ลู่จื่อเซียนหยุดชะงัก เขายืนอยู่บนบันไดและมองลงมาที่เซี่ยเหยียนเหยียนอย่างดูถูก จากนั้นก็พูดว่า “คุณกำลังพูดเรื่องอะไร?”เซี่ยเหยียนเหยียนยิ้ม และพูดว่า “นักวิชาการลู่ คุณตกหลุมรักเซี่ยซีหว่านไม่ใช่เหรอคะ คุณไม่อยากให้เซี่ยซีหว่านและลู่หานถิงหย่ากันเหรอคะ เรามีจุดประสงค์เดียวกัน ดังนั้นเรามาร่วมมือกันเถอะค่ะ อย่าแสร้งทำตัวสูงส่งไปหน่อยเลย โอกาสดี ๆ แบบนี้ไม่ควรพลาดเด็ดขาด อันที่จริงแล้วเราทั่งคู่ก็เป็นคนประเภทเดียวกันนั่นแหละค่ะ”นี่เป็นครั้งที่สองที่เซี่ยเหยียนเหยียนเสนอความร่วมมือกับเขาใบหน้าหล่อเหลาของลู่จื่อเซียนไม่ได้แสดงอารมณ์ใด ๆ เขาเหลือบมองเซี่ยเหยียนเหยียนและไม่ได้พูดอะไร จากนั้นเขาก็เดินขึ้นไปชั้นบนทันที...ลู่จื่อเซียนเปิดประตูห้องและเดินเข้าไป ตอนนี้เซี่ยซีหว่านกำลังนอนอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ที่ดูอ่อนนุ่ม ผมยาวสีดำขลับของเธอแผ่กระจายอยู่บนผ้าปูที่นอนสีขาว ใบหน้าเรียวเล็กขณะที่กำลังหลับใหลของเธอนั้นดูอ่อนโยนและไร้เดียงสาเมื่อเห็นเธอปลอดภัย สีหน้าของลู่จื่อเซียนก็ผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น เขาก้าวไปข้างหน้าจากนั้นก็คุกเข่าข้างหนึ่งลงบนเตียง และจ้องมองใบหน้าเรียวเล็กขนาดเท่าฝาม
ภายในห้องของเซี่ยเหยียนเหยียนเมื่อลู่หานถิงได้รับข้อความจากเซี่ยเหยียนเหยียนก็รีบตามมาทันที เซี่ยเหยียนเหยียนพาเขาเข้าไปในห้องห้องหนึ่ง ดวงตาเฉี่ยวคมดุจเหยี่ยวของลู่หานถิงกวาดตามองไปมาภายในห้องอย่างรวดเร็ว “แล้วคนอื่นล่ะ?” “ฉันไม่ได้ทําร้ายหว่านหว่านหรอกค่ะ เธออยู่ในห้องข้าง ๆ ค่ะ”ลู่หานถิงจ้องเซี่ยเหยียนเหยียนราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ริมฝีปากบางของเขาเปล่งน้ำเสียงที่หนักแน่นออกมา “ทางที่ดีคุณไม่ควรแตะต้องเธอเลยแม้แต่ปลายเล็บ ไม่อย่างนั้นผมจะฝังคุณทั้งเป็นไปพร้อมกับทั้งตระกูลเซี่ย !” ลู่หานถิงก้าวขายาวเดินออกไป ทุกก้าวย่างของเขารวดเร็วและฉุนเฉียว กางเกงขายาวที่ถูกตัดเย็บมาอย่างปราณีตพริ้วไหวเป็นเกลียวไปตามจังหวะการสาวเท้าที่น่าเกรงขามของเขา ภายในดวงตาคู่นั้นของเซี่ยเหยียนเหยียนเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา เซี่ยซีหว่านไม่เห็นจะมีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่กลับทำให้สองเทพบุตรอย่างลู่หานถิงและลู่จื่อเซียนหลงใหลจนหัวปักหัวปำ ในสายตาของพวกเขามีแต่เซี่ยซีหว่าน“ประธานลู่คะ อย่าไปเลยค่ะ !” เซี่ยเหยียนเหยียนโผเข้าไปกอดเอวบางของลู่หานถิงจากทางด้านหลัง ลู่หานถิงชะงักฝีเท้าลง “เอามือของคุณออกไ
