Share

พี่เขยเถื่อน
พี่เขยเถื่อน
Author: กาสะลอง

ตอนที่ 1

นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่สมมติขึ้น

ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องจริงแต่อย่างใด ชื่อบุคคล

และสถานที่ที่ปรากฏในเนื้อเรื่อง ไม่มีเจตนา

อ้างอิงหรือก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ

……….

นิยายเรื่องนี้ไม่มีแก่นสารสารัตถะอะไรนักหนา

ทั้งเรื่องขับเคลื่อนด้วยอารมณ์อันมืดดำของมนุษย์

ดำเนินเรื่องด้วยตัณหาราคะสุดร้อนแรง

ท่านใดที่ไม่ชอบโปรดหลีกเลี่ยง

*เราเตือนท่านแล้ว*

          ตอนใกล้ค่ำของวันหนึ่ง

“ตายแล้ว... พี่พันคะ เป็นอะไรหรือเปล่านี่... โอ๊ย ทำไมต้องปล่อยให้ตัวเองเป็นแบบนี้ด้วยนะ ดูสภาพแทบไม่เป็นผู้เป็นคน”

หญิงสาววางกระเป๋าสัมภาระลงข้างกาย รีบหันมาให้ความช่วยเหลือพี่เขยตัวใหญ่ที่นอนหลับเป็นตายอยู่บนพื้นของห้องรับแขกกลางบ้าน

“อย่ามายุ่งน่ะ... ออกไป ออกไปให้พ้น”

พันไตรตวัดมือเปะปะ ปัดป่ายไปทั่วทั้งที่ยังไม่ลืมตามองด้วยซ้ำว่าหญิงสาวที่พยายามประคองร่างของเขาขึ้นมาจากพื้นนั้นเป็นใคร

“พี่พัน... นี่ดาวนะ”

ชื่อที่ได้ยินสะกิดใจของพันไตรอย่างจัง

“ดาว... เอ็งมาเยี่ยมพี่จริงๆ ใช่ไหม... นี่พี่ไม่ได้ผันไปใช่ไหม”

พันไตรเริ่มตั้งสติ ถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นตกใจ เมื่อรู้ว่าคนที่มาหาเขาก็คือ ‘น้องเมีย’ ที่เขาแอบเฝ้ารอว่าสักวันหล่อนจะกลับมาเยี่ยมเขาบ้าง

 “เป็นห่วง... เลยแวะมาเยี่ยม”

ดาวฉายบอก เมื่อรู้ว่าเป็นหล่อนอาการโวยวายในตอนแรกของพันไตรจึงค่อยๆ สงบลง

“เอ็งจริงๆ ด้วย... ”

เขาแหงนมองหน้าหล่อนแล้วน้ำตาก็ซึมออกมา ได้เห็นหน้า ‘ดาวฉาย’ ก็ยิ่งทำให้คิดถึง ‘ดวงเดือน’ ภรรยาของเขาซึ่งเป็นพี่สาวของหล่อน ผู้หญิงสองคนนี้หน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกันมาก

“ถ้ายังอยากจะนอนก็ลุกขึ้นมา... จะพาไปนอนบนโซฟา... แล้วนี่ได้กินข้าวบ้างหรือเปล่า?”

ดาวฉายรู้สึกเป็นห่วง

“เอ็งไม่ต้องมายุ่งกับพี่... ปล่อยพี่ไว้อย่างนี้แหละ”

ดาวฉายส่ายหน้า พันไตรยังคงดื้อดึงไม่เปลี่ยน  

“โอ๊ย... ดื้อเหลือเกิน ตัวใหญ่ยังกับยักษ์... หนักยังกับกระสอบข้าวสาร ปล่อยให้นอนตายอยู่ตรงนี้ซะดีมั้ยเนี่ย”

          ดาวฉายรู้สึกอ่อนใจ เนื้อตัวของพันไตรผู้เป็นพี่เขยคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นสุรา ดูจากสภาพที่เห็นก็เดาได้ว่าเขาคงดื่มหนักมาตั้งแต่เช้า หรือบางทีอาจจะดื่มมาตั้งแต่เมื่อวาน

          “ตายก็ดี... พี่จะได้ไปอยู่กับเดือนพี่สาวของเอ็ง”

          ความอัดอั้นของชายหนุ่มพรั่งพรูออกมาจนสิ้น คำพูดที่ได้ยินทำให้ดาวฉายรู้ว่าพี่เขยคนนี้รักดวงเดือนซึ่งเป็นพี่สาวของหล่อนมากแค่ไหน

          “พี่พันต้องตั้งสตินะคะ... พี่เดือนเค้าไปดีแล้วจ้ะ ถ้าวันนี้พี่พันยังไม่ยอมก้าวเดินออกมาจากอดีต... แล้วพี่พันจะก้าวต่อไปในอนาคตได้ยังไงล่ะจ๊ะ”

          หล่อนกุมมือเขา บีบเบาๆ ให้กำลังใจ

‘ถ้าไม่เดินออกมาจากอดีต... แล้วจะก้าวต่อไปในอนาคตได้ยังไง?’

