ต่างคนต่างสบตากัน แววตาของลู่หานถิงนั้นเย็นยะเยือกและนิ่งสงบเสียจนทำให้ไม่มีใครกล้าขยับและทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดหวั่นเซี่ยซีหว่านหลบสายตาของเขา “คืนนี้ ฉันต้องขอขอบคุณคุณมากนะคะ”เมื่อเห็นอาการหลบเลี่ยงของเธอ ใบหน้าหล่อเหลาของลู่หานถิงนั้นเผยยิ้มออกมา แต่เป็นรอยยิ้มที่ไปไม่ถึงดวงตา “นอกจากคำว่าขอบคุณก็ไม่มีอะไรจะพูดกับผมแล้วเหรอ?”เซี่ยซีหว่านขบกัดริมฝีปากสีแดงเบา ๆเมื่อลู่หานถิงยกมือขึ้น ทันใดนั้นนิ้วเรียวยาวก็แตะลงที่บนกระดุมคอเสื้อของเธอเซี่ยซีหว่านหรี่รูม่านตาเล็กลง รีบร้อนคว้ามือแกร่งของเขาไว้แล้วพูดด้วยความระแวงว่า “คุณคิดจะทำอะไร?”ลู่หานถิงมองไปที่เธอแล้วยิ้มหยันออกมาหน่อยๆ จากนั้นติดกระดุมคอเสื้อสองเม็ดนั้นที่ติดไม่เรียบร้อยให้เธอ “ไหนคุณพูดซิว่าผมคิดจะทำอะไร?”เซี่ยซีหว่านไม่เคยที่จะเถียงเขาได้เลย เห็นได้ชัดเลยว่าตอนนี้เขาอารมณ์ไม่ดีและมีท่าทางฉุนเฉียวกระฟัดกระเฟียดเอามาก ๆ ไม่ใช่ว่าเขาจะทำให้คนแค่คนเดียวอับอายขายขี้หน้าไม่ได้ ถ้าเขาจะฉีกหน้าใครสักคน คนคนนั้นก็คงจะเป็นทุกข์อย่างสุดขีดเซี่ยซีหว่านถูกบีบบังคับให้ถอยไปข้างหลังและรู้สึกเขินเล็กน้อย ติ่งหูที่ขาวราวหิมะปร
เมื่อโดนเขาตะหวาดใส่แบบนั้น เซี่ยซีหว่านก็รู้สึกตกใจจนหลบเข้ามุมห้อง ดวงตาสีดำขลับคู่นั้นคลอไปด้วยน้ำตาขณะที่เขาจ้องมาลู่หานถิงหอบหายใจพยายามระงับอารมณ์แปรปรวนจนหน้าอกกระเพื่อมขึ้นลง “อย่ายกเรื่องที่คุณก็รู้ว่ามันผิดแต่คุณก็ยังทำขึ้นมา แต่ที่ผมดุคุณนั้นเพราะคุณกำลังมองว่าผมใช้สายตาที่ไม่ปกติกับคุณ ผมจะไม่สงสารคุณเด็ดขาด”เซี่ยซีหว่านใช้มือเรียวเล็กทั้งสองข้างค้ำยันกับกำแพงเอาไว้แล้วพูดว่า “ลู่หานถิง ฉันขอโทษ ฉันยอมรับว่าฉันจงใจไม่รับโทรศัพท์คุณ แถมยังจงใจไม่ตอบข้อความคุณอีก ต่อจากนี้คุณ...ไม่ต้องมาทำดีกับฉันแล้ว ฉันกลัวฉันจะชดใช้ไม่หมด ฉันไม่อยากติดค้างคุณ”ลู่หานถิงยิ้มอย่างเย็นชาออกมา “คุณว่าคุณแยกแยะชัดเจนแล้วสิ?”เซี่ยซีหว่านพยักหน้า “ฉันก็คือฉัน คุณก็คือคุณ จากนี้ไปคุณไปตามทางที่ดีของคุณเถอะค่ะ ฉันก็จะไปตามทางที่อันตรายของฉัน”แต่เดิมลู่หานถิงไม่เคยมีความคิดแบบนี้มาก่อนเลย เขานับถือตัวเองมาก ๆ ที่บังคับใจให้ยังเผชิญหน้ากับเธอได้อยู่เธอทำให้เขาหลงเข้าใจผิดกับภาพเพียงภาพเดียวจนเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางไม่รู้วันรู้คืนรีบกลับมา แล้ว จู่ ๆ เธอก็ทำท่าทางเย็นชาและห่างเหินใส่นั้น
