“พี่คะ!” เซียว จื่ออี้เดินกะโผลกกะเผลกไปหาเซียว จื่อฉีและถามอย่างร้อนใจว่า “พี่ช่วยลบเทรนด์การค้นหาบนอินเทอร์เน็ตได้ไหมคะ?”หากวิดีโอยังปรากฏอยู่บนโลกอินเทอร์เน็ตอีกเพียงไม่กี่นาที ผู้คนหลายแสนคนคงจะได้เห็นสภาพที่น่าอับอายของเธอเธอรู้สึกไม่สบายใจเมื่อนึกถึงวิดีโอนั้นเซียว จื่อฉีส่ายหัว“ทำไมเอาออกไม่ได้? มันต้องใช้เงินเยอะเหรอ? พี่ไม่อยากใช้เงินเพิ่มเพื่อช่วยฉันลบมันเหรอ?” เซียว จื่ออี้รู้สึกกังวลมากขึ้น“มันไม่ได้เกี่ยวกับเงิน! เราไม่สามารถลบวิดีโอนั้นออกได้ด้วยเงิน เพราะไม่มีใครกล้าลบมันออกต่างหาก!” เซียว จื่อฉีพูด“ทำไม?” เซียว จื่ออี้ไม่อยากจะเชื่อ “ตราบใดที่พี่เสนอเงินให้พวกเขามากพอก็ไม่มีใครหน้าไหนกล้าปฏิเสธอำนาจเงินหรอกจริงไหม?”เซียว จื่อฉีมองดูน้องสาวของเขา ขณะที่เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วค่อย ๆ พูดว่า “อี้ จิ่นหลี”ใบหน้าของเซียว จื่ออี้เปลี่ยนเป็นซีดเผือดและเธอไม่สามารถทรงตัวยืนไปต่อไปได้“อี้ จิ่นหลีไม่ยอมลบมันออกเหรอ? ทำไม... วันนั้นเขาไม่ได้ปล่อยเราไปหรอกเหรอ...”เซียว จื่ออี้หยุดพูดกะทันหัน อี้ จิ่นหลีไม่เคยพูดว่าเขาจะปล่อยเธอไปในวันนั้น! มันเป็นเพียงความคิดลม
ใครจะคิดว่าผู้หญิงที่ไร้ค่าเช่นนั้นจะมีชายที่อันตรายที่สุดในเมืองเฉินเป็นผู้ปกป้องเธอในตอนนี้?...หยู ข่ายฮ่าวรู้สึกประหม่าตลอดช่วงสองวันที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่วิดีโอของเซียว จื่ออี้ถูกเผยแพร่ออกมา เขาไม่สามารถแม้แต่จะข่มตานอนหลับได้ในตอนกลางคืนเขาจำได้ว่าเซียว จื่ออี้พูดจาดูถูกหลิง อี้หรานในงานเลี้ยงเมื่อวันก่อน แล้ว... สิ่งนี้เกิดขึ้นกับเธอในตอนนี้แม้แต่ตระกูลเซียวที่ร่ำรวยและมีอำนาจยังทำอะไรไม่ได้ ส่วนตระกูลหยูของเขานั่นเพียงแค่ร่ำรวยแต่ไม่มีอำนาจใด ๆ ตระกูลของเขาไม่แม้แต่จะเทียบกับตระกูลเซียวได้เลยเมื่อมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นกับเซียว จื่ออี้ เขาก็เกรงว่าเขาอาจจะจบลงอย่างเลวร้ายเช่นกันเขาปล่อยให้หลิง อี้หรานยืนรออยู่ที่โต๊ะพูลเป็นเวลานานในวันนั้น และดูเหมือนว่าหลิง อี้หรานจะเดินกะเผลกตอนที่เธอออกไปตอนนั้นหยู ข่ายฮ่าวสามารถจินตนาการได้ว่าเขาอาจจะถูกหักขาดังนั้นหยู ข่ายฮ่าวจึงรีบซื้อดอกกุหลาบสีเหลืองหลายพันดอกส่งไปให้หลิง อี้หรานที่บริษัทของเธอเพื่อเป็นการขอโทษ เขายังเตรียมของขวัญราคาแพงและนำไปมอบให้เธอเพื่อเป็นการขอโทษอย่างจริงใจทุกคนตะลึงเมื่อหยู ข่ายฮ่าว
