“งั้นเดี๋ยวผมโทรตามให้”“ไม่ต้อง”น้ำเสียงทุ้มแต่ทรงพลังของผู้เข้ามาใหม่ทำให้ทุกคนหันไปมอง แล้วก็ต้องตกอยู่ในความเงียบครู่หนึ่งเมื่อชายหนุ่มร่างสูงสวมเสื้อกาวน์ทับเชิ้ตข้างในคือคนที่ทุกคนรออยู่“นี่ไง ลูกชายเจ้าของโรง’ บาล” วิรดาหันมากระซิบกระซาบกับเธอ“คนนี้เหรอคะ” อัจจิมาทำตาโตเมื่อรู้ว่าคนที่สาวรุ่นพี่พูดถึงในห้องเสื้อผ้าคือพิธา ผู้ชายที่เธอมีสัมพันธ์ด้วยในฐานะคู่นอนนิพนธ์ วิวัฒเมธากุลพิธา วิวัฒเมธากุลให้ตายสิ ทำไมเธอถึงนึกไม่ได้นะว่าเขากับคุณนิพนธ์ใช้นามสกุลเดียวกันสาเหตุที่เธอไม่เคยสงสัยในความเป็นญาติเพราะทั้งสองคนใช้คนละนามสกุลกัน เหมือนนิรุทจะเคยบอกเธอว่าเขาใช้นามสกุลของมารดา“ผมต้องขอโทษทุกคนด้วยนะครับที่ทำให้ต้องเสียเวลา พอดีมีคนไข้ฉุกเฉินเข้ามาเลยต้องไปดูคนไข้ก่อน ผมรู้ว่าตัวเองทำไม่เหมาะสมที่ให้ทุกคนต้องมารอแบบนี้ แต่ด้วยความที่ผมเป็นหมอ ไม่ว่าจะมีอะไรรอผมอยู่ ผมก็ทิ้งคนเจ็บไม่ได้” ศัลยแพทย์หนุ่มเหลือบไปมองด้านหลังของเขาเล็กน้อยเพื่อส่งสัญญาณบอกให้พยาบาลที่ตามเข้ามาด้วย เอาหลักฐานให้ทุกคนดูว่าที่เขาพูดมาทั้งหมดเป็นความจริงและเมื่อทุกคนได้ดูวิดิโอที่กำลังฉายภาพพิธากำลัง
“ไม่ต้องห่วง ผมล็อกกลอนแล้ว”“ทำแบบนั้นได้ไงคะ”“ทำไมผมจะทำไม่ได้” เพียงแค่รับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่นชื้นที่เป่ารดลงมาที่ต้นคอตัวเอง ขนกายของอัจจิมาก็ลุกซู่ไปทั่วทั้งร่าง ความห่างเหินบนเตียงตลอดสองสัปดาห์ที่เขาไม่ได้ติดต่อมา กลับยิ่งทำให้เธอตื่นตัวได้โดยง่ายเวลาที่ถูกเขาสัมผัส“ไม่ใช่ทำไม่ได้ แต่ถ้ามีใครมาเห็นมันจะไม่ดีต่อคุณนะคะ” หยุดคำพูดของตัวเองเอาไว้แค่นั้น เธอไม่มีสิทธิ์เป็นห่วงเรื่องส่วนตัวของเขาสักหน่อย เธอมันก็แค่คู่นอน ท่องเอาไว้สิจี๊ด“ไม่ดียังไง” เขากดน้ำเสียงต่ำลงไปกับซอกคอขาว ไม่เชิงไม่พอใจ แต่เรื่องเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม เขาจะเป็นคนตัดสินใจเอง“ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น แต่คุณบอกเองไม่ใช่เหรอว่าเวลาเจอกันข้างนอกให้ทำเหมือนไม่รู้จักกัน” ใช่ว่าเธอจะละเลยหน้าที่ของตัวเอง เธอแค่อยากย้ำถึงข้อตกลงเหล่านั้นเจ้าของร่างสูงถอยห่างออกจากอัจจิมาในทันทีที่เขารู้ตัวว่าไม่ควรฝ่าฝืนกฎเหล็กของตัวเอง ร่างบางพ่นลมออกจากปาก หัวใจกลับมาเต้นเป็นจังหวะปกติอีกครั้งแกเป็นอะไรไปจี๊ด อยู่ใกล้ผู้ชายคนนี้ทีไร หัวใจเป็นต้องเต้นแรงทุกที“ผมจะเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่คุณต้องอยู่ในนี้ด้วย”“ค่ะ” ขานรับคำสั่งแล้
