ตอนที่4. เจอกันอีกแล้ว
“อืม ก็ได้ฉันจะพยายามคิดให้มันเป็นไปในทางที่ดี” ดรีมบอกกับเพื่อน ๆของเธอก่อนจะยกเครื่องดื่มมาดื่มรวดเดียวจนหมดแก้ว พร้อมกับลุกขึ้นและหันมาบอกกับจ๊ะจ๋า และ แมน
“ไปห้องน้ำแปบเดี๋ยวมา”
“ให้ไปส่งไหมแก” จ๊ะจ๋าถามด้วยความเป็นห่วงเป็นอย่างมากแต่ดรีมได้แต่ส่ายหน้าเบา ๆ และส่งยิ้มให้เพื่อนทั้งสองคน
“ฉันโตแล้วนะ ทำยังกะฉันเป็นเด็กไปได้พวกแกเนี่ย แค่ไปห้องน้ำไมมีอะไรให้น่าห่วง ไปล่ะเดี๋ยวมา” พูดจบดรีมก็เดินตรงไปยังห้องน้ำทันที แต่ระหว่างทางเพราะเป็นวันหยุดเลยทำให้มีคนมาเที่ยวเป็นจำนวนมาก และระหว่างทางไปห้องน้ำจึงค่อนข้างแออัด
“อุ๊ยขอโทษค่ะ ” ดรีมรีบกล่าวคำขอโทษเมื่อเธอเดินไปชนกับผู้ชายคนหนึ่ง แต่ทว่าต้องตกใจเมื่อคนที่เธอเดินชนนั้นดันเป็นไอ้คนปากหมาที่เจอกันเมื่อเช้านั่นเอง
“นี่นาย !! ”
“นี่เธอ !! ”
สองคนต่างมองหน้ากันด้วยความตกใจเป็นอย่างมาก ที่ต่างก็มาเจอกันที่ผับแห่งนี้ ทั้งที่คิดว่าไม่น่าจะเจอกันได้อีกในชีวิตนี้
“ทำไมเจอกันทีไรต้องเดินชนกันตลอดด้วยนะ” พายุบ่น
“ก็ถ้าไม่ให้เดินชนจะให้นอนชนหรือยังไงคะ ? ” ดรีมเองก็ต่อปากต่อคำจนลืมว่าตัวเองปวดฉี่อยู่ พายุมองหน้าหญิงสาวก่อนจะคว้าที่ข้อมือของดรีมเอาไว้ แล้วพูดขึ้นมาแข่งกับเสียงดนตรี
“นอนชนก็ดีสิ รับรองได้ว่าจะเสียวจนร้องขอชีวิตเลยแหละ อยากลองไหมล่ะจะได้เสกเด็กเข้าท้องให้”
“ไอ้บ้าปากหมาจริง ๆ เลย ปล่อยฉันนะ” ดรีมพูดพร้อมกับสะบัดมือของพายุก่อนจะเดินไปห้องน้ำด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัวเป็นอย่างมาก ก่อนจะเดินมาที่อ่างล้างมือหน้าห้องน้ำ
“ไอ้บ้าเอ๊ย !! วันนี้มันเป็นวันอะไรนะ ทำไมต้องมาเจอไอ้บ้านี่ซ้ำ ๆ ซาก ๆ ด้วยนะ หืยยย พูดจาก็ลามก ไอ้ ไอ้ ไอ้ผู้ชายเฮงซวยไอ้เปรต”
“เธอว่าใครเปรต ? ”
ดรีมหันมามองตามเสียงก่อนจะมองด้วยความตกใจเป็นอย่างมาก
“นี่นายไอ้โรคจิตนายตามมาทำไมกัน”
“ก่อนจะว่าคนอื่นเปรตดูตัวเองซะก่อน คนแคระชัด ๆ แล้วนี่ห้องน้ำชายครับคุณผู้หญิง ก่อนจะว่าให้คนอื่นดูการกระทำตัวเองก่อนนะครับ หึ ”
“นี่นาย นายมันคนปากหมาก็แค่เดินมาล้างมือผิดที่เท่านั้นเอง ปากหมาอย่างนายก็พูดไปทั่วคนอย่างนายน่าจะเอามีดอีโต้มาเลาะหมาในปากออกนะ”
