วันอภิเษกสมรสภายในห้องแต่งฉลองพระองค์ ร่างงามระหงของเฉินวาวากำลังนั่งสัปหงกเอนไปเอนมา บนเรือนกายมีผ้าห่มคลุมอย่างมิดชิดเพื่อคลายความหนาวเหน็บหลังจากที่ต้องลงไปแช่น้ำอุ่นที่เต็มไปด้วยสิ่งมงคลเก้าอย่างตามราชพิธี วันนี้เธอถูกปลุกให้ตื่นตั้งแต่ยามอิ๋น เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนตามพิธีโบราณที่สืบทอดกันมา ท่ามกลางความวุ่นวายของเหล่านางกำนัลและขันที เดินเข้าเดินออกห้องแต่งฉลองพระองค์กันเป็นว่าเล่น ดวงตากลมโตค่อยๆ เปิดขึ้นอย่างช้าๆ เมื่อเส้นผมยาวสลวยสีดำสนิทของเธอถูกเกล้าขึ้นสูงเก็บผมเพื่อรองรับเครื่องประดับและมงกุฎหงส์สวมลงบนศีรษะ ทันทีที่เธอเห็นทรงผมที่ปรากฏอยู่ในกระจกสัมฤทธิ์ เฉินวาวาสลัดผ้าห่มออกจากเรือนกายอย่างรวดเร็ว “อะไรกันนี่! ล้อกันเล่นใช่ไหม!” หญิงสาวกล่าวออกมาทันทีที่เห็นตัวเองในกระจกดังกล่าว ท่ามกลางเหล่านางกำนัลที่กำลังช่วยเธอแต่งตัวอยู่ในขณะนี้ โดยมีมู่อิงเป็นหัวเรือใหญ่ “องค์หญิงทรงหมายถึงอะไรเหรอเพคะ” มู่อิงทูลถามกลับไปทันที “ก็ทรงผมนี่ไง! ล้อกันเล่นใช่ไหม… ขนาดผมที่เกล้าขึ้นมายังเหมือนกันทุกอย่างเลย ยุคอนาคตกับยุคนี้มันเชื่อมต่อติดกันอย่างนั้นเหรอ ถึงมีช่างทำผมเดินถือกระ
ยามซื่อ ร่างงามระหงในชุดเจ้าสาวโบราณสีขาวของเฉินวาวาค่อยๆ ก้าวออกมาจากตำหนักที่ประทับของชินอ๋อง โดยมีบรรดานางกำนัลติดตามเสด็จรวมไปถึงมู่อิงคอยเดินตามยกชายฉลองพระองค์เสื้อคลุมมิให้พาดผ่านทางเดิน ใบหน้าแม้จะสวมหน้ากากทองคำปิดบังเอาไว้ แต่นางร้ายหน้าสวยจากยุคอนาคตช่างมีพลังทำลายล้างอย่างยิ่งยวดสะกดสายตาของทุกคู่ที่กำลังมองพระชายาเอกของชินอ๋องผู้ลือนามอยู่ในขณะนี้ตาค้างไปตามๆ กัน ร่างงามเยื้องย่างดุจนางพญาและน่าเกรงขามดั่งราชินีปีศาจที่มีพลังแฝงเร้นอยู่ในเรือนกาย ไอปีศาจที่มิเคยปรากฏบัดนี้กลับค่อยๆ แผ่ขยายไอมารออกมา เมื่อเฉินวาวากำลังเข้าพิธีอภิเษกสมรสกับจอมมาร ซึ่งไอปีศาจจะปรากฏให้เห็นเมื่อสตรีที่ถูกเลือกกำลังจะกลายเป็นราชินีปีศาจอย่างสมบูรณ์เมื่อเข้าสู่พิธีอภิเษกอย่างเป็นทางการ และจะเกิดพลังดังกล่าวได้ก็ต่อเมื่อเข้าพิธีกับจอมมารเท่านั้น เฉินวาวาเชิดใบหน้าขึ้นสูงค่อยๆ เยื้องย่างไปอย่างช้าๆ เบื้องหน้าของเธอคือขบวนเจ้าสาว ตั้งแถวขบวนเป็นทางยาวอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมเกี้ยวพระที่นั่งตามโบราณราชประเพณีทุกประการ รออยู่ตรงหน้าประตูเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดวงตากลมโตมองลอดผ่านพัดหงส์ไปเบื้องหน้า คร
