“ อ้าวเจน มาแล้วเหรอ แม่ว่าจะไปตามพอดี “ จ๊ะจ๋าเดินมาจูงแขนลูกสาวแล้วพามานั่งที่โต๊ะ “ อาเจตบอกเจนแล้ว นี่มีอะไรกินบ้าง หลานแม่หิวจะแย่แล้วเนี้ย “ เธอนั่งลงแล้วชะเง้อหน้ามองอาหารบนโต๊ะ “ มีแต่ของที่ลูกชอบทั้งนั้นแหละ ลูกกินเยอะๆ นะ จะได้แข็งแรง “ พลอยเจนแหงนหน้ามองแม่ที่ยืนลูบหัวเธออยู่ “ แล้วพ่อล่ะคะ “ เมื่อมารดาเดินมานั่งข้าง เธอจึงถามถึงอีกคน “ พ่อเขากลับไปเคลียร์เรื่องสัญญาซื้อขายโรงงานที่เวียดนามของเขานู้น เพิ่งออกไปก่อนหน้าที่เจนจะเข้ามาแป๊บเดียวเอง “ “ คุณพ่อเขาจะขายโรงงานจริงๆ เหรอ ไหนเคยบอกว่านั่นคือทั้งชีวิตของพ่อไง “ พลอยเจนจ้องหน้าแม่ที่กำลังนั่งยิ้มอ่อนให้เธอ “ เรื่องนั้นมันก็ใช่ โรงงานนั้นทำให้พ่อกับแม่มีวันนี้ โรงงานนั้นคือส่วนที่ทำให้เจนของแม่ได้สุขสบายได้เรียนสูงๆ ทำให้เรามีโรงแรม แล้วก็บ้านหลังนี้ด้วย “ จ๊ะจ๋ากล่าวพร้อมคิดคำนึงถึงอดีต กว่าเธอกับสามีจะมีวันนี้ได้มันทุกยากลำบากมาก “ แล้วทำไมถึงคิดจะขาย ทำใจได้เหรอคะ “ “ ถ้าโรงงานนั่นไม่ได้อยู่ต่างประเทศ แม่ก็คงจะห้ามไม่ให้พ่อเขาขาย แต่เพราะว่าพ่อเขาไม่อยากไปอยู่ไกลหูไกลตาแม่กับลูกแล้ว พ่อเขาอยากกลั
ไม่นานรถก็ขับมาจอดที่หน้าร้าน เจ้าของร้านจึงรีบก้าวขาลงจากรถ คุณสามีก็เปิดแว่นรถลงมาคุยกับเธอ “ เจน ถ้าจะออกไปไหนโทรมาหาอานะ เดี๋ยวจะมารับ “ แต่พลอยเจนกลับไม่คุยกับเขา รู้สึกว่าการจะทำให้ผู้หญิงคนนี้รักมันยากเหลือเกิน เมื่อเห็นหญิงสาวเดินเข้าร้านไปโดยไม่สนใจไยดีเขาเช่นนั้น จิรกิตติ์จึงขับรถออกไป “ สวัสดีค่ะพี่เจน วันนี้มีคนมาสมัครงานด้วยค่ะ “ พลอยเจนก้าวขาเขามาในร้าน มุกดาก็ทักทายเธอเหมือนกับที่เคยทำประจำ แต่วันนี้เธอเหมือนจะดีใจเป็นพิษเนื่องจากติดป้ายรับสมัครคนงานมาเป็นเดือนแล้ว เพิ่งจะมีคนโผล่มา “ จริงเหรอมุก เขาอยู่ไหนล่ะ “ “ เขานั่งอยู่ตรงนั้นนะคะพี่ คุณคะ เจ้าของร้านมาแล้วค่ะ “ พลอยเจนเดินเข้าไปหาคนที่กำลังยกมือขึ้นไหว้เธอ “ สวัสดีครับผมชื่อชัยโย จะมาสมัครงานครับ “ พลอยเจนยิ้มตอบเขา แล้วก็นั่งคุยกัน “ อายุเท่าไหร่แล้วคะ เคยทำงานมาก่อนหรือเปล่า “ “ อายุ 28 ครับ งานยังไม่เคยทำ “ คนถามจ้องคนตรงหน้าอย่างแปลกใจ ดูจากท่าทางของเขา ไม่น่าจะเป็นคนโลเลแบบนั้นนี่ “ พอดีผมบวชเรียนตั้งแต่เด็ก เพิ่งจะสึกออกมา เพราะเริ่มอยากจะใช้ชีวิตวัยรุ่นปกติกับเขานะครับ “ คำที่ชัยโยกล่าว