พี่ชายใหญ่... สามคํานี้ได้ปลุกความทรงจําที่ถูกฝังลึกอยู่ในก้นบึ้งของหัวใจของลู่หานถิงในตอนที่เขากำลังยืนอยู่บนขอบของความตายขึ้นมาทันใด หญิงสาวผู้อบอุ่นอ่อนโยนโอบกอดเขาเอาไว้แน่น และเอ่ยเรียกที่ข้างหูเขาไม่หยุด “พี่ชายใหญ่ พี่ต้องรอดนะคะ ฉันจะช่วยพี่เองค่ะ !” นัยน์ตาของลู่หานถิงหรี่เล็กลง จากนั้นนิ้วมือเรียวยาวของมืออันแข็งแกร่งก็ค่อย ๆ คลายออกจากกัน หลายปีที่ผ่านมานี้ เขาไม่เคยลืมผู้หญิงในถ้ำคนนั้นเลยตอนนี้ เขาไม่สามารถลงมือกับเซี่ยเหยียนเหยียนได้ เมื่อได้สัมผัสกับอากาศบริสุทธิ์ เซี่ยเหยียนเหยียนก็สูดหายใจเข้าออกอย่างรวดเร็ว เมื่อครู่นี้เธอเกือบจะตายแล้ว การกล้าท้าทายผู้ชายคนนี้ก็เท่ากับกล้าเผชิญหน้ากับอันตรายจากความตาย แต่ทว่า เธอชนะการเดิมพันนี้แล้วช่วงที่ผ่านมาเธอได้ก่อเรื่องเอาไว้มากมาย และได้ทำให้ลู่หานถิงรู้สึกรังเกียจไปเรียบร้อยแล้ว หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นคงได้หายสาบสูญจากเมืองไห่เฉิงไปนานแล้ว แต่ลู่หานถิงกลับอดทนกับเธอครั้งแล้วครั้งเล่า เหตุก็เพราะความทรงจํานั้นอย่างเดียวเท่านั้น เซี่ยเหยียนเหยียนลูบลำคอที่แดงเถือกของตัวเองไปมา จากนั้นเธอก็โผเข้ากอดเอวบางของลู่หา
เซี่ยซีหว่านรู้ว่านั่นคืออะไร จากนั้นมือของเธอที่กำเข้าหากันแน่นมาตลอดก็คลายออกในทันทีราวกับว่าสิ่งที่สําคัญที่สุดในชีวิตได้หลุดลอยไปแล้วอย่างน่าใจหาย ทันใดนั้นเองเซี่ยเหยียนเหยียนที่อยู่ในชุดนอนชุดใหม่ก็เดินออกมา ใบหน้าของเธอแดงระเรื่อ ท่าทางการเดินของเธอเชื่องช้ามาก และริมฝีปากก็ประดับไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข “เหยียนเหยียน เมื่อครู่นี้ลูกกับประธานลู่ทําอะไรกันน่ะ” หลี่ยู่หลานรีบวิ่งไปหาเซี่ยเหยียนเหยียนอย่างตื่นเต้น และจงใจถามเสียงดัง “แม่คะ เมื่อครู่นี้หนูกับประธานลู่...หนูเป็นผู้หญิงของประธานลู่แล้วค่ะ”เซี่ยเหยียนเหยียนพูดพลางเดินมาหยุดอยู่ข้างกายเซี่ยซีหว่าน เธอจับมืออันเย็นเฉียบของเซี่ยซีหว่านขึ้นมาอย่างสนิทสนม และพูดว่า “หว่านหว่าน เธออย่าได้โทษประธานลู่เด็ดขาดเลยนะ ถ้าเธอจะกล่าวโทษก็โทษฉันเถอะ เมื่ออยู่กับประธานลู่ฉันไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจเอง ฉันรู้ตัวว่าฉันผิด ฉันขอโทษเธอด้วยนะ แต่เธอให้อภัยเราเถอะนะ” หลี่ยู่หลานหางชี้ขึ้นฟ้าไปแล้ว เพราะในที่สุดลูกสาวของเธอก็ปีนขึ้นเตียงมังกรได้แล้ว “เซี่ยซีหว่าน การแต่งงานระหว่างเธอกับประธานลู่ครั้งนี้เป็นเรื่องเข้าใจผิดกันอยู่แล้
