เช้าวันต่อมาร่างบางของนินิวรู้สึกตัวตื่นมาในเวลาเจ็ดโมง เศษๆ แต่ขณะที่กำลังจะลุกจากที่นอนกับมีแขนยาวของคนใจร้ายที่โอบกอดรัดตัวเธอเอาไว้ตลอดทั้งคืน ให้ตายเถอะฉันคิดว่าเขาลุกออกจากห้องไปตั้งแต่เช้าแล้ว หึ แต่คนใจร้ายก็ยังคงหลับอยู่ นินิวกลับเลือกที่จะไม่สนใจ คนตัวเล็กรีบลุกออกจากที่นอนและเดินเข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว แต่ขณะที่เดินออกมานั้นเปลือกตาของคนใจร้ายก็ยังคงหลับสนิทในท่าเดิม เธอก็ไม่คิดที่จะปลุกเขาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ปล่อยให้เขานอนหลับอยู่เช่นนี้น่าจะดีกว่าหลังจากแต่งตัวเสร็จฉันเหลือบมองคนหลับเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าเขายังหลับสนิทอยู่ มือบางหยิบกระเป๋าสะพายชีทงานขึ้นมาก่อนที่จะเดินออกจากห้อง แต่จู่ๆ กับมีเสียงเรียกคนที่ฉันคิดว่าหลับกับเอ่ยขึ้นตามหลัง"ไม่คิดจะปลุกกันหน่อยหรือไง" ริกเอ่ยถามนินิวที่กำลังจะก้าวขาออกจากห้อง จริงๆ เขาไม่ได้หลับสนิทอย่างที่เธอคิดหรอก เขารู้สึกตัวตั้งแต่ที่เธอลุกออกจากเตียงไปแล้ว แต่ก็แค่อยากจะลองใจเธอดูเท่านั้นเอง เป็นอย่างที่คิดไว้ตั้งแต่แรกว่าเธอจะปล่อยให้เขานอนคนเดียวที่คอนโดของเธอเนี่ยนะ อ่า หงุดหงิดชะมัดแต่นั้นก็ไม่อยากให้เสียบรรยากาศตั้งแต่เช้า
@S K Yวันนี้ตลอดทั้งวันตั้งแต่ที่เจ้าตัวแยกจากนินิวที่ลานคณะ นี้ก็ผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว แต่ก็ยังไม่มีท่าทีว่าคนตัวเล็กนั้นจะยอมรับสายตน ริกแสดงสีหน้าขึ้นมาอย่างหงุดหงิด มือหนายังคงกดสมาร์ตโฟนรัวๆ อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่มาถึงร้านริกยังไม่เอ่ยปากคุยกับใคร"นินิวเธอไม่รับสายมึงเลยเหรอไง " เรียวตะที่นั่งอยู่ข้างๆ ถึงกับถามเพื่อนมาอย่างสงสัย เนื่องจากตั้งแต่มาถึง ริกแทบจะไม่ยอมละใบหน้าหล่อๆ ของมัน ออกจากตนหน้าจอจอสมาร์ตโฟนเลยด้วยซ้ำ เดาว่าที่เป็นแบบนี้ก็คงไม่พ้นนินิวนั้นเอง เพราะเมื่อเช้าริวรายงานพวกเขาว่าริกนั้นแอบไปคืนดีกับนินิวเป็นที่เรียบร้อย แล้ว แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเพื่อนใช้วิธีไหนน้องถึงยอมใจอ่อนให้"ถ้าเธอรับกูจะมานั่งเครียดแบบนี้ไหม" ริกตอบเพื่อนมาอย่างไม่สบอารมณ์นัก ทั้งที่วันนี้เขาตั้งใจจะพานินิวไปทานมื้อเย็นอยู่แล้วแท้ๆ แต่แม่คุณก็เล่นหนีหายไม่รับสายเขาแบบนี้มีหรือจะไม่ให้เขาหงุดหงิด"ปกติกับริต้าโมเน่หรือใครก็ไม่เห็นมึงหงุดหงิดขนาดนี้เลยนิ""แต่นี่เป็นนินิวไง เธอเป็นคนที่ไม่เหมือนใคร เลยทำให้กูบ้าคลั่งได้ขนาดนี้" ริกบอกเรียวตะไปอย่างตรงๆ"รู้ตัวก็ดี" เรียวตะหลุดเสียงมาแค่นั้นก่อนท
