ในช่วงเวลาสามวัน เธอนั้นคิดและไตร่ตรองอย่างหนัก ตื่นเช้าเธอไปทำงานร้านกาแฟตามปกติ ตกเย็นมาเธอก็เอาแต่ร้องไห้ หลังจากที่เธอได้ติดต่อกลับไปที่บ้านก็พบว่าเรื่องทั้งหมดที่ชายหนุ่มพูดนั้นเป็นความจริง แม่ของเธอป่วยหนักและเข้าขั้นอาการโคม่า ถ้าหากวันนั้นชายหนุ่มไม่ทำการย้ายที่รักษาให้แม่ของเธอและจัดหาหมอที่เก่งให้ แม่ของเธอนั้นอาจจะไม่อยู่กับเธอแล้วก็ได้
วันนี้เป็นวันที่ชายหนุ่มบอกกับเธอว่าจะมาเอาคำตอบจากเธอ หญิงสาวจึงเลิกงานและรีบกลับมาห้องอย่างรวดเร็ว เพราะกลัวว่าชายหนุ่มนั้นจะไม่รอเธอและเธออาจจะเสียโอกาสนี้ไป
17.30 น.
แกร๊กกก!!! แอด!!!
เธอค่อยๆ เปิดประตูเข้ามาในห้องของเธอ ก็พบว่าชายหนุ่มนั้นนั่งรอเธออยู่ตรงที่เดิม และวันนี้เขาน่าจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ
“คุณมาร์ช มารอนานแล้วยังคะ??” หญิงสาวพยายามพูดกับชายหนุ่มอย่างใจเย็นเพราะกลัวว่าจะทำอะไรให้ชายหนุ่มนั้นไม่พอใจเธอ เขาอาจจะปฏิเสธและกลับคำพูดก็ได้
“ไม่นาน”
“อ๋อค่ะ ดื่มน้ำก่อนไหมคะ ฉันซื้อมัทฉะเย็นมาฝากค่ะ”
“ฉันไม่ดื่มมัทฉะ”
“อ๋อ ค่ะ งั้นจะดื่มอะไรไหมคะ เดี๋ยวฉันจะออกไปซื้อให้ค่ะ”
“ไม่ต้อง”
“ค่ะ คุณมาร์ช”
เขานั่งและมองนาฬิกาข้อมือของเขาเพื่อดูเวลา
“วันนี้ฉันมีเวลาไม่มาก ฉันต้องการคำตอบจากเธอภายใน 5 นาที”
หญิงสาวรีบวางแก้วมัทฉะลงและยืนตัวตรงพูดต่อหน้าชายหนุ่ม
“มีข้อตกลงอะไรไหมคะ??”
“เอกสารวางอยู่บนโต๊ะ”
เธอค่อยๆ หยิบกระดาษหนึ่งแผ่นขึ้นมาอ่าน เป็นรายเอียดที่เขาทำข้อตกลงกับเธอ ทำให้เธอนั้นตาโตออกมา ชายหนุ่มจึงทบทวนข้อตกลงให้เธออีกครั้ง
“ข้อที่หนึ่ง เป็นนางบำเรอฉันจะได้รับเงินรายเดือน เดือนละ 30,000 บาท ไม่รวมสิ่งของต่างๆ ที่ฉันต้องการจะให้เธอ
ข้อที่สอง จะดูแลค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมถึงค่าเทอมเธอจนจบปริญญาตรี
ข้อที่สาม ห้ามมีความสัมพันธ์กับชายใด และหากฉันมีหญิงอื่นห้ามหึง หวง และห้ามแสดงความเป็นเจ้าของ และเธอจะต้องป้องกันตัวเอง ห้ามท้องเด็ดขาด เพราะฉันจะไม่รับเป็นลูกของฉัน
ข้อที่สี่ จะดูแลรักษาแม่ของเธอดีที่สุดแม้ว่าค่ารักษาจะแพงแค่ไหน
ข้อที่ห้า ต้องตามใจฉันทุกอย่าง และห้ามโทรหรือทักหาฉันก่อน นอกจากฉันจะโทรหาหรือทักเธอเอง
ในระหว่างที่เธอจะเป็นนางบำเรอฉัน มีข้อไหนไหมที่ฉันเขียนพลาดไปหรือผิดไป”
“มะ ไม่มีค่ะ แต่ฉันขอเพิ่มเติมได้ไหมคะ??”
“ว่ามาสิ”
“ฉันขอทำงานเหมือนเดิม และขอกลับไปทำงานที่ผับตามเดิมได้ไหมคะ ส่วนเรื่องทางบ้านขออย่าบอกพ่อกับแม่ฉันให้ทราบได้ไหม ว่าฉันรับข้อเสนอของคุณ เป็นเอ่อ...นางบำเรอ”
“ที่ฉันให้ต่อเดือนมันยังไม่พอเหรอ??”
“เออ พอค่ะ พอมากๆ เลยค่ะ แต่ฉันกลัวว่าวันหนึ่งคุณจะเบื่อฉันและทิ้งฉันไป ฉันกลัวว่าจะไม่มีเงินเก็บค่ะ”
“ฉันจะให้เธอทำงานแค่ร้านกาแฟ ส่วนงานที่ผับไม่ต้องไปทำ ฉันจะเพิ่มให้เธอเป็นค่าเลี้ยงดูเพิ่มอีก 10,000 บาท เป็นเดือนละ 40,000 บาทตกลงไหม??”