“ มาตรวจสุขภาพเหรอครับ ?” “ ใช่ ช่วงนี้เป็นอะไรไม่รู้ ปวดหัว คลื่นไส้บ่อยมาก “ “ เหม็นอาหารด้วยใช่มั้ยครับ “ “ อืมใช่ ไนรู้ได้ยังไงเนี้ย “ คนแก่มองหน้าหมอหนุ่มอย่างนึกงง คุณหมอจึงขำใส่ท่าทีของเขาเบาๆ “ ขอโทษทีนะครับที่ผมขำคุณอา แต่อาการแบบนี้มันไม่มีอะไรมากหรอกครับ เป็นเรื่องปกติ “ “ ปกติ ปกติยังไงเพิ่งจะมาเป็นเองนะ ตกลงว่าอาเป็นอะไรกันแน่ “ คุณหมอหนุ่มยิ้มอ่อนแล้วจ้องหน้าคนตรงหน้า “ เจนท้องได้เกือบจะ 4 เดือนแล้วใช่มั้ยครับอา “ “ ใช่! มันเกี่ยวกับที่เจนท้องด้วยเหรอ “ คุณหมอยิ้มเอ็นดูให้คนตรงหน้าที่ไม่รู้ว่าตัวเองแพ้ท้องแทนเมีย “ ใช่ครับ อาการนี้เขาเรียกว่าแพ้ท้องแทนเมียนะ “ “ จริงหรือ? ได้ยินแต่คนอื่นพูด มันมีแบบนั้นจริงดิ “ หมอไนพยักหน้าแล้วอธิบายให้คนตรงหน้าฟัง “ เท่าที่ผมจำได้ น่าจะเป็นเพราะคนเป็นพ่อมีความวิตกกังวล และเป็นห่วงคนเป็นแม่ที่แพ้ท้อง ตื่นเต้นที่จะมีสมาชิกใหม่เกิดขึ้น ทำให้ฮอร์โมนเพศหญิงในตัวของฝ่ายชายเพิ่มขึ้นนะครับ อาการแบบนี้เขาเรียกว่า โคเวด ซินโดรม “ คนฟังพยักหน้าเข้าใจในสิ่งที่คุณหมอบอก “ แล้วคุณอาเป็นมานานหรือยังครับ “ “ ก็เป็นตั
“ พี่เจน!! “ “ เจน! “ สองหนุ่มรีบก้มลงไปดูหญิงสาว ชัยโยพยายามยื่นมือจะช่วยพยุงพลอยเจนด้วยความหวังดี แต่ก็โดนจิรกิตติ์ผลักออก จนคนเจ็บเริ่มโมโห “ โอ้ยอาเจต รีบพาเจนไปจากตรงนี้ก่อนได้มั้ย เจนเจ็บจะตายอยู่แล้วเนี่ย “ “ จ้ะ ๆ “ จิรกิตติ์รีบอุ้มเอาร่างเมียขึ้นไว้ในอ้อมแขนแล้วพาเธอเดินเข้ามาในห้องพัก “ ไปหาหมอไหมเจน “ เขาวางเธอลงบนโซฟาแล้วรีบหาผ้าสะอาดมาซับเลือดให้ “ ไม่ต้องหรอกเสียเวลา แผลแค่นี้เอง “ คนฟังขมวดคิ้วเงยหน้ามองเธอ “ แต่นี้เลือดออกเลยนะ แถมเมื่อกี้ยังบอกว่าเจ็บมากอยู่เลย “ “ เจนมียาอยู่ แค่ใส่ยาก็พอกล่องยาอยู่บนตู้น่ะ “ นิ้วเล็กชี้ไปที่ตู้ยาบนฝาห้อง จิรกิตติ์มองตาม แล้วลุกเดินไปเอามันมา จากนั้นเขาจึงมานั่งลงต่อหน้าเธอ มือหนาจับที่ขาของภรรยายกมาวางไว้บนตัก “ อาเจต จะทำอะไร! เจนทำเองก็ได้ “ “ ไม่ ให้อาทำให้นี่แหละ จะได้สะดวก “ ทั้งคู่เผลอสบตากันแป๊บหนึ่ง แต่เป็นพลอยเจนเองที่รีบหลบสายตาก่อน เจตเห็นเช่นนั้นเขาจึงก้มหน้าค่อยๆ บรรจงทำแผลให้เธออย่างเบามือ จนหญิงสาวที่จ้องอยู่ถึงกับมองเขาด้วยแววตาที่เปลี่ยนไป “ โอ้ย “ เจ้าของร่างกรีดร้องเสียงดังเมื่อเขาเอาสำล