“ได้ยินที่ผมพูดไหม ห้ามเข้าใกล้หมอคนนั้น เด็ดขาด”เขาย้ำเอาคำตอบด้วยสายตาและน้ำเสียงออกคำสั่ง เธอพยักหน้าโดยไม่คิดจะถามถึงเหตุผล ยังไงซะเธอก็ไม่ได้อยากจะอยู่ใกล้หรือพูดคุยกับนิรุทอยู่แล้ว และมันคงจะเป็นการดีถ้าพิธาไม่รู้ว่าเธอกับนิรุทเคยคบหากันมาก่อนเมื่อเธอทำตัวว่าง่ายคนตัวสูงก็ถอยห่างออกจากหญิงสาวแล้วจัดการเปลี่ยนชุดใหม่ที่อัจจิมาเอาออกมาวางให้ก่อนหน้านี้ โดยไม่คิดจะบอกกล่าวล่วงหน้า หรือกลัวว่าเธอจะเป็นตากุ้งยิงที่เห็นร่างกายเปลือยเปล่าของตัวเอง แม้จะเป็นเพียงด้านหลังก็ตามเขาให้สิทธิพิเศษกับผู้หญิงทุกคนที่ซื้อบริการหรือเปล่านะ“จี๊ด เสร็จหรือยัง” เสียงวิรดาดังจากหน้าห้องคอสตูม อัจจิมารีบเดินไปประเปิดประตู โชคดีที่เขาใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว“เสร็จแล้วค่ะ” วิรดามองเข้าไปในห้องเห็นพรีเซนเตอร์หนุ่มหล่อก็ถึงกับลืมตัวเผลอจ้องอีกฝ่ายตั้งแต่ศีรษะลงไป ที่วิรดาเคยเห็นอีกฝ่ายจากทำเนียบบุคลาการของโรงพยาบาลเธอก็ว่าลูกชายผู้บริหารหน้าตาหล่อเหลามากแล้ว แต่พอมาเจอตัวจริง หล่อและดูดีกว่าในรูปตั้งเยอะ“พี่วุ้นคะ” อัจจิมาเรียกสาวรุ่นพี่ในบริษัทเมื่อเห็นวิรดาเอาแต่จ้องพรีเซ็นเตอร์“ห่ะ? อ่อ ได้แล้วๆ
ออกมาข้างนอก ผมให้เวลาคุณห้านาทีอัจจิมากำมือถือไว้ในมือแน่น พยายามคิดในแง่ดี เขาอาจจะแค่มีเรื่องอะไรจะคุยกับเธอตลอดห้าชั่วโมงในการถ่ายทำเขากับเธอแทบจะเป็นคนแปลกหน้ากัน แม้แต่ตอนเปลี่ยนชุดสำหรับถ่ายเซตต่อไปเขาคุยกับเธอแทบนับคำได้เพราะมีวิรดาอยู่ด้วยทุกครั้งเขามีธุระสำคัญอะไรถึงขั้นต้องส่งข้อความให้เธอออกไปพบเร่งด่วนแบบนี้“เสร็จรึยัง คนอื่นเขาไปกันหมดแล้วนะ เดี๋ยวก็อดกินของอร่อยๆ หรอก” เสียงเรียกของวิรดาทำให้อัจจิมาหลุดออกมาจากวังวนความคิดของตัวเอง“เสร็จแล้วค่ะ แต่จี๊ดขอตัวกลับเลยนะ พอดีว่าที่บ้านมีเรื่องนิดหน่อย”“อ้าวเหรอ แล้วมีใครเป็นอะไรรึเปล่า” วิรดาถามด้วยสีหน้าเป็นห่วง“ไม่มีใครเป็นอะไรหรอกค่ะ แค่เรื่องในบ้านนิดหน่อย ยังไงจี๊ดขอตัวกลับก่อนนะพี่ ฝากบอกคุณพลกับทุกคนด้วยนะ”“อะ อ้าววว” วิรดามองตามแผ่นหลังคนที่รีบร้อนออกไปอย่างนึกเสียดายแทน อุตส่าห์มีคนเลี้ยงอาหารดี ๆ แพง ๆ แต่อัจจิมาดันต้องกลับไปก่อนโธ๋จี๊ด…ทำงานเหนื่อยพอ ๆ กับคนอื่นแต่ไม่มีวาสนาปากกับเขาเอาซะเลยโชคดีที่ทีมงานส่วนใหญ่ไปรวมกันอีกห้องหนึ่งที่ทางโรงพยาบาลจัดเตรียมไว้ให้สำหรับมื้อใหญ่ อัจจิมาเลยเบาใจได้ว่าคงจะไม่
