เธอมองเขาด้วยความประหลาดใจ “คุณจะย้ายมาที่นี่เหรอ?”“มีอะไรหรือเปล่า? เราก็เคยอยู่ด้วยกันมาก่อนไม่ใช่เหรอ?” เขาถามกึ่งขบขัน‘แต่มันจะเหมือนเดิมได้ยังไง?’ หลิง อี้หรานเม้มริมฝีปากบางเข้าด้วยกัน เธอไม่รู้จะตอบอะไรจนเวลาผ่านไปสักพัก “หรือว่าพี่ไม่อยากอยู่กับผมเหรอ พี่สาว?” เขาถามขณะก้มหน้าลงมาใกล้ ๆ แก้มขอเธอลมหายใจของเขารดโรยรินอยู่บนใบหน้าของเธอ ใบหน้าของเขาเป็นเหมือนกันผลงานชิ้นเอกของพระเจ้า ตอนนี้เธออยู่ใกล้เขามากจนสามารถมองเห็นขนตาของเขาได้เธอต้องการเบือนหน้าหนีเพื่อหลีกเลี่ยงสายตาของเขาทว่า เรียวนิ้วยาวกลับจับคางของเธอเอาไว้เพื่อบังคับให้เธอมองมาที่เขา“เป็นอะไรไป? ตอบยากนักเหรอ?” น้ำเสียงของเขาเย็นชา ดวงตาสีดำนิลจ้องมาที่เธอ ราวกับต้องการมองทะลุผ่านเข้ามาในตัวเธอ “เธอเสียใจเหรอ? เสียใจที่ต้องตอบตกลงเพราะโจว เชียนหยุนใช่ไหม?”“ฉัน… จะไม่เสียใจ ฉันแค่ไม่ชินกับการเปลี่ยนแปลง… รวดเร็วแบบคุณ อี้ จิ่นหลี ฉันแค่อยากให้คุณให้เวลาฉันทำความคุ้นเคยอีกครั้ง ได้ไหม?” หลิง อี้หรานพูดอย่างขมขื่นน้ำเสียงของเธอแทบจะอ้อนวอน ในขณะที่แววตาของเขาเปล่งประกายระยิบระยับ “ถ้านี่เป็นคำขอของเธอ
โจว เชียนหยุนจำได้ว่าหลิง อี้หรานเคยเล่าให้เธอฟังว่าเธอพบอี้ จิ่นหลีได้อย่างไร ดังนั้นเธอจึงรู้เรื่องนี้มาบ้างย้อนกลับไปในตอนนั้น เธอคร่ำครวญว่าโชคชะตานำพาคนสองคนที่ไม่เกี่ยวข้องกันมาอยู่ด้วยกันได้อย่างปาฏิหาริย์แต่ว่าตอนนี้เธอกลับเริ่มสงสัยว่าชะตากรรมดังกล่าวอาจเป็นความหายนะหรือไม่“เธอไม่จำเป็นต้องทนทรมานเพื่อฉันแบบนี้!” โจว เชียนหยุนพูดด้วยความรู้สึกผิด“มันไม่ใช่เกี่ยวกับพี่ พี่โจว พี่ไม่ต้องรู้สึกผิด อี้ จิ่นหลีพยายามทำให้ฉันกลายเป็นพี่สาวของเขาอีกครั้ง ต่อให้ไม่ใช่เพราะพี่ แต่ก็คงเป็นเพราะเรื่องอื่นอยู่ดี” หลิง อี้หรานพูดตราบใดที่อี้ จิ่นหลีตัดสินใจจะทำอะไรบางอย่างแล้ว เขามักจะทำมันให้สำเร็จต่อให้เธอปฏิเสธเขาได้ครั้งหรือสองครั้ง แต่เธอจะหนีจากเขาไปได้สักกี่หน? บางทีการปฏิเสธของเธออาจเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเกมเขา ซึ่งทำให้เขารู้สึกท้าทายมากยิ่งขึ้น“แต่ว่า...” โจว เชียนหยุนอยากจะพูดอะไรมากกว่านี้“พี่โจว อย่างน้อยพี่กับอาหยันน้อยก็สามารถอยู่ในเมืองเฉินได้ต่อไปโดยไม่ต้องกังวลอะไร ฉันเป็นอดีตนักโทษที่ได้รับการล้างมลทินให้ชื่อของตัวเองแล้วก็จริง แต่ฉันเป็นเพียงผู้ช่วยทนายตั
