หลิง อี้หรานตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้นเพราะเสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์ของเธอเธอรู้สึกเวียนหัวเล็กน้อยและมีอาการเจ็บคอ เธอจึงยกมือขึ้นลูบคอของเธอโดยไม่รู้ตัว ทันใดนั้น เธอก็จำบางอย่างได้ เธอชะงักและมองไปรอบ ๆ ห้องของเธออย่างรวดเร็วทุกอย่างในห้องก็เหมือนเดิม แม้แต่ชุดนอนของเธอก็ยังไม่บุบสลาย ไม่มีอะไรผิดปกติเธอจำได้ว่าเธอถูกจูบตอนหลับ แล้ว... เธอก็สลบไป!‘ฉันไม่เห็นว่าเขาเป็นใคร แต่จูบนั้นเหมือน... ของจิน!’‘แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรผิดปกติ ฉันฝันว่าเขาจูบฉันเหรอ? ที่ฉันฝันแบบนี้เพราะฉันยังไม่ลืมเขาใช่ไหม?’ดวงตาของหลิง อี้หรานดูมัวหมองลง จากนั้นเธอก็ยกผ้าห่มบาง ๆ ขึ้นก่อนจะลุกจากเตียง‘เมื่อไหร่ฉันจะลืมผู้ชายคนนั้นได้? ฉันเคยคิดว่าฉันจะมีครอบครัวจริง ๆ แล้ว แต่นั่นกลับกลายเป็นแค่ความฝัน’เธอจะเริ่มต้นใหม่ได้ก็ต่อเมื่อเธอลืมเขาได้แล้วเท่านั้น!หลิง อี้หรานเข้าไปในห้องน้ำ หยิบแปรงสีฟันและแก้วน้ำของเธอ เธอบีบยาสีฟันลงบนแปรงสีฟัน และกำลังจะแปรงฟัน แต่เธอกลับเหลือบเห็นรอยจ้ำสีแดงที่ลำคอของเธอ ทันใดนั้น เธอก็ตัวแข็งทื่อทันที!‘นี่คืออะไร? นี่คือ…’เธอวางแปรงสีฟันลงแล้วยกมือขึ้นเ
“ขอบใจนะ” โจว เชียนหยุนพูด“อย่าทำเหมือนฉันเป็นคนแปลกหน้าเลยค่ะ พี่โจว ถ้าวันหนึ่งฉันมีปัญหา ฉันก็คิดว่าพี่คงจะช่วยฉันเหมือนกัน” หลิง อี้หรานพูดด้วยรอยยิ้ม“ก็จริง” โจว เชียนหยุนยิ้มตอบ “ยังไงซะ ฉันกำลังวางแผนที่จะย้ายไปทีเมืองจี”“เมืองจี?” หลิง อี้หรานรู้สึกประหลาดใจ เมืองนี้อยู่ไม่ไกลจากเมืองเฉินมากนัก แต่ก็ไม่ได้อยู่ใกล้เช่นกัน ต้องใช้เวลาขับรถถึงสามชั่วโมงเมืองนั้นมีทิวทัศน์ที่สวยงาม แม้จะเป็นเมืองท่องเที่ยวแต่ค่าครองชีพก็ไม่สูงนัก มันใกล้เคียงกับค่าครองชีพในเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับที่สามในประเทศ“พี่จะย้ายไปเมื่อไหร่คะ?” หลิง อี้หรานถาม“น่าจะในเดือนกันยายน ฉันต้องหาโรงเรียนอนุบาลให้อาหยันน้อย พออาหยันสวมเครื่องช่วยฟัง เขาเป็นก็เหมือนเด็กธรรมดาทั่วไปที่ไม่มีปัญหาในการสื่อสารกับคนอื่น ฉันเลยอยากหาโรงเรียนอนุบาลธรรมดาให้เขา ฉันสงสัยว่าจะมีโรงเรียนอนุบาลไหนจะรับเขาบ้าง”เนื่องจากลูกชายของเธอพิการทางการได้ยิน จึงเป็นเรื่องปกติที่เขาจะต้องไปโรงเรียนเพื่อคนพิการก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้เขาเป็นเหมือนเด็กธรรมดาทั่วไป โจว เชียนหยุนจึงอยากพาเขาไปเข้าเรียนที่โรงเรียนอนุบาลธรรมดาเธอต้องก
