Chapter 5
[5/1] ภายในห้องพักสุดหรูราคาหลายร้อยล้านที่ถูกดีไซน์ด้วยเฟอร์นิเจอร์และเครื่องประดับตกแต่งทั้งหมดให้สมฐานะเจ้าของห้อง ถัดไปจากห้องโถงใหญ่จะเห็นร่างบอบบางที่กำลังขลุกตัวอยู่ในครัวขนาดกว้างเพื่อจัดเตรียมของที่จะทำอาหารมื้อเที่ยงสำหรับทานคนเดียว แต่กว่าจะได้กินข้าวเที่ยงก็เลยมาบ่ายสองโมงแล้ว กว่าคนที่เป็นเจ้าของห้องจะออกไปก็เกือบบ่ายพอดี ระหว่างนั้นเสียงโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะในครัวก็ดังขึ้น ปิ่นหยกชะเง้อหน้ามองหน้าจอที่แสดงชื่อของเพื่อนสนิทแทบจะเป็นสายประจำที่โทรเข้าหาเธอบ่อยที่สุดแล้ว (ฮัลโหลหยก ตอนนี้แกอยู่ที่ไหนพอดีเราพักเที่ยงเลยแวะเข้ามาคอนโดแกก่อน เคาะห้องตั้งนานแล้วทำไมยังไม่มาเปิด) “ห้ะ? กะ แกอยู่ที่คอนโดเราตอนนี้หรอ” ตั้งแต่โดนลากตัวมาถึงกรุงเทพฯ หญิงสาวก็ยังไม่มีเวลาได้ตั้งสติอะไรเลย ไม่รู้จะสรรหาคำพูดไหนมาอธิบายให้เจ้านายของเธอได้ฟัง (อืมม ก็ใช่ดิ่ มาเปิดเลยเร็วๆ ร้อน) “ดะ เดี๋ยวนะ คือ คือว่าตอนนี้เราไม่ได้อยู่ที่คอนโดอ่ะวิน เราไม่สบายเลยให้ย้งมารับกลับจันฯ” เอาแบบนี้ก็แล้วกันล่ะ โกหกเนียนๆ ไปก่อน ถ้าขืนบอกไปว่าอยู่กับใครตอนนี้รับรองว่าเพื่อนของเธอคงจะอยู่ไม่เป็นสุขแน่ๆ (อ้าว ตอนนี้แกอยู่บ้านงั้นหรอ?) “ชะ ใช่! เราขอโทษนะที่ไม่ได้บอกแกก่อน” (อ่อๆ ไม่เป็นไรๆ ดีซะอีกที่แกกลับบ้านน่ะจะได้มีคนคอยดูแลไง งั้นเรากลับเข้าออฟฟิศก่อนนะ ถ้าหายดีแล้วค่อยกลับมาทำงานเข้าใจไหมแกไม่ต้องห่วงทางนี้หรอก อย่าลืมกินข้าวให้ตรงเวลาอย่าลืมกินยาด้วยล่ะ) “อื้มๆ ขอบคุณนะวิน แกก็ขับรถกลับดีๆ ล่ะ เดี๋ยวขากลับจะเอาผลไม้ที่สวนไปฝาก” (โอเคค้าบ ฝากความคิดถึงน้าจันทร์กับน้าชาติด้วยนะ) “จ้า ไม่ลืมหรอกน่า เป็นลูกรักพ่อกับแม่เราอยู่แล้วนี่ ชิ!” มาร์วินเข้านอกอออกในบ้านที่จันทบุรีซึ่งเป็นบ้านเกิดของหญิงสาวมาตลอด ตั้งแต่สมัยเรียนปีหนึ่งด้วยกันถ้าเสาร์อาทิตย์ไหนที่ปิ่นหยกจะกลับบ้านเธอ แล้วที่บ้านไม่ว่างมารับเพื่อนที่แสนดีอย่างมาร์วินจะอาสาไปส่งถึงที่เสมอ จนกลายเป็นว่ามาร์วินสนิทสนมกับครอบครัวของปิ่นหยกมานานมากแล้ว @ The Willington N Group “เฮียว่าสิ่งที่พ่อทำวันนี้มันจะไม่เกินหน่อยหรอ?” ณัฐกานเดินตามพี่ชายเข้ามาด้านในห้องของตำแหน่งประธานบริษัทคนล่าสุด หลังจากประชุมเสร็จบิดาของทั้งสองก็เดินทางกลับบ้านเลยทันที ทิ้งให้สองพี่น้องยังคงมึนงงกับบทบาทใหม่ที่ตัวเองได้รับอยู่ ภัทรกาฬพูดพลางก้มหน้ามองแฟ้มเอกสารที่กองอยู่บนโต๊ะหลายเล่ม ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองน้องชายของตนที่กำลังทำสีหน้าไม่พอใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ “แล้วยังไง?” “พ่อก็รู้ว่าผมไม่อยากได้ตำแหน่งอะไรเลยในบริษัท และผมก็ไม่อยากทำงานที่นี่ด้วย” จะบอกว่าตัวเองเป็นวัยรุ่นที่เพิ่งเรียนจบใหม่แล้วก็ไม่ใช่เรื่องที่จะมางอแงหาเรื่องเกาะที่บ้านกินไปวันๆ จนกว่าจะพร้อมทำงาน “แกน่ะควรโตได้แล้วนะ แล้วสิ่งที่พ่อทำก็หวังดีกับแกทั้งนั้น” จริงอยู่ที่บิดาทั้งสองของพวกเขาจริงจังกับชีวิตมากเกินไป แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำให้ลูกๆ ก็เป็นเรื่องที่หวังดีทั้งนั้น “แต่ผมไม่ชอบ! เฮียก็รู้ ……..ช่วยพูดกับพ่อให้หน่อยนะๆๆๆๆ นะเฮีย” “ให้บอกพ่อว่าแกไม่เอาอะไรทั้งนั้น อยากแข่งรถเล่นไปวันๆ กับเปิดร้านเหล้าไปจนตายที่ไม่รู้ว่าวันข้างหน้ามันจะเจ๊งแหล่ไม่เจ๊งแหล่อยู่แบบนี้เนี้ยนะ? ............