"ขอโทษ..." ริกเอ่ยมาด้วยน้ำเสียงที่ดูเศร้าลง จนคนฟังถึงกับรู้สึกและชะงักไป แต่นั้นใช่ว่านินิวจะหลงเชื่อคนใจร้ายอย่างเขา นินิวแกะเรียวแขนที่โอบกอดตนออกจนสำเร็จ"ถ้าพี่ตั้งใจนอกใจฉันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว อย่าขอโทษเลยคะ เพราะฉันจริงจังกับคำนี้มาก" พูดจบร่างบางก็หยิบชุดในตู้และเดินหนีเข้าห้องน้ำ ปล่อยให้คนใจร้ายนั้นได้คิดอะไรเพียงคนเดียว ร่างสูงได้แต่มองตามหลังคนตัวเล็กที่เดินหนีตนไปด้วยนัยตาที่เศร้าลงเพียงไม่กี่คำของเธอทำไมถึงทำเอาเขาเจ็บจุกและหน่วงภายในใจได้มากขนาดนี้ มันมีอิทธิพลต่อใจเขายิ่งนัก ร่างสูงเดินออกมานั่งคิดอะไรที่โซฟาห้องรับแขกเพราะนินิวเองอาจจะไม่สะดวกถ้าเขายังคงอยู่ในห้องนอนยอมรับว่าที่ผ่านมาผมทำพลาดมากที่คิดว่านินิวเธอรักผมมากเพราะเมื่อก่อนเป็นเธอที่เอาแต่วิ่งตามผม แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปหมด ที่คิดว่าเบื่อเมื่อไหร่ก็เลิกได้ แต่ไม่ใช่กลายเป็นว่าผมต่างหากที่เป็นฝ่ายทิ้งเธอไม่ลง กับโมเน่ก็แค่สนุกเมื่อผมอยากจบ เธอก็ต้องจบ แต่กับนินิวผมคิดว่าทำแบบนั้นได้แต่เปล่าเลย ความรู้สึกมันเหงาและดูเคว้งคว้างไปหมดเมื่อขาดใบหน้าหวานๆ นัยตาใสๆ รอยยิ้มและเสียงหวานๆ ที่มักจะพูดและนอนกอดเ
@Condo Rik หลังจากที่ริกขับรถไปส่งนินิวที่คอนโดของเธอจริงๆ เขาตั้งใจจะขึ้นคอนโดกับหญิงสาวแต่เจ้าตัวกลับไม่ยอม ริกจึงต้องวนรถกลับมายังคอนโดของตนด้วยสีหน้าอันหงุดหงิด เมื่อมาถึงร่างสูงถึงกับต้องหยิบบุหรี่ไฟฟ้าขึ้นมาดูดเพื่อให้ตนนั้นผ่อนคลายลง!! ฟู่ !! ควันของบุหรี่ไฟฟ้าลอยขึ้นตลบอบอวนไปจนทั่วห้อง ร่างสูงถึงต้องกับใช้ความคิดอย่างหนัก ย้อนไปก่อนหน้านี้ที่นินิวได้คุยกับเขาในห้องอาหารของโรงแรมก่อนที่ตนจะไปส่งหญิงสาวยังคอนโดของเธอ"ฉันให้โอกาสพี่ แต่สิ่งที่ฉันจะขอพี่หลังจากนี้ พี่จะให้ฉันได้หรือเปล่า""ว่า...มาสิ มีอะไรที่ฉันจะให้เธอไม่ได้""หลังจากนี้ไปพี่ห้ามบังคับหรือขืนใจฉัน ถ้าฉันไม่เต็มใจพี่ห้ามทำ และห้ามกอดห้ามหอม ห้ามทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้ฉันเปลืองตัว" นินิวบอกด้วยน้ำเสียงนิ่งและจริงจังพอสมควร ริกได้ยินเช่นนั้นร่างสูงถึงกับชะงักไปกับคำพูดของเธอ"ถ้าพี่มีคนอื่นถือว่าเราจบกัน" นินิวบอกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น"เธอไม่ได้ตั้งใจจะคืนดีกับฉันตั้งแต่แรกอยู่แล้วนิ" ริกถามเธอมาด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจนักกับข้อเสนอที่เธอนั้นยื่นให้กับเขา"อย่างน้อยมันก็ทำให้ฉันได้พิสูจน์ ว่าจริงๆ แล้วพี่จริ
ริกหลังจากที่ร่างสูงส่งบทเพลงด้วยเสียงอันเพราะๆ ให้คนตรงหน้านั้นได้ฟังจนชื่นใจแล้ว ความรู้สึกของเขาตอนนี้ก็ไม่ต่างจากเธอ แววตาของคนตัวเล็กที่แสดงผ่านความรู้สึกออกมาจนล้นเปี่ยม วันนี้ถึงเขาจะไม่ได้รับรอยจูบจากนินิวเป็นรางวัล แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้คนตัวโตนั้นได้เห็นรอยยิ้มอันสดใสของเธอกลับคืนมาเมื่อคนตัวโตร้องเพลงจบลง ร่างบางตรงหน้าปรบมือเสียงดังยิ้มจนแก้มปริ เธอรู้สึกชื่นชมเขาจนเก็บอาการไม่อยู่ เพราะไม่เคยคิดว่าคนตรงหน้านั้นจะโรแมนติกได้ขนาดนี้ ครบรอบสองเดือนพี่ริกยังเล่นใหญ่ขนาดนี้ ถ้าครบหนึ่งปีจะขนาดไหนกันเชียว นินิวได้แต่คิดในใจ พร้อมกับยิ้มหวานให้กับริกจนตาหยีด้านริกหลังจากที่อาหารที่ผมสั่งมาถูกวางบนโต๊ะแต่นินิวเธอทานมันน้อยมากนับคำได้ ร่างสูงถึงกับขมวดคิ้ว อาหารบนโต๊ะล้วนแต่เป็นของโปรดเธอทั้งนั้น และยังเป็นร้านที่ขึ้นชื่อถึงรสชาติที่แสนอร่อย ทุกเมนูที่ผมสั่งมาล้วนแต่ของโปรดที่นินิวชอบ"อาหารไม่ถูกปากเหรอครับ" ร่างสูงถามคนที่เอาแต่มองจานข้าวและสลับกับใบหน้าผม ข้าวในจานแทบจะไม่ยุบลงเลย นินิวยิ้มไม่หยุดจนผมเองก็อดยิ้มตามเธอไม่ได้ เธอเล่นชอบเสียงผมขนาดนี้มีหรือจะปฏิเสธเขาได้"เปล่าค
"เออ คือ..." นินิวถึงกับพูดไม่ออกเธอเองไม่รู้จะตอบเพื่อนพี่ชายยังไงดี"คือยังไง กับไอ้ริกนี้..." ไทม์ยังคงถามย้ำ เพราะเขาเองก็อดเป็นห่วงนินิวไม่ได้ ถึงเธอจะให้เขาเป็นได้แค่พี่ชายก็เถอะ"ถ้านิวปฏิเสธว่าไม่ใช่มันก็เหมือนจะเป็นการโกหก แต่นิวไม่ได้จะปิดบังหรือยังไงนะคะ แค่นิวยังไม่พร้อมที่จะบอกเรื่องนี้กับพี่น็อต ไหนๆ พี่ไทม์ก็เป็นเพื่อนที่สนิทกับพี่น็อตที่สุด พี่ไทม์เหมือนพี่ชายคนนึงของนิวๆ ขอร้องได้ไหมคะอย่าพึ่งบอกเรื่องนี้กับพี่น็อต รอให้นิวแน่ใจพี่ริกมากกว่านี้ ถึงวันนั้นนิวจะเป็นคนบอกกับพี่น็อตเอง นิวไม่อยากให้พี่น็อตเป็นห่วงค่ะ" นินิวบอกกับไทม์ เพราะพี่น็อตไม่เห็นด้วยแน่ถ้าฉันคบเพื่อนของเขา"ครับพี่รับปาก แต่เราเถอะคบกับเสืออย่างไอ้ริกเราจะไหวเหรอ คนอย่างไอ้ริกไม่เคยหยุดที่ใคร" ไทม์เอ่ยบอกกับรุ่นน้องมาด้วยความเป็นห่วง เดาว่าที่ไอ้ริกยอมคบกับนินิว เป็นเพราะเพื่อนคงไม่ทราบว่านินิวเป็นน้องสาวของน็อต เพราะจริงๆ ริกกับน็อตก็สนิทกันมากในระดับนึงเพียงแต่พวกเขาอยู่กันคนละกลุ่ม ยิ่งเป็นน้องของเพื่อนคนอย่างริกจะไม่มีทางยุ่งอย่างแน่นอน เพราะคนอย่างริกไม่ชอบผูกมัดกับใครแล้วอย่างนี้นิวจะไหวเหรอ
