พระเจ้า เขารู้บ้างไหมว่าคำพูดของเขาทำให้ชวนนึกภาพตาม?“พี่อยากสัมผัสผมไหม?” เสียงของเขาและท่าทางที่เขาเอียงคางไปด้านข้างหลังเล็กน้อย ดูเหมือนเป็นการยั่วยวนที่รุนแรง“ไม่... ไม่ล่ะ ขอบคุณ...” หลิง อี้หราน กล่าวตะกุกตะกัก เธอถึงความดันโลหิตที่พุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง“อย่างนั้นเหรอ?” เขายิ้มเล็กน้อย แม้ว่าจะมีความผิดหวังอยู่บนใบหน้าก็ตาม ทันใดนั้นเขาก็เปลี่ยนเรื่องและกล่าวว่า “ยังไงก็ตาม พี่มีวันหยุดช่วงบ่ายวันเสาร์ใช่ไหม?”“ใช่ ทำไมเหรอ?” เธอ ถาม“บ่ายวันเสาร์นี้ทำตัวให้ว่าง ผมจะพาพี่ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล” อี้ จิ่นหลี กล่าว“ตรวจร่างกาย?” หลิง อี้หราน รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย“พี่ไม่ได้รับการตรวจร่างกายมาตั้งหลายปีแล้ว ดังนั้นไปตรวจร่างกายในวันเสาร์นี้ มันจำเป็นที่ต้องตรวจร่างกายประจำปี” เขากล่าวเธอเม้มริมฝีปากแล้วพยักหน้า “ก็ได้” เมื่อตอนเธอทำงานในสำนักงานกฎหมาย บริษัทของเธอเคยจัดให้มีการตรวจร่างกายให้กับพนักงาน อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้รับการตรวจร่างกายมาเกือบสี่ปีนับตั้งแต่ถูกจำคุกเมื่อคิดดูแล้ว ไม่เสียหายอะไรถ้าจะเข้ารับการตรวจเช็คร่างกายในตอนกลางคืน หลิง อี้หราน กำลังจะเข้าน
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะปฏิเสธ เมื่อหลิง อี้หราน รู้สึกตัว เธอก็นอนอยู่บนเตียงกับอี้ จิ่นหลี แล้วหลิง อี้หราน ถอนหายใจ ‘เอาล่ะ เรามานอนด้วยกันเถอะ’ ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่เคยนอนด้วยกันมาก่อนเธอนอนอยู่บนเตียง แต่ยังไม่รู้สึกง่วงนอนเพราะการมีอยู่ของเขาบนเตียงเดียวกันดังนั้นหลิง อี้หราน จึงได้หาเรื่องชวนคุย “ทำไมคุณถึงยังเรียกฉันว่าพี่สาวล่ะ?”“พี่ไม่ชอบให้ผมเรียกแบบนั้นเหรอ?”เธอลังเล “ไม่เชิงหรอก ฉันแค่คิดว่า... เอ่อ มันดูแปลกไปหน่อยที่เรียกฉันแบบนั้นตอนเราคบกัน” ถ้าคนนอกที่ไม่รู้จักความสัมพันธ์ของพวกเขาได้ยินเขาเรียกเธออย่างนั้น พวกเขาอาจคิดว่าเธอเป็นพี่สาวของเขาแต่เธอก็เคยชินกับมันแล้ว เพราะเขาก็เรียกเธอแบบนั้นมาตั้งแต่ต้น“หรือให้ผมเรียกพี่ว่าอี้หรานต่อหน้าคนอื่น? แล้วเรียกว่าพี่... ตอนระหว่างผมอยู่กับกับพี่” เขากล่าว“คุณ... ดูเหมือนคุณจะชอบเรียกฉันว่าพี่นะ” เธอกล่าว“ใช่ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่มีคนขอให้ผมเรียกเธอว่าพี่”จู่ ๆ เธอก็รู้สึกเขินอาย“ตอนผมเรียกพี่ว่าพี่ มันเหมือนกับว่ามีสายสัมพันธ์ระหว่างเราอยู่ตลอดเวลา” เขากล่าวความสงสัยปรากฏขึ้นในดวงตาของเธอ ขณะที่เธอไม่เข้าใจ
