“หน้าตาดียังไง?” ไป๋ ทิงซินถามขึ้นขณะเลิกคิ้ว“ถ้าฉันอายุน้อยกว่า 20 ปี ฉันจะตามจีบเขาแน่ ๆ! ฉันล่ะสงสัยว่าถ้าเขาได้ไปโรงเรียนแล้ว สาว ๆ จะมารุมล้อมเขาสักกี่คน!” ชิน เหลียนอีพูดราวกับว่าเธอเป็นแฟนคลับของเด็กน้อยไป๋ ทิงซินขมวดคิ้ว ‘หน้าตาดีและน่ารัก... เธอจะตามจีบเด็กเหรอ? ทำไมฟังดูพิลึกชอบกล?’“ถ้าคุณอายุน้อยกว่า 20 ปี คุณจะตามจีบเขาไปจริง ๆ เหรอ?”“ใช่ คุณยังไม่เคยเจอเขาเลย ถ้าครั้งหน้าอี้หรานพาเขามา ทำไมคุณไม่ลองไปเจอเขาด้วยกันล่ะ? อี้หรานยังบอกอีกว่าตัวจริงเขาดูดีกว่าในรูปอีก...” ชิน เหลียนอีหยุดพูดก่อนจะตระหนักได้ว่าไป๋ ทิงซินมีท่าทีเปลี่ยนไป เธอเริ่มรู้ตัวและพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริงว่า “แต่ไม่ว่าเขาจะหล่อและน่ารักแค่ไหนเขาก็เทียบคุณไม่ได้อยู่ดี!”เธอรีบเปลี่ยนเรื่องก่อนจะถอนหายใจกับตัวเอง ‘ฉันลืมไปเลยว่าเขาคิดมากและขี้หึงง่ายแค่ไหน!’“เธอคิดว่าฉันหน้าตาดีเหรอ?” เขามองมาที่เธอ“ใช่ ๆ เขาเทียบคุณไม่ได้เลย มีคนพูดไว้ว่าต่อให้คนเราฉลาดในตอนเด็ก แต่ก็ไม่ได้แปลว่าโตมาแล้วจะประสบความสำเร็จ และคนที่หน้าตาดีตั้งแต่เด็ก โตไปก็อาจจะไม่หล่อก็ได้” เธอยังคงพูดให้เขารู้สึกดีขึ้น“ถ้าอย่าง
หลายครั้งที่พวกเขาทำคดีความแต่กลับไม่ได้รับเงินชดเชยตอนเที่ยง กวอ ซิ่นนหลีโทรหาหลิง อี้หรานและถามเธอว่า “เอ่อ... คุณพอจะรู้ไหมว่านักแสดงสาวซูซี อยู่ที่ไหน ผม... ผมอยากเจอเธอ”“มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่าคะ?” หลิง อี้หรานถาม“ผมแค่อยากจะคุยกับเธอเกี่ยวกับเรื่องของอาหลี บางทีเธออาจจะสงสารอาหลีบ้าง ผมไม่คาดหวังว่าเธอจะยอมรับว่าตัวเองเป็นคนขับรถหรอก แต่บางทีเธออาจจะให้เงินกับครอบครัวของอาหลีบ้าง เขาจะได้เข้ารับการรักษาที่ดีขึ้น” กวอ ซิ่นหลี่พูด เขาแค่อยากจะขอร้องความเห็นใจอีกครั้งอย่างไรเสีย อาหลีก็เป็นพนักงานในบริษัทของเขา เขาเพิ่งก่อตั้งบริษัทเท่านั้นและไม่สามารถช่วยครอบครัวของอาหลีได้มากแม้ว่าบริษัทจะบริจาคเงินให้ครอบครัวของอาหลีหลายครั้ง แต่มันก็ยังไม่เพียงพอกับค่ารักษาพยาบาลจำนวนมหาศาลในทางกลับกัน ซูซีเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียง เมื่อไม่นานมานี้มีรายงานว่านักแสดงสาวคนนี้ซื้อบ้านใหม่ในมูลค่า 60 ล้านดอลลาร์ ดังนั้นเธอน่าจะสามารถจ่ายค่ารักษาพยาบาลของอาหลีได้หลิง อี้หรานรู้สึกลังเล ในตอนนี้พวกเขายังไม่มีหลักฐานเพียงพอ แม้ว่าการพิจารณาคดีจะจัดขึ้น แต่ผู้พิพากษาก็จะไม่ตัดสินว่าซู
