หลี่ยู่หลานจ้องมองไปที่เซี่ยซีหว่านอย่างอาฆาตแค้น เธอรู้สึกว่าชุดเจ้าหญิงแบรนด์ MOO ตัวนี้เหมาะกับเซี่ยซีหว่านราวกับสั่งตัด เซี่ยซีหว่านดูใสซื่อและบริสุทธิ์ แม้ว่าเธอจะไม่ทำอะไรเลย เธอก็สามารถกลายเป็นจุดสนใจของทุกคนได้อย่างง่ายดายหากสิบปีก่อนตระกูลเซี่ยไม่เกิดเรื่องนั้นขึ้น ตอนนี้เซี่ยซีหว่านคงจะเป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งแห่งเมืองไห่เฉิงตอนนั้นเซี่ยซีหว่านและเยี่ยหลิงเป็นที่น่าสนใจมาก รถส่วนตัวที่เข้าออกและล้อมรอบบ้านของพวกเธอล้วนแต่เป็นรถของคุณชายตระกูลร่ำรวย ทุกคนล้วนต้องการเห็นความงามของหว่านสาวงามแห่งทิศใต้ และ หลิงสาวงามแห่งทิศเหนือหว่านสาวงามแห่งทิศใต้ และ หลิงสาวงามแห่งทิศเหนือ…หลี่ยู่หลานสูดหายใจเข้าลึก ๆ และยิ้มแย้มออกมาอย่างรวดเร็ว ตอนนี้สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งแห่งเมืองไห่เฉิงคือลูกสาวของเธอเซี่ยเหยียนเหยียน!หลี่ยู่หลานก้าวไปด้านหน้าและจับมือเล็ก ๆ ของเซี่ยซีหว่านไว้อย่างสนิทสนม “ซีหว่าน เธอเปลี่ยนชุดแล้วเหรอ มานี่มา มาให้ฉันแนะนำเพื่อน ๆ ฉันให้รู้จักเธอสักหน่อย ... แต่เดี๋ยวก่อนนะ ทำไมชุดที่เธอใส่มันคุ้นแบบนี้ล่ะ นี่คือ...ชุดเจ้าหญิงที่เสี่ยวเตี๋ยจะใส่ในค่ำคืนนี้ไม่ใช
อย่างไรก็ตามหลี่ยู่หลานก็เป็นนักแสดงเก่า วันเกิดปีนี้จะต้องไม่จบลงเช่นนี้ เธอปรับอารมณ์แล้วเดินไปดึงมือเล็ก ๆ ของเซี่ยซีหว่าน “ซีหว่านเรื่องนี้ฉันผิดเอง…”เธอเริ่มขอโทษและยอมรับผิด หากเซี่ยซีหว่านไม่ไว้หน้าเธอ เธอก็จะกลับมาได้เปรียบต่อหน้าฝูงชนอีกครั้งแต่น่าเสียดายที่ความคิดของหลี่ยู่หลานนั้นเซี่ยซีหว่านมองออกอย่างทะลุปรุโปร่ง มีคนอยากจะแสดงละคร แต่เธอต้องการที่จะทำลายเวที ดังนั้นเธอจึงรีบดึงมือเล็ก ๆ ของเธอกลับ และพูดว่า “มันเป็นความผิดของหนูเองที่ทำให้ทุกคนไม่มีความสุข พวกคุณสนุกกันให้เต็มที่เถอะค่ะ หนูขอตัวกลับก่อนดีกว่าค่ะ”เซี่ยซีหว่านที่รู้ทัน เดินออกไปจากห้องโถงมือของหลี่ยู่หลานแช่แข็งอยู่กลางอากาศ เธอยังไม่ทันได้ดึงมือกลับ ครั้งนี้เธอจะอาเจียนเป็นเลือดจริง ๆ !...เซี่ยซีหว่านออกจากห้องโถง เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา และพบกับข้อความใน WeChat ที่เยี่ยหลิงส่งมา “เป็นยังไงบ้าง เธอได้ทำวงแตกกระเจิงหรือเปล่า?”เซี่ยซีหว่าน “อือ”เยี่ยหลิง “หว่านหว่านเจ๋งมาก!”ก่อนที่เซี่ยซีหว่านจะกลับมายังเมืองไห่เฉิง เธอได้ขอให้เยี่ยหลิงจับตามองการเคลื่อนไหวของหลี่ยู่หลานในวงการบันเทิงแล้
