Share

บทที่ 8

Author: ACHICHI
last update Last Updated: 2025-03-13 18:21:28

พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน

ตอนที่ 8

หลายชั่วโมงต่อมา

“หิว…”

“…”

“เมื่อไรจะเสร็จ คนอื่นก็กลับกันหมดแล้วเนี่ย”

“…”

ร่างสูงที่กำลังถกกางเกงยีนขึ้นเหลือบตามามองฉันแต่ไม่ตอบอะไร หันไปคว้าถังน้ำยาถูพื้นราดลงบนคราบน้ำมันสีดำ ๆ ก่อนจะคว้าเอาแปรงมานั่งขัดพื้นอย่างเอาจริงเอาจัง

ให้ตาย… นี่กะจะทำให้คุ้มค่าแรงแบบนี้ทุกวันเลยหรือยังไง…

ฉันทำได้แค่คิดในใจเท่านั้น ตั้งแต่รู้จักกันวันแรกจนถึงวันนี้พี่สิงห์เป็นคนปิดอู่ตลอด ซ้ำยังทำทุกอย่างตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ ไม่บ่นสักแอะ... แม้ว่าจะต้องเก็บกวาดอยู่คนเดียว ทั้ง ๆ ที่คนอื่นพากันกลับไปตั้งแต่ทุ่มนึงของทุกวันแล้วก็ตาม

แต่ตอนนี้ฉันหิวจะตายอยู่แล้วเนี่ย…

“ไปกินข้าวกันไหม?” ฉันเดินไปหาร่างสูงที่กำลังเดินไปเอาน้ำมาอีกถัง เจ้าตัวถอนหายใจเบา ๆ แล้วหันมาจ้องหน้า

“ยังทำงานไม่เสร็จ”

“งั้นถ้าเสร็จจะพาไปกินใช่ไหม?”

“…”

เขาไม่ตอบแต่เดินเลี่ยงกลับไปทำงานต่อ ฉันตีหน้าบึ้งใส่แผ่นหลังกว้างที่บ้างานจนไม่มองดูสิ่งรอบตัวเลย ของสวย ๆ งาม ๆ ยืนอยู่แท้ ๆ มองเลยไปได้ยังไง ไอ้คราบน้ำมันพวกนั้นมันมีดีกว่าฉันตรงไหนกัน…

จนแล้วจนรอดถ้าจะคุยกับเขาก็คือต้องรอให้เจ้าตัวทำงานจนเสร็จอยู่ดี พี่สิงห์ยกแขนขึ้นปาดเหงื่อ พร้อมยกแก้วน้ำขึ้นดื่มเมื่อเคลียร์ทุกอย่างสมดั่งใจแล้ว สายตากวาดมองไปรอบอู่เพื่อจะเช็กว่ามีอะไรที่เขาต้องทำอีกหรือเปล่า ฉันถอนหายใจเบา ๆ ยกมือขึ้นกุมท้องเพราะมันหิวมาก

ร่างสูงถอดเสื้อช็อปกับเสื้อด้านในออกต่อหน้าต่อตาฉัน โดยไร้ซึ่งความขวยเขินสมเป็นชายแท้ทั้งแท่ง ก่อนจะดึงเสื้อยืดอีกตัวออกมาจากล็อกเกอร์เก็บของแล้วสวมลงอย่างรวดเร็ว พี่สิงห์คว้ากุญแจมอเตอร์ไซค์แล้วหันมามองหน้ากันเป็นครั้งแรก

“จะกินอะไร?”

“ลินอยากกินร้าน X ตรงปากซอยสิบ” ฉันรีบกระโดดลุกขึ้นอย่างดีใจ แล้วรีบคว้ากระเป๋าขึ้นมาสะพาย

“…” คนที่กำลังเดินออกจากร้านได้ยินเข้าก็หันมามองหน้ากันทันที “ไม่เอา แพง”

“ไม่แพงเท่าไรหรอก ลินเลี้ยงเอง” ฉันรีบบอก แต่พี่สิงห์กลับยืนนิ่งแล้วพ่นลมหายใจ

“กินธรรมดาก็พอ ไม่ต้องมาเลี้ยง”

“ก็ลินอยากกิน หิวจะตายอยู่แล้วเนี่ย”

เมื่อเห็นฉันโวยวายคนตรงหน้าก็กลอกตาอย่างรำคาญใจ ก่อนจะมุดหัวเดินออกจากอู่ไปโดยไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติม ฉันคิดว่าเขาต้องตามใจแน่ ๆ เลยกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในใจ ระหว่างที่รอร่างสูงกำลังล็อกกุญแจอู่ก็รีบต่อสายไปร้านที่ว่าทันที เพื่อที่จะได้สั่งอาหารเอาไว้ก่อน

“สวัสดีค่ะ ลินเองนะคะ สั่งอาหารหน่อยค่ะเดี๋ยวจะเข้า…”

พรึ่บ!

มือถือฉันถูกดึงไปหน้าตาเฉย พี่สิงห์กดตัดสายเรียบร้อยก่อนจะส่งคืนมาให้ ฉันได้แต่ยืนอ้าปากพะงาบ ๆ มองไอ้พี่บ้าที่กำลังเดินไปถอยไอ้แก่ออกจากซองจอด เจ้าตัวหันมาเรียกด้วยสายตาโดยไม่พูดอะไรสักคำ ฉันเหลือบตาไปมองรถคันหรูของตัวเองอย่างอิดออด แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา ทำได้แค่กระทืบเท้าเดินไปหาไอ้เศษเหล็กซังกะบ๊วยคันเดิม

ให้ตายสิ… มีรถสบาย ๆ ไม่นั่ง ให้มานั่งไอ้แก่นี่อยู่ได้!

แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็เดินไปซ้อนท้ายเขาอยู่ดี แต่รอบนี้ฉันแอดวานซ์ขึ้นเยอะแล้ว ไม่เหมือนครั้งแรก ๆ เลยไม่ได้กลัวเท่าไร พี่สิงห์ไม่พูดอะไรสักคำแต่ขับลึกเข้าไปในซอยไม่ได้ออกถนนใหญ่ แล้วในที่สุดเขาก็จอดลงตรงหน้าตลาดของกินขนาดใหญ่ที่อยู่ปากทางเข้าอีกฝั่งหนึ่งของซอย

ฉันลงจากมอเตอร์ไซค์พร้อมกวาดตามองบรรดาร้านรวงที่ยังคงเปิดกันคึกคักแม้ว่าจะเป็นเวลาดึกแล้วก็ตาม เจ้าของไอ้แก่ดับเครื่องจอดมันทิ้งไว้ตรงนั้น แล้วหันกลับมายักคิ้วให้

“กินนี่แหละ ถูกและอร่อย”

“แต่…” ฉันทำท่าทีอิดออด เพราะคนมันเยอะมาก

“หรือจะกลับบ้าน?”

“โอเค ๆ ที่นี่ก็ที่นี่”

“หึ…”

ไอ้พี่บ้ายกยิ้มขำขึ้นมาเมื่อเอาชนะฉันได้ ร่างสูงเดินนำเข้าไปในตลาดทันทีไม่รอช้า เพราะคนค่อนข้างเยอะ และพื้นเป็นหินกรวดฉันเลยเดินไม่ค่อยถนัด ก็แหงล่ะสิ… ฉันใส่ส้นสูงไง…

คนที่มาด้วยกันเดินนำลิ่วโดยไม่รอกันสักนิด และเหมือนเขาเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าสภาพฉันมันทุลักทุเลแค่ไหน เจ้าตัวเดินย้อนกลับมาหาพร้อมยกยิ้มขบขัน สายตามองมาที่รองเท้าส้นเข็มสูงสี่นิ้วก่อนจะเม้มปากกวาดตามองไปด้านข้าง

“กินร้านนี้ก็ได้ จะได้ไม่ต้องเดินเข้าไปไกล”

“อือ”

ว่าแล้วก็เลือกร้านที่อยู่ใกล้ตัวเราที่สุดโดยที่ไม่ต้องฝืนเดินเข้าไปอีก ฉันมองคนอื่นกินกันอย่างเอร็ดอร่อยจนท้องร้องโครกคราก ได้ยินพี่สิงห์เดินไปสั่งอาหารเรียบร้อยเสร็จสรรพโดยไม่ต้องหันมาถามความเห็นก่อน มันก็แค่ร้านข้าวมันไก่ธรรมดา จะมีสักกี่เมนู

คนหลายคนกำลังแอบมองเขาแล้วพากันหันไปส่งยิ้มสื่อความนัยกัน ขนาดฉันนั่งมองเขามาครบสามสี่ชั่วโมงทุกวัน พอมองอีกทีก็ยังหลงเลย คนอะไร… หล่อชะมัด…

ก็ขนาดว่าไม่ได้แต่งอะไรมาก ยังหล่อวัวตายควายตะลึงเบอร์นี้ คิดไม่ออกว่าถ้าใส่สูทผูกไทจะหล่อขึ้นแค่ไหน…

“นั่งกินไปก่อน เดี๋ยวมา” เจ้าตัวเดินกลับมาบอกว่างั้น พร้อมทั้งมองมายังส้นสูงของฉันอีกรอบ

“เร็ว ๆ นะ กระโปรงลินสั้นนั่งไม่สะดวกเลย”

“แป๊บเดียว”