ดรีมด่ารัวเป็นชุดและนั่นทำให้พายุไม่ทัน เมื่อได้ยินดังนั้นก็กระชากตัวดรีมและผลักเธอไปติดกับผนังห้องน้ำพร้อมกับอีกมือหนึ่งที่บีบที่ปลายคางของหญิงสาว ก่อนจะประกบริมฝีปากจูบเธออย่างรุนแรง และจังหวะที่ดรีมอ้าปากจะด่าหรือตอบโต้นั้น ก็ทำให้พายุสามารถส่งลิ้นร้อนของเขาเข้าไปตวัดภายในช่องปากของดรีมได้อย่างง่ายดาย
“อืออ ปล่อยนะ อือ...” ดรีมพูดแทบไม่เป็นภาษาก่อนที่พายุจะถอนริมฝีปากออกและมองหน้าดรีมที่ยืนหอบหายใจแทบไม่ทันอยู่ตรงนั้น และไม่รอให้หญิงสาวได้หายใจได้คล่อง
“เป็นยังไงเจอไหมหมาในปาก แต่คงไม่เจอหรอกเพราะว่าฉันปล่อยมันเข้าไปในปากเธอจนหมดแล้ว บอกไว้เลยนะว่านี่แค่คำเตือน เพราะว่าถ้าเจอกันอีกครั้งและยังปากดีอีกล่ะก็...ครั้งหน้าไม่ใช่แค่น้ำลาย และลิ้น แต่จะเป็นน้ำอย่างอื่น และแทงเข้าที่อื่น” พายุพูดและก้มต่ำมองบริเวณนั้นของดรีมทำเอาเธอถึงกับหัวร้อน
“ฝากไว้ก่อนเถอะสักวันฉันจะทำให้นายร้องไห้อ้อนวอนฉัน ไม่เชื่อก็คอยดูสิ”
“เชิญครับแล้วอย่าฝากไว้นานนะครับ รีบมาเอา...รีบมาเอากับผมนะครับ” พายุพูดจบก็หัวเราะทำเอาดรีมถึงกับโมโหก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้น และตรงไปที่ห้องน้ำหญิงแทน
“อยากจะกรี๊ดดัง ๆ ” ดรีมทำท่าทางเหมือนนางร้ายในละครที่กระทืบเท้าแล้วกรี๊ด แต่ก็ได้แค่เพียงทำท่าทางเท่านั้น แค่เธอไม่สามารถออกเสียงได้แค่นั้นเอง
“ไอ้ราเชนมึงดูไอ้พายุมันเป็นบ้าอะไรว๊ะเดินยิ้มมาโน่น เมื่อกี้ยังทำหน้าเหมือนคนอยากตายอยู่เลย” ชนาธิปชี้ให้ราเชนมองดูเพื่อนที่เดินยิ้มเข้ามาไม่ต่างจากคนเป็นไบโพลา
“เออว่ะ !! เมื่อกี้ยังคร่ำครวญถึงพาฝันอยู่เลย แล้วนั่นอะไรของมันว๊ะ ? ” คราวนี้ราเชนเองก็เห็นด้วยกับสิ่งที่ชนาธิปพูดออกมา
“เป็นอะไรของมึงไอ้พายุ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย บ้าหรือเปล่า หรือว่าไปห้องน้ำไปเจออะไรเด็ด ๆ แล้วแอบซุ่มไว้หรือเปล่าวะเนี่ย ” ราเชนถามติดตลก และมันดันเป็นเรื่องจริงเมื่อพายุพยักหน้า
“เห้ยจริงดิ เจออะไรวะ ” ชนาธิปรีบขยับเข้ามาใกล้ ๆ เพื่อนเพียงเพราะอยากรู้ว่าของดีที่ว่านั้นมันคืออะไรกันแน่
“ไหนคนไหนว๊ะเพื่อน ” คราวนี้ราเชนหันซ้ายหันขวาเพื่อมองดูว่าคนไหนกันที่ทำให้มันยิ้มได้ขนาดนี้