ห้องหอ ภายในห้องบรรทมถูกตกแต่งด้วยผ้าสีแดงและของทุกอย่างล้วนเป็นสีแดงอันเป็นสีมงคลทั้งหมด แท่นพระบรรทมตลอดจนถึงหมอนหนุนและผ้าห่มล้วนเป็นสีแดงทั้งสิ้น ในขณะที่ร่างระหงของเฉินวาวากำลังนั่งเคี้ยวขนมจนเต็มปาก ซึ่งเป็นของว่างอยู่ตรงโต๊ะเสวยด้วยความหิวจนหน้ามืด ด้วยเพราะกว่าจะผ่านขั้นตอนพิธีอภิเษกเธอหิวจนลมแทบจับเสียให้ได้ อีกทั้งวันนี้ต้องตื่นเช้าทำให้เกิดอาการทั้งง่วงทั้งหิวในคราเดียวกัน “ทำไมฉันจะต้องมานั่งทนหิวข้าวอยู่คนเดียวแบบนี้นะ… ในขณะที่อีตาอ๋องบ้าอยู่ในงานเลี้ยง” หญิงสาวบ่นพึมพำพลางเคี้ยวขนมอยู่ในปากตลอดเวลา พร้อมยกมือขึ้นเท้าคางด้วยกำลังครุ่นคิดเรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้ “ตกลงพี่ชายก็คือชินอ๋องที่ตามล่าเราตั้งแต่เมืองเทียนจิ้นจนถึงทีนี่ แล้วจู่ๆ ก็มาแต่งงานกับเราเฉยเลย ตกลงนี่มันเป็นเรื่องที่จงใจหรือบังเอิญกันแน่” หญิงสาวบ่นพึมพำก่อนจะนึกบางอย่างขึ้นมาโดยพลัน “เฮ้ย! เฉินวาวาเอ๋ยเฉินวาวาเธอหลงลืมข้อนี้ไปได้ยังไง ในเมื่อพี่ชายใจดีก็คือชินอ๋องผู้เลื่องลือ แบบนี้ก็ขอความช่วยเหลือจากพี่ชายได้อย่างสนิทใจ ไม่ต้องตีซี๊เสียเวลาอ่อย
“What!!!” เฉินวาวาอุทานออกมาเสียงดังขรม ท่ามกลางสายพระเนตรของจอมมารทรงทอดพระเนตรพระชายาคนงามด้วยความแปลกพระทัยกับคำอุทานแปลกประหลาดของนาง พร้อมเสียงหวานเอ่ยแทรกขึ้น “ห้าปี! ทำไมท่านจึงบอกว่าตามหาข้าไปทั่วทุกแคว้นตลอดห้าปีที่ผ่านมา ข้ากับท่านเพิ่งพบกันที่เทศกาลลอยโคมประทีปเป็นครั้งแรกที่เมืองเทียนจิ้นไม่ใช่เหรอ นี่ท่านพูดอะไรข้าไม่เข้าใจเลย” หญิงสาวกล่าวพร้อมขมวดคิ้วสวยเข้าหากันพลางครุ่นคิด “เจ้าแน่ใจอย่างนั้นหรือว่าเราสองคนพบกันครั้งแรกที่เมืองเทียนจิ้น ในเทศกาลลอยโคมประทีป เจ้าทบทวนให้ดีว่าเราสองเคยพบกันที่ไหนมาก่อน หากข้าไม่เคยพบเจ้ามาก่อนหน้านั้นจะล่วงรู้ได้อย่างไร ว่าเจ้าสวมชุดเจ้าสาวสีขาว เพราะในวันที่ข้าพบกับเจ้าเป็นครั้งแรก เจ้าสวมชุดเจ้าสาวและประดับมงกุฎหงส์แบบเดียวกับที่กำลังสวมอยู่ในขณะนี้ งดงามตราตรึงข้าทันทีตั้งแต่แรกพบ” “หา!!!” เฉินวาวาจดจำได้ขึ้นโดยพลัน เสียงอุทานออกมาทันทีพร้อมสองมือเรียวยกขึ้นปิดปากตัวเองทันใด หญิงสาวถึงกับตกใจสุดขีดเมื่อได้ยินเช่นนั้น พี่ชายคือชินอ๋องและชินอ๋องคือบุรุษในความฝันของเธออย่างไม่ต้องสงสัยอีกต่อไปแล้ว ร่างระหงลุกพ
