เธอกลั้นหายใจ ‘การแสดงออกของเขาในตอนนี้ หมายความว่า… เขากำลังโกรธเหรอ?’“เธอบอกว่าเธอต้องการอิสระ และเธออยากจะทำงานเป็นผู้ช่วยที่ร้านอาหารเล็ก ๆ ต่อไป เพราะเธอไม่อยากพึ่งพาฉัน ก็ได้ มันไม่แปลกเลย” เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ “แต่ว่าคนเป็นแฟนกัน ก็ควรจะสามารถให้อะไรกับแฟนสาวได้บ้างใช่ไหม? เธอปฏิบัติกับฉันในฐานะแฟนของเธอบ้างหรือเปล่า?”หลิง อี้หราน กัดริมฝีปากของเธอ และไม่สามารถตอบคำถามของเขาได้“อี้หราน ฉันรู้ว่าเธอไม่ต้องการพึ่งพาฉัน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอจะต้องปฏิเสธในสิ่งที่ฉันอยากให้เธอหนิ” อี้ จิ่นหลี กล่าวเขาต้องการให้เธอมีชีวิตที่ดี เขาไม่ต้องการให้เธอทำงานหาเงินแม้แต่บาทเดียว แม้เขาจะรู้ว่าการกระทำของเธอมาจากประสบการณ์ที่ผ่านมาของเธอกับเขา แต่เขาก็อดที่จะรู้สึกแบบนี้ไม่ได้ บางสิ่งคงต้องใช้เวลายาวนานสำหรับการเปลี่ยนแปลงความโกรธในใจที่เขาพยายามจะสยบมันไว้ กลับยังคงปะทุขึ้นปัญหาเดียวที่มีคือเขารู้สึกโกรธตัวเองมากยิ่งขึ้นหากเขาไม่ยอมให้สิ่งต่าง ๆ ดำเนินไปอย่างที่เป็นอยู่ และเต็มใจที่จะให้ความยุติธรรมตามที่เธอต้องการ เธอคงไม่ลงเอยแบบนี้เขาทำลายสิ่งที่เคยเป็นชีวิตของเธอ เขา
หลังจากเขาพูดจบ เขาก็หันไปหาผู้ช่วยร้าน “ห่อให้ทีครับ”ผู้ช่วยร้านมีความสุขมากและห่อเครื่องประดับผมทั้งหมดพร้อมใบเสร็จในทันทีอี้ จิ่นหลี จ่ายเงินสำหรับสินค้าและหยิบถุงที่มีเครื่องประดับผม หลิง อี้หราน ไม่ได้พูดอะไรเพื่อประท้วงเพราะเธอเข้าใจว่านี่เป็นของขวัญจากใจของเขาถ้าเธอปฏิเสธก็อาจจะทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ“ไปซื้อเสื้อผ้าและรองเท้ากัน” เขาพูดราวกับว่าเขากำลังสนุกสนานกับการเลือกซื้อของ“แต่ฉันมีรองเท้าแล้ว เราไม่จำเป็นต้องซื้อเพิ่มก็ได้”“แต่ฉันอยากเห็นเธอแต่งตัวสวย ๆ ผู้หญิงเคยมีคำพูดที่ว่าผู้ชายเป็นฝ่ายหาเงินให้ผู้หญิงใช้ใช่ไหม? คราวที่แล้วเธอยังเคยซื้อเสื้อผ้ากับรองเท้าให้ฉันเลย”โอเค เธอไม่มีอะไรจะหักล้างคำพูดพวกนี้ของเขาเธอเพียงแต่กังวลว่าเขาจะทุ่มซื้อแบรนด์หรูพวกนั้น เธอจึงรีบกล่าวว่า “แล้วฉันจะเลือกสิ่งที่ฉันชอบได้ไหม?”“ได้สิ” เขายิ้มเล็กน้อยขณะที่พวกเขาเดินผ่านห้างสรรพสินค้า หลิง อี้หราน ก็พบเสื้อผ้าและรองเท้าที่เธอชอบเธอลองสวมแล้วคิดว่ามันดูดี นอกจากนี้ราคาก็ไม่แพงเช่นกันตอนนี้เธอกำลังอยู่ในชุดกระโปรงยาวสีเบจ ราวกับว่าเธออยู่ในวันหยุดฤดูร้อน และเธอยังสวมรอ