พูดได้แค่นั้นร่างสูงก็เดินหายเข้าไปท่ามกลางฝูงชน ฉันได้แค่นั่งรอข้าวมันไก่อย่างหิวโหย คราวนี้พอไม่มีคนหล่อให้มองสายตาทั้งหลายก็เปลี่ยนมาจับอยู่ที่ฉันแทน มันยิ่งลำบากเข้าไปใหญ่เพราะฉันต้องใช้กระเป๋ามาปิดกระโปรงเอาไว้

พอเจ้าของร้านยกข้าวมาให้ฉันก็ถึงกับตาโต… เพราะมันหน้าตาดูดีกว่าที่ฉันเคยกินเสียอีก คราวนี้ไม่ต้องรงไม่ต้องรอพี่สิงห์แล้ว ฉันจัดการกินอาหารตรงหน้าแทบจะในทันที และรสชาติของมันก็ว้าวมาก!

มิน่าล่ะ… คนถึงได้แน่นร้านขนาดนี้!

ระหว่างที่ฉันกำลังดื่มด่ำกับข้าวมันไก่ และโค้กขวด กับบรรยากาศตลาดตอนกลางคืนอย่างตื่นเต้นนั้น พี่สิงห์ก็เดินกลับมา ดวงหน้าหล่อมีเม็ดเหงื่อผุดซึมจนเจ้าตัวต้องยกแขนขึ้นปาดมันออก ยังไม่ทันได้ถามอะไร ถุงพลาสติกสองใบก็ถูกยื่นมาตรงหน้า

“อะไรอะ?” ฉันรับมาอย่างงุนงง ในขณะที่คนเพิ่งมาถึงทิ้งตัวนั่งลงฝั่งตรงข้าม และกลับมาเรียกสายตาสาว ๆ ได้อีกครั้ง

“รองเท้า” สายตาขัดเขินเบนมองไปทางอื่น ก่อนจะกระแอมออกมาอย่างรักษาอาการ “เปลี่ยนรองเท้าดิ เดี๋ยวก็ล้มหน้าแหกหรอก”

“แหม… ซื้อของให้ลินด้วยเหรอ?” ฉันทำเป็นบิดตัวเขินอาย แต่คนตรงหน้าเหมือนจะอายกว่าเขาสำลักจนน้ำแทบพุ่ง ใบหูกับข้างแก้มแดงเถือกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

“แค่กลัวว่าต้องแบกกลับต่างหาก”

“แล้วนี่คือ?” ฉันดึงของในถุงใบที่สองออกมาพบว่ามันคือผ้าผืนหนึ่งที่มีสีชมพูหวาน ๆ ดูเหมือนจะเป็นผ้าคลุม

“คลุมขาไว้” คราวนี้พี่สิงห์ช้อนสายตาขึ้นมองหน้ากัน แต่ครั้งนี้เป็นฉันที่ต้องหลบสายตาเขาแทน

“โอเค… ครบเลยนะเนี่ย”

ว่าแล้วฉันก็รีบเปลี่ยนจากรองเท้าส้นสูงราคาสี่หมื่นมาใส่รองเท้าแตะหัวเป็ดสีเหลืองสด ก่อนจะเอาผ้าสีชมพูผืนนั้นมาคลุมหน้าขาตัวเองเอาไว้ พูดก็พูดเถอะรองเท้านี่สบายกว่าเยอะเลย… นุ่มมาก!

เพราะกินเสร็จก่อนแล้วตอนนี้ก็เลยว่าง… เลยนั่งจ้องหน้าเขาซะเลย คนถูกจ้องเอาแต่จ้วงข้าวเข้าปากพร้อมเคี้ยวอย่างหิวจัด คนรอบตัวก็ยังคงมองเขาอยู่ แต่เจ้าตัวไม่ยักสนใจ หรือรู้สึกอะไรกับสายตาพวกนั้น

เขาอาจจะโดนจ้องจนชินแล้วล่ะสิ… ก็เล่นหล่อขนาดนี้… คิ้วเอย… ตาเอย… จมูก…ปาก… หล่อไปหมดเลย…

“จะมองให้ท้องเลยไหม?” พี่สิงห์ผู้เฉย ๆ กับสายตาคนอื่นได้ แต่กลับเงยหน้าขึ้นมาดุฉันเฉย

“ก็พี่หล่อนี่… คนอื่นยังมองเลยดูสิ” ฉันพยายามให้เขาหันไปมองรอบข้าง แต่เจ้าตัวกลับยักไหล่ไม่สนใจ

“สรุปว่ากินได้?” ว่าแล้วก็เหลือบตามองจานเปล่าตรงหน้าฉัน มันหมดเกลี้ยงไม่เหลือข้าวสักเม็ด

“อือ ก็อร่อยนี่” ถึงแม้จะเขินที่กินข้าวจนเกลี้ยงจานขนาดนี้ต่อหน้าผู้ชาย แต่ว่าพี่สิงห์กลับยิ้มออกมาได้เป็นครั้งแรกตั้งแต่เรารู้จักกัน

