การไปเยี่ยมหลุมศพเป็นเรื่องยุ่งยาก นอกจากนี้เมื่อเวลาผ่านไปหลุมฝังศพก็เริ่มแตก ต้องเสียเงินมหาศาลในการซ่อมแซม ดังนั้นจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่ามากในการย้ายหลุมฝังศพไปยังสุสานที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม หลิง อี้หราน ต้องเข้าคุก ดังนั้นความคิดจึงต้องหยุดลง หลังจากรับโทษแล้ว หลิง อี้หราน ก็เหลือเงินไม่มาก ดังนั้นจึงไม่เพียงพอ ไม่เพียงแต่เธอไม่สามารถจ่ายค่าสถานที่ในสุสานได้เท่านั้น แต่เธอยังไม่สามารถจ่ายค่าแรงให้คนงานที่ช่วยย้ายหลุมฝังศพได้อีกด้วย เมื่อหลิง อี้หราน มาถึงเชิงเขา เธอก็เห็นว่าชาวบ้านตั้งเคาน์เตอร์ลงทะเบียนไว้ใต้เต็นท์ชั่วคราว หลายคนกำลังมาและไปเยี่ยมสุสาน เมื่อถึงคิวของหลิง อี้หราน เธอก็ให้หมายเลขหลุมศพแม่ของเธอ เธอตกใจมากคนที่จัดการเคาน์เตอร์ลงทะเบียนตอบทันทีหลังจากได้ยินหมายเลขโดยพูดว่า “หลุมศพนั้นถูกย้ายแล้ว คุณยังมาที่นี่ทำไม?” “ย้ายแล้วงั้นเหรอ?” หลิง อี้หราน ตะลึง “ใช่แล้วโดยชายที่ชื่อ หลิง กว๋อจื้อ ฉันคิดว่าเขาน่าจะเป็นสามีของผู้เสียชีวิต” คนที่เคาน์เตอร์มองหาข้อมูลของชายคนนั้น จู่ ๆ หลิง อี้หรานก็นึกขึ้นได้ว่า พ่อของเธอใช้เรื่องย้ายหลุมศพเพื่อขอให้เธอเดินทางกลับ
หลังจากนั้นไม่นานเพื่อนบ้านที่อยู่ข้าง ๆ ก็บอกให้เธอรู้ว่าพ่อและแม่เลี้ยงของเธอไปพักร้อนและไม่มีใครอยู่เลย ส่วนหลิง ลั่วอิน ตามที่เพื่อนบ้านบอกเธอซื้อบ้านหลังใหญ่ขึ้นและแทบจะไม่ได้กลับมาที่บ้านนี้เลย เมื่อหลิง อี้หราน ได้ยินแบบนั้นเธอก็รู้ว่าพ่อและแม่เลี้ยงของเธอตั้งใจทำแบบนี้ พวกเขารู้ว่าวันนี้เธอจะต้องไปเยี่ยมหลุมศพของแม่เธอ จึงวางแผนที่จะออกไปในเวลานี้ ‘ห้าสิบล้าน’ ขนหัวเธอลุกเมื่อนึกถึงคำพูดขอของพ่อ ด้วยสถารณ์ตอนนี้เธอไม่มีทางผลิตเงินห้าสิบล้านให้พ่อได้! หลังจากที่ หลิง อี้หราน บอกลาเพื่อนบ้านแล้วเธอก็โทรหา หลิง ลั่วอิน “เธออยู่ไหน? ฉันต้องการจะพบเธอ” “ฉันขอโทษนะ แต่ช่วงนี้ฉันยุ่งมาก” หลิง ลั่วอิน ตอบแบบเฉยชา “ฉันอยากถามเธอแค่คำถามเดียวว่าพ่อย้ายหลุมศพของแม่ฉันไปที่ไหน?” หลิง อี้หรานถาม “ฉันไม่รู้” น้ำสียงของ หลิง ลั่วอิน เต็มไปด้วยการเยาะเย้ย “แล้วพวกเขาไปพักร้อนที่ไหนกัน? เธอน่าจะรู้” “โอ้ น่าเศร้าจริง ๆ เพราะฉันไม่รู้ ทำไมไม่ให้ฉันบอกกับพวกเขาว่าเธอมาตามหาพวกเขาหลังจากที่พวกเขากลับมาล่ะ?” ตอนนี้หลิง อี้หราน ได้ยินเสียงของผู้ชายคนหนึ่งอยู่ในโทรศัพท์ “ลิปสติกสี