แกหัดโตได้แล้วไอ้ณัฐพ่อจะได้สบายใจ” ตั้งแต่เกิดมาเขากับน้องชายนิสัยต่างกันสุดขั่ว ณัฐกานจะออกแนวเป็นตัวของตัวเองค่อนข้างสูงไม่ยอมฟังใคร รู้ว่าเกิดมาบนกองเงินกองทองก็คิดว่าคงจะใช้ไม่หมดทั้งชาติ เลยคิดเร็วทำเร็วโดยขาดการวางแผนและแม่ก็สปอยล์ลูกชายคนเล็กจนได้ใจมากเกินไป ส่วนเขาโตมากับความกดดัน ความคาดหวังของคนเป็นพ่อทุกอย่าง การเรียนก็ต้องเรียนแบบหลักสูตรเข้มข้นทุกสิ่งอย่าง ลูกบ้านอื่นได้ปริญญามาใบเดียวแต่ลูกของพ่อคนนี้ต้องได้มาให้มากกว่า ทุกสิ่งอย่างพ่อเขาจะจัดการให้หมดเหมือนทดแทนความคาดหวังที่ขาดหายไปจากลูกคนเล็กที่ทำตัวเล่นๆ ไปวันๆ อย่างณัฐกาน “แล้วเฮียล่ะโตแล้วจริงๆ หรอ ถ้าโตจริงก็ควรชัดเจนกับหยกได้แล้วป้ะวะ? อย่านึกว่าผมไม่รู้” “ตั้งแต่เมื่อไหร่?” ร่างสูงที่นั่งเคร่งมองเอกสารไปเรื่อยๆ กลับหยุดชะงักเมื่อสิ่งที่น้องชายตัวแสบของเขากำลังพูดถึงผู้หญิงอีกคนที่โดนเขาลากมากรุงเทพฯด้วยเมื่อเช้านี้ “ตอนไหนไม่สำคัญหรอก แล้วถ้าพ่อรู้เฮียคิดว่าจะรอดไหม? อย่าลืมนะว่าเค้าคาดหวังเรื่องเฮียกับยัยดาอะไรนั่นมากขนาดไหน แล้วเฮียว่าเขาจะยอมไหมถ้าเกิดว่า.......” ดา หรือ ดารัน เป็นชื่อของผู้หญิงที่พ่อของเขาจัดหาให้คนเป็นพี่ ซึ่งมันเป็นความสัมพันธ์ในเชิงธุรกิจของสองตระกูลอย่างงั้นก็ไม่ใช่เพราะตระกูลเขานั้นรวยแทบจะไม่ต้องเพิ่งใครแล้วด้วยซ้ำ ทว่ามันคือสัญญาจากเพื่อนรักของพ่อต่างหากที่ทำให้ไม่สามารถปฏิเสธได้ลง “พอ!! จะยอมหรือไม่ยอมฉันจะแก้ปัญหาเอง ส่วนแกไม่ต้องเอาเรื่องนี้มาต่อรองกับฉัน ทำหน้าที่ของแกให้ดีที่สุดเถอะ” ร่างสูงในชุดสูทสีดำราคาแพงถึงกับปลดกระดุมเสื้อลง ทั้งที่แอร์ในห้องนี้หนาวแทบจะห่มผ้าได้แล้ว ทว่าพอได้ยินสิ่งที่ออกมาจากปากน้องชายภัทรกาฬรู้สึกว่าภายในห้องกลับมีไอร้อนผุดขึ้นมาเลยทันที “เหอะ! ………..เย็นนี้มีปาร์ตี้ที่ร้านผมนะ เฮียบอมเพิ่งกลับไทยเหมือนกัน บ่นอยากเจอเฮีย” คนเป็นน้องรู้สึกชอบใจจริงๆ ที่ทำให้พี่ชายของเขารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาได้ เขารู้ตั้งนานแล้วสำหรับเรื่องของหยกน่ะ ยังคิดอยู่เลยว่าเธอจะทนกับความสัมพันธ์แบบนี้ไปได้อีกนานแค่ไหนกันChapter 5[5/2]@ The Willington N Penthouse Thonglor17.00 น.แกร่งง!!“อ๊ะ อ้าว มาพอดีเลยค่ะ หนูเห็นว่ามีแป้งทำขนมในครัวด้วย เลยลองทำช็อคโก้บราวนี่ดูค่ะ มาเหนื่อยๆ ......ชิมหน่อยไหมคะ” คนตัวสูงเกิดประตูเข้ามาพอดีกับจังหวะที่หญิงสาวกำลังจะจัดจากขนมและเครื่องดื่มลงบนโต๊ะอาหารภัทรกาฬวางกระเป๋าทำงานและ Blazer สีดำพาดไว้บนโซฟา ก่อนจะเดินมุ่งหน้ามาที่โต๊ะอาหารที่ติดกับริมหน้าต่างแบบกระจกบานใหญ่สามารถมองเห็นวิวใจกลางกรุงได้เป็นอย่างดี ยิ่งถ้าเป็นบรรยากาศในยามค่ำคืนนั่งจิบไวน์กันตรงนี้ยิ่งจะเป็นช่วงเวลาที่โรแมนติกที่สุดเลยแหละ“คืนนี้พี่ต้องไปร้านไอ้ณัฐมัน”ร่างสูงเดินมากอดร่างบางจากทางด้านหลัง เท้าคางลงซบไหล่บางก่อนจะยื่นจมูกโด่งเข้าคลอเคลียกับซอกคอ ราวกับคนต้องการชาร์ตแบตหลังจากเหนื่อยกับงานมา“แล้ว?” ปิ่นหยกหันหน้ามามองอย่างไม่เข้าใจ“หนูต้องไปด้วย”“ทำไม?” ร้อยวันพันปีไม่เคยพาเธอออกไปเจอใคร“ก็ไม่ทำไม”“ทุกทีไม่เห็นอยากจะพาออกไปไหน” หรือเขาไม่กลัวใครเห็นแล้วหรอทุกครั้งเห็นกังวลเรื่องนี้“งานนี้มีแค่เพื่อนสนิท”“งานก่อนๆ ก็เห็นมีเพื่อนสนิท” ขนาดตอนสมัยมหาลัยเธอขอไปงานวันเกิดเพื่อนของเข