เมื่อ 10 ปีที่แล้วที่เมืองไห่เฉิงไม่เพียงแต่มีตำนานของหว่านสาวงามแห่งทิศใต้และหลิงสาวงามแห่งทิศเหนือเท่านั้น แต่ยังมีตำนานของเซี่ยซีหว่านและซูซีคู่รักกิ่งทองใบหยกด้วยดังนั้นทุกคนตรงนั้นต่างก็รู้ว่าเซี่ยซีหว่านเคยเป็นคู่หมั้นของซูซี แต่ความรู้สึกของผู้ชายก็เหมือนกับการพลิกหน้าหนังสือ มันเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตอนนี้เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยกลายเป็นคู่หมั้นของซูซีและยังเป็นอนาคตคุณนายตระกูลซู ทุกคนจึงรีบปรับตัวไปตามสถาณการณ์ “อดีตก็คืออดีต”เดิมทีเมื่อครู่นี้เซี่ยซีหว่านได้พลิกกลับสถานการณ์ภายในห้องโถงได้อย่างสวยงามแล้ว แต่เมื่อเห็นซูซีที่ปรากฏตัวขึ้นมาอย่างไม่ทันตั้งตัวนั้น แม้ว่าเหล่าคนรวยพวกนี้จะเห็นอกเห็นใจเธอ แต่ร่างกายของพวกเขากลับยืนอยู่ข้างเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยอย่างเห็นได้ชัดทันใดนั้นสมาชิกทั้งสามคนของตระกูลเซี่ยต่างก็เชิดหน้าชูคอเซี่ยซีหว่านยืดร่างกายผอมเพรียวของเธอขึ้น เธอทั้งสวยและมีเสน่ห์ แล้วเธอก็ค่อย ๆ ยิ้มออกมาต่อหน้าของทุกคน “แม้ว่าจะเป็นเรื่องน่าขบขับที่ได้เห็นสิ่งที่ฉันทิ้งไปถูกหยิบขึ้นมาเป็นสมบัติของใครบางคน แต่ฉันก็ยังหวังว่าพวกคุณจะรักกันยืนยาว เพราะพวกคุณคือคู่แท้ที่ช่างเหมาะส
เธอส่งรูปที่ใส่ชุดว่ายน้ำไปให้ลู่หานถิงแล้ว!ทั้งสองคนได้ทำสัญญาตกลงร่วมกันจึงได้เพิ่มการติดต่อของกันและกันไว้ เธอจำได้ว่าตอนนั้นเธอเคยถามเขาว่าต้องเพิ่มวีแชทไว้ไหม?นักธุรกิจใหญ่อย่างลู่หานถิงขมวดคิ้วคมเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เคยใช้อะไรแบบนี้มาก่อน แต่คืนวันนั้นเองที่เขากลับมาก็พบว่าบนมือถือของเขามีข้อความจากวีแชทเต็มไปหมด และเพิ่มเธอเป็นเพื่อนเรียบร้อยแล้วทำอะไรของเธอ?มือบอนเหรอ?เซี่ยซีหว่านคิดจะลบรูปนั้นออก แต่ก็ไม่ทันการเนื่องจากเธอส่งไปนานแล้วนี่เธอบ้าไปแล้วจริง ๆจู่ ๆ ก็มีรูปภาพจากเยี่ยหลิงเด้งขึ้นมาสองสามรูปพร้อมกับข้อความว่า ไหนลองบอกสัดส่วนเธอมาสิ ดูสิว่าสัดส่วนเธอเปลี่ยนไปหรือเปล่า ไม่นานมานี้แบรนด์ Victoria’s Secret ได้ออกคอลเลคชั่นชุดนอนแบบใหม่ ลองดูสิว่าคุณสามีเธอเขาชอบแบบไหน?“แบบนี้ก็ดูสดใสดีนะ”“หรือแบบนี้ดี”เซี่ยซีหว่าน “...” ณ ต่างประเทศ ภายในอาคารบริษัทการเงินที่สูงที่สุดกว่าหมื่นฟุต ผู้บริหารบริษัทระดับสูงแต่ละคนมีบัตรสีฟ้าห้อยอยู่ที่คอกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะประชุมยาวทั้งสองข้างของห้องประชุมวีไอพี หัวหน้าฝ่ายการเงินกำลังรายงานเรื่องงบประมาณการขายในป
พอเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดมาถึงตรงนี้ มือของซูซีที่กำลังถือแก้วไวน์แดงยกจิบก็หยุดชะงักทันที แล้วคิ้วหนาก็ขมวดเข้าหากันเป็นปมยุ่งชนกันในฐานะที่ซูซีเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองไห่เฉิง แน่นอนว่าเขาต้องรู้จักตระกูลลู่ แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้รู้จักตระกูลนี้ไปมากกว่าคนอื่น ๆ นัก คุณชายลู่หานถิงแห่งตระกูลลู่นั้นเป็นคนที่ค่อนข้างลึกลับและเก็บตัว เขาไม่เคยปรากฎตัวต่อหน้าสาธารณะชนที่ไหนเลย ซูซีเคยให้คนไปตามสืบข้อมูลของเขา รู้เพียงว่าเขาเพิ่งมาอยู่ที่ไห่เฉิงได้ไม่กี่ปีและเป็นเจ้าของ...มหานครเอมพีเรียลมหานครเอมพีเรียลเป็นเมืองแห่งธุรกิจการเงินที่รุ่งเรื่องที่สุด หากเดินอยู่บนถนนย่านนั้นคุณจะพบกับลูกเศรษฐีอยู่ทั่วทุกที่ และหากฐานะครอบครัวอยู่ในระดับปานกลางก็จะไม่สามารถย่ำกรายเข้าไปที่นั่นได้แน่นอนว่าในมหานครเอมพีเรียลนั้นยังมีตระกูลระดับวีไอพีเป็นของตัวเอง ตระกูลเหล่านั้นเรียกได้ว่าเป็นตระกูลยักษ์ใหญ่ในแวดวงธุรกิจ และเป็นที่รู้จักในฐานะเส้นเลือดใหญ่ทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียซูซียังเคยได้ข่าวมาว่าทายาทของตระกูลอันดับหนึ่งในมหานครเอมพีเรียลนั้นยังเป็นตระกูลลู่อีกด้วยบังเอิญมากเลยใช่ไหม?อันท
ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร?ลู่หานถิงเป็นผู้ใหญ่และนั้นก็เป็นโทรศัพท์ส่วนตัวของเขา ถ้าหากไม่ใช่คนสนิทแล้วจะมารับสายได้อย่างไร?เขาทำอะไรอยู่นะ?เซี่ยซีหว่านไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเป็นอะไรกันแน่?เธอเป็นอะไรกันกับเขา ลู่หานถิงจะมาช่วยเธอทำไม?เธอมันก็เป็นแค่เจ้าสาวที่มาแต่งงานแทนและเราสองคนก็มีสัญญาร่วมกันแล้ว เขาจะมีคนรักที่อื่นมันก็เป็นเรื่องปกตินี่เซี่ยซีหว่านเหงื่อออกจนชื้นมือ ตอนเธออายุ 9 ขวบ ชีวิตของเธอเปลี่ยนไปอย่างไม่คาดคิด ทุกคนทอดทิ้งเธอ สิบปีที่ผ่านมาเธอเรียนรู้ที่จะเติบโตได้ด้วยตัวเอง เรียนรู้ที่จะรับมือกับความอ่อนแอและความแข็งแกร่ง นอกจากเยี่ยหลิงแล้วเธอก็ไม่เชื่อใจใครง่าย ๆ อีกเลยเธอไม่อยากถูกคนที่เธอรักและไว้ใจแทงข้างหลัง และผลักเธอให้ตายอย่างไม่มีวันหวนกลับคืนแต่ทำไมกับผู้ชายที่ชื่อลู่หานถิงเขาถึงได้เข้ามาควบคุมและมีอิทธิพลต่อชีวิตเธอได้ขนาดนี้ ไม่อยากจะเชื่อว่าเพียงระยะเวลาสั้น ๆ เขาสามารถทำลายสิ่งที่เธอเรียนรู้มาเป็นสิบ ๆ ปีลงได้ และทำให้เธอเชื่อใจเขาได้จากความเชื่อใจก็กลายมาเป็นความคุ้นเคย กลายเป็นสิ่งที่ทำให้คนอ่อนแอเซี่ยซีหว่านสงบสติอารมณ์ตัวเองได้สักพัก เธอ