“ไม่เห็นต้องไปจ่ายแพงขนาดนั้น ร้านธรรมดาอร่อย ๆ มีเยอะแยะ” เจ้าตัวพึมพำเบา ๆ ฉันพยักหน้าเห็นด้วย

“นั่นสิ… ลินไม่เคยมากินข้าวในตลาดมาก่อนเลย” ฉันเอ่ยปากบอก คนตรงหน้าเงยหน้าขึ้นมาสบตาอีกครั้งก่อนจะพยักหน้า

“เชื่อ”

“นี่ครั้งแรกเลยนะ” ฉันทำตาโตบอก “ขึ้นมอเตอร์ไซค์ก็ขึ้นครั้งแรกตอนรู้จักกับพี่”

“หึ” ดวงหน้าหล่อหลุดขำออกมา นัยน์ตาสีอ่อนสบตาฉันนิ่ง “แล้วแบบนี้ยังบอกชอบ?”

“ชอบสิ… ลินชอบคนหล่อ”

ฉันนั่งเท้าคางส่งยิ้มให้เขา เจ้าตัวพ่นลมหายใจเบา ๆ แล้วส่ายหน้ากับความคิดฉัน ก็พี่สิงห์หล่อสุดในบรรดาผู้ชายที่เข้ามาจีบ รวมถึงคนที่ฉันเป็นฝ่ายจีบเองก็ด้วย หล่อแบบตะโกน!ถึงจะทำเป็นรำคาญหรือชอบไล่ แต่สุดท้ายก็คือใจดีตลอดเลย จะไม่ให้หลงได้ยังไง…

“ป้า! คิดตัง”

พอกินเสร็จอะไรเสร็จพี่สิงห์ก็เรียกเจ้าของร้านมาเก็บเงิน เจ๊แกใช้สายตาคำนวณอย่างรวดเร็วก่อนจะบอกจำนวนเงินออกมา ฉันไม่ตกใจเท่าไรเพราะป้ายก็แปะหราอยู่แล้วว่าจานละเท่าไร แต่ที่มันน่าตกใจก็คือนี่คงเป็นอาหารมื้อที่ถูกที่สุดที่ฉันเคยกินมา ซ้ำยังอร่อยเหาะยิ่งกว่าจ้างเชฟส่วนตัวมาทำให้กินเสียอีก

ร่างสูงลุกขึ้นยืนพร้อมยัดเงินลงบนมือป้า แล้วพยักหน้าเรียกกัน และโดยที่ฉันไม่ได้พูดอะไรด้วยซ้ำคนตรงหน้าก็ก้มตัวลงไปฉวยไอ้ถุงพลาสติกที่ตอนนี้ใส่รองเท้าราคาแพงแต่ไร้ประโยชน์ไปถือไว้ให้

ฉันลอบยิ้มเพราะว่าพี่สิงห์ดูใจดีมากกว่าปกติ พอได้ทีฉันก็เลยเดินเข้าไปเกาะแขนแกร่งไว้ เจ้าตัวหันมาทำหน้าตกใจ พยายามจะดึงแขนออกเพราะฉันกอดมันไว้แน่นเหมือนเราเป็นคู่รักกันยังไงยังงั้น

“อายคน” เสียงแหบพร่าพยายามกระซิบบอก

“อายอะไร ลินสวยขนาดนี้มีอะไรต้องอาย” ฉันบอกอย่างเอาแต่ใจ ทั้งยังล็อกข้อแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามไว้แน่น

“…” คนถูกบังคับถอนหายใจเบา ๆ แต่สุดท้ายก็ไม่พยายามดึงแขนกลับไปอีก ปล่อยให้ฉันได้กอดอยู่อย่างนั้น

“ลินอยากซื้อของกินไปฝากป๊ากับม้าด้วย” ฉันตั้งท่ายื้อเวลาเอาไว้ คนข้าง ๆ เหล่ตามองอย่างรู้ทัน แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรออกมา

ยี่สิบนาทีผ่านไป

ฉันเดินตัวปลิวออกจากตลาดด้วยรองเท้าฟองน้ำมีหัวเป็นเป็ด ข้างกายคือผู้ชายคนเดิมเพิ่มเติมคือมือสองข้างเต็มไปด้วยถุงอาหารเกือบจะสิบถุงเห็นจะได้ พี่สิงห์ทำหน้าเบื่อสุด ๆ ตอนที่ฉันเอาแต่ซื้อนั่นนู่นนี่ไม่หยุดแต่เขาก็ไม่ยักบ่น จนเราเดินมาถึงไอ้แก่คันเดิม เจ้าตัวก็ส่งถุงมากมายมาให้ฉันถือเอง