“พรืดดด!!!” ร่างงามหลบพระหัตถ์ไปได้อย่างฉิวเฉียด ก่อนจะวิ่งหน้าตั้งไปยังโต๊ะเสวยโดยมีจอมมารวิ่งตามหลังมาติดๆ ประหนึ่งกำลังวิ่งไล่จับฉันใดก็ฉันนั้น “วาเอ๋อร์เจ้าหนีข้าทำไม!” รับสั่งถามทันทีที่วิ่งมาหยุดยืนอยู่ตรงโต๊ะเสวยซึ่งเต็มไปด้วยอาหารมงคล “ขะ... ข้ายังไม่พร้อมท่านอ๋อง! ท่านต้องให้เวลาข้าบ้างสิ อีกอย่างข้าหิวมากเลย เราสองคนยังไม่ได้ดื่มเหล้ามงคลด้วยกันเลยนะ ดูสิเครื่องเสวยมงคลก็ยังไม่ได้กินเลย ข้าหิวมากเลยนะท่านรู้หรือเปล่า” เฉินวาวาทำใจดีสู้เสือ พลางทรุดกายลงนั่งบนตั่งที่ประทับ บนโต๊ะเครื่องเสวยเต็มไปด้วยอาหารและขนมมงคลมากมาย รวมไปถึงเหล้ามงคลอยู่ในเหยือกที่ทำจากหยกสีเขียวอ่อนวางอยู่ เฉินวาวาไม่รอช้ารีบจัดแจงจับตะเกียบคู่วางไว้บนจานเปล่าให้พระสวามี พร้อมรีบเทเหล้ามงคลลงบนแก้วเสวยที่ทำมาจากหยกเข้าชุดกับตัวเหยือกที่บรรจุน้ำจัณฑ์เอาไว้จนเต็ม “ข้ากับท่านยังไม่ได้ดื่มเหล้ามงคลด้วยกันเลย ข้าในฐานะพระชายาเอกของชินอ๋องผู้ยิ่งใหญ่ไปทั่วหล้าต้องเทเหล้ามงคลนี้ให้พระสวามีจริงไหม” หญิงสาวกล่าวพร้อมยื่นเหล้ามงคลให้จอมมาร พระหัตถ์รับแก้วเสวยพลางทอดพระเนตรคนงามก่อนจะส่า
ตำหนักประจิมภายในห้องรับรองส่วนพระองค์ “ตึก... ตึก... ตึก” นิ้วพระหัตถ์เคาะลงบนโต๊ะติดๆ กัน ราวกับว่ากำลังรอคอยอะไรบางอย่าง องค์หญิงแคว้นเยว่นั่งอยู่บนตั่งที่ประทับ เฝ้ารอคอยความคืบหน้าของสายลับที่ถูกส่งไปให้กำจัดพระชายาเอกของชินอ๋องผู้เลื่องลือ พระนางชะเง้อจนพระศอยืดยาวรอฟังข่าวตั้งแต่ค่ำคืนวาน จนก้าวเข้าสู่ช่วงบ่ายของวันนี้ก็ยังไม่มีรายงานข่าวจากสายลับกลับมาแต่อย่างใด “จนถึงป่านนี้แล้ว..ทำไมยังไม่มีข่าวอะไรส่งมาอีกนะ แทนที่จะรีบมารายงานข้ากลับต้องให้ได้ไปตาม พวกเจ้าช่างไม่ได้ดั่งใจข้าเสียนี่กระไร” รับสั่งบ่นพึมพำพร้อมพระขนงขมวดเข้าหากันทันใด เมื่อทอดพระเนตรนางกำนัลคนสนิทกลับมาเพียงลำพัง ทันทีที่นางกำนัลคนสนิทมายืนอยู่ตรงพระพักตร์ องค์หญิงแคว้นเยว่ทรงชำเลืองพระเนตรไปทางด้านหลังว่าจะมีร่างของสายลับที่ถูกส่งไปทำงานตามหลังมาด้วยหรือไม่ “เหตุใดเจ้าจึงกลับมาเพียงลำพัง ใยจึงไม่ปรากฏสายลับของแคว้นตามเจ้ามาด้วย” รับสั่งถามด้วยความสงสัยพลางทอดพระเนตรใบหน้าของนางกำนัลที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด “เจ้าเป็นอะไร! ใยจึงมีทีท่าเช่นนี้แสดงออกมา เกิดอะไรขึ้น! จงรีบรายงานมาเร็วๆเข้