ในทางกลับกัน หลิง อี้หรานมองดูหยู ข่ายฮ่าวด้วยท่าทางมึนงง วันนี้เขาดูแตกต่างจากเมื่อวันก่อนที่เธอเคยเจอในคืนนั้น“คุณหลิง รับไปเถอะครับ วันนั้นผมทำผิดต่อคุณ ผมไม่ควรเพิกเฉยคุณและปล่อยให้คุณยืนอยู่ที่นั่นเป็นเวลานาน ผมตั้งใจจะมาขอโทษต่อหน้าคุณมานานแล้ว แต่... ผมแค่ไม่รู้ว่าผมจะต้องแสดงความจริงใจต่อหน้าคุณอย่างไร ผมจึงซื้อของพวกนี้มาเพื่อให้คุณเพื่อเป็นการไถ่โทษ ผมไม่รู้ว่าผมควรจะทำอย่างไรถ้าคุณไม่ยอมรับมันไป”น้ำเสียงของหยู ข่ายฮ่าวฟังดูอ่อนน้อมถ่อมตนกว่าแต่ก่อนแม้ว่าหลิง อี้หรานจะไม่เห็นของที่อยู่ในกล่อง แต่เธอก็คาดเดาได้ว่ามันไม่ใช่ของราคาถูก “คุณไม่จำเป็นต้องให้อะไรฉันเลยค่ะ นอกจากนี้ คุณก็ส่งดอกกุหลาบสีเหลืองมาแสดงความขอโทษแล้วไม่ใช่เหรอคะ?” หลิง อี้หรานพูดเธอไม่เข้าใจว่าทำไมหยู ข่ายฮ่าวจึงส่งดอกกุหลาบสีเหลืองมาให้เธออีกรอบ และถึงกับมาขอโทษด้วยตัวเองหลังจากเรื่องราวผ่านไปแล้วหลายวัน“ก็... ผมแค่ต้องการแสดงความจริงใจของผมให้คุณเห็น ถือว่าของขวัญชิ้นนี้เป็นคำขอโทษจากผมนะครับ” หยู ข่ายฮ่าวพยายามผลักกล่องดังกล่าวให้หลิง อี้หราน เขาจะรู้สึกสบายใจได้ก็ต่อเมื่อเธอรับมันไป!ไม่อย่าง
“คุณจะตบฉันโดยไม่สืบความจริงหน่อยเหรอ?” หลิง อี้หรานถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา“จะมีประโยชน์อะไร? ฉันจับแกได้คาหนังคาเขาขนาดนี้! แกไม่มีความละอายบางเลย เขามีฉันอยู่แล้ว แต่ยังจะเข้ามายั่วเขาอีก แกเคยใช้กลอุบายสกปรกอะไรมาเกลี้ยกล่อมเขา?” โหยว เข่อเอ้อร์พูดอย่างขมขื่น“ฉันไม่ได้สนใจแฟนของคุณ!” หลิง อี้หรานยังคงด้วยน้ำเสียงเย็นชาเช่นเคยหยู ข่ายฮ่าวรู้สึกปวดหัวกับเหตุการณ์ตรงหน้ามากขึ้นกว่าเดิม เขาหงุดหงิดมากพอแล้ว แต่โหยว เข่อเอ้อร์ยังเข้ามามีส่วนร่วมในเรื่องนี้อีก เขารู้สึกแย่มากที่เขาได้ผู้หญิงอย่างเธอเป็นแฟน!‘ฉันไม่น่ามองข้ามตัวตนของโหยว เข่อเอ้อร์เลย!’“พอแล้ว!” หยู ข่ายฮ่าวดึงโหยว เข่อเอ้อร์ออกมา “เธอจะพอได้แล้วหรือยัง? ขอโทษคุณหลิงเดี๋ยวนี้!”“ขอโทษ? คุณกำลังบอกให้ฉันขอโทษเหรอ? คุณจะให้ฉันขอโทษผู้หญิงที่ไร้ยางอายแบบนี้ได้ยังไง? คุณนอนกับมันกี่ครั้งแล้ว? คุณหลงลีลาบนเตียงของมันหรือไง?” โหยว เข่อเอ้อร์พูดจารุนแรงขึ้นถ้าเขาไม่มีพฤติกรรมแบบนี้ เธอก็คงจะไม่ต้องทะเลาะกับคนอื่นบ่อย ๆ!หยู ข่ายฮ่าวตื่นตระหนก! ‘นอนกับเธอ? ฉันจะนอนกับหลิง อี้หรานได้ยังไง? ถ้าเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นจริง ๆ