หญิงสาวพยายามคิดและกัดที่ริมฝีปากของเธออย่างชั่งใจ
“อย่ากัดริมฝีปาก และตลอดการเป็นนางบำเรอของฉันเธอต้องรักษาเนื้อรักษาตัว”
“ขะ ขอโทษค่ะ ตกลงค่ะ ฉันจะทำงานที่ร้านกาแฟอย่างเดียวค่ะ แล้วเรื่องของแม่ของฉัน
ฉันบอกไปแล้วว่าเป็นเคสอุปถัมภ์พิเศษ เธอไม่ต้องกังวล”
“ขอบคุณค่ะ”
“มีอะไรเพิ่มเติมอีกไหม วันนี้ฉันไม่มีเวลาตกลงกับเธอมาก”
“ไม่มีแล้วค่ะ”
“งั้นก็เซ็นซะ!!”
หญิงสาวพยักหน้าและจับปากกาลงชื่อของเธอและยื่นให้กับชายหนุ่ม
“เรียบร้อยแล้วค่ะ”
“พรุ่งนี้จะมีคนมารับเธอตอนเก้าโมงเช้าไปตรวจร่างกาย และฉันจะเปลี่ยนแปลงห้องของเธอสักนิดคงไม่ว่าอะไรใช่ไหม??”
“เอ่อ ไม่ว่าค่ะ”
“ดี พรุ่งนี้จะมีคนมาจัดการห้องของเธอ และฉันจะกลับมาหาเธออีกครั้งในวันพรุ่งนี้”
“รับทราบค่ะ”
“เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม พรุ่งนี้เสร็จธุระแล้วฉันจะมา”
“ค่ะคุณมาร์ช”
ชายหนุ่มพูดกับเธออย่างเร่งรีบพร้อมเดินจากไป
“เราจะต้องเป็นนางบำเรอของเขาจริงๆ สินะ ฮือๆ” เมื่อชายหนุ่มปิดประตูไปแล้วเธอก็ทรุดตัวนั่งร้องไห้ด้วยความเสียใจที่ต้องมาเสียความบริสุทธิ์กับชายหนุ่มผู้ที่เธอไม่ได้รัก แต่เมื่อเทียบกับครอบครัวของเธอแล้ว ก็เป็นสิ่งที่เธอนั้นสมควรที่จะแลกมันมาเพื่อชีวิตแม่ของเธอ
“หนูขอโทษนะคะ พ่อวิทย์แม่ณี”
9.00 น.นี่ก็เป็นเวลานัดหมายที่ชายหนุ่มนั้นแจ้งไว้เมื่อวานว่าเธอนั้นจะต้องไปตรวจร่างกายก่อนที่จะเป็น...นางบำเรอ วันนี้เธอสวมใส่ชุดสบายๆ เสื้อยืดตัวโคร่งสีขาวและกางเกงยีนส์ขายาวสีซีด เดินลงมายังด้านล่างของอพาร์ทเม้นท์ก็พบกับรถหรูคันสีดำ 1 คันจอดอยู่ และมีชายหนึ่งคนแต่งตัวด้วยชุดสูทสีดำยืนรอเธออยู่ข้างรถ“สวัสดีดีครับ คุณพะพาย” ชายหนุ่มเดินมาก้มโค้งคำนับต่อหน้าเธอ จนหญิงสาวนั้นทำตัวแทบไม่ถูก จึงรีบยกมือไว้ชายหนุ่ม“สวัสดีค่ะ คุณเอ่อ คุณชื่ออะไรคะ??”“ผมชื่อกายครับ เป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวของคุณมาร์ชครับ”“สวัสดีค่ะ คุณกาย ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ เรียกฉันว่าพะพาย เฉยๆ ก็ได้ค่ะ”“เอ่อ จะดีเหรอครับ”“ดีสิคะ เรียกพะพายเถอะค่ะ ไม่ต้องเรียกคุณหรอกนะคะ”“ครับ น้องพะพาย งั้นเรียกผมว่าพี่กายก็ได้นะครับ”“ได้เลยค่ะ พี่กาย” บอดี้การ์ดหนุ่มเมื่อเห็นหญิงสาวที่ชายหนุ่มสั่งให้มารับก็รับรู้ได้ว่าในอนาคตอาจจะเป็นนายหญิงของเขาก็เป็นไปได้ เพราะจากลักษณะท่าทางและการทำตัว อาจจะโดนใจเจ้านายของเขาอย่างแน่นอน“งั้นเราไปโรงพยาบาลกันเลยนะครับ ผมได้นัดแพทย์ตรวจสุขภาพน้องพะพายเรียบร้อยแล้ว”“โอเคค่ะ พี่กาย ไปกันดีกว่าค
เมื่อถึงเวลาตอนเย็นหญิงสาวเก็บกวาดของเตรียมปิดร้านตามปกติ วันนี้เธอทำใจไว้แล้วว่ากลับไปจะต้องพบเจออะไรบ้าง แต่เพื่อชีวิตของครอบครัวเธอนั้นก็พร้อมที่จะเสี่ยง“ไม่ต้องคิดมากนะพะพาย ก็แค่เสียพรหมจรรย์ให้กับผู้ชายที่ไม่รักเอง” หญิงสาวพูดปลอบใจตัวเองเบาๆ ก่อนจะยิ้มออกและขึ้นรถประจำทางกลับไปยังอพาร์ทเม้นต์ของตัวเองเมื่อมาถึงอพาร์ทเม้นต์ของตัวเองก็สำรวจรอบๆ บริเวณตึก แต่ยังไม่พบรถหรูที่มักจะมาเธอ“วันนี้เขาคงไม่มาสินะ” หญิงสาวยิ้มให้กับตัวเองเบาๆ และเดินขึ้นไปยังห้องของเธอ เมื่อเปิดประตูเข้าไป ปรากฎว่า