“ เจนเป็นห่วงอาเหรอ? “ ฝ่ามืออุ่นจับมือเล็กของหญิงสาวขึ้นมาแล้วเอาผ้าเปียกมาเช็ดให้ “ ก็ถ้าคุณตายก่อน แล้วใครจะหาเงินเลี้ยงลูกล่ะ เจนก็อยากให้ลูกเกิดมามีชีวิตที่ดีนะ เจน…..ก็อยากให้ลูกมีพ่อเหมือนกัน “ หญิงสาวเปลี่ยนเรื่องไปเรื่อยเพราะกลัวเขาจะตู่เอาว่าเธอเป็นห่วง “ อายังไม่ตายง่ายๆ หรอกน่า อะ กินข้าวได้แล้ว “ เขายื่นจานข้าวส่งให้เธอ “ ขอบคุณค่ะ “ พอเวลาผ่านไปสักพักเธอก็นึกอยากจะถามอะไรเขาขึ้นมา “ เจนถามจริงๆ นะ มาคลุกคลีอยู่แต่กับเจนแบบนี้ สามสี่สาวของคุณไม่ว่าอะไรเหรอ “ คนฟังรีบเงยขึ้นมาจ้องตาเธอ “ อาไม่ได้ไปวุ่นวายกับพวกเธอมาหลายเดือนแล้วนะ “ เธอแอบดีใจนิดหน่อยเมื่อได้ฟังคำตอบ “ ทำไมล่ะ ปกติเห็นพาไปที่บ้านไม่ซ้ำหน้าเลย ถึงเราจะแต่งงานกันเราก็แต่งเพื่อลูกไม่ใช่เหรอคะ ถึงคุณจะยังมีพวกเธอในชีวิตเจนก็คงว่าอะไรคุณไม่ได้หรอก “ เธอพูดประชดประชันไปแบบนั้น แต่แล้วหัวใจก็เต้นแรงเมื่อได้ฟังคำตอบจากเขา “ แต่เจนบอกกับอาว่าไม่ชอบใช้ของร่วมกับใครไง อาก็อยากจะทำให้เจนสบายใจ “ เขามองตาของเธอด้วยนัยน์ตาหวานหยดย้อย เล่นเอาหญิงสาวต้องรีบหลบหน้า “ ที่สำคัญอาก็กำลังจะได้เป็นพ่อคนแ
“ มันมีจริงด้วยเหรออะไรแบบนั้นนะ “ “ มีสิ ผู้ชายที่รักเมียมากๆ เป็นห่วงเป็นใยเมีย จนเกิดเป็นความเครียด มันก็เลยมีคำว่าแพ้ท้องแทนเมียขึ้นมาไง “ คุณหมอจึงจำเป็นต้องมานั่งอธิบายให้คุณเสี่ยฟังอีก เสี่ยโอมก็อมยิ้มบ่นกับตัวเองเบาๆ “ ถ้างั้นกูต้องเตรียมรับมือไว้ด้วยสินะ เพราะกูรักเมียมากเลย คงจะแพ้ท้องแทนเมียแน่ๆ “ “ มึงหาทางให้ลูกติดก่อนเถอะไอ้โอม “ แต่หนึ่งเดียวกับดักอารมณ์เพื่อน จนเสี่ยหุบยิ้มเกือบไม่ทัน ตรงข้ามกับเพื่อนๆ คนอื่นที่หลุดขำเขา “ ว่าแต่กู พวกมึงรอดูเหอะ! “ เสี่ยกอดอกหน้าบูดบึ้งเอนหลังชนกับโซฟา “ อ่าๆ อย่างอนดิกูเตรียมเหล้าไว้ให้มึงชงตั้งเยอะ “ “ พี่เจนครับ ลังพวกนี้จะให้เอาไปไว้ไหนครับ “ ชัยโยได้ยกลังเหล้าที่เจนเพิ่งจะสั่งเข้ามาให้ “ เอาวางไว้ตรงนั้นก็ได้ เสร็จแล้วก็กลับไปได้เลยนะ ขอบใจมากที่อาสาออกไปซื้อให้ “ ชัยโยหันมายิ้มอ่อนให้พลอยเจนแล้วเดินออกไป “ ใคร? “ เมื่อชายหนุ่มเดินออกไป เสี่ยโอมก็หันมาถามเพื่อนสาว “ พนักงานใหม่ ทำไมพวกมึงต้องมองกูแบบนี้ด้วย “ “ อ้าว ก็ปกติเห็นรับแต่ผู้หญิง “ “ โอ้ย ก็พนักงานมันหายากนี้กูติดป้ายเป็นเดือน เพิ่งจะมีค
“ จะให้ไปนอนได้ยังไง อาต้องรอบอกฝันดีลูกกับเมียก่อนสิ “ จิรกิตติ์พูดหวานพลันยื่นหน้าไปส่งยิ้มให้คนบนเตียง “ ไม่บอกสักวันก็ได้มั้ง “ พลอยเจนที่ไม่อยากจะรู้สึกแปลกๆ เหมือนวันนั้นจึงหาเรื่องมาบ่ายเบี่ยง แต่คนฟังส่ายหน้า เขายังคงจ้องประชิดอยู่ที่ใบหน้าของเธอ หญิงสาวหันหนีไปเมื่อรู้สึกว่ามันร้อนๆ “ แต่เจนยังไม่ได้อาบน้ำเลย ต้องอาบน้ำก่อน จะรอเหรอคะ “ คนฟังก็ส่ายหน้าอีก “ ก็ไปอาบสิ อารอได้ “ ใบหน้าอมยิ้มเริ่มคิ้วขมวด อะไรมันจะขนาดนั้น เธอลุกยืนแต่ก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บ “ โอ้ย “ “ อ้าว แล้วแบบนี้จะไปอาบน้ำเองได้หรือ “ ฝ่ามืออุ่นจับลงที่สองแขนเล็กของหญิงสาว เพื่อรั้งไม่ให้เธอล้มหัวคะมำ พลอยเจนก็หันเหลือบมาจ้องตาเขา แววตาของเธอเหมือนดั่งว่ากำลังคิดอะไรในใจ จากนั้นจึงฉีกยิ้มกว้าง “ เสร็จแล้วเจน “ จิรกิตติ์เดินยิ้มออกมาจากห้องน้ำหลังจากถูกเมียใช้ให้ไปเปิดน้ำตีสบู่ในอ่างให้ พลอยเจนที่ตอนนี้ใส่แค่ผ้าขนหนูผืนเดียวนั่งรออยู่บนเตียงก็ยื่นแขนไปกอดคอคนที่เดินเข้ามาหา จากนั้นเขาก็อุ้มเธอขึ้น ‘ ดูจากท่าทางแล้วอาเจตเขาคงจะแคร์มึงมากนะ ไม่ก็คงจะหลงรักมึงไปนานแล้ว ‘ อยู่ๆ คำพูดที่เพื่อนๆ
“ เฮ้อ “ จิรกิตติ์นั่งหาวนอนอยู่ที่ปลายเตียง เหตุเพราะพลอยเจนอาบน้ำไม่เสร็จเสียที “ ไม่ใช่ว่าหลับนะ “ ระหว่างนั้นเขาก็คิดขึ้นได้ รู้สึกเป็นห่วงมากจึงลุกเดินไปที่ประตูห้องน้ำ มือใหญ่จับประตูให้เลื่อนออกเป็นช่องเล็กๆ เพื่อสามารถส่องสายตาเข้าไปมองได้ “ อ้าว “ เมื่อเห็นว่าหญิงสาวหลับคาอ่างอาบน้ำไปแล้ว เขาก็ถึงกับถอนหายใจแรง มือใหญ่ดันประตูให้เปิดออกแล้วสาวขายาวเดินเข้าไปนั่งลงที่เก้าอี้ตัวเตี้ยข้างอ่าง สายตาอันคมกริบของเขาทอดมองคนในอ่าง ที่มีเพียงฟองสบู่คุณธรรมปิดบังร่างกายอันสวยงามนั้นไว้ “ เจน จุ๊กกู่!! “ มือใหญ่ปัดขึ้นลงต่อหน้าภรรยาในนามของเขา ที่กำลังหลับเอาหัวพิงขอบอ่างอยู่ “ ถ้าปล่อยให้นอนแช่อยู่ตรงนี้มีหวังเปื่อยแน่ “ เห็นว่าคนที่หลับสนิทไม่มีทีท่าจะตื่นขึ้น จิรกิตติ์จึงจำเป็นต้องงมเอาร่างเล็กขึ้นมาจากน้ำ แต่เจ้าของร่างดันรู้สึกตัวในนาทีหน้าสิ่วหน้าขวานของคนที่กำลังโอบอุ้มร่างเปลือยเปล่าของเธอนี่สิ เขาที่รู้สึกได้ว่าร่างในอ้อมแขนกำลังขยับจึงก้มลงไปมอง ก็เห็นหญิงสาวกำลังตาเหลือกโผนจนจะหล่นออกจากเบ้าจ้องเขม็งมาที่เขาอย่างคาดโทษ “ คุณนี่มัน!! “ “ โอ้ย! โอยเจ็บเจน! “ จิ
“ เฮ้อ “ จิรกิตติ์นั่งหาวนอนอยู่ที่ปลายเตียง เหตุเพราะพลอยเจนอาบน้ำไม่เสร็จเสียที “ ไม่ใช่ว่าหลับนะ “ ระหว่างนั้นเขาก็คิดขึ้นได้ รู้สึกเป็นห่วงมากจึงลุกเดินไปที่ประตูห้องน้ำ มือใหญ่จับประตูให้เลื่อนออกเป็นช่องเล็กๆ เพื่อสามารถส่องสายตาเข้าไปมองได้ “ อ้าว “ เมื่อเห็นว่าหญิงสาวหลับคาอ่างอาบน้ำไปแล้ว เขาก็ถึงกับถอนหายใจแรง มือใหญ่ดันประตูให้เปิดออกแล้วสาวขายาวเดินเข้าไปนั่งลงที่เก้าอี้ตัวเตี้ยข้างอ่าง สายตาอันคมกริบของเขาทอดมองคนในอ่าง ที่มีเพียงฟองสบู่คุณธรรมปิดบังร่างกายอันสวยงามนั้นไว้ “ เจน จุ๊กกู่!! “ มือใหญ่ปัดขึ้นลงต่อหน้าภรรยาในนามของเขา ที่กำลังหลับเอาหัวพิงขอบอ่างอยู่ “ ถ้าปล่อยให้นอนแช่อยู่ตรงนี้มีหวังเปื่อยแน่ “ เห็นว่าคนที่หลับสนิทไม่มีทีท่าจะตื่นขึ้น จิรกิตติ์จึงจำเป็นต้องงมเอาร่างเล็กขึ้นมาจากน้ำ แต่เจ้าของร่างดันรู้สึกตัวในนาทีหน้าสิ่วหน้าขวานของคนที่กำลังโอบอุ้มร่างเปลือยเปล่าของเธอนี่สิ เขาที่รู้สึกได้ว่าร่างในอ้อมแขนกำลังขยับจึงก้มลงไปมอง ก็เห็นหญิงสาวกำลังตาเหลือกโผนจนจะหล่นออกจากเบ้าจ้องเขม็งมาที่เขาอย่างคาดโทษ “ คุณนี่มัน!! “ “ โอ้ย! โอยเจ็บเจน! “ จิ
“ จะให้ไปนอนได้ยังไง อาต้องรอบอกฝันดีลูกกับเมียก่อนสิ “ จิรกิตติ์พูดหวานพลันยื่นหน้าไปส่งยิ้มให้คนบนเตียง “ ไม่บอกสักวันก็ได้มั้ง “ พลอยเจนที่ไม่อยากจะรู้สึกแปลกๆ เหมือนวันนั้นจึงหาเรื่องมาบ่ายเบี่ยง แต่คนฟังส่ายหน้า เขายังคงจ้องประชิดอยู่ที่ใบหน้าของเธอ หญิงสาวหันหนีไปเมื่อรู้สึกว่ามันร้อนๆ “ แต่เจนยังไม่ได้อาบน้ำเลย ต้องอาบน้ำก่อน จะรอเหรอคะ “ คนฟังก็ส่ายหน้าอีก “ ก็ไปอาบสิ อารอได้ “ ใบหน้าอมยิ้มเริ่มคิ้วขมวด อะไรมันจะขนาดนั้น เธอลุกยืนแต่ก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บ “ โอ้ย “ “ อ้าว แล้วแบบนี้จะไปอาบน้ำเองได้หรือ “ ฝ่ามืออุ่นจับลงที่สองแขนเล็กของหญิงสาว เพื่อรั้งไม่ให้เธอล้มหัวคะมำ พลอยเจนก็หันเหลือบมาจ้องตาเขา แววตาของเธอเหมือนดั่งว่ากำลังคิดอะไรในใจ จากนั้นจึงฉีกยิ้มกว้าง “ เสร็จแล้วเจน “ จิรกิตติ์เดินยิ้มออกมาจากห้องน้ำหลังจากถูกเมียใช้ให้ไปเปิดน้ำตีสบู่ในอ่างให้ พลอยเจนที่ตอนนี้ใส่แค่ผ้าขนหนูผืนเดียวนั่งรออยู่บนเตียงก็ยื่นแขนไปกอดคอคนที่เดินเข้ามาหา จากนั้นเขาก็อุ้มเธอขึ้น ‘ ดูจากท่าทางแล้วอาเจตเขาคงจะแคร์มึงมากนะ ไม่ก็คงจะหลงรักมึงไปนานแล้ว ‘ อยู่ๆ คำพูดที่เพื่อนๆ
“ มันมีจริงด้วยเหรออะไรแบบนั้นนะ “ “ มีสิ ผู้ชายที่รักเมียมากๆ เป็นห่วงเป็นใยเมีย จนเกิดเป็นความเครียด มันก็เลยมีคำว่าแพ้ท้องแทนเมียขึ้นมาไง “ คุณหมอจึงจำเป็นต้องมานั่งอธิบายให้คุณเสี่ยฟังอีก เสี่ยโอมก็อมยิ้มบ่นกับตัวเองเบาๆ “ ถ้างั้นกูต้องเตรียมรับมือไว้ด้วยสินะ เพราะกูรักเมียมากเลย คงจะแพ้ท้องแทนเมียแน่ๆ “ “ มึงหาทางให้ลูกติดก่อนเถอะไอ้โอม “ แต่หนึ่งเดียวกับดักอารมณ์เพื่อน จนเสี่ยหุบยิ้มเกือบไม่ทัน ตรงข้ามกับเพื่อนๆ คนอื่นที่หลุดขำเขา “ ว่าแต่กู พวกมึงรอดูเหอะ! “ เสี่ยกอดอกหน้าบูดบึ้งเอนหลังชนกับโซฟา “ อ่าๆ อย่างอนดิกูเตรียมเหล้าไว้ให้มึงชงตั้งเยอะ “ “ พี่เจนครับ ลังพวกนี้จะให้เอาไปไว้ไหนครับ “ ชัยโยได้ยกลังเหล้าที่เจนเพิ่งจะสั่งเข้ามาให้ “ เอาวางไว้ตรงนั้นก็ได้ เสร็จแล้วก็กลับไปได้เลยนะ ขอบใจมากที่อาสาออกไปซื้อให้ “ ชัยโยหันมายิ้มอ่อนให้พลอยเจนแล้วเดินออกไป “ ใคร? “ เมื่อชายหนุ่มเดินออกไป เสี่ยโอมก็หันมาถามเพื่อนสาว “ พนักงานใหม่ ทำไมพวกมึงต้องมองกูแบบนี้ด้วย “ “ อ้าว ก็ปกติเห็นรับแต่ผู้หญิง “ “ โอ้ย ก็พนักงานมันหายากนี้กูติดป้ายเป็นเดือน เพิ่งจะมีค
“ เจนเป็นห่วงอาเหรอ? “ ฝ่ามืออุ่นจับมือเล็กของหญิงสาวขึ้นมาแล้วเอาผ้าเปียกมาเช็ดให้ “ ก็ถ้าคุณตายก่อน แล้วใครจะหาเงินเลี้ยงลูกล่ะ เจนก็อยากให้ลูกเกิดมามีชีวิตที่ดีนะ เจน…..ก็อยากให้ลูกมีพ่อเหมือนกัน “ หญิงสาวเปลี่ยนเรื่องไปเรื่อยเพราะกลัวเขาจะตู่เอาว่าเธอเป็นห่วง “ อายังไม่ตายง่ายๆ หรอกน่า อะ กินข้าวได้แล้ว “ เขายื่นจานข้าวส่งให้เธอ “ ขอบคุณค่ะ “ พอเวลาผ่านไปสักพักเธอก็นึกอยากจะถามอะไรเขาขึ้นมา “ เจนถามจริงๆ นะ มาคลุกคลีอยู่แต่กับเจนแบบนี้ สามสี่สาวของคุณไม่ว่าอะไรเหรอ “ คนฟังรีบเงยขึ้นมาจ้องตาเธอ “ อาไม่ได้ไปวุ่นวายกับพวกเธอมาหลายเดือนแล้วนะ “ เธอแอบดีใจนิดหน่อยเมื่อได้ฟังคำตอบ “ ทำไมล่ะ ปกติเห็นพาไปที่บ้านไม่ซ้ำหน้าเลย ถึงเราจะแต่งงานกันเราก็แต่งเพื่อลูกไม่ใช่เหรอคะ ถึงคุณจะยังมีพวกเธอในชีวิตเจนก็คงว่าอะไรคุณไม่ได้หรอก “ เธอพูดประชดประชันไปแบบนั้น แต่แล้วหัวใจก็เต้นแรงเมื่อได้ฟังคำตอบจากเขา “ แต่เจนบอกกับอาว่าไม่ชอบใช้ของร่วมกับใครไง อาก็อยากจะทำให้เจนสบายใจ “ เขามองตาของเธอด้วยนัยน์ตาหวานหยดย้อย เล่นเอาหญิงสาวต้องรีบหลบหน้า “ ที่สำคัญอาก็กำลังจะได้เป็นพ่อคนแ
“ พี่เจน!! “ “ เจน! “ สองหนุ่มรีบก้มลงไปดูหญิงสาว ชัยโยพยายามยื่นมือจะช่วยพยุงพลอยเจนด้วยความหวังดี แต่ก็โดนจิรกิตติ์ผลักออก จนคนเจ็บเริ่มโมโห “ โอ้ยอาเจต รีบพาเจนไปจากตรงนี้ก่อนได้มั้ย เจนเจ็บจะตายอยู่แล้วเนี่ย “ “ จ้ะ ๆ “ จิรกิตติ์รีบอุ้มเอาร่างเมียขึ้นไว้ในอ้อมแขนแล้วพาเธอเดินเข้ามาในห้องพัก “ ไปหาหมอไหมเจน “ เขาวางเธอลงบนโซฟาแล้วรีบหาผ้าสะอาดมาซับเลือดให้ “ ไม่ต้องหรอกเสียเวลา แผลแค่นี้เอง “ คนฟังขมวดคิ้วเงยหน้ามองเธอ “ แต่นี้เลือดออกเลยนะ แถมเมื่อกี้ยังบอกว่าเจ็บมากอยู่เลย “ “ เจนมียาอยู่ แค่ใส่ยาก็พอกล่องยาอยู่บนตู้น่ะ “ นิ้วเล็กชี้ไปที่ตู้ยาบนฝาห้อง จิรกิตติ์มองตาม แล้วลุกเดินไปเอามันมา จากนั้นเขาจึงมานั่งลงต่อหน้าเธอ มือหนาจับที่ขาของภรรยายกมาวางไว้บนตัก “ อาเจต จะทำอะไร! เจนทำเองก็ได้ “ “ ไม่ ให้อาทำให้นี่แหละ จะได้สะดวก “ ทั้งคู่เผลอสบตากันแป๊บหนึ่ง แต่เป็นพลอยเจนเองที่รีบหลบสายตาก่อน เจตเห็นเช่นนั้นเขาจึงก้มหน้าค่อยๆ บรรจงทำแผลให้เธออย่างเบามือ จนหญิงสาวที่จ้องอยู่ถึงกับมองเขาด้วยแววตาที่เปลี่ยนไป “ โอ้ย “ เจ้าของร่างกรีดร้องเสียงดังเมื่อเขาเอาสำล