ในขณะเดียวกันริมฝีปากอีกคู่ที่ไม่เคยทาลิปสติกมาก่อนเลยก็ปรากฎขึ้นในความคิดของเขาด้วย สีที่เป็นธรรมชาติ โทนสีชมพูอ่อนนั้นดูเป็นธรรมชาติมากจนทำให้รู้สึกว่าเป็นสีปากที่ดีที่สุด “เช็ดมันออกซะ” กู้ ลี่เฉิน พูดอย่างชัดเจน “อะไรนะ?” หลิง ลั่วอิน ไม่เข้าใจในคำพูดที่เขาต้องการจะสื่อ “ผมบอกว่าเช็ดลิปสติกของคุณออกเดี๋ยวนี้” กู้ ลี่เฉิน กล่าว หลิง ลั่วอิน อึ้ง ตอนนี้พวกเขา... อยู่ในระหว่างทางไปงาน เธอแต่งตัวอย่างหรูหราสุด ๆ เพราะต้องการที่จะเจิดจรัสท่ามกลางฝูงมวลชน หากเธอเช็ดลิปสติกออกไปการแต่งหน้าของเธอก็จะไม่น่าดึงดูดใจ จากนั้นเธอก็จะไม่โด่ดเด่นในฝูงชนและกลายเป็นตัวตลกของงานแทน “ตอนนี้เหรอคะ? แต่เรากำลังจะไปถึงงานเลี้ยง...” “ตอนนี้” กู้ ลี่เฉิน ขัดจังหวะเธอ มีการแสดงออกถึงความไม่พอใจในแววตาที่เหมือนนกฟีนิกซ์ของเขา หลิง ลั่วอิน ไม่มีทางเลือกในขณะที่เธอไม่กล้าที่จะขัดใจ กู้ ลี่เฉิน สิ่งที่เธอทำได้คือ กัดริมฝีปากเบา ๆ และหยิบทิชชู่ออกมาเช็ดริมฝีปาก ในทางกลับกัน กู้ ลี่เฉิน หยิบกำไลสีเงินออกมาและมองไปที่มัน เขาใช้นิ้วลูบเบา ๆ และเหมือนกับว่าเขากำลังมองคนรักของเขา ความอ่อนโยนในแววต
อี้ จิ่นหลี รู้ว่าหลิง อี้หราน ไม่ชอบความมืด แม้กระทั่งเวลาเข้านอนเธอก็มักจะเปิดไฟนอน เมื่อก่อนตอนที่พวกเขายังอยู่ในบ้านเช่า เธอสามารถนอนหลับได้โดยที่ปิดไฟได้สักระยะหนึ่ง อย่างไรก็ตามในภายหลังเธอก็กลับมามีนิสัยการเปิดไฟนอนหลับอีกครั้ง เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย เธอไม่ได้อยู่ห้องเหรอ? อย่างไรก็ตามในขณะที่เขากำลังหันไปเขาก็ได้ยินเสียงร้องไห้อยู่ในลำคอ เธออยู่นั่น! เขาหยุดเดินชั่วคราว จากนั้นมือของเขาก็เอื้อมไปที่กำแพงเพื่อเปิดไฟ ดังนั้นแสงจึงสาดเข้าไปในห้อง ทั้งหมดที่อี้ จิ่นหลี ได้มองเห็นก็คือร่างบาง ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ที่มุมห้อง เธอกำลังหมอบโดยหันหลังให้กำแพง ใบหน้าของเธอหลบอยู่ในหัวเข่าและไหล่ของเธอกระตุก เสียงสะอื้นเบา ๆ ที่อัดอั้นมาจากเธออย่างต่อเนื่อง เธอร้องไห้หรือเปล่า? ดวงตาสีดำของเขาหรี่ลงและเขาก็รีบเดินไปหาเธอหมอบลงและมองไปที่เธอ เขาถามว่า “เกิดอะไรขึ้น?” หลิง อี้หราน สะดุ้งกับเสียงของเขา เธอขยับหัวเล็กน้อยเธอเงยหน้าขึ้นและมองเขาด้วยดวงตาสีอัลมอนด์ที่มีคราบน้ำตาของเธอ ตาของเธอแดงและบวมและเธอก็ร้องไห้มาได้ระยะหนึ่งแล้ว ใบหน้าของเธอเปียกไปด้วยน้ำตาแรแสดงออกที่เปาะบางแล