ภายในห้องที่ดูแสนจะธรรมดามีแค่พัดลมและโต๊ะอ่านหนังสือเก่าๆ ของเธอก่อนหน้านี้นั้น ตอนนี้ถูกตกแต่งไปด้วยเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ทั้งเตียงนอนใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม ไหนจะเครื่องปรับอากาศ ทีวี ตู้เสื้อผ้า ตู้เย็นและเครื่องซักผ้า แถมโต๊ะอ่านหนังสือเล็กๆ ของเธอก็ถูกเปลี่ยนเป็นสไตส์มินิมอลน่ารักๆ ไหนจะโซฟาที่ราคาน่าจะแสนแพงอีก ‘เพียงแค่เธอไม่อยู่แค่ครึ่งวัน ห้องเธอนั้นถูกเปลี่ยนไปขนาดนี้เชียวเหรอ?? ไหนเขาบอกแค่จะเปลี่ยนแปลงห้องเธอเล็กๆ น้อยๆ เอง??’เมื่อเธอเปิดดูตู้เสื้อผ้า ก็พบกับชุดแบรนด์เนมต่างๆ เต็มไปหมด
เป็นเวลากว่าหลายนาทีที่ชายหนุ่มสำรวจริมฝีปากของเธอ เมื่อได้สำรวจจนพอใจแล้วจึงค่อยๆ ถอนริมฝีปากออกมาเฮือกกกก!!!! หญิงสาวเมื่อเป็นอิสระก็รีบหายใจเข้าเต็มปอดของตัวเอง“ฝีมือการจูบของเธอ ห่วยแตกสิ้นดี”หญิงสาวได้ยินเช่นนั้นก็เกิดอาการเสียความมั่นใจและก้มหน้ารับสิ่งที่เขาพูดออกมาเมื่อไม่นานนี้“ขอโทษค่ะ คุณมาร์ช ครั้งต่อไป พะพายจะพยายามทำให้ดีกว่านี้ค่ะ”“ดี เพราะฉันไม่ชอบคนไม่เป็นงาน ถอดเสื้อคลุมออก”“ค่ะ” หญิงสาวพยักหน้าและรีบถอดเสื้อคลุมของตัวเองออกอย่างรวดเร็วเมื่อชายหนุ่มเห็นเรือนร่างของเธอนั้นก็ทำให้แก่นกายของเขานั้นขยายตัวขึ้นมาอย่างควบคุมไม่อยู่หุ่นของเธอนั้นมันช่างยั่วยวนเขาเหลือเกินหน้าอกที่ล้นทะลักออกมาจากชุดและแก้มก้นของเธอที่ชุดของเธอนั้นปิดแทบไม่มิดกับเอวบางผิวขาวๆ กับชุดที่โดนน้ำเมื่อกี้มันแนบชิดตัวของเธอไปหมด ไหนจะผมสยายยาวของเธอมันทำให้เธอที่ดูเหมือนแมวน้อยก่อนหน้านี้กลายเป็นเสือสวาทของเขาได้ยังไงกัน“ถอดชุดให้ฉัน”“ดะ..ได้ค่ะ” หญิงสาวค่อยๆ ลุกขึ้นยืนและถอดชุดของเขาออกอย่างรวดเร็ว เพราะกลัวว่าชายหนุ่มนั้นจะหงุดหงิดใส่เธออีก เมื่อเธอถอดท่อนบนของเขาหมดแล้วก็รีบก้มลงมาถอดด
หญิงสาวได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้ารับคำสั่งอย่างว่านอนสอนง่าย หลังจากที่ชายหนุ่มเห็นเธอกำลังปรับตัวได้แล้วจึงเริ่มกระแทกแก่นกายเข้าออกอย่างเป็นจังหวะ จนหญิงสาวต้องกัดริมฝีปากของตัวเองเพื่อไม่ให้เสียงที่น่าเกลียดของตัวเองเล็ดลอดออกมาจากปากของเธอเพราะความเขินอายชายหนุ่ม เมื่อชายหนุ่มเห็นดังนั้นเขาก็ตำหนิเธอไปอีกครั้ง“ฉันบอกแล้วใช่ไหม ว่าอย่ากัดปากตัวเอง อ่าส์” เขาพูดในขณะที่ร่างของเธอและเขาประสานกันอยู่“ขอโทษค่ะ อ๊ะ คะ คุณมาร์ช พะพายขอร้องออกมาได้ไหม??” เขาได้ยินเช่นนั้นก็ทำให้เขาหัวเสียกับความไร้เดียงสาของเธอออกมาทันที คนอะไรจะไม่รู้เรื่องขนาดนี้เชียวหรือ พร้อมกระแทกแก่นกายจนสุดด้ามเพื่อระบายความหงุดหงิดเมื่อสักครู่นี้“อ๊ะ คุณมาร์ช” หญิงสาวทนความรู้สึกแปลกใหม่ที่เข้าไปในร่างกายไม่ไหวจนต้องหลุดเสียงครางออกมาอีกครั้งตับๆๆๆๆ“ใครห้ามเธอ จะแหกปากร้องก็ร้องไป”“อือ อ๊ะ” หญิงสาวทนความเสียวที่ชายหนุ่มมอบให้ไม่ไหวจนเธอเผลอเอามือเรียวบางของเธอจิกไปที่ต้นแขนเขาจนเป็นแผล“อย่าทำให้ตัวของฉันเป็นรอย”“อือ ขอโทษ อ่ะ ค่ะ” หญิงสาวได้ยินเช่นนั้นก็เอามือไปกำผ้าปูที่นอนจนยับยู่ยี่เพื่อระบายความเสียวออกม