เด็กน้อยรีบวิ่งเข้าไปในอ้อมกอดของหลิง อี้หรานในทันที“ว่าแต่อาทิตย์นี้ไปสวนสนุกกันไหม?” หลิง อี้หรานถามดวงตาของเด็กน้อยเป็นประกายในทันที ขณะที่หัวเล็ก ๆ ของเขาพยักหน้าหลายครั้ง“ถ้าอย่างนั้น”“มันจะไม่เป็นการรบกวนเธอมากไปเหรอ?” โจว เชียนหยุนถาม“ไม่เลย ฉันอยากจะได้ใช้เวลาทั้งวันที่สวนสนุกกับอาหยันน้อย!” หลิง อี้หรานพูด นอกจากนี้ ถ้าพี่โจวกับครอบครัวของเธอย้ายไปที่เมืองจี เธอคงจะไม่ได้พบอาหยันบ่อย ๆ เหมือนตอนนี้“นอกจากนี้ พี่ต้องไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกายในสุดสัปดาห์นี้พอดี คุณน้าจะได้พาพี่ไป ส่วนฉันจะพาอาหยันไปสวนสนุกด้วยกัน” หลิง อี้หรานพูด“ถ้าอย่างนั้น... ขอบใจนะ” โจว เชียนหยุนตอบรับอย่างเกรงใจ“ไม่เป็นไรค่ะ ใช่ไหมอาหยัน?” หลิง อี้หรานถามขณะที่เธอหันหน้าไปหาเด็กน้อยในอ้อมแขนของเธอคนตัวเล็กเพียงจูบแทนให้คำตอบโจว เชียนหยุนมองไปที่ลูกชายของเธอที่อยู่ในอ้อมแขนของหลิง อี้หรานด้วยรอยยิ้ม อาหยันน้อยคือชีวิตของเธอ เธอจะปกป้องลูกชายคนนี้จากทุก ๆ คนและจะไม่ยอมให้ใครพรากเขาไปจากเธอไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น!…“เหวินหมิง เหวินหมิง?” เสียงผู้หญิงดังขึ้นเบา ๆ ดึงสติของเย่ เหวินหมิงกลั
แม้ว่าเขาจะดีกับเธอ แต่... เธอกลับยังรู้สึกเหมือนขาดอะไรไปที่สำคัญไปกว่านั้น หลังจากที่โจว เชียนหยุนติดคุก เธอก็คิดว่าอีกไม่นานเขาคงจะแต่งงานกับเธอทว่า งานแต่งงานของพวกเขากลับยังไม่มีกำหนดและสิ่งนี้ทำให้เธอกังวลเป็นอย่างมากคง จื่ออินกัดริมฝีปากของเธอเล็กน้อยและมองไปที่ชายที่อยู่ข้างหน้าเธอขณะที่เธอถามว่า “ถ้าฉันอยากจะแต่งงานกับคุณ คุณจะ... เต็มใจแต่งงานกับฉันไหมคะ?”เธอไม่อยากรอช้าอีกต่อไป หลังจากที่รู้ว่าเขาได้พบกับโจว เชียนหยุนในเมืองเฉินแล้ว เธอก็ยิ่งกังวลใจมากขึ้นไปอีก‘ที่เขาอยู่ต่อในเมืองเฉินอีกสองสามวันคงเป็นเพราะโจว เชียนหยุน!’‘แต่เขาก็กลับมาเร็วกว่าที่คิด! ยิ่งกว่าไปนั้นเขามักจะพูดถึงการแก้แค้นโจว เชียนหยุน’‘เกิดอะไรขึ้น? เขาจะไม่ไปเจอโจว เชียนหยุนแล้วใช่ไหม? ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น’แม้หลังจากที่เขากลับมา เขาก็ไม่เคยพูดถึงโจว เชียนหยุนอีกเลยเกิดอะไรขึ้นกับเขาและโจว เชียนหยุนในเมืองเฉิน?แม้ว่าคง จื่ออินจะรู้สึกสงสัย แต่เธอก็ไม่กล้าขอให้ใครไปตรวจสอบเรื่องนี้ เธอกลัวว่าการเคลื่อนไหวของเธอจะกลายเป็นจุดสนใจและเขาจะสังเกตเห็นมัน หากเป็นเช่นนั้น เธออาจจะทำให้