เซี่ยซีหว่านค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน จากนั้นก็ยกมือขึ้นถอดสร้อยที่คอออก บนสร้อยมีแหวนวงเดียวในโลกที่เขามอบให้เธอห้อยอยู่ แหวนเพชรแวววาวที่ส่องแสงระยิบระยับภายใต้แสงไฟสลัว เธอแบมือเล็กออก แล้วยื่นสร้อยคอกับแหวนเพชรทั้งหมดไปตรงหน้าเขานัยน์ตาสีแดงเข้มของลู่หานถิงหรี่เล็กลงอย่างรุนแรง ภายในตาของเขารู้สึกเจ็บจนอยากจะระเบิดออกมา แม้แต่เส้นเลือดบนหน้าผากของเขาก็เริ่มเต้นอย่างเดือดพล่าน หลังจากนั้นไม่นานเขาก็เอ่ยปากพูดด้วยเสียงแหบแห้งว่า “ของที่ผมมอบให้ ไม่ต้องคืนผม แต่ถ้าคุณไม่ชอบก็ทิ้งถังขยะซะ”“ค่ะ” เมื่อเซี่ยซีหว่านพูดจบก็โยนสร้อยคอและแหวนเพชรทั้งหมดลงในถังขยะที่อยู่ข้าง ๆ ทันทีลู่หานถิงรู้สึกพะอืดพะอมในลำคอเล็กน้อย สายตาของเขามองไปที่สร้อยคอและแหวนวงเดียวในโลกที่ถูกทิ้งลงในถังขยะ“ของที่นี่คุณเป็นคนซื้อมาทั้งหมด ฉันก็ไม่ต้องการเหมือนกัน วันพรุ่งนี้ตอนเก้าโมงเช้า เราไปเจอกันที่สํานักงานเขตเพื่อเซ็นใบหย่า และอีกอย่างฉันจะไม่ปล่อยเซี่ยเหยียนเหยียนกับหลี่ยู่หลานสองแม่ลูกนั้นไปแน่ ถ้าคุณอยากปกป้องพวกเธอ เราก็จะได้เห็นดีกัน” เมื่อเซี่ยซีหว่านพูดจบเธอก็ก้าวเท้าเดินออกไปทันทีลู่หานถิงตัวแข
คุณท่านลู่รู้สึกตกตะลึงนิ่งอึ้งไปชั่วขณะหนึ่ง เธอพูดอะไรไม่ออกสักคำ เธอก้มหน้ามองหลานชายอันเป็นที่รักของเธอซึ่งกำลังนอนหนุนอยู่บนตักของเธอในตอนนี้ และพูดว่า “แต่ว่า หว่านหว่านไปแล้ว หลานจะทํายังไงล่ะ?” ลู่หานถิงยกริมฝีปากบางซีดเผือดขึ้นเล็กน้อยและพูดว่า “ผมก็แค่กลับไปใช้ชีวิตเหมือนเมื่อก่อน ผมเคยชินกับมันแล้วครับ” น้ำเสียงของลู่หานถิงทั้งแหบแห้ง อิดโรย หมดอาลัยตายอยาก และเย้ยหยันในตัวเองคุณท่านลู่น้ำตาไหลพราก เธอลูบผมสั้นของลู่หานถิงด้วยความทุกข์ใจ ผู้ชายในตระกูลลู่ล้วนน่าหลงใหล ไม่ว่าจะเป็นพ่อของเขา หรือตัวเขาเอง ในเวลานี้หญิงชราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนเองทําพลาดไปแล้วหรือเปล่า การสลับตัวแต่งงานในครั้งนี้จบลงอย่างรีบร้อน นอกจากรอยแผลเป็นในใจของลู่หานถิงที่หนักหนาสาหัสแล้ว เขายังได้รับบาดเจ็บไปทั้งตัวอีกด้วย“ได้จ้ะ ย่ารับปากหลานว่าจะไม่ไปหาหว่านหว่าน หว่านหว่านเป็นเด็กดี ในเมื่อพวกหลานเลือกที่จะปล่อยมือจากกันแล้ว ย่าก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก แต่นับจากวันนี้เป็นต้นไปหลานต้องให้ความร่วมมือในการรักษาอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นการรักษาอาการบาดเจ็บบนตัวหลาน หรืออาการผิดปกติของการนอนหลับและอา
เยี่ยหลิงพาเซี่ยซีหว่านเดินไปแล้ว ทั้งสองคนขึ้นรถสปอร์ตเฟอร์รารี แล้วแล่นออกไปอย่างรวดเร็ว ลู่หานถิงยืนมองไปยังทางที่รถสปอร์ตขับหายไปอยู่ที่เดิม เขารู้ว่าเยี่ยหลิงมีความแค้นต่อเขามาก เมื่อครู่เขาก็เพิ่งจะสาปแช่งตัวเองไป แต่ถ้าเธอมีเพื่อนสนิทอย่างเยี่ยหลิงคอยอยู่ข้างกายเธอในช่วงเวลานี้ เธอก็น่าจะลดความเศร้าลงไปบ้าง จากนั้นเขาจึงเดินผละออกมาอย่างรวดเร็ว ซี๊ดทันใดนั้นเองลู่หานถิงก็เปล่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด หน้าผากของเขามีเหงื่อเย็น ๆ ผุดออกมาเต็มไปหมด “ท่านประธาน พวกเรารีบกลับโรงพยาบาลเถอะ แผลของท่านต้องได้รับการเยียวยา อีกอย่างแผลนี้ก็น่าเป็นกังวลมาก คุณท่านลู่ได้จ้างทีมแพทย์มืออาชีพมารักษาท่านแล้ว” เลขาเหยียนอี้รีบวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วลู่หานถิงได้รับบาดเจ็บที่จุดสำคัญต่อชีวิต คุณท่านเป็นห่วงเรื่องนี้มากจึงขอให้ทีมแพทย์มารักษาแล้ว วันนี้หมอไม่เห็นด้วยกับการที่เขาจะเดินไปมาอยู่ด้านนอก แต่เขาก็ยืนยันที่จะมาให้ได้ “อย่าบอกเซี่ยซีหว่านเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของผมนะ ผมไม่ต้องการให้ใครไปพูดไร้สาระต่อหน้าเธอทั้งนั้น เลขาเหยียน คุณเข้าใจไหม?” ลู่หานถิงตวัดสายตาเฉี่ยวคมมองเลขา
หลี่หยู่หลานเดินมาหยุดอยู่หน้าเตียงผู้ป่วย ขณะที่ชายชรากําลังนอนหลับอยู่บนเตียง จากนั้นแววตาของหลี่ยู่หลานก็ฉายแววอาฆาตแค้นออกมา ตาแก่นี่ทำไมถึงได้ตายยากนัก ขนาดวางยาพิษแล้วยังไม่เป็นอะไรเลยเธอหยิบเข็มฉีดยาออกมาอย่างว่องไว แล้วแทงมันเข้าไปในแขนของชายชราทันทีแต่ทันใดนั้นเธอก็สังเกตเห็นถึงความผิดปกติ เพราะแขนของชายชราทั้งเย็นเฉียบและแข็งทื่อ อย่างกับ...คนตาย ! เกิดอะไรขึ้น? หลี่ยู่หลานยื่นนิ้วมือของเธอไปจ่อที่จมูกของชรายชรา ซึ่งเธอไม่รู้สึกถึงการหายใจอีกต่อไปเขาเสียชีวิตนานแล้ว ! แย่แล้ว เธอหลงกลแล้ว !ทันใดนั้นเองประตูห้องก็ถูกเปิดออกพร้อมกับแสงสีขาวสว่างจ้าที่สาดส่องเข้ามา กลุ่มตํารวจในชุดเครื่องแบบรีบพุ่งเข้ามาคุมตัวหลี่ยู่หลานเอาไว้ทันที และเข็มฉีดยาอันนั้นก็ถูกใส่ไว้ในถุงซิปล็อกเรียบร้อย “คุณหลี่หยู่หลาน ตอนนี้คุณเป็นผู้ต้องสงสัยในการมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมโดยเจตนา และตอนนี้หลักฐานก็ชัดเจนแล้ว พวกเราจะพาคุณกลับไปสอบสวน !” หลี่ยู่หลานเบิกตากว้างเต็มสองตา ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและกระวนกระวาย เธอรีบดิ้นรนทันที “พวกคุณปล่อยฉันนะ ฉันไม่ได้ทำ ฉันไม่รู้เรื่
เซี่ยซีหว่านรู้สึกได้ว่าลู่ซือเจี๋ยรักลูกชายทั้งสองคนนี้ ดังนั้นที่เมืองไห่เฉิง เขาไม่สามารถอนุญาตให้เธออยู่ได้ แต่ตอนนี้เมื่อรู้ว่าเธอเป็นลูกสาวของหลินสุ่ยเหยา เมื่อตอนนั้นหลินสุ่ยเหยากับหลิวอิงหลั่วสองสาวครองอันดับหนึ่งเรื่องความเก่งกล้าสามารถที่สุดของเมืองหลวง เขาต้องการตามหาหลินสุ่ยเหยา ผ่านตัวเธอ ดังนั้นเขาจึงปล่อยวางลูกชายสองคนของเขาลงและปล่อยให้เธอดำรงอยู่หมายความว่า