ผู้ชายที่เธอช่วยชีวิตในตอนนั้น?เซี่ยซีหว่านจำได้ว่าตอนนั้นเธออายุได้ 12 ปี และช่วยชีวิตผู้ชายคนหนึ่งที่นอนหมดสติอยู่ท่ามกลางหิมะที่หนาวเย็น เธอมั่นใจเลยว่าถ้าเธอไปช้ากว่านั้นผู้ชายคนนั้นคงตายอยู่ท่ามกลางหิมะเป็นแน่ตอนนั้นมีหิมะหนาขวางถนนอยู่ ฟ้าเริ่มมืดลงเรื่อย ๆ อากาศก็หนาวจนสั่นไปทั้งตัว เธอจึงพาเขาไปในถ้ำที่อยู่ใกล้ ๆ แถวนั้นด้วยความทุลักทุเล เธอนำกิ่งไม้มาจุดไฟเพื่อทำให้ตัวอุ่นขึ้น แต่เนื่องจากอากาศหนาวมากจึงทำให้แขนขาของเขาแข็งทื่อไปหมดเซี่ยซีหว่านจึงถอดเสื้อของเธอออกแล้วกอดผู้ชายคนนั้นไว้แน่น ใช้อุณหภูมิในร่างกายของเขาและเธอทำให้ตัวอุ่นขึ้น เพราะแบบนี้ ผู้ชายคนนั้นถึงรอดมาได้เซี่ยซีหว่านพยายามคิดทบทวน ตอนนั้นเธอเพิ่งจะอายุแค่ 12 ปี และในใจก็เพียงอยากจะช่วยคนก็เท่านั้น แต่ในสายตาของคนอื่นมันกลับเป็นภาพที่ดูหวานซึ้งจากการยุยงใส่ร้ายของเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยและทำให้ซูซีเข้าใจว่าเธอเป็นผู้หญิงสกปรกเยี่ยหลิงพูดถูกแล้ว คนพวกนี้น่ะสกปรกที่สุดแต่เรื่องผู้ชายคนนั้น...เซี่ยซีหว่านพิมพ์กลับไปว่า “เวลา 8 ปีนั้นผ่านไปไวมาก ฉันจำผู้ชายคนนั้นไม่ค่อยได้แล้ว ต่อให้เขามายืนอยู่ตรงหน้าฉัน
ซูซีมาที่นี่พร้อมกับบอดี้การ์ดชุดดำอีกจำนวนหนึ่ง เขามองไปที่เซี่ยซีหว่าน “หว่านหว่าน คุณจะพาอาหลินไปไหนเหรอ?”เซี่ยซีหว่านหยุดชะงักฝีเท้าลง “ซูซี คุณรู้เหรอว่าฉันจะมาที่นี่?”“หว่านหว่าน ผมไม่รู้จริง ๆ นะว่าคุณตามมาเจออาหลินที่นี่ได้ยังไง แต่เราสองคนโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก ดังนั้นผมรู้จักคุณดีว่าคุณเป็นคนฉลาดทำให้คนใกล้ตัวต้องคอยระวังเสมอ เมื่อเย็นนี้ผมเลยให้คนพวกนี้มารอคุณที่นี่ แล้วคุณก็ไม่ทำให้ผมผิดหวังจริง ๆ”เซี่ยซีหว่านมองหน้าซูซีแล้วพูดว่า “เมื่อครู่นี้อาหลินไอออกมาเป็นเลือด ต่อให้ฉันรักษาโดยการใช้เข็มแล้วแต่ยังไงก็ต้องพาอาหลินไปโรงพยาบาลอยู่ดี ฉะนั้นเรื่องของเราเอาไว้ค่อยคุยกันวันหลังจะได้ไหม?”ซูซีมองเข้าไปยังนัยน์ตาสว่างเป็นประกายนั่น รัศมีที่เต็มไปด้วยความฉลาด มันช่างสวยงามเหลือเกิน แต่เมื่อได้ยินประโยคนั้นของเธอกลับทำให้เขาส่ายหัวไปมา “หว่านหว่าน ผมไม่รู้หรอกนะว่าตอนนี้คุณมีแผนอะไรอยู่ในหัว แต่ค่ำคืนนี้ยังไม่จบง่าย ๆ แน่ ผมจะให้คนไปส่งอาหลินที่โรงพยาบาลเอง แต่คุณต้องอยู่ที่นี่เพื่อทำเรื่องที่ยังค้างคาของเราให้เสร็จก่อน”เซี่ยซีหว่านขมวดคิ้วเป็นปม เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เธ
เซี่ยซีหว่านรู้สึกได้ว่าลู่ซือเจี๋ยรักลูกชายทั้งสองคนนี้ ดังนั้นที่เมืองไห่เฉิง เขาไม่สามารถอนุญาตให้เธออยู่ได้ แต่ตอนนี้เมื่อรู้ว่าเธอเป็นลูกสาวของหลินสุ่ยเหยา เมื่อตอนนั้นหลินสุ่ยเหยากับหลิวอิงหลั่วสองสาวครองอันดับหนึ่งเรื่องความเก่งกล้าสามารถที่สุดของเมืองหลวง เขาต้องการตามหาหลินสุ่ยเหยา ผ่านตัวเธอ ดังนั้นเขาจึงปล่อยวางลูกชายสองคนของเขาลงและปล่อยให้เธอดำรงอยู่หมายความว่า