ใช้เวลาเพียงไม่นานคินน์ ก็จัดการพาหมอฝีมือดี มาตามโลเคชั่นที่มาร์ชส่งให้อย่างเร็วที่สุด โดยมีคินน์นั้นตามมาด้วยอย่างร้อนรนเมื่อหมอมาถึง ก็ทำให้คินน์และหมอนั้นต้องช๊อคกับภาพที่อยู่ตรงหน้า หญิงสาวที่นอนหมดสติมีผ้าห่มคลุมกายกับที่นอนที่ยับยู่ยี่ พร้อมรอยเลือดที่เกรอะผ้าปูที่นอนอยู่นั้น ทำให้ทั้งสองรู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับผู้หญิงตรงหน้า และแถมมองไปรอบๆ ก็ยังไม่เจอเจ้าตัวปัญหา ‘คงจะออกไปที่ไหนสักที่แล้วสินะ’ คินน์นึกอยู่ภายในใจ“ไอ้มาร์ช ไอ้เพื่อนเวรรร!!” เมื่อคินน์เห็นดังนั้นก็โกรธจัดกับสิ่งที่เพื่อนของเขานั้นทำลงไป แถมผู้หญิงตรงหน้านั้นเขาจำได้ดีว่าเป็นเด็กสาวที่ตบหน้าเพื่อนของเขาในคืนนั้นได้ เมื่อเห็นพฤติกรรมของหญิงสาวที่ไม่ชอบเพื่อนเขาในวันนั้น ก็ทำให้รู้ได้เลยว่ามาร์ชเพื่อนของตนก็ใช้วิธีสกปรกๆ อย่างแน่นอน เพื่อให้ได้หญิงสาวคนนี้มาครอบครอง เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนที่จะหันหน้ามาสั่งหมอคนเก่งที่อยู่ตรงหน้าของเขาก่อนที่จะเดินออกไปรอนอกห้อง“หมอปันปันครับ ผมรบกวนช่วยรักษาเธอด้วยนะครับ เดี๋ยวผมจะออกไปรอข้างนอก เพราะอยู่ตรงนี้ ณ ตอนนี้ คงไม่เหมาะเท่าไหร่ รบกวนช่วยจัดการเช็ดตัว แต่งตัวและดูอ
21.00 น.มาร์ชใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมง เพื่อขับรถมาหาเพื่อนที่ต่างจังหวัด จุดหมายปลายทางของเขาคือ คอนโดแห่งหนึ่ง ย่านชายทะเลก๊อกๆๆแอดดดด!!“อ้าว มาร์ช มาเร็วจังเลย นึกว่าจะมาดึกกว่านี้เสียอีก”“พอดีมีงานแถวนี้เลยแวะมาหานะ”“แล้วมันนี้แกจะนอนที่นี่เลยไหม??”“อืม มาร์ชมาจะนอนที่นี่เลยนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เราค่อยออกไปเที่ยวกัน”“อืม ดีเลย ช่วงนี้โมริงานยุ่งมากกกกกกกกกก กว่าจะเลิกงานก็มืดค่ำ พรุ่งนี้วันหยุดเหมือนกัน เดี๋ยวเราค่อยไปเที่ยวด้วยกันนะ”“ได้เลย แต่ตอนนี้ทำอะไรให้กินหน่อยได้ไหม มาร์ชหิวมากกกกกก”“ได้สิ เดี๋ยวเราทำบะหมี่ให้นะ”“บะหมี่อีกละ”“แล้วจะกินอะไรละ มาร์ชก็รู้ว่าโมริทำอาหารไม่เป็น แฮ่!!!”“ฮ่าๆ โอเคๆ งั้นเรากินบะหมี่ก็ได้ วันนี้เหนื่อยมากเลย รีบกินแล้วรีบนอนดีไหม”“ดีเหมือนกัน งั้นไปอาบน้ำเลย ผ้าขนหนูกับเสื้อผ้าของมาร์ชอยู่ในตู้เสื้อผ้านะ”“โอเค”ทุกคนจะว่าผมเลวใช่ไหมละ..ก็ใช่ผมอาจจะเลวอยู่แต่ในความเลวของผมก็มีความกลัวอยู่บ้าง อย่างเช่น ผมกลัวว่าจะเสียโมริเพื่อนรักของผมไปอย่างไรล่ะ ผมกับโมริเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก เราสนิทกันมาก ไปเที่ยวไหนด้วยกันบ่อยๆ และนอนด้วยกันบ่อยๆ จน
เช้าวันที่สดใสของอีกวัน..พะพายตื่นขึ้นมาจากการป่วยเมื่อวานที่ถูกชายหนุ่มกระทำก็มีอาการดีมากขึ้น แต่วันนี้เธอยังขอทางผู้จัดการร้านลางานหนึ่งวัน เพราะยังมีการปวดบริเวณนั้นเล็กน้อย และถือว่าเป็นการพักผ่อนไปในตัวหลังจากไม่ได้หยุดงานมาหลายวันเธอลุกขึ้นมาจากเตียงนอนและบิดขี้เกียจเล็กน้อยและก้าวเท้าลงจากเตียงเพื่อมาทำต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เพราะตอนนี้ท้องเธอนั้นเรียกหาอาหารแล้วหลังจากที่เมื่อวานแทบไม่ได้กินอะไรเลย เพราะกลับมาถึงเธอก็โดนชายหนุ่มนั้นจับกินเสียก่อนหลังจากเธอต้มบะหมี่ทิ้งไว้ก็เดินเข้าไปอาบน้ำเพื่อให้ตัวเองสดชื่นขึ้นทันที วันนี้หลังจากกินบะหมี่เสร็จ หญิงสาวจะออกไปด้านนอกสักนิดเพื่อไปหาหนังสือมาอ่านสักเล่มเธอใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำไม่นานก็นุ่งผ้าขนหนูและฮึมฮัมเพลงโปรดออกมาด้านนอกอย่างสบายใจ“คุณมาร์ช” หญิงสาวเดินออกมาจากห้องน้ำก็พบกับชายหนุ่มที่จากเธอไปหลังจากที่เธอไม่ได้สติและปล่อยทิ้งไว้ให้อยู่เพียงคนเดียว“หึ คงจะมีความสุขมากสินะ ที่ฉันไม่อยู่ที่นี่”“เอ่อ เปล่านะคะ พายแค่แปลกใจเล็กน้อยว่าคุณมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร พายนึกว่าคุณไปทำงานเสียอีก” หญิงสาวก้มหน้าพูดกับชายหนุ่มที่นั่ง
ตอนนี้ชายหนุ่มหงุดหงิดอยู่ภายในใจเป็นอย่าง“เธอคิดจะมาสวมเขาให้ฉันอย่างนั้นเหรอ??”“ฮือๆ ไม่ใช่นะคะ พายไม่ได้คิดอย่างนั้นเลย คุณกำลังเข้าใจพายผิด ได้โปรดฟังพายอธิบายก่อนได้ไหมคะ??”“อย่ามาโกหกฉัน เส้แสร้ง”ตับๆๆๆชายหนุ่มกระแทกแก่นกายเข้าออกอย่างหนักหน่วงงจนหญิงสาวนั้นจุกที่บริเวณท้องน้อยเป็นอย่างมาก“คุณมาร์ช ได้โปรด เบาๆ หน่อยได้ไหมคะ ฮือๆ” หญิงสาวอ้อนวอนเขาทั้งน้ำตา“ไอ่นั้นมันเป็นใคร??”“เขาเป็น..ฮือๆ หยุดทำก่อนได้ไหม อ๊ะ ฟังพายอธิบายก่อน”“ตอนนี้ฉันไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น อืมมมม” ชายหนุ่มพลิกตัวของหญิงสาวหันหน้ามาและคร่อมร่างเธอและจับแก่นกายสอดใส่อีกครั้งอย่างรวดเร็ว“ฮือๆๆ พายเจ็บค่ะ คุณฮือๆ”“เจ็บนะดีจะได้จำ ว่าตอนเป็นอยู่กับฉันห้ามไปเอาหรืออ่อยคนอื่น เข้าใจไหม??”“ฮึก เข้าใจค่ะ”“ดี”เมื่อชายหนุ่มเห็นหญิงสาวน้ำตานองไหลก็เกิดความรู้สึกหวั่นไหวเล็กน้อย“ถ้าอยากหายเจ็บเธอต้องมีอารมณ์ร่วมกับฉัน”หญิงสาวพยักหน้ารับฟังอย่างเข้าใจ“ดี..งั้นจูบฉันสิ”หญิงสาวค่อยๆ เอามือคล้องคอชายหนุ่มและค่อยๆ เลือนริมฝีปากของเธอไปประกบกับริมฝีปากหนาอย่างว่าง่าย เธอไม่ต้องการทนเจ็บอีกต่อไปแล้วจึงยอมทำตา
3 ปีผ่านไป….ณ คฤหาสน์หลังใหญ่….ตั้งแต่ที่หญิงสาวนั้นตัดสินใจให้โอกาสชายหนุ่มหลังจากนั้นมา ชีวิตของเธอนั้นก็พบแต่ความสุขเป็นอย่างมาก เขาคอยดูแลเอาใจใส่ เธอกับลูกและครอบครัวของเธอเป็นอย่างดี ทำหน้าที่สามีได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่องเลยแม้แต่น้อย“ปรายฟ้า มาหาแม่สิลูก” พะพายกำลังเรียกลูกของเธอมากอดด้วยความรัก“มะม๊า ปรายรักมะม๊าค่ะ” ลูกของพะพายก็รักเธอมากเช่นเดียวกัน“มะม๊าก็รักหนูมากๆ ค่ะ”จุ๊บ!!! พะพายจูบลงตรงศีรษะลูกสาวของเธอ“ดึกแล้ว ได้เวลานอนแล้วนะคะ เดี๋ยวแม่เล่านิทานให้ฟัง” เธอบอกบอกลูกให้นอนหลับอย่างอ่อนโยน“ค่ะ มะม๊า” เด็กสาวที่ได้ยินเช่นนั้นก็เดินขึ้นไปบนเตียงเล็กของเธอและนอนรอแม่ของเธอเล่านิทานให้ฟังก่อนนอนหลังจากที่พะพายเล่านิทานได้ไม่นาน ลูกสาวของเธอนั้นก็หลับไปเรียบร้อยแล้ว เธอจึงโน้มตัวก้มจูบที่หน้าผากลูกของเธอ และปิดไฟในห้องก่อนเดินจากไป“ฝันดีนะคะ เด็กดีของมะม๊า”เมื่อหลังจากที่เธอเดินออกมาจากห้องของลูกเธอ เธอก็เดินไปยังห้องของเธอทันที เดินทีหญิงสาวอยากให้ลูกนั้นนอนในห้องเดียวกัน แต่ทว่ามาร์ช สามีของเธอนั้นบอกว่าต้องนอนแยกห้องตั้งแต่เล็กๆ และเรียนรู้การใช้ชีวิตอยู่คนเดียว