Chapter 6[6/1](NARF TALK)ค่ำคืนราตรีภายใต้แสงไฟหลากสีลอยระยิบระยับประดับทั่วทุกมุมร้านทำให้ผู้คนที่ท่องเที่ยวต่างสนุกหลงใหลไปกับกับน้ำเมาหลายยี่ห้อหลายสูตรชงผสมกัน หนึ่งในนั้นคือหญิงสาวใบหน้าหมวยอย่างปิ่นหยก ที่ไม่สามารถปฏิเสธแก้วเหล้าเพื่อนของผมได้“ถ้าไม่ไหวก็พอได้แล้ว” ผมก้มหน้าหันมากระซิบบอกคนตัวเล็กที่ตอนนี้มองดูหน้าแล้วเหมือนคนแพ้กุ้งมาอย่างนั้นเลย“อื้มม ไม่อาวสิ!! ไหนใครมาาว ไม่มีใครเมาซะหน่อย” มือของผมกำลังจะยื่นมือมาจับแขนร่างบางให้ลุกขึ้นจากที่นั่งเตรียมออกจากร้าน ทว่าคนที่กำลังจะถูกดึงให้ลุกขึ้นนั้นกลับสะบัดแขนออกก่อน(1 ชม. ก่อนหน้า)‘เออ แล้วเรื่องที่มึงจะหมั้นกลับน้องดารันปีนี้ พ่อมึงว่าไงบ้างวะ’‘ก็ยังพูดคำเดิม’‘อย่างงั้นหรอวะ แล้วมึงไม่คิดจะยอมหมั้นให้แม่งจบๆ ไปวะ กูว่าก็ไม่ได้เสียหายอะไรป่าววะ? น้องเค้าก็ทั้งน่ารัก เรียนก็เก่ง เป็นถึงลูกสาวตระกูลผู้ลากมากดี นิสัย ......ก็คงดีแหละมั้ง เออนั่นแหละ มึงก็ลองพิจารณาใหม่ดูดิ่ ไหนๆ มึงก็ไม่ได้มีใครอยู่ไม่ใช่หรอวะ’‘กุว่าเราหยุดพูดเรื่องนี้เถอะ ปวดหัวว่ะ’นั่นคือบทสนทนาระหว่างผมกับเพื่อนสนิทก็คือไอ้บอม ถามว่าทำไมผมไม่ห้า
Chapter 6[6/2]@ The Willington N Penthouse Thonglorหลังจากที่กลับมาจากคลับของณัฐกานเมื่อคืนนี้กว่าคนตัวโตจะอุ้มร่างเล็กขึ้นมาบนห้องได้ก็ใช้เวลานานพอสมควร เนื่องจากเจ้าตัวนั้นเกิดอยากจะงอแงอะไรขึ้นมาอีกก็ไม่รู้ นอนนิ่งจมกองอ้วกตัวเองอยู่เบาะด้านหลังไม่ยอมให้เขาถูกเนื้อต้องตัว เอาแต่บ่นพึมพำว่าจะกลับบ้านตัวเองอย่างเดียว จนเขาต้องออกแรงฉุดกระชากลากถูขึ้นมาบนห้องได้ร่างบอบบางในชุดเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่สีขาวที่ต่างจากชุดเมื่อคืนกำลังนอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มหนาบนเตียงขนาดคิงไซส์ แต่กลับไร้เงาของคนที่อุ้มขึ้นมาเมื่อคืนครึ่งตัวด้านซ้ายอยู่ในผ้าห่มแต่ครึ่งตัวด้านขวากลับพาดขาเข้ากับหมอนข้าง อิริยาบถรวมๆ แล้วตอนนี้คงจะนอนหลับลึกมากถึงขั้นไม่รู้เลยว่าเสียงเรียกเข้าจากสมาร์ทโฟนเครื่องหรูดังขึ้นไม่รู้ว่ากี่รอบได้แล้วบนหน้าปัดนาฬิกาข้างหัวเตียงยังคงเดินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งแสงส่องสว่างจากพระอาทิตย์เลยมาเกินครึ่งค่อนวันแล้วยังไม่สามารถทำให้ร่างบางตื่นอาจเป็นผลจากม่านหนาทึบสีเข้มบวกกับรอบๆ บริเวณห้องนอนไม่มีการเปิดไฟเลยสักดวง จึงทำให้หญิงสาวที่กำลังนอนอยู่ไม่รู้สึกตัวง่ายแกร่ก!! ครืดดด(เสียงเลื่อนประตู
Chapter 7[7/1]กว่าที่ทั้งสองจะภารกิจกันจนตอนนี้ก็เป็นเวลา 2 ทุ่มกว่าแล้ว ทั้งสองร่างเปลือยเปล่านอนกอดกันแน่นหนาบทเตียงขนาดคิงไซส์ โดยมีลำแขนแกร่งวางทาบบนเอวคอดส่วนมืออีกข้างนั้นวางไว้ทับหน้าอกนุ่มของหญิงสาว ขนาดหลับแล้วยังไม่วายนัวเนียกับร่างกายของร่างเล็กทว่าคนตัวเล็กรู้สึกอึดอัดจากสัมผัสจากคนตัวใหญ่บ้างแล้ว ก่อนจะขยับพลิกตัวจะหันหน้าไปทางอื่นแต่แรงจากปราการที่กอดรัดกลับทำให้ปิ่นหยกขยับตัวได้อย่างยากลำบาก จนต้องลืมตาตื่นขึ้นมา“อืม ขยับออกไปหน่อย” ร่างบางเขย่าแขนแกร่งหวังให้คนตัวสูงขยับตัวให้บ้าง จนภัทรกาฬต้องตื่นขึ้นมาอีกคน“นอนนิ่งๆ หน่า” คนพี่ยังเอาแต่ใจพร้อมกระชับอ้อนแขนหนาขึ้น“ค่ำแล้วหนูจะไปทำอาหาร”“พี่เหนื่อย นอนอีกสักพักเถอะนะ” ภัทรกานเริ่มทำหน้างอแงเป็นเด็กไปแล้วหนึ่ง“นี่! ลุกเลย งั้นก็นอนอยู่แหละหนูจะไปทำอะไรให้กินก่อน” คนปิ่นหยกขอทนไม่ไหวบ้าง จะมางอแงนอนกกกันต่อไปแบบนี้อีกเมื่อไหร่จะได้ทำอย่างอื่นบ้าง“อืมมม ก็ได้ เร็วนะๆ หิว” คนงอแงเมื่อสักครู่นี้ถึงกับต้องยอม เมื่อเห็นแววตาดุจากปิ่นหยก เดี๋ยวถ้าอารมณ์ไม่ดีมีหวังเขาอดต่ออีกรอบดึกแน่ๆ ไม่รู้ว่าทำไมกับคนๆ นี้ถึงมีให้กิ
Chapter 7[7/2]21.00 น.ตี๊ด!! แกร่ก!!“ไปไหนมา! ทำไมโทรไปแล้วไม่รับ?”ทันทีที่ร่างบางของปิ่นหยกเดินเปิดประตูเดินเข้ามาเพ้นท์เฮาส์สุดหรูขนาดใหญ่นี้ ก็พบกับร่างสูงที่ยืนกอดอกจ้องหน้าทำตาเขียวใส่อยู่หน้าประตูแล้ว คงจะหงุดหงิดโมโหหิวหรืออะไร แต่คงไม่ใช่เพราะเป็นห่วงแน่นอนเธอรู้สึกแบบนั้น“ก็ลงไปซื้อของมาทำอาหารไง ดุจัง”คำสุดท้ายคนตัวเล็กได้แต่พูดเบาๆ คนเดียว ก่อนจะเดินถือของเข้าไปในครัว โดยที่มีภัทรกาฬเดินตามเข้าไปด้วย“ดึกขนาดนี้ทีหลังไม่ต้องออกไปแบบนี้คนเดียวอีก สั่งเอาก็ได้ ถ้าเกิดอันตรายขึ้นมาจะทำไง? หนูไม่รู้จักแถวนี้นะ ไปไหนมาไหนก็ต้องโทรบอกพี่ด้วย”“หนูก็ไปแปบเดียวพี่จะอะไรนักหนา ขี้บ่น”แต่คราวนี่คำสุดท้ายคนตัวจงใจให้คนตัวสูงได้ยิน ใบหน้าสวยย่นจมูกเข้าหากันเหมือนประชดคนที่ยืนบ่นทำตัวราวกับเป็นพ่อคนที่สองหลังจากนั้นไม่นานอาหารก็พร้อมเสิร์ฟบนโต๊ะ โดยเจ้าของห้องเป็นช่วยถือออกมาวางไว้แถมยังช่วยจัดจานจัดโต๊ะ ทำหน้าที่ลูกมือได้เป็นอย่างดีแม้ว่าเมื่อครู่จะมีเหตุให้เกิดการทะเลาะกันบ้างแต่ก็สามารถดึงสถานการณ์กลับมาให้เป็นปกติได้เหมือนเดิมหากคนหนึ่งเงียบไม่เดือดตามด้วยเรื่องมันก็จบ ซึ
Chapter 8[8/1]ร่างสูงบดจูบเข้ากับริมฝีปากบางจนคนตัวเล็กแทบจะไม่มีจังหวะหายใจได้สะดวก มือหนาข้างหนึ่งค่อยๆ เลื่อนลงไปด้านล่าง พร้อมกับค่อยๆ ล้วงมือเข้าไปใต้กระโปรงเดรสไหมพรมสีดำรัดรูปนั้น นิ่วแกร่งเกี่ยวเอาเพนตี้ตัวจิ๋วด้านในที่จากสัมผัสแล้วพอเดาได้ว่าคงจะเป็นลายลูกไม้จริงแท้แน่นอนเมื่อปราการด้านในถูกดึงลงจนสุดเรียวขาเล็ก ชายหนุ่มไม่รอช้าที่จะส่งนิ่วแกร่งเข้าไปสำรวจด้านในร่องสวยจากหนึ่งนิ้วเป็นสองนิ้ว จนคนที่เคลิ้มไปกับสัมผัสจูบรสเร่าร้อนนั้นเผลอครางออกมาด้วยความตกใจ“อื้ม! ยะ หยุดนะ! อื้อออ!” ร่างบางพยายามดิ้นออกจากอ้อมกอดของภัทรกาฬ ทว่ากลับไม่เป็นผล จนกระทั่งสักพักร่างสูงยอมปล่อยออกมาเอง เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กไม่ขัดขืนแล้วเพี๊ยะ!! “เราจบกันแค่นี้ หนูไม่เอาแล้ว ......พอแล้วว่ะ พอแล้วจริงๆ ฮึก!”“ทำไม? แล้วที่ผ่านมาล่ะ ไหนว่าอยู่ได้ ทนได้ รอได้ แล้วนี่กะจะหนีกันไปงั้นหรอ? เหอะ!”“พี่เคยโทษตัวเองบ้างไหม? ที่ผ่านมาหนูยอมมาตลอด เป็นหนูที่ทนมาคนเดียวอ่ะ หนูก็ได้แต่ถามตัวเองว่ากูแมร่งจะทนอยู่ไปเพื่ออะไรวะ ทนแมร่งอยู่แบบเนี้ยได้ตั้งหลายปีอ่ะทั้งที่เขาก็ไม่ยอมชัดเจนไม่ยอมพาไปไหนมาไหนให้คน