ภายในใจของลู่ซือเจี๋ย หลิวอิงหลั่วมีความสำคัญมากกว่าลูกชายทั้งสองคนของเขานี่เป็นครั้งแรกที่ เซี่ยซีหว่านตระหนักอย่างแท้จริงว่าลู่ซือเจี๋ยรักหลิวอิงหลั่วอย่างสุดซึ้งหลิวอิงหลั่วหายตัวไปหลายปี ปีนี้ลูกชายของเธอลู่หานถิงอายุ 28 ปีแล้ว เซียซีหว่านไม่รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วมันเป็นอย่างไร ความรักที่ลึกซึ้งถึงสามารถทนต่อการกัดเซาะและความแข็งแกร่งของปีที่เลยผ่านได้ จึงทำให้ชายที่ราวกับจักรพรรดิยังคงรออยู่ที่นี่ตลอด บางทีอาจเป็นสถานที่ที่พวกเขาพบกันครั้งแรกแต่รักอย่างสุดซึ้ง ทำไมถึงต้องเจ็บอีก?ตอนนั้นหลินอิงหลั่วตั้งท้องลูกคนที่สอง เธอหยิบมีดมาคว้านท้องตัวเอง อุ้มทารกออกมา ช่างน่าเวทนานัก?ถ้าไม่ใช่เพราะถูกบีบบังคับจ
แต่ว่า เธอปรากฏตัวต่อหน้าเขาครั้งแล้วครั้งเล่าทุกครั้งที่เธอปรากฏตัว เขาจะควบคุมตัวเองไม่ได้และไม่เป็นตัวของตัวเองแม้แต่น้อยเขาพยายามไม่ให้ไปหลงเสน่ห์เธอแล้ว แต่ก็ทำไม่ได้หลังจากที่ได้รู้ในห้องนั่งเล่นเมื่อครู่นี้ว่าเธอคือ เด็กผู้หญิงตัวน้อยเมื่อก่อนนั้น เดิมที่แม่ของเขายอมยกเจ้าสาวตัวน้อยแก่เขา เขารู้สึกว่าความยับยั้งชั่งใจและความอดกลั้นที่ผ่านมาในหลายวันมานี้ได้พังทลายลงลู่หานถิงจ้องมองเธออย่างดุดันด้วยดวงตาสีแดงก่ำ เขายกริมฝีปากบางของเขาขึ้นเล็กน้อย และพูดอย่างเยาะเย้ยว่า “ทำไมสวี่เส้าหนานถึงได้ ลู่จื่อเซียนถึงได้ แต่ทำไมฉันไม่ได้เหรอ?”“…”ใบหน้าเล็กสวยงามของเซี่ยซีหว่านเปลี่ยนเป็นสีขาวและแดงสลับกัน เธอยกมือเล็กขึ้นเพื่อตบลงไปยังใบหน้าอันหล่อเหลาด้วยความน่าเกลียดชังอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอไม่ไม่ได้ตบเขาเพราะลู่หานถิงจับข้อมือเรียวของเธอไว้ได้ทัน เธอจึงไม่ได้ตบใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาลู่หานถิงมองดูเธอด้วยแววตาเศร้าโศกและพูดว่า “เซี่ยซีหว่าน ผมไม่รู้ว่าคุณกำลังใช้เล่ห์เหลี่ยมอะไรนะ สิ่งที่ผมสามารถให้คุณได้คือสิ่งที่ลู่จื่อเซียนและสวี่เส้าหนานไม่สามารถให้คุณได้แน่นอน ถ้าหา
เขาจำไม่ได้แล้วแน่นอน เพราะความทรงจำเหล่านั้นเธอลบมันไปหมดแล้ว ดังนั้นเขาจึงสามารถพูดได้อย่างชอบธรรมแถมเขายังพูดอีกว่า การที่เขานอนกับเธอคือ การนำน้ำสกปรกสาดใส่ตัวเขา เขาคิดว่าเธอเป็นอะไร น้ำสกปรกเหรอ?แน่นนอน เขาเกลียดเธอ !แต่ในเมื่อเขาเกลียดเธอมาก ทำไมเขาถึงมารังควานเธอด้วย?เซี่ยซีหว่านมองใบหน้าที่เย็นชาหล่อเหลาของเขาและพูดเยาะเย้ยว่า “ฉันแค่พูดไร้สาระ พอใจหรือยังล่ะ คนที่บริสุทธิ์ผุดผ่องอย่าประธานลู่ ฉันจะทำให้คุณมีมลทินได้อย่างไรคะ !”