ไม่ถึงสิบนาทีเราก็กลับมาอยู่หน้าอู่เฮียเล้งที่ปิดไฟเงียบ มีรถของฉันจอดนิ่งสนิทอยู่ที่เดิม ฉันเปิดรถก่อนจะเอาทุกอย่างใส่เข้าไป แล้วรีบหันมามองหน้าคนที่กำลังพักขาตั้งลง แล้วจุดบุหรี่สูบอยู่ สายตาเขามองมาที่ไอ้รองเท้าเป็ดที่ฉันกำลังใส่เดินอย่างสะดวกสบายก่อนจะเลื่อนสายตาขึ้นมาสบตากัน

“จะทิ้งเลยรึเปล่า?” เสียงไม่แน่ใจนักเอ่ยถามขึ้นมา ฉันทำตาโตใส่ทันที

“เห็นลินเป็นคนยังไงไม่ทราบ?”

“ก็แล้วจะใส่เดินไปไหนมาไหนรึไง? ปกติก็เห็นใส่แต่ไอ้คู่สูง ๆ”

“ใส่สิ ลินจะใส่ทุกวันเลยตอนมาหาพี่” ฉันรีบเดินเข้าไปเกาะแกะเขาอีกรอบ

“ไม่ต้องมาทุกวันก็ได้ต้องทำงาน” เสียงเนือย ๆ บอกพร้อมมองมาด้วยสายตาเหนื่อยใจ “รอวันละสี่ชั่วโมงนี่ไม่เบื่อรึไง?”

“ไม่เบื่อ”

“มานั่งเฉย ๆ กับผู้ชายเต็มร้านนี่ไม่น่าเบื่อ?”

“ก็หรือจะให้ลินไปรอที่บ้านแทน?”

“…”

เมื่อถูกย้อนถามคนถูกย้อนถึงกับชะงักพี่สิงห์ส่ายหัวไปมาอย่างเอือมระอา แต่ก็ทำท่าทางคิดหนักอยู่เหมือนกันกับข้อเสนอสุดพิเศษของฉัน

“ยังไงก็จะมาให้ได้?” คิ้วเข้มเลิกขึ้นเล็กน้อย ทำท่าชั่งใจ…

“ก็ไม่เห็นรึไง… ลินก็มาทุกวันนั่นแหละ มาจีบ…”

“...” คนถูกจีบเบนสายตาหนีอีกครั้งแล้วถอนหายใจเบา ๆ “ไม่ว่างคบด้วยหรอก ก็เห็นว่าทำงาน”

“ทำเหมือนจะยอมคบงั้นแหละ” ฉันได้ทีก็เลยรีบหยอด เผื่อเหยื่อจะติดเบ็ด แต่พี่สิงห์ก็ยังส่ายหัวเหมือนเดิม

“ไม่คบ… ก็บอกแล้วว่าไม่ว่าง และไม่มีปัญญาเลี้ยงด้วย”

“เลิกคิดว่าต้องเลี้ยงลินสักที ลินไม่ได้อยากได้เสี่ยเลี้ยงสักหน่อย” ฉันกอดอกมองเขาอย่างฉุน ๆ

“มันไม่ได้ง่ายแบบนั้น”

“จะยากแค่ไหนกันเชียว? ชอบก็คบ ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร?”

“ก็บอกไม่คบไง เลิกตามได้แล้ว”

“ไม่!”

“…”

ทุกครั้งที่ฉันเถียงด้วยคำว่า ‘ไม่’ พี่สิงห์ก็จะทำหน้าซังกะตายแทบจะตลอด เหมือนคุยไปก็เสียเวลา เจ้าตัวเลยรีบโบกมือไล่ให้กลับบ้านเพื่อเป็นการยุติบทสนทนา ฉันยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิมเพราะอยากคุยต่อ

“กลับบ้าน”

“ก็ถ้าพี่สิงห์ไม่อยากให้มาวุ่นวายที่อู่ ให้ลินไปรอที่บ้านได้ไหมล่ะ?”

“…”

ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมฉันถึงได้ใจกล้าหน้าด้านอะไรเบอร์นี้ รู้แค่ว่าคู่สนทนาใบ้กินไปแล้ว ดวงหน้าหล่อมองกันเงียบอยู่หลายอึดใจ แต่ท้ายที่สุดก็ส่ายหัวเหมือนเดิม

“เด็กบ้า… เอาแต่จะไปบ้านผู้ชาย” คนแก่บ่นพึมพำเป็นหมีกินผึ้ง ฉันได้ยินแบบนั้นก็เลยเบ้ปากใส่

“ก็หรือจะให้มานั่งให้ผู้ชายมองอยู่ที่อู่ทุกวัน?”