เธอไม่ได้เจอกวอ ซิ่นหลี่มาสองสามวันแล้ว ดังนั้นเธอจึงคิดว่าเขายอมแพ้แล้ว แต่ทว่า เธอรู้สึกได้ในขณะที่เขาจ้องมองเธอ ดูเหมือนว่าเขาจะยังไม่ได้... ยอมแพ้“วันนี้ฉันยุ่งมาก ฉันต้องไปรับเด็ก ฉันสัญญากับเขาว่าจะพาเขาไปที่สวนสนุกวันนี้ เบาะแสที่คุณพูดถึง…” หลิง อี้หรานอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเธอไม่ต้องการยกเลิกสัญญากับเด็กน้อย เพราะเธอไม่อยากเห็นเขาผิดหวัง แต่นี่ก็คืองานของเธอนอกจากนี้ ยิ่งพวกเขามีเบาะแสมากเท่าไหร่ โอกาสที่พวกเขาจะได้รับค่าตอบแทนให้อาหลีก็ยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น!หลังจากที่เธอเห็นอาหลีนอนหมดสติอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล หลิง อี้หรานก็ต้องการช่วยเหลือผู้ชานคนนี้และครอบครัวของเขา“ผมจะพาคุณไปรับเด็กและเราจะได้พูดคุยเกี่ยวกับเบาะแสระหว่างทางไปที่นั่น” กวอ ซิ่นหลี่บอกหลิง อี้หรานคิดเกี่ยวกับมัน ‘ถ้าอย่างนั้นก็ได้’ ดังนั้นเธอจึงเข้าไปในรถของกวอ ซิ่นหลี่ระหว่างทาง กวอ ซิ่นหลี่ขับรถไปพร้อมกับบอกเธอเกี่ยวกับรายละเอียดที่เขานึกขึ้นได้ในภายหลังเขากำลังขับตามรถขออาหลี ดังนั้นเขาจึงเป็นคนแรกที่เห็นอุบัติเหตุทางรถยนต์ในครั้งนั้น เขาเห็นคนสองคนกำลังลงจากรถ แต่ประเด็นคือ ทั้งส
เมื่อมองดูกวอ ซิ่นหลี่กับอาหยันน้อยที่ตื่นเต้น หลิง อี้หรานก็อายเกินกว่าจะปฏิเสธต่อหน้าเด็ก ดังนั้นเธอจึงพยักหน้าและตกลงทั้งสามคนไปสวนสนุกด้วยกัน ระหว่างทาง กวอ ซิ่นหลี่ได้เริ่มพูดคุยกับอาหยันน้อยอาหยันน้อยเป็นมิตรกับกวอ ซิ่นหลี่โดยไม่คาดคิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกวอ ซิ่นหลี่พูดถึงของเล่นที่เขาเล่นเมื่อตอนที่เขายังเป็นเด็ก ดวงตาของอาหยันน้อยก็เป็นประกาย และถามเขาอย่างตื่นเต้นเกี่ยวกับของเล่นในยุคนั้นที่เขาไม่เคยได้ยินมาก่อนเมื่อพวกเขามาถึงสวนสนุก ทั้งสามคนก็ไปซื้อตั๋วที่ช่องขายตั๋วอาหยันน้อยมองไปที่เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่นั่งอยู่บนไหล่ของพ่อเธอในอีกแถวหนึ่งถัดจากพวกเขา เธอมองมองดูรอบ ๆ อย่างสนุกสนานหลิง อี้หรานสังเกตเห็นว่าอาหยันน้อยมองไปที่เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ และพ่อของเธอมานานแล้วเธอรู้ว่าอาหยันน้อยเติบโตมากับโจว เชียนหยุนและคุณนายโจว เขาคิดว่าเขาไม่มีพ่อ แม้ว่าเขาจะเคยได้พบกับเย่ เหวินหมิง พ่อผู้ให้กำเนิดของเขาก็ตาม การถูกพ่ออุ้มไว้สูง ๆ พร้อมกับขี่บนไหล่ของเขาเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อนเด็กน้อยจึงมองเด็กหญิงด้วยความอิจฉาหลิง อี้หรานกำลังจะซื้ออะไรบางอย่างให้เขาเพื