...หลิง อี้หราน คิดว่าเธอจะนอนไม่หลับถ้ามีอี้ จิ่นหลี นอนอยู่ข้าง ๆ เธอ แต่เธอก็หลับไปทันทีที่หลับตาราวกับว่าการปรากฏตัวของเขาทำให้เธอรู้สึกสบายใจเมื่อเธอตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้น หลิง อี้หราน เห็นอี้ จิ่นหลี ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาว เขากำลังติดกระดุมที่แขนเสื้อ และเดินเข้ามาหาเธอ “ตื่นแล้วเหรอ?”“อื้ม” เธอกล่าวด้วยใบหน้าแดงเล็กน้อย เธอยังไม่ได้ล้างหน้าหรือแปรงฟัน แถมผมของเธอก็ยุ่งเหยิงอีกด้วย“เมื่อคืนพี่นอนหลับสบายดีไหม? ผมนอนหลับฝันดีนะ” เขากล่าวแล้วก้มลง มือของเขาวางอยู่บนขอบเตียง ดวงตาสีเข้มของเขามองตรงเข้าไปในดวงตาของเธอการจ้องมองของพวกเขาเกือบอยู่ในระดับสายตาเดียวกัน หลิง อี้หราน ก็รู้สึกเสียดุลทันทีเธอเอนตัวไปข้างหลังโดยไม่รู้ตัว เพื่อเว้นระยะห่างจากเขา แต่มือของเขากลับคว้าหลังของเธอเอาไว้ ทำให้ระยะห่างระหว่างพวกเขาใกล้กันมากขึ้นกว่าเดิม“พี่นอนไม่หลับเหรอ พี่สาว?” เขาถามขณะเลิกคิ้ว"ฉัน... ฉันหลับสบายดี... " เธอตอบด้วยอาการตะกุกตะกักเล็กน้อย“เยี่ยม!” เขากล่าวและจูบที่แก้มของเธออย่างเป็นธรรมชาติ “ลงไปกินอาหารเช้านะ ถ้าพี่อาบน้ำเสร็จแล้ว”“โอเค” เธอตอบรับด้วยใบหน้าแดง
ตอนนี้มีผู้ชายอีกคนต้องการให้เธอผูกเน็คไทให้เขา เธอจะอยู่กับเขาได้นานแค่ไหน?หลิง อี้หราน ไม่รู้ แม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะชอบกัน และเขาไม่สนใจถึงแม้ว่าเธอจะมีลูกไม่ได้ แต่เธอก็ไม่กล้าคิดถึงอนาคตของพวกเขาด้วยกันพวกเขามีความแตกต่างกันมาก แม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะคบกัน แต่พวกเขาจะมีอนาคตร่วมกันได้เหรอ?“เป็นอะไร?” เสียงของเขาแทรกเข้ามาในความคิดเธอ“ไม่มีอะไร ก้ม... ก้มลง” เธอกล่าวมันค่อนข้างยากเพราะความสูงต่างกันเขาก้มลงอย่างเชื่อฟัง ใบหน้าของพวกเขาอยู่ใกล้กันเธอค่อย ๆ จับคอเสื้อของเขาตั้งขึ้น จากนั้นก็เอาเน็คไทสวมไว้ที่คอของเขา แล้วเริ่มผูกมันให้เขา“พี่รู้อะไรไหม? ตอนนี้ผมฝากชีวิตไว้ในมือพี่แล้วนะ” เสียงของอี้ จิ่นหลี ดังขึ้นเบา ๆนิ้วเรียวยาวของหลิง อี้หราน หยุดกะทันหัน ดวงตารูปอัลมอนด์ของเธอจับจ้องไปที่ใบหน้าที่อยู่ใกล้กับเธอ“ถ้าพี่อยากจะฆ่าผมตอนนี้ ก็แค่ดึงเน็คไท” เขายิ้มอย่างอ่อนโยน รอยยิ้มของเขามีเสน่ห์และสง่างาม “ผู้หญิงคนเดียวที่ผูกเน็คไทให้ผมได้มีแค่พี่ ไม่มีใครอีก”เมื่อหลิง อี้หราน ไปถึงร้านอาหารเล็ก ๆ รอยยิ้มของอี้ จิ่นหลี ยังอยู่ในใจของเธอ เช่นเดียวกับคำพูดของเขา... ไม