ในขณะเดียวกันภายในห้องพระบรรทมชินอ๋อง “คร่อก... คร่อก... คร่อก” เสียงกรนเบาๆ ดังออกมาเป็นระยะๆ จากร่างงามของสตรีสาวสูงศักดิ์ผู้ซึ่งขึ้นชื่อได้ว่าเป็นพระชายาเอกของชินอ๋องผู้เลื่องลือแห่งแคว้นเทียนโจว ใบหน้างามลึกล้ำของนางร้ายหน้าสวยจากยุคอนาคต ได้กลับคืนสู่สภาพปกติดั่งเดิมด้วยได้รับโลหิตชาดทองของจอมมารชินซางซึ่งพระองค์ให้ราชินีดื่มพระโลหิตขับไล่พิษจากไข่มุกดำออกไปให้หมดจากกาย เพื่อมิให้นางต้องหลับใหลไปตลอดกาลเพราะพิษจากไข่มุกดำแพร่ขยายไปทั่วทั้งร่าง สืบเนื่องมาจากขับไล่พิษที่เฉินวาวาได้รับมาจากเหล้ามงคลในคืนเข้าหอนั่นเอง ตลอดระยะเวลาสามวันที่ผ่านมา หญิงสาวเข้าสู่ห้วงภวังค์แห่งการหลับใหลมาโดยตลอด มิรับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นอีกเลย และจอมมารทรงปกปิดข่าวที่พระชายาถูกยาพิษจากเหล้ามงคลมิแพร่งพรายออกไปแต่อย่างใด ทำประหนึ่งราวกับว่าเหตุการณ์ดังกล่าวมิได้เกิดขึ้น หรือหากคิดในทางกลับกันเกิดขึ้นแล้วแต่ทรงไหวทัน พระองค์มีพระบัญชาให้สายลับลงสืบค้นหาอย่างเงียบเชียบเพื่อค้นหาผู้บงการอยู่เบื้องหลังการวางยาพิษในครั้งนี้ และจัดเตรียมการเดินทางกลับเมืองเทียนจิ้นทันทีที่ราชินีของพระองค์ต
พระตำหนักพายัพที่ประทับฟางหยางฮ่องเต้ พระเนตรสีดำสนิทของฮ่องเต้หนุ่มวัยฉกรรจ์ ทรงยืนทอดพระเนตรขบวนเสด็จของพระอนุชาต่างพระมารดา กำลังเคลื่อนขบวนออกจากพระตำหนักบูรพาเดินทางมุ่งหน้าไปยังเมืองเทียนจิ้น อันเป็นเมืองหลวงตะวันตกของแคว้นเทียนโจว ตามสัตย์สัญญาที่ทรงให้คำมั่นเอาไว้ โดยมีสายพระเนตรของรัชทายาทจื่อถง ทอดพระเนตรขบวนเสด็จดังกล่าวด้วยความเคียดแค้นและชิงชังเสด็จอาของพระองค์อย่างยิ่งยวด ขบวนเสด็จของชินอ๋องในครานี้ ยิ่งใหญ่กว่าเดิมด้วยครั้งนี้ทรงเสด็จกลับเมืองเทียนจิ้นโดยมีพระชายาเอก ซึ่งเป็นองค์หญิงจากแคว้นฉู่ที่เพิ่งจะเข้าพิธีอภิเษกด้วยกันเพียงแค่สามวันเท่านั้น ทั้งสองพระองค์กลับไปครองรักอยู่ที่เมืองดังกล่าวท่ามกลางสายตาของผู้พ่ายแพ้ เพราะผิดหวังในรักถึงสองคู่ และสายตาอีกหนึ่งคู่ คือแรงชิงชังและต้องการยึดอำนาจที่ควรจะได้ครอบครองกลับคืนมาทั้งหมด ฟางหยางฮ่องเต้ค่อยๆ หันพระวรกายเสด็จพระดำเนินกลับเข้ามาในพระตำหนักตามเดิม หลังจากที่ทรงยืนทอดพระเนตรขบวนเสด็จของชินอ๋องตรงระเบียงพระตำหนักอยู่เป็นเวลานาน ติดตามด้วยองค์รัชทายาทและพระวรกายบอบบางขององค์หญิงเยว่วาวา จากแคว้นเยว่พระดำเนินกลับเ