“ มาตรวจสุขภาพเหรอครับ ?” “ ใช่ ช่วงนี้เป็นอะไรไม่รู้ ปวดหัว คลื่นไส้บ่อยมาก “ “ เหม็นอาหารด้วยใช่มั้ยครับ “ “ อืมใช่ ไนรู้ได้ยังไงเนี้ย “ คนแก่มองหน้าหมอหนุ่มอย่างนึกงง คุณหมอจึงขำใส่ท่าทีของเขาเบาๆ “ ขอโทษทีนะครับที่ผมขำคุณอา แต่อาการแบบนี้มันไม่มีอะไรมากหรอกครับ เป็นเรื่องปกติ “ “ ปกติ ปกติยังไงเพิ่งจะมาเป็นเองนะ ตกลงว่าอาเป็นอะไรกันแน่ “ คุณหมอหนุ่มยิ้มอ่อนแล้วจ้องหน้าคนตรงหน้า “ เจนท้องได้เกือบจะ 4 เดือนแล้วใช่มั้ยครับอา “ “ ใช่! มันเกี่ยวกับที่เจนท้องด้วยเหรอ “ คุณหมอยิ้มเอ็นดูให้คนตรงหน้าที่ไม่รู้ว่าตัวเองแพ้ท้องแทนเมีย “ ใช่ครับ อาการนี้เขาเรียกว่าแพ้ท้องแทนเมียนะ “ “ จริงหรือ? ได้ยินแต่คนอื่นพูด มันมีแบบนั้นจริงดิ “ หมอไนพยักหน้าแล้วอธิบายให้คนตรงหน้าฟัง “ เท่าที่ผมจำได้ น่าจะเป็นเพราะคนเป็นพ่อมีความวิตกกังวล และเป็นห่วงคนเป็นแม่ที่แพ้ท้อง ตื่นเต้นที่จะมีสมาชิกใหม่เกิดขึ้น ทำให้ฮอร์โมนเพศหญิงในตัวของฝ่ายชายเพิ่มขึ้นนะครับ อาการแบบนี้เขาเรียกว่า โคเวด ซินโดรม “ คนฟังพยักหน้าเข้าใจในสิ่งที่คุณหมอบอก “ แล้วคุณอาเป็นมานานหรือยังครับ “ “ ก็เป็นตั
ไม่นานรถก็ขับมาจอดที่หน้าร้าน เจ้าของร้านจึงรีบก้าวขาลงจากรถ คุณสามีก็เปิดแว่นรถลงมาคุยกับเธอ “ เจน ถ้าจะออกไปไหนโทรมาหาอานะ เดี๋ยวจะมารับ “ แต่พลอยเจนกลับไม่คุยกับเขา รู้สึกว่าการจะทำให้ผู้หญิงคนนี้รักมันยากเหลือเกิน เมื่อเห็นหญิงสาวเดินเข้าร้านไปโดยไม่สนใจไยดีเขาเช่นนั้น จิรกิตติ์จึงขับรถออกไป “ สวัสดีค่ะพี่เจน วันนี้มีคนมาสมัครงานด้วยค่ะ “ พลอยเจนก้าวขาเขามาในร้าน มุกดาก็ทักทายเธอเหมือนกับที่เคยทำประจำ แต่วันนี้เธอเหมือนจะดีใจเป็นพิษเนื่องจากติดป้ายรับสมัครคนงานมาเป็นเดือนแล้ว เพิ่งจะมีคนโผล่มา “ จริงเหรอมุก เขาอยู่ไหนล่ะ “ “ เขานั่งอยู่ตรงนั้นนะคะพี่ คุณคะ เจ้าของร้านมาแล้วค่ะ “ พลอยเจนเดินเข้าไปหาคนที่กำลังยกมือขึ้นไหว้เธอ “ สวัสดีครับผมชื่อชัยโย จะมาสมัครงานครับ “ พลอยเจนยิ้มตอบเขา แล้วก็นั่งคุยกัน “ อายุเท่าไหร่แล้วคะ เคยทำงานมาก่อนหรือเปล่า “ “ อายุ 28 ครับ งานยังไม่เคยทำ “ คนถามจ้องคนตรงหน้าอย่างแปลกใจ ดูจากท่าทางของเขา ไม่น่าจะเป็นคนโลเลแบบนั้นนี่ “ พอดีผมบวชเรียนตั้งแต่เด็ก เพิ่งจะสึกออกมา เพราะเริ่มอยากจะใช้ชีวิตวัยรุ่นปกติกับเขานะครับ “ คำที่ชัยโยกล่าว