แน่นอนว่าสิ่งที่เขาพูดต่อไปเป็นการยืนยันการคาดเดาของเธออย่างลับ ๆ“แล้วนี่ล่ะ? เราไม่อยากจะมีปัญหานะ คุณควรคืนเงินให้เราสำหรับค่าอาหารยี่สิบกล่อง พร้อมค่าเสียหายห้าพันดอลลาร์ พวกเราบางคนได้เริ่มกินอาหารที่คุณเอามาให้ไปแล้ว ถ้ามีแมลงอยู่ในกล่องอาหารที่เหลือ ใครจะไปรู้ได้ล่ะ?”เมื่อชายคนนั้นพูดจบ คนอื่น ๆ ก็ลุกขึ้นมาล้อมหลิง อี้หราน พวกเขาพยายามกดดันหลิง อี้หรานหลิง อี้หราน มองไปรอบ ๆ พวกเขาอยู่ในพื้นที่กึ่งเปิดโล่งที่ถูกเช่าสำหรับการถ่ายทำ มีกล้องวงจรปิดอยู่ทางด้านหน้าซ้ายจากจุดที่พวกเขายืนอยู่ในตอนนี้ แต่เธอก็ไม่รู้ว่ากล้องวงจรปิดใช้ได้อยู่ไหมแฟน ๆ บางคนถูกปิดกั้นด้วยประตูและนั่งยอง ๆ อยู่ทางข้างหน้า บางคนกำลังพักผ่อนในขณะที่คนอื่น ๆ ถือโทรศัพท์ขึ้นเพื่อดูว่าพวกเขาสามารถมองเห็นไอดอลของพวกเขาได้หรือไม่“เอาล่ะ มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพนักงานส่งอาหาร ให้ฉันคุยกับหัวหน้าของฉันเกี่ยวกับเรื่องนี้ก่อนนะคะ” หลิง อี้หราน กล่าวขณะที่เธอคลำหาโทรศัพท์ของเธอ เธอโทรหาโจว เชียนหยุน เพื่อบอกเธอเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากได้ยินเรื่องราวที่เกิดขึ้น โจว เชียนหยุน กล่าวว่า “กล
เธอไม่ต้องการให้ร้านอาหารเล็ก ๆ ที่พี่โจวอุทิศตนให้ ต้องมาวุ่นวายกับคนเหล่านี้บางทีมันอาจจะเป็นสิ่งที่เรียกว่า ‘ความรู้สึกยุติธรรม’ ในร่างกายของเธอที่ลุกขึ้นมาอีกครั้ง แม้ว่าท้ายที่สุดแล้ว เธอไม่ได้เป็นทนายความด้วยความหวังว่าจะได้รับความยุติธรรมหรือไม่?เมื่อเธอพูดจบ ใบหน้าของผู้ชายคนนั้นก็แสดงออกอย่างน่ากลัว ส่วนคนหนึ่งมองไปรอบ ๆ ด้วยความหวาดกลัวขณะที่หลิง อี้หราน กำลังจะจากไป ทันใดนั้นคน ๆ หนึ่งก็คว้าแขนของหลิง อี้หราน ไว้และพยายามห้ามไม่ให้เธอออกไปชายคนนั้นดึงอย่างแรงจนทำโทรศัพท์ของหลิง อี้หราน หล่นและตกลงไปที่พื้นใครบางคนเห็นหน้าจอโทรศัพท์ของเธอว่ามันกำลังบันทึกเสียงอยู่ และร้องด้วยความโกรธว่า “เธอกำลังบันทึกเสียงอยู่ บอส!”“เวร คุณกล้าดียังไงถึงทำแบบนี้?” หนึ่งในทีมงานโกรธมาก เขายกมือขึ้นจะตีหลิง อี้หราน โดยลืมไปว่าเขากำลังเปิดเผยสิ่งที่ทำอยู่ให้กับแฟน ๆ ของนักแสดงที่อยู่ ๆ รอบตัวเขาทันใดนั้นก็มีเสียงร้องด้วยความประหลาดใจอยู่รอบ ๆ หลิง อี้หราน หลับตาโดยไม่รู้ตัวและยกมือขึ้นเพื่อพยายามขัดขวางมือของเขาที่จะตีเธอเสียงร้องด้วยความประหลาดใจดูเหมือนจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย มีอา