พระราชวังจำลองพิธีอภิเษกสมรสในซีรีส์เรื่องดัง ถ่ายทำฉากกราบไหว้ฟ้าดินระหว่างนางมารร้ายตัวเอกของเรื่องและชินอ๋องแห่งแคว้นเทียนโจว ปรากฏขึ้นต่อสายตาของเฉินวาวาด้วยความรู้สึกยากเกินจะบรรยายออกมาได้ ด้วยทุกอย่างตรงกับพิธีที่การทุกอย่างในยุคอดีต ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งสถานที่โดยรอบ บรรดาข้าราชบริพารที่ยืนประจำจุดของตน รวมไปถึงตำแหน่งที่ประทับขององค์ฮ่องเต้ล้วนเหมือนกันทุกอย่าง“อะ... อะไรกันนี่!” หญิงสาวในชุดเจ้าสาวโบราณในพิธีเตรียมพร้อมเข้าฉากถึงกับยืนตะลึงไปโดยพลันในขณะที่อู๋ชิงเหยียนก็มีอาการไม่แตกต่างกันแม้แต่น้อย ไม่คาดคิดว่าพิธีแต่งงานในยุคโบราณจะยิ่งใหญ่อลังการถึงขนาดนี้“โอ้โฮ! วาวาเธอนี่โคตรโชคดีเลยให้ตายสิ! ได้เข้าฉากแต่งงานยิ่งใหญ่อลังการแบบนี้ ราวกับว่าเข้าไปมีชีวิตในซีรีส์เรื่องนี้เลยนะ” แม่ผู้จัดการสาวกล่าวออกมาตามความรู้สึก“ฉันเคยเข้าพิธีแบบนี้มาแล้วกับชินอ๋องแห่งเทียนโจว และครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่ฉันจะได้เข้าพิธีแบบนี้อีก แตกต่างตรงที่คนที่ฉันจะเข้าพิธีในครั้งนี้ไม่ใช่ท่านอ๋องของฉัน”
งานแสดงแฟชั่นโชว์เครื่องเพชรเฉินวาวานั่งเงียบงันอยู่บนรถ SUV ของบริษัทฯ ซึ่งเธอเดินทางมาร่วมงานในฐานะเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ของ JCS GOLD MASTER ใบหน้างดงามลึกล้ำถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางจนเฉิดฉายน่ามองชวนหลงใหลอย่างยิ่งยวด หากแต่ดวงตาคู่สวยกลับมีแต่ความหม่นหมอง ไม่มีชีวิตชีวาเหมือนก่อน“เฮ้อ!” เสียงถอนหายใจดังออกมาจากแม่ผู้จัดการสาว บ่งบอกให้รู้ว่าเธอกลุ้มใจกับอาการของเพื่อนรัก“วาวา! ถึงงานแล้วไม่ลงเหรอ นั่งเหม่อมาตลอดทาง ไม่ใช่สิ นั่งเหม่อมจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเป็นแบบนี้จะสองอาทิตย์แล้วนะ ถามจริงเถอะ! เมื่อไรอาการแบบนี้จะหายไปจากตัวแกเสียที” หญิงสาวบ่นกระปอดกระแปดให้เพื่อนรัก“ไม่หาย! ไม่มีใครรักษาฉันหายหรอกเหยียนเหยียน ป่วยกายรักษาด้วยยาหายได้ แต่ป่วยใจคนที่รักษาได้คือคนรักของฉันเท่านั้น มีเพียงท่านอ๋องคนเดียวที่ทำได้” กล่าวพร้อมหยาดน้ำตาหลั่งรินออกมาทันที“แปะ!” น้ำตาร่วงหล่นลงมาทันใด“อั้ยยะ! อย่าร้องนะ! อย่าร้อง... ห้ามร้องเด็ดขาดเลย จะต้องเข้าไปในงาน
มณฑลเสฉวน ณ โรงพยาบาลเฉิงตูภายในห้องคนไข้พิเศษพระวรกายสูงใหญ่ทะมึนของจอมมารชินซางยังคงอยู่ในห้วงญาณหลับใหลมาโดยตลอด พระพักตร์หล่อเหลาตราตรึงรัญจวนจิต รับกับขนตางามงอนเป็นแพยาวสวย พระนาสิกโด่งสันสวยขึ้นเป็นสันคม ภายใต้เกศาสีเงินยาวสยายเต็มหมอนที่กำลังถูกนางพยาบาลใช้แปรงหวีพระเกศาสีเงินยาวสยายอย่างเบามือ“ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้หล่อยิ่งกว่าพระเอกหนังอีกเลยเนอะ พระเอกบางคนยังหล่อสู้ไม่ได้เลย เป็นลูกครึ่งหรือเปล่าก็ไม่รู้ถึงมีเส้นผมสีบลอนด์เงินแบบนี้ สีเงินสม่ำเสมอไม่ใช่สีขาวเพราะผมหงอกก่อนวัยด้วย แถมสูงเกือบสองเมตร หุ่นก็ดี๊ดี... กล้ามเนื้อแน่นไปทุกส่วนเลย เช็ดตัวให้ทีไรมีความสุขจริงๆ เลยนะเธอ” นางพยาบาลสองคนที่ช่วยกันดูแลคนไข้ปริศนา ต่างคุยกันอยู่ใกล้เตียงด้วยความเคลิบเคลิ้มอย่างยิ่งยวดตั้งแต่จอมมารถูกช่วยขึ้นจากน้ำตกในอุทยานแห่งชาติที่เดียวกันกับเฉินวาวา หากแต่พบพระองค์ห่างไกลออกไปนอนหมดสติอยู่ทางต้นน้ำ หลังจากนั้นได้ถูกช่วยจากเจ้าหน้าที่อุทยานนำส่งโรงพยาบาลเฉิงตู หลังพระชายาเข้าทำการรักษาไปแล้วหนึ่งวัน นับ
ร่างระหงตรงดิ่งเข้าสวมกอดนางพยาบาลที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเธอด้วยความดีใจอย่างยิ่งยวด ในขณะที่อีกฝ่าย อดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมนางร้ายหน้าสวยจึงรู้จักชื่อของเธอ สายตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ“คุณเฉินวาวารู้จักชื่อของฉันด้วยเหรอคะ” นางพยาบาลที่เหมือนมู่อิงราวเป็นคนเดียวกันถามทำลายความเงียบหญิงสาวที่กำลังสวมกอดด้วยความดีใจ ยิ้มกว้างพร้อมหยาดน้ำตาก่อนจะปล่อยร่างนั้นออกจากอ้อมกอดของเธอเพื่อสำรวจใบหน้าให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ครั้นยิ่งมองยิ่งเหมือนมู่อิงในยุคอดีตทำให้เฉินวาวายิ่งหลั่งน้ำตามากขึ้นไปกว่าเดิม“ขอโทษด้วยคะ พอดีคุณเหมือนกับคนที่ฉันรู้จักมากๆ เธอมีชื่อและหน้าตาเหมือนกับคุณพยาบาลไม่มีผิดเพี้ยน ก็เลยทำให้นึกถึงและคิดถึงมากด้วย”หญิงสาวตอบพลางส่งเสียงสะอื้นไห้ออกมาทันทีนางพยาบาลสาวถึงกับน้ำตาคลอเบ้าขึ้นมาทันที เธอเอื้อมมือไปจับมือเรียวสวยของนางร้ายที่เธอชื่นชอบ พร้อมเอ่ยปลอบโยน“อย่าร้องไห้เลยนะคะ เดี๋ยวคนที่คุณรู้จักถ้ารู้ว่าร้องไห้เพราะคิดถึงแบบนี้จะไม่สบายใจเอาได้ ร้องไห้มากตาบวมเดี๋ยวไม่สวยนะคะ”หญิงสาวยิ้มกว้างออกมาทันทีเม
ยุคอนาคตมณฑลเสฉวน ณ.โรงพยาบาลเฉิงตูภายในห้องพิเศษบัดนี้ร่างงามระหงของเฉินวาวา กำลังนอนหลับใหลอยู่บนเตียงคนไข้ของโรงพยาบาล หญิงสาวได้กลับคืนสู่ยุคอนาคต และยังคงอยู่บนผืนแผ่นดินจีนอันกว้างใหญ่ เธอหลับใหลตั้งแต่อยู่ในอดีตกาลจนกระทั่งกลับมาสู่อนาคตอย่างไม่คาดฝันร่างของเธอถูกพบอยู่บริเวณน้ำตกในอุทยานแห่งชาติในชุดเกราะและสวมหน้ากากทองคำอยู่ด้วยในขณะนั้น แผลจากคมธนูที่ถูกฮ่องเต้แคว้นเยว่ยิงปักถูกร่างนั้น ถูกเย็บและได้รับรักษาเป็นอย่างดีจากแพทย์แผนปัจจุบันไม่มีใครล่วงรู้ว่าเธอมาปรากฏกายอยู่ที่นี่ได้อย่างไร และเพราะเหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่ ในขณะที่การพบนางร้ายหน้าสวยเฉินวาวาเป็นข่าวดังขึ้นหน้าหนึ่งขึ้นมาอีกครั้ง เพราะหญิงสาวหายสาบสูญไปนานกว่าหนึ่งเดือน อันเป็นระยะเวลาของโลกอนาคตที่ดำเนินอยู่ ซึ่งแตกต่างจากยุคอดีตที่จากมากาลเวลาในยุคอดีตผ่านไปแล้วหนึ่งปีในขณะที่เธอใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นนักข่าวต่างรอทำข่าวกันอย่างเนืองแน่น เมื่อข่าวการค้นพบของเฉินวาวา นางร้ายหน้าสว
ฉับพลันสุรเสียงของจอมมารชินซางดังกระหึ่มท่ามกลางทะเลเพลิง“มันผู้ใดหาญกล้าแตะต้องราชินีของข้า!” สุรเสียงของจอมมารดังกึกก้อง พร้อมพระวรกายค่อยๆ ปรากฏขึ้นท่ามกลางทะเลเพลิงที่ลุกโชนท่วมสูงทิวเขาต่อหน้ากองทัพของทั้งสามแคว้นท่ามกลางสายตาของมนุษย์ที่มีมากมายเป็นเรือนแสนของสองฝั่งแม่น้ำ ต่างยืนมองอย่างตกตะลึงเมื่อเห็นบุรุษสวมอาภรณ์สีนิลกาฬ เกศาสีเงินปลิวยายสยาย ในขณะที่รองแม่ทัพซึ่งล่วงรู้เหตุการณ์ทุกอย่างเมื่อเห็นชินอ๋องทรงฟื้นขึ้นดั่งเดิมและปรากฏอยู่ตรงหน้าท่ามกลางทะเลเพลิงอยู่ในขณะนี้“ชินอ๋องทรงฟื้นแล้ว! พระองค์ช่วยพระชายาด้วยพ่ะย่ะค่ะ! ฮ่องเต้โฉดผู้นี้กำลังจะจับพระชายาถ่วงน้ำ!” รองแม่ทัพตะโกนแทรกออกไปทันทีและนั่นทำให้ชิงอวิ้นฮ่องเต้ถึงกับชะงักงันเมื่อบุรุษสูงใหญ่ตรงพระพักตร์แท้จริงแล้วคือชินอ๋องผู้วายชนม์ไปแล้วเมื่อสามเดือนก่อนแต่บัดนี้กลับมาปรากฏพระวรกายด้วยร่างที่ยังคงรูปมิเน่าเปื่อยแต่อย่างใด“เป็นไปไม่ได้! คนตายแล้วฟื้นคืนกลับมาอย่างนั้นรึ!” รับสั่งรำพึงรำพันในขณะเดียวกันพระวรกายสูงใหญ่ทะ