คำพูดนั้นสะกิดใจพันไตรอย่างแรง”

“เอ็งห่วงพี่จริงๆ หรือ”

เขาเค้นเสียงถาม ดวงตาแทบไม่ละจากใบหน้าสะสวยของน้องเมีย

          “เกาะบ่าดาวนะจ๊ะพี่พัน... ค่อยๆ จ้ะ”

          หญิงสาวยกท่อนแขนกำยำของเขาวางลงบนบ่าบอบบางของหล่อน แล้วค่อยๆ พยุงร่างสูงใหญ่กว่าร้อยแปดสิบเซนติเมตรของพี่เขยขึ้นมาจากพื้นด้วยความทุลักทุเล พามานอนลงบนโซฟา

          “รอเดี๋ยวนะ ฉันจะเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าเช็ดตาให้ หน้าตาพี่ดูไม่ได้เลย ไม่น่าปล่อยเนื้อปล่อยตัวแบบนี้”

          พันไตรนอนนิ่ง เหลือบตามองตามเรือนร่างรัดรึงของน้องเมีย สุ้มเสียงของดาวฉายช่างเอื้อเฟื้อ ทำให้นึกขอบคุณที่หล่อนยังมีกะใจนึกถึงพี่เขยที่เพิ่งกลายเป็นพ่อม่ายไร้คู่อย่างเขา

          “บังเอิญผ่านมาทางนี้หรือยังไง?”

          พันไตรสงสัย เขาถามขณะดาวฉายกำลังเช็ดหน้าเช็ดตาให้เขา มือเรียวลูบไล้ผ้าขนหนูผืนน้อยที่เพิ่งบิดน้ำมาหมาดๆ เช็ดซับไปทั่วใบหน้าครึ้มเคราของพี่เขย

ดาวฉายยอมรับว่าพันไตรเป็นผู้ชายที่หล่อมาก ต่อให้เขาปล่อยเนื้อปล่อยตัวจนหนวดเครายาวเฟิ้มและผมเผ้ารุงรังอย่างที่เห็น หากก็ไม่อาจลดทอนความหล่อเหลาของเขาลงได้ เมื่อหน้าตาเริ่มสดใสขึ้นมาจากการเช็ดหน้า ดวงตาคมกริบจึงวาบวับด้วยหยาดแววของชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง

          “เปล่า... ก็ป้าละเมียดโทรไปบอกว่าพี่พันปิดบ้านเงียบมาหลายวัน คนงานในไร่ข้าวโพดเลยพากันสงสัยว่าพี่ตายแล้วหรือยัง?... นี่ถ้าฉันมาช้ากว่านี้พี่ก็คงเมาตายไปแล้วจริงๆ”

          ดาวฉายว่าไม่อ้อม อันที่จริงหล่อนตั้งใจมาเยี่ยมพี่เขยคนนี้เพราะความเป็นห่วงเขา ภายหลังได้รู้ข่าวจากป้าละเมียดซึ่งเป็นคนงานในไร่ แกโทรศัพท์มาบอกว่าพันไตรสั่งงานคนงานในไร่เอาไว้แล้วเจ้าตัวก็หายเงียบเข้ามาเก็บตัวอยู่ในบ้าน วันๆ เอาแต่กินเหล้าเมาหัวราน้ำ แล้วยังประกาศห้ามไม่ให้ใครมาวุ่นวาย

“นี่เอ็งห่วงพี่ด้วยหรือ”

          ดาวฉายคงไม่รู้หรอกว่าความห่วงใยของหล่อนได้ทำให้พี่เขยคนนี้รู้สึกว่าตัวเองมีค่าขึ้นมาเป็นกอง หลังจากปล่อยชีวิตให้ล่องลอยไร้ทิศทางมานานเป็นเดือน นับจากจ่อมจมอยู่กับความรู้สึกโศกเศร้า ภายหลังสูญเสียภรรยาผู้เป็นที่รักไปอย่างไม่มีวันกลับ

          “ก็ห่วงน่ะสิ... ถามได้ ถ้าฉันไม่ห่วงจะถ่อมาถึงเมืองน่านหรือจ๊ะ... ระยะทางไม่ใช่ใกล้ๆ นะคะคุณพี่”

          คำพูดที่ได้ยินทำให้พันไตรแหงนมองหน้าน้องเมียด้วยแววตาซาบซึ้ง

          ชายหนุ่มยอมรับว่าความใกล้ชิดกำลังทำให้หัวใจของเขาเต้นแรง

เนื้อตัวซึ่งหอมกรุ่นไปด้วยกลิ่นสาบสาวของหล่อนทำให้โลหิตในกายของเขาสูบฉีดรุนแรงไปทั่วร่าง

ผิวพรรณของดาวฉายช่างเปล่งปลั่งไปด้วยเลือดเนื้อของวัยสาว ดวงตาของหล่อนสุกใสเหมือนดวงดาว อย่างนี้เองกระมังที่ทำให้ได้ชื่อว่า ‘ดาวฉาย’

          แต่สิ่งที่ทำให้หัวใจของพันไตรเต้นแรงผิดจังหวะก็เพราะว่าทรวงอกอวบใหญ่ของน้องเมียที่เบียดอัดลงมา

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status