน้าเข้ากับผนังห้องน้ำอย่างรู้หน้าที่ คงกลัวว่าฉันจะรู้สึกกระดากใจที่จะต้องทำความสะอาดให้เขาทางด้านหน้าโดยมีสายตาของเขาจับจ้องอยู่ มือทั้งสองข้างของเขายันกำแพงไว้ ทุกท่วงท่าที่ทำช่างดูดีเหลือเกินจนฉันอดไม่ได้ที่จะมอง สายตาของฉันจับจ้องไปยังสายน้ำที่ไหลผ่านไปตามร่องกล้ามที่ดูดี น้ำที่ไหลเอื่อยๆ ลงมาตามร่างกาย ทำให้เกิดเป็นกลุ่มเม็ดน้ำเล็ก ๆ เกาะบนผิวสีน้ำผึ้งของเขา องค์ประกอบทุกอย่างยิ่งทำให้เจ้าของร่างดูมีเสน่ห์เย้ายวนยิ่งขึ้นความงดงามราวกับรูปปั้นแกะสลัก ทำให้ฉันถึงกับยืนมองงานประติมากรรมชั้นเลิศที่อยู่ตรงหน้าด้วยความเคลิบเคลิ้มอย่างลืมตัวจนเผลอลูบไล้ไปตามแผ่นหลังสง่างามผืนนั้น“อืมมม~~” เสียงครางที่ดังมาจากลำคอของเขา ช่วยเตือนสติให้ฉันหยุดการกระทำที่กำลังจะเลยเถิดลงทันทีฉันรีบละสายตาจากแผ่นหลังของเขาหันไปหยิบสบู่เหลวใส่มือ โชคดีที่เขาไม่ได้เห็นใบหน้าแดงก่ำที่ร้อนผ่าวและสายตาหลุกหลิกที่แสนน่าอายของฉัน ไม่อย่างนั้นฉันคงได้แทรกแผ่นดินหนีหายไปแน่ฉันหันกลับมาตั้งใจทำหน้าที่ตรงหน้านี้อีกครั้ง สองมือบรรจงทาสบู่เหลวที่อยู่ในมือไล่ไปตามลำตัวของเขาโดยเริ่
ตอนที่ 42 (NC) ยังไม่พอร่างสูงที่ยืนหันหลังอยู่ตรงหน้าด้วยกายเปลือยเปล่า ก็กลับหันหน้ามาหาฉัน ดวงตาคมสีเทาเข้มคู่นั้นจ้องมองมาฉันด้วยแววตาเปิดเผยความต้องการ และก่อนที่ฉันจะทันได้ทำอะไร ร่างบางของฉันก็ถูกจับพลิกกดลงไปกับผนังห้องน้ำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว“ฮะ..อุ๊บ” ไม่ทันที่ฉันจะได้เอ่ยอะไรออกไป ปากอวบอิ่มนุ่มนิ่มก็ถูกประกบด้วยริมฝีปากหนา ที่ตอนนี้ออกแรงบดขยี้ จนรู้สึกเจ็บเล็กน้อย“ช่วยเฮียอีกหน่อยนะ เฮียยังไม่พอเลย” เขาถอนริมฝีปากออกเพื่อเอ่ยคำขอร้องต่อฉันฉันไม่ทันที่จะได้ตอบกลับ เขาก็ก้มลงประกบปากหนาเข้ามาที่ริมฝีปากแดงระเรื่อของฉันอีกครั้ง มือหนารั้งท้ายทอยกระชับให้แน่นขึ้นเพื่อจะดูดดื่มกินความหวานจากริมฝีปากนุ่มอย่างหิวกระหาย ริมฝีปากหนาเริ่มต้นด้วยความร้อนแรง แล้วค่อยๆ อ่อนโยน ก่อนจะงับเข้ากับกลีบปากล่างและบนของสาวเจ้าสลับไปมา แล้วแทรกลิ้นที่ชำนาญทางเข้ามาสร้างความวาบหวามให้ฉันอ่อนระทวยเมื่อดูดดื่มความหวานจากริมฝีปากจนพอใจแล้ว เขาก็เลื่อนหน้าลงมาที่ซอกคอหอมกรุ่น ตรงเข้ามาขบเม้มให้เกิดร่องรอยแสดงความเป็นเจ้าของ มือหนาละจากลำคอระหง มุ่งเข้าขยำบีบเคล้นอกเต่งที่เด้งชูชันตามแรงกระเพื่อ