“ อ้าวเจน มาแล้วเหรอ แม่ว่าจะไปตามพอดี “ จ๊ะจ๋าเดินมาจูงแขนลูกสาวแล้วพามานั่งที่โต๊ะ “ อาเจตบอกเจนแล้ว นี่มีอะไรกินบ้าง หลานแม่หิวจะแย่แล้วเนี้ย “ เธอนั่งลงแล้วชะเง้อหน้ามองอาหารบนโต๊ะ “ มีแต่ของที่ลูกชอบทั้งนั้นแหละ ลูกกินเยอะๆ นะ จะได้แข็งแรง “ พลอยเจนแหงนหน้ามองแม่ที่ยืนลูบหัวเธออยู่ “ แล้วพ่อล่ะคะ “ เมื่อมารดาเดินมานั่งข้าง เธอจึงถามถึงอีกคน “ พ่อเขากลับไปเคลียร์เรื่องสัญญาซื้อขายโรงงานที่เวียดนามของเขานู้น เพิ่งออกไปก่อนหน้าที่เจนจะเข้ามาแป๊บเดียวเอง “ “ คุณพ่อเขาจะขายโรงงานจริงๆ เหรอ ไหนเคยบอกว่านั่นคือทั้งชีวิตของพ่อไง “ พลอยเจนจ้องหน้าแม่ที่กำลังนั่งยิ้มอ่อนให้เธอ “ เรื่องนั้นมันก็ใช่ โรงงานนั้นทำให้พ่อกับแม่มีวันนี้ โรงงานนั้นคือส่วนที่ทำให้เจนของแม่ได้สุขสบายได้เรียนสูงๆ ทำให้เรามีโรงแรม แล้วก็บ้านหลังนี้ด้วย “ จ๊ะจ๋ากล่าวพร้อมคิดคำนึงถึงอดีต กว่าเธอกับสามีจะมีวันนี้ได้มันทุกยากลำบากมาก “ แล้วทำไมถึงคิดจะขาย ทำใจได้เหรอคะ “ “ ถ้าโรงงานนั่นไม่ได้อยู่ต่างประเทศ แม่ก็คงจะห้ามไม่ให้พ่อเขาขาย แต่เพราะว่าพ่อเขาไม่อยากไปอยู่ไกลหูไกลตาแม่กับลูกแล้ว พ่อเขาอยากกลั
ตกดึกของคืนเดียวกัน “ ฮื้อๆ “ จิรกิตติ์ตื่นนอนหลังจากได้ยินเสียงเหมือนคนร้องไห้อยู่ไม่ไกลมาได้สักพักแล้ว “ เจน? “ เขารีบลุกออกจากห้อง แล้วเดินไปที่ห้องของหญิงสาวแต่ไม่ปรากฏเห็นเธออยู่ในนั้น เขาจึงเดินตามเสียงร้องไห้นั้นไป ดวงไฟในห้องครัวสว่างขึ้น เจระวีที่กำลังนั่งร้องไห้จึงหันมาสบตากับเขา เห็นแบบนั้นเขาจึงรีบเดินเข้าไปดูเธอ “ เจนเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม “ หญิงสาวเห็นเขามายืนใกล้จึงซุกหน้าใส่อกของชายตรงหน้าพร้อมกับร้องไห้อย่างไม่มีเหตุผล “ เป็นอะไร ใครทำอะไรให้ “ “ ฮื้อๆ “ “ เจน! “ เจระวีหรือพลอยเจนเอาแต่ร้องไห้อย่างเดียวจนจิรกิตติ์ไม่รู้จะทำเช่นไร นอกจากยืนลูบหลังปลอบใจให้เบาๆ จนเธอเงียบไปเอง “ คราวนี้บอกอาได้หรือยังว่าร้องไห้ทำไม “ แต่เมื่อเขาถามเธออีก หญิงสาวก็เบ้ปากจะร้องไห้ต่อ “ ฮื้อ “ “ อ้าว เจน? “ “ ฮื้อ ในตู้เย็นไม่มีขนมเลย ไม่มีอะไรให้กิน “ นิ้วเรียวชี้ไปที่ตู้เย็น เมื่อเขามองตามแล้วเธอจึงหมอบหน้าลงบนโต๊ะร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างกับเด็กน้อย “ เจนหิวข้าว “ ปากเล็กพึมพำทั้งน้ำตา จนคนมองยู่ก็ไม่รู้จะทำเช่นไร “ แต่นี้มันเพิ่งจะตี 1 เองนะเจน เมื่อตอนเย็นก