”ใช่” เธอสำลัก แต่เธอก็ไม่รู้ว่าจะเอาเงินห้าสิบล้านเหรียญจากไหนได้อีก ทันใดนั้น อี้ จิ่นหลี หัวเราะเบา ๆ “ผมไม่ต้องการ!” มันทำให้ร่างกายของหลิง อี้หราน แข็งทื่อและทันใดนั้นเธอก็ดูเหมือนลูกบอลที่ไร้ลม แม้ว่าหนทางสุดท้ายของเธอหายไป ใช่ แน่นอนว่าเขาจะปฏิเสธเธอ อะไรที่เธอคิดว่าถ้าเธออยู่กับเขาและยอมทุกอย่างที่เขาขอเขาจะให้เงินเธอห้าสิบล้านเหรียญ? หลิง อี้หราน หัวเราะกับตัวเอง เป็นเพราะเธอคิดว่าเธอมีค่ามากขนาดนั้นเลยเหรอเพราะเธอคิดว่าความสนใจของเขาที่มีต่อเธอมันมีมูลค่าถึงห้าสิบล้านเหรียญเลยเหรอ? หลิง อี้หราน ก้มหัวลงเงียบ ๆ มือของเธอที่เคยจับมือของอี้ จิ่นหลี ก็ดูเหมือนจะสูญเสียแรงกำลังทั้งหมดในขณะที่ปล่อยไป อี้ จิ่นหลี มองไปที่หลิง อี้หราน อย่างมืดมนและหลังจากนั้นครู่หนึ่งก็ลุกขึ้นยืนและพูดว่า “ผมคิดว่าพี่ควรพักผ่อนบ้างจะดีกว่านะพี่สาว ผมจะบอกให้สาวใช้หาอะไรให้พี่กินก่อนเข้านอน” จากนั้น อี้ จิ่นหลี ก็เดินออกจากห้องไปและหลิง อี้หราน ก็ถูกทิ้งให้อยู่ในห้องนั้นคนเดียว มือของ หลิง อี้หราน โอบรอบตัวเองอย่างช้า ๆ แน่นอนว่า... เธอถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวอีกครั้ง กลับกลายเป็นว่าควา
อี้ จิ่นหลี หยิบจานอาหารขึ้นไปหาเธอและวางไว้ตรงหน้าเธอ “พี่สาวถ้าพี่อยากรู้ว่าแม่ของพี่ถูกฝังอยู่ที่ไหนพี่ก็ควรกินมันตอนนี้ดีกว่า” หลิง อี้หราน เงยหน้าขึ้นดวงตาที่เป็นรูปอัลมอนด์สีแดงและบวมของเธอแสดงถึงความประหลาดใจ เขาหมายถึงอะไร? หมายความว่า... “คุณรู้ไหมว่าแม่ของฉันถูกฝังอยู่ที่ไหน?” “ผมจะบอกพี่หลังจากเสร็จสิ้นเรื่องนี้” เขากล่าว เมื่อหลิง อี้หรานได้ยินแบบนี้เธอก็รู้สึกราวกับว่า จู่ ๆ เธอก็มีแรงจูงใจบางอย่าง เธอหยิบอาหารบนถาดและเริ่มกิน อี้ จิ่นหลี ขมวดคิ้ว ตอนนี้เธอกำลังกลืนอาหารเหมือนสัตว์ร้ายและไม่เหมือนกับตัวตนปกติของเธอ อย่างไรก็ตาม มันพิสูจน์ให้เห็นว่าหลุมศพของแม่เธอมีความสำคัญต่อเธอมากเพียงใด อี้ จิ่นหลี ขมวดคิ้วและมองไปที่น้ำตาที่ไหลลงมาบนใบหน้าของอี้หราน ตาของเธอดูแดงขึ้นและบวมมากกว่าตอนที่เขาคุยกับเธอครั้งล่าสุด ดังนั้นในช่วงที่เขาจากไปเธอกลับมาร้องไห้อีกครั้งงั้นเหรอ? “กินช้า ๆ แม้ว่าพ่อของพี่จะฝังแม่ของพี่ไว้ที่ขั้วโลกเหนือหรือใต้ ผมก็จะพาพี่ไปที่นั่น!” อี้ จิ่นหลี กล่าว “ถ้าพี่สำลักพี่ก็จะเสียเวลามากขึ้นเท่านั้น” หลิง อี้หราน ตัวสั่น มือของเธอที่ถือต