เช้าวันรุ่งขึ้นเซี่ยซีหว่านสะลึมสะลือลืมตาขึ้น,kอย่างงัวเงีย เมื่อคืนเธอหลับสนิทมาก เธออดไม่ได้ที่จะฝังตัวเข้าไปในผ้าห่มอันแสนอบอุ่นแถมยังถูใบหน้าเล็กจิ้มลิ้มของตัวเองไปที่ด้านข้างแต่ว่าไม่มีใครอยู่ข้างกายเขาแล้วลู่หานถิงตื่นนอนแล้วเซี่ยซีหว่านกระพริบตาถี่ ๆ เมื่อคืนเธอไม่ได้ตื่นขึ้นมาแต่เหมือนจะรู้สึกได้ว่ามีคนนอนอยู่ข้างกายคนคนนั้นจะเป็นใครไปได้อีกนอกจากลู่หานถิง?หรือเธอเข้าใจผิดไปเองเซี่ยซีหว่านฝังใบหน้าจิ้มลิ้มเข้ากับหมอน สูดดมกลิ่นสะอาดอันหอมสดชื่นที่มาจากร่างกายเขาอย่างรวดเร็ว แม้แต่ผ้าห่มก็ยังเปื้อนไปด้วยความอบอุ่นที่หลงเหลือจากอุณหภูมิของร่างกายเขาเมื่อคืน เขานอนหลับไปกับเธอจริง ๆ ด้วย ทั้งคู่นอนกอดกันหลับไปเซี่ยซีหว่านหลับตาลงอย่างเชื่องช้า เห็นได้ชัดว่าระบุเส้นแบ่งเขตไว้แล้วแท้ ๆ แต่เขาก็ยังทั้งจูบทั้งมานอนหลับเตียงเดียวกัน นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกันเนี่ย?เซี่ยซีหว่านลุกออกจากเตียง อาสะใภ้หลินยังคงไม่ได้สติ เธอฝังเข็มให้อาสะใภ้หลินเสร็จแล้วจึงไปหาคุณหมอที่เป็นคนรักษาเพื่อพูดปรึกษาหารือเกี่ยวกับอาการป่วย จากนั้นจึงกลับสวนโหย่วหลาน......ณ สวนโหย่วหลา
เขาจับหางเล็ก ๆ ของเธอขึ้นมาเซี่ยซีหว่านหน้าแดงก่ำแล้วรีบขัดขืน “คุณจะทำอะไรน่ะ รีบปล่อยมือเลยนะ”ลู่หานถิงไม่ยอมปล่อยมือ แถมยังจับหางเล็ก ๆ นั่นแกว่งไปมา “รสนิยมแบบใหม่เหรอ?”เซี่ยซีหว่านมึนงงและรู้สึกว่านี่มันผิดปกติเซี่ยซีหว่านเอื้อมมือผลักเขาออกไป “คุณชายลู่ คุณนี่น่าไม่อายจริง ๆ!”ลู่หานถิงถือหางเล็ก ๆ ของเธอไว้ไม่ยอมปล่อย คิ้วงามได้รูปขมวดเข้าหากัน “ผมไร้ยางอายตรงไหนกัน?”“ชุดนอนชุดนี้กับชุดนอนกระโปรงที่อยู่ในห้องเสื้อผ้าทั้งหมดคุณเป็นคนเตรียมมันทั้งนั้น ทีนี้คุณจะสามารถน่าไม่อายได้หรือยังคะ?”ลู่หานถิงมองไปยังห้องเสื้อผ้า “เสื้อผ้าข้างในนั้นผมไม่ได้เป็นคนเตรียม คุณย่าต่างหากเป็นคนจัดการให้คุณ”คุณย่า?“......”เซี่ยซีหว่านอ้าปากค้าง จริง ๆ แล้วคุณท่าน...รู้เรื่องขนาดนั้นชียว?ที่แท้ ขิงแก่ก็ยังคงเผ็ดร้อนอยู่ลู่หานถิงมองไปยังหยวนหยวนตัวน้อย “มันเป็นเด็กดีหรือเปล่า?”เซี่ยซีหว่านพยายามยื้อดึงหางเล็ก ๆ ของตัวเองกลับมาแล้วพูดว่า “หยวนหยวนน่ะเป็นเด็กดีมากเลยค่ะ”“ถ้างั้นทำไมเธอถึงไม่เป็นเด็กดี?”“...”คำพูดของเขานั้นหมายความว่าอะไร หมายความว่าเธอก็เป็นลูกแมวอีกตัวง
เซี่ยซีหว่านรู้สึกเป็นห่วงสุขภาพของลู่หานถิง ดังนั้นเธอจึงรีบเปิดผ้าห่มออกและลุกขึ้นเดินหาเขาในห้องที่กว้างใหญ่รอบหนึ่งแล้วแต่กลับไม่มีวี่แววของคน หรือเขาจะออกไปข้างนอกแล้ว?“ลู่หานถิง...ลู่หานถิง...ลู่...”ทันใดนั้นประตูห้องอาบน้ำก็ถูกเปิดออก ฝ่ามือใหญ่ที่แข็งแรงจนขึ้นรอยข้อต่อกระดูกโผล่ออกมาฉุดไหล่นวลเนียนของเธอเข้าไปข้างในนั้นแผ่นหลังบอบบางของเธอแนบอยู่กับบานประตู เซี่ยซีหว่านมองเห็นคนที่อยู่ตรงหน้าได้อย่างชัดเจน เขาก็คือลู่หานถิงลู่หานถิงอาบน้ำเย็นไปหลายรอบ บนร่างสวมเพียงแค่กางเกงสแล็คสีดำ เส้นผมสั้น ๆ สีดำขลับของเขานั้นยังคงมีหยดน้ำหยดลงมาไม่หยุดร่างที่เปียกชื้นไปด้วยละอองน้ำนั้นยิ่งทำให้ชายหนุ่มดูอ่อนเยาว์และดูดีเป็นพิเศษ“ตามหาผมเหรอ?” น้ำเสียงของลู่หานถิงนั้นแหบแห้งมากเซี่ยซีหว่านยกมือขึ้นแตะที่หน้าผากเขาหนึ่งครั้ง นี่มันร้อนมากกว่าเดิมเสียอีก ครั้งนี้คุณท่านเล่นแรงไปแล้ว ไม่รู้ว่าไปเอายาชูกำลังมาจากที่ไหน“ให้ฉันช่วยฝังเข็มเถอะนะ” ในมือของเซี่ยซีหว่านนั้นมีเข็มสีเงินอยู่หนึ่งเล่ม เธอต้องการที่จะปักเข็มลงไปตามจุดฝังเข็มในร่างกายของเขาลู่หานถิงกอบกุมข้อมือนุ่มขาวผ
ตระกูลของข่งเจินเอ่อร์มีฐานะไม่ค่อยดี แต่ตัวเธอเองชอบโลภมากทำตามเซี่ยเสี่ยวเตี๋ย เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยมักจะให้ผลประโยชน์บางอย่างแก่เธอเสมอ เช่น กระเป๋า หรือ เสื้อผ้าแบรนด์เนมที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเคยใช้แล้ว และเซี่ยเสี่ยวเตี่ยก็มักจะพาเธอไปที่บาร์หรู เช่นบาร์ 1949 เพื่อดื่มไวน์ราคาแพง ชีวิตที่หรูหราเช่นนี้คือสิ่งที่เธออยากได้มาโดยตลอดเซี่ยซีหว่านกล่าวว่าเธอเป็นหมาปั๊กข้าง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ย ซึ่งคำพวกพูดนี้ก็ล้วนแต่เป็นความจริงทั้งนั้นแต่ข่งเจินเอ่อร์ไม่ต้องการให้คนอื่นพูดแบบนั้นกับเธอ เธอรู้ดีว่าเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเป็นถุงฟางไร้สมอง เธออิจฉาโชคชะตาของเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยอย่างสุดซึ้ง และเธอก็ไม่ชอบเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเช่นกันนอกจากนี้ยังมีเซี่ยซีหว่าน เธอเกลียดเซี่ยซีหว่านมากกว่า เธอคิดว่าเซี่ยซีหว่านคนบ้านนอกคอกนาคนนี้ควรจะมีชีวิตที่ต่ำต้อยกว่าเธอ แต่ชีวิตของเซี่ยซีหว่านกลับสดใสและสวยงามข่งเจินเอ่อร์แอบดื่มไวน์ราคาแพงสองแก้วแล้ว และเมื่อเธอดื่มมันหมด ซูซีก็เดินเข้ามาเมื่อเห็นซูซีเดินเข้ามา ข่งเจินเอ่อร์ก็รีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว “ซู...คุณชายซูมาที่นี่ได้อย่างไรคะ?”ซูซีมองไปรอบห้องวีไอพี เขาไม่เห็
หลังจากที่ทุกคนหายไปแล้ว เซี่ยเจิ้งกั๋วจึงประคองข่งเจินเอ่อร์ขึ้นมาและพูดว่า “หนูไม่เป็นอะไรใช่ไหม”ข่งเจินเอ่อร์ส่ายหัว “หนูไม่เป็นอะไรค่ะ”“เอ่อ เอาแบบนี้แล้วกัน ฉันจองห้องไว้ห้องหนึ่ง หนูเข้าไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวฉันจะให้คนซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ไปให้ หลังจากทำอะไรเสร็จแล้วก็ไปให้หมอที่โรงพยาบาลตรวจสักหน่อยนะ รอยแผลบนร่างกายคุณเยอะแยะเต็มไปหมดเลย”ข่งเจินเอ่อร์จ้องไปที่คุณลุงเซี่ยเจิ้งกั๋วอย่างเลื่อยลอย แม้ว่าเธอจะคอยติดตามเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยมาโดยตลอด แต่เธอก็ไม่ได้พูดคุยกับคุณลุงเซี่ยเจิ้งกั๋วมากนัก ตอนนี้ดูเหมือนว่าคุณลุงจะเป็นคนช่างพูด อ่อนโยนและสุภาพมากข่งเจินเอ่อร์ยิ้ม และพูดอย่างรู้สึกขอบคุณเขาว่า “ค่ะ”...เซี่ยเจิ้งกั๋วมอบคีย์การ์ดห้องพักให้กับข่งเจินเอ่อร์ และเดินออกไปเพื่อไปพบปะสังสรรค์ ข่งเจินเอ่อร์เดินเข้าไปในห้องซึ่งเป็นห้องชุดเพรสซิเดนเชียลสวีทข่งเจินเอ่อร์ไม่เคยพักห้องชุดเพรสซิเดนเชียลสวีทแบบนี้มาก่อน ความหรูหราของที่นี่ทำให้เธอรู้สึกถึงชีวิตของชนชั้นสูงอย่างแท้จริง ต่อมาเลขานุการของเซี่ยเจิ้งกั๋วก็เข้ามาส่งชุดให้กับเธอข่งเจินเอ่อร์มองไปที่แบรนด์ของเสื้อผ้า มันคือแบร
เซี่ยซีหว่านเงยหน้าขึ้น และพบกับดวงตาที่คมคายของลู่หานถิงลู่หานถิงนั่งอยู่ที่มุมหัวโต๊ะของโต๊ะไพ่ บนตัวของเขาสวมใส่เสื้อเชิ้ตสีดำและกางเกงขายาวสีดำ เขากำลังสูบบุหรี่ เปลวไฟสีแดงเข้มอยู่ระหว่างสองนิ้วเรียวยาวพร้อมกับอมควันบุหรี่ไว้ในปากเมื่อฮั่วซีเจ๋อตะโกนขึ้น ลู่หานถิงก็พ่นควันบุหรี่ออกมา จากนั้นเขาก็แหงนหน้าขึ้นมองเซี่ยซีหว่าน ควันบุหรี่ทำให้ใบหน้าหล่อเหลาของเขาพร่ามัว เขาขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีเขาก็พ่นควันบุหรี่ออกจากปาก ควันพวยพุ่งออกมาอย่างช้า ๆเซี่ยซีหว่านถูกบังคับให้เข้ามาด้วยความอับอาย แต่เมื่อเธอได้พบกับลู่หานถิง ความอับอายภายในใจก็ยิ่งทวีคูณมากยิ่งขึ้น“คุณชายฮั่วสาวสวยคนนี้มาจากไหนกัน สาวงามของบาร์ 1949 ต่างก็อยู่ที่นี่แล้วไม่ใช่เหรอ คุณชายฮั่วคุณนี่เกินไปจริง ๆ คุณจงใจแอบซ่อนเธอเอาไว้ล่ะสิ” เถ้าแก่คนหนึ่งพูดพร้อมหัวเราะออกมาเห็นได้ชัดว่าคนเหล่านี้คิดว่าเซี่ยซีหว่านเป็นสาวเชียร์เบียร์ ฮั่วซีเจ๋อมองไปที่ใบหน้าของลู่หานถิงที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามกับเขาลู่หานถิงถอนสายตาจากเซี่ยซีหว่านแล้ว เขาโยนไพ่ในมือออกหนึ่งใบ สีหน้าของเขาดูเดายาก และไม่แยแสนี่
เซี่ยซีหว่านรู้สึกได้ว่าลู่ซือเจี๋ยรักลูกชายทั้งสองคนนี้ ดังนั้นที่เมืองไห่เฉิง เขาไม่สามารถอนุญาตให้เธออยู่ได้ แต่ตอนนี้เมื่อรู้ว่าเธอเป็นลูกสาวของหลินสุ่ยเหยา เมื่อตอนนั้นหลินสุ่ยเหยากับหลิวอิงหลั่วสองสาวครองอันดับหนึ่งเรื่องความเก่งกล้าสามารถที่สุดของเมืองหลวง เขาต้องการตามหาหลินสุ่ยเหยา ผ่านตัวเธอ ดังนั้นเขาจึงปล่อยวางลูกชายสองคนของเขาลงและปล่อยให้เธอดำรงอยู่หมายความว่า ภายในใจของลู่ซือเจี๋ย