“ถ้าเป็นแบบนั้น ฉันจะช่วยพี่เอง แค่เตรียมตัวให้พร้อม และอย่ามองโลกในแง่ร้ายเกินไป” หลิง อี้หรานพูด“ขอบใจนะ อี้หราน” โจว เชียนหยุนพูดถ้าไม่ใช่เพราะอี้หราน เธอก็คงไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรต่อไปและเธอคงไม่สามารถหนีมาจากเย่ เหวินหมิงได้!หลิง อี้หรานเดินจากโจว เชียนหยุนมาด้วยหัวใจที่หนักอึ้งเธอไม่ได้บอกโจว เชียนหยุนว่าถ้าเย่ เหวินหมิงต้องต่อสู้เพื่อให้ได้สิทธิ์เลี้ยงดู เขาก็มีโอกาสที่จะชนะคดีเพราะโจว เชียนหยุนมีชีวิตที่ไม่มั่นคงและเป็นอดีตนักโทษ ในขณะที่เย่ เหวินหมิงเป็นผู้ประกอบการที่มีชื่อเสียงในเมืองเอส และดูเหมือนว่าเขาจะไม่เคยมีประวัติที่เสื่อมเสียหรือเสียชื่อเสียงมาก่อน เขาสามารถทำให้เด็กมีชีวิตที่ดีขึ้นได้ตอนนี้ยังมีข่าวลือว่าเย่ เหวินหมิงและคง จื่ออินกำลังจะแต่งงานกันครอบครัวปกติมีข้อได้เปรียบมากกว่าครอบครัวที่มีพ่อหรือแม่เลี้ยงเดี่ยว สิ่งเหล่านี้จะทำให้โจว เชียนหยุนเสียเปรียบ‘ฉันจะช่วยพี่โจวแก้ปัญหาปัจจุบันของเธอได้ยังไง?’หลิง อี้หรานรู้สึกกังวล และก่อนที่เธอจะรู้สึกตัว เธอก็เดินมาถึงประตูบ้านเช่าของเธอแล้วทันทีที่เธอเปิดประตูออก เธอก็เห็นอี้ จิ่นหลีนั่งอยู่ในบ้านอี
แววตาของอี้ จิ่นหลีดูมืดหม่นลงทันที‘ขัดแย้งกัน... ใช่ มันขัดแย้งกัน!’ เขากลัวว่าเขาจะรักเธอมากเกินไปจนวันหนึ่งเขาจะซ้ำรอยพ่อที่สูญเสียศักดิ์ศรีและจบชีวิตลงเพื่อความรัก เขาปล่อยให้เธอควบคุมอารมณ์ของเขาไม่ได้!แต่หลังจากที่เลิกกับเธอแล้ว เขาก็อดไม่ได้ที่จะอยากเจอเธอและจบลงด้วยการบังคับให้เธออยู่เคียงข้างเขา“แล้วเธอรู้อะไรไหม? คนเดียวในโลกที่ทำให้ฉันขัดแย้งก็คือเธอ!” ริมฝีปากบางของเขาแยกจากกันขณะที่เขาจ้องมองเธอหลิง อี้หรานตกตะลึงขณะที่เธอจ้องมองอี้ จิ่นหลีด้วยความสับสน ‘เขาหมายความว่ายังไง?’สายตาเขาที่มองมาที่เธอสื่อให้เห็นถึงความปรารถนาอย่างแรงกล้า แต่ในขณะเดียวกันก็เต็มไปด้วยความยับยั้งชั่งใจ มันขัดแย้งกันอย่างมาก!...วันรุ่งขึ้น หลังจากที่หลิง อีห้รานเลิกงานแล้วและกำลังเดินออกจากตัวอาคาร คนขับรถของตระกูลอี้ก็รีบเดินเข้ามาหาเธอ “คุณอี้ต้องการพบคุณครับ คุณหลิง”หลิง อี้หรานเม้มปากเข้าหากันก่อนจะเดินตามคนขับเข้าไปในรถโดยไม่พูดอะไรกวาน ลี่หลี่แอบมองดูเหตุการณ์นี้อีกครั้ง‘เป็นรถมายบัคคันเดิม’ กวาน ลี่หลี่คิดในใจ‘ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างหลิง อี้หรานกับหยู ข่
อี้ จิ่นหลีเพียงนุ่งผ้าเช็ดตัวปิดบังท่อนล่าง ในขณะที่เปลือยท่อนจนเห็นกล้ามเนื้อแกร่ง ผมของเขาเปียกโชกและมีน้ำหยดลงมาประปรายเมื่อเขาเห็นหลิงอี้หรานอยู่ในห้อง เขาก็ส่งยิ้มให้เธอ “มาแล้วเหรอ”“อืม” เธอมองออกไปอย่างไม่สบายใจ“เป็นอะไรไป? เขินเหรอ” เขาเดินเข้ามาหาเธอ “พี่จะไม่ช่วยเช็ดผมให้แห้งหน่อยหรือไง? ผมจำได้ว่าครั้งแรกที่พี่พาผมไปห้องเช่า พี่ยังเช็ดผมให้ผมเลย พี่สาว”“คุณอยู่สูงเกินไปที่ฉันจะเช็ดผมให้คุณได้ ทำไมคุณไม่...”ก่อนที่เธอจะพูดจบ เขาก็โน้มตัวลง “แล้วตอนนี้จะเช็ดผมได้หรือยัง?”การโน้มตัวเข้ามาอย่างกะทันหันทำให้เธอตกใจ และเมื่อเธอเอียงหน้าเพียงเล็กน้อย ดวงตาของเธอก็สบเข้ากับดวงตาคู่สวยของเขาดวงตาของเขาเหมือนมนต์สะกดบางอย่างที่ทำให้เธอไม่สามารถหยุดจ้องมองได้จากนั้นเขาก็เอาผ้าขนหนูมายัดใส่มือของเธอ “ผมชอบเวลาที่พี่ช่วยเช็ดผม”หลิง อี้หรานถือผ้าเช็ดตัวไว้ในมือ เธอวางมันไว้เหนือศีรษะของเขาและเริ่มเช็ดผมเปียกปอนของเขาให้แห้งเมื่อเธอเห็นว่าผ้าเช็ดตัวบังตาของเขาเอาไว้ เธอก็รู้สึกโล่งใจเธอไม่ได้ช่วยเช็ดผมให้แห้งแค่ตอนที่พวกเขาอยู่ในบ้านเช่าเท่านั้น แต่เธอก็ยังทำแบบเดียว
“จริงเหรอ?” อี้ จิ่นหลีพึมพำ ในชั่วพริบตา กรรไกรก็ตกมาอยู่ในมือของเขาเขาก้มมองกรรไกรในมือพร้อมกับท่าทีเย็นชา ครั้งนี้เขากลับรู้สึกอยากจะมอบชีวิตของเขาให้กับเธอ แม้ว่าเธอจะไม่ต้องการมันก็ตาม!‘มันเกิดขึ้นได้อย่างไร?’‘ฉันไม่เคยคิดจะมอบชีวิตของฉันให้กับผู้หญิงคนไหน มีเพียงฉันเท่านั้นที่เป็นคนตัดสินใจว่าฉันจะอยู่หรือตาย ใช่ไหม? นั่นคือสิ่งที่ฉันกลัวตอนที่เลิกกับเธอไม่ใช่เหรอ?’‘แต่เราเลิกกันไปแล้ว แล้วทำไมฉันถึงยังมีความคิดแบบนี้อยู่อีก?’“อี้ จิ่นหลี ฉันไม่เคยคิดที่จะฆ่าคุณ” ความเงียบของเขาทำให้เธอเข้าใจผิด “ถึงเราจะเลิกกัน ตอนแรกฉันก็เศร้าและเจ็บปวด แต่ตอนนี้มันจบแล้ว ฉันจะไม่ฆ่าใครเพียงเพราะต้องเลิกกับเขา”เขาขมวดคิ้ว เธอแค่อธิบายตัวเอง แต่ทำไมเขาถึงเจ็บปวดเมื่อเขาได้ยินเธอพูดว่ามันจบแล้ว?“เธอไม่เคยคิดที่จะฆ่าฉันเหรอ?” เขาหันไปมองเธอ“ใช่” เธอตอบ“เธอไม่อยากให้ฉันตายใช่ไหม?” เขาถาม ดวงตาสีเข้มมองตรงไปที่เธอ ราวกับว่าเขาพยายามจะมองทะลุผ่านเข้าไปในความคิดของเธอ‘ไม่อยาก... การใช้คำแบบนั้นมันทำให้รู้สึกเหมือนมีบางอะไรอย่างเกิดขึ้นระหว่างเรา’“ฉัน... ไม่อยากให้คุณตาย” เธอตอบ ‘