“เอาเป็นว่าผมจะเชื่อในสิ่งที่คุณพูดมา แต่ยังไงคุณก็ต้องจ่ายค่าปรับให้ผม โทษฐานที่คุณรับปากแล้วทำไม่ได้”เขาเดินเข้ามาใกล้เธอ โน้มศีรษะลงจ้องมองเข้าไปในดวงตาคู่สวย แววตาของเขาลุ่มลึกไม่บอกอารมณ์ใด ๆ แต่ก็ไม่ได้ดูใจดีเหมือนที่เขาสวมบทเป็นนายแบบกิตติมศักดิ์หลายชั่วโมงก่อนหน้านี้หัวใจของอัจจิมาเต้นระรัวเมื่อรู้ว่าเธอต้องจ่ายค่าปรับเป็นอะไรเธอนั่งลงบนเก้าอี้นวม ปลายนิ้วนุ่มตามแบบฉบับของคนเป็นหมอลากจากหัวไหล่เรื่อยลงไปถึงปลายศอก ขนอ่อนบนหลังคออัจจิมาลุกเกรียวพิธาวางแขนข้างหนึ่งลงกับพนักโซฟา เชยคางเรียวเล็กขึ้นก่อนจะออกคำสั่งที่ข้างหูของเธอ“ถอดเสื้อผ้าออก” ดวงตาคมกริบทอประกายวาววับเหมือนดวงตาของเสือร้ายที่หมายกินเหยื่ออัจจิมาแตะลิ้นเลียริมฝีปากแห้งผากของตัวเอง กลิ่นโคโลญจน์หอมละมุนผสมกับกลิ่นกายแบบคนเป็นหมอแทรกแซงเข้ามาในประสาทสัมผัสขณะเดียวกันสายตาของเขาก็เลื่อนลงมองกลีบปากหญิงสาวตรงหน้า นัยน์ตาลุ่มลึกดำมืดลงในตอนที่อัจจิมาเลื่อนมือลงไปยังชายเสื้อของตัวเอง แล้วจัดการถอดออกไปทีละชิ้นจนเหลือแค่ปราการสองชิ้นสุดท้ายทันใดนั้นพิธาก็จับเธอขึ้นไปนั่งบนโซฟาราคาแพง มือเรียวยาวไร้ซึ่งความหยาบกร
“ไปตรงนั้นดีกว่า”พิธาพาเธอลุกออกจากโซฟาไปยังผนังห้องด้านหนึ่งเจ้าของร่างเพรียวบางยืนอยู่เบื้องหน้าของชายหนุ่ม เนื้อตัวเปลือยเปล่าหมดจดมีเพียงรองเท้าส้นสูงที่ยังสวมอยู่ ในขณะที่อีกฝ่ายยังสวมใส่เสื้อผ้าครบทุกชิ้นคนตัวสูงเบียดชิดเข้าหาบั้นท้าย แผ่นหลังบางสัมผัสกับเนื้อผ้านุ่มเย็นบนตัวเขาแต่แล้วสัมผัสเหล่านี้ก็ถูกทำลายลงในตอนที่พิธาสอดผ่านสองมือเข้าข้างลำตัว กอบกุมทรวงอกขาวนุ่มคู่โต เคล้นคลึง ปลุกปั่นความเร่าร้อนในกายเธอให้ตื่นขึ้นมาอุ้งมือที่บีบขยำเต้าทรวงทำให้อัจจิมารู้สึกเจ็บ แต่ขณะเดียวกันความซ่านสยิวก็พุ่งปราดลงไปยังกึ่งกลางกาย ท้องน้อยหดเกร็งอัตโนมัติฝ่ามือหนานุ่มของคุณหมอทาบลงบนแผ่นท้องขาวเนียน แล้วกดร่างบางให้เบียดแนบเข้าหาตัวเองที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลัง ปลายนิ้วร้อนคืบคลานต่ำเรื่อยลงไปแล้วแทรกเข้าหากลีบอ่อนนุ่ม ใบหน้าหล่อเหลาซุกไซ้ซอกคออัจจิมาส่งเสียงครางกระเส่า ร่องก้นเสียดสีกับท่อนลำร้อนระอุที่กำลังดุนดันเป้ากางเกงออกมา มันเหมือนแท่งถ่านร้อนที่จี้ลงบนผิวเธอในขณะที่ขยับสะโพกเสียดสีความแข็งขืนเข้ากับเนื้อตัวเธอไม่หยุดก่อนจะดึงเธอให้หันไปประจันหน้า“คุณยังทำหน้าที่ในห้องแต่งตั
พิธาลุกออกไปเข้าห้องน้ำหลังจากได้ปลดปล่อยความต้องการจนพอใจ อัจจิมายังนอนหมดเรี่ยวแรงอยู่ที่โซฟาตัวนุ่ม กึ่งกลางลำตัวระบม เพียงขยับกายเธอก็รู้สึกแสบหว่างขา มองเห็นตัวเองจากเงาสะท้อนในกระจกบานใหญ่ตรงระเบียงห้อง ผมเผ้ากระเซอะกระเซิงยุ่งเหยิง ลิปสติกที่ทามาแต่เช้าซีดจางจากการจูบของเขาแทบจะคลานลงจากโซฟา แข้งขาปวดเมื่อย บั้นเอวปวดร้าว สองแก้มร้อนซู่เมื่อคิดถึงยามที่ตัวเองนอนครวญครางอยู่ใต้อาณัติของแพทย์หนุ่มบ้าไปแล้วเหรอจี๊ด แกจะไปติดรสสวาทกับคนที่เขาเห็นแกเป็นแค่คู่นอนไปทำไม