หลิวอิงหลั่วมีความสำคัญมากกว่าลูกชายทั้งสองคนของเขานี่เป็นครั้งแรกที่ เซี่ยซีหว่านตระหนักอย่างแท้จริงว่าลู่ซือเจี๋ยรักหลิวอิงหลั่วอย่างสุดซึ้งหลิวอิงหลั่วหายตัวไปหลายปี ปีนี้ลูกชายของเธอลู่หานถิงอายุ 28 ปีแล้ว เซียซีหว่านไม่รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วมันเป็นอย่างไร ความรักที่ลึกซึ้งถึงสามารถทนต่อการกัดเซาะและความแข็งแกร่งของปีที่เลยผ่านได้ จึงทำให้ชายที่ราวกับจักรพรรดิยังคงรออยู่ที่นี่ตลอด บางทีอาจเป็นสถานที่ที่พวกเขาพบกันครั้งแรกแต่รักอย่างสุดซึ้ง ทำไมถึงต้องเจ็บอีก?ตอนนั้นหลินอิงหลั่วตั้งท้องลูกคนที่สอง เธอหยิบมีดมาคว้านท้องตัวเอง อุ้มทารกออกมา ช่างน่าเวทนานัก?ถ้าไม่ใช่เพราะถูกบีบบังคับจ
แต่ว่า เธอปรากฏตัวต่อหน้าเขาครั้งแล้วครั้งเล่าทุกครั้งที่เธอปรากฏตัว เขาจะควบคุมตัวเองไม่ได้และไม่เป็นตัวของตัวเองแม้แต่น้อยเขาพยายามไม่ให้ไปหลงเสน่ห์เธอแล้ว แต่ก็ทำไม่ได้หลังจากที่ได้รู้ในห้องนั่งเล่นเมื่อครู่นี้ว่าเธอคือ เด็กผู้หญิงตัวน้อยเมื่อก่อนนั้น เดิมที่แม่ของเขายอมยกเจ้าสาวตัวน้อยแก่เขา เขารู้สึกว่าความยับยั้งชั่งใจและความอดกลั้นที่ผ่านมาในหลายวันมานี้ได้พังทลายลงลู่หานถิงจ้องมองเธออย่างดุดันด้วยดวงตาสีแดงก่ำ เขายกริมฝีปากบางของเขาขึ้นเล็กน้อย และพูดอย่างเยาะเย้ยว่า “ทำไมสวี่เส้าหนานถึงได้ ลู่จื่อเซียนถึงได้ แต่ทำไมฉันไม่ได้เหรอ?”“…”ใบหน้าเล็กสวยงามของเซี่ยซีหว่านเปลี่ยนเป็นสีขาวและแดงสลับกัน เธอยกมือเล็กขึ้นเพื่อตบลงไปยังใบหน้าอันหล่อเหลาด้วยความน่าเกลียดชังอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอไม่ไม่ได้ตบเขาเพราะลู่หานถิงจับข้อมือเรียวของเธอไว้ได้ทัน เธอจึงไม่ได้ตบใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาลู่หานถิงมองดูเธอด้วยแววตาเศร้าโศกและพูดว่า “เซี่ยซีหว่าน ผมไม่รู้ว่าคุณกำลังใช้เล่ห์เหลี่ยมอะไรนะ สิ่งที่ผมสามารถให้คุณได้คือสิ่งที่ลู่จื่อเซียนและสวี่เส้าหนานไม่สามารถให้คุณได้แน่นอน ถ้าหา
เขาจำไม่ได้แล้วแน่นอน เพราะความทรงจำเหล่านั้นเธอลบมันไปหมดแล้ว ดังนั้นเขาจึงสามารถพูดได้อย่างชอบธรรมแถมเขายังพูดอีกว่า การที่เขานอนกับเธอคือ การนำน้ำสกปรกสาดใส่ตัวเขา เขาคิดว่าเธอเป็นอะไร น้ำสกปรกเหรอ?แน่นนอน เขาเกลียดเธอ !แต่ในเมื่อเขาเกลียดเธอมาก ทำไมเขาถึงมารังควานเธอด้วย?เซี่ยซีหว่านมองใบหน้าที่เย็นชาหล่อเหลาของเขาและพูดเยาะเย้ยว่า “ฉันแค่พูดไร้สาระ พอใจหรือยังล่ะ คนที่บริสุทธิ์ผุดผ่องอย่าประธานลู่ ฉันจะทำให้คุณมีมลทินได้อย่างไรคะ !”