“บริสุทธิ์เหรอ” ลู่หานถิงขมวดคิ้วรูปดาบอันองอาจผึ่งผายนั้นและกล่าวว่า “คนที่พูดว่าผมนอนกับคุณ ก็คือคุณ ตอนนี้คนที่กำลังพูดไร้สาระก็คือคุณ คิดว่าเป็นหญิงสาวคนหนึ่งก็สามารถพูดจาเหลวไหลแบบนี้ออกมาได้งั้นเหรอ เซี่ยซีหว่าน คุณยังมียางอายอยู่อีกไหม?”“ฉันจะมีหรือไม่มียางอายเกี่ยวอะไรกับคุณด้วยเหรอคะ ใช่สิประธานลู่ คุณคงจะยังไม่...เป็นหนุ่มน้อยบริสุทธิ์คนหนึ่งอยู่ใช่ไหมคะ?”ดวงตาของเซี่ยซีหว่านเปล่งประกาย ทันใดนั้นดูเหมือนว่าจะเจอกับปัญหาเข้าแล้ว เขาไม่มีความทรงจำช่วงนั้นแล้ว เขาคงจำไม่ได้ว่าเขากับเธอเคยเดือดพล่านกันบนเตียงมาก่อน งั้นเขาคงไม่คิดว่า
เซี่ยซีหว่านใช้ส้อมจิ้มสเต็กชิ้นเล็ก ๆ เพิ่งเตรียมจะใส่เข้าปาก ตอนนี้เท้าของเธอที่อยู่ใต้โต๊ะถูกเตะอย่างแรง สเต็กบนส้อมก็ร่วงตกลงมาบนจานทันที“หว่านหว่าน คุณเป็นอะไรไปครับ?” ลู่จื่อเซียนถามด้วยความเป็นห่วงร่างผอมเพรียวของเซี่ยซีหว่านสั่นไหวเล็กน้อย เธอมองไปยังลู่หานถิงซึ่งนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เขาไม่ได้พูดอะไรมาโดยตลอดตั้งแต่เธอเดินเข้ามา แต่เขาเพิ่งเตะเธอเขาเป็นอะไรของเขา?ลู่หานถิงหั่นสเต็กในมืออย่างสง่างามราวกับว่าคนที่เตะเมื่อกี้ไม่ใช่เขา ทั้งหมดไม่เกี่ยวอะไรกับเขาเลยเข้าใจแกล้งจริง ๆ !เซี่ยซีหว่านด่าเขาในใจแล้วยิ้มให้ลู่จื่อเซียนและกล่าวว่า “จื่อเซียน ฉันไม่เป็นอะไรค่ะ”ทั้งห้าคนก็จบมือค่ำในบรรยากาศอันแปลก ๆ แบบนี้ลง...หลังมื้อเย็น เซี่ยซีหว่านไปห้องน้ำทันทีที่เธอเดินเข้ามา มือใหญ่มือหนึ่งจากด้านในยื่นออกมา และคว้าข้อมือที่เรียวยาวของเธอแล้วดึงเธอเข้าไปเซี่ยซีหว่านชนเข้ากับหน้าอกแข็งแกร่งอย่างกระทันหัน หน้าอกนี้แข็งแกร่งราวกับกับแพง เธอชนเข้าไปราวกับกระดูกของเธอจะแตกสลาย นัยน์ตาขาวบริสุทธื์แดงก่ำด้วยความเจ็บปวดเธอเงยหน้าขึ้นและใบหน้าที่หล่อเหลาละเอียดงดงามของล
ด้านนอกประตูคือลู่จื่อเซียนจริง ๆ และยังมีเงาเพรียวบางเงาหนึ่งอยู่ข้างกายของลู่จื่อเซียนหลิวจ้าวตี้ดีใจมาก “จื่อเซียน ลูกกลับมาแล้วเหรอ คู่หมั้นของลูก…”แววตาของหลิวจ้าวตี้จับจ้องไปยังเซี่ยซีหว่าน เมื่อมองชัดเจนแล้วว่าเป็นเซี่ยซีหว่าน รูม่านตาของหลิวจ้าวตี้ก็เบิกกว้างและตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ในทันทีเป็นไปได้ยังไงกัน?ทั้งลู่ซือเจี๋ยและลู่หานถิงที่อยู่ในห้องนั่งเล่นต่างก็ได้ยินการเคลื่อนไหวที่ด้านนอกประตู คืนนี้พวกเขากำลังรอให้ลู่จื่อเซียนพาคู่หมั้นลึกลับกลับบ้านลู่ซือเจี๋ยวางหนังสือพิมพ์เศรษฐกิจในมือลงแล้วยืนขึ้นพลางเอ่ยถามว่า “เกิดอะไรขึ้น?”ทันใดนั้นลู่จื่อเซียนจูงมือเล็ก ๆ ของเซี่ยซีหว่านเดินเข้ามาทันทีที่ลู่ซือเจี๋ยเห็นเซี่ยซีหว่าน เขาเคยต่อกรกับเซี่ยซีหว่านมาแล้วสองครั้ง เขารู้ดีว่าเด็กสาวคนนี้ไม่ธรรมดา แต่เขาไม่คิดมาก่อนว่าเซี่ยซีหว่านจะเป็นลูกสาวของหลินสุ่ยเหยา!ในขณะเดียวกันนั้นลู่หานถิงก็มองไปยังลู่จื่อเซียน จากนั้นดวงตาอันเฉี่ยวคมของเขาก็ค่อย ๆ หันไปมองใบหน้าที่งดงามของเซี่ยซีหว่าน จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนการมาถึงของเซี่ยซีหว่านทำให้ครอบครัวลู่ทั้งหมดตกอยู่ในบรรยากา