“คุณเป็นคนดี คุณจะดึงดูดผู้หญิงดี ๆ ได้มากมาย” หลิง อี้หรานผู้ซึ่งมีบาดแผลในเรื่องความรักและความสัมพันธ์พูดขึ้นกวอ ซิ่นหลี่จอดรถไว้ที่ย่านที่อาหยันน้อยอาศัยอยู่ จากนั้นเขาก็เกาศีรษะอย่างเขินอายและพูดว่า “บางทีการตกหลุมรักก็เป็นแบบนี้แหละ ผมแค่อยากลองดูสักครั้ง”หลิง อี้หรานไม่รู้ว่าจะพูดอะไร ‘ลองดูสักครั้ง ฉันก็เคยคิดแบบเดียวกันกับตอนคบอี้ จิ่นหลีหรือเปล่านะ?’ แต่ตอนนั้นอี้ จิ่นหลีอยากจะให้เธออยู่เคียงข้างและสารภาพกับเธอ เธอก็เลยลองดูกับความสัมพันธ์นั้นน่าเสียดายที่เธอไม่สามารถเอาชนะความสัมพันธ์นั้นได้หลังจากส่งอาหยันน้อยกลับบ้าน กวอ ซิ่นหลี่ก็มาส่งหลิง อี้หรานไปที่ทางเข้าบ้านเช่าของเธอ“อี้หราน คุณไม่จำเป็นต้องรู้สึกกดดัน บางที... ถ้าผ่านไปสองสามปีแล้วคุณยังไม่ชอบผม ผมก็อาจจะยอมแพ้” เขาพูดหลิง อี้หรานสัมผัสได้ถึงความใจดีของกวอ ซิ่นหลี่ที่เขาพูดแบบนี้เพราะเขาไม่อยากให้ความรู้สึกที่มีต่อเธอทำให้เธอต้องลำบากใจหลังจากบอกลากวอ ซิ่นหลี่แล้ว หลิง อี้หรานก็กลับไปที่บ้านเช่าของเธอและทันทีที่เธอเปิดประตู เธอก็เป็นใครบางคนนั่งอยู่ในห้องของเธออี้ จิ่นหลี!เป็นครั้งที่สองที่เขาปรากฏ
“คุณได้มันมายังไง...” เธอพึมพำเขายิ้มเล็กน้อย รอยยิ้มของเขาสวยงามราวกับฤดูใบไม้ผลิบนภูเขา แต่ยิ่งรอยยิ้มของเขาสวยมากแค่ไหน มันก็ยิ่งน่ากลัวมากเท่านั้น“แล้วทำไมฉันจะมีสิ่งนี้ไม่ได้?” เขาถามด้วยความสนุกสนานราวกับว่าเธอกำลังถามคำถามโง่ ๆหลิง อี้หรานตกตะลึง ‘ใช่ ถ้าเขาเข้ามานั่งรอในบ้านของฉันได้ วิดีโอที่เขามีอยู่ก็คงเป็นเรื่องง่าย ๆ สำหรับเขา’ทว่า... เธอไม่ได้สังเกตด้วยซ้ำว่ามีคนแอบถ่ายเธอกับกวอ ซิ่นหลี่ในวันนี้‘นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของวิดีโอนี้ใช่ไหม? หรือว่าเขาคอยจับตาดูการกระทำของฉัน กวอ ซิ่นหลี่และอาหยันน้อยที่สวนสนุกในวันนี้?’เธอรู้สึกขนลุกทันทีที่คิดเกี่ยวกับมัน“รู้อะไรไหม? สิ่งที่คุณทำในตอนนี้เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน!” หลิง อี้หรานตักเตือนเขาไม่มีใครในโลกนี้อยากถูกจับตามองตลอดเวลา เธอเลิกกับเขาแล้ว เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงทำแบบนี้อี้ จิ่นหลียิ้มในขณะที่เขายืนขึ้นและเดินเข้าหาหลิง อี้หราน “อย่างนั้นเหรอ? แล้วเธอล่ะ? ทำไมเธอถึงไปสวนสนุกกับกวอ ซิ่นหลี่?”“ฉันจะไปสวนสนุกกับใครก็ได้ มันเรื่องของฉัน” เธอบอก“เรื่องของเธอ?” เขาเยาะเย้ย ทันใดนั้น เขาก็ยกมือขึ้นจับคางข