“ไม่ ๆ พวกมึงอย่าเพิ่งเข้าใจผิด ที่กูยิ้มเพราะว่ากูไม่ได้คิดอไรแบบพวกมึง กูแค่ปะทะผีปากกับเด็กปากแจ๋วไปก็แค่นั้นเอง ไม่มีอะไรหรอก มา ๆ ชนแก้ว” พายุพูดพร้อมกับยกแก้วชนกับเพื่อนทั้งสองคนของเขา
เตชะโภคินทร์ ตระกูลใหญ่ที่ติดอันดับท็อป 10 มหาเศรษฐีของเมืองไทย มีธุรกิจมากมายที่อยู่ในครอบครอง ทั้งบ้านหลังใหญ่ที่ไม่ต่างจากคฤหาสน์ ทว่ากลับไร้ซึ่งความอบอุ่น ลูกๆ แต่งงานมีครอบครัวก็พากันย้ายออกไปจนหมดแม้จะมีแวะเวียนกลับมาเยี่ยมผู้เป็นแม่บ้างตามโอกาส แต่สำหรับหญิงชราวัยใกล้ 70 ปี กลับรู้สึกว่าบ้านเงียบเหงาจนอยากหาเรื่องเจอหลานๆ วันละหลายๆหน และเช่นเดิมวันนี้เลยอยากจะหาเรื่องเจอกับหลาน ๆ ตัวดีสักหน่อย“แม่ดา เข้ามานี่หน่อย”วัลดา แม่บ้านคนเก่าคนแก่ อีกทั้งยังเป็นคนสนิทที่อยู่กันมาตั้งแต่สมัยคุณหญิงพิศสมัยยังสาว จนตอนนี้อายุก็เข้าวัยกลางคนเข้าไปแล้ว ดูแลกันจนตายกันไปข้าง มีลูกมีหลานก็ได้คุณหญิงท่านส่งเสียให้เรียนจนจบ เลยอยู่ข้างกายท่านมาจนทุกวันนี้“ค่ะคุณหญิง”วัลดาคลานเข่าเข้ามาหาเจ้านายที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่ที่โซฟา ก้มหัวพร้อมรับคำสั่ง“เธอไปดูซิว่าวันนี้มีใครเข้ามาที่บ้านหรือยัง ช่วงนี้เป็นเงียบๆ เหงาๆ หลานฉันมันไม่อยากได้แล้วใช่ไหมสมบัติ เดี๋ยวแม่จะตัดออกจากกองมรดกให้หมด” คุณหญิงใหญ่หรือคุณย่าถึงกับโมโหเป็นอย่างมากมีหลานก็ตั้งสี่ห้าคน ไม่เห็นมีใครจะได้ดั่งใจ“บัลลังก์” หลานคนโ
ตอนที่2. นัดรวมตัวสำนักงานทนายความของพายุพายุหนุ่มดีกรีนักเรียนนอก ทั้งรูปหล่อพ่อรวย ไม่ว่าจะขยับตัวไปทางไหนสาว ๆ ยังตามกรี๊ดไม่มีหยุด เรียกได้ว่าเมื่อไหร่ที่เขาเพียงแค่กระตุกยิ้มเพียงนิดหัวใจของสาว ๆ ก็หล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มกันเลยทีเดียวกับเจ้าของฉายา รอยยิ้มกระตุกวิญญาณ นี่เอาแค่รอยยิ้มนะ ส่วนคำพูดคำจานั้นรับประกันได้ว่า หมา 100% ที่แม้ว่าที่บ้านจะรวยมากมายแค่ไหนแต่เขาก็ยังยืนยันว่าจะทำอาชีพทนายทั้งที่ ที่บ้านต่างพากันขัดขวาง แต่เขาก็ไม่ยอมละทิ้งความพยายามของเขา และที่สำคัญเขาดันสอบติดและทำได้ดี และนั่นเลยทำให้ไม่มีใครที่จะขัดขวางความตั้งใจอันแน่วแน่ของพายุได้ และเพราะเป็นลูกเพียงคนเดียวของพ่อแม่ ก็เลยถูกท่านทั้งสองตามใจมาโดยตลอด นี่ก็คืออีกหนึ่งข้อเสียของเขาที่ถูกพ่อแม่ตามใจนั่นเอง ไม่ว่าอยากได้หรือว่าอยากจะทำอะไรก็ตาม เมื่อเขาอยากได้เขาต้องได้ !! พายุยืนมองที่ริมหน้าต่าง เพราะดูจากเวลาแล้วก็ใกล้จะถึงเวลาที่นัดเจอกันของทุกคน แค่เขาอยากจะรู้ว่าใครจะเป็นคนที่ตรงต่อเวลาที่สุด ถึงแม้ว่าจะรู้อยู่แล้วก็ตาม อีกทั้งตอนนี้เขายังเป็นเจ้าของสำนักงานทนายความแห่งนี้ และที่ทำให้เขา
ตอนที่3. วันเกิดวันตายอัฐิสถาน คือ ช่องเก็บอัฐิตามวัด ปัจจุบันต้องเสียค่าใช้จ่ายราว 1,000–20,000 บาท ขึ้นอยู่กับพื้นที่ในการเก็บ และขนาดของช่องในการเก็บอัฐิ .บริเวณอัฐิสถาน “พายุ” ยืนมองดูคนในรูปถ่ายที่ติดอยู่หน้าที่เก็บอัฐิด้วยนัยน์ตาที่โศกเศร้าเป็นอย่างมาก มือหนาเอื้อมมือไปสัมผัสรูปถ่ายที่เปื้อนฝุ่นและสีที่จางหายไปตามกาลเวลาด้วยความอาลัยเป็นอย่างมาก แต่ทว่าภาพคนที่อยู่ในรูปนั้นกลับยิ่งชัดเจนเป็นอย่างมากในความทรงจำของคนที่ยืนมองอยู่ตรงนั้นใช่เธอยังคงอยู่ในความทรงจำ เธอคือคนที่เคยบอกรักกัน เธอคือทุกสิ่งทุกอย่างของเขา แต่เธอกลับมาทิ้งเขาไปและปล่อยให้เขาต้องอยู่เพียงลำพังคนเดียวแบบนี้มานานแค่ไหนกันนะ“นานแค่ไหนแล้วนะพาฝันที่คุณทิ้งให้พายุอยู่คนเดียวแบบนี้ อดทนอีกนิดนะ แล้วพายุจะหาคนผิดมาลงโทษให้จงได้ อยู่ตรงนั้นที่รักคงสบายดีนะ ไม่เจ็บไม่ปวดและคงมีความสุขดีนะที่รัก” พายุพูดจบก็วางดอกไม้ไว้ที่หน้ารูปถ่าย ก่อนที่เขาจะยืนสงบนิ่งอยู่อย่างนั้นเป็นเวลานานพอสมควรเสียงฟ้าร้องอย่างหนักทำให้พายุลืมตาขึ้นมา ก่อนจะเงยหน้ามองไปที่บนฟ้า เขายกมือขึ้นมาและปาดน้ำตาลูกผู้ชายออกอย่างช้า ๆ ก่อนจะยิ้มใ
ตอนที่4. เจอกันอีกแล้ว“อืม ก็ได้ฉันจะพยายามคิดให้มันเป็นไปในทางที่ดี” ดรีมบอกกับเพื่อน ๆของเธอก่อนจะยกเครื่องดื่มมาดื่มรวดเดียวจนหมดแก้ว พร้อมกับลุกขึ้นและหันมาบอกกับจ๊ะจ๋า และ แมน“ไปห้องน้ำแปบเดี๋ยวมา”“ให้ไปส่งไหมแก” จ๊ะจ๋าถามด้วยความเป็นห่วงเป็นอย่างมากแต่ดรีมได้แต่ส่ายหน้าเบา ๆ และส่งยิ้มให้เพื่อนทั้งสองคน“ฉันโตแล้วนะ ทำยังกะฉันเป็นเด็กไปได้พวกแกเนี่ย แค่ไปห้องน้ำไมมีอะไรให้น่าห่วง