ณที่เกิดเหตุได้เกิดความโกลาหลขึ้น นักข่าวพุ่งไปข้างหน้าอย่างบ้าคลั่ง มีคนเหยียบมือ เท้าและขาของหลี่ยู่หลาน... เธอร้องตะโกนออกมาด้วยความเจ็บปวดเซี่ยเจิ้งกั๋วเดินออกไปด้วยความโกรธ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยยังคงอยู่ที่นั่น เธอรีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อปกป้องแม่ของเธอ “ไปให้พ้นนะ พวกคุณกำลังเหยียบแม่ของฉันอยู่!”บรรดานักข่าวชี้ไปที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยและเริ่มวิพากวิจารณ์ในทันที“เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยคุณก็ไม่ใช่คนดีเช่นกัน แม่เป็นแบบไหนลูกสาวก็ย่อมเป็นแบบนั้นด้วย”“ฉันจำได้ตอนที่เซี่ยซีหว่านเพิ่งกลับมาที่นี่ พวกคุณสองแม่ลูกใส่ร้ายเธอหลายครั้งต่อหลายครั้ง ช่างร้ายกาจเสียจริง”“เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยคุณสมควรแล้วที่ถูกทอดทิ้ง คุณชายซูจะชอบคุณได้อย่างไรกัน?”ความเย่อหยิ่งจองหองของเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยหายไปในทันที มีคนเหยียบเธอเช่นกัน จากนั้นน้ำตาแห่งความเจ็บปวดของเธอก็ไหลลงมาสองแม่ลูกหดตัวเป็นลูกบอล ทุกคนต่างชี้นิ้วด่าท่อพวกเธอราวกับพวกเธอคือคนน่ารังเกียจไม่นานนัก รปภ.กลุ่มหนึ่งก็เข้ามาและสามารถช่วยเหลือสองแม่ลูกที่ได้รับบาดเจ็บออกมาได้...หลี่ยู่หลานและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพากันกลับมาถึงที่บ้าน เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้
เซี่ยซีหว่านมองกลับไปที่เยี่ยหลิงด้วยท่าทางสำนึกผิด “ฉันไม่ได้คิดอะไรเลยนะ”นัยน์ตาสีน้ำของเยี่ยหลิงที่ดูนุ่มนวลและมีเสน่ห์มองไปที่เธอแล้วพูดว่า “เธอคิดอะไรอยู่นั้นเขียนอยู่บนหน้าเธอหมดแล้วล่ะ”เซี่ยซีหว่านไม่สามารถโต้เถียงใด ๆ ได้ ดังนั้นเธอทำได้เพียงก้มศีรษะยอมรับ และวิ่งไปที่ตู้เพื่อเลือกเข็มขัด“หลิงหลิง ฉันอยากซื้อของขวัญให้หญิงชราด้วย”“ได้สิ แล้วหญิงชราชอบอะไรล่ะ”“ตุ๊กตา”เยี่ยหลิงพยักหน้า “งั้นเรามาซื้อตุ๊กตาบาร์บี้กันเถอะ ตุ๊กตาแบบนั้นไม่ว่าผู้หญิงอายุเท่าไหร่ก็ต่างชื่นชอบ หญิงชราจะต้องชอบมันอย่างแน่นอน”เซี่ยซีหว่านเห็นด้วย เธอพูดว่า “ดีมาก”ผู้จัดการที่ยืนอยู่ด้านข้างเมื่อได้ฟังคำพูดเหล่านั้นก็ตกตะลึง เธอจะมอบตุ๊กตาบาร์บี้ให้กับหญิงชราคนหนึ่งอย่างนั้นเหรอ... บ้าไปแล้วใช่ไหม?เธอเป็นคนสวย เธอพูดคำไหนคำนั้น!...เซี่ยซีหว่านอยู่ที่เมืองซานย่าอีกสองวัน เรื่องภาพอนาจารและหลี่ยู่หลานค่อย ๆ ซาลง เซี่ยซีหว่านรู้ว่าเซี่ยเจิ้งกั๋วได้ลงมือจัดการเรื่องราวเหล่านี้แล้วในไม่ช้าเธอก็ได้ข่าวว่าวันครบรอบแต่งงานของเซี่ยเจิ้งกั๋วและหลี่ยู่หลานกำลังจะมาถึง พวกเขากำลังเตรียมงานฉลอง
