ไป๋ ทิงซินรู้สึกขบขัน เมื่อเห็นว่าเธอดูไม่สนใจลายเซ็นและโปสเตอร์ของเกา จิ้งชานที่เธอต้องการมาโดยตลอด แต่เมื่อพูดถึงเพื่อนของเธอ เธอกลับเป็นห่วงเป็นใยมากกว่าสิ่งอื่นใดเธอใส่ใจอี้หรานมากจนทำให้เขารู้สึกอิจฉาเมื่อไหร่ผู้หญิงคนนี้จะสนใจเขามากกว่านี้?“บอกฉันมา!” ชิน เหลียนอีเร่งเอาคำตอบ“ถ้าผมบอกคุณแล้วผมจะได้อะไรจากคุณบ้าง?” ไป๋ ทิงซินกล่าวอย่างเกียจคร้าน‘ได้อะไรจากฉันอย่างนั้นเหรอ?’ชิน เหลียนอีกระพริบตาด้วยความสับสน เอ่อ เธอจะทำอะไรให้เขาดี? เขาคงไม่ต้องการเศษเงินหรือสำเนาโปสเตอร์ของเกา จิ้งชานหรอกมั้ง“คุณต้องการอะไร?”“จุ๊บผมสิ” เขาพูดออกมาด้วยท่าทีสบาย ๆ เพื่อดูว่าเธอจะตอบสนองอย่างไรแต่เธอกลับประคองใบหน้าของเขาทันทีและจุ๊บลงที่ข้างแก้มของเขา “เร็วสิ บอกมา!” เธอไม่ได้รู้สึกเขินอายแม้แต่น้อย การกระทำของเธอทำให้ไป๋ ทิงซินรู้สึกไม่สบายใจแต่อย่างน้อยเธอก็หน้าแดงตอนที่เขาบอกให้เธอจุ๊บเขาแต่ตอนนี้สีหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นปกติไป๋ ทิงซินไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากกระแอมเบา ๆ ต่อหน้าเธอที่คาดหวังคำตอบของเขา “หลิง ลั่วอินทำให้กู้ ลี่เฉินเสื่อมเสียชื่อเสียง เธอวางแผนกลั่นแกล้งหลิง อ
ท้ายที่สุด หลายความเห็นต่างเห็นด้วยกับผู้เชี่ยวชาญสำหรับการตั้งคำถามของผู้เชี่ยวชาญคือว่าเป็นการวิเคราะห์ที่ค่อนข้างดีเดียวและผู้เชี่ยวชาญคนนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับหลิง อี้หราน!ผู้จัดการของหลิง ลั่วอินรีบโทรหาเธอและพูดว่า “ลั่วอิน สถานการณ์บนอินเทอร์เน็ตเริ่มจะรับมือไม่อยู่แล้วและผู้เชี่ยวชาญบางคนได้ชี้ให้เห็นว่าคุณตั้งใจทำโดยเจตนา ทำไมคุณไม่ขอความช่วยเหลือจากนายน้อยกู้ล่ะ? ไม่อย่างนั้นมันคงจบไม่สวยแน่ ๆ”หลิง ลั่วอินกัดฟันด้วยความโกรธ เธอได้เห็นเนื้อหาบนอินเทอร์เน็ตแล้วและพบว่าในตอนแรกทุกคนต่างวิพากษ์วิจารณ์หลิง อี้หราน ทำให้อี้ จิ่นหลีทนดูต่อไม่ไหวจนเอื้อมมือเข้ามาด้วย จะดีกว่านี้หากปัญหานี้เกิดขึ้นระหว่างอี้ จิ่นหลีกับหลิง อี้หรานถ้าลี่เฉินออกตัวมาปกป้องหลิง อี้หราน มันไม่เพียงแต่จะทำให้อี้ จิ่นหลีขายขี้หน้า แต่ยังทำลายชื่อเสียงของเขาด้วยส่วนตัวเธอแค่เล่นบทเป็นเหยื่อเท่านั้นใครจะคิดว่าอยู่ ๆ จะมีผู้เชี่ยวชาญเสียสละเวลามาสร้างสถานการณ์และวิเคราะห์มันโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้เชี่ยวชาญคนนี้เป็นผู้มีอำนาจในเรื่องนี้ ไม่ใช่ “ผู้เชี่ยวชาญ” ธรรมดาที่ไล่เกาะตามกระแสข่าวดาราหลิง
เธอสบตาเขาแล้วพูดออกไปอย่างกระวนกระวายใจ“ใช่ คุณเป็นแฟนของผม” กู้ ลี่เฉินพึมพำกับตัวเอง จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นและเดินไปหาหลิง ลั่วอินหลิง ลั่วอินรู้สึกปราบปลื้มใจ เขาเชื่อใจเธอใช่ไหม? แต่เขาดูไม่แยแสเธอเลยสักนิด!กู้ ลี่เฉินเดินเข้าไปหาหลิง ลั่วอินและยกมือเชยคางของเธอขึ้น หลิง ลั่วอินดูอ่อนน้อมถ่อมตน ดวงตาของเธอมีน้ำเอ่อล้นออกมา เธอดูไร้เดียงสาและน่าสงสารแต่เธอเป็นนักแสดง แม้ว่าเธอจะเป็นเพียงนักแสดงเกรดดีก็ตาม แต่แน่นอนว่าเธอย่อมมีทักษะการแสดงอยู่บ้างนอกจากนี้ เธอยังมีประสบการณ์ในบทบาทที่น่าสงสารและไร้เดียงสา“ลี่เฉิน ถ้าคุณคิดว่าฉันทำผิดกับพี่สาวของฉัน ฉันไปขอโทษเธอก็ได้นะ ฉันไม่สนหรอกว่าคนอื่นจะกล่าวหาฉันว่ายังไง” หลิง ลั่วอินกล่าวกู้ ลี่เฉินยกนิ้วขึ้นสัมผัสที่ริมฝีปากบางเบา ๆ “รู้ไหมทำไมผมถึงขอคุณเป็นแฟน?” จู่ ๆ เขาก็ถามขึ้น‘ฮะ?!’ หลิง ลั่วอินตกตะลึง ‘ทำไม?!’ เธอก็เคยถามตัวเองหลายครั้งคงไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องวงการบันเทิงอย่างแน่นอน เพราะวงการบันเทิงไม่ขาดแคลนสาวงาม ในวงการนี้เต็มไปด้วยผู้หญิงที่สวยกว่าเธอ“ไม่ว่ายังไง ฉันก็ยังรู้สึกโชคดีที่ได้เป็นแฟนกับคุณ” เธอคิดว่ามัน
บทลงโทษเหล่านั้นไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย“แต่ฉันรักคุณ ลี่เฉิน ไม่… คุณบอกว่าริมฝีปากของฉันเหมือนริมฝีปากของเธอไม่ใช่เหรอ? แม้ว่าคุณจะคิดว่าฉันเป็นแค่ตัวสำรอง แต่ฉันก็พอใจตราบใดที่ยังได้อยู่ข้าง ๆ คุณ ได้โปรด... อย่าเลิกกับฉันเลย!” เธอขอร้อง เธอไม่สามารถเลิกกับเขาได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาปล่อยมือออกจากใบหน้าเธออย่างไม่ใส่ใจและนั่งลงบนโซฟาอีกครั้ง “น่าเสียดาย แต่ในตอนนี้คุณไม่มีคุณสมบัติที่จะได้เป็นแม้แต่ตัวสำรองด้วยซ้ำ!”ใครคนอื่นจะมาแทนที่เธอได้อย่างไร?เขามองหาใครสักคนมาแทนที่คนนั้นครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ผิดหวังทุกครั้ง ผู้หญิงที่เขาเลือกมามักมีส่วนที่ทำให้เขารู้สึกเหมือน “เธอ” แต่เมื่อเขาได้ใช้เวลากับพวกหล่อนแล้ว เขากลับไม่พบความรู้สึกที่เหมือนกับตอนอยู่กับเด็กผู้หญิงคนนั้นเลยราวกับว่ายิ่งเขาพยายามไขว่คว้ามันมากเท่าไหร่ เขากลับยิ่งได้รับมันน้อยลงเท่านั้นหลิง ลั่วอินก้าวไปขวางข้างหน้าและกักเขาไว้ แต่ผู้ดูแลความปลอดภัยในคฤหาสน์ทั้งสองต่างห้ามเธอไม่ให้เข้าใกล้กู้ ลี่เฉิน“ลี่เฉิน…” หลิง ลั่วอินตะโกนอย่างสิ้นหวัง แต่กู้ ลี่เฉินไม่ได้สนใจแม้แต่จะมองเธอหลังจากที่หลิง ลั่วอินถูกน
หลายคนในโลกนี้ที่ต้องการปาก้อนหินใส่คนที่กำลังจมน้ำและหลิง อี้หรานก็ไม่รู้สึกเห็นใจหลิง ลั่วอินเธอไม่ใช่พระแม่มารีที่จะเห็นอกเห็นใจคนที่พยายามสร้างปัญหาให้กับเธอ“ทำไมพี่ไม่ให้ผมป่าวประกาศว่าพี่เป็นแฟนของผมล่ะ?” เขาถาม เขาอยากจะเปิดเผยความสัมพันธ์ของพวกเขาในฐานะคู่รัก เขาไม่ชอบให้ใครเข้าใจผิดว่าเธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับกู้ ลี่เฉินแต่เธอกลับหยุดเขา “ฉันไม่อยากให้มันเป็นเรื่องใหญ่และไม่อยากเป็นข่าว” เธอไม่ได้พยายามปิดบังความจริงที่ว่าพวกเขากำลังคบกันอยู่นอกจากนี้ หลายคนในแวดวงสังคมต่างรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพวกเขาแล้วแต่ถ้าเขาป่าวประกาศบนอินเทอร์เน็ต เธอก็จะกลายเป็นข่าวใหญ่และหลายคนคงจะมาที่ร้านอาหารเพื่อพบเธอ นอกจากนี้เธอจะถูกห้อมล้อมไปด้วยผู้คนทุกครั้งที่เธอไปส่งอาหารและเพราะเธอเคยติดคุก เธอจะต้องทนรับการวิพากษ์วิจารณ์มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเหยื่อคือห่าว เมยววี่อดีตคู่หมั้นของอี้ จิ่นหลีเธออาจเพิกเฉยต่อการวิพากษ์วิจารณ์ของตัวเองได้ แต่เธอก็ไม่อาจเพิกเฉยต่อคำวิจารณ์ต่อเขาได้ก่อนที่เธอจะพลิกคดีนี้ได้ ผู้คนอาจจะคาดเดาอะไรแย่ ๆ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพวกเขาอี้ จิ่
ในวันรุ่งขึ้น ข่าวของหลิง ลั่วอินที่เลิกรากับกู้ ลี่เฉินกลายเป็นหัวข้อค้นหาที่กำลังมาแรง คิดเห็นบนโลกอินเทอร์เน็ตต่างบอกว่าหลิง อี้หรานเป็นตัวกลางทำให้ทั้งคู่เลิกกันถูกลบอย่างรวดเร็วทุกครั้งที่โพสต์ด้วยเหตุนี้ หลิง อี้หรานจึงไม่มีสวนเกี่ยวข้องอย่างสมบูรณ์แบบเนื่องจากกู้ ลี่เฉินมีแฟนเก่าหลายคน จึงไม่แปลกใจที่สาธารณชนจะทราบว่า “แฟนสาวอีกคนถูกทิ้ง” หลายคนถึงกับบอกว่าพวกเขารู้อยู่แล้วว่าหลิง ลั่วอินจะถูกทิ้ง แม้แต่ดาราหญิงที่โด่งดังกว่า สวยกว่าและมีการศึกษามากกว่าเธอ ก็ไม่สามารถหนีจากการถูกทิ้งได้เมื่อเปรียบเทียบกับแฟนเก่าของกู้ ลี่เฉินแล้ว หลิง ลั่วอินมีข้อดีเพียงไม่กี่อย่างหลายคนจึงคาดการณ์ว่าอนาคตของหลิง ลั่วอินน่าจะตกต่ำลง ก่อนหน้านี้ผู้คนยกย่องเธอเพราะเธอเป็นแฟนของกู้ ลี่เฉิน แต่ตอนนี้เธอกลายเป็น “แฟนเก่า” ไปแล้วโดยสิ้นเชิงณ อพาร์ตเมนต์ส่วนตัวของหลิง ลั่วอิน หลิง กว๋อจื้อและฟาง ซุ่ยเอ๋อมองดูลูกสาวของพวกเขาอย่างกังวล พวกเขาได้รับรู้จากเพื่อนบ้านว่าลูกสาวของพวกเขาเลิกกับกู้ ลี่เฉินแล้วเพื่อนบ้านคนหนึ่งพูดด้วยน้ำเสียงตลกขบขันว่า “อย่าไปกังวลมากเลย เจ้าชายแห่งวงการบันเทิงชอบคบ
