ตอนที่เขาเห็นว่าทั้งสองกำลังจ้องตากันในขณะที่เขายืนอยู่ที่ทางเข้าร้านอาหาร เขารู้สึกเหมือนกับว่าโลกของเขากำลังพังทลายราวกับว่าพวกเขากำลังอยู่ในโลกของพวกเขาสองคน โลกที่เธอมองเห็นเพียงกู้ ลี่เฉินเท่านั้น! เขาไม่สามารถเข้าไปในโลกของเธอได้และจะถูกเธอเตะออกมา!อี้ จิ่นหลีจ้องมองกู้ ลี่เฉินด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะพูดว่า “น่าเสียดาย แต่เธอจะไม่รักนายกลับหรอก”กู้ ลี่เฉินยกยิ้มและพูดว่า “ตอนนี้เธออาจจะยังไม่รักฉัน แต่ในอนาคตก็ไม่แน่ใช่ไหมล่ะ? นายแน่ใจได้ยังไงว่าเธอจะไม่ตกหลุมรักฉัน จิ่นหลี นายเป็นใครถึงกล้าบอกฉันแบบนี้ นายกับอี้หรานเลิกกันแล้วไม่ใช่เหรอ?”อี้ จิ่นหลีจ้องมองคนตรงหน้าด้วยสายตาเขม็ง“จิ้นหลี ฉันให้โอกาสนายแล้ว ฉันหลีกทางให้นายมามากกว่าหนึ่งครั้ง และนายก็เป็นคนที่บอกเลิกอี้หรานเอง ครั้งนี้ฉันจะไม่หลีกทางให้นายอีก” กู้ ลี่เฉินพูดอี้ จิ่นหลีหัวเราะออกมาด้วยความโกรธจัด “นายจะไม่ยอมหลีกทางงั้นเหรอ? ฮ่าฮ่า... นายจะเอาตระกูลกู้มาเสี่ยงด้วยหรือไง?”กู้ ลี่เฉินเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “แล้วนายจะเอาตระกูลอี้มาเสี่ยงหรือ?”ชายสองคนจ้องตากัน บรรยากาศภายในร้านก็ตึงเครียดอีกครั้งเจ้าของร
‘ฉันสงสัยว่าคนอื่น ๆ จะคิดยังไงถ้าพวกเขารู้ว่าฉันปฏิบัติต่อผู้ชายที่มีอำนาจมากที่สุดสองคนในเมืองเฉินด้วยเงินเพียง 378 ดอลลาร์’แม้แต่หลิง อี้หรานก็ยังรู้สึกตลกเมื่อนึกถึงเรื่องนี้!หลิง อี้หรานรู้สึกเหนื่อยทันทีที่กลับมาถึงบ้านเช่าเธออาบน้ำและเอนตัวนอนลงบนเตียง‘ฉันเหนื่อยมาก ไม่ใช่ร่างกายที่เหนื่อย แต่เป็นใจของฉันต่างหาก’การที่กู้ ลี่เฉินบอกกับเธอว่าเขาตกหลุมรักเธอมันเป็นสิ่งที่เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อน แต่เธอก็ไม่สามารถให้คำตอบเขาได้‘ถึงแม้กู้ ลี่เฉินจะตกหลุมรักฉัน แล้วในอนาคตล่ะ? บางทีความรักที่เขามีต่อฉันอาจจะคงอยู่เพียงไม่กี่เดือน? หรืออาจจะนานกว่านั้น เป็นปี? หรือสองปี?’‘แต่ฉันไม่อยากตกหลุมรักใครอีกต่อไปแล้ว ความรู้สึกตกหลุมรักและการถูกทิ้งหลังจากนั้น... มันช่างเจ็บปวดเหลือเกิน!’เธอสามารถเอาชนะความกลัวได้ในครั้งแรกและครั้งที่สอง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอจะยังเอาชนะมันได้ในครั้งที่สามหลิง อี้หรานหลับตาลงและพยายามไม่คิดอะไร เธอผล็อยหลับไปได้ชั่วครู่หนึ่งก่อนที่ใครบางคนจะปลุกเธอขึ้นมาโดยการเคาะประตูราวกับเป็นเรื่องเร่งด่วน หลิง อี้หรานลืมตาขึ้นมาอย่างงัวเงีย เดินไปที่
หลิง อี้หราจ้องมองเกา ฉงหมิง โดยคาดหวังว่าเขาจะพาอี้ จิ่นหลีกลับไปทว่า เกา ฉงหมิงกลับหันมามองหลิง อี้หรานด้วยรอยยิ้มเหยเก “เอ่อ… คืนนี้ผมรบกวนคุณหลิงดูแลนายน้อยอี้ด้วยนะครับ ผมจะมารับเขาในวันพรุ่งนี้ คืนนี้ถ้าคุณต้องการอะไร คุณสามารถโทรหาผมได้ตลอดเวลาเลยนะครับ”จากนั้น เกา ฉงหมิงจึงหยิบนามบัตรของเขาขึ้นมาและวางไว้บนตู้เล็ก ๆ ข้างประตูบ้านเช่า เขาช่วยหลิง อี้หรานปิดประตูก่อนจะเดินจากไปหลิง อี้หรานถึงกับพูดไม่ออก ดูเหมือนว่าเกา ฉงหมิงจะตั้งใจทิ้งอี้ จิ่นหลีไว้ที่นี่ในวันนี้‘ฉันต้องอยู่กับเขาทั้งคืนใช่ไหม?’ เธอกัดฟันและพาเขาเดินไปที่เตียง...เกา ฉงหมิงกลับมาที่รถยนต์ มองดูทางเข้าบ้านอีกครั้งก่อนจะถอนหายใจจะว่าไปเขาก็ไม่ได้เห็นนายน้อยอี้เมาขนาดนี้มาหลายปีแล้ว นายน้อยอี้เป็นคนที่สงบนิ่งและรู้จักยับยั้งชั่งใจมาโดยตลอด เขาเป็นคนมีเหตุผลเสมอนั่นเป็นวิธีที่เขาสามารถอดทนต่อการฝึกฝนที่เข้มงวดของนายท่านอี้ได้ และในที่สุดเขาก็สามารถเข้ายึดครองตระกูลอี้ได้สำเร็จทว่า วันนี้นายน้อยอี้กับนายน้อยกู้ต่างดื่มจนมันเมากันไปข้าง ชายหนุ่มรูปงามทั้งสองดื่มเหล้าอย่างเอาเป็นเอาตายนักข่าวอาจจะอ้าป
แม้ว่าเธอจะรู้ว่าเขามีอิทธิพลและมีความสามารถมากกว่าเธอแค่ไหน แต่เธอก็ยังอยากจะปกป้องเขาอย่างสุดความสามารถถ้าเขารู้สึกไม่ปลอดภัย เธอจะยอมทำทุกอย่างเพื่อทำให้เขารู้สึกปลอดภัย เธอจะรักเขา และให้เขาได้รู้ว่าเขาสำคัญกับเธอมากแค่ไหนแต่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นทำให้เธอเข้าใจว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอทำเพื่อเขาเป็นเพียงเรื่องตลกเท่านั้นเขาไม่เคยต้องการให้เธอปกป้องเขาเธอเป็นเพียงของเล่นสำหรับเขาหลิง อี้หรานฝืนยิ้มออกมาก่อนจะก้มลงไปถอดรองเท้าของอี้ จิ่นหลี เธออยากจะพาเขาเข้านอนก่อนที่ตัวเธอเองจะไปนอนบนเก้าอี้เนื่องจากเตียงอยู่ชิดกับผนังด้านหนึ่งและผ้าปูที่นอนก็ชิดกับกำแพง เธอจึงต้องยกตัวเขาขึ้นมาก่อนดึงผ้าปูที่นอนให้ตึงหลิง อี้หรานเพิ่งดึงมุมของผ้าปูที่นอนและกำลังจะพาอี้ จิ่นหลีขึ้นไปบนเตียง แต่เธอกลับสังเกตเห็นว่าเขาลืมตาอยู่นัยน์ตาสีเข้มคู่นั้นก็เปล่งประกายและยั่วยวนด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์“อี้หราน…” ริมฝีปากบางของเขาเผยอขึ้นเล็กน้อยพลางเรียกชื่อของเธอด้วยเสียงแผ่วเบาหลิง อี้หรานตัวแข็งทันที กว่าที่เธอจะรู้ตัว มือของเขาก็โอบรอบเอวของเธอเสียแล้ว เขาดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขา
“เธอ… เธอไม่ต้องการฉันอีกต่อไปแล้วใช่ไหม?” ริมฝีปากบางของเขาเผยอขึ้น ราวกับว่าเขาพูดประโยคนี้ด้วยความยากลำบาก‘ไม่ต้องการเขา?’ คำพูดนั้นทำให้หลิง อี้หรานรู้สึกอยากหัวเราะในทันที‘เขารู้ไหมว่าเขาเป็นใคร? ฉันจะสำคัญกับเขาได้ยังไง?’“คุณเมามากแล้ว ให้ฉันลุกขึ้นเถอะ มันดึกแล้ว...”ก่อนที่เธอจะพูดจบ ใบหน้าของเขาก็โน้มลงมาต่ำขึ้นเรื่อย ๆ ปลายจมูกของเขาเกือบจะแตะกับจมูกของเธอ ใบหน้าของเขาจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม จะร้องไห้ก็ไม่ร้อง มันดูผสมปนเปไปหมด “เมา… อี้หราน ฉันไม่ได้เมา ฉันมีสติ…”ตอนนี้ เธอถูกห้อมล้อมไปด้วยกลิ่นของเขา เขายังคงพูดย้ำว่าตัวเองไม่ได้เมา แต่ถ้าเขาไม่เมา เขาคงจะไม่พูดอย่างนั้น“เธอจะไม่ปฏิเสธฉันใช่ไหม?” เขากระซิบด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง ดวงตาสีเข้มของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดที่กำลังเว้าวอนขอร้องเธอราวกับว่าคำตอบของเธอมีความหมายกับเขามากเธอรู้ว่าเขาเมาและจะจำอะไรไม่ได้ในเช้าวันรุ่งขึ้น แต่หลิง อี้หรานก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “อี้ จิ่นหลี ทำไมคุณถึงมาพูดอะไรแบบนี้? คุณต้องการให้ฉันตอบว่าฉันต้องการคุณ แต่คุณกลับไม่เคยต้องการฉันเลย!”ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความอดกลั้นเธอยังคงพูดต่อว่
ความเจ็บปวดค่อย ๆ คืบคลานเข้ามาหาเธออย่างเชื่องช้าเธอเห็นเพียงเขาจับมือของเธอไว้ทันทีที่เธอลืมข้าขึ้นมา ดูเขามองมาที่มือของเธอ ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “เจ็บไหม?”เธอรู้สึกถึงความรู้สึกบางอย่างที่ยากจะอธิบาย น้ำตาค่อย ๆ เอ่อล้นออกมาจากดวงตาใส ๆเขาทำให้เธอเข้าใจว่าเขาห่วงใยเธอมากแค่ไหน แต่จริง ๆ แล้ว เขากลับละทิ้งเธออย่างง่ายดาย!“อี้ จิ่นหลี อย่าจูบฉันถ้าคุณไม่ได้รักฉัน อย่าถามฉันว่ามือข้างที่ตบหน้าคุณนั้นเจ็บไหม เพราะมันทำให้ฉันรู้สึกขยะแขยง!”เธอจ้องมองเขาอย่างเหลืออด ก่อนจะสะบัดมือออกจากข้อมือของเขาผมยาวของเธอดูยุ่งเหยิง ขณะที่ใบหน้าของเธอแดงก่ำ ดวงตารูปอัลมอนด์สีดำสนิทคู่นี้ปรากฏให้เห็นถึงความไม่ยินยอมต่อการกระทำของเขาใบหน้าของอี้ จิ่นหลีเผยให้เห็นสีซีดเซียวทันทีที่ความรู้สึกแย่ ๆ พุ่งเข้ามาหาเขา เขาเอามือปิดปากและลุกจากเตียง เดินโซซัดโซเซไปห้องน้ำหลิง อี้หรานได้ยินเสียงอาเจียนในห้องน้ำในวินาทีถัดมา‘เขาคงเมามากจนอ้วกออกมาแบบนั้น อย่างน้อยเขาก็คงจะรู้สึกดีขึ้นบ้าง!’หลิง อี้หรานลุกจากเตียงและมองดูมือข้างขวา ความเจ็บปวดจากก่อนหน้านั้นยังคงเหลืออยู่บนฝ่ามือของเธ