ร่างสูงของท่านรองประธานของอย่างริก อัตพล นั่งเอนหลังพักสายตา เขาอยู่ในท่านี้ตั้งแต่เข้ามาในห้องทำงาน ตลอดหลายวันที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นเลขาหรือลูกน้องคนสนิทก็ไม่มีใครเข้าหน้าเขาติด ทำอะไรก็ไม่มีใครถูกใจกันซักคน และคนที่เป็นต้นเหตุให้ท่าน รองประธานหน้าไม่สบอารมณ์แบบนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน คนที่หนีหายออกจากชีวิตเขาไปอย่างนินิวนั่นเอง เอกสารกองตรงหน้าหลายฉบับที่ร่างสูงนั้นกับไม่มีสมาธิอ่านและเซ็น วันนี้ตั้งแต่เช้าที่เข้ามาทำงานแฟ้มเอกสารยังไม่มีท่าทีว่าริกนั้นจะเปิดขึ้นมาเซ็นแต่อย่างใด ในหัวเอาแต่ถึงเรื่องใครอีกคนตลอดหลายวันที่ผ่านมาเขาไม่สามารถสลัดเรื่องของนินิวออกจากหัวได้เลยซักนิด ใบหน้าหวานยังคงวนเวียนในหัวเขาแปดวันเต็มที่นินิวได้หายไปออกไปจากชีวิตโดยที่เจ้าตัวเองไม่รู้ถึงสาเหตุๆ ใดเธอถึงไปหนีเขาไปเช่นนี้ ไม่บอกกล่าวเขาเลยซักคำ เขาพยายามติดต่อหาเธอทุกช่องทางไม่ว่าจะที่เธอเคยอยู่ คอนโดมหาลัยหรือที่ๆ เธอเคยฝึกงาน แต่การตามหาตัวนินิวมันกลับสูญเปล่า คำตอบที่ได้มาจากลูกน้อง นินิวย้ายออกจากคอนโดไปเมื่อสองสัปดาห์ก่อน ซึ่งเขาไม่ทราบข่าวเธอเลยร่างสูงถึงกับกุมขมับมืดแปดด้าน มันไม่ใช่เรื่องยากเลย
ริกเดินกลับเข้ามาในงานด้วยสีหน้าอันบึ่งตึงต่างจากเมื่อครู่อย่างเห็นได้ชัด ร่างสูงหยิบแก้วบรั่นดีขึ้นมากระดกลงคอรวดเดียวจนหมดแก้ว หึ! คำพูดของไทม์ยังคงวนเวียนในหัวเขา ทำไมเขาต้องรู้สึกผิดกับเพียงแค่คำพูดของไทม์ ในเมื่อนินิวเธอเลือกที่จะไปจากเขาเอง"อึก อึก" แก้วบรั่นดีในมือถูกยกขึ้นมากระดกลงเพื่อให้มันดับความร้อน ภายในจิตใจ"เป็นห่าอะไร มีเรื่องอะไรหรือเปล่า"ริวที่ยืนดูอยู่ห่างๆ ถึงกับเอ่ยถามพี่ชาย ริกออกไปคุยกับไทม์แค่แปปเดียวพอกลับเข้าในงานมาดูสีหน้าริกเปลี่ยนไปราวกับคนละอารมณ์กัน ริวถึงกับขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างสงสัย"เรื่องของกู" ริกตอบน้องชายแค่นั้น ก่อนที่เจ้าตัวในมือถือแก้วบรั่นดีเดินตุ่มๆ ออกไปจากงาน ด้วยสีหน้าและอารมณ์ที่หงุดหงิด ไม่เว้นแม้แต่นัตตี้และเหล่าเพื่อนๆ คนสนิทต่างก็งงงวยไปตามๆ กัน เจ้าของวันเกิดเดินออกจากงานราวกับไม่ใช่งานของตนเองริวเห็นเช่นนั้นถึงกับสายหน้าให้กับความเอาแต่ใจของพี่ชายริกทำตัวราวกับเด็กสามขวบ งานปาร์ตี้คืนนี้จะมากล่อยแบบนี้ไม่ได้ ถึงริกจะไม่เป่าเค้กร่วมกับริวแต่นั้นก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร ที่ริกเป็นอย่างนี้ริวเองก็พอจะเดาได้คงไม่พ้นเรื่องของสาวรุ่นน้องผู้ที่
@คฤหาสน์ นินิวหลังจากที่พี่ริกพาฉันและเรนิสออกไปทานอาหารเสร็จแล้ว และตอนนี้พี่ริกเขาก็พาฉันและเจ้าตัวแสบกลับมาถึงคฤหาสน์ในเวลา สองทุ่ม เศษๆ โดยมีคุณย่าสุดสวยและคุณปู่ ที่นั่งรอรับเจ้าตัวแสบในห้องรับแขก ที่มีคุณแม่ของพี่ริกนั้นโทรตามพวกเราแทบจะทุกสิบนาที เนื่องจากท่านเป็นห่วงเรนิส เพราะพี่ริกนั้นพาเรนิสออกไปตั้งแต่เมื่อเช้า คุณแม่ท่านเป็นห่วงเจ้าตัวแสบมากกว่าลูกชายทั้งสองของท่านซะอีก ส่วนเจ้าตัวแสบพอเห็นคุณปู่คุณย่าที่นั่งอยู่บนโซฟา ก็ลงจากอ้อมแขนของพี่ริก เดินเข้าไปออดอ้อนคุณปู่คุณย่าอย่่างรู้งานตามประสาของเด็กขี้อ้อนที่มักจะทำเช่นนี้กับคุณปู่คุณย่าของเขาทุกวัน ฉันเห็นภาพนี้ที่ไรถึงกับอดยิ้มให้กับความน่ารักน่าซังของลูกสาวไม่ได้ฉันรู้สึกโชคดีมากที่ครอบครัวของพี่ริกนั้นรักฉันและเรนิสมากๆ"เรนิสคะมาหาคุณย่า นะคะลูก หือ...ย่าคิดถึงหนูที่สุดเลยคะลูก" ห่างกันไม่ถึงวันคุณหญิงปรางทิพย์ก็อดคิดถึงเจ้าตัวแสบนั้นไม่ได้ ที่นับวันยิ่งรู้ความมากขึ้น คุณย่่าสุดสวยพอหลายสาวเดินเข้าหา ก็ทั้งฟัดทั้งหอมเจ้าตัวแสบ ส่วนคนโดนอย่างหลานสาวตัวจ้ำม่ำก็เอาแต่หัวเราะคลิกๆ มาอย่างชอบใจ จนฉันเองอดหมั้นใส้เรนิสไม่ไ
2 ปีต่อมาด้านริกหลังจากที่นินิวตัดสินใจกลับมาเริ่มต้นใหม่ที่ไทยกับผม จากที่เรากลับจากสวิตซ์ได้ประมาณ 3 เดือนนินิวก็ได้ให้กำเนิดลูกสาวสุดที่รัก โดยนินิวนั้นคลอดก่อนกำหนด ทำให้เจ้าตัวแสบนั้นค่อนข้างที่จะตัวเล็ก โดยน้ำหนักตัวอยู่ที่ 2,238 กรัม เรื่องหน้าตาของเรนิส นั้นถอดแบบมาจากผมมากกว่านินิวนะครับ นี่แหละคือสิ่งภาคภูมิใจของผมที่ลูกสาวหน้าตาคล้ายผมมากกว่าแม่ของเขา หลังจากที่นินิวคลอดเรนิสได้ประมาณ 3 เดือน ผมและนินิวเราก็ได้เข้าพิธีแต่งงาน โดยที่นินิวเธอไม่ได้ต้อง การ จัดใหญ่โตอะไรมากมาย แค่เชิญคนสนิทมาร่วมเป็นสักขีพยานในความรักของเรา และยังมีเจ้าตัวแสบอย่างเรนิสนั่นร่วมเป็นพยานความรักของผมและนินิวอีกด้วย เรียกได้ว่างานแต่งของเราเป็นอะไรที่เพอร์เฟคและลงตัวสุดๆ ถึงจะเป็นงานที่ไม่ได้จัดใหญ่โตอะไรแต่สำหรับผม ตั้งแต่มีนินิวและเรนิสเพิ่มเข้ามาในชีวิต ผมก็กลายเป็นคนที่ชอบอะไรที่เรียบง่าย ขอแค่มีพวกเขาร่วมเดินทางไปกับผมชีวิตนี้แค่นี้ก็พอแล้วครับ@บริษัทซัมอาร์วันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่เหล่าพนักงานในบริษัทนั้นไม่เคยได้เห็น เมื่อคุณพ่อยังหนุ่มในคราบผู้บริหาร ร่างสูงของริกในชุดสูทสีกลม เดินเข้าม
กลุ่มฉันเราก็นั่งกันพวกผู้หญิง ที่มียัยเซนั้นทำหน้าที่เป็นเด็กเอ็นสมัครเล่นในงานเลี้ยงเล็กๆ ของค่ำคืนนี้นั่งกันไปได้ซักพักยัยมีนนาที่กระดกไม่หยุด อีกไม่นานก็คงจะคอพับ ส่วนฉันก็ได้แต่นั่งทานน้ำเปล่าและนั่งมองพวกเพื่อนๆ ที่นั่งดื่มกัน ยัยไรราที่มองฉันมา"ยัยนินิวจะคลอดแล้ว กูก็ยังเงียบกริบเลยค่ะ" จู่ๆ ยัยไรราที่โดนฤทธิ์แอลกอฮอล์ครอบงำถึงกับเข้าไปเอ่ยถึงเรื่องลูกขึ้นมากับพวกฉัน"แกก็รีบมีซะสิ เรนิสคลอดมาจะได้มีเพื่อนเล่น" ฉันเอ่ยกับยัยไรรา พร้อมกับยิ้มให้กำลังใจ ที่นางอยากจะมีเจ้าตัวเล็กมาวิ่งเล่นในบ้านบ้าง"ฉันลุ้นทุกเดือนอะแก" ยัยไรราเอ่ยกับพวกฉันมา"ดูอย่างยัยรีนสิ มาครั้งเดียวสองคนเลย รวดเร็วทันใช้มาก" ฉันว่าและหันมองหน้ายัยเชอรีนที่มาครั้งนี้ นางไม่ยอมพาเจ้าแฝดมาด้วย เสร็จจากเซอร์ไพรส์ฉันพรุ่งนี้พวกเพื่อนๆ ฉันก็แยกย้ายกันไปสวีทกับผู้ของพวกนางต่อ"เออ ที่แกไม่มีเพราะไอ้ตินไม่มีน้ำยาหรือเปล่า" จากที่นั่งดื่มเงียบๆ เอ่ยขึ้นมาบ้าง พวกฉันถึงกับลั่นขำกันห้อง แต่มีไอ้ติณคนเดียวที่ขำไม่ออก หน้านิ่งมาเชียว"ใครเสียงใคร ว่าฉันไม่มีน้ำยา นินิวเธอว่าฉันเหรอ" ไอ้ออสติณหูเพี้ยนที่ได้ยินเป็นเสียง
วันต่อมาหลังจากที่ฉันไปค้างที่โรงแรมกับพี่ริกมา และวันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวัน ที่ฉันยังไม่ได้กลับไทย แต่เราตกลงกันแล้ว ว่าฉันจะกลับไปคลอดเรนิสที่เมืองไทย ส่วนเรื่องที่ฉันท้องพี่น๊อตและคุณน้าแนะนำให้ฉันบอกป๊าม๊าเพราะอีกไม่กี่เดือนฉันก็จะคลอด ตอนแรกฉันก็กลัวนะกลัวม๊าจะดุจะด่า ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วยังไงม๊าก็ต้องทราบเรื่องนี้อยู่ดี อย่างที่บอกม๊าฉันเป็นคนที่ค่อนข้างหัวโบราณ ฉันวิดีโอคอลหาและบอกเรื่องฉันจะคลอดเท่านั้นแหละ ม๊าฉันแทบจะช็อค แต่ยังดีหน่อยที่ฉันมีพี่น๊อตและพี่รินนาคอยพูดช่วยอีกแรง เรื่องป๊าม๊าของฉันนั้นตอนนี้ก็ตัดออกไปได้เลยส่วนแก๊งค์เพื่อนสนิทของฉันพอฉันบอกว่าจะกลับไปคลอดที่ไทย ยัยไรรา และยัยเชอรีน นิเตรียมต้อนรับฉันแล้วค่ะ ส่วนยัยมีนนา รายนั้นก็ไม่ยอมน้อยหน้า นางถึงขั้นจะจองร้านเหล้าตอนรับฉัน ฮ่าๆ ดูเอาเถอะสภาพท้องหลายเดือนจะไปร้านเหล้ายังไงให้ไหวก่อน ให้ฉันไปนั่งดมกลิ่นบุหรี่กระดกน้ำเปล่าหรือไงเถอะ พอยัยมีนนารู้ว่าฉันท้องตอนแรกนางก็ดีใจมากเลยนะ แต่อีกใจนางขาดคู่ขาไปเที่ยวผลับ ไม่รู้จะขำหรือสงสารเพื่อนดีใบหน้าหวานของนินิวที่นั่งอ่านไลน์กลุ่มเพื่อนๆ ของเธอถึงกับยิ้มไม่หุบและวัน
เช้าวันต่อมาร่างบางรู้สึกตัวขึ้นมาในช่วงสายของอีกวัน ฉันลืมตาขึ้นมาแต่กับไม่เจอคนที่นอนร่วมห้องมาด้วยตลอดทั้งคืนใบหน้าหวานที่งัวเงียอยู่นั้นถึงกับขมวดคิ้วมาด้วยความสงสัย นินิวกวาดสายตามองไปรอบๆ ห้องแต่กับไม่เจอเจ้าของห้อง ให้ตายเถอะ นี่เขาหายไปไหน ของเขากั" พี่หายไปไหนกันน๊าพี่ริก " เสียงหวานเอ่ยขึ้นมาขณะที่ยังนั่งอยู่บนเตียงนอนภายในห้องเพียงลำพัง หรือเขาจะพลานโกรธเรื่องเมื่อคืนที่ฉันไม่ยอมให้เขานอนร่วมเตียงด้วย"เรื่องเล็กๆ น้อยๆ แค่นี้พี่คงไม่ได้ถอดใจหนีฉันกลับไทยไปหรอกใช่ไหม" ฉันพยายามที่จะคิดในแง่ดี แค่คิดว่าเขากลับไทยโดยไม่มีฉันจู่ๆ อารมณ์ความน้อยอกน้อยใจมันก็วิ่งขึ้นมาจุกภายในอกฉัน"หึ...! ตื่นแล้วไม่คิดจะปลุกฉันเลยหรือไงคนบ้า แล้วยังหนีหายไปไม่บอกไม่กล่าวฉันอีก เมื่อคิดได้ดังนั้นมือเรียวบางหยิบกระเป๋าใบเล็กคว้าหาสมาร์ตโฟนขึ้นมาเพื่อจะโทรหาเขา แต่ใบหน้าหวานกับต้องชะงักอีกครั้ง เมื่อนึกขึ้นได้ว่าฉันไม่มีเบอร์พี่ริกเลย ความน้อยใจของอารมณ์คนท้องมันเริ่มมีมากขึ้น อารมณ์ที่มีคนคอยเอาอกเอาใจเราทุกอย่าง แต่จู่ๆ เช้ามากลับหายไปแบบนี้ ร่างบางแทบจะร้องไห้ออกมาอย่างไม่รู้ตัว ทั้งๆที่ ผ่
"ไม่เจอหน้านินิวสองวันพี่คิดถึงจะแย่" ร่างสูงเอ่ยมาเสียงนิ่ง นินิวรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆ ของคนตัวโต"คุณไม่ได้ป่วยอย่างที่ยัยเซบอกฉันนิ" นินิวถึงกับหันมองคนป่วย!! แค๊ก แค๊ก !! เมื่อเจอคำถามของคนตัวเล็กร่างสูงถึงกับไอ ขึ้นมาทันทีนินิวมองหน้าคนป่วยและไม่เหมือนเลยซักนิด อ่า...นี้ฉันโดนยัยเซ หลอกเข้าให้แล้วละสิ แต่นั้นริกกับเสยิ้มและมองหน้านินิวมา"เพี้ยะ" ฝ่ามือบางฟาดเข้าที่ลำแขนแกร่งของร่างสูงทันที" นิแน่..." คุณกับยัยเซรวมหัวกันแกล้งฉันใช่ไหม อ่า...ฉันไม่น่าหลงกลคนเจ้าเล่ห์อย่างยัยเซเลย คอยดูเถอะกลับไปฉันจะถลกหนังยัยนั้นออกเสียให้เข็ด"พี่เปล่านะครับ พี่ไม่ได้แกล้งป่วย พี่ไม่สบายจริง แต่ตอนนี้พอเห็นหน้าเมีย พี่ค่อยยังชั่วและดีขึ้นแล้วครับ" ริกเอ่ยมาพร้อมกับสบตาคนตัวเล็กพร้อมกับจับมือนินิวให้อังหน้าผากตัวเองที่ตัวยังลุ่มๆ เขาป่วยจริงแต่ตอนนี้ค่อยยังชั่วขึ้นแล้วจริง"ถ้าคุณไม่ได้เป็นอะไรแล้ว ฉันก็จะกลับ" นินิวไม่บอกเปล่าร่างบางลุกขึ้น แต่กับโดนคนตัวโตนั้นรั้งเอาไว้ เมียอุตส่าห์เป็นห่วงและมาเยี่ยมเขาทั้งที จะปล่อยกลับไปง่ายๆ นี้ก็ไม่ใช่เขาละสิ อยากง้อ อยากหอม อย่ากคืนดีกับเมียจะแย่ ร่าง
ร่างสูงจับแขนคนตัวเล็กให้ออกมาคุยกับเขาที่อีกมุมของภายในร้านอาหาร ซึ่งเวลานี้เหลือเพียงพนักงานในร้าน 2-3 และเซบาสเตียนเก็บร้านอยู่อีกมุม ร่างสูงเสมองใบหน้าเรียวเล็กของนินิว ที่ดวงตากลมเล็กกำลังมีน้ำใสๆ ไหลออกมา เขาไม่โกรธหรือโทษนินิวเลยซักนิดที่เธอปิดบังเขาสายตาคมจับจ้องไปยังหน้าท้องนูนของร่างบาง"ไม่เป็นไรใช่ไหม นินิวและตัวเล็กในท้องสบายดีใช่ไหมครับ" ริกเอ่ยถามนินิวมาเสียงเรียบ นินิวถึงกับรู้สึกจุกขึ้นมาในทรวงอก ใบหน้าที่เคยหล่อเหลากับซูบผอมลงจนดูผิดตา"ฉันไม่ได้เป็นอะไร ฉันสบายดี" นินิวเอ่ยตอบและพยายามจะไม่ให้เสียงสั่น แต่นั้นกับทำให้ริกนั้นเผยรอยยิ้มออกมาที่มุมปากหยักของตน"เจอหน้าพี่ถึงกับร้องไห้เลยเหรอครับ ไม่ร้องสิ เดี๋ยวตัวเล็กในท้องก็ร้องตามหรอก" ริกเอ่ยบอกพร้อมกับปลายนิ้วสัมผัสแก้มนวลใสของคนตัวเล็กริกเช็ดคราบน้ำตาออกให้กับนินิวมาอย่างเบามือ"พี่มาได้ยังไงกัน ไกลขนาดนี้พี่ยังตามฉันมา อีกเหรอ" นินิวเอ่ยถามร่างสูงมาด้วยเสียงเรียบ พร้อมกับสบตาเข้ากับใบหน้าคมสันของคนตรงหน้า"พี่มาตามเมียกับลูกกลับบ้านของเราครับ พี่ขอโทษ อย่าหนีพี่มาไกลขนาดนี้เลยนะครับ พี่ขอโทษที่ไม่เคยชัดเจนกับเร