Chapter 8[8/2]08.00 น.วันนี้ปิ่นหยกตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้าตรู่แล้ว ใบหน้าสวยในตอนนี้ดูโทรมขึ้นมากแถมยังมีขอบตาดำคล้ำบวมซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นผลมาจากเรื่องเมื่อคืนนี้ร่างบางคงยังเตรียมอาหารไว้รอชายหนุ่มที่ยังนอนขดตัวอยู่บนโซฟาด้านนอก จริงๆ เพ้นท์เฮาส์นี้ไม่ได้มีห้องนอนแค่ห้องเดียวแต่ทำไมชายหนุ่มถึงไปนอนอยู่แบบนั้นปิ่นหยกเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันแม้ว่าจะทะเลาะหรือจบความสัมพันธ์กันแล้วก็ตาม ปิ่นหยกยังคงอยากเห็นมิตรภาพของเราทั้งสองอยู่ อาจจะในฐานะคนรู้จัก หรือในฐานะพี่น้องก็ได้อาหารสำหรับเช้านี้ถูกจัดเตรียมไว้บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นปิ่นหยกจึงเดินเข้าไปนำกระเป๋าเดินทางของตัวเองออกมาจากห้องนอน เผื่อว่ากินกันข้าวเสร็จและให้เวลาภัทรกาฬทำธุระส่วนตัวเรียบร้อย ก็จะได้เดินทางกลับคอนโดของเธอเลยเมื่อนำของออกมาเสร็จเรียบร้อยจนแน่ใจว่าไม่น่าจะลืมอะไรแล้ว ร่างบางจึงเดินเข้าไปปลุกคนตัวสูงที่ยังคงหลับอยู่“พี่นาฟ ตื่นได้แล้ว นี่ .....ตื่นได้แล้วค่ะ” คนตัวเล็กยืนเขย่าแขนร่างสูงอยู่แบบนั้น แต่พอได้สัมผัสแขนของเขากลับรู้สึกว่าอุณหภูมิบนร่างกายของเขามีไออุ่นร้อนๆ แผ่ซ่านออกมา“อ้ะ! ทำไมตัวร้อนขนาดนี
Intro...ภายในสนามบินนานาชาติขนาดใหญ่ของประเทศเครื่องบินหลายลำกำลังทะยานลงสู่ท้องฟ้า หนึ่งในนั้นเป็นเที่ยวบินของว่าที่รองประธานผู้บริหารบริษัท Willington N Group หนุ่มหล่อนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่กำลังจะเข้ามาบริหารต่อกิจการของครอบครัว ร่างสูงโปร่งที่ทาบทับด้วยสูทสีดำตัวเก่งอย่าง GIORGIO ARMANI รุ่น breasted blazer in rep fabric แมตช์กับกางเกงและรองเท้าหนังจากแบรนด์ Louis Vuitton new collection เสริมความดูดีเพิ่มอีกด้วยแว่นกันแดด Gucci Lunettes de soleil rectangulaires Black ภาพโดยรวมของชายหนุ่มดูดีเทียบกับดาราฮอลลิวูดหรือดาราเกาหลีหลายคนที่ไม่ว่าจะลงสนามบินไหน เหล่าแฟนคลับก็เตรียมต้อนรับคับแน่นกรี๊ดกร๊าดกันให้สนามบินแตก‘นาฟ ภัทรกาฬ’ เดินก้าวขายาวฉับด้วยท่าทีมาดมั่นอย่างกับนายแบบที่เพิ่งบินกลับมาจากแฟชั่นวีคก็ไม่ปาน แขนขวากำยำเห็นรอยเส้นเลือดบูดโปนออกมาชวนน่าหลงใหลใจสั่นกำลังลากกระเป๋าเดินไปตามเป้าหมายที่กำลังชูป้าย “Welcome to Thailand my bro” ชายหนุ่มขยับดันแว่นตาลงจากกรอบหน้าเพียงเล็กน้อย เพื่อให้ชัดเจนว่าใช่คนจากที่บ้านเขาจริงๆ หรือเปล่า แล้วก็ใช่จริงอย่างที่คิด เมื่อบุคคลที่ชูป้
Chapter 8[8/2]08.00 น.วันนี้ปิ่นหยกตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้าตรู่แล้ว ใบหน้าสวยในตอนนี้ดูโทรมขึ้นมากแถมยังมีขอบตาดำคล้ำบวมซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นผลมาจากเรื่องเมื่อคืนนี้ร่างบางคงยังเตรียมอาหารไว้รอชายหนุ่มที่ยังนอนขดตัวอยู่บนโซฟาด้านนอก จริงๆ เพ้นท์เฮาส์นี้ไม่ได้มีห้องนอนแค่ห้องเดียวแต่ทำไมชายหนุ่มถึงไปนอนอยู่แบบนั้นปิ่นหยกเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันแม้ว่าจะทะเลาะหรือจบความสัมพันธ์กันแล้วก็ตาม ปิ่นหยกยังคงอยากเห็นมิตรภาพของเราทั้งสองอยู่ อาจจะในฐานะคนรู้จัก หรือในฐานะพี่น้องก็ได้อาหารสำหรับเช้านี้ถูกจัดเตรียมไว้บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นปิ่นหยกจึงเดินเข้าไปนำกระเป๋าเดินทางของตัวเองออกมาจากห้องนอน เผื่อว่ากินกันข้าวเสร็จและให้เวลาภัทรกาฬทำธุระส่วนตัวเรียบร้อย ก็จะได้เดินทางกลับคอนโดของเธอเลยเมื่อนำของออกมาเสร็จเรียบร้อยจนแน่ใจว่าไม่น่าจะลืมอะไรแล้ว ร่างบางจึงเดินเข้าไปปลุกคนตัวสูงที่ยังคงหลับอยู่“พี่นาฟ ตื่นได้แล้ว นี่ .....ตื่นได้แล้วค่ะ” คนตัวเล็กยืนเขย่าแขนร่างสูงอยู่แบบนั้น แต่พอได้สัมผัสแขนของเขากลับรู้สึกว่าอุณหภูมิบนร่างกายของเขามีไออุ่นร้อนๆ แผ่ซ่านออกมา“อ้ะ! ทำไมตัวร้อนขนาดนี