หลัวฝูมาถึงแล้ว มีคนมาคอยหนุนหลังหลี่ยู่หลานแล้ว ทำให้ฉากเมื่อครู่เปลี่ยนไปเป็นคนละอย่างทันทีเซี่ยเจิ้งกั๋วรีบทิ้งเซี่ยซีหว่านแล้วเดินไปหาหลัวฝูทันที อีกทั้งผู้คนในงานยังแสดงความเคารพเขาอย่างประจบ “พ่อบุญธรรมครับ ขอบคุณสำหรับเวลาอันมีค่าของคุณที่ให้เกียรติสละเวลาว่างมานะครับ พวกเราทุกคนรอคุณอยู่ครับ”หลัวฝูมีรูปร่างอ้วน ใบหน้าของเขามีความเฉลียวฉลาดของคนเป็นนักธุรกิจ เขาตบเบา ๆ ที่มือของหลี่ยู่หลาน “เจิ้งกั๋ว ผมได้ยินมาว่าพักนี้มีคนมารังแกหลี่ยู่หลานทำให้เธอไม่สบายใจ ผมให้ลูกสาวบุญธรรมของผมแต่งงานกับคุณเพื่อทำให้เธอมีความสุข ไม่ใช่นำพาความทุกข์มาให้เธอ คุณเข้าใจความหมายที่ผมกำลังพูดใช่ไหม?”เซี่ยเจิ้งกั๋วตัวแข็งทื่อ เขาเพิ่งจะให้สัญญากับเซี่ยซีหว่านไป ตอนนี้ยังถูกหลัวฝูวางอำนาจใส่อีกจนทำให้สีหน้าของเขาตอนนี้รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเหมือนถูกตบหน้าดังเพี๊ยะเซี่ยเจิ้งกั๋วเป็นคนหัวโบราณที่มักจะรักษาหน้าตาทางสังคมของตัวเองมากเป็นพิเศษ แต่เวลานี้เขาไม่สามารถทำเช่นนั้นได้เลย เพียงพราะอยากจะให้หลัวฝูอัดฉีดเงินเพื่อแก้ปัญหาเงินทุนระยะสั้นนั้นก่อน“ครับพ่อบุญธรรม ผมจะดูแลยู่หลานให้ดี จ
คุณนายหลัวโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เธอผลักหลัวฝูให้ออกห่าง “แม่จิ้งจอกดาวยั่วที่มายั่วคุณคนนั้นเป็นโสเภณีใช่ไหม?”คุณนายหลัวยกแส้ขึ้นชี้ไปที่หลี่ยู่หลานหลัวฝูจะเอาความกล้าที่ไหนมายอมรับ เขารีบพูดปฏิเสธทันที “ไม่ใช่นะ เธอ...เธอเป็นลูกสาวบุญธรรมของผม…”“เหอะ!” คุณนายหลัวขึ้นเสียงแทรกเขาทันที“ลูกสาวบุญธรรมอย่างนั้นเหรอ รู้สึกพะอืดพะอมบ้างไหม?”คุณนายหลัวตรงปรี่ไปยังด้านหน้าของหลี่ยู่หลานทันที “นังแพศยา เธอคงไม่เคยได้ยินใช่ไหมว่าฉันเป็นคนยัไง กล้ามากนะที่มายั่วสามีของฉัน เห็นทีวันนี้ฉันต้องเฆี่ยนเธอให้ตาย!”คุณนายหลัวเหวี่ยงแส้ขึ้นมาอีกครั้งหน้าผากที่ฝกช้ำของหลี่ยู่หลานมีเหงื่อเย็น ๆ ผุดขึ้นมา ผิวที่ถูกแส้ฟาดแสบร้อนเหมือนถูกไฟลน เธอรีบคุกเข่าร้องขอชีวิตทันที “คุณแม่บุญธรรมคะ คุณเข้าใจผิดอย่างมาก ระหว่างฉันกับพ่อบุญธรรมไม่มีอะไรเกินเลยกันเลย เนื่องจากวันนี้เป็นวันครบรอบแต่งงานของฉันกับสามี ฉันจึงเชิญพ่อบุญธรรมให้มาร่วมงานค่ะ”ตอนนี้ในใจของเซี่ยเจิ้งกั๋วรู้สึกโกรธแค้นหลี่ยู่หลานมาก เขาจะปิดประตูเดินออกไปแล้วปล่อยให้เธอถูกเฆี่ยนจนตายก็ย่อมได้ แต่ตอนนี้เซี่ยการแพทย์ต้องการเงินมาอัดฉี