“ยินดีด้วยนะครับน้องพาย ยินดีด้วยนะไอ่เพื่อนรัก”คินน์เดินมาตบไหล่ชายหนุ่มเบาๆ ที่กำลังยืนมองดูเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองอยู่ในมือของหมอปันปัน และร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ“ยินดีด้วยนะคะน้องพะพาย พี่มาร์ช เด็กแข็งแรงมากเลยค่ะ” หมอปันปันอุ้มเด็กอยู่ในมือและค่อยๆ ยืนให้ต่อให้กับคุณแม่มือใหม่พะพายที่เจ็บท้องจากการคลอดลูกเมื่อสักครู่ เมื่อได้เห็นเด็กทารกที่ตนเองอุ้มท้องมาถึงเก้าเดือนก็ดีใจจนน้ำตาไหลและก้มไปจูบที่ใบหน้าของเจ้าตัวเล็กอย่างแผ่วเบา และลืมความเจ็บปวดเมื่อสักครู่นี้จนหมดสิ้นไป“น้องพาย ฮึก ลูกของเรา พี่ดีใจเหลือเกิน ขอบคุณมากนะครับ ที่อุ้มท้องเจ้าตัวเล็กจนคลอดออกมา”ชายหนุ่มหันไปขอบคุณหญิงสาวที่นอนมองดูหน้าลูกอยู่ และก้มจูบที่หน้าผากมนของหญิงสาวเบาๆ“ขอบคุณพี่มาร์ชเช่นกันนะคะ ที่ค่อยเลี้ยงดูลูกตอนที่อยู่ในท้องตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ทำให้ลูกได้ทานอาหารดีๆ และได้ฟังนิทานก่อนนอนทุกวัน”หญิงสาวพูดขอบคุณและใช้มือดึงชายหนุ่มลงมาหอมที่แก้มสากของเขาเช่นเดียวกัน“ขอบคุณพี่หมอคินน์พี่หมอปันปันมากๆ นะคะที่คอยให้กำลังใจและทำคลอดให้พาย และคุณพยาบาลทุกคนมากๆ ด้วยค่ะ วันนี้เป็นวันที่พิเศษสุดๆ
ทั้งสองตกอยู่ในความเงียบได้เพียงนิดเดียว ชายหนุ่มก็เพิ่งคิดได้ว่าเขานั้นเพิ่งผ่านกิจกรรมกับหญิงสาวมา เมื่อหญิงสาวพูดออกมานั้นทำให้เขานั้นอายเป็นอย่างมาก เขามองจากกระจกด้านหลังในรถ ก็พบว่าบอดี้การ์ดของเขานั้นแอบยิ้มอยู่มุมปาก แต่ไม่กล้าพูดออกมา“อย่าให้เรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ไม่งั้นกูจะยิงพวกมึงทิ้งแน่”ชายหนุ่มตะโกนสั่งบอดี้การ์ด และรีบเอามือเช็ดมุมปากอย่างรวดเร็ว“ครับนาย”‘หน้าอายชะมัด’ เขานึกอยู่ในใจ“อือ พี่มาร์ช พายปวดท้องจังเลยค่ะ”หญิงสาวที่นั่งอยู่ภายในรถ จับมือชายหนุ่มแน่น ตอนนี้เธอมีเหงื่อผุดออกมาตามไรผมเต็มไปหมด ชายหนุ่มกุมมือหญิงสาวไว้แน่นไม่ยอมปล่อยมือไปไหน“อดทนอีกนิดนะครับน้องพาย ใกล้จะถึงโรงพยาบาลแล้ว พี่บอกไอ่คินน์กับปันปันไว้แล้ว ไม่ต้องกังวลอะไรนะ พี่จะอยู่เคียงข้างหนูทุกวินาที”“หืออ พี่มาร์ช สัญญานะคะ จะไม่ทิ้งพายไปไหน พายกลัว”“พี่สัญญาครับ ไม่ทิ้งพายอย่างแน่นอน”ชายหนุ่มจับศีรษะของเธอมาและลูบปลอบโยนเบาๆ“พวกมึงอีกนานไหมจะถึงโรงพยาบาล??” ชายหนุ่มตะโกนไปถามบอดี้การ์ดด้านหน้ารถ“อีกไม่เกิน 10 นาทีครับนาย”“เร็วๆ หน่อย เมียกูจะคลอดแล้ว”“พี่มาร์ช อย่าไปเร่งพี่การ์ด
นี่ก็ผ่านมานานหลายสัปดาห์แล้ว ที่เธอเข้ามาอยู่คฤหาสน์หลังนี้…และนี่เป็นสัปดาห์สุดท้ายแล้วที่หญิงสาวนั้นจะตั้งครรภ์ เพราะอาทิตย์หน้าก็ครบกำหนดวันคลอดของเธอตอนนี้ทั้งหญิงสาวและชายหนุ่มนั้นตื่นเต้นเป็นอย่างมาก และนับวันตั้งหน้าตั้งตารอเจอหน้าเจ้าตัวเล็กที่อยู่ในท้องวันนี้หญิงสาวนั้นนั่งเล่นและอ่านหนังสือ เพื่อรอชายหนุ่มนั่งทำงานอยู่ในห้องทำงาน ตอนนี้ท้องเธอเริ่มโตมากๆ และการขยับตัวนั้นก็ค่อนข้างยาก ชายหนุ่มนั้นจึงคอยดูแลเธอไม่ยอมห่างจากสายตา แม้กระทั่งงานทั้งหมดที่บริษัท เขาก็สั่งให้บอดี้การ์ดนั้นหอบกลับมาทำที่คฤหาสน์ทั้งหมด“มองหน้าอย่างนี้ อยากให้พี่ทักทายลูกอีกเหรอครับ หื้มมม” ชายหนุ่มแซวหญิงสาวที่กำลังแอบมองชายหนุ่มผ่านหนังสือกที่บังใบหน้าของเธอตอนที่แอบมองชายหนุ่มอยู่“พาย เปล่านะคะ” เมื่อเธอรู้ว่าชายหนุ่มรู้ตัวเธอก็เบือนหน้าไปทางอื่น แก้อาการเขินของตัวเอง น่าอายจัง แอบมองสามีของตัวเอง“ทำไมหน้าแดงละครับ เขินพี่เหรอ??”“เออ..คือ พายยย…”“พี่ก็ไม่ได้ห้ามอะไรนี่ครับ อยากมองหน้าพี่เต็มๆ ก็ไม่บอก” ชายหนุ่มลุกจากเก้าอี้ทำงานและเดินไปหาเธอยังโซฟา ค่อยๆ โน้มใบหน้าเข้าไปจูบที่หน้าผากของเ