“บริสุทธิ์เหรอ” ลู่หานถิงขมวดคิ้วรูปดาบอันองอาจผึ่งผายนั้นและกล่าวว่า “คนที่พูดว่าผมนอนกับคุณ ก็คือคุณ ตอนนี้คนที่กำลังพูดไร้สาระก็คือคุณ คิดว่าเป็นหญิงสาวคนหนึ่งก็สามารถพูดจาเหลวไหลแบบนี้ออกมาได้งั้นเหรอ เซี่ยซีหว่าน คุณยังมียางอายอยู่อีกไหม?”“ฉันจะมีหรือไม่มียางอายเกี่ยวอะไรกับคุณด้วยเหรอคะ ใช่สิประธานลู่ คุณคงจะยังไม่...เป็นหนุ่มน้อยบริสุทธิ์คนหนึ่งอยู่ใช่ไหมคะ?”ดวงตาของเซี่ยซีหว่านเปล่งประกาย ทันใดนั้นดูเหมือนว่าจะเจอกับปัญหาเข้าแล้ว เขาไม่มีความทรงจำช่วงนั้นแล้ว เขาคงจำไม่ได้ว่าเขากับเธอเคยเดือดพล่านกันบนเตียงมาก่อน งั้นเขาคงไม่คิดว่า
เซี่ยซีหว่านใช้ส้อมจิ้มสเต็กชิ้นเล็ก ๆ เพิ่งเตรียมจะใส่เข้าปาก ตอนนี้เท้าของเธอที่อยู่ใต้โต๊ะถูกเตะอย่างแรง สเต็กบนส้อมก็ร่วงตกลงมาบนจานทันที“หว่านหว่าน คุณเป็นอะไรไปครับ?” ลู่จื่อเซียนถามด้วยความเป็นห่วงร่างผอมเพรียวของเซี่ยซีหว่านสั่นไหวเล็กน้อย เธอมองไปยังลู่หานถิงซึ่งนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เขาไม่ได้พูดอะไรมาโดยตลอดตั้งแต่เธอเดินเข้ามา แต่เขาเพิ่งเตะเธอเขาเป็นอะไรของเขา?ลู่หานถิงหั่นสเต็กในมืออย่างสง่างามราวกับว่าคนที่เตะเมื่อกี้ไม่ใช่เขา ทั้งหมดไม่เกี่ยวอะไรกับเขาเลยเข้าใจแกล้งจริง ๆ !เซี่ยซีหว่านด่าเขาในใจแล้วยิ้มให้ลู่จื่อเซียนและกล่าวว่า “จื่อเซียน ฉันไม่เป็นอะไรค่ะ”ทั้งห้าคนก็จบมือค่ำในบรรยากาศอันแปลก ๆ แบบนี้ลง...หลังมื้อเย็น เซี่ยซีหว่านไปห้องน้ำทันทีที่เธอเดินเข้ามา มือใหญ่มือหนึ่งจากด้านในยื่นออกมา และคว้าข้อมือที่เรียวยาวของเธอแล้วดึงเธอเข้าไปเซี่ยซีหว่านชนเข้ากับหน้าอกแข็งแกร่งอย่างกระทันหัน หน้าอกนี้แข็งแกร่งราวกับกับแพง เธอชนเข้าไปราวกับกระดูกของเธอจะแตกสลาย นัยน์ตาขาวบริสุทธื์แดงก่ำด้วยความเจ็บปวดเธอเงยหน้าขึ้นและใบหน้าที่หล่อเหลาละเอียดงดงามของล
ด้านนอกประตูคือลู่จื่อเซียนจริง ๆ และยังมีเงาเพรียวบางเงาหนึ่งอยู่ข้างกายของลู่จื่อเซียนหลิวจ้าวตี้ดีใจมาก “จื่อเซียน ลูกกลับมาแล้วเหรอ คู่หมั้นของลูก…”แววตาของหลิวจ้าวตี้จับจ้องไปยังเซี่ยซีหว่าน เมื่อมองชัดเจนแล้วว่าเป็นเซี่ยซีหว่าน รูม่านตาของหลิวจ้าวตี้ก็เบิกกว้างและตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ในทันทีเป็นไปได้ยังไงกัน?ทั้งลู่ซือเจี๋ยและลู่หานถิงที่อยู่ในห้องนั่งเล่นต่างก็ได้ยินการเคลื่อนไหวที่ด้านนอกประตู คืนนี้พวกเขากำลังรอให้ลู่จื่อเซียนพาคู่หมั้นลึกลับกลับบ้านลู่ซือเจี๋ยวางหนังสือพิมพ์เศรษฐกิจในมือลงแล้วยืนขึ้นพลางเอ่ยถามว่า “เกิดอะไรขึ้น?”ทันใดนั้นลู่จื่อเซียนจูงมือเล็ก ๆ ของเซี่ยซีหว่านเดินเข้ามาทันทีที่ลู่ซือเจี๋ยเห็นเซี่ยซีหว่าน เขาเคยต่อกรกับเซี่ยซีหว่านมาแล้วสองครั้ง เขารู้ดีว่าเด็กสาวคนนี้ไม่ธรรมดา แต่เขาไม่คิดมาก่อนว่าเซี่ยซีหว่านจะเป็นลูกสาวของหลินสุ่ยเหยา!ในขณะเดียวกันนั้นลู่หานถิงก็มองไปยังลู่จื่อเซียน จากนั้นดวงตาอันเฉี่ยวคมของเขาก็ค่อย ๆ หันไปมองใบหน้าที่งดงามของเซี่ยซีหว่าน จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนการมาถึงของเซี่ยซีหว่านทำให้ครอบครัวลู่ทั้งหมดตกอยู่ในบรรยากา