เพี๊ยะ เสียงนี้เป็นเสียงของเอกสารสัญญาการหย่าที่ถูกเซี่ยเจิ้งกั๋วปาออกไปอย่างแรง หลี่ยู่หลานที่ถูกสิ่งนั้นปาเข้าใส่ก็รู้สึกเจ็บที่ใบหน้ามาก“นี่มันอะไรกัน?” หลี่ยู่หลานก้มหน้าลงมอง “เอกสารสัญญาการหย่า” 5 คำนี้กระแทกเข้าสายตาเธออย่างจัง จากนั้นเธอจึงเอ่ยถามขึ้น “หย่า? เซี่ยเจิ้งกั๋ว คุณต้องการ...หย่ากับฉันจริง ๆ เหรอ?”หลี่ยู่หลานมองเซี่ยเจิ้งกั๋วด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อ ตอนนี้เนื้อตัวของเธอเริ่มสั่นเทาขึ้นมาและสีหน้าของเซี่ยเจิ้งกั๋วก็ดูโหดเหี้ยมอย่างมาก“คุณลองออกไปดูข้างนอกนั้นสิว่าคนอื่นเขาวิจารณ์ผมยังไงบ้าง ผมไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว เซี่ยการแพทย์ก็กำลังจะล้มละลาย ตระกูลเซี่ยเองก็ใกล้จะพังพินาศคามือของผม หลี่ยู่หลาน ทั้งหมดนี้มันเป็นเพราะคุณคนเดียว!”“เป็นเพราะฉันเหรอ?” หลี่ยู่หลานรู้สึกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เธอกำผ้าปูที่นอนแน่นก่อนจะตวาดออกไป“เซี่ยเจิ้งกั๋ว คุณถามตัวเองดูก่อนไหมว่า หลังจากแต่งงานแล้วฉันช่วยคุณอย่างไรบ้าง ฉันอุทิศตัวให้คุณและตระกูลเซี่ยแห่งนี้ไปตั้งมากมาย!”เซี่ยเจิ้งกั๋วแสยะยิ้ม เขาจ้องเธอด้วยสายตาเศร้าหมอง “ผมให้คุณไปขึ้นเตียงกับผู้ชายคนอื่นหรือไง ห
เซี่ยซีหว่านกลับมาถึงสวนโหย่วหลานแล้ว เธอนำตุ๊กตาบาร์บี้ที่ซื้อมาส่งให้กับคุณท่านลู่ หญิงชราดีใจราวกับเด็กน้อย แล้วรีบถ่ายภาพเอาไว้หลายรูปเพื่อที่จะอัพลงเหวยป๋อ“หว่านหว่าน หนูมีเหวยป๋อไหม? ย่าจะได้กดติดตามหนู ต่อไปย่าก็จะได้เป็นแฟนคลับเบอร์หนึ่งของหนู!”เซี่ยซีหว่านคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าคุณท่านจะเล่นแอพเหวยป๋ออะไรแบบนี้ด้วย เซี่ยซีหว่านเพิ่งจะสมัครเหวยป๋อไปไม่ทันไร ณ เวลานี้ก็ยังขึ้นฮอตเสิร์ชไม่หยุดจนตอนนี้เธอมีผู้ติดตามถึง 8 แสนคนแล้ว“คุณย่าคะ งั้นเรามาแอดเฟรนกันเถอะค่ะ”เซี่ยซีหว่านนำหมายเลขแอคเคาท์ของคุณท่านลู่มาค้นหา ก็ปรากฏชื่อเหวยป๋อของท่านขึ้นมา ท่านใช้ชื่อว่า “คุณย่าปีนี้อายุ 18”หน้าโปรไฟล์มีเพียงคุณย่าที่อายุ 18 คิ้วสวยได้รูปของเซี่ยซี่หว่านเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มคุณท่านลู่โพสต์รูปคู่ของตัวเองกับตุ๊กตาบาร์บี้ลงไปบนเว่ยป๋อพร้อมแคปชั่นว่า “หลานสะใภ้ซื้อมาให้ ขอบใจมากนะหนูหว่านหว่านของย่า จุ๊บจุ๊บส์”เซี่ยซีหว่านคิดว่าคุณท่านนี่วัยรุ่นสุด ๆ ไปเลย เหวยป๋อก็เล่นตามเทรน อีกทั้งยังใช้ศัพท์ยอดฮิตได้อีกด้วย เธอจึงรีบกดถูกใจรูปให้คุณท่านไปหนึ่งที“หว่านหว่าน ย่ายังมีของอีกอย่าง