เธอจ้องมองเขาอย่างแปลกใจ “มีอะไรเหรอ?”เขาเม้มริมฝีปาก สายตาของเขาเริ่มชัดเจนมายิ่งขึ้น เขายิ้มและกล่าวว่า “ไม่มีอะไร ไปเปลี่ยนชุดเถอะ” อี้ จิ่นหลี จึงปล่อยมือออกหลังจากที่หลิง อี้หราน เข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว อี้ จิ่นหลี ก็หลับตาลงครู่หนึ่ง เมื่อเขาลืมตาขึ้นอีกครั้ง ความปรารถนาในสายตาของเขาก็จางหายไปก่อนหน้านี้เขารู้สึกต้องการเธอทันทีทันใด!ความอยากของเขาที่มีต่อเธอดูเหมือนจะหมดไปเร็ว ๆ นี้ ตอนนี้เขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย มันคงยากสำหรับเธอที่จะยอมให้เขาอยู่ใกล้ ดังนั้นเขาจึงไม่อยากเสี่ยงที่จะทำให้เธอหวาดกลัวเธอเป็นเหมือนสัตว์ตัวน้อย ๆ ที่ระมัดระวัง ตื่นตัวและขี้กลัว ทุกย่างก้าวของเธอใช้ความระมัดระวังอย่างมาก เขาต้องใช้ความอดทนรอให้ความหวาดระแวงในใจของเธอที่มีต่อเขาหายไป และรอให้เธอเรียนรู้ที่จะพึ่งพาเขาเป็นทางเดียวเท่านั้นที่เธอจะสามารถตกหลุมรักเขาได้ และเธอจะไม่วันทิ้งเขาไป!เขาต้องอดทน… อดทน…เพียงเพราะเขาต้องการได้รับความรักจากเธอ!เมื่อหลิง อี้หราน เปลี่ยนเสื้อผ้าและรองเท้ากลับชุดเดิมของเธอ เธอจึงออกมาจากห้องลองเสื้อผ้าเพื่อกลับมาหาอี้ จิ่นหลี เขาก้มศีรษะลงเล็กน
สิ่งที่หยาน ฟางฟาง ไม่เคยคาดคิดก็คือผู้หญิงที่เธอคิดว่าจะเป็นคนบ้า ๆบอ ๆ กลับไม่ได้พูดอะไรแม้แต่คำเดียว เธอเพียงมองดูอย่างสงบนิ่ง แต่ผู้ชายที่เธอสนใจกลับกล่าวออกมาก่อน “ไปให้พ้น!”หยาน ฟางฟาง เบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อ นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนใช้คำแบบนี้กับเธอ“คุณ…” ใบหน้าของหยาน ฟางฟาง แดงขึ้นจากความอับอาย ในขณะที่อี้ จิ่นหลี ดึงหลิง อี้หราน เข้าไปในลิฟต์หยาน ฟางฟาง อยากจะตามพวกเขาเข้าไปในลิฟต์ แต่เมื่อเธอเห็นสายตาเย็นชาของอี้ จิ่นหลี มองมาที่เธอ ร่างกายของเธอก็สั่นเทาและราวกับว่ามีเถาวัลย์มารัดเท้าของเธอไว้ เธอไม่สามารถเคลื่อนไหวได้หลังจากที่ประตูลิฟต์ปิดลง เพื่อนของหยาน ฟางฟาง ซุน เฟยหยาน ก็ไม่นิ่งเงียบอีกต่อไป “ผู้ชายคนนั้นมีรสนิยมที่ห่วยมาก เขาเคยเรียนเรื่องมารยาทในการพูดบ้างไหม!”หยาน ฟางฟาง กัดฟันด้วยความคับแค้นใจ เธอไม่เคยถูกใครปฏิเสธมาก่อน เธอเป็นเหมือนอัญมณีล้ำค่าในสายตาคนอื่นเสมอ เธอไม่เคยได้รับการปฏิบัติที่เลวร้ายแบบนี้!เธอมองไปที่ลิฟต์ที่กำลังมุ่งหน้าลงไปก่อนที่จะหยุดอยู่ที่ชั้นหนึ่ง เธอรีบดึงซุน เฟยหยาน ขึ้นลิฟต์อีกตัวไปที่ชั้นหนึ่งเช่นกัน พวกเขารีบวิ่งข้ามไปเห็นทั้