ลู่จื่อเซียนพูดกับเธอว่า หว่านหว่านผมชอบคุณครับเซี่ยซีหว่านนั่งลง เธอรู้ว่าลู่จื่อเซียนรู้สึกกับเธออย่างไร ได้รับความรักจากคุณชายรองตระกูลลู่ที่ทั้งสง่างาม และมีความสามารถ เธอควรจะมีความสุข และตื่นเต้นมากกว่าผู้หญิงคนไหน ๆ อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้รู้สึกแบบนั้นกับลู่จื่อเซียน นอกจากนี้เธอแต่งงานกับลู่หานถิงแล้ว แม้จะเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ก็ตาม แต่เธอก็เคยเป็นพี่สะใภ้ของเขาแล้ว และตอนนี้เธอได้กลายมาเป็นคู่หมั้นของเขาอีกครั้ง ความรู้สึกนี้เป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดขณะเดียวกันเซี่ยปัง และหลานเหยียนเดินเข้ามา เขาพูดว่า “หว่านหว่านการแต่งงานในครั้งนี้เป็นความต้องการของแม่ของลูก พวกเราคิดว่าคุณชายรองตระกูลลู่เป็นคนที่ดีมาก เขาจะไม่ทำให้ลูกเศร้าเสียใจเหมือนใครบางคน ตอนนี้ลูกคงจะไม่ปฏิเสธคุณชายรองตระกูลลู่เพราะคน ๆ นั้นใช่ไหม?”“ใช่แล้วหว่านหว่าน ผู้หญิงอย่างพวกเราต้องมองไปข้างหน้า ผ่านไปแล้วก็ผ่านไป ไม่ต้องไปเสียใจกับมัน ปล่อยวางในสิ่งที่ควรจะปล่อย ถ้าลูกไม่ยอมเปิดใจ และก้าวไปข้างหน้า ลูกจะเห็นความงามของชีวิตได้อย่างไร?”เซี่ยปังและหลานเหยียนไม่ชอบลู่หานถิง ลู่หานถิงแต่งงานกับลี่เหยียนหลา
สวี่เส้าหนานรู้สึกขมขื่นภายในใจ !คุณท่านลี่ไม่ต้องการให้เซี่ยซีหว่านลงเอยกับสวี่เส้าหนานหลานชายของท่าน เธอคิดว่าสองคนนี้ไม่คู่ควรกัน ตอนนี้คุณท่านลี่กำลังยืนมองลู่จื่อเซียน คุณท่านลี่รู้จักลูกชายสองคนของตระกูลลู่ เป็นอย่างดี เห็นได้ชัดว่าลู่จื่อเซียนเป็นเหมือนกับดอกบัวที่บานในโคลนตม เขาเป็นคนที่ดีมากชีวิตส่วนตัวของลู่จื่อเซียนใสสะอาดมาก และเขายังไม่เคยมีแฟนมาก่อน คุณท่านลี่ดูออกว่าลู่จื่อเซียนชอบเซี่ยซีหว่านมาก เขาดูแล และเอาใจใส่เธอด้วยความรัก ดังนั้นคุณท่านลี่จึงมองเขาเหมือนหลานชายคนหนึ่ง ท่านเหลือบมองลู่จื่อเซียน จากนั้นก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจเซี่ยปังและหลานเหยียนก็พอใจในตัวลู่จื่อเซียนมากเช่นเดียวกัน ในมหานครเอมพีเรียลแห่งนี้ ลู่จื่อเซียนเป็นคนที่มีความสามารถและหล่อเหลา อีกทั้งยังเหมาะสมกับเซี่ยซีหว่านแหวนหยกวงนี้เป็นแหวนที่หลินสุ่ยเหยาสวมอยู่ตลอดเวลา เซี่ยปังและหลานเหยียนจำข้าวของส่วนตัวของหญิงสาวได้อย่างรวดเร็ว ย้อนกลับไปในตอนนั้นเธอได้หมั้นหมายเซี่ยซีหว่านกับลูกชายของเพื่อนสนิท พวกเขาคิดไม่ถึงว่าเด็กชายคนนั้นจะเป็นคุณชายรองตระกูลลู่ลู่จื่อเซียนเป็นนักวิชาการที่อายุน้อยท
เซี่ยปัง “...”ที่นี่...คือตระกูลเซี่ย ไม่ใช่เหรอ?เซี่ยปังมองไปยังคุณท่านลี่ที่พูดออกไปเช่นนั้น มุมปากของเขากระตุกเล็กน้อยคุณท่านลี่เป็นนายหญิงของตระกูลลู่มานานหลายปีแล้ว ท่านมีภาพลักษณ์ที่น่าเกรงขามเป็นอย่างมาก บรรดาผู้ใต้บังคับบัญชาที่ถูกท่านดุก็มักจะกลัวจนขาอ่อนแรง และเกือบจะล้มลงไปในทันทีขณะเดียวกันร่างที่หล่อเหลา และดูชั่วร้ายก็ปรากฏตัวขึ้น เขาพูดว่า “อย่าทำให้เขาตกใจกลัวสิครับคุณยาย ผมเองที่มาที่นี่ !”เมื่อทุกคนหันไปมอง กลายเป็นสวี่เส้าหนานคุณชายของตระกูลสวี่ เจ้าชายแห่งมหานครเอมพีเรียลที่ไม่เคยเกรงกลัวสิ่งใดเขามาที่นี่จริง ๆ !คุณท่านลี่มองสวี่เส้าหนานด้วยสีหน้าไม่พอใจ ราวกับว่าที่นี่เป็นบ้านของท่านจริง ๆ ท่านพูดว่า “ทำไมหลานถึงมาที่นี่ได้ล่ะ?”“คุณยายผมมาที่นี่เพราะ…” ดวงตาทรงดอกท้อของสวี่เส้าหนานมองไปยังใบหน้าที่งดงามของเซี่ยซีหว่าน และพูดต่อว่า “...เพราะเซี่ยซีหว่านครับ !”คุณชายที่มีชื่อเสียงเช่นเขา มีข่าวลือไปทั่วว่าเขาเปลี่ยนผู้หญิงราวกับเปลี่ยนเสื้อผ้า เซี่ยปังและหลานเหยียนรีบดึงเซี่ยซีหว่านไปทางด้านหลังพวกเขา และพูดว่า “คุณชายสวี่ครับ หว่านหว่านของพวกเราไม่
คุณท่านลี่ยิ้ม และพูดว่า “ทำไมล่ะ ฉันมาร่วมฉลองงานวันเกิดของเซี่ยปังผู้ยิ่งใหญ่ไม่ได้เหรอ?”เมื่อท่านพูดจบ ภายในห้องโถงก็เกิดความโกลาหลขึ้นในทันที ท่านผู้เฒ่าแห่งตระกูลลี่มาที่นี่เพื่อฉลองวันเกิดให้กับเซี่ยปัง!”คุณท่านลี่มองไปที่เซี่ยปังและหลานเหยียน จากนั้นก็พูดว่า “ท่านเซี่ย คุณนายเซี่ย ฉันมาที่นี่โดยไม่ได้รับคำเชิญ หวังว่าพวกคุณจะไม่ถือสาและไล่ฉันออกไปใช่ไหม?”เซี่ยปังและหลานเหยียนชำเลืองมองกัน พวกเขาไม่คิดว่าจู่ ๆ คุณท่านลี่จะมาร่วมงานด้วย แม้ว่าตระกูลเซี่ยจะเป็นตระกูลที่มีอิทธิพล แต่ตระกูลขุนนางเก่าแก่ที่ร่ำรวยในมหานครเอมพีเรียลก็ไม่ได้สนใจที่จะคบค้าสมาคมกับพวกเขา นั่นเป็นเป็นเหตุผลว่าทำไมเซี่ยซีหว่านจึงไม่สามารถเข้าสู่แวดวงคนดังในมหานครเอมพีเรียลได้ตระกูลเซี่ยและสี่ยักษ์ใหญ่แห่งมหานครเอมพีเรียลไม่เคยติดต่อไปมาหาสู่ หรือมีปัญหาอะไรกันมาก่อน แต่จู่ ๆ วันนี้คุณท่านลี่กลับมาที่นี่อย่างกะทันหัน ทำให้ทุกคนในที่นี้ต่างก็ตกตะลึงแต่ในเมื่อท่านมาถึงที่นี่แล้ว เซี่ยปังก็ไม่สามารถไม่ต้อนรับท่าน เขาจึงพูดว่า “คุณท่านลี่ ยินดีต้อนรับครับ”คุณท่านลี่ยิ้ม จากนั้นก็ส่งกล่องของขวัญให้กับเ