“แต่...”“ไม่! ฉันไม่ใช่คนใจบุญ นอกจากนี้ ฉันก็ไม่ใช่คนขับที่ต้องมารับผิดชอบต่ออุบัติเหตุทางรถยนต์ ถ้าฉันบริจาคและจ่ายค่ารักษาให้ทุกคน ผู้คนที่ได้รับบาดเจ็บก็มาขอบริจาคจากฉันหมดน่ะสิ!” ซูซีพูดอย่างโกรธเคืองซูซีกำลังจะเดินจากไป ทว่า กวอ ซิ่นหลี่กลับคว้าตัวซูซีไว้ “คุณซู...”“ปล่อยฉัน!” ซูซีตะคอก จากนั้นผู้ช่วยของซูซีก็ผลักกวอ ซิ่นหลี่ออกไปอย่างรวดเร็วกวอ ซิ่นหลี่สะดุดถอยหลังเล็กน้อยก่อนที่จะตั้งหลักได้ซูซีจ้องเขม็งมาที่กวอ ซิ่นหลี่และสั่งให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของกองถ่ายว่า “อย่าให้สองคนนี้เข้ามาในกองถ่ายอีก ชิ พวกเขาทำให้ฉันอารมณ์เสีย!”“ครับ คุณผู้หญิง” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตอบกลับหลิง อี้หรานรู้ว่าเธอเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ในวันนี้ขณะที่เธอกำลังจะจากไปพร้อมกับกวอ ซิ่นหลี่ เธอก็พบว่ากวอ ซิ่นหลี่ตกอยู่ในภวังค์ขณะจ้องมองแผ่นหลังของซูซี“หยุดมองได้แล้ว ไปกันเถอะ” หลิง อี้หรานบอกเขา“เดี๋ยว... ฉันจำได้ว่าผู้หญิงคนนั้นสวมแหวนวงเดียวกันในคืนนั้น!” กวอ ซิ่นหลี่โพล่งขึ้นทันทีหลิง อี้หรานตกตะลึง ทันใดนั้น บางอย่างก็แวบเข้ามาในหัวของเธอ แต่เธอยังไม่สามารถประติประต
‘เกิดอะไรขึ้น? หลิง อี้หรานอยู่ที่ไหน?’คนเดียวที่กวอ ซิ่นหลี่คิดได้คือซูซี ‘ฉันจำได้ว่าฉันพูดถึงแหวนของซูซี และดูเหมือนว่าอี้หรานกำลังครุ่นคิดถึงมันอยู่ อี้หรานกลับไปหานักแสดงคนนั้นหรือเปล่า?’ยิ่งกวอ ซิ่นหลี่คิดเกี่ยวกับมันมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีโอกาสเป็นไปได้มากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงรีบวิ่งกลับไปที่กองถ่ายละครซูซีกำลังถ่ายทำอยู่ท่ามกลางกล้องหลายตัวในกองถ่าย จู่ ๆ กวอ ซิ่นหลี่ก็บุกเข้ามาในกองถ่ายและถามอย่างร้อนใจว่า “คุณซู คุณเห็นหลิง อี้หรานไหมครับ? คนที่มากับผมเมื่อกี้นี้?”ทันทีที่เขาไม่เห็นหลิง อี้หราอยู่ที่นี่ เขากลับยิ่งตื่นตระหนกมากขึ้นกองถ่ายตกอยู่ในความโกลาหลทันทีที่เขาบุกรุกเข้ามา เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรีบปลี่เข้าไปจับกวอ ซิ่นหลี่ ขณะที่คนในกองถ่ายต่างเริ่มตะโกนด่าทอกวอ ซิ่นหลี่ทีละคนซูซีรู้สึกโกรธมากยิ่งขึ้น “ฉันจะรู้ได้ยังไงว่าเธออยู่ที่ไหน?”ผู้กำกับได้สั่งให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไล่กวอ ซิ่นหลี่ออกไป“คุณซู คุณบอกผมทีได้ไหมว่าหลิง อี้หรานอยู่ที่ไหน? เธอเข้ามาหาคุณอีกหรือเปล่า? เธอหายตัวไปโดยไม่บอกอะไรได้ยังไง? ผมโทรหาเธอไม่ติดเลย...” กวอ ซิ่นหลี่ร