ทว่า มันสายเกินไป โหยว เข่อเอ้อร์ฟาดมือโดนกลางหลังของหลิง อี้หรานและผลักอี้หรานกระเด็นไปข้างหนึ่งที่มีอะไหล่ของคอมพิวเตอร์ตัวเก่าวางตั้งเป็นพะเนินสูง ถ้าเธอชนเข้าไปกองพะเนินอะไหล่พวกนั้น อะไหล่ต่าง ๆ จะตกลงมาทับเธอและทำให้เธอได้รับบาดเจ็บได้ทันใดนั้น มือหนึ่งก็คว้าหลิง อี้หรานเข้าไปในอ้อมแขนของเขา และเตะโหยว เข่อเอ้อร์ลงไปกองกับพื้นเหตุการณ์ดูชุลมุนมากขึ้นโหยว เข่อเอ้อร์ชนเข้ากับกำแพง จนหลังของเธอแทบหักเป็นสองท่อน“ใครเป็นคนเตะ...” โหยว เข่อเอ้อร์เงยหน้าขึ้นและถามอย่างโกรธเคือง เธอกำลังจะสาปแช่ง แต่ดวงตาของเธอกลับเบิกกว้าง แม้แต่น้ำเสียงของเธอก็ยังติดอยู่ในลำคอ‘เขาคือ... เจ้าชายแห่งวงการบันเทิงไม่ใช่เหรอ?’‘พระเจ้า ทำไมเจ้าชายถึงมาอยู่ที่นี่ได้? ทำไมเขาถึง... จับมือของผู้หญิงคนนั้นไว้?’โหยว เข่อเอ้อร์ตกตะลึงและโพล่งออกไปว่า “นายน้อยกู้ ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนไม่ดี เธอเป็นมือที่สาม...”เธอถูกตบเข้าที่ใบหน้าอีกครั้งก่อนที่เธอจะพูดจบทว่า กลับเป็นแฟนของเธอที่ตบหน้าเธอหยู ข่ายฮ่าวรู้สึกราวกับว่าชีวิตของเขาสั้นลงมากในวันนี้!“นายน้อยกู้ ผมขอโทษครับ เธอแค่พูดพล่ามไร้สาระไปเรื่อย
“โอ้ ได้ครับ!” แม้ว่ากู้ ลี่เฉินจะไม่ได้แนะนำตัวเอง แต่ทนายกู้ก็จำเขาได้และเห็นด้วยกับเขา ทนายกู้พาเขาไปที่ห้องประชุมและบอกหลิง อี้หรานว่า “คุณใช้ห้องนี้คุยกับคุณกู้ได้ตามสบายเลยนะ”หลิง อี้หรานถึงกับพูดไม่ออกทันทีที่ประตูปิดลง เหลือเพียงหลิง อี้หรานกับกู้ ลี่เฉินอยู่ในห้องสองคนเท่านั้นดูเหมือนว่าบรรยากาศในห้องประชุมจะดูน่าอึดอัดมากยิ่งขึ้นกวาน ลี่หลี่กับเพื่อนร่วมงานที่อยู่ด้านนอกต่างตกตะลึงเหตุการณ์นี้แปรเปลี่ยนไปอย่างผิดคาด เรื่องนี้เริ่มต้นจากแฟนสาวที่จับมือที่สามกับแฟนหนุ่มของเธอได้คาหนังคาเขา เธอพยายามจัดการกับมือที่สามแต่แล้วเรื่องราวกับเปลี่ยนไปว่าหลิง อี้หรานไม่ใช่มือที่สามและเธอก็ดูใกล้ชิดกับเจ้าชายแห่งวงการบันเทิงความรู้สึกของกวาน ลี่หลี่แปรเปลี่ยนไปเมื่อเธอเห็นกู้ ลี่เฉินกู้ ลี่เฉินเคยเจอเธอมาก่อนในตอนที่เธอกลั่นแกล้งหลิง อี้หราน ตอนนั้นเขายังเป็นคนที่ช่วยปกป้องหลิง อี้หรานในตอนที่เธอเห็นข่าวซุบซิบของกู้ ลี่เฉินกับหวา ลี่ฟางบนอินเทอร์เน็ต เธอก็คิดว่าเขาไม่ได้สนใจหลิง อี้หรานแล้วเพราะไม่มีผู้หญิงคนไหนรักษาความสัมพันธ์ที่ยืดยาวกับเจ้าชายแห่งวงการบันเทิงได้แ