“เกิดอะไรขึ้นที่นี่?” กู้ ลี่เฉิน ไม่ได้ถามคนอื่น เขาถามเพียงแค่หลิง อี้หรานราวกับว่าเขาจะเชื่อในสิ่งที่เธอพูดเท่านั้น“หนึ่งในกล่องอาหารที่ฉันเอามาส่งให้พวกเขามีแมลงอยู่ในนั้น พวกเขาขอให้ฉันไม่เรียกเก็บเงินค่าอาหารทั้งหมดในวันนี้ และขอให้ร้านอาหารจ่ายค่าชดเชยให้พวกเขาห้าพันดอลลาร์ ฉันคิดว่าถ้าฝากเรื่องนี้ไว้กับตำรวจจะดีกว่า แต่พวกเขาพบว่าฉันกำลังบันทึกเสียงการสนทนาทางโทรศัพท์ เลยเกิดความขัดแย้งขึ้นค่ะ” หลิง อี้หราน กล่าว“บันทึกเสียง?” กู้ ลี่เฉิน เลิกคิ้วเล็กน้อย “ผมขอฟังเสียงบันทึกได้ไหม?”เมื่อพวกเขาได้ยินกู้ ลี่เฉิน ขอฟังเสียงบันทึก ใบหน้าของพวกเขาก็ซีดลง เมื่อกู้ ลี่เฉิน ฟังเสียงบันทึกเสร็จแล้ว ใบหน้าของเขาก็บึงตึง ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าข้อโต้เถียงที่เกิดขึ้นเพราะว่าทีมงานบางคนพยายามขู่กระโชกเธอ ซึ่งนำไปสู่ความขัดแย้งผู้กำกับ, ผู้ช่วยผู้กำกับ, และผู้ช่วยฝ่ายผลิตที่อยู่กับกู้ ลี่เฉิน ก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ใบหน้าของพวกเขาแสดงออกอย่างน่ากลัวหากเรื่องนี้หลุดออกไป ทีมงานภาพยนตร์จะต้องอับอาย!พวกเขาสามารถสั่งสอนคนเหล่านี้ได้ในภายหลัง สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือ... “เป็นคว
อดีตแฟนสาวของเจ้าชายแห่งวงการบันเทิงมีมาจากทุกสายอาชีพ แน่นอนว่าแฟนสาวเหล่านั้นจบลงด้วยผลลัพธ์ดีและไม่ดียังมีผู้หญิงหลายคนที่ต้องการเป็นแฟนกับกู้ ลี่เฉินบางคนถึงกับกล่าวบนอินเทอร์เน็ตว่าแม้ว่ากู้ ลี่เฉิน จะสูญเสียสถานะเจ้าชายและยากจน แต่พวกเขาก็จะติดตามเขาด้วยความบริสุทธิ์ใจ เขาดูดีมาก!ขณะที่ผู้คนรอบข้างเห็นกู้ ลี่เฉิน ลงไปย่อเข่าหนึ่งข้างเพื่อผูกเชือกรองเท้าของผู้หญิง ไม่มีอะไรนอกจากเสียงหายใจ ทุกคนต่างตกตะลึงเมื่อกู้ ลี่เฉิน ผูกเชือกผูกรองเท้าเสร็จแล้ว เขาก็ลุกขึ้นยืนอย่างไม่เต็มใจ“ขอบคุณ…ค่ะ” หลิง อี้หราน กล่าวด้วยความอายเล็กน้อย เธอก้มหน้าลงและรีบออกไป ในร้านกาแฟที่พวกเขาถ่ายทำ หลิง ลั่วอิน มองผ่านหน้าต่างออกมา เล็บที่ตกแต่งอย่างประณีตของเธอกำลังจมลงในฝ่ามือของเธอทำไม... หลิง อี้หราน ถึงอยู่ตรงหน้าลี่เฉินอีกครั้ง? ลี่เฉินถึงกับริเริ่มที่จะย่อเข่าข้างหนึ่งต่อหน้าหลิง อี้หรานมันดู... เหมือนกับการยอมแพ้!ความหึงหวงที่ฝังแน่นอยู่ในอกของเธอเธอต้องไม่ให้ลี่เฉินรู้ว่าหลิง อี้หราน เป็นผู้หญิงที่เขาตามหา! เธอไม่อยากสูญเสียลี่เฉิน ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม!ข้างนอก หลังจากที่หลิง