“เธอ... เธอให้คนเลียนเสียงฉันแล้วอัดไว้ใช่ไหม? เธอ... เธอมันร้ายกาจ!” คงจื่ออินกล่าว ขณะที่มั่นใจว่าตัวเองจัดการทุกอย่างในตอนนั้นไปแล้ว พวกเขาไม่มีทางเจออะไรจากบันทึกของโรงพยาบาลแน่หลิงอี้หรานแค่พูดขู่ไปอย่างนั้นแหละ!หลิงอี้หรานโพล่งออกมา “ถ้าเป็นเสียงที่เลียนแบบเสียงเธอ เราก็จะหาทางพิสูจน์ลักษณะเสียงได้ คงจื่ออิน วันนี้ที่ฉันกล้าพูดเรื่องนี้เพราะว่าฉันมีหลักฐานมากพอจะพิสูจน์ได้ว่า เธอไม่ใช่คนที่บริจาคไขกระดูก!”เมื่อหลิงอี้หรานกล่าวจบ เธอก็มองเย่เหวินหมิงอีกครั้ง “เย่เหวินหมิง ฉันคิดว่าคุณคิดบัญชีกับพี่โจวก็เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้ตัวเองกับครอบครัว แต่พี่โจวไม่ได้ทำอะไรผิดเลย บางทีคุณน่าจะไม่มีวันไถ่โทษตัวเองกับอาชญากรรมที่คุณก่อกับพี่โจวได้เลย!”หลิงอี้หรานหันหลังหนีและเดินออกจากห้องไปพร้อมกับอี้จิ่นหลี ในขณะเดียวกันลูกน้องของอี้จิ่นหลีก็ตามออกไปด้วยเช่นกันเย่เหวินหมิงเหม่อลอย ในหัวของเขาแสดงภาพของโจวเชียนหยุนที่โดนบังคับให้คุกเข่าลงไป และโดนกดหัวจนแนบติดไปกับพื้นเธอพูดว่า... “เย่เหวินหมิง ฉันไม่เคยคิดเลยว่าจะสามารถเกลียดใครสักคนได้มากขนาดนี้ แต่ฉันจะเกลียดคุณไปตลอดชีว
ไม่อย่างนั้นเขาและเธอคงได้สาปแช่งกันไปจนชั่วนิรันดร์หลังจากที่เย่เหวินหมิงออกจากห้องไป สมาชิกครอบครัวคงทั้งสามคนก็แทบจะลมจับคุณนายคงกล่าวด้วยความประหม่า “เราจะทำยังไงกันดี? ทำไงกันดี? ถ้าเหวินหมิงรู้เข้าว่าคนที่บริจาคไขกระดูกเป็น...” “แม่!” คงจื่ออินรีบกล่าวเพื่อหยุดอีกฝ่ายไว้ทันที “ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น หนูคือคนที่บริจาคไขกระดูกให้เหวินหมิง! มันเขียนไว้ในบันทึกของโรงพยาบาล! แล้วไงถ้าพวกเขาจะมีบันทึกการสนทนา? มันนานมาแล้วนะ ใครจะปลอมขึ้นมาก็ได้!”ฟังดูราวกับว่าคงจื่ออินพยายามโน้มน้าวตัวเองด้วยคำพูดพวกนั้นหลักฐานที่เธอปลอมแปลงไว้ก็เพื่อแสดงว่าเธอเป็นคนที่บริจาคไขกระดูก!โจวเชียนหยุนไม่มีหลักฐานอะไรสักหน่อย!จู่ ๆ คุณนายคงก็ดูเหมือนจะตั้งสติได้และพูดว่า “ใช่ ๆ เป็นลูก! ลูกเป็นคนบริจาคไขกระดูกให้เหวินหมิง!”ใบหน้าของนายท่านคงในตอนนี้ดูเคร่งขรึมมาก เขารู้ว่าเย่เหวินหมิงไม่ได้ฟังความข้างเดียวและเชื่อในสิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นพูด แต่เขาก็ไม่วางใจเช่นกันด้วยนิสัยของเย่เหวินหมิงแล้ว เขาน่าจะตามสืบเรื่องนี้ “จื่ออิน แน่ใจนะว่าโจวหยวนลู่มันออกนอกประเทศไปแล้วจริง ๆ หลังจากได้เงินน่ะ?”