“ถ้าคุณไม่มีคำถามเพิ่มเติมแล้ว ฉันขอตัวก่อนนะ” หลิง อี้หรานพูดขณะที่เดินไปที่ประตูห้องแต่ก่อนที่มือของเธอจะสัมผัสโดนลูกบิดประตู เขากลับคว้าตัวของเธอเอาไว้เสียก่อน“หลิง อี้หราน คุณจำเป็นต้องปฏิเสธผมแบบนี้ด้วยเหรอ?” น้ำเสียงที่มักจะเรียบนิ่งกลับฟังดูไร้ความอดทนมากขึ้นเรื่อย ๆกู้ ลี่เฉินรู้สึกกังวลอะไรบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายออกมาได้หลิง อี้หรานจ้องมองใบหน้าหล่อเหล่าที่อยู่ตรงหน้าเธอ ใบหน้าที่สมบูรณ์แบบของเขาทำให้เธอนึกถึงใบหน้าจิ๋ว ๆ ของอีกคนหนึ่งย้อนกลับไปในตอนนั้น เด็กชายที่มีใบหน้าแบบนี้กำลังกอดเธอไว้เมื่อเห็นว่าเธอเหน็ดเหนื่อยจากการแบกเขาไว้บนหลัง “ฉันจะดีกับเธอให้มาก ๆ ฉันจะซื้อชุดสวยให้เธอเยอะ ๆ ฉันจะพาเธอไปกินของอร่อย ๆ ฉันจะปกป้องเธอให้ดีที่สุด!”เธอไม่ได้จริงจังกับคำพูดของเขามากนักในขณะนั้น ทุกคนล้วนลืมสิ่งที่ตัวเองพูดในวันถัดไปกันทั้งนั้นหลังจากนั้นเธอก็ป่วยและลืมเขาไปเสียสนิท เธอลืมแม้กระทั่งความทรงจำที่มีร่วมกันเธอไม่รู้ว่าเขาตามหาเธอมาหลายปี! ความหมกมุ่นของเขานั้นมีมากเกินกว่าที่เธอจินตนาการไว้แต่ตอนนี้ความหมกมุ่นเหล่านั้นได้ตกไปอยู่กับหวา ลี่ฟาง‘สำหรับฉ
ใบหน้าของเธอจะปรากฏขึ้นในใจของเขาเป็นครั้งคราว แม้แต่ในตอนกลางคืน เขาก็มักจะฝันถึงตอนที่เขาพบกับเธอบนเนินเขาและแบกเธอไว้บนหลังราวกับว่าเขากำลังแบกเด็กผู้หญิงคนนั้นไว้บนหลัง“คุณแน่ใจนะว่าคุณไม่ได้รักอี้ จิ่นหลีแล้ว?” เขาพึมพำเธออมยิ้มแต่ยังคงดูเหม่อลอย “แล้วมันสำคัญตรงไหน?”อี้ จิ่นหลีไม่ต้องการให้เธอตกหลุมรักกู้ ลี่เฉินแต่ตอนนี้กู้ ลี่เฉินกำลังถามเธอว่าเธอไม่ได้รักอี้ จิ่นหลีอีกต่อไปแล้วใช่หรือไม่‘พวกเขาต้องการแค่ผลลัพธ์ แต่พวกเขากลับไม่เคยสนใจว่าฉันต้องการอะไร! ฉันต้องการความสงบสุข!’กู้ ลี่เฉินจ้องมองหลิง อี้หราน รอยยิ้มและน้ำเสียงของเธอเปรียบเสมือนใบมีดที่กรีดลึกเข้ามาในหัวใจของเขา…หลิง อี้หรานรู้สึกหมดแรงหลังจากเลิกงาน มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นมากมายในวันนี้ และทันทีที่เธอก้าวเข้าไปในย่านที่พักของเธอ เธอก็เห็นรถยนต์คันหรูสีดำจอดอยู่ใกล้ ๆ บ้านของเธอ ซึ่งกลายเป็นที่ดึงดูดความสนใจของคนที่เดินผ่านไปมาคนขับรถประจำตระกูลอี้วิ่งเหยาะ ๆ มาหาหลิง อี้หรานและพูดว่า “คุณหลิง นายน้อยอี้รอคุณอยู่ในรถครับ”หลิง อี้หรานหยุดชะงักและมองดูรถยนต์คันสีดำ ‘ตอนนี้อี้ จิ่นหลี... อยู่