กู้ ลี่เฉินเดินเข้าไปหาซูซีและตะคอกว่า “หลิงอี้หรานอยู่ที่ไหน?”“ฉัน... ฉันไม่รู้ ฉันไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้” ซูซีพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ สงสัยว่าทำไมเจ้าชายถึงถามถึงหลิง อี้หราน‘หลิง อี้หรานเป็นแค่ผู้ช่วยทนายความ ทำไมเจ้าชายถึงตื่นตระหนกกับเรื่องของเธอนัก?’ไม่เพียงแค่ซูซีเท่านั้น แต่คนอื่น ๆ รอบตัวพวกเขา รวมถึงบางคนที่ไม่เคยเห็นหลิง อี้หรานมาก่อน ต่างก็สงสัยว่าผู้หญิงที่หายตัวไปเกี่ยวข้องกับกู้ ลี่เฉินอย่างไร“ลี่เฉิน บางทีอี้หรานอาจจะรีบออกไปเพราะมีธุระก็ได้ อี้หรานโตแล้วนะ จะเกิดอะไรขึ้นกับเธอได้?” หวา ลี่ฟางพูดขึ้นขณะเดินไปหาเขาเธอเชิญลี่เฉินมาที่กองถ่ายหลังจากถ่ายหนังไปเพียงไม่กี่ฉากเท่านั้นเธอได้ยินมาว่าผู้กำกับกำลังเตรียมตัวสำหรับภาพยนตร์เรื่องต่อไป เธอจึงเชิญลี่เฉินมาเพื่อดูว่าเธอเหมาะกับบทบาทพวกนี้หรือไม่‘ใครจะไปรู้ว่าจะมีผู้ชายคนหนึ่งมาตะโกนเอะอะโวยวายเกี่ยวกับหลิง อี้หราน จนสีหน้าของลี่เฉินเปลี่ยนไป!’หวา ลี่ฟางรู้สึกถึงความผิดพลาดในวันนี้ ‘ฉันไม่น่าพากู้ ลี่เฉินมาที่กองถ่ายเลย’‘ทำไมหลิง อี้หรานถึงได้ในทุกทุกที่?’‘ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ฉันจะต้องขับไล่หลิงออก
หวา ลี่ฟางที่ยืนอยู่ข้างกู้ ลี่เฉินรู้สึกตกตะลึง‘ลี่เฉิน... ไม่ได้ยินที่ฉันพูดเลยด้วยซ้ำ เขาคิดแต่เรื่องของหลิง อี้หราน’‘แม้แต่เจตนาฆ่าอย่างโจ่งแจ้งและความไม่แยแสของเขาในตอนนี้ก็เกิดขึ้นเพราะหลิง อี้หราน!’หวา ลี่ฟางมีลางสังหรณ์ว่าถ้าซูซียังไม่เต็มใจจะพูดอะไรออกมา ลี่เฉินอาจจะได้ฆ่าใครสักคนจริง ๆ และเขาจะฆ่าคนคนนั้นเพื่อหลิง อี้หราน!หลิง อี้หราน! ทำไมต้องเป็นเธอ?‘ลี่เฉินคิดว่าฉันเป็นคนช่วยชีวิตของเขาไว้! เขาต้องใส่ใจฉันสิ ไม่ใช่หลิง อี้หราน!’ซูซีตัวสั่นมากยิ่งขึ้นเพราะรู้สึกหวาดกลัวต่อความตาย ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยถ่ายทำฉากละครแบบนี้มาก่อนและไม่ว่าผู้ชายที่ร่วมแสดงกับเธอจะดูดุแค่ไหนหรือพวกเขาจะมือหนักแค่ไหน แต่เธอกลับไม่เคยรู้สึกกลัวเมื่อโดนบีบคอเช่นนี้ดวงตาฟีนิกซ์ที่แสนมืดมนและเย็นชาคู่นั้นจ้องมองมาที่เธอโดยไม่ลังเล มือที่คอของเธอบีบรัดแน่นมาก เธอรู้สึกราวกับเหล็กแกร่งกำลังห่อหุ้มลำคอของเธอ เธอไม่สามารถหลุดพ้นจากน้ำมือของเขาได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นนี่มันมากเกินไปสำหรับเธอความหวาดกลัวผุดขึ้นในหัวใจของซูซี ‘ถ้าฉันรู้ว่าหลิง อี้หรานรู้จักนายน้อยกู้ ฉันจะ...’เธอรู้สึกว่านิ
วงการบันเทิงเป็นที่ที่มีการนินทาอย่างล้นหลามมาโดยตลอด ดังนั้นทุกคนจึงเริ่มคาดเดากวอ ซิ่นหลี ผู้ซึ่งทำให้เกิดความสับสนวุ่นวายทั้งหมดนี้ตกอยู่ในภวังค์และยังไม่ได้สติ‘หลิง อี้หราน... เป็นอะไรกับกู้ ลี่เฉินกันแน่?’‘ท่าทางของกู้ เฉินมันเหมือนกับ... คนคนหนึ่งที่กำลังตื่นตระหนกเพราะคนที่เขารักมากที่สุดกำลังตกอยู่ในอันตราย!’‘รักมากที่สุดเหรอ?’ กวอ ซิ่นหลี่ตกใจกับคำพูดที่แวบเข้ามาในหัวของเขา‘ฉันไปเอาความคิดแบบนี้มาจากไหน? เขาบอกกันว่าเจ้าชายแห่งวงการบันเทิงมักจะเปลี่ยนแฟนบ่อย ๆ ไม่ใช่เหรอ? พวกเขายังบอกอีกด้วยว่าเขาอาจจะดูมีเสน่ห์ขี้เล่น แต่จริง ๆ แล้วเขาไร้หัวใจ’‘ผู้ชายแบบนั้นจะรักผู้หญิงคนหนึ่งสุดขั้วหัวใจได้ยังไง?’…ทันทีที่กู้ ลี่เฉินมาถึงห้องรักษาความปลอดภัยของสตูดิโอกองละคร พนักงานก็เปิดกล้องวงจรปิดที่เกี่ยวข้องไว้ทั้งหมดเรียบร้อยแล้วพวกเขาสามารถเห็นนักแสดงสาวซูซีพูดคุยกับผู้ชายสวมเสื้อยืดสีดำหน้าห้องน้ำจากกล้องวงจรปิด พวกเขาพูดคุยกันประมาณครึ่งนาทีก่อนที่ชายคนนั้นจะปลีกตัวออกไปในเวลาเดียวกัน ร่างของหลิง อี้หรานก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ จากหน้าจอจะเห็นได้ว่าผู้ชายในเสื้อยืดสีด
หวา ลี่ฟางจะยอมแพ้ได้อย่างไร? เธอต้องการแสดงน้ำใจของเธอ ดังนั้นเธอจึงยัดแก้วน้ำเข้าไปในมือของกู้ ลี่เฉินทว่า มือของกู้ ลี่เฉินสั่นอย่างรุนแรงจนน้ำในแก้วหกออกมากู้ ลี่เฉินตกตะลึง เขาพยายามจับแก้วแต่มือของเขากลับสั่นสะท้านยิ่งกว่าเดิมไม่ใช่แก้วที่สั่น แต่เป็นมือของเขาต่างหาก!ดวงตาของกู้ ลี่เฉินจับจ้องอยู่ที่มือของเขาขณะถือแก้วน้ำไว้ในมือเขาไม่เคยรู้สึกหงุดหงิดขนาดนี้มาก่อน ราวกับว่าร่างกายของเขา... กำลังแสดงตามสัญชาตญาณว่าเขาไม่สามารถสูญเสียเธอไปได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น!…กวอ ซิ่นหลี่เดินทางไปพบหลิง อี้หรานที่สถานีตำรวจ ตอนแรกเขาคิดว่าหลิง อี้หรานจะได้รับบาดเจ็บ แต่สภาพของเธอดูปกติดีกว่าที่เขาคิด เธอยังมีชีวิตอยู่และแข็งแรงดี“ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงค่ะ พอดีโทรศัพท์ของฉันถูกเหยียบจนแตก ฉันเลยโทรหาคุณไม่ได้ ฉันจำหมายเลขโทรศัพท์ของคุณไม่ได้ ฉันจึงเอาซิมการ์ดออกมาแล้วเสียบเข้ากับโทรศัพท์เครื่องอื่นแทน” หลิง อี้หรานพูดขอโทษกวอ ซิ่นหลี่ถามด้วยความสับสน “เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”“ระหว่างที่ฉันรอคุณอยู่ ฉันก็นึกประเด็นสำคัญอะไรบางอย่างออก จู่ ๆ ผู้ชายคนนี้ก็เดินเข้ามาหาฉันพร้อมกับกระป