เจ้าหยวนหยวนถูกทิ้งให้อยู่บนพื้น “...”เมี๊ยวเมี๊ยวเมี๊ยวหนูเป็นแมวนะไม่ใช่หมา ทำไมถึงเอาอาหารหมาเข้ามาใส่ปากหนู?จากนั้นคุณท่านลู่ก็เดินออกมาจากห้องครัว “หานถิง หว่านหว่าน อาหารค่ำเสร็จแล้วนะ...นี่ หานถิง หลานทำอะไรน่ะ เจ้าหลานเลว ปล่อยหว่านหว่านลงเดี๋ยวนี้!”คุณท่านลู่กำลังจะวิ่งตามไป แต่ลู่หานถิงเคลื่อนไหวเร็วมาก เขาอุ้มเซี่ยซีหว่านเข้าไปในห้องทันที และปิดประตูห้องลงคุณท่านลู่ “...”......ภายในห้องเซี่ยซีหว่านคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าเขาจะอุ้มเธออีก เธอเพียงแค่อยากจะแอบแล้วทำให้เขาตกใจคาดไม่ถึงว่าเขาจะมีปฏิกริยาถึงเพียงนี้?เธอเองก็สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เขาบอกจะอุ้มเธอท่าเจ้าสาวก็ให้เขาอุ้มจริง ๆ แถมเธอยังได้ยินเสียงเอะอะโวยวายของคุณย่าร้องตามหลังมาด้วย เขานี่มัน...ไร้ยางอายจริง ๆ!“คุณลู่ คุณปล่อยฉันลงก่อนค่ะ ฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณ” เซี่ยซีหว่านรีบพูดขึ้นนัยน์ตาของลู่หานถิงเผยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเอ็นดูและเสน่หา “คุณนายลู่ ผมไม่อยากคุยกับคุณตอนนี้ นอกจากคุณจะพูดว่าช่วงหลายวันมานี้คุณคิดถึงผม”“...คุณลู่ คุณปล่อยฉันลงก่อนค่ะ ฉันซื้อของขวัญมาให้คุณด้วย!”ลู่หานถิง
เซี่ยซีหว่านยกริมฝีปากขึ้นแล้วพูดว่า “เธอรู้ไหม สิบปีมานี้...ฉันคิดถึงเธอทุกวันเลยนะ”“แน่นอนว่าฉันเชื่อ และฉันก็รู้ว่าหว่านหว่านจะต้องกลับมาในสักวันหนึ่ง ดังนั้นสิบปีมานี้ฉันจึงไม่กล้าที่จะขี้เกียจเลยสักวัน พยายามก้าวไปข้างหน้า ทำให้ตัวเองเป็นคนที่ยอดเยี่ยม เพื่อที่จะ...ผลักเธอให้ตกลงไปในหุบเหวลึกอีกครั้งหนึ่งอย่างไรล่ะ”เซี่ยเหยียนเหยียนเป็นหนึ่งในหญิงงามของเมืองไห่เฉิงที่เกิดและเติบโตขึ้นมาได้อย่างงดงามและมีน้ำเสียงที่ไพเราะ แม้ตอนที่เธอพูดคำว่า “จะส่งแกไปลงนรก” ก็ยังคงเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน อดที่จะทำให้ผู้คนรู้สึกขนลุกขนพองไม่ได้เซี่ยซีหว่านมองแสงแดดยามเช้าที่ส่องประกายระยิบระยับจากนอกหน้าต่างแล้วตอบกลับอย่างผ่อนคลายว่า “ฉันน่ะมาจากเหวลึกนะ แต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยที่จะหวาดกลัวเหวลึกหรอก กลับกันถ้าเป็นเธอที่ใช้ชีวิตอยู่บนสวรรค์มาตลอด ฉันรับรองเลยว่าการที่เธอกลับมาในครั้งนี้มันจะเป็นการร่ำลาสวรรค์ของเธอ สิบปีสำหรับเธอมันคือความเมตตาอันยิ่งใหญ่ที่สุดของฉันแล่วล่ะ”เซี่ยเหยียนเหยียนที่อยู่ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงตัดสายไปเซี่ยซีหว่านเก็บโทรศัพท์มือถือ จากนั้นจึงลุกขึ