ในขณะเดียวกันตำหนักลับทันทีที่เฉินวาวาราชินีปีศาจของจอมมาร ปลดปล่อยไอปีศาจจนทำลายแคว้นเยว่พินาศวอดวาย พระวรกายของจอมมารที่ตกอยู่ในห้วงญาณแห่งการหลับใหลมีความรู้สึกขึ้นมาโดยพลัน“ตึก ตึก ตึก” พระวรกายใหญ่เริ่มกระตุกติดต่อกันอย่างไม่รู้สาเหตุแรงกระตุกดังกล่าวราวกับทรงสัมผัสได้ว่าราชินีของพระองค์ตกอยู่ในห้วงอันตราย และทันทีที่ร่างระหงล้มลงหมดสติจอมมารชินซางก็ทรงตื่นจากห้วงญาณแห่งการหลับใหลขึ้นมาทันที“พรึ่บ!” เปลือกพระเนตรเปิดขึ้นทันใดพระเนตรสีเลือดวาววับขึ้นมาทันที พระวรกายใหญ่ลุกพรวดพราดจากฟูกบรรทมขึ้นมาอย่างรวดเร็ว“วาเอ๋อร์! วาเอ๋อร์ของข้า!” รับสั่งเพรียกหาพระชายาพระวรกายใหญ่ลุกจากแท่นพระบรรทมโดยพลัน ก่อนจะซวนเซไปมาเมื่อพระองค์หลับใหลไปนานเกือบสามเดือนแต่ต้องตื่นก่อนกำหนดเพราะความรักที่ทั้งสองมอบให้แก่กันสื่อสัมผัสให้จอมมารชินซางออกจากญาณหลับใหลก่อนกำหนดที่ควรจะเป็น ทำให้การรวบรวมพลังเวทและตบะขั้นที่แปดหวนคืนกลับมาเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้นบัดนี้พระเนตรสีเล
แคว้นเยว่เมืองหลวงมี่โจแผนผังวางระเบิดตามจุดถูกกางออกอยู่ตรงหน้านางร้ายจากยุคอนาคตในขณะนี้ หญิงสาวนั่งอยู่บนหลังม้ามองตรงไปจากเนินเขาสูง เบื้องล่างคือเมืองหลวงแคว้นเยว่ นามว่ามี่โจเป็นเมืองที่มีอาณาเขตกว้างขวาง แต่มีสิ่งปลูกสร้างไม่แออัดหรือสร้างติดต่อกัน ด้วยเป็นเมืองที่เพิ่งจะผลัดเปลี่ยนแผ่นดินใหม่ ซึ่งสิ่งปลูกสร้างเดิมถูกเผาทำลายเมืองครั้งผลัดเปลี่ยนราชวงศ์และการแย่งชิงความเป็นใหญ่ดังกล่าวจึงทำให้แคว้นเยว่มิได้เจริญเติบโตเท่าที่ควรจะเป็น เจ้าผู้ครองแคว้นฝักใฝ่ในการทำสงครามโดยมิประมาณตนว่ากองทัพมีศักยภาพมากน้อยเพียงใด พื้นที่กว้างใหญ่แต่ไม่มีบุรุษลงมือทำการเกษตรเพราะถูกเกณฑ์เข้ากองทัพเพื่อไปรบทำสงครามจนหมด“จุดชนวนแล้วระเบิดกำแพงเมืองที่โอบล้อมให้พังทลายลงทั้งหมด ระเบิดคลังแสงของทหาร ตัดกำลังอาวุธ ระเบิดพระราชวังหลวงเพื่อข่มขวัญฮ่องเต้แคว้นเยว่ ระเบิดวังหลวงให้หมดทุกตำหนักและทุกที่ สุดท้ายระเบิดคลังเสบียงแล้วนำไปแจกจ่ายให้กับชาวเมือง หลังจากนั้นสายน้ำดำที่ฝังอยู่นอกตัวเมืองทุกจุด ให้ระเบิดขึ้นพร้อมก
แคว้นเยว่ ในขณะเดียวกันท่ามกลางทะเลเพลิงที่ลุกโชนท่วมสูงดั่งขุนเขาต่อหน้ากองทหารของราชินีปีศาจ และกองทหารแคว้นเยว่ที่ควบคุมตัวเฉินวาวาเอาไว้ตั้งแต่คราแรก หากแต่ในเวลานี้ต่างยอมจำนนกันหมดสิ้นทุกสายตาต่างยืนมองทะเลเพลิงเบื้องหน้าอย่างตื่นตะลึง ก่อนจะได้ยินเสียงฝีเท้าม้าคล้ายกองกำลังทหารกลุ่มใหญ่วิ่งมาหยุดอยู่ด้านหลัง พร้อมกำลังทหารกระจายล้อมรอบไปทั่วบริเวณ“อะไรกันนี่! แคว้นเยว่ถูกทำลา