"มึงหมายความว่าไง นินิวไม่ได้แท้งลูกอย่างที่บอกกับกูใช่ไหม..." ริกถามมาด้วยสีหน้ามีความหวัง"ก็คงงั้น""ไอ้ห่าน๊อตไอ้เพื่อนเวร มึง...""กูไม่ใช่เพื่อนมึงไอ้เวรริก กูพี่เมียมึงไอ้สัสริกให้เกียรติกูด้วยครับ" น๊อตเอ่ยมาพร้อมกับเสมองหน้าเพื่อน"มึงพูดจริงใช่ ไหม ไอ้น๊อต ลูกกูยังอยู่ใช่ไหม เขายังไม่ได้เป็นอะไรไปอย่างที่กูเข้าใจใช่ไหม" ริกได้แต่เขย่าตัวน๊อต พร้อมกับถามเพื่อนซ้ำๆ นินิวไม่ได้แท้งลูกอย่างที่บอกกับเขา ริกทั้งดีใจและเสียใจในเวลาเดียวกัน ความรู้สึกมันปะปนกันไปหมด น๊อตได้เผยรอยยิ้มและให้กำลังใจเพื่อนมา"อืม..." คำตอบของน๊อต ทำเอาริกถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว ปล่อยให้น้ำใสๆ ไหลออกมา อย่างไม่รู้สึกอายน๊อตเลยซักนิดเดียว เขารู้สึกทั้งดีใจและเสียใจ ดีใจที่นินิวไม่ได้แท้งลูกยังมีโอกาสได้เกิดมา แต่อีกใจก็เสียใจมาก ที่ไม่ได้มีส่วนดูแลนินิวเลยเนี้ยสิ ริกร้องไห้ออกมาต่อหน้าต่อตาน๊อต และกลับเป็นน๊อตเสียเองที่ต้องมานั่งปลอบใจเพื่อน เข้าใจแหละเมียท้องทั้งทีและน้องสาวนั้นก็ใจร้ายเกิน ทำกับไอ้ริกผู้บอบบางได้ลงคอ น๊อตได้แต่กลั้นขำเพราะไม่คิดว่าตนต้องมานั่งปลอบใจเพื่อนที่พวงตำแหน่งน้องเขย"น้องกูมั
วันต่อมา ด้านริกหลังจากที่รับรู้ว่าตนและนินิวนั้นสูญเสียลูกไป มันเป็นอะไรที่ทำให้เขารู้สึกทรมานใจที่สุด ไหนจะสภาพจิตใจของนินิวที่เธอเป็นคนอุ้มท้องลูกของตน แต่กับต้องมาเจอเรื่องเลวร้ายอะไรเช่นนี้ ใบหน้าคมสันของริกถึงกับคิดหนัก เขาไม่อยากจะทำอะไรเช่นนี้เลย แต่ก็ยอมให้คนที่ทำร้ายนินิวและลูกนั้นลอยนวลและผ่านไปง่ายๆ เขาเองก็ยอมมันไม่ได้เช่นกัน ร่างสูงไม่รอช้าต่อสายหาณัฐลูกน้องคนสนิทและให้ทำหน้าที่ตามคำสั่งของตนทันทีด้านนัตตี้หลังจากที่เรื่องในวันนั้นเกิดขึ้นกับยัยนินิว สายของฉันรายงานมาว่าลูกของนังนินิวมันตาย ดีซะอีก โดนฉันผลักแค่นั้นลูกของริกกับนังนินิวตายๆ ไปได้ยิ่งดี ริกจะได้รู้ซะบ้างว่าการสูญเสียมันเป็นยังไง เขาจะต้องไม่มีความสุข ริมฝีปากแดงของนัตตี้นั่งดื่มไวน์ของตนด้วยท่าทีที่มีความสุข และความสุขนั้นก็อยู่กับเธอได้ไม่นานRrrrrrr Momเมื่อกดรับสายจากมารดาที่อยู่อีกซีกโลก นัตตี้ถึงกับต้องตกใจอีกครั้ง"แกนังโง่ คิดแต่จะทำอะไรโง่ๆ เพราะแกคนเดียวที่ต้องให้แด๊ดแกโดนฝั่งคุณไพโรจน์ นั่นถอนหุ้นออกจากบริษัท ไหนจะสินสอดของหมั้นที่แกควรจะได้ ตาริกก็ยึดของแกไปหมด เพราะความโง่ของแกคนเดียวนังเด็