เซี่ยซีหว่านรู้สึกได้ว่าลู่ซือเจี๋ยรักลูกชายทั้งสองคนนี้ ดังนั้นที่เมืองไห่เฉิง เขาไม่สามารถอนุญาตให้เธออยู่ได้ แต่ตอนนี้เมื่อรู้ว่าเธอเป็นลูกสาวของหลินสุ่ยเหยา เมื่อตอนนั้นหลินสุ่ยเหยากับหลิวอิงหลั่วสองสาวครองอันดับหนึ่งเรื่องความเก่งกล้าสามารถที่สุดของเมืองหลวง เขาต้องการตามหาหลินสุ่ยเหยา ผ่านตัวเธอ ดังนั้นเขาจึงปล่อยวางลูกชายสองคนของเขาลงและปล่อยให้เธอดำรงอยู่หมายความว่า ภายในใจของลู่ซือเจี๋ย หลิวอิงหลั่วมีความสำคัญมากกว่าลูกชายทั้งสองคนของเขานี่เป็นครั้งแรกที่ เซี่ยซีหว่านตระหนักอย่างแท้จริงว่าลู่ซือเจี๋ยรักหลิวอิงหลั่วอย่างสุดซึ้งหลิวอิงหลั่วหายตัวไปหลายปี ปีนี้ลูกชายของเธอลู่หานถิงอายุ 28 ปีแล้ว เซียซีหว่านไม่รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วมันเป็นอย่างไร ความรักที่ลึกซึ้งถึงสามารถทนต่อการกัดเซาะและความแข็งแกร่งของปีที่เลยผ่านได้ จึงทำให้ชายที่ราวกับจักรพรรดิยังคงรออยู่ที่นี่ตลอด บางทีอาจเป็นสถานที่ที่พวกเขาพบกันครั้งแรกแต่รักอย่างสุดซึ้ง ทำไมถึงต้องเจ็บอีก?ตอนนั้นหลินอิงหลั่วตั้งท้องลูกคนที่สอง เธอหยิบมีดมาคว้านท้องตัวเอง อุ้มทารกออกมา ช่างน่าเวทนานัก?ถ้าไม่ใช่เพราะถูกบีบบังคับจ
แต่ว่า เธอปรากฏตัวต่อหน้าเขาครั้งแล้วครั้งเล่าทุกครั้งที่เธอปรากฏตัว เขาจะควบคุมตัวเองไม่ได้และไม่เป็นตัวของตัวเองแม้แต่น้อยเขาพยายามไม่ให้ไปหลงเสน่ห์เธอแล้ว แต่ก็ทำไม่ได้หลังจากที่ได้รู้ในห้องนั่งเล่นเมื่อครู่นี้ว่าเธอคือ เด็กผู้หญิงตัวน้อยเมื่อก่อนนั้น เดิมที่แม่ของเขายอมยกเจ้าสาวตัวน้อยแก่เขา เขารู้สึกว่าความยับยั้งชั่งใจและความอดกลั้นที่ผ่านมาในหลายวันมานี้ได้พังทลายลงลู่หานถิงจ้องมองเธออย่างดุดันด้วยดวงตาสีแดงก่ำ เขายกริมฝีปากบางของเขาขึ้นเล็กน้อย และพูดอย่างเยาะเย้ยว่า “ทำไมสวี่เส้าหนานถึงได้ ลู่จื่อเซียนถึงได้ แต่ทำไมฉันไม่ได้เหรอ?”“…”ใบหน้าเล็กสวยงามของเซี่ยซีหว่านเปลี่ยนเป็นสีขาวและแดงสลับกัน เธอยกมือเล็กขึ้นเพื่อตบลงไปยังใบหน้าอันหล่อเหลาด้วยความน่าเกลียดชังอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอไม่ไม่ได้ตบเขาเพราะลู่หานถิงจับข้อมือเรียวของเธอไว้ได้ทัน เธอจึงไม่ได้ตบใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาลู่หานถิงมองดูเธอด้วยแววตาเศร้าโศกและพูดว่า “เซี่ยซีหว่าน ผมไม่รู้ว่าคุณกำลังใช้เล่ห์เหลี่ยมอะไรนะ สิ่งที่ผมสามารถให้คุณได้คือสิ่งที่ลู่จื่อเซียนและสวี่เส้าหนานไม่สามารถให้คุณได้แน่นอน ถ้าหา
เขาจำไม่ได้แล้วแน่นอน เพราะความทรงจำเหล่านั้นเธอลบมันไปหมดแล้ว ดังนั้นเขาจึงสามารถพูดได้อย่างชอบธรรมแถมเขายังพูดอีกว่า การที่เขานอนกับเธอคือ การนำน้ำสกปรกสาดใส่ตัวเขา เขาคิดว่าเธอเป็นอะไร น้ำสกปรกเหรอ?แน่นนอน เขาเกลียดเธอ !แต่ในเมื่อเขาเกลียดเธอมาก ทำไมเขาถึงมารังควานเธอด้วย?เซี่ยซีหว่านมองใบหน้าที่เย็นชาหล่อเหลาของเขาและพูดเยาะเย้ยว่า “ฉันแค่พูดไร้สาระ พอใจหรือยังล่ะ คนที่บริสุทธิ์ผุดผ่องอย่าประธานลู่ ฉันจะทำให้คุณมีมลทินได้อย่างไรคะ !”