ไปล่ะเดี๋ยวมา” พูดจบดรีมก็เดินตรงไปยังห้องน้ำทันที แต่ระหว่างทางเพราะเป็นวันหยุดเลยทำให้มีคนมาเที่ยวเป็นจำนวนมาก และระหว่างทางไปห้องน้ำจึงค่อนข้างแออัด“อุ๊ยขอโทษค่ะ ” ดรีมรีบกล่าวคำขอโทษเมื่อเธอเดินไปชนกับผู้ชายคนหนึ่ง แต่ทว่าต้องตกใจเมื่อคนที่เธอเดินชนนั้นดันเป็นไอ้คนปากหมาที่เจอกันเมื่อเช้านั่นเอง“นี่นาย !! ”“นี่เธอ !! ”สองคนต่างมองหน้ากันด้วยความตกใจเป็นอย่างมาก ที่ต่างก็มาเจอกันที่ผับแห่งนี้ ทั้งที่คิดว่าไม่น่าจะเจอกันได้อีกในชีวิตนี้“ทำไมเจอกันทีไรต้องเดินชนกันตลอดด้วยนะ” พายุบ่น“ก็ถ้าไม่ให้เดินชนจะให้นอนชนหรือยังไงคะ ? ” ดรีมเองก็ต่อปากต่อคำจนลืมว่าตัวเองปวดฉี่อยู่ พายุมองหน้าหญิงสาวก่
ตอนที่3. วันเกิดวันตายอัฐิสถาน คือ ช่องเก็บอัฐิตามวัด ปัจจุบันต้องเสียค่าใช้จ่ายราว 1,000–20,000 บาท ขึ้นอยู่กับพื้นที่ในการเก็บ และขนาดของช่องในการเก็บอัฐิ .บริเวณอัฐิสถาน “พายุ” ยืนมองดูคนในรูปถ่ายที่ติดอยู่หน้าที่เก็บอัฐิด้วยนัยน์ตาที่โศกเศร้าเป็นอย่างมาก มือหนาเอื้อมมือไปสัมผัสรูปถ่ายที่เปื้อนฝุ่นและสีที่จางหายไปตามกาลเวลาด้วยความอาลัยเป็นอย่างมาก แต่ทว่าภาพคนที่อยู่ในรูปนั้นกลับยิ่งชัดเจนเป็นอย่างมากในความทรงจำของคนที่ยืนมองอยู่ตรงนั้นใช่เธอยังคงอยู่ในความทรงจำ เธอคือคนที่เคยบอกรักกัน เธอคือทุกสิ่งทุกอย่างของเขา แต่เธอกลับมาทิ้งเขาไปและปล่อยให้เขาต้องอยู่เพียงลำพังคนเดียวแบบนี้มานานแค่ไหนกันนะ“นานแค่ไหนแล้วนะพาฝันที่คุณทิ้งให้พายุอยู่คนเดียวแบบนี้ อดทนอีกนิดนะ แล้วพายุจะหาคนผิดมาลงโทษให้จงได้ อยู่ตรงนั้นที่รักคงสบายดีนะ ไม่เจ็บไม่ปวดและคงมีความสุขดีนะที่รัก” พายุพูดจบก็วางดอกไม้ไว้ที่หน้ารูปถ่าย ก่อนที่เขาจะยืนสงบนิ่งอยู่อย่างนั้นเป็นเวลานานพอสมควรเสียงฟ้าร้องอย่างหนักทำให้พายุลืมตาขึ้นมา ก่อนจะเงยหน้ามองไปที่บนฟ้า เขายกมือขึ้นมาและปาดน้ำตาลูกผู้ชายออกอย่างช้า ๆ ก่อนจะยิ้มใ