เธอรวบรวมหลักฐานที่เกี่ยวข้องไว้ และตั้งใจว่าจะบอกเย่เหวินหมิงในอีกสองวัน... อีกไม่กี่วันเอง!อีกไม่กี่วัน แต่ก็เกิดเรื่องนี้ขึ้นเสียก่อน!เช้านี้เธอได้รับสายจากอาหยันน้อย และรีบขอให้จินหาว่าเกิดอะไรขึ้นจึงได้รู้ว่าพี่โจวถูกพาตัวมาที่โรงพยาบาลนี้ ไม่รู้ว่าถ้าเธอมาไม่ทันพวกเขาจะทำอะไรพี่โจวบ้าง!“จิน บอกฉันหน่อยสิว่าถ้าเย่เหวินหมิงรักพี่โจวจริง เขาจะทำเรื่องร้ายกาจแบบนี้กับพี่โจวได้ยังไง?” หลิงอี้หรานพึมพำอี้จิ่นหลีกุมใบหน้าของหลิงอี้หรานไว้อย่างอ่อนโยน “ไม่อารมณ์เสียนะ ฉันจะให้คนคอยคุ้มกันพี่โจวเอง อย่างน้อยฉันก็จะไม่ยอมให้เย่เหวินหมิงกับครัอบครัวคงนั่นทำอะไรพี่โจวได้อีก”หลิงอี้หรานกล่าว “ฉันแค่โมโห ทำไมเย่เหวินหมิงถึงไม่มีความเมตตาให้พี่โจวเลย?”ถ้ามีความสงสารสักนิดคนดี ๆ ที่ไหนจะทำเรื่องแบบนั้น“วันนี้เธอก็บอกเรื่องบริจาคไขกระดูกกับเขาแล้ว พอเขารู้ความจริง เขาก็จะเสียใจไปชั่วชีวิตเอง” อี้จิ่นหลีกล่าว“เสียใจ?” หลิงอี้หรานกล่าวเย้ย “แต่เสียใจยังเป็นการลงโทษที่เบาไปสำหรับเขา ดูสิคะว่าเขาทำให้พี่โจวทั้งเจ็บปวดและอับอายมากแค่ไหน! เขาทำลายชีวิตพี่โจวด้วยซ้ำ! ความเสียใจของเขาจะชด
เขาแค่ไม่กล้าเชื่อคำตอบเพราะถ้าเขาเชื่อ เขาก็คงจะต้องถูกประณามตลอดไป‘ถ้า... โจวเชียนหยุนเป็นคนที่บริจาคไขกระดูกให้ฉันจริง ๆ แล้วฉันทำอะไรกับเธอไปตลอดหลายปีที่ผ่านมา?‘ฉันเข้าหาเธอ ทำให้เธอตกหลุมรัก คิดบัญชีแค้นกับเธอ ให้การร้ายกับเธอในชั้นศาล ส่งเธอเข้าคุก และแม้กระทั่งยื่นฟ้องแย่งสิทธิ์การเลี้ยงดูอาหยันน้อยหลังจากที่เธอให้กำเนิดเขามา...’การกระทำอันชั่วร้ายของเขาผุดขึ้นมาทีละอย่างต่อเนื่องกันจนหมดและทำให้เขาตัวสั่นเทาเย่เหวินหมิงนั่งอยู่บนโซฟาในห้องเพรซิเดนทัลสวีทโดยไม่ได้เปิดไฟ เขานั่งอยู่ในความมืดทันใดนั้นกริ่งประตูก็ดังขึ้นเขาตกใจกริ่งประตูดังอีกครั้งและอีกครั้งเย่เหวินหมิงยกมือขึ้นลูบหน้าและเดินไปเปิดประตูมีชายในชุดสูทสีดำยืนอยู่ข้างนอก“คุณเย่ นี่คือสิ่งที่นายหญิงอี้ขอให้ผมส่งให้คุณ” เขากล่าวเย่เหวินหมิงตะลึง “นายหญิงอี้?”“นายหญิงหลิงอี้หรานครับ” เขากล่าวเย่เหวินหมิงแปลกใจ ‘นี่หลิงอี้หราน... แต่งงานกับอี้จิ่นหลีแล้วเหรอ? เธอเลยถูกเรียกว่านายหญิงอี้สินะ?’ ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่สนเรื่องที่หลิงอี้หรานจะมีความสัมพันธ์แบบใดกับอี้จิ่นหลีอยู่แล้ว สิ่งที่เขาสนใจค