“บริสุทธิ์เหรอ” ลู่หานถิงขมวดคิ้วรูปดาบอันองอาจผึ่งผายนั้นและกล่าวว่า “คนที่พูดว่าผมนอนกับคุณ ก็คือคุณ ตอนนี้คนที่กำลังพูดไร้สาระก็คือคุณ คิดว่าเป็นหญิงสาวคนหนึ่งก็สามารถพูดจาเหลวไหลแบบนี้ออกมาได้งั้นเหรอ เซี่ยซีหว่าน คุณยังมียางอายอยู่อีกไหม?”“ฉันจะมีหรือไม่มียางอายเกี่ยวอะไรกับคุณด้วยเหรอคะ ใช่สิประธานลู่ คุณคงจะยังไม่...เป็นหนุ่มน้อยบริสุทธิ์คนหนึ่งอยู่ใช่ไหมคะ?”ดวงตาของเซี่ยซีหว่านเปล่งประกาย ทันใดนั้นดูเหมือนว่าจะเจอกับปัญหาเข้าแล้ว เขาไม่มีความทรงจำช่วงนั้นแล้ว เขาคงจำไม่ได้ว่าเขากับเธอเคยเดือดพล่านกันบนเตียงมาก่อน งั้นเขาคงไม่คิดว่า
เซี่ยซีหว่านใช้ส้อมจิ้มสเต็กชิ้นเล็ก ๆ เพิ่งเตรียมจะใส่เข้าปาก ตอนนี้เท้าของเธอที่อยู่ใต้โต๊ะถูกเตะอย่างแรง สเต็กบนส้อมก็ร่วงตกลงมาบนจานทันที“หว่านหว่าน คุณเป็นอะไรไปครับ?” ลู่จื่อเซียนถามด้วยความเป็นห่วงร่างผอมเพรียวของเซี่ยซีหว่านสั่นไหวเล็กน้อย เธอมองไปยังลู่หานถิงซึ่งนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เขาไม่ได้พูดอะไรมาโดยตลอดตั้งแต่เธอเดินเข้ามา แต่เขาเพิ่งเตะเธอเขาเป็นอะไรของเขา?ลู่หานถิงหั่นสเต็กในมืออย่างสง่างามราวกับว่าคนที่เตะเมื่อกี้ไม่ใช่เขา ทั้งหมดไม่เกี่ยวอะไรกับเขาเลยเข้าใจแกล้งจริง ๆ !เซี่ยซีหว่านด่าเขาในใจแล้วยิ้มให้ลู่จื่อเซียนและกล่าวว่า “จื่อเซียน ฉันไม่เป็นอะไรค่ะ”ทั้งห้าคนก็จบมือค่ำในบรรยากาศอันแปลก ๆ แบบนี้ลง...หลังมื้อเย็น เซี่ยซีหว่านไปห้องน้ำทันทีที่เธอเดินเข้ามา มือใหญ่มือหนึ่งจากด้านในยื่นออกมา และคว้าข้อมือที่เรียวยาวของเธอแล้วดึงเธอเข้าไปเซี่ยซีหว่านชนเข้ากับหน้าอกแข็งแกร่งอย่างกระทันหัน หน้าอกนี้แข็งแกร่งราวกับกับแพง เธอชนเข้าไปราวกับกระดูกของเธอจะแตกสลาย นัยน์ตาขาวบริสุทธื์แดงก่ำด้วยความเจ็บปวดเธอเงยหน้าขึ้นและใบหน้าที่หล่อเหลาละเอียดงดงามของล
ด้านนอกประตูคือลู่จื่อเซียนจริง ๆ และยังมีเงาเพรียวบางเงาหนึ่งอยู่ข้างกายของลู่จื่อเซียนหลิวจ้าวตี้ดีใจมาก “จื่อเซียน ลูกกลับมาแล้วเหรอ คู่หมั้นของลูก…”แววตาของหลิวจ้าวตี้จับจ้องไปยังเซี่ยซีหว่าน เมื่อมองชัดเจนแล้วว่าเป็นเซี่ยซีหว่าน รูม่านตาของหลิวจ้าวตี้ก็เบิกกว้างและตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ในทันทีเป็นไปได้ยังไงกัน?ทั้งลู่ซือเจี๋ยและลู่หานถิงที่อยู่ในห้องนั่งเล่นต่างก็ได้ยินการเคลื่อนไหวที่ด้านนอกประตู คืนนี้พวกเขากำลังรอให้ลู่จื่อเซียนพาคู่หมั้นลึกลับกลับบ้านลู่ซือเจี๋ยวางหนังสือพิมพ์เศรษฐกิจในมือลงแล้วยืนขึ้นพลางเอ่ยถามว่า “เกิดอะไรขึ้น?”