ภายในใจของลู่ซือเจี๋ย หลิวอิงหลั่วมีความสำคัญมากกว่าลูกชายทั้งสองคนของเขานี่เป็นครั้งแรกที่ เซี่ยซีหว่านตระหนักอย่างแท้จริงว่าลู่ซือเจี๋ยรักหลิวอิงหลั่วอย่างสุดซึ้งหลิวอิงหลั่วหายตัวไปหลายปี ปีนี้ลูกชายของเธอลู่หานถิงอายุ 28 ปีแล้ว เซียซีหว่านไม่รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วมันเป็นอย่างไร ความรักที่ลึกซึ้งถึงสามารถทนต่อการกัดเซาะและความแข็งแกร่งของปีที่เลยผ่านได้ จึงทำให้ชายที่ราวกับจักรพรรดิยังคงรออยู่ที่นี่ตลอด บางทีอาจเป็นสถานที่ที่พวกเขาพบกันครั้งแรกแต่รักอย่างสุดซึ้ง ทำไมถึงต้องเจ็บอีก?ตอนนั้นหลินอิงหลั่วตั้งท้องลูกคนที่สอง เธอหยิบมีดมาคว้านท้องตัวเอง อุ้มทารกออกมา ช่างน่าเวทนานัก?ถ้าไม่ใช่เพราะถูกบีบบังคับจ
แต่ว่า เธอปรากฏตัวต่อหน้าเขาครั้งแล้วครั้งเล่าทุกครั้งที่เธอปรากฏตัว เขาจะควบคุมตัวเองไม่ได้และไม่เป็นตัวของตัวเองแม้แต่น้อยเขาพยายามไม่ให้ไปหลงเสน่ห์เธอแล้ว แต่ก็ทำไม่ได้หลังจากที่ได้รู้ในห้องนั่งเล่นเมื่อครู่นี้ว่าเธอคือ เด็กผู้หญิงตัวน้อยเมื่อก่อนนั้น เดิมที่แม่ของเขายอมยกเจ้าสาวตัวน้อยแก่เขา เขารู้สึกว่าความยับยั้งชั่งใจและความอดกลั้นที่ผ่านมาในหลายวันมานี้ได้พังทลายลงลู่หานถิงจ้องมองเธออย่างดุดันด้วยดวงตาสีแดงก่ำ เขายกริมฝีปากบางของเขาขึ้นเล็กน้อย และพูดอย่างเยาะเย้ยว่า “ทำไมสวี่เส้าหนานถึงได้ ลู่จื่อเซียนถึงได้ แต่ทำไมฉันไม่ได้เหรอ?”“…”ใบหน้าเล็กสวยงามของเซี่ยซีหว่านเปลี่ยนเป็นสีขาวและแดงสลับกัน เธอยกมือเล็กขึ้นเพื่อตบลงไปยังใบหน้าอันหล่อเหลาด้วยความน่าเกลียดชังอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอไม่ไม่ได้ตบเขาเพราะลู่หานถิงจับข้อมือเรียวของเธอไว้ได้ทัน เธอจึงไม่ได้ตบใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาลู่หานถิงมองดูเธอด้วยแววตาเศร้าโศกและพูดว่า “เซี่ยซีหว่าน ผมไม่รู้ว่าคุณกำลังใช้เล่ห์เหลี่ยมอะไรนะ สิ่งที่ผมสามารถให้คุณได้คือสิ่งที่ลู่จื่อเซียนและสวี่เส้าหนานไม่สามารถให้คุณได้แน่นอน ถ้าหา
เขาจำไม่ได้แล้วแน่นอน เพราะความทรงจำเหล่านั้นเธอลบมันไปหมดแล้ว ดังนั้นเขาจึงสามารถพูดได้อย่างชอบธรรมแถมเขายังพูดอีกว่า การที่เขานอนกับเธอคือ การนำน้ำสกปรกสาดใส่ตัวเขา เขาคิดว่าเธอเป็นอะไร น้ำสกปรกเหรอ?แน่นนอน เขาเกลียดเธอ !แต่ในเมื่อเขาเกลียดเธอมาก ทำไมเขาถึงมารังควานเธอด้วย?เซี่ยซีหว่านมองใบหน้าที่เย็นชาหล่อเหลาของเขาและพูดเยาะเย้ยว่า “ฉันแค่พูดไร้สาระ พอใจหรือยังล่ะ คนที่บริสุทธิ์ผุดผ่องอย่าประธานลู่ ฉันจะทำให้คุณมีมลทินได้อย่างไรคะ !”“บริสุทธิ์เหรอ” ลู่หานถิงขมวดคิ้วรูปดาบอันองอาจผึ่งผายนั้นและกล่าวว่า “คนที่พูดว่าผมนอนกับคุณ ก็คือคุณ ตอนนี้คนที่กำลังพูดไร้สาระก็คือคุณ คิดว่าเป็นหญิงสาวคนหนึ่งก็สามารถพูดจาเหลวไหลแบบนี้ออกมาได้งั้นเหรอ เซี่ยซีหว่าน คุณยังมียางอายอยู่อีกไหม?”“ฉันจะมีหรือไม่มียางอายเกี่ยวอะไรกับคุณด้วยเหรอคะ ใช่สิประธานลู่ คุณคงจะยังไม่...เป็นหนุ่มน้อยบริสุทธิ์คนหนึ่งอยู่ใช่ไหมคะ?”ดวงตาของเซี่ยซีหว่านเปล่งประกาย ทันใดนั้นดูเหมือนว่าจะเจอกับปัญหาเข้าแล้ว เขาไม่มีความทรงจำช่วงนั้นแล้ว เขาคงจำไม่ได้ว่าเขากับเธอเคยเดือดพล่านกันบนเตียงมาก่อน งั้นเขาคงไม่คิดว่า
เซี่ยซีหว่านใช้ส้อมจิ้มสเต็กชิ้นเล็ก ๆ เพิ่งเตรียมจะใส่เข้าปาก ตอนนี้เท้าของเธอที่อยู่ใต้โต๊ะถูกเตะอย่างแรง สเต็กบนส้อมก็ร่วงตกลงมาบนจานทันที“หว่านหว่าน คุณเป็นอะไรไปครับ?” ลู่จื่อเซียนถามด้วยความเป็นห่วงร่างผอมเพรียวของเซี่ยซีหว่านสั่นไหวเล็กน้อย เธอมองไปยังลู่หานถิงซึ่งนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เขาไม่ได้พูดอะไรมาโดยตลอดตั้งแต่เธอเดินเข้ามา แต่เขาเพิ่งเตะเธอเขาเป็นอะไรของเขา?ลู่หานถิงหั่นสเต็กในมืออย่างสง่างามราวกับว่าคนที่เตะเมื่อกี้ไม่ใช่เขา ทั้งหมดไม่เกี่ยวอะไรกับเขาเลยเข้าใจแกล้งจริง ๆ !เซี่ยซีหว่านด่าเขาในใจแล้วยิ้มให้ลู่จื่อเซียนและกล่าวว่า “จื่อเซียน ฉันไม่เป็นอะไรค่ะ”ทั้งห้าคนก็จบมือค่ำในบรรยากาศอันแปลก ๆ แบบนี้ลง...หลังมื้อเย็น เซี่ยซีหว่านไปห้องน้ำทันทีที่เธอเดินเข้ามา มือใหญ่มือหนึ่งจากด้านในยื่นออกมา และคว้าข้อมือที่เรียวยาวของเธอแล้วดึงเธอเข้าไปเซี่ยซีหว่านชนเข้ากับหน้าอกแข็งแกร่งอย่างกระทันหัน หน้าอกนี้แข็งแกร่งราวกับกับแพง เธอชนเข้าไปราวกับกระดูกของเธอจะแตกสลาย นัยน์ตาขาวบริสุทธื์แดงก่ำด้วยความเจ็บปวดเธอเงยหน้าขึ้นและใบหน้าที่หล่อเหลาละเอียดงดงามของล
ด้านนอกประตูคือลู่จื่อเซียนจริง ๆ และยังมีเงาเพรียวบางเงาหนึ่งอยู่ข้างกายของลู่จื่อเซียนหลิวจ้าวตี้ดีใจมาก “จื่อเซียน ลูกกลับมาแล้วเหรอ คู่หมั้นของลูก…”แววตาของหลิวจ้าวตี้จับจ้องไปยังเซี่ยซีหว่าน เมื่อมองชัดเจนแล้วว่าเป็นเซี่ยซีหว่าน รูม่านตาของหลิวจ้าวตี้ก็เบิกกว้างและตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ในทันทีเป็นไปได้ยังไงกัน?ทั้งลู่ซือเจี๋ยและลู่หานถิงที่อยู่ในห้องนั่งเล่นต่างก็ได้ยินการเคลื่อนไหวที่ด้านนอกประตู คืนนี้พวกเขากำลังรอให้ลู่จื่อเซียนพาคู่หมั้นลึกลับกลับบ้านลู่ซือเจี๋ยวางหนังสือพิมพ์เศรษฐกิจในมือลงแล้วยืนขึ้นพลางเอ่ยถามว่า “เกิดอะไรขึ้น?”ทันใดนั้นลู่จื่อเซียนจูงมือเล็ก ๆ ของเซี่ยซีหว่านเดินเข้ามาทันทีที่ลู่ซือเจี๋ยเห็นเซี่ยซีหว่าน เขาเคยต่อกรกับเซี่ยซีหว่านมาแล้วสองครั้ง เขารู้ดีว่าเด็กสาวคนนี้ไม่ธรรมดา แต่เขาไม่คิดมาก่อนว่าเซี่ยซีหว่านจะเป็นลูกสาวของหลินสุ่ยเหยา!ในขณะเดียวกันนั้นลู่หานถิงก็มองไปยังลู่จื่อเซียน จากนั้นดวงตาอันเฉี่ยวคมของเขาก็ค่อย ๆ หันไปมองใบหน้าที่งดงามของเซี่ยซีหว่าน จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนการมาถึงของเซี่ยซีหว่านทำให้ครอบครัวลู่ทั้งหมดตกอยู่ในบรรยากา
ลู่จื่อเซียนพูดกับเธอว่า หว่านหว่านผมชอบคุณครับเซี่ยซีหว่านนั่งลง เธอรู้ว่าลู่จื่อเซียนรู้สึกกับเธออย่างไร ได้รับความรักจากคุณชายรองตระกูลลู่ที่ทั้งสง่างาม และมีความสามารถ เธอควรจะมีความสุข และตื่นเต้นมากกว่าผู้หญิงคนไหน ๆ อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้รู้สึกแบบนั้นกับลู่จื่อเซียน นอกจากนี้เธอแต่งงานกับลู่หานถิงแล้ว แม้จะเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ก็ตาม แต่เธอก็เคยเป็นพี่สะใภ้ของเขาแล้ว และตอนนี้เธอได้กลายมาเป็นคู่หมั้นของเขาอีกครั้ง ความรู้สึกนี้เป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดขณะเดียวกันเซี่ยปัง และหลานเหยียนเดินเข้ามา เขาพูดว่า “หว่านหว่านการแต่งงานในครั้งนี้เป็นความต้องการของแม่ของลูก พวกเราคิดว่าคุณชายรองตระกูลลู่เป็นคนที่ดีมาก เขาจะไม่ทำให้ลูกเศร้าเสียใจเหมือนใครบางคน ตอนนี้ลูกคงจะไม่ปฏิเสธคุณชายรองตระกูลลู่เพราะคน ๆ นั้นใช่ไหม?”“ใช่แล้วหว่านหว่าน ผู้หญิงอย่างพวกเราต้องมองไปข้างหน้า ผ่านไปแล้วก็ผ่านไป ไม่ต้องไปเสียใจกับมัน ปล่อยวางในสิ่งที่ควรจะปล่อย ถ้าลูกไม่ยอมเปิดใจ และก้าวไปข้างหน้า ลูกจะเห็นความงามของชีวิตได้อย่างไร?”เซี่ยปังและหลานเหยียนไม่ชอบลู่หานถิง ลู่หานถิงแต่งงานกับลี่เหยียนหลา
สวี่เส้าหนานรู้สึกขมขื่นภายในใจ !คุณท่านลี่ไม่ต้องการให้เซี่ยซีหว่านลงเอยกับสวี่เส้าหนานหลานชายของท่าน เธอคิดว่าสองคนนี้ไม่คู่ควรกัน ตอนนี้คุณท่านลี่กำลังยืนมองลู่จื่อเซียน คุณท่านลี่รู้จักลูกชายสองคนของตระกูลลู่ เป็นอย่างดี เห็นได้ชัดว่าลู่จื่อเซียนเป็นเหมือนกับดอกบัวที่บานในโคลนตม เขาเป็นคนที่ดีมากชีวิตส่วนตัวของลู่จื่อเซียนใสสะอาดมาก และเขายังไม่เคยมีแฟนมาก่อน คุณท่านลี่ดูออกว่าลู่จื่อเซียนชอบเซี่ยซีหว่านมาก เขาดูแล และเอาใจใส่เธอด้วยความรัก ดังนั้นคุณท่านลี่จึงมองเขาเหมือนหลานชายคนหนึ่ง ท่านเหลือบมองลู่จื่อเซียน จากนั้นก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจเซี่ยปังและหลานเหยียนก็พอใจในตัวลู่จื่อเซียนมากเช่นเดียวกัน ในมหานครเอมพีเรียลแห่งนี้ ลู่จื่อเซียนเป็นคนที่มีความสามารถและหล่อเหลา อีกทั้งยังเหมาะสมกับเซี่ยซีหว่านแหวนหยกวงนี้เป็นแหวนที่หลินสุ่ยเหยาสวมอยู่ตลอดเวลา เซี่ยปังและหลานเหยียนจำข้าวของส่วนตัวของหญิงสาวได้อย่างรวดเร็ว ย้อนกลับไปในตอนนั้นเธอได้หมั้นหมายเซี่ยซีหว่านกับลูกชายของเพื่อนสนิท พวกเขาคิดไม่ถึงว่าเด็กชายคนนั้นจะเป็นคุณชายรองตระกูลลู่ลู่จื่อเซียนเป็นนักวิชาการที่อายุน้อยท