เสียงของหมอดังขึ้น และหลังจากหมออธิบายจุดมุ่งหมายที่โทรมา แล้วเสียงคุ้นเคยสำหรับเย่เหวินหมิงก็ดังขึ้น ‘นั่นมัน... เสียงของคงจื่ออิน!’แต่สิ่งที่คงจื่ออินพูดกลับเป็น “โทษทีค่ะ ฉันไม่สนใจจะบริจาคไขกระดูก ฉันแค่ลงทะเบียนไปเล่น ๆ”“แต่ผู้ชายคนหนึ่งกำลังรอให้คุณช่วยชีวิตเขาอยู่นะ คุณแค่ต้องใช้เวลาพักผ่อนเพิ่มเล็กน้อยหลังจากที่บริจาคไขกระดูกไปแล้ว ไม่ได้มีอันตรายอะไร...”หมอพยายามหนักมากด้วยการใช้ทุกอย่างเพื่อจะโน้มน้าวเธอถึงอย่างนั้นคงจื่ออินที่ยังอยู่ในสายก็ยังปฏิเสธ “ฉันไม่อยากบริจาคไขกระดูกจริง ๆ ค่ะ เขาตายไม่ตายก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันสักหน่อย? ฉันต้องบริจาคไขกระดูกแค่เพราะมันเข้าได้กับเขาเหรอคะ? คุณนี่ตลกนะ ใครจะเป็นคนรับผิดชอบถ้ามีอะไรเกิดกับฉันหลังจากบริจาคไขกระดูกไป? คุณเหรอ? หรือว่าสิ่งมีชีวิตครึ่งเป็นครึ่งตายที่รอไขกระดูกนั่นล่ะ?”ทุกคำที่คงจื่ออินกล่าวทำให้ใบหน้าของเย่เหวินหมิงบูดเบี้ยวกลับกลายเป็นว่า ความตายของเขาไม่มีความหมายอะไรกับคงจื่ออินเลย และเธอยังมองเขา... เหมือนเป็นสิ่งมีชีวิตอันน่าสงสารที่รอความอนุเคราะห์จากการบริจาคไขกระดูกของเธอ“คุณคง แน่ใจนะว่าจะไม่พิจารณาเรื
เย่เหวินหมิงมองหน้าจอแล็ปท็อปของตัวเอง ทั้งความตกใจ ตะลึงงัน หวาดกลัว และมีความดิ้นรนขัดแย้งกับความเสียใจอยู่ในดวงตาของเขาเลือดในร่างของเขาราวกับไหลย้อนกลับ ความเจ็บปวดห่อหุ้มไปทุกอณูของร่างกายทั้งหมดที่เขามีคือไฟล์เสียงสองอันนี้และไม่มีหลักฐานอื่นถึงอย่างนั้นเขาก็ได้รับคำตอบในใจแล้ว เขารู้แล้วว่าในตอนนั้นใครคือคนที่ช่วยเขาไว้!‘ทำไม... ทำไมฉันถึงเพิ่งได้มาฟังไฟล์เสียงนี่เอาตอนนี้? ทำไมฉันถึงเชื่อคงจื่ออินอย่างไร้ข้อกังขาในตอนที่เธอมาแสดงตัวต่อหน้าฉัน แล้วบอกว่าเธอเป็นคนบริจาคไขกระดูก?‘ฉันไม่สืบหาข้อมูลเบื้องต้นด้วยซ้ำ!’สิ่งที่โจวเชียนหยุนพูดกับเขาในรถ ผุดขึ้นมาในหัวของเขาอีกครั้ง...“คุณจะเชื่อไหม ถ้าฉันบอกว่าเธอไม่ใช่คนที่ช่วยคุณไว้?”ตอนนั้นเขาตอบไปแบบนั้นได้อย่างไร?เขาบอกว่าเธอใส่ร้ายคงจื่ออินและพยายามสร้างความบาดหมางกันระหว่างเขากับคงจื่ออิน! เขายังพูดด้วยว่า... “ถ้าไม่ใช่คงจื่ออินที่ช่วยฉัน แล้วเป็นเธอหรือไง? ฉันสาบานว่าจะปกป้อง รัก และซื่อสัตย์กับจื่ออินตราบชั่วชีวิต เธอน่ะลืมไปได้เลย!”เขาลากเธอไปหาครอบครัวคงและทำให้เธอคุกเข่ากราบขอขมาด้วยซ้ำ!เย่เหวินหมิงยกมือ
‘อี้หราน...’ โจวเชียนหยุนจำได้ว่าหลิงอี้หรานเข้ามาช่วยเธอไว้ด้วยการบุกเข้ามาในห้องพักฟื้นของคงจื่ออินตอนที่เธอกำลังอับอายมากถ้าไม่มีอี้หรานเธอคงต้องเจ็บปวดกว่านี้แต่ทำไมอี้หรานถึงเข้ามาได้พอดิบพอดีกันล่ะ?เมื่อโจวเชียนหยุนทำหน้างง คุณนายโจวก็บอกว่า “อาหยันน้อยโทรหาอี้หราน ตอนเช้าที่คนของเย่เหวินหมิงพาเขามาส่งที่บ้าน อาหยันน้อยก็เอาแต่ร้องไห้ เขาขอโทรศัพท์แล้วบอกว่าอยากโทรหาน้าอี้หราน”โจวเชียนหยุนมองหน้าลูกชายที่กำลังทำหน้ากังวลสีหน้ากังวลของเด็กสี่ขวบทำให้หัวใจของเธอปวดร้าวทรมาน“อาหยันน้อย แม่ไม่เป็นไร เห็นไหม ตอนนี้แม่ไม่เป็นไรแล้วใช่ไหม?” โจวเชียนหยุนกล่าว“ขอโทษนะฮะ เป็นผมที่ปกป้องแม่ได้ไม่ดีเอง!” เจ้าตัวเล็กก้มหน้าลงอย่างเศร้าหมอง ‘ถ้าผมเป็นผู้ใหญ่ ผมก็คงปกป้องแม่ได้ แม่คงไม่ต้องถูกพาตัวไปแบบนั้น!‘ผมอยากจะรีบโต จะได้ปกป้องแม่จากพวกคนที่มารังแกได้'‘ทำไมพ่อต้องรังแกแม่ด้วย? ทำไมพ่อถึงไม่เชื่อว่าแม่เป็นคนดี?’“วันนี้ลูกก็ปกป้องแม่แล้วนะ ลูกโทรหาน้าอี้หรานและบอกให้น้าตามหาแม่ ลูกทำได้ดีแล้วล่ะจ้ะ” โจวเชียนหยุนกล่าวถึงอย่างนั้นคำชมของโจวเชียนหยุนก็ไม่ได้ทำให้อาหยันน้อ
โจวเชียนหยุนพึมพำ “ใช่ค่ะ เขาไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเราอีกแล้ว” ……ข่าวเรื่องที่คงจื่ออินแท้งขึ้นคำค้นหายอดนิยม ทั้งยังมีวิดีโอตอนที่โจวเชียนหยุนผลักคงจื่ออินจนคงจื่ออินกระแทกกับโต๊ะและเก้าอี้พ่วงไปด้วยในวิดีโอปรากฏภาพคงจื่ออินที่กุมท้องตัวเองไว้หลังจากที่โดนของบนโต๊ะกระแทกตัวคนที่โพสต์วิดีโอกล่าวเพิ่มว่า พวกเขารู้สึกว่านี่ไม่ถูกต้องที่ได้ยินว่าผู้หญิงในวิดีโอถูกผลักจนต้องเสียเด็กในครรภ์ซึ่งมีอายุสามเดือนไปจากนั้นบางคนก็จำได้ว่าผู้หญิงในวิดีโอคือคงจื่ออิน ทายาทตระกูลคงและเป็นคู่หมั้นของเย่เหวินหมิงอีกหลายคนก็พบตัวตนของโจวเชียนหยุนผ่านทางเบาะแส และหยิบยกเรื่องคดีในอดีตที่ทำให้เธอติดคุกขึ้นมาพูดถึงในทันใดนั้นความเห็นของสาธารณชนก็เข้าข้างคงจื่ออินทันที นักเลงคีย์บอร์ดหลายคนเรียกโจวเชียนหยุนว่า นังปีศาจ และมุ่งร้ายไม่เว้นแม้แต่เด็กที่ยังไม่เกิด บางคนถึงกับข่มขู่ว่าจะทำให้โจวเชียนหยุนต้องตายอย่างทรมานและพิมพ์คุกคามในหลายรูปแบบอีกด้วยบนเตียงในโรงพยาบาล คงจื่ออินยิ้มกริ่มขณะอ่านคอมเมนต์ในข่าวยอดนิยม เป็นไปอย่างที่คิด เธอกลายเป็นเหยื่ออันสมบูรณ์แบบในสายตาของคนทั่วไปหลายคนคิดว่า