ทันใดนั้นลู่จื่อเซียนจูงมือเล็ก ๆ ของเซี่ยซีหว่านเดินเข้ามาทันทีที่ลู่ซือเจี๋ยเห็นเซี่ยซีหว่าน เขาเคยต่อกรกับเซี่ยซีหว่านมาแล้วสองครั้ง เขารู้ดีว่าเด็กสาวคนนี้ไม่ธรรมดา แต่เขาไม่คิดมาก่อนว่าเซี่ยซีหว่านจะเป็นลูกสาวของหลินสุ่ยเหยา!ในขณะเดียวกันนั้นลู่หานถิงก็มองไปยังลู่จื่อเซียน จากนั้นดวงตาอันเฉี่ยวคมของเขาก็ค่อย ๆ หันไปมองใบหน้าที่งดงามของเซี่ยซีหว่าน จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนการมาถึงของเซี่ยซีหว่านทำให้ครอบครัวลู่ทั้งหมดตกอยู่ในบรรยากา
ลู่จื่อเซียนพูดกับเธอว่า หว่านหว่านผมชอบคุณครับเซี่ยซีหว่านนั่งลง เธอรู้ว่าลู่จื่อเซียนรู้สึกกับเธออย่างไร ได้รับความรักจากคุณชายรองตระกูลลู่ที่ทั้งสง่างาม และมีความสามารถ เธอควรจะมีความสุข และตื่นเต้นมากกว่าผู้หญิงคนไหน ๆ อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้รู้สึกแบบนั้นกับลู่จื่อเซียน นอกจากนี้เธอแต่งงานกับลู่หานถิงแล้ว แม้จะเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ก็ตาม แต่เธอก็เคยเป็นพี่สะใภ้ของเขาแล้ว และตอนนี้เธอได้กลายมาเป็นคู่หมั้นของเขาอีกครั้ง ความรู้สึกนี้เป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดขณะเดียวกันเซี่ยปัง และหลานเหยียนเดินเข้ามา เขาพูดว่า “หว่านหว่านการแต่งงานในครั้งนี้เป็นความต้องการของแม่ของลูก พวกเราคิดว่าคุณชายรองตระกูลลู่เป็นคนที่ดีมาก เขาจะไม่ทำให้ลูกเศร้าเสียใจเหมือนใครบางคน ตอนนี้ลูกคงจะไม่ปฏิเสธคุณชายรองตระกูลลู่เพราะคน ๆ นั้นใช่ไหม?”“ใช่แล้วหว่านหว่าน ผู้หญิงอย่างพวกเราต้องมองไปข้างหน้า ผ่านไปแล้วก็ผ่านไป ไม่ต้องไปเสียใจกับมัน ปล่อยวางในสิ่งที่ควรจะปล่อย ถ้าลูกไม่ยอมเปิดใจ และก้าวไปข้างหน้า ลูกจะเห็นความงามของชีวิตได้อย่างไร?”เซี่ยปังและหลานเหยียนไม่ชอบลู่หานถิง ลู่หานถิงแต่งงานกับลี่เหยียนหลา
สวี่เส้าหนานรู้สึกขมขื่นภายในใจ !คุณท่านลี่ไม่ต้องการให้เซี่ยซีหว่านลงเอยกับสวี่เส้าหนานหลานชายของท่าน เธอคิดว่าสองคนนี้ไม่คู่ควรกัน ตอนนี้คุณท่านลี่กำลังยืนมองลู่จื่อเซียน คุณท่านลี่รู้จักลูกชายสองคนของตระกูลลู่ เป็นอย่างดี เห็นได้ชัดว่าลู่จื่อเซียนเป็นเหมือนกับดอกบัวที่บานในโคลนตม เขาเป็นคนที่ดีมากชีวิตส่วนตัวของลู่จื่อเซียนใสสะอาดมาก และเขายังไม่เคยมีแฟนมาก่อน คุณท่านลี่ดูออกว่าลู่จื่อเซียนชอบเซี่ยซีหว่านมาก เขาดูแล และเอาใจใส่เธอด้วยความรัก ดังนั้นคุณท่านลี่จึงมองเขาเหมือนหลานชายคนหนึ่ง ท่านเหลือบมองลู่จื่อเซียน จากนั้นก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจเซี่ยปังและหลานเหยียนก็พอใจในตัวลู่จื่อเซียนมากเช่นเดียวกัน ในมหานครเอมพีเรียลแห่งนี้ ลู่จื่อเซียนเป็นคนที่มีความสามารถและหล่อเหลา อีกทั้งยังเหมาะสมกับเซี่ยซีหว่านแหวนหยกวงนี้เป็นแหวนที่หลินสุ่ยเหยาสวมอยู่ตลอดเวลา เซี่ยปังและหลานเหยียนจำข้าวของส่วนตัวของหญิงสาวได้อย่างรวดเร็ว ย้อนกลับไปในตอนนั้นเธอได้หมั้นหมายเซี่ยซีหว่านกับลูกชายของเพื่อนสนิท พวกเขาคิดไม่ถึงว่าเด็กชายคนนั้นจะเป็นคุณชายรองตระกูลลู่ลู่จื่อเซียนเป็นนักวิชาการที่อายุน้อยท