เซี่ยปัง “...”ที่นี่...คือตระกูลเซี่ย ไม่ใช่เหรอ?เซี่ยปังมองไปยังคุณท่านลี่ที่พูดออกไปเช่นนั้น มุมปากของเขากระตุกเล็กน้อยคุณท่านลี่เป็นนายหญิงของตระกูลลู่มานานหลายปีแล้ว ท่านมีภาพลักษณ์ที่น่าเกรงขามเป็นอย่างมาก บรรดาผู้ใต้บังคับบัญชาที่ถูกท่านดุก็มักจะกลัวจนขาอ่อนแรง และเกือบจะล้มลงไปในทันทีขณะเดียวกันร่างที่หล่อเหลา และดูชั่วร้ายก็ปรากฏตัวขึ้น เขาพูดว่า “อย่าทำให้เขาตกใจกลัวสิครับคุณยาย ผมเองที่มาที่นี่ !”เมื่อทุกคนหันไปมอง กลายเป็นสวี่เส้าหนานคุณชายของตระกูลสวี่ เจ้าชายแห่งมหานครเอมพีเรียลที่ไม่เคยเกรงกลัวสิ่งใดเขามาที่นี่จริง ๆ !คุณท่านลี่มองสวี่เส้าหนานด้วยสีหน้าไม่พอใจ ราวกับว่าที่นี่เป็นบ้านของท่านจริง ๆ ท่านพูดว่า “ทำไมหลานถึงมาที่นี่ได้ล่ะ?”“คุณยายผมมาที่นี่เพราะ…” ดวงตาทรงดอกท้อของสวี่เส้าหนานมองไปยังใบหน้าที่งดงามของเซี่ยซีหว่าน และพูดต่อว่า “...เพราะเซี่ยซีหว่านครับ !”คุณชายที่มีชื่อเสียงเช่นเขา มีข่าวลือไปทั่วว่าเขาเปลี่ยนผู้หญิงราวกับเปลี่ยนเสื้อผ้า เซี่ยปังและหลานเหยียนรีบดึงเซี่ยซีหว่านไปทางด้านหลังพวกเขา และพูดว่า “คุณชายสวี่ครับ หว่านหว่านของพวกเราไม่
คุณท่านลี่ยิ้ม และพูดว่า “ทำไมล่ะ ฉันมาร่วมฉลองงานวันเกิดของเซี่ยปังผู้ยิ่งใหญ่ไม่ได้เหรอ?”เมื่อท่านพูดจบ ภายในห้องโถงก็เกิดความโกลาหลขึ้นในทันที ท่านผู้เฒ่าแห่งตระกูลลี่มาที่นี่เพื่อฉลองวันเกิดให้กับเซี่ยปัง!”คุณท่านลี่มองไปที่เซี่ยปังและหลานเหยียน จากนั้นก็พูดว่า “ท่านเซี่ย คุณนายเซี่ย ฉันมาที่นี่โดยไม่ได้รับคำเชิญ หวังว่าพวกคุณจะไม่ถือสาและไล่ฉันออกไปใช่ไหม?”เซี่ยปังและหลานเหยียนชำเลืองมองกัน พวกเขาไม่คิดว่าจู่ ๆ คุณท่านลี่จะมาร่วมงานด้วย แม้ว่าตระกูลเซี่ยจะเป็นตระกูลที่มีอิทธิพล แต่ตระกูลขุนนางเก่าแก่ที่ร่ำรวยในมหานครเอมพีเรียลก็ไม่ได้สนใจที่จะคบค้าสมาคมกับพวกเขา นั่นเป็นเป็นเหตุผลว่าทำไมเซี่ยซีหว่านจึงไม่สามารถเข้าสู่แวดวงคนดังในมหานครเอมพีเรียลได้ตระกูลเซี่ยและสี่ยักษ์ใหญ่แห่งมหานครเอมพีเรียลไม่เคยติดต่อไปมาหาสู่ หรือมีปัญหาอะไรกันมาก่อน แต่จู่ ๆ วันนี้คุณท่านลี่กลับมาที่นี่อย่างกะทันหัน ทำให้ทุกคนในที่นี้ต่างก็ตกตะลึงแต่ในเมื่อท่านมาถึงที่นี่แล้ว เซี่ยปังก็ไม่สามารถไม่ต้อนรับท่าน เขาจึงพูดว่า “คุณท่านลี่ ยินดีต้อนรับครับ”คุณท่านลี่ยิ้ม จากนั้นก็ส่งกล่องของขวัญให้กับเ