Chapter 8[8/1]ร่างสูงบดจูบเข้ากับริมฝีปากบางจนคนตัวเล็กแทบจะไม่มีจังหวะหายใจได้สะดวก มือหนาข้างหนึ่งค่อยๆ เลื่อนลงไปด้านล่าง พร้อมกับค่อยๆ ล้วงมือเข้าไปใต้กระโปรงเดรสไหมพรมสีดำรัดรูปนั้น นิ่วแกร่งเกี่ยวเอาเพนตี้ตัวจิ๋วด้านในที่จากสัมผัสแล้วพอเดาได้ว่าคงจะเป็นลายลูกไม้จริงแท้แน่นอนเมื่อปราการด้านในถูกดึงลงจนสุดเรียวขาเล็ก ชายหนุ่มไม่รอช้าที่จะส่งนิ่วแกร่งเข้าไปสำรวจด้านในร่องสวยจากหนึ่งนิ้วเป็นสองนิ้ว จนคนที่เคลิ้มไปกับสัมผัสจูบรสเร่าร้อนนั้นเผลอครางออกมาด้วยความตกใจ“อื้ม! ยะ หยุดนะ! อื้อออ!” ร่างบางพยายามดิ้นออกจากอ้อมกอดของภัทรกาฬ ทว่ากลับไม่เป็นผล จนกระทั่งสักพักร่างสูงยอมปล่อยออกมาเอง เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กไม่ขัดขืนแล้วเพี๊ยะ!! “เราจบกันแค่นี้ หนูไม่เอาแล้ว ......พอแล้วว่ะ พอแล้วจริงๆ ฮึก!”“ทำไม? แล้วที่ผ่านมาล่ะ ไหนว่าอยู่ได้ ทนได้ รอได้ แล้วนี่กะจะหนีกันไปงั้นหรอ? เหอะ!”“พี่เคยโทษตัวเองบ้างไหม? ที่ผ่านมาหนูยอมมาตลอด เป็นหนูที่ทนมาคนเดียวอ่ะ หนูก็ได้แต่ถามตัวเองว่ากูแมร่งจะทนอยู่ไปเพื่ออะไรวะ ทนแมร่งอยู่แบบเนี้ยได้ตั้งหลายปีอ่ะทั้งที่เขาก็ไม่ยอมชัดเจนไม่ยอมพาไปไหนมาไหนให้คน
Chapter 7[7/2]21.00 น.ตี๊ด!! แกร่ก!!“ไปไหนมา! ทำไมโทรไปแล้วไม่รับ?”ทันทีที่ร่างบางของปิ่นหยกเดินเปิดประตูเดินเข้ามาเพ้นท์เฮาส์สุดหรูขนาดใหญ่นี้ ก็พบกับร่างสูงที่ยืนกอดอกจ้องหน้าทำตาเขียวใส่อยู่หน้าประตูแล้ว คงจะหงุดหงิดโมโหหิวหรืออะไร แต่คงไม่ใช่เพราะเป็นห่วงแน่นอนเธอรู้สึกแบบนั้น“ก็ลงไปซื้อของมาทำอาหารไง ดุจัง”คำสุดท้ายคนตัวเล็กได้แต่พูดเบาๆ คนเดียว ก่อนจะเดินถือของเข้าไปในครัว โดยที่มีภัทรกาฬเดินตามเข้าไปด้วย“ดึกขนาดนี้ทีหลังไม่ต้องออกไปแบบนี้คนเดียวอีก สั่งเอาก็ได้ ถ้าเกิดอันตรายขึ้นมาจะทำไง? หนูไม่รู้จักแถวนี้นะ ไปไหนมาไหนก็ต้องโทรบอกพี่ด้วย”“หนูก็ไปแปบเดียวพี่จะอะไรนักหนา ขี้บ่น”แต่คราวนี่คำสุดท้ายคนตัวจงใจให้คนตัวสูงได้ยิน ใบหน้าสวยย่นจมูกเข้าหากันเหมือนประชดคนที่ยืนบ่นทำตัวราวกับเป็นพ่อคนที่สองหลังจากนั้นไม่นานอาหารก็พร้อมเสิร์ฟบนโต๊ะ โดยเจ้าของห้องเป็นช่วยถือออกมาวางไว้แถมยังช่วยจัดจานจัดโต๊ะ ทำหน้าที่ลูกมือได้เป็นอย่างดีแม้ว่าเมื่อครู่จะมีเหตุให้เกิดการทะเลาะกันบ้างแต่ก็สามารถดึงสถานการณ์กลับมาให้เป็นปกติได้เหมือนเดิมหากคนหนึ่งเงียบไม่เดือดตามด้วยเรื่องมันก็จบ ซึ
Chapter 7[7/1]กว่าที่ทั้งสองจะภารกิจกันจนตอนนี้ก็เป็นเวลา 2 ทุ่มกว่าแล้ว ทั้งสองร่างเปลือยเปล่านอนกอดกันแน่นหนาบทเตียงขนาดคิงไซส์ โดยมีลำแขนแกร่งวางทาบบนเอวคอดส่วนมืออีกข้างนั้นวางไว้ทับหน้าอกนุ่มของหญิงสาว ขนาดหลับแล้วยังไม่วายนัวเนียกับร่างกายของร่างเล็กทว่าคนตัวเล็กรู้สึกอึดอัดจากสัมผัสจากคนตัวใหญ่บ้างแล้ว ก่อนจะขยับพลิกตัวจะหันหน้าไปทางอื่นแต่แรงจากปราการที่กอดรัดกลับทำให้ปิ่นหยกขยับตัวได้อย่างยากลำบาก จนต้องลืมตาตื่นขึ้นมา“อืม ขยับออกไปหน่อย” ร่างบางเขย่าแขนแกร่งหวังให้คนตัวสูงขยับตัวให้บ้าง จนภัทรกาฬต้องตื่นขึ้นมาอีกคน“นอนนิ่งๆ หน่า” คนพี่ยังเอาแต่ใจพร้อมกระชับอ้อนแขนหนาขึ้น“ค่ำแล้วหนูจะไปทำอาหาร”“พี่เหนื่อย นอนอีกสักพักเถอะนะ” ภัทรกานเริ่มทำหน้างอแงเป็นเด็กไปแล้วหนึ่ง“นี่! ลุกเลย งั้นก็นอนอยู่แหละหนูจะไปทำอะไรให้กินก่อน” คนปิ่นหยกขอทนไม่ไหวบ้าง จะมางอแงนอนกกกันต่อไปแบบนี้อีกเมื่อไหร่จะได้ทำอย่างอื่นบ้าง“อืมมม ก็ได้ เร็วนะๆ หิว” คนงอแงเมื่อสักครู่นี้ถึงกับต้องยอม เมื่อเห็นแววตาดุจากปิ่นหยก เดี๋ยวถ้าอารมณ์ไม่ดีมีหวังเขาอดต่ออีกรอบดึกแน่ๆ ไม่รู้ว่าทำไมกับคนๆ นี้ถึงมีให้กิ