“พะ พี่มาร์ช!!!”หญิงสาวได้ยินดังนั้นก็เขินชายหนุ่มจนหน้าแดง นับวันเขายิ่งพูดจาห่ามๆ ได้ทุกวัน ไม่อายเธอเลย แถมยังรุกเธอไม่หยุดหย่อน“หึหึ!!” เขาหัวเราะออกมาในลำคอเบาๆ อย่างชอบใจ“ว๊ายย!!! พี่มาร์ช หยุดมองพายเดี๋ยวนี้นะ คนบ้า!!! พายก็อายเป็นนะ”เมื่อเธอมัวแต่เขินอายจนลืมไปว่าตอนนี้เธอนั้นตัวเปลือยเปล่าไม่มีอะไรติดตัวเลย และชายหนุ่มนั้นก็จ้องมองเธออย่างไม่วางตา“ไม่ต้องอายครับ พี่เห็นของหนูทุกซอกทุกมุม แถมยังสัมผัสมาหมดแล้ว”ชายหนุ่มพูดจบก็ค่อยๆ ขยับตัวเข้าไปหญิงสาวโดยอ้อมไปทางด้านหลังของเธอ“พี่มาร์ช จะทำอะไรคะ??”“พี่ก็จะนวดให้พายไงละครับ เดินทางมาเหนื่อยคงจะเมื่อยน่าดู”ชายหนุ่มพูดจบก็ค่อยๆ ใช้มือนวดที่ไหล่ของหญิงสาวเบาๆ เพื่อให้เธอนั้นรู้สึกผ่อนคลาย“อือ พะ พี่มาร์ช!!!”“ครับ??”“ไม่ต้องนวดให้พายก็ได้ค่ะ พาย ไม่เมื่อยแล้ว” หญิงสาวที่กำลังจะลุกขึ้นก็อ่างอาบน้ำก็ถูกมือของชายหนุ่มนั้นรั้งที่บ่าไหล่ของเธออีกครั้ง“อยู่เฉยๆ นะครับ พี่กำลังทำให้หนูผ่อนคลาย ลูกของเราก็จะได้ไม่เครียดด้วย”“อืมมม!!! อื้อออ!!!” อยู่ๆ มือหนาที่กำลังนวดที่บ่าไหล่ของเธอนั้นค่อยเลื่อนลงมาบีบคล้ำที่หน้าอกของเธออย
หลังจากที่ทั้งสองได้นอนปรับความเข้าใจกันในวันนั้น ทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลงไป…ทั้งสองเริ่มเปิดใจและพูดคุยกันมากขึ้น ทำให้ทั้งสองปรับตัวเข้าหากันได้ง่ายขึ้นวันนี้เป็นวันที่หญิงสาวนั้นต้องกลับไปกลับชายหนุ่มที่กรุงเทพ เพราะชายหนุ่มให้เหตุผลว่า ตอนนี้เธอนั้นท้องแก่มากๆ แล้วอยู่ที่กรุงเทพจะดีกว่า เพราะที่นี่ค่อนข้างห่างไกลจากในตัวเมืองและโรงพยาบาล หญิงสาวนั้นก็ตอบตกลง เพราะแอบเป็นห่วงลูกในท้องอยู่เหมือนกันแต่สิ่งที่เธอประทับใจในตัวของชายหนุ่มมากที่สุดคือ คนอย่างเขายอมคุกเข่าและยกมือไหว้ขอโทษพ่อกับแม่ของเธอที่ทำผิดและรังแกเธอก่อนหน้านี้ และสัญญาต่อหน้าพ่อกับแม่ของเธอว่าจะดูแลเธอและลูกในท้องเป็นอย่างดี จะไม่มีบ้านเล็กบ้านน้อยที่ไหน และยังชวนพ่อกับแม่ของเธอย้ายถิ่นฐานไปอยู่กรุงเทพด้วยกันอีกด้วย ส่วนพ่อแม่เธอนั้นก็ยกโทษให้ชายหนุ่มโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ขอเพียงแต่ดูแลเธอได้พ่อกับแม่ของเธอนั้นก็พอใจแล้ว และยังขอบคุณชายหนุ่มมากๆ ที่ตลอดระยะเวลาที่แม่ของเธอเป็นมะเร็ง เขาก็คอยหาหมอเก่งๆ มารักษา ทำให้อาการดีขึ้นเรื่อยๆ แถมยังแข็งแรงมากขึ้นกว่าแต่ก่อนแต่สิ่งที่เธอแอบน้อยใจนั้นก็คือวันที่ชายหนุ่มกลับกรุง