แค่ก! เธอแทบจะสำลักน้ำลาย ‘เขา... โทรหาหัวหน้าตำรวจจราจรโดยตรงหรือเปล่า? ฉันไม่คิดว่าหลายคนในเมือง เฉิน จะสามารถทำแบบนี้ได้’เมื่อไฟสีแดงเปลี่ยนเป็นสีเขียว อี้ จิ่นหลี ยังคงขับรถต่อไป คราวนี้หลิง อี้หราน เริ่มสังเกตเห็นรถที่อี้ จิ่นหลี กล่าวถึงผ่านกระจกแม้ว่าจะมีรถไม่กี่คันระหว่างพวกเขา แต่ก็มีรถที่คอยติดตามพวกเขาอยู่ทันใดนั้น หลิง อี้หราน ก็เห็นรถตำรวจขับเข้ามา เขาบังคับให้รถคันนั้นจอดข้างถนน จากนั้นตำรวจสองคนก็ลงจากรถ... หลิง อี้หราน มองไม่เห็นอะไรเลยจากกระจกด้านข้าง‘รถตำรวจคันนี้ถูกส่งมาจากหัวหน้าตำรวจเหรอ?’ หลิง อี้หราน รู้สึกตัวสั่นอย่างเปิดเผย เธอเริ่มเข้าใจเพิ่มเกี่ยวกับอิทธิพลของอี้ จิ่นหลี ในเมือง เฉินภายใต้การจ้องเขม็งของตำรวจจราจร หยาน ฟางฟาง หยิบบัตรประจำตัวและใบขับขี่ของเธอออกมาอย่างไม่เต็มใจ เธอสงสัยว่าทำไมเธอถึงได้โชคร้ายเธอจำได้ว่าไม่ได้ทำผิดกฎจราจร แล้วทำไมเธอถึงถูกตำรวจดึงตัวไป! รถที่เธอติดตามอยู่ตอนนี้ก็หายไปแล้ว!แต่เธอได้ขอให้เฟยหยานถ่ายรูปรถคนนั้นเอาไว้ก่อนหน้านี้ เธอแค่ต้องการสอดแนมไปรอบ ๆ เพื่อดูว่าใครเป็นเจ้าของรถคันนั้นหลังจากที่ตำรวจจากไป หยาน ฟ
แม้จะไม่ได้คำนึงถึงตัวตนของเขา แต่เพียงแค่รูปลักษณ์ภายนอกของเขาเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอสำหรับผู้หญิงมากมายที่มารอเข้าแถวแล้ว อย่างไรก็ตามคำตอบของเธอก็ทำให้แววตาของเขาผิดหวัง “พี่ไม่รู้สึกหึงเลยเหรอ?” “หึงเนี่ยนะ?” เธอตะลึง เขาจ้องมองเธอราวกับว่าเขาต้องการมองเธอให้ทะลุปรุโปร่ง หลังจากนั้นไม่นาน ในที่สุดเขาก็ยอมรับความเป็นจริงบางอย่างและถอนหายใจ “พี่ใจร้าย ผมจะมีความสุข ถ้าพี่บอกว่าพี่หึงผม” หลิง อี้หรานกัดริมฝีปากล่างของเธอ ‘หึงเหรอ?... ก่อนหน้านี้ ตอนที่ผู้หญิงคนนั้น ที่ชื่อเยียน ฟางฟาง เข้าหาอี้ จิ่นหลี ในขณะที่ดูเหมือนว่าเธอไม่มีปัญหาอะไรเลยในการเอาชนะเขา ฉันควรหึงเหรอ? เธอมองฉันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม...’ เธอก็ไม่รู้คำตอบเช่นกัน ราวกับว่าในขณะนั้นเธอไม่ได้นึกถึงเรื่องหึงหวงเลย เธอรู้เพียงว่าอี้ จิ่นหลีไม่มีทางยุ่งกับผู้หญิงคนนั้นแน่นอน เป็นเพราะเธอเชื่อว่า... อี้ จิ่นหลี เป็นของเธอหรือเปล่า? เธอมีความเชื่อใจต่ออี้ จิ่นหลีโดยไม่รู้ตัว… ความสัมพันธ์พัฒนาขึ้นมากแล้วอย่างนั้นหรือ? ความคิดนั้นทำให้หลิง อี้หรานแอบตกใจ “อี้หราน เมื่อไหร่พี่จะหึงผ
แล้วเธอก็เกิดนึกถึงเกี่ยวกับเรื่องนี้ขึ้นมา ตู้เสื้อผ้าของเธอในตอนนั้นมีเพียงชุดทำงานและเสื้อผ้าแบบที่เซียว จื่อฉีชอบ เธอแทบจะไม่มีเสื้อผ้าที่เธอชอบเลย ดูเหมือนว่าที่ผ่านมาเธอไม่ได้ทำอะไรหลาย ๆ อย่างเพื่อตัวเอง เวลาส่วนใหญ่เธอจะยุ่งอยู่กับการพยายามเอาใจคนอื่น “ผมน่าจะรู้จักพี่เร็วกว่านี้นะ” อี้ จิ่นหลีพึมพำ ถ้าเขารู้จักเธอมาก่อนบางทีพวกเขาอาจจะเริ่มต้นใหม่ได้ดีกว่านี้ เธอไม่จำเป็นต้องรับโทษจำคุก ถึงสามปีและเขาก็ไม่จำเป็นต้องกลัวความจริงบางอย่างที่เธออาจค้นพบ หลิง อี้หรานรู้สึกว่าการจ้องมองของอี้ จิ่นหลีมีหลายอารมณ์ที่เธอไม่เข้าใจ “เอาล่ะ ไปกันเถอะ” เขาจับมือเธอ แล้วพวกเขาก็ลงไปที่ชั้นล่าง ในขณะที่เธอกำลังไปตรวจสุขภาพ เธอต้องอดอาหารจนกว่าจะทำอะไรที่โรงพยาบาลเสร็จเรียบร้อย อี้ จิ่นหลีเดินนำหลิง อี้หรานไปที่รถ เขาสังเกตเห็นว่าเธอใช้ผ้าผูกผมที่เขาซื้อให้เมื่อวานนี้ มันเป็นโบว์รัดผมสีดำธรรมดา ๆ แต่มันดีกว่าแบบที่เธอใช้เมื่อวานตรงที่ยางรัดผมสีขาวด้านในมันหลุดออกมาแล้ว มันทำให้เขารู้สึกสบายใจขึ้นมาก เธอเป็นคนสำคัญสำหรับเขาแต่เขาไม่เคยสังเกตเรื่องนี้มาก่อนเลยหรือ? ความ
เมื่อมาถึงบริเวณวีไอพีก็มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอยู่ สิ่งที่หลิง อี้หรานต้องทำคือ ทำตามพยาบาล หลิง อี้หรานตามพยาบาลไปเจาะเลือด เอ็กซเรย์ และไปอัลตร้าซาวด์ร่วมกับคนอื่น ๆ อี้ จิ่นหลีรอหลิง อี้หรานอย่างอดทนในห้องรับรองวีไอพี ขณะที่หลิง อี้หรานเดินตามพยาบาลไปตามแผนกต่าง ๆ เธอก็เห็นคิวซึ่งยาวเหยียด พยาบาลอธิบายให้เธอฟังว่า คนเหล่านี้เป็นคนจากองค์กรอื่นที่มาตรวจสุขภาพที่นี่ ดังนั้นจึงค่อนข้างแออัด ขณะที่หลิง อี้หรานเดินตามพยาบาลไปที่ห้องอัลตราซาวนด์ ห้องอื่น ๆ สองสามห้องนั้นมีคิวยาวมาก แต่พยาบาลก็พาหลิง อี้หรานไปที่ประตูอีกบานที่ไม่มีคิวอยู่ด้านนอก “อี้หราน!” ทันใดนั้นก็มีเสียงเรียกชื่อของหลิง อี้หราน หลิง อี้หรานหันกลับมาเพื่อดูว่าเป็นใคร เธอเห็นกวาน ลี่หลี่เข้าคิวอยู่ หลิง อี้หราน ถึงกับผงะ เธอไม่คาดคิดว่าจะได้พบกับ กวาน ลี่หลี่ที่นี่ ‘เธอมาตรวจสุขภาพด้วยเหรอ? นั่นหมายความว่า... ‘ หลิง อี้หรานมองไปที่คิวของกวาน ลี่หลี่เพื่อมองใบหน้าที่คุ้นเคยจากสำนักงานกฎหมายที่เธอเคยทำงาน อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น อดีตเพื่อนร่วมงานของเธอจากสำนักงานกฎหมายแห่งนั้นมาที่นี่เพื่อตรวจสุข