ลู่จื่อเซียนพูดกับเธอว่า หว่านหว่านผมชอบคุณครับเซี่ยซีหว่านนั่งลง เธอรู้ว่าลู่จื่อเซียนรู้สึกกับเธออย่างไร ได้รับความรักจากคุณชายรองตระกูลลู่ที่ทั้งสง่างาม และมีความสามารถ เธอควรจะมีความสุข และตื่นเต้นมากกว่าผู้หญิงคนไหน ๆ อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้รู้สึกแบบนั้นกับลู่จื่อเซียน นอกจากนี้เธอแต่งงานกับลู่หานถิงแล้ว แม้จะเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ก็ตาม แต่เธอก็เคยเป็นพี่สะใภ้ของเขาแล้ว และตอนนี้เธอได้กลายมาเป็นคู่หมั้นของเขาอีกครั้ง ความรู้สึกนี้เป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดขณะเดียวกันเซี่ยปัง และหลานเหยียนเดินเข้ามา เขาพูดว่า “หว่านหว่านการแต่งงานในครั้งนี้เป็นความต้องการของแม่ของลูก พวกเราคิดว่าคุณชายรองตระกูลลู่เป็นคนที่ดีมาก เขาจะไม่ทำให้ลูกเศร้าเสียใจเหมือนใครบางคน ตอนนี้ลูกคงจะไม่ปฏิเสธคุณชายรองตระกูลลู่เพราะคน ๆ นั้นใช่ไหม?”“ใช่แล้วหว่านหว่าน ผู้หญิงอย่างพวกเราต้องมองไปข้างหน้า ผ่านไปแล้วก็ผ่านไป ไม่ต้องไปเสียใจกับมัน ปล่อยวางในสิ่งที่ควรจะปล่อย ถ้าลูกไม่ยอมเปิดใจ และก้าวไปข้างหน้า ลูกจะเห็นความงามของชีวิตได้อย่างไร?”เซี่ยปังและหลานเหยียนไม่ชอบลู่หานถิง ลู่หานถิงแต่งงานกับลี่เหยียนหลา
สวี่เส้าหนานรู้สึกขมขื่นภายในใจ !คุณท่านลี่ไม่ต้องการให้เซี่ยซีหว่านลงเอยกับสวี่เส้าหนานหลานชายของท่าน เธอคิดว่าสองคนนี้ไม่คู่ควรกัน ตอนนี้คุณท่านลี่กำลังยืนมองลู่จื่อเซียน คุณท่านลี่รู้จักลูกชายสองคนของตระกูลลู่ เป็นอย่างดี เห็นได้ชัดว่าลู่จื่อเซียนเป็นเหมือนกับดอกบัวที่บานในโคลนตม เขาเป็นคนที่ดีมากชีวิตส่วนตัวของลู่จื่อเซียนใสสะอาดมาก และเขายังไม่เคยมีแฟนมาก่อน คุณท่านลี่ดูออกว่าลู่จื่อเซียนชอบเซี่ยซีหว่านมาก เขาดูแล และเอาใจใส่เธอด้วยความรัก ดังนั้นคุณท่านลี่จึงมองเขาเหมือนหลานชายคนหนึ่ง ท่านเหลือบมองลู่จื่อเซียน จากนั้นก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจเซี่ยปังและหลานเหยียนก็พอใจในตัวลู่จื่อเซียนมากเช่นเดียวกัน ในมหานครเอมพีเรียลแห่งนี้ ลู่จื่อเซียนเป็นคนที่มีความสามารถและหล่อเหลา อีกทั้งยังเหมาะสมกับเซี่ยซีหว่านแหวนหยกวงนี้เป็นแหวนที่หลินสุ่ยเหยาสวมอยู่ตลอดเวลา เซี่ยปังและหลานเหยียนจำข้าวของส่วนตัวของหญิงสาวได้อย่างรวดเร็ว ย้อนกลับไปในตอนนั้นเธอได้หมั้นหมายเซี่ยซีหว่านกับลูกชายของเพื่อนสนิท พวกเขาคิดไม่ถึงว่าเด็กชายคนนั้นจะเป็นคุณชายรองตระกูลลู่ลู่จื่อเซียนเป็นนักวิชาการที่อายุน้อยท