“จะมารอทำไมเล่า? ก็บอกแล้วว่าทำงาน”

“ก็แล้วพี่ว่างเมื่อไรบ้างล่ะ เห็นทำงานตลอด ถ้าไม่รอหลังเลิกงานลินก็ไม่ได้เจอน่ะสิ”

“ไม่ว่าง…”

“ก็นั่นไง… ขอกุญแจบ้านด้วยตั้งแต่พรุ่งนี้ลินจะไปรอจีบพี่ที่บ้านแทน”

“…”

พี่สิงห์ถอนหายใจเสียงดังเมื่อได้ฟังความเอาแต่ใจของฉัน เจ้าตัวลงมาจากไอ้แก่ แล้วดึงแขนฉันให้เดินไปขึ้นรถโดยไม่ได้ตอบรับคำขอ ร่างฉันถูกยัดเข้ามาในรถโดยมีคนตัวสูงยืนค้ำอยู่ที่ประตู

“กลับบ้านเดี๋ยวนี้”

“รู้แล้วน่า”

“…”

ร่างสูงผละออกไปพร้อมปิดประตูให้ ฉันลดกระจกลงโบกมือบ๊ายบายให้ เจ้าตัวทำเพียงขยับตัวถอยห่างออกไป และรอจนฉันเคลื่อนรถออกเท่านั้น มองผ่านกระจกมองหลังพบว่าพี่สิงห์ยังคงยืนอยู่ที่เดิมมองมาจนสุดสายตา

ไม่รู้ทำไมว่าฉันถึงเอาแต่ยิ้มกับตัวเองไม่หยุดแบบนี้ อาจจะเป็นเพราะไอ้รองเท้าเป็ดนุ่มนิ่มที่กำลังใส่อยู่นี่ก็ได้ หรืออาจจะเป็นเพราะได้กินข้าวกับพี่สิงห์เป็นครั้งแรก หรืออาจเป็นเพราะวันนี้ฉันทำให้คนขี้หงุดหงิดยิ้มออกมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ

โอ๊ย…. แบบนี้ใช่รึเปล่าที่เขาเรียกกันว่า หลงรักหัวปักหัวปำ…
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน   บทที่ 9

    พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน ตอนที่ 9วันต่อมาตอนนี้ฉันกำลังเดินชอปปิงเป็นเพื่อนยิมที่ห้างหรูที่เราสองคนโปรดปราน และวันนี้ฉันแค่มาเป็นเพื่อนมันจริง ๆ ไม่ได้ซื้อของเลยสักชิ้นจนเพื่อนสนิททำหน้าแปลกใจตอนที่ฉันปฏิเสธที่จะซื้อชุดว่ายน้ำคอลเลกชันใหม่ของแบรนด์ดัง ยิมแขวนชุดนั้นไว้ที่เดิมแล้วหันมาหรี่ต

    Last Updated : 2025-03-13
  • พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน   บทที่ 10

    “แต่แกต้องสัญญา ว่าถ้าจะตัดสินใจคบต้องพามาให้ฉันดูด้วย” ใบหน้าสวยของเพื่อนจริงจังขึ้นสิบระดับ ฉันเลยพยักหน้าให้มันมั่นใจ“ได้… แล้วแกจะชอบเหมือนที่ฉันชอบรับรองเลย”“ขอให้มันจริง…”“เออเหอะน่า… แกรีบไปได้แล้ว”“โอเค… เจอกันพรุ่งนี้”หลังจากรถมันเคลื่อนตัวไปแล้ว ฉันก็รีบขับรถไปหาพี่สิงห์ที่อู่ทันที แต

    Last Updated : 2025-03-13
  • พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน   บทที่ 11

    “น่ารักไหม?” ฉันจับจีบกระโปรงด้านข้างให้กางออกพร้อมส่งยิ้มถาม“…” เจ้าตัวที่กำลังคีบซูชิเข้าไปเหลือบตามามองนิดหน่อย ก่อนจะพยักหน้าแบบส่ง ๆ “ก็ดีกว่าชุดนักศึกษา นั่งทีเห็นไปถึงไหนต่อไหน…”“แหม… แอบมองเค้าเหรอ?”“ไม่ได้มอง… เดินผ่านมันก็เห็นทั้งนั้นแหละ”“ขี้โม้”ฉันกระแทกตัวลงนั่งที่เดิมทำปากยื่น อุต

    Last Updated : 2025-03-13
  • พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน   บทที่ 12

    พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน ตอนที่ 10พอเขาอนุญาตขึ้นมาจริง ๆ เป็นฉันเองที่นิ่งไปเลย พี่สิงห์ปลดตัวเองออกจากอ้อมกอดฉันได้สำเร็จเมื่อฉันยืนค้างอยู่อย่างนั้น ร่างสูงจ้องหน้ากันนิ่งก่อนจะบอก“นอนด้วยกันเลยดีไหม? คุณนลิน” เสียงประชดประชันพึมพำบอกมา แล้วเดินเบี่ยงตัวขึ้นชั้นสองไปโดยไม่รอฟังคำตอบอะไร