หลิง อี้หรานพูดไม่ออก ‘หมายความว่าอย่างไร? ฉันเป็นตัวนำโชคหรืออะไร?’ หลิง อี้หรานสลัดความคิดที่สับสนออกจากหัวของเธอและจดจ่อกับแฟ้มคดีในมือของเธอการพิจารณาคดีของอาหลีกำลังจะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่วัน ตามทัศนคติของจำเลย เห็นได้ชัดว่าเธอต้องการเลื่อนเวลาออกไปและไม่ต้องการจ่ายค่าชดเชยอะไรให้พวกเขาเพียงติดคุกหนึ่งปีก็สามารถล้างค่าเสียหายหลายล้านที่จำเลยต่อรองมาได้แม้ว่าเธอจะมั่นใจถึง 70 หรือ 80 เปอร์เซ็นต์ว่า ผู้กระทำผิดที่แท้จริงคือนักแสดงสาวซูซี แต่หลักฐานที่เธอมีก็ยังไม่แข็งแรงพอ!‘บางที... การทบทวนเส้นทางการรถใช้หรือสถานที่เกิดเหตุก็อาจจะทำให้เธอพบว่ามีบางสิ่งที่เป็นประโยชน์’ หลิง อี้หรานคิดกับตัวเอง นี่คือทั้งหมดที่เธอสามารถทำได้ในตอนนี้และต่อให้พวกเขาจะชนะคดี อาหลีและครอบครัวของเขาก็จะไม่ได้รับค่าชดเชยอะไร“มองหาอะไรอยู่? ทำไมทำหน้าอย่างนั้น?” เสียงของอี้ จิ่นหลีดังขึ้นในหูของเธอหลิง อี้หรานตระหนักได้ว่าการประชุมทางวิดีโอของอี้ จิ่นหลีสิ้นสุดลงแล้ว และตอนนี้เขาก็มายืนอยู่ข้าง ๆ เธอเขาโน้มตัวลงและใช้มือข้างหนึ่งยันบนโต๊ะขณะมองดูแฟ้มในมือของเธอ“ไม่มีอะไร มันเป็นแค่คดีความที
เธอร้องเรียกชื่อเขาออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า และเอาแต่บอกตัวเองซ้ำๆ ในใจว่า ‘เขาคืออี้ จิ่นหลี เขาคืออี้ จิ่นหลีเท่านั้น’“ฉันคือจินสำหรับเธอ” เขาพูดขณะเหยียดแขนออกไปโอบรอบตัวเธอกลิ่นของเขาอบอวลอยู่รอบ ๆ เธอ ดวงตารูปอัลมอนด์ฉายให้ถึงแววของความเศร้าโศกเขาไม่มีวันเป็นจินสำหรับเธอ จินของเธอจากไปแล้วตั้งแต่ที่เขาบอกเลิกเธอ!...ในห้องพักของโรงแรม เย่ เหวินหมิงพูดกับคง จื่ออินที่อยู่ปลายสายว่า “ได้ พรุ่งนี้ผมจะกลับไป ผมจะจัดการข่าวลือทั้งหมดบนอินเทอร์เน็ตเอง”“เหวินหมิง ทำไหมคุณถึงออกไปโดยไม่ได้บอกอะไรฉันเลยล่ะคะ? ฉัน... ฉันไม่ได้โกรธคุณ แต่ฉันแค่อยากรู้เหตุผล” เสียงของคง จื่ออินฟังดูน่าสงสาร “รอจนกว่าผมจะกลับไป” เย่ เหวินหมิงพูดขณะลูบหน้าผากของตัวเองเขาแทบจะไม่ได้นอนในช่วงสองวันที่ผ่านมา เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาหลับตา ภาพในอดีตของเขากับ โจว เชียนหยุนก็โผล่เข้ามาในใจของเขาเสมอเขานึกถึงเสียงหัวเราะ น้ำตา ใบหน้าที่ร้องไห้ออกมาด้วยความยินดีเมื่อเธอตั้งท้องลูกของเขา และวิธีการที่เขาปฏิบัติต่อเธอในตอนนั้นเขานึกถึงตอนที่เธอปฏิเสธที่จะให้กำเนิดลูกของเขาด้วยการเอาเศษแก้วแทงเข้าที่ท้องของเธอ