Chapter 6[6/2]@ The Willington N Penthouse Thonglorหลังจากที่กลับมาจากคลับของณัฐกานเมื่อคืนนี้กว่าคนตัวโตจะอุ้มร่างเล็กขึ้นมาบนห้องได้ก็ใช้เวลานานพอสมควร เนื่องจากเจ้าตัวนั้นเกิดอยากจะงอแงอะไรขึ้นมาอีกก็ไม่รู้ นอนนิ่งจมกองอ้วกตัวเองอยู่เบาะด้านหลังไม่ยอมให้เขาถูกเนื้อต้องตัว เอาแต่บ่นพึมพำว่าจะกลับบ้านตัวเองอย่างเดียว จนเขาต้องออกแรงฉุดกระชากลากถูขึ้นมาบนห้องได้ร่างบอบบางในชุดเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่สีขาวที่ต่างจากชุดเมื่อคืนกำลังนอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มหนาบนเตียงขนาดคิงไซส์ แต่กลับไร้เงาของคนที่อุ้มขึ้นมาเมื่อคืนครึ่งตัวด้านซ้ายอยู่ในผ้าห่มแต่ครึ่งตัวด้านขวากลับพาดขาเข้ากับหมอนข้าง อิริยาบถรวมๆ แล้วตอนนี้คงจะนอนหลับลึกมากถึงขั้นไม่รู้เลยว่าเสียงเรียกเข้าจากสมาร์ทโฟนเครื่องหรูดังขึ้นไม่รู้ว่ากี่รอบได้แล้วบนหน้าปัดนาฬิกาข้างหัวเตียงยังคงเดินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งแสงส่องสว่างจากพระอาทิตย์เลยมาเกินครึ่งค่อนวันแล้วยังไม่สามารถทำให้ร่างบางตื่นอาจเป็นผลจากม่านหนาทึบสีเข้มบวกกับรอบๆ บริเวณห้องนอนไม่มีการเปิดไฟเลยสักดวง จึงทำให้หญิงสาวที่กำลังนอนอยู่ไม่รู้สึกตัวง่ายแกร่ก!! ครืดดด(เสียงเลื่อนประตู
Chapter 6[6/1](NARF TALK)ค่ำคืนราตรีภายใต้แสงไฟหลากสีลอยระยิบระยับประดับทั่วทุกมุมร้านทำให้ผู้คนที่ท่องเที่ยวต่างสนุกหลงใหลไปกับกับน้ำเมาหลายยี่ห้อหลายสูตรชงผสมกัน หนึ่งในนั้นคือหญิงสาวใบหน้าหมวยอย่างปิ่นหยก ที่ไม่สามารถปฏิเสธแก้วเหล้าเพื่อนของผมได้“ถ้าไม่ไหวก็พอได้แล้ว” ผมก้มหน้าหันมากระซิบบอกคนตัวเล็กที่ตอนนี้มองดูหน้าแล้วเหมือนคนแพ้กุ้งมาอย่างนั้นเลย“อื้มม ไม่อาวสิ!! ไหนใครมาาว ไม่มีใครเมาซะหน่อย” มือของผมกำลังจะยื่นมือมาจับแขนร่างบางให้ลุกขึ้นจากที่นั่งเตรียมออกจากร้าน ทว่าคนที่กำลังจะถูกดึงให้ลุกขึ้นนั้นกลับสะบัดแขนออกก่อน(1 ชม. ก่อนหน้า)‘เออ แล้วเรื่องที่มึงจะหมั้นกลับน้องดารันปีนี้ พ่อมึงว่าไงบ้างวะ’‘ก็ยังพูดคำเดิม’‘อย่างงั้นหรอวะ แล้วมึงไม่คิดจะยอมหมั้นให้แม่งจบๆ ไปวะ กูว่าก็ไม่ได้เสียหายอะไรป่าววะ? น้องเค้าก็ทั้งน่ารัก เรียนก็เก่ง เป็นถึงลูกสาวตระกูลผู้ลากมากดี นิสัย ......ก็คงดีแหละมั้ง เออนั่นแหละ มึงก็ลองพิจารณาใหม่ดูดิ่ ไหนๆ มึงก็ไม่ได้มีใครอยู่ไม่ใช่หรอวะ’‘กุว่าเราหยุดพูดเรื่องนี้เถอะ ปวดหัวว่ะ’นั่นคือบทสนทนาระหว่างผมกับเพื่อนสนิทก็คือไอ้บอม ถามว่าทำไมผมไม่ห้า