ทั้งหมดเป็นความผิดของหลิง อี้หราน! หลิง อี้หรานทำให้เธอสูญเสียทุกอย่างที่เธอควรได้รับหลิง ลั่วอินไม่เคยคิดว่าทุกสิ่งที่เธอได้รับก็เป็นเพราะหลิง อี้หราน...เมื่อหลิง อี้หรานไปส่งอาหารเสร็จแล้วกลับมาที่ร้านอาหาร ร่างทั้งสองร่างก็พุ่งเข้ามาทันที หนึ่งในนั้นยกมือขึ้นและตบหน้าหลิง อี้หรานความแรงที่ฟาดลงมาบนใบหน้า แรงมากจนเธอล้มถอยไปด้านหลังหลายก้าว เธอเงยหน้าขึ้นให้เห็นถึงเลือดที่มุมฝีปาก“นังคนไร้ยางอาย แกอิจฉาริษยาน้องสาวตัวน้อยของแกหรือไง? แกกล้าดียังไงถึงเข้ามาอ่อยแฟนของน้อง? ทำไมตระกูลหลิงต้องมีลูกสาวแบบแกด้วย?” เสียงแหลมดังขึ้นหลิง อี้หรานจ้องมองฟาง ซุ่ยเอ๋อแม่เลี้ยงของเธออย่างเย็นชา เธอยกมือขึ้นเพื่อปัดมืออีกข้างของฟาง ซุ่ยเอ๋อที่กำลังยกขึ้นมาอีกครั้งฟาง ซุ่ยเอ๋ยจ้องมองเธอ “ทำไม แม่จะตีแกไม่ได้หรือไง?”หลิง อี้หรานพูดอย่างเย็นชาว่า "ฉันมีแม่เพียงคนเดียวและแม่ของฉันไม่ใช่คุณ!"“แกคิดว่าแม่ของแกเป็นใคร? ความไร้ยางอายคงส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นสินะ แม่ของแกไร้ยางอายและลูกสาวที่เธอให้กำเนิดก็ไร้ยางอายเช่นกัน สิ่งที่แกทำลงไปคือการอ่อยผู้ชาย...”ก่อนที่ฟาง ซุ่ยเอ๋อจะพูดจบ เธอก็ถู
หลิง กว๋อจื้อจับภรรยาของเขาไว้และตะโกนใส่ลูกสาวคนโตว่า “แกทำกับน้าฟางแบบนี้ได้ยังไง? เธออายุเยอะมากกว่าแกนะ ขอโทษน้าฟางซะ!”หลิง อี้หรานมองพ่อของเธออย่างเย็นชา เธอเคยตั้งใจทำงานอย่างหนักเพื่อที่เขาจะได้เห็นใจเธอและปฏิบัติกับเธอเหมือนกับที่เขาปฏิบัติกับหลิง ลั่วอิน แต่ทั้งหมดกลับกลายเป็นความฝันลม ๆ แล้ง ๆในที่สุดเธอก็ยอมแพ้ต่อความอดทนนั้นแล้ว “ขอโทษเหรอ? ฉันต้องขอโทษอะไรคุณ? คุณคาดหวังให้ฉันยืนเฉย ๆ แล้วปล่อยให้เธอตบตีอย่างนั้นเหรอ? ถ้าเธออยากจะด่าทอฉันหรือแม้แต่แม่ของฉัน ฉันก็ต้องปล่อยให้เธอทำอย่างนั้นเหรอ? คุณยังเห็นไม่ชัดอีกเหรอว่าใครเป็นคนที่ทำผิดต่อแม่ของฉันตั้งแต่แรก?”ใบหน้าของหลิง กว๋อจื้อแดงก่ำด้วยความอับอาย ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของฟาง ซุ่ยเอ๋อ เขากล่าวขึ้นว่า “น้าฟางตีเธอแล้วยัง? ทำไมแกไม่พูดออกมาล่ะว่าแกทำอะไรลงไปกับน้องสาวตัวน้อยของแก? ถ้าไม่ใช่เพราะแก เธอคงไม่ถูกทิ้ง”หลิง อี้หรานเยาะเย้ย “ทำไมไม่ถามเธอบ้างว่าเธอทำอะไรลงไป?”“น้องสาวของแกจะกล้าทำเรื่องสกปรกอะไรได้? มาขอโทษน้าฟางเดี๋ยวนี้!” หลิง กว๋อจื้อตะโกนอย่างโกรธจัดฟาง ซุ่ยเอ๋อตะโกน “แกทำร้ายฉัน ฉันจะไปแจ้งความก