หน้าที่ของแกหมดลงแล้วก็ควรจะรีบออกไปจากห้องนี้สักทีระหว่างพิธากำลังอาบน้ำอัจจิมาก็ควานหาเสื้อผ้าที่กองระเกะระกะรวมกับพื้น สองแก้มร้อน ร้อนขึ้นไปอีกเมื่อรำลึกได้ว่าเขาไม่ได้สวมเกราะป้องกันเหมือนทุกครั้งแต่ใช้วิธี ‘หลั่งนอก’ แทน ซึ่งมันไม่ได้ปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ โอกาสในการตั้งครรภ์ถือว่ายังสุ่มเสี่ยง ดังนั้นเธอคงต้องกินยา ‘คุมกำเนิดฉุกเฉิน’ ป้องกันไว้เพราะถ้าหากเธอพลาดท้องขึ้นมา เขาก็คงจะไม่ยินดีรับเด็กในท้องเป็นลูกหยิบชั้นในและชุดทำงานขึ้นมาใส่ด้วยความรวดเร็วตั้งใจจะออกไปก่อนที่อีกฝ่ายจะอาบน้ำเสร็จทว่า…เธอก็ต้อง
เพียงแค่คิดว่าอัจจิมาจะขึ้นรถไปกับนิรุท นัยน์ตาคมกริบก็เข้มขึ้น ก่อนจะยกมือถือขึ้นมาต่อสายหาคนที่ไว้ใจได้เมื่อมองเห็นเป้าหมายอยู่ตรงหน้า พิธาก็ตรงเข้าไปหาทั้งคู่ ในใจรุ่มร้อน ทว่าใบหน้าก็ยังเรียบเฉยอยู่“ฉันนึกว่าแกกลับไปแล้วซะอีก” นิรุทกับอัจจิมาต่างหันไปมองต้นเสียง อัจจิมาตกใจตอนที่รู้ว่าเจ้าของเสียงทุ้มเป็นใคร ในขณะที่นิรุทกำลังแปลกใจร้อยวันพันปี พิธาไม่เคยเห็นเขาอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ อย่าว่าแต่เดินมาเข้ามาทักทาย ต่อให้เดินเฉียดไหล่กัน ก็ไม่มาเสียเวลาพูดกับเขาหรอกเหมือนกับเขา ที่ก็ไม่อยากเสียเวลาคุยด้วยนิรุทเดินออกมาจากรถของตัวเอง เหลือบสายตามองไปที่ผู้หญิงเพียงหนึ่งเดียวก่อนจะพูดขึ้น “แล้วแกล่ะ มาทำอะไรอยู่ตรงนี้”แม้ว่านิรุทจะอยู่แผนกสูตินรีแพทย์ซึ่งเป็นคนละแผนกกันกับพิธาแต่เขาก็พอรู้ตารางการผ่าตัดของหมอแต่ละคนอัจจิมาสัมผัสได้ถึงความไม่ลงรอยกันบางอย่างจากการสนทนาของแพทย์หนุ่มทั้งสองหรือความบาดหมางระหว่างสองคนนี้จะจริงอย่างที่วิรดาว่าคนหนึ่งหมายมั่นเก้าอี้ผู้บริหารโรงพยาบาลคนต่อไป ส่วนอีกคนก็ต้องรักษาสิ่งที่เป็นของตัวเอง แต่จะมีอะไรมากกว่านี้หรือไม่ มีเพียงนิรุทกับพิธาเท่านั้น
“ถ้าฉันท้องล่ะคะจะเกิดอะไรขึ้น” ก่อนหน้านี้เขาเคยขอเธอเรื่องที่จะไม่ใช้ถุงยางอนามัยเวลาที่มีอะไรกัน แถมยังสั่งไม่ให้เธอกินยาคุมกำเนิด แต่ที่เธอถามออกไปแบบนี้ เพราะเธอยังไม่ได้รับการยอมรับจากคุณนิพนธ์ จึงกลัวว่าถ้าเกิดตั้งท้องขึ้นมาอาจจะเพิ่มปัญหาให้เขา“ผมก็พาคุณไปฝากครรภ์ไง”“ไม่ใช่เรื่องนั้นสักหน่อย” เธอมองค้อนที่เหมือนเขาเห็นเรื่องตั้งครรภ์เป็นเรื่องเล็ก ทั้งที่มันเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับลูกผู้หญิง“คุณกลัวผมจะไม่รับผิดชอบเหรอ” สายตาคมเข้มจริงจังขึ้นมาทันทีเธอหลุบสายตามองต่ำ ถ้าบอกว่าเธอไม่ได้เป็นกังวลเรื่องนี้ก็ดูจะเป็นการโกหก ถ้าเธอต้องปล่อยให้ตัวเองท้องเธอก็ต้องแน่ใจในอะไรหลายๆ อย่าง หนึ่งในนั้นก็คือเขาเธออยากรู้ว่าเขาพร้อมจะเป็นหัวหน้าครอบครัวแล้วเหรอ เพราะการจะเป็นพ่อคน ไม่ใช่ต้องการแค่เงินทอง แต่ยังต้องมีความรับผิดชอบสูง พร้อมเสียสละเวลาส่วนตัว และพร้อมที่จะดูแลอีกหนึ่งชีวิตด้วยหัวใจ“คุณฟังผมนะ ผมไม่ใช่เด็กแล้ว แล้วผมก็ไม่ใช่คนไม่มีความรับผิดชอบ ที่ผมบอกว่าอยากมีลูกก็แปลว่าผมพร้อม แน่นอนว่าไม่ใช่แค่เรื่องเงินทอง แต่ผมพร้อมจะเป็นพ่อคนแล้วจริงๆ ผมอยากมีเด็กวิ่งเล่นอยู่ในบ้าน อ
“ผมชอบที่คุณพูดแบบนี้ ฟังแล้วมันได้อารมณ์” เสียงของชายหนุ่มต่ำพร่าลง นัยน์ตาวาววับแต่ไม่ได้เยือกเย็นเหมือนเมื่อก่อนก้มลงลิ้มเลียยอดถันข้างที่เหลือ บีบคลำเต้าทรวงผ่องในอุ้งมืออย่างคนตะกละตะกลามอัจจิมาครางไม่เป็นภาษาอยู่บนโต๊ะทานข้าวตัวหรู ท่อนขาเรียวงามโอบรัดสะโพกอีกฝ่าย ก่อนจะแอ่นเอวเข้าหาร่างสูงใหญ่ที่ยืนอยู่เบื้องหน้า เสียดสีกึ่งกลางลำตัวกับหน้าขากำยำท่อนเนื้อที่บดเบียดกับเนินนุ่มของหญิงสาวผ่านกางเกงเนื้อดีเริ่มแข็งขึงขึ้นมา ไม่รู้เป็นเพราะท่าทางยั่วยวนของเธอหรือเป็นเพราะอารมณ์ดิบในตัวของเขาเอง ที่ทำให้อารมณ์ใคร่ปรารถนาของเขาพลุ่งพล่านอย่างรวดเร็วเมื่อก่อนในโลกนี้สำหรับเขาสำคัญอยู่แค่สองเรื่อง นั่นคือเซ็กซ์กับมีดผ่าตัดแต่ตอนนี้ไม่ใช่อีกต่อไป แม้ว่าการมีเซ็กซ์จะยังจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของเขา แต่หากเขาไม่มีเธออยู่ข้างกาย ชีวิตต่อจากนี้ของเขาก็ไม่ต่างจากสิ่งของไร้ค่าชายหนุ่มขยับออกมายืนข้างโต๊ะทานข้าวเรียบหรู ปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกอย่างใจเย็นแล้วรวบเอวดึงร่างขาวผ่องของหญิงสาวคนรักให้ขยับมาที่ขอบโต๊ะ เลื่อนมือไปลูบไล้กลีบอิ่มนูน หยาดน้ำที่เอ่อล้นออกมาฉ่ำเยิ้มจนมองเห็นความเปียกชุ่ม
อัจจิมารู้สึกตัวเพราะแสงแดดที่สาดส่องเข้ามากระทบเปลือกตาในช่วงสาย ศีรษะและร่างกายของเธอหนักอึ้งเหมือนถูกถ่วงทับด้วยภูเขาหิน ลำคอแห้งผาก กว่าจะขยับตัวได้ก็ใช้เวลาอยู่ครู่หนึ่งพอลืมตาสิ่งแรกที่เห็นคือปลายคางแข็งแรงมองเห็นเป็นปื้นสีเขียวจางของศัลยแพทย์หนุ่ม ซึ่งเธอกำลังนอนแนบชิดซบอยู่ที่อกอุ่น ท่อนแขนข้างหนึ่งของเขาโอบเอวเธอไว้หลวม ๆ มือใหญ่วางอยู่บนบั้นท้ายเปลือยเปล่าจากการร่วมรักกันเมื่อคืนนี้ทุกคนที่บริษัทเข้าใจว่าเมื่อวานนี้เธอได้หยุดพักผ่อนหนึ่งวันเต็ม ๆ แต่หารู้ไม่ว่าเป็นวันลาพักผ่อนที่สูบเอาเรี่ยวแรงของเธอไปจนแทบจะไม่หลงเหลือถ้าเธอรู้ว่าเขาจะเป็นคนกระหายในรักได้ทั้งวันทั้งคืนแบบนี้ เธอคงจะไม่หลวมตัวคบคุณหมอ ‘เซ็กซ์จัด’ เป็นแฟนอย่างแน่นอนคิดมาถึงตรงนี้ริมฝีปากได้รูปก็ปรากฏรอยยิ้มน้อย ๆ เป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุข เมื่อย้อนนึกถึงเรื่องราวที่รุ้งรวีเล่าให้ฟังไม่กี่วันมานี้‘พิธาพึงพอใจในตัวเธอมานานแล้ว’ นี่คือประโยคแรกที่รุ้งรวีบอกเล่า สิ่งที่เขาทำให้เธอก็คงเป็นอย่างที่ใครหลายคนอาจเรียกว่า ‘ปิดทองหลังพระ’ เป็นเครื่องพิสูจน์ได้ว่า ครั้งนี้หัวใจเธอเลือกรักคนไม่ผิดอัจจิมาไม่ได้
“ออกไประเบียงดีกว่า ตรงนี้ผมจับคุณฉีดยาไม่ถนัด” เหมือนเธอจะฟังไม่ชัดเจนระเบียงเนี่ยนะไม่ทันที่เธอจะทำความเข้าใจกับคำพูดนั้น พิธาก็ถอนแก่นกายออกมาด้วยความรวดเร็ว ช้อนเธอให้อยู่ในอ้อมอก ก้าวเท้ายาว ๆ ออกไปข้างนอก ถึงแม้ว่าจะอยู่ในสภาพล่อแหลมแต่ร่างกายของเธอก็ยังมีชุดนอนตัวบางปกปิด ส่วนเขาก็ยังสวมใส่เสื้อผ้าครบทุกชิ้น“ดะ เดี๋ยวก่อนค่ะ เราจะทำกันตรงนั้นจริงๆ เหรอ” เขาเคยบอกว่าความพิเศษของระเบียงที่เหมือนยกห้องนั่งเล่นกลางแจ้งขึ้นมาไว้บนชั้นสูงเฉียดฟ้าสร้างความตื่นเต้นให้เธอกับเขาได้ในยามที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศ แต่ตอนนั้นเธอไม่คิดว่าเขาจะเอาจริงถึงมันจะมีความเป็นส่วนตัวด้วยมีกระจกที่สั่งทำขึ้นพิเศษเป็นกำแพงรอบด้าน แต่เธอก็อดรู้สึกแปลก ๆ ไม่ได้อยู่ดี ต่อให้ไม่มีคนมองมาเห็น ก็อาจมีมดมีแมลงสักตัวเห็นก็ได้“วันนี้ผมอยากเอาคุณที่ระเบียง” ใบหน้าของอัจจิมาร้อนผะผ่าว เขาก้าวขายาวๆ ออกไปยังพื้นที่ด้านนอกของเพนท์เฮาส์ในทันทีตอนนี้พายุหน้าฝนสงบลงแล้วแต่พื้นส่วนหนึ่งที่ไม่มีหลังคาปกคลุมยังชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำฝนเขาค่อยๆ วางเธอลงบนพื้น ใกล้กับกระจกสูงเท่าสองตัวคนยืนต่อกันเห็นจะได้“กระจกนี้ผมสั่งทำพิเศ
“คุณหมายถึงเรื่องอะไร” เสียงทุ้มดังขึ้นทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ก่อนที่ลิ้นสากจะกวัดรัดรึงยอดทรวงชูชันของเธออีกครั้ง“อ๊ะ! กะ…ก็ที่คุณไม่ระ…รับข้อเสนอของพ่อคุณงะ…งายคะ ซี้ดด” ลิ้นที่ตวัดยอดปทุมถันของเธอไม่หยุดสร้างความซ่านเสียวจนอัจจิมาแทบจะพูดออกมาไม่เป็นคำเรื่องที่พิธาปฏิเสธการแต่งงานกับลูกสาวรัฐมนตรีเกรียงไกรต่อหน้าแขกเหรื่อมากมายกลายเป็นประเด็นใหญ่ในวงการแพทย์ตลอดหลายวันมานี้ทั้งสองตระกูลหมายมั่นจะเป็นทองแผ่นเดียวกันเพราะเหตุผลทางธุรกิจ แต่ทุกอย่างก็ต้องถูกยกเลิกเพราะการกระทำของพิธาบนเวทีในวันนั้น ผู้ใหญ่ทั้งสองครอบครัวหมางใจกันจนเป็นเหตุให้คุณนิพนธ์เรียกให้พิธาไปพบในวันต่อมาวันนั้นเขาพาเธอไปด้วย เพราะอยากแนะนำเธอให้คุณนิพนธ์รู้จักอย่างเป็นทางการ เธอยังจดจำสายตาที่คุณนิพนธ์มองเธอได้ดีท่านมองเธอตั้งแต่ศีรษะลงไป แม้จะไม่ใช่สายตารังเกียจเดียดฉันท์แต่เธอก็แน่ใจว่าอีกฝ่ายไม่ได้มองมาด้วยความเอ็นดูบรรยากาศภายในห้องทำงานของผู้อำนวยการโรงพยาบาลขณะนั้นเต็มไปด้วยมวลอากาศแห่งความอึดอัดกระจายอยู่เต็มห้อง ตึงเครียดตั้งแต่บทสนทนาแรกเริ่มขึ้น“ฉันจำได้ว่าไม่ได้บอกให้แกพาคนอื่นมาด้วย” คุณนิพนธ์ปรายต