“พี่ขอเงินฉัน 50 ล้านดอลลาร์ ทำไมพี่ไม่ขอให้ผมช่วยหาว่าแม่ของพี่ฝังอยู่ที่ไหนล่ะ?” เขาถาม เธอตกใจมาก เขาเตือนเธอ เธอช่างโง่จริง ๆ ถึงเธอจะให้เงินพ่อของเธอ 50 ล้านดอลลาร์ พ่อของเธอจะพอใจเหรอ? เขาจะไม่ขออะไรอีกเหรอ? จริงที่อี้ จิ่นหลี พูด แทนที่จะขอเงินเขา 50 ล้านดอลลาร์ ทำไมเธอไม่ขอให้เขาช่วยค้นหาว่า หลุมฝังศพแม่ของเธออยู่ที่ไหน เธอบอกได้เพียงว่า เธอตื่นตระหนก เธอจึงนึกไม่ถึงเรื่องง่าย ๆ เช่นนี้ “พาฉันไปที่นั่นได้ไหม?” หลิง อี้หราน ถามอย่างกังวล เธอจะสบายใจได้ก็ต่อเมื่อเธอแน่ใจว่าแม่ของเธอถูกฝังอยู่ที่ไหน “ไม่ต้องรีบร้อน พี่ต้องพักก่อน งีบสักหน่อยนะ ถ้าพี่ง่วง” อี้ จิ่นหลี กล่าว ถึงอย่างนั้น หลิง อี้หราน ไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะสามารถนอนหลับได้! เธอมองหาเขาอย่างไม่หยุดหย่อน ประมาณ 15 นาทีต่อมา โทรศัพท์ของอี้ จิ่นหลี ก็ดังขึ้น ครู่หนึ่ง อี้ จิ่นหลี ตอบกลับว่า “โอเค เข้าใจแล้ว รอฉันที่นั่น และจัดการทุกอย่างที่ฉันบอกโดยเร็วที่สุด” ด้วยเหตุนี้เขาจึงวางโทรศัพท์ลง เขาลุกขึ้นยืนและพูดกับหลิง อี้หราน ว่า “มากับผมสิ” หลิง อี้หราน ก็ตระหนักขึ้นได้ทันทีว่า เขากำลังจะพาเธอไปที่หลุม
“จากการตรวจสอบของเราพบว่า พ่อของคุณหลิง จ่ายค่าเช่าที่นี่ 3 เดือน”หลังจากนำโลงศพแม่ของเธอมาไว้ เขาได้มาเยี่ยมบ้างในช่วงแรก ๆ และเขาก็ไม่ได้มาอีกเลยตั้งแต่ตอนนั้น เขาไม่ได้ติดต่อกับสุสานหรือเตรียมการใด ๆ เพื่อซื้อที่ฝังศพเลยครับ” เกา ฉงหมิง กล่าว หลิง อี้หราน ก้มหน้าลงและมองไปที่โลงศพตรงหน้าของเธอ พ่อของเธอ... ไม่เคยตั้งใจจะย้ายหลุมศพแม่ของเธอตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เขาทำทั้งหมดนี้เพื่อแบล็กเมล์เธอ เขาอาจจะทิ้งโลงศพไปให้เธอ เมื่อเขาได้รับผลประโยชน์จากเธอมากพอ เขายังสามารถงุบงิบเงินได้ในสุสานอีกเหรอ! เธอสงสัยว่าแม่ของเธอจะรู้สึกอย่างไร ถ้าเธอรู้ว่าผู้ชายที่เธอเคยรักได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไร หลังจากที่เธอเสียชีวิตไป หลิง อี้หราน พบว่ามันเป็นเรื่องที่ตลกและน่าเศร้า จมูกของเธอเจ็บเล็กน้อย แต่คราวนี้น้ำตาของเธอไม่ไหลออกมาอีกเเล้ว บางทีอาจเป็นเพราะก่อนหน้านี้ เธอร้องไห้มากเกินไปจนทำไม่มีน้ำตาให้ไหลออกมาในครั้งนี้ “ขอบคุณนะ” หลิง อี้หราน กล่าวขณะที่เธอเงยหน้าขึ้นมองอี้ จิ่นหลี หากไม่มีเขา เธอไม่มีทางได้ พบอัฐิของแม่ “ถ้าพี่ต้องการขอบคุณผมจริง ๆ พี่อาจจะได้ขอบคุณผมอีกในภายหลัง” อ