เซี่ยปัง “...”ที่นี่...คือตระกูลเซี่ย ไม่ใช่เหรอ?เซี่ยปังมองไปยังคุณท่านลี่ที่พูดออกไปเช่นนั้น มุมปากของเขากระตุกเล็กน้อยคุณท่านลี่เป็นนายหญิงของตระกูลลู่มานานหลายปีแล้ว ท่านมีภาพลักษณ์ที่น่าเกรงขามเป็นอย่างมาก บรรดาผู้ใต้บังคับบัญชาที่ถูกท่านดุก็มักจะกลัวจนขาอ่อนแรง และเกือบจะล้มลงไปในทันทีขณะเดียวกันร่างที่หล่อเหลา และดูชั่วร้ายก็ปรากฏตัวขึ้น เขาพูดว่า “อย่าทำให้เขาตกใจกลัวสิครับคุณยาย ผมเองที่มาที่นี่ !”เมื่อทุกคนหันไปมอง กลายเป็นสวี่เส้าหนานคุณชายของตระกูลสวี่ เจ้าชายแห่งมหานครเอมพีเรียลที่ไม่เคยเกรงกลัวสิ่งใดเขามาที่นี่จริง ๆ !คุณท่านลี่มองสวี่เส้าหนานด้วยสีหน้าไม่พอใจ ราวกับว่าที่นี่เป็นบ้านของท่านจริง ๆ ท่านพูดว่า “ทำไมหลานถึงมาที่นี่ได้ล่ะ?”“คุณยายผมมาที่นี่เพราะ…” ดวงตาทรงดอกท้อของสวี่เส้าหนานมองไปยังใบหน้าที่งดงามของเซี่ยซีหว่าน และพูดต่อว่า “...เพราะเซี่ยซีหว่านครับ !”คุณชายที่มีชื่อเสียงเช่นเขา มีข่าวลือไปทั่วว่าเขาเปลี่ยนผู้หญิงราวกับเปลี่ยนเสื้อผ้า เซี่ยปังและหลานเหยียนรีบดึงเซี่ยซีหว่านไปทางด้านหลังพวกเขา และพูดว่า “คุณชายสวี่ครับ หว่านหว่านของพวกเราไม่
คุณท่านลี่ยิ้ม และพูดว่า “ทำไมล่ะ ฉันมาร่วมฉลองงานวันเกิดของเซี่ยปังผู้ยิ่งใหญ่ไม่ได้เหรอ?”เมื่อท่านพูดจบ ภายในห้องโถงก็เกิดความโกลาหลขึ้นในทันที ท่านผู้เฒ่าแห่งตระกูลลี่มาที่นี่เพื่อฉลองวันเกิดให้กับเซี่ยปัง!”คุณท่านลี่มองไปที่เซี่ยปังและหลานเหยียน จากนั้นก็พูดว่า “ท่านเซี่ย คุณนายเซี่ย ฉันมาที่นี่โดยไม่ได้รับคำเชิญ หวังว่าพวกคุณจะไม่ถือสาและไล่ฉันออกไปใช่ไหม?”เซี่ยปังและหลานเหยียนชำเลืองมองกัน พวกเขาไม่คิดว่าจู่ ๆ คุณท่านลี่จะมาร่วมงานด้วย แม้ว่าตระกูลเซี่ยจะเป็นตระกูลที่มีอิทธิพล แต่ตระกูลขุนนางเก่าแก่ที่ร่ำรวยในมหานครเอมพีเรียลก็ไม่ได้สนใจที่จะคบค้าสมาคมกับพวกเขา นั่นเป็นเป็นเหตุผลว่าทำไมเซี่ยซีหว่านจึงไม่สามารถเข้าสู่แวดวงคนดังในมหานครเอมพีเรียลได้ตระกูลเซี่ยและสี่ยักษ์ใหญ่แห่งมหานครเอมพีเรียลไม่เคยติดต่อไปมาหาสู่ หรือมีปัญหาอะไรกันมาก่อน แต่จู่ ๆ วันนี้คุณท่านลี่กลับมาที่นี่อย่างกะทันหัน ทำให้ทุกคนในที่นี้ต่างก็ตกตะลึงแต่ในเมื่อท่านมาถึงที่นี่แล้ว เซี่ยปังก็ไม่สามารถไม่ต้อนรับท่าน เขาจึงพูดว่า “คุณท่านลี่ ยินดีต้อนรับครับ”คุณท่านลี่ยิ้ม จากนั้นก็ส่งกล่องของขวัญให้กับเ