Chapter 5[5/2]@ The Willington N Penthouse Thonglor17.00 น.แกร่งง!!“อ๊ะ อ้าว มาพอดีเลยค่ะ หนูเห็นว่ามีแป้งทำขนมในครัวด้วย เลยลองทำช็อคโก้บราวนี่ดูค่ะ มาเหนื่อยๆ ......ชิมหน่อยไหมคะ” คนตัวสูงเกิดประตูเข้ามาพอดีกับจังหวะที่หญิงสาวกำลังจะจัดจากขนมและเครื่องดื่มลงบนโต๊ะอาหารภัทรกาฬวางกระเป๋าทำงานและ Blazer สีดำพาดไว้บนโซฟา ก่อนจะเดินมุ่งหน้ามาที่โต๊ะอาหารที่ติดกับริมหน้าต่างแบบกระจกบานใหญ่สามารถมองเห็นวิวใจกลางกรุงได้เป็นอย่างดี ยิ่งถ้าเป็นบรรยากาศในยามค่ำคืนนั่งจิบไวน์กันตรงนี้ยิ่งจะเป็นช่วงเวลาที่โรแมนติกที่สุดเลยแหละ“คืนนี้พี่ต้องไปร้านไอ้ณัฐมัน”ร่างสูงเดินมากอดร่างบางจากทางด้านหลัง เท้าคางลงซบไหล่บางก่อนจะยื่นจมูกโด่งเข้าคลอเคลียกับซอกคอ ราวกับคนต้องการชาร์ตแบตหลังจากเหนื่อยกับงานมา“แล้ว?” ปิ่นหยกหันหน้ามามองอย่างไม่เข้าใจ“หนูต้องไปด้วย”“ทำไม?” ร้อยวันพันปีไม่เคยพาเธอออกไปเจอใคร“ก็ไม่ทำไม”“ทุกทีไม่เห็นอยากจะพาออกไปไหน” หรือเขาไม่กลัวใครเห็นแล้วหรอทุกครั้งเห็นกังวลเรื่องนี้“งานนี้มีแค่เพื่อนสนิท”“งานก่อนๆ ก็เห็นมีเพื่อนสนิท” ขนาดตอนสมัยมหาลัยเธอขอไปงานวันเกิดเพื่อนของเข
Chapter 5[5/1]ภายในห้องพักสุดหรูราคาหลายร้อยล้านที่ถูกดีไซน์ด้วยเฟอร์นิเจอร์และเครื่องประดับตกแต่งทั้งหมดให้สมฐานะเจ้าของห้อง ถัดไปจากห้องโถงใหญ่จะเห็นร่างบอบบางที่กำลังขลุกตัวอยู่ในครัวขนาดกว้างเพื่อจัดเตรียมของที่จะทำอาหารมื้อเที่ยงสำหรับทานคนเดียวแต่กว่าจะได้กินข้าวเที่ยงก็เลยมาบ่ายสองโมงแล้ว กว่าคนที่เป็นเจ้าของห้องจะออกไปก็เกือบบ่ายพอดี ระหว่างนั้นเสียงโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะในครัวก็ดังขึ้น ปิ่นหยกชะเง้อหน้ามองหน้าจอที่แสดงชื่อของเพื่อนสนิทแทบจะเป็นสายประจำที่โทรเข้าหาเธอบ่อยที่สุดแล้ว(ฮัลโหลหยก ตอนนี้แกอยู่ที่ไหนพอดีเราพักเที่ยงเลยแวะเข้ามาคอนโดแกก่อน เคาะห้องตั้งนานแล้วทำไมยังไม่มาเปิด)“ห้ะ? กะ แกอยู่ที่คอนโดเราตอนนี้หรอ” ตั้งแต่โดนลากตัวมาถึงกรุงเทพฯ หญิงสาวก็ยังไม่มีเวลาได้ตั้งสติอะไรเลย ไม่รู้จะสรรหาคำพูดไหนมาอธิบายให้เจ้านายของเธอได้ฟัง(อืมม ก็ใช่ดิ่ มาเปิดเลยเร็วๆ ร้อน)“ดะ เดี๋ยวนะ คือ คือว่าตอนนี้เราไม่ได้อยู่ที่คอนโดอ่ะวิน เราไม่สบายเลยให้ย้งมารับกลับจันฯ” เอาแบบนี้ก็แล้วกันล่ะ โกหกเนียนๆ ไปก่อน ถ้าขืนบอกไปว่าอยู่กับใครตอนนี้รับรองว่าเพื่อนของเธอคงจะอยู่ไม่
Chapter 4[4/2]สี่ล้อรถยนต์ยูเอสวีออรอชส์สีดำหรูคู่ใจที่ณัฐกานทิ้งไว้ให้พี่ชายใช้เมื่อตอนที่มาส่งเข้าคอนโดปิ่นหยกวันก่อน ขับเคลื่อนเข้าเทียบจุดดรอปออฟภายใต้โครงการหรูย่านทองหล่อหนึ่งในธุรกิจของครอบครัวชายหนุ่ม ก่อนจะมีพนักงานที่คอยบริการนำรถราคาแพงขึ้นไปเก็บชั้นด้านบนให้โดยที่เขาไม่ต้องเหนื่อยอะไรอีกคีย์การ์ดสีทองเขียนสลักชื่อโครงการ ‘The Willington N Penthouse Thonglor’มือหนาแตะคีย์การ์ดเข้าประจำจุดสแกนพร้อมกับบิดลูกบิดประตูให้เปิดออก ทั้งสองร่างเดินเข้าไปภายในห้องขนาด 275 ตารางเมตรถูกบิ้วอินแบบสไตล์ Versace Penthouse เป็น Luxury Penthouse หนึ่งเดียวในเอเชียที่ถูกตกแต่งด้วย Versace ทั้งหมด บ่งบอกได้ถึงรสนิยมของเจ้าของห้องที่เป็นถึงเจ้าของโครงการแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี“0_0 นี่ถ้าเทียบกับคอนโดของหนูมันดูเล็กกว่าที่นี่ไปเลยสิบๆ เท่าอ่ะ” ปิ่นหยกถึงกับอึ้งในความอลังการงานราวกับได้สถาปัตยกรรมมือดีมาดีไซน์เองรวมทั้งขนาดของห้องที่ใหญ่โตกินพื้นที่ทั้งชั้นบนสุดของตึกนี้และเฟอร์นิเจอร์ของตกแต่งภายในห้องบอกเลยให้เธอหาเงินซื้อแบบนี้ทั้งชาติก็ไม่ได้หรอก มันสมแล้วที่เป็นเขา“ชอบไหมคะ ที่สั่งบิ้