คำพูดของหญิงสาวเมื่อสักครู่ทำให้ชายหนุ่มนั้นแทบช๊อคเข้าไปอีก‘พระเจ้า!!! แมวน้อยของเขากำลังจะเป็นแม่เสือสาวอีกแล้ว’ แต่เหตุการณ์ก่อนหน้านี้มันทำให้เขานั้นไม่ค่อยไว้ใจหญิงสาวสักเท่าไหร่ จึงหรี่ตามองหญิงสาวอย่างชั่งใจ“พายยยย กำลังแกล้งพี่อีกแล้วใช่ไหม??” ชายหนุ่มมองหน้าหญิงสาวอย่างไม่ไว้ใจ“ครั้งนี้ไม่แกล้งแล้วค่ะ พายสัญญา” หญิงสาวที่เห็นชายหนุ่มนั้นแอบลังเลเธอจึงค่อยๆ ถอดชุดนอนกระโปรงยาวสีขาวที่ไม่ได้ใส่ชุดชั้นในตั้งแต่แรกออกอย่างช้าๆ ทำให้เห็นหน้าท้องที่นู้นเด่น บวกกับร่างอวบอิ่มของเธอให้ชายหนุ่มนั้นเห็นอย่างเต็มตา“พายยยยย!!!” ชายหนุ่มมองภาพที่อยู่ตรงหน้าและเปล่งเสียงออกมาด้วยน้ำเสียงแห่บพร่า“พี่มาร์ช เข้ามาสิคะ พายพร้อมแล้ว” ชายหนุ่มได้ยินดังนั้นก็ค่อยๆ ถอดเสื้อผ้าที่ส่วมใส่อยู่ออกอย่างรวดเร็ว และค่อยๆ คลานเข้าไปหาเธออย่างช้าๆ“ทำไมพายตัวแดงจังเลย เขินพี่เหรอครับ หึหึ”หญิงสาวได้ยินดังนั้นก็เบือนหน้าไปอีกฝั่งเพราะความเขินอาย เพราะวันนี้เธอนั้นเป็นฝ่ายที่ชักชวนเขาเสียเอง“พะ พายยย เออ ขอดับไฟห้องดีกว่านะคะ”ในขณะที่เธอกำลังเอี้ยวตัวหันหลังให้ชายหนุ่มและกำลังใช้มือเรียวของเธอที่กำล
“พูดแล้วห้ามคืนคำนะครับ!!!”“ฮึก!! คุณมาร์ช”“ครับพี่เอง”ในขณะที่หญิงสาวกำลังนั่งร้องไห้อยู่และอ้อนวอนให้เขากลับมานั้น อยู่ดีๆ ชายหนุ่มที่เธอนั้นรอคอยนั้นก็เดินเข้ามาหาเธอในห้องนอน เขาเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่?? เธอก็ไม่ค่อยแน่ใจ เมื่อเห็นชายหนุ่มที่ยืนอยู่หน้าประตูเธอก็วิ่งเข้าไปกอดชายหนุ่มให้หายคิดถึงทันที“ฮึก!! คุณหายไปไหนมา?? พายนึกว่าคุณจะกลับไปแล้ว ไม่มาหาพายแล้ว ฮือๆ”“หยุดร้องก่อนนะครับคนดี พอดีเมื่อคืนพี่มีเดินทางไปคุยงานด่วนมา เพราะคนของพี่เคลียร์ไม่ลงตัวเลยจำเป็นต้องไป และเห็นหนูนอนอยู่พี่เลยไม่อยากรบกวน พี่คิดว่าแค่คุย 2-3 ชั่วโมงก็คงเสร็จ แต่มันดันกินเวลาไปค่อนข้างนาน พี่เลยกลับมาหาพายช้าไปนิดนึงครับ พี่ขอโทษนะครับคนดี”“ฮืออ!! น่าจะบอกพายสักนิดบ้าง ทำพายใจหายหมดเลย พายคิดถึงคุณค่ะ ฮือๆ”“พี่ก็คิดถึงพายเหมือนกันครับ” ชายหนุ่มกอดปลอบหญิงสาวและลูบที่ศีรษะของเธออย่างอ่อนโยน“ฮือออ!! คนบ้า นึกว่าจะทิ้งพายกับลูกไปเสียแล้ว”“พี่จะทิ้งพายกับลูกได้ยังไงกันละครับ เพราะหัวใจของพี่อยู่ที่นี่ พี่จะหนีไปที่ไหนได้ละครับ”“ฮึก!! คุณมาร์ชพูดจริงเหรอคะ??”“จริงสิครับ พี่รักพายมากนะ” เมื่อเ
นี่ก็ผ่านไปแล้วสามสัปดาห์ที่ชายหนุ่มและหญิงสาวนั้นอาศัยอยู่ด้วยกัน...และความสัมพันธ์ของทั้งสองนั้นเหมือนทิศทางจะไปในทางที่ดีขึ้น แต่มันก็กับหยุดชะงักเหมือนวันสองวันแรกที่อาศัยอยู่ด้วยกันเพราะหญิงสาวนั้นขีดเส้นและจำกัดความสัมพันธ์ของเขากับเธอไว้อย่างชัดเจน คือทุกมื้อเธอจะต้องนั่งทานข้าวเพียงแค่คนเดียว โดยจะต้องมีชายหนุ่มนั้นเป็นคนเตรียมอาหาร ไม่ว่าเธอจะทำอะไรชายหนุ่มก็ต้องเว้นระยะห่างกับเธอห้ามแตะเนื้อต้องตัว เว้นแต่ตอนที่จะต้องนวดเท้าให้เธอทุกคืน และตอนเล่านิทานก่อนนอนให้ลูกฟังเขาก็จะได้จูบลงที่ท้องนู้นนั้นหนึ่งครั้งในทุกๆ วันก่อนนอนและเขานั้นจะต้องนอนบนพื้นไม้แข็งๆ ข้างที่นอนของเธอเสมอๆ และมองใบหน้าของเธอทุกๆ คืนก่อนหลับไป แต่สิ่งที่หญิงสาวทำร้ายจิตใจเขามากที่สุดก็คือ ในช่วงเวลาที่เธออาบน้ำ หญิงสาวจะให้เขาไปยืนเฝ้าทุกครั้ง เพราะตั้งแต่เกิดเหตุการณ์วันนั้น เธอก็ไม่ยอมอาบน้ำคนเดียวอีกเลย และเป็นเขาเองเช่นเดียวกันที่ไม่อยากให้เธอคลาดสายตาของเขาแม้แต่วินาทีเดียว เพราะกลัวว่าลูกในท้องนั้นจะเป็นอะไรไป นั่นจึงทำให้ลูกชายตัวน้อยๆ ที่อยู่ภายในกางเกงของเขานั้นแสนจะทรมานเป็นอย่างมากในทุกๆ วั