เซี่ยปัง “...”ที่นี่...คือตระกูลเซี่ย ไม่ใช่เหรอ?เซี่ยปังมองไปยังคุณท่านลี่ที่พูดออกไปเช่นนั้น มุมปากของเขากระตุกเล็กน้อยคุณท่านลี่เป็นนายหญิงของตระกูลลู่มานานหลายปีแล้ว ท่านมีภาพลักษณ์ที่น่าเกรงขามเป็นอย่างมาก บรรดาผู้ใต้บังคับบัญชาที่ถูกท่านดุก็มักจะกลัวจนขาอ่อนแรง และเกือบจะล้มลงไปในทันทีขณะเดียวกันร่างที่หล่อเหลา และดูชั่วร้ายก็ปรากฏตัวขึ้น เขาพูดว่า “อย่าทำให้เขาตกใจกลัวสิครับคุณยาย ผมเองที่มาที่นี่ !”เมื่อทุกคนหันไปมอง กลายเป็นสวี่เส้าหนานคุณชายของตระกูลสวี่ เจ้าชายแห่งมหานครเอมพีเรียลที่ไม่เคยเกรงกลัวสิ่งใดเขามาที่นี่จริง ๆ !คุณท่านลี่มองสวี่เส้าหนานด้วยสีหน้าไม่พอใจ ราวกับว่าที่นี่เป็นบ้านของท่านจริง ๆ ท่านพูดว่า “ทำไมหลานถึงมาที่นี่ได้ล่ะ?”“คุณยายผมมาที่นี่เพราะ…” ดวงตาทรงดอกท้อของสวี่เส้าหนานมองไปยังใบหน้าที่งดงามของเซี่ยซีหว่าน และพูดต่อว่า “...เพราะเซี่ยซีหว่านครับ !”คุณชายที่มีชื่อเสียงเช่นเขา มีข่าวลือไปทั่วว่าเขาเปลี่ยนผู้หญิงราวกับเปลี่ยนเสื้อผ้า เซี่ยปังและหลานเหยียนรีบดึงเซี่ยซีหว่านไปทางด้านหลังพวกเขา และพูดว่า “คุณชายสวี่ครับ หว่านหว่านของพวกเราไม่
คุณท่านลี่ยิ้ม และพูดว่า “ทำไมล่ะ ฉันมาร่วมฉลองงานวันเกิดของเซี่ยปังผู้ยิ่งใหญ่ไม่ได้เหรอ?”เมื่อท่านพูดจบ ภายในห้องโถงก็เกิดความโกลาหลขึ้นในทันที ท่านผู้เฒ่าแห่งตระกูลลี่มาที่นี่เพื่อฉลองวันเกิดให้กับเซี่ยปัง!”คุณท่านลี่มองไปที่เซี่ยปังและหลานเหยียน จากนั้นก็พูดว่า “ท่านเซี่ย คุณนายเซี่ย ฉันมาที่นี่โดยไม่ได้รับคำเชิญ หวังว่าพวกคุณจะไม่ถือสาและไล่ฉันออกไปใช่ไหม?”เซี่ยปังและหลานเหยียนชำเลืองมองกัน พวกเขาไม่คิดว่าจู่ ๆ คุณท่านลี่จะมาร่วมงานด้วย แม้ว่าตระกูลเซี่ยจะเป็นตระกูลที่มีอิทธิพล แต่ตระกูลขุนนางเก่าแก่ที่ร่ำรวยในมหานครเอมพีเรียลก็ไม่ได้สนใจที่จะคบค้าสมาคมกับพวกเขา นั่นเป็นเป็นเหตุผลว่าทำไมเซี่ยซีหว่านจึงไม่สามารถเข้าสู่แวดวงคนดังในมหานครเอมพีเรียลได้ตระกูลเซี่ยและสี่ยักษ์ใหญ่แห่งมหานครเอมพีเรียลไม่เคยติดต่อไปมาหาสู่ หรือมีปัญหาอะไรกันมาก่อน แต่จู่ ๆ วันนี้คุณท่านลี่กลับมาที่นี่อย่างกะทันหัน ทำให้ทุกคนในที่นี้ต่างก็ตกตะลึงแต่ในเมื่อท่านมาถึงที่นี่แล้ว เซี่ยปังก็ไม่สามารถไม่ต้อนรับท่าน เขาจึงพูดว่า “คุณท่านลี่ ยินดีต้อนรับครับ”คุณท่านลี่ยิ้ม จากนั้นก็ส่งกล่องของขวัญให้กับเ