    Last Updated : 2025-03-13
  • พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน   บทที่ 13

    พระเจ้า! ไม่อยากจะเชื่อว่าฉันจะทำ! แต่ฉันทำมันลงไปแล้วจริง ๆ“ลิน หยุด” คนตัวโตพยายามบอก แต่กลับไม่ถอยใบหน้าห่างออกไป“ลินแค่อยากจูบ”“…”ฉันเลื่อนตัวเข้าไปจนชิดร่างหนา เสียงกลืนน้ำลายของเขาดังชัด มองหน้าฉันด้วยสายตาแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ก็ดู… หวั่นไหว…นัยน์ตานิ่งสนิทเป็นปกติตอนนี้ดูผ่อนปรนลงมาก จ

    Last Updated : 2025-03-13
  • พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน   บทที่ 14

    ยังไงคนตรงหน้าก็เป็นผู้ชายทั้งแท่ง แมนเกินร้อย ไม่ใช่พระอิฐพระปูนอย่างที่เจ้าตัวเคยพูดไว้จริง ๆพี่สิงห์พลิกตัวให้ฉันล้มนอนลงด้านข้างแล้วเริ่มพรมจูบฉันจากข้างแก้ม ซอกคอ หัวไหล่ ต่ำลงไปถึงเต้าใหญ่ซึ่งไร้ปราการใดปกปิด ลิ้นร้อนลากตวัดไล้เลียยอดอกของฉันแผ่วเบามืออีกข้างก็ทำการบีบขยำอีกฝั่งหนึ่งไปพร้อม

    Last Updated : 2025-03-13
  • พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน   บทที่ 15

    ความถี่กระชั้น และความเร็วไต่ระดับสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนฉันร้องครางไม่เป็นภาษา จนในที่สุดเอวฉันก็กระตุกเบา ๆ เสร็จออกมาอย่างง่ายดาย พี่สิงห์ไม่ได้หยุดหลังจากที่ฉันน้ำแตกแล้วเขาก็ยังคงกระแทกความแข็งขืนเข้ามาชนิดไม่คิดจะผ่อนปรนถึงแม้แข้งขาฉันจะอ่อนแรงจนยกไม่ขึ้นก็ตามเขาแข็งแรงเสียจนฉันเสียหลักจุกระบมท้อง

    Last Updated : 2025-03-13
  • พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน   บทที่ 16

    พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน ตอนที่ 11วันต่อมาตื่นเช้ามาฉันก็ต้องพบว่าพี่สิงห์ไม่อยู่ที่เตียง เดินออกไปดูข้างนอกก็ไม่มี แถมไอ้แก่ก็ไม่อยู่ แต่พอฉันแต่งตัวเรียบร้อย และกำลังจะกลับนั่นแหละถึงได้ยินเสียงไอ้แก่คันเดิมจอดลงที่หน้าบ้านพี่สิงห์ที่อยู่ในเสื้อช็อปของวิทยาลัยเดินหิ้วถุงอะไรสักอย่างเข้า

    Last Updated : 2025-03-13

Latest chapter

  • พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน   บทที่ 113

    “พี่ก็ต้องเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวอีกแล้ว” พี่เตถอนหายใจเบา ๆ ฉันกับพี่สิงห์มองหน้ากันอย่างรู้ทันคนที่แกล้งทำเป็นซึมเหมือนอาภัพรักเสียเต็มประดา“มึงก็หาเมียสิ เลิกเล่นไปเรื่อยได้แล้ว…”“กูไม่ได้เล่น แต่คนอื่นเขามองว่ากูเล่น!” พี่เตเถียงเสียงดัง สีหน้าเซ็งจัด“พี่ก็หัดทำตัวจริงจังหน่อย…” ฉันยกมือตบบ่าพี่เต

  • พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน   บทที่ 112

    ฉันพยายามจะไม่สนใจร่างสูงที่เอาแต่พูดเรื่องพี่เลี้ยงเด็กอะไรนั่นแล้วเดินเข้าครัวเพื่อไปทำอาหารให้เขากินใช่… ฉันมันแม่บ้านสุดเก๋ายังไงล่ะ… ฝีมือฉันพัฒนาไปถึงขั้นนั้นแล้ว!“พี่สิงห์!”แต่แล้วก็ต้องร้องเสียงดังเมื่อตัวเองถูกอุ้มจนลอยขึ้นจากพื้น พี่สิงห์ส่ายหน้าไปมาเพื่อจะบอกว่ายังไงก็ไม่ยอมให้ฉันทำอะไ

  • พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน   บทที่ 111

    พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน ตอนที่ 48หกปีผ่านไป...ไม่อยากจะเชื่อว่าชีวิตของฉันจะวุ่นวายได้ขนาดนี้!ตอนนี้ฉันกำลังห่อข้าวใส่กล่องข้าวสามกล่อง จัดการเอากระเป๋านักเรียนของเด็ก ๆ มาวางต่อ ๆ กันแล้วยัดไอ้กล่องข้าวที่ใช้เวลาทำตลอดทั้งเช้าลงไป เสียงเด็ก ๆ กำลังผลัดกันตะโกนผลัดกันร้องไห้โยเยอยู่ตรงห้อ

  • พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน   บทที่ 110

    แต่มันก็เป็นมันหน้าหนายิ่งกว่าปูนโบกตึก… จะไปอายอะไร…ตรงนี้คงมีแค่ยิมที่นอนอยู่เก้าอี้ตัวถัดไปจากผมกับลินเท่านั้นที่ดูเหมือนจะหลับไปง่าย ๆ ร่างบางในชุดว่ายน้ำถูกคลุมด้วยผ้าเช็ดตัวที่ผมจำได้ว่าเป็นของไอ้ยีนซึ่งผมเห็นอยู่บ่อย ๆ เวลามันไปนอนค้างกับไอ้เตที่บ้านก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงมาอยู่กับเด็กน

  • พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน   บทที่ 109

    พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน ตอนที่ 47ก็คิดผิดจริง ๆตอนนี้เรามาถึงทะเลแล้ว ผมสามคนกำลังนั่งคุยเล่นกันอยู่ที่เก้าอี้ชายหาด ทุกคนหันหน้าเข้าหาทะเล แสงแดดตอนบ่ายมันจ้าเสียจนต้องเอาแว่นกันแดดมาใส่ เพราะอากาศค่อนข้างร้อนจัดพวกผมเลยนอนถอดเสื้อนอนกันเรียงคนสาว ๆ กำลังยืนอยู่ห่างออกไปยังหน้าชายหาดที่แ

  • พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน   บทที่ 108

    วันนั้นผมอยู่อู่จนดึก… ดึกชนิดที่ว่าไม่เคยมีวันไหนอยู่ดึกขนาดนั้นมาก่อนเพราะงานมันล้นมือมาก ๆ และวันนั้นเองผมก็ได้เจอกับร่างเล็กที่ยืนแกร่วอยู่คนเดียวตรงฟุตพาทฝั่งตรงกันข้าม ถึงเรื่องมันจะทุเรศไปสักหน่อยที่ผมปากหมาไปเอ่ยทักลินแบบนั้นแต่ก็นั่นแหละ… ตอนนั้นตัวผมเองไม่ได้เสี้ยนบุหรี่ขนาดนั้น ง่วงนอนจะ

  • พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน   บทที่ 107

    “ฮัลโหล... พี่เต…”“…” ผมถอนหายใจยกมือขึ้นเสยผมอย่างหงุดหงิดเมื่อรู้ว่าคนที่โทรเข้ามาคือไอ้เวรเตคนขี้ขัดจังหวะ ขนาดตัวมันไม่อยู่ยังเสือกโทรมาขัดจังหวะจนได้“พี่สิงห์ก็อยู่กับลินนี่แหละ” ลินยืนหันหลังคุยโทรศัพท์ ผมลากสายตามองท่อนขาเรียวสวยแล้วก็อดใจเดินเข้าไปหาอย่างเสียไม่ได้“…”ได้ยินปลายสายพูดถึงเ

  • พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน   บทที่ 106

    พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน ตอนที่ 46SING TALKSหลังจากดูดเลียกลีบเล็กสวยสะอาดไร้ตออยู่นาน ผมก็เงยหน้าขึ้นมาเลียริมฝีปากตัวเองอีกรอบ สายตายังคงจ้องมองไปยังความสาว ความสดเหมือนไม่เคยผ่านอะไรมาก่อนอย่างหลงใหลลินสวยมาก ผิวขาวผ่องเนียนละเอียดแม้กระทั่งจุดนั้น แคมเล็กทั้งสองข้างก็ชมพูเรื่อดูสดใหม่เ

  • พี่สิงห์เด็กช่างคนดุกับคุณนลิน   บทที่ 105

    “ไม่ได้… ต้องไปเลือกของขวัญก่อน”“ทำไมมันพิธีเยอะงี้วะเนี่ย…”“ทนหน่อยน่า”ถึงแม้จะสงสารเขาที่ต้องมาทำอะไรแบบนี้ แต่ก็จะไปทำอะไรได้เราต้องช่วยกันจัดการแม้กระทั่งเรื่องแจกการ์ดเชิญคนรู้จัก แต่ก็เชิญมาแค่ไม่กี่คนหรอก แค่คนสนิท ๆ เท่านั้น เพราะเป็นการจัดงานอย่างเร่งรีบของพวกผู้ใหญ่เลยไม่ได้เชิญผู้หลักผ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status