อัจจิมาลืมตาขึ้นมาในเพนท์เฮาส์หรูในวันที่ฝนโปรยปรายลงมาแต่เช้ามืด เมื่อคืนนี้เธอตั้งใจว่าจะกลับไปนอนที่บ้านแต่เป็นพิธาที่ไม่ยอมปล่อยให้เธอกลับ ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะไม่ได้ออกคำสั่งกับเธอแล้วแต่ความเอาแต่ใจของเขาก็ไม่ได้ลดน้อยถอยลง แต่กลับเพิ่มขึ้นทุกวัน“คุณภิม อยู่ไหนคะ” อัจจิมาไม่เห็นชายหนุ่มนอนอยู่บนเตียงจึงเดินออกมาดูข้างนอก ไม่รู้ว่าคนเป็นหมอเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนถึงนอนตื่นแต่เช้าได้ ทั้งที่เมื่อคืนนี้กว่าจะกลับมาจากโรงพยาบาลก็ดึกดื่น แถมกลับมาถึงเขายังแสดงความรักต่อเธอจนทั้งเธอและเขาต่างก็เสียน้ำกันหลายรอบเห็นพิธานั่งอยู่บนโต๊ะทำงานตัวใหญ่ เบื้องหน้ามีเอกสารวางอยู่ แต่สีหน้าดูไม่ค่อยดีนัก“ทำไมรีบตื่นจังเลยล่ะคะ น่าจะนอนต่ออีกหน่อย”“ผมนอนพอแล้ว คุณเถอะ ทำไมรีบตื่นน่าจะนอนต่ออีกหน่อย”“ฉันถามคุณนะคะไม่ใช่ให้คุณมาย้อนถาม” อัจจิมาแกล้งทำหน้างอน เห็นเธอเป็นแบบนี้เขาจึงดึงคนตัวเล็กลงมานั่งที่ตักก่อนจะหาเรื่องรังแกเธอแต่เช้า“โทษฐานที่ผมทำให้คุณโกรธแต่เช้า งั้นวันนี้ผมจะอยู่กับคุณทั้งวันเลยดีไหม”“วันนี้ฉันต้องไปทำงาน”“ไม่ต้องไป ผมลางานให้คุณเรียบร้อยแล้ว” ยิ้มกรุ้มกริ่ม“ลางาน ลาทำไมค
หรือว่าลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลที่ทุกคนพูดถึง ก็คือพิธา“ผมมีความยินดีที่จะแจ้งให้ทุกท่านทราบโดยพร้อมเพรียงกันว่า ลูกชายของผมกับหนูอรจีราลูกสาวของคุณเกรียงไกรกำลังจะเข้าพิธีวิวาห์ในอีกสองเดือนข้างหน้านี้ครับ” ทุกคนต่างปรบมมือร่วมแสดงความยินดีกับทั้งสองครอบครัวที่กำลังจะเป็นทองแผ่นเดียวกัน คงมีเพียงแค่อัจจิมาที่ต่างไปจากทุกคนเรื่องที่เพิ่งได้ยินส่งผลให้สมองของอัจจิมาหยุดการทำงานชั่วขณะ เขากำลังจะแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น!ตอนตกลงรับงานนี้เธอรู้เพียงว่าตัวเองต้องมาเป็นพิธีกรในงานประชุมสัมมนาที่จัดขึ้นโดยรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข รายละเอียดปลีกย่อยนอกเหนือจากนี้แอมมี่เพิ่งจะแจ้งเธอตอนที่มาถึงหน้างานแต่ข้อมูลที่แอมมี่บอกให้เธอรู้ตอนบรีพงานก็ไม่ได้ลงลึกว่าในงานมีใครมาบ้าง เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเจ้าของโรงพยาบาลที่ทุกคนพูดถึงคือคุณนิพนธ์แม้แต่ตอนที่เธอได้ยินว่าจะมีงานวิวาห์ ระหว่างบุตรสาวของรัฐมนตรีกับลูกชายเจ้าของโรงพยาบาล เธอก็ไม่ได้เอะใจสักนิดว่าทายาทคนนั้นจะเป็นพิธา เพราะตอนที่เธอบอกเขาว่ารับเป็นพิธีกรในงาน ชายหนุ่มก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา และยังบอกอีกว่าเขาไม่ได้ถูกเชิญให้มางานนี้แปลว่าเขาจงใจป
ภายในห้องรับรองโรงแรมแห่งหนึ่ง อดีตนายแพทย์นิพนธ์ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาล ‘วิวัฒเวช’ นั่งจิบกาแฟก่อนจะรับฟังรายงานจากเลขาคนสนิท"จากที่ท่านให้ผมไปสืบ ตอนนี้คุณพิธากำลังคบหาอยู่กับผู้หญิงคนนึงครับ ชื่อจี๊ด อายุยี่สิบเจ็ดปี เรียนจบคณะบัญชีมหาฯลัยXX เคยเป็นพนักงานในบริษัทของคุณปกรณ์แต่ถูกไล่ออกเมื่อสองเดือนที่แล้วเพราะคุณปานวาดเข้าใจว่าเธอเป็นเมียน้อยคุณปกรณ์ แต่ความจริงเมียน้อยคุณปกรณ์คือน้องสาวต่างแม่ ตอนนี้เธอทำงานอยู่ที่บริษัทโฆษณาของเพื่อนคุณพิธาครับ กลางคืนเธอทำงานที่ฟลาวเวอร์ไนต์คลับในตำแหน่งรับแขกวีไอพีครับ”“มีอะไรอีกก็ว่ามา” คุณนิพนธ์สังเกตเห็นว่าเลขาคนสนิทยังรายงานเรื่องที่รู้มาไม่หมด“ผู้หญิงคนนี้เป็นลูกสาวของคนไข้โรคหัวใจที่รักษาอยู่ที่โรงพยาบาลของเราครับ ชื่อประสิทธิ์ยุห้าสิบหกปี คนไข้รายนี้คุณพิธาออกค่าใช้จ่ายให้ห้าสิบเปอร์เซนต์ของค่ารักษาในแต่ละครั้ง แต่คุณพิธาปกปิดเรื่องนี้กับผู้หญิงและครอบครัวของผู้หญิงครับ ส่วนนี่เป็นข้อมูลของคนไข้รายนั้นครับ” คุณนิพนธ์เปิดดูข้อมูลส่วนตัวของอัจจิมารวมทั้งรูปถ่ายประกอบการรายงานจากเลขาไปด้วย ก่อนจะหยิบประวัติการรักษาของ
“ผมไม่ได้ยุ่งเรื่องของสองคนนั้น คนที่ผมยุ่งด้วยคือคุณต่างหาก”สายตาของชายหนุ่มจริงจังขึ้นมาก่อนจะพูดต่ออีกว่า “ผมจะยอมให้คุณถูกคนอื่นรังแกได้ยังไง” จ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวยหวังให้เธอมองเห็นความจริงใจที่เขามีให้“คุณชอบฉันอะไรในตัวฉันเหรอคะ” คราวนี้เป็นอัจจิมาที่จ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่คมบ้าง สายตาของเธอจริงจังไม่ต่างกัน“การที่เราจะรักใครสักคนมันต้องมีเหตุผลด้วยเหรอ” เขาถามในสิ่งที่เฝ้าถามตัวเองมาตลอด แต่ก็ไม่เคยได้รับคำตอบ“ก็ต้องมีสิคะ”“เหรอ งั้นคุณล่ะ ชอบอะไรในตัวผม” อัจจิมาอึ้งไปอีกครั้งเพราะไม่คิดว่าจะถูกเขาย้อนถามเธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าชอบอะไรในตัวเขา เขาเข้ามาอยู่ในหัวใจของเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาชัดเจนกับสถานะคู่นอนระหว่างเธอกับเขามาโดยตลอด แต่หัวใจเธอก็เต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกครั้งที่ได้ใกล้ชิด“ว่าไง” เขาจ้องเธอก่อนจะไล่ต้อนให้จนมุมว่า “คุณตอบไม่ได้ใช่ไหม”“ตอบได้สิ ข้อแรกเลย ฉันชอบที่คุณรวยมาก ชอบที่คุณเป็นหมอ แล้วก็ชอบหน้าหล่อๆ ของคุณ ชอบร่างกายแน่นๆ ของคุณด้วย” อัจจิมาแค่อยากเอาชนะ ไม่คิดว่าพิธาจะตอบกลับมาอย่างหน้าตาเฉยว่า“งั้นผมคงต้องภูมิใจสินะ เพรา