“งั้นก็คิดว่าฉันไม่ได้สนใจคุณแล้วกัน” เธอพูดขณะพยุงเขาขึ้นจากพื้นด้วยสุดกำลัง เธอลากเขาไปที่เตียงแล้วปล่อยเขาไว้บนนั้นเขาขดตัวเป็นกุ้งนอนอยู่บนเตียงราวกับรู้สึกไม่สบายตัว ใบหน้าหล่อเหลาบิดเล็กน้อยด้วยความเจ็บปวด ขณะที่กัดฟันและเอามือกุมท้องเอาไว้ หลิง อี้หรานตระหนักได้ว่าเธอเคยเห็นอาการปวดท้องของเขาก่อนหน้านี้มาก่อน ‘เป็นไปได้ไหมที่เขากำลังปวดท้องอย่างรุนแรง?’‘ลองคิดดูแล้วมันก็น่าจะเป็นไปได้ ดูเหมือนว่าวันนี้เขาดื่มแอลกอฮอล์เยอะมาก โดยเฉพาะตอนที่เขาดื่มกับกู้ ลี่เฉิน เขาอาจจะดื่มมัน… ขณะท้องว่าง เพราะก่อนหน้านี้ฉันก็ไม่เห็นพวกเขากินอะไรกันเลย’“คุณปวดท้องหรือเปล่า?” เธอถามเขากดริมฝีปากบางเข้าหากันและไม่ตอบอะไร ทว่า ดวงตาสีพีชสดใสยังคงจ้องมองมาที่เธอ“เดี๋ยวฉันโทรหาเกา ฉงหมิงให้พาคุณไปโรงพยาบาล เอาไหม?” เธอถามเขาพูดด้วยความลำบากเล็กน้อย “ไม่ล่ะ ขอบคุณ เธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับฉันและไม่ต้องการฉันไม่ใช่เหรอ? เธอ... เกลียดฉันใช่ไหม? งั้นเธอควรจะ... รู้สึกยินดีที่ฉันรู้สึกเจ็บปวดสิ”‘ยินดีเหรอ?’ หลิง อี้หรานมองดูชายผู้อยู่ตรงหน้าเธอ ใบหน้าของเขาดูซีดเซียวและเปราะบาง เผยให้เห็นถึงค
‘อี้หราน... อี้หราน... ’‘ทำไมฉันถึงเอาแต่นึกถึงชื่อ ใบหน้า และน้ำเสียงของเธอ?’‘ทำไมการที่เธอบอกว่าเธอไม่รักฉันและไม่ต้องการฉัน ถึงทำให้ฉันรู้สึกสิ้นหวังได้ขนาดนี้?’เขารู้สึกสิ้นหวังเหมือนคนที่กำลังจมน้ำโดยปราศจากเสื้อชูชีพตัวสุดท้าย!มันเจ็บปวด… มากจนแทบหายใจไม่ออก!เสียงเปิดประตูและฝีเท้าดังขึ้นเรื่อย ๆ จากนั้นเสียงของวัตถุที่วางลงกับพื้นก็ดังขึ้น‘เธอกลับมาแล้วเหรอ?’ เธอออกไปซื้อยาให้เขาตอนกลางดึกเหมือนที่เคยทำมาก่อนย้อนกลับเมื่อครั้งแรกที่เขาลืมตาและจ้องมองดูเธอ นั่นอาจเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกราวกับผีเสื้อนับร้อยตัวกำลังบินอยู่ในท้องของเขาบางทีเขาอาจจะตกหลุมรักเธอตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา!“มากินยาเถอะ อาการของคุณจะได้ดีขึ้น” เสียงของเธอดังก้องอยู่ในหูของเขา ขณะที่มือของเธอกำลังพยุงร่างของเขาขึ้นมาเขาสูดดมกลิ่นของเธอที่ลายล้อมอยู่รอบร่างกายของเขา ดวงตาสีพีชเปิดขึ้นอย่างเชื่องช้าขณะจ้องมองใบหน้าที่อยู่ห่างกันแค่คืบเดียวความรู้สึกว่างเปล่าค่อย ๆ ดูเติมเต็มที่ละเล็กทีละน้อยทุกเสียงร่ำร้องในหัวและร่างกายของเขากำลังส่งเสียงร้องกึกก้องเพื่อเธอ! เขาอยากให้เธออยู่กับเขาหลิง