ตอนที่2. นัดรวมตัวสำนักงานทนายความของพายุพายุหนุ่มดีกรีนักเรียนนอก ทั้งรูปหล่อพ่อรวย ไม่ว่าจะขยับตัวไปทางไหนสาว ๆ ยังตามกรี๊ดไม่มีหยุด เรียกได้ว่าเมื่อไหร่ที่เขาเพียงแค่กระตุกยิ้มเพียงนิดหัวใจของสาว ๆ ก็หล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มกันเลยทีเดียวกับเจ้าของฉายา รอยยิ้มกระตุกวิญญาณ นี่เอาแค่รอยยิ้มนะ ส่วนคำพูดคำจานั้นรับประกันได้ว่า หมา 100% ที่แม้ว่าที่บ้านจะรวยมากมายแค่ไหนแต่เขาก็ยังยืนยันว่าจะทำอาชีพทนายทั้งที่ ที่บ้านต่างพากันขัดขวาง แต่เขาก็ไม่ยอมละทิ้งความพยายามของเขา และที่สำคัญเขาดันสอบติดและทำได้ดี และนั่นเลยทำให้ไม่มีใครที่จะขัดขวางความตั้งใจอันแน่วแน่ของพายุได้ และเพราะเป็นลูกเพียงคนเดียวของพ่อแม่ ก็เลยถูกท่านทั้งสองตามใจมาโดยตลอด นี่ก็คืออีกหนึ่งข้อเสียของเขาที่ถูกพ่อแม่ตามใจนั่นเอง ไม่ว่าอยากได้หรือว่าอยากจะทำอะไรก็ตาม เมื่อเขาอยากได้เขาต้องได้ !! พายุยืนมองที่ริมหน้าต่าง เพราะดูจากเวลาแล้วก็ใกล้จะถึงเวลาที่นัดเจอกันของทุกคน แค่เขาอยากจะรู้ว่าใครจะเป็นคนที่ตรงต่อเวลาที่สุด ถึงแม้ว่าจะรู้อยู่แล้วก็ตาม อีกทั้งตอนนี้เขายังเป็นเจ้าของสำนักงานทนายความแห่งนี้ และที่ทำให้เขา
เตชะโภคินทร์ ตระกูลใหญ่ที่ติดอันดับท็อป 10 มหาเศรษฐีของเมืองไทย มีธุรกิจมากมายที่อยู่ในครอบครอง ทั้งบ้านหลังใหญ่ที่ไม่ต่างจากคฤหาสน์ ทว่ากลับไร้ซึ่งความอบอุ่น ลูกๆ แต่งงานมีครอบครัวก็พากันย้ายออกไปจนหมดแม้จะมีแวะเวียนกลับมาเยี่ยมผู้เป็นแม่บ้างตามโอกาส แต่สำหรับหญิงชราวัยใกล้ 70 ปี กลับรู้สึกว่าบ้านเงียบเหงาจนอยากหาเรื่องเจอหลานๆ วันละหลายๆหน และเช่นเดิมวันนี้เลยอยากจะหาเรื่องเจอกับหลาน ๆ ตัวดีสักหน่อย“แม่ดา เข้ามานี่หน่อย”วัลดา แม่บ้านคนเก่าคนแก่ อีกทั้งยังเป็นคนสนิทที่อยู่กันมาตั้งแต่สมัยคุณหญิงพิศสมัยยังสาว จนตอนนี้อายุก็เข้าวัยกลางคนเข้าไปแล้ว ดูแลกันจนตายกันไปข้าง มีลูกมีหลานก็ได้คุณหญิงท่านส่งเสียให้เรียนจนจบ เลยอยู่ข้างกายท่านมาจนทุกวันนี้“ค่ะคุณหญิง”วัลดาคลานเข่าเข้ามาหาเจ้านายที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่ที่โซฟา ก้มหัวพร้อมรับคำสั่ง“เธอไปดูซิว่าวันนี้มีใครเข้ามาที่บ้านหรือยัง ช่วงนี้เป็นเงียบๆ เหงาๆ หลานฉันมันไม่อยากได้แล้วใช่ไหมสมบัติ เดี๋ยวแม่จะตัดออกจากกองมรดกให้หมด” คุณหญิงใหญ่หรือคุณย่าถึงกับโมโหเป็นอย่างมากมีหลานก็ตั้งสี่ห้าคน ไม่เห็นมีใครจะได้ดั่งใจ“บัลลังก์” หลานคนโ