“ยัยทรายร้ายกาจและใจร้ายที่สุด สงสารหมอฟ้าจัง” แพรวารินทร์เอ่ยต่อว่าเพื่อนก่อนจะเดินนำหน้าออกไป พงศ์พยัคฆ์รีบเดินตามไปอย่างช้า ๆก่อนที่ทั้งคู่จะต้องหยุดชะงักเมื่อเดินมาถึงหน้าสระน้ำพุภาพที่ปรากฏในสายตาของทั้งคู่คือปัญจวัตรและฟ้ารดา พงศ์พยัคฆ์หันมาสบตากับภรรยาก่อนคิดด่าตัวเองในใจ
‘ไม่น่ารีบกลับเล้ยไอ้เสือ ถ้าจะไปที่รถก็ต้องผ่านหน้าสองคนนั้นทำลายบรรยากาศกันพอดี’
“จะกลับแล้วเหรอ”ปัญจวัตรเอ่ยถามหลังจากมองเห็นและผละออกจากกุมารแพทย์สาวอย่างนุ่มนวล
“ใช่พอดีหนูแพรมีงานพรุ่งนี้น่ะเลยไม่อยากกลับดึกไปนะครับหมอฟ้า ไปนะเพื่อนกอดหน่อย” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกก่อนจะดึงเพื่อนรักมากอดและกระซิบบางอย่าง
“ถึงที่ฉันทำมันดูแรงไปแต่ก็เพราะหวังดีกับหมอฟ้าแล้วก็นาย ต่อไปก็จีบไปเรื่อยๆล่ะฉันว่าหมอฟ้าไม่ได้อคติกับนายเหมือนแต่ก่อนแล้ว พยายามให้เต็มที่เอามาเป็นสะใภ้ม้าให้ได้ล่ะ ฉันเองก็จะเป็นหลานเขยที่ดีของม้ากับพ่อนายให้ได้แล้วมาดูกันใครจะทำได้ดีกว่า”
“ไอ้เจ้าเล่ห์ เหลี่ยมจัดทั้งพี่ทั้งน้องฝากขอบใจยัยตัวแสบด้วย ฉันจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง คนนี้ฉันรักจริงหวังแต่งว่าที่แม่ของลูกในอนาคต ส่วนเรื่องน้องแพรเวลา9ปีที่เสียไปอย่างเปล่าประโยชน์มันทำให้น้องเค้าไม่อาจเชื่อคำพูดนายง่ายๆอย่าลืมที่บอกแก้ไขด้วยหัวใจใช้ใจสื่อให้ถึง”ปัญจวัตรเอ่ยบอกก่อนทั้งคู่จะผละออกจากกันเพราะผู้ชายตัวโตๆกอดกันมันไม่จะเป็นเรื่องธรรมดา
“กลับดี ๆ ล่ะน้องแพรมากอดหน่อย”ปัญจวัตรเอ่ยบอกแพรวารินทร์ก่อนจะเดินไปกอดลูกพี่ลูกน้องสาวพร้อมกระซิบที่ได้ยินแค่สองคน
“เสือเป็นคนดีนะน้องแพรยอมเปิดใจดู มองที่การกระทำว่าจริงใจรึเปล่าแต่เล่นตัวนาน ๆก็ดีนะโทษฐานเจ้าเล่ห์หลอกจุ๊บตั้งหลายครั้งบอกตรง ๆพี่หมั่นไส้”ปัญจวัตรเอ่ยบอกอย่างหมั่นไส้และโมโหก่อนจะผละออก
“ไปล่ะ”พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกเมื่อปัญจวัตรผละออกจากแพรวารินทร์ก่อนจะจับมือของหญิงสาวไว้แล้วเริ่มออกเดินไปที่รถก่อนจะเปิดประตูให้หญิงสาวเข้าไปนั่งส่วนตนอ้อมมาเปิดเข้าไปนั่งฝั่งคนขับแล้วขับออกจากบ้านเกตทิวรากุลไปมุ่งหน้าสู่เรือนแสนรัก
“เขาเหมาะสมกันจัง”ฟ้ารดาเอ่ยกับปัญจวัตรจากใจจริงเธออาจทำใจตัดรักที่มีมาถึงสองปีได้ไม่หมดในเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงแต่เธอก็ทำใจตัดพงศ์พยัคฆ์ออกไปได้ในระดับนึง
“ไหวมั้ยหมอเข้าไปข้างในกัน” ปัญจวัตรเอ่ยขึ้นแม้ในใจจะดีใจที่เธอตัดใจยอมรับได้แม้ไม่มากก็ตามแต่เขาก็ยังสงสารเธอ
“ไม่ล่ะฉันจะกลับแล้วหมอเข้าไปเถอะ” ฟ้ารดาเอ่ยบอก “กลับ?คุณมากับหมอรดานิเธอยังอยู่ข้างใน อืมงั้นผมไปส่ง” ปัญจวัตรเอ่ยบอกก่อนจะไลน์บอกน้องสาวให้บอกมารดาด้วยก่อนจะจูงมือฟ้ารดาไปที่รถโดยไม่ฟังคำทัดทานแต่อย่างใน
“คุณจอดรถทำไม” ฟ้ารดาเอ่ยถามอย่างสงสัยเมื่อออกจากบ้านเกตทิวรากุลมาไม่ถึงสามกิโลเมตรสิ่งก่อร้างตรงหน้ามันคือสนามเด็กเล่นขนาดใหญ่
“ลงมาสิไม่ต้องกลัวผมไม่ได้พาคุณมาฆ่าในสนามเด็กเล่นหรอกนะ”ปัญจวัตรเอ่ยบอกหลังจากอ้อมมาเปิดประตูรถให้ฟ้ารดา กุมารแพทย์สาวคิดอย่างชั่งใจก่อนจะก้าวลงมาแล้วเดินตามหมอหนุ่มไป ปัญจวัตรเดินนำหญิงสาวมาหยุดที่ชิงช้าสีสวยก่อนจะพามานั่งลงบนชิงช้า และตนนั่งชิงช้าข้างๆ
“คุณมองขึ้นไปข้างบนสิ”ปัญจวัตรเอ่ยขึ้นพร้อมมองขึ้นไปบนท้องฟ้าภาพที่ปรากฏในสายตาของทั้งคู่คือดวงดาวนับล้านที่ส่องแสงสว่างแข่งกันมันช่างสวยงาม
“สวยจังตั้งแต่เริ่มทำงานยังไม่เคยมีเวลามองดูดาวแบบนี้มาก่อน” ฟ้ารดาเอ่ยขึ้นสายตาจ้องมองดวงดาวบนท้องฟ้าอย่างไม่ละสายตา
“ดาวสวยๆมีมากมายมันก็เหมือนกับผู้ชายที่หล่อๆดี ๆ มีอีกมากที่รอให้คุณมองดู ในสายตาคุณก่อนหน้านี้นายเสืออาจเป็นดาวดวงใหญ่ส่องแสงสุขสกาวสวยงามกว่าดวงอื่นแต่ถ้าคุณไม่โฟกัสที่ดาวดวงนั้นคุณก็จะเห็นดาวดวงอื่นที่ส่องแสงเหมือนกันเห็นมั้ยดาวดวงนั้นใหญ่สวยส่องแสงจ้าแต่ถ้าคุณมองไปทางอื่นก็จะเห็นดาวดวงอื่น” ปัญจวัตรเอ่ยบอกพร้อมชี้ให้ดูดวงดาวแสนสวย
“ขอบคุณนะที่ให้กำลังใจฉันแล้วก็อยู่เป็นเพื่อนกัน คุณเองก็เป็นคนดีเหมือนกันนี่ สงสัยคงต้องมองคุณใหม่แล้วขออยู่นี่สักพักค่อยกลับนะ”ฟ้ารดาเอ่ยบอก “ว่าแต่คุณรู้ได้ไงว่าที่นี่มองเห็นดาวชัดแบบนี้”
หมอหนุ่มยิ้มอย่างมีความหวังก่อนจะเอ่ยตอบแม้คำตอบที่จะพูดจะมีชื่อของคนที่ทำให้เธอเศร้าไปก็ตามแต่เขาก็จะบอกไปตามความจริง “ตรงนี้น่ะ เป็นสวนสาธารณะของหมู่บ้านที่อยู่ตรงกลางระหว่างระยะทางบ้านผมกับบ้านนายเสือตอนเด็กๆเวลากลุ้มใจเราจะมาดูดาวที่นี่จนไป ๆ มา ๆ ที่นี่ก็กลายเป็นที่เล่นของยัยน้องปิ่น น้องแพร แล้วก็น้องทรายยัยตัวแสบน้องสาวนายเสือส่วนผมกับนายเสือก็ต้องนั่งเฝ้าดูแล”
“ต่อไปถ้าไม่สบายใจจะมาที่นี่ได้ปะ” ฟ้ารดาเอ่ยถามสายตายังจับจ้องดวงดาวสวยโดยไม่สามารถอ่านออกว่าหญิงสาวรู้สึกอย่างไร
“ได้สิ ที่นี่เป็นสถานที่สาธารณะคุณจะมาเมื่อไหรก็ได้ แต่ถ้าวันไหนอยากมา ให้มาเป็นเพื่อนได้นะ”หมอหนุ่มเอ่ยบอกและยิ้มให้โดยที่ฟ้ารดายังคงจับจ้องอยู่กับดาว หญิงสาวจับจ้องท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวระยิบระยับอยู่พักใหญ่ ๆ จึงถอดใจละสายตา
เธอหันกลับมามองใบหน้าคมหมายจะขอบคุณที่พามาทว่าสิ่งที่หญิงสาวได้เห็นก็คือสายตาคมกริบกำลังมองเธออยู่...และน่าจะมองอยู่ตลอด
แว่บหนึ่งหัวใจของหญิงสาวก็เผลอเต้นผิดจังหวะจนหญิงสาวนึกตกใจตัวเอง อาการคล้ายมีอะไรผิดปกติไปของฟ้ารดาทำให้ปัญจวัตรได้สติเบือนหน้าผินมองขึ้นบนฟ้าบ้าง
“ดาวคืนนี้สวยจริง ๆ แฮะ”
“น่ะ นั่นสิ เอ่อ...ฉัน ฉันอยากกลับบ้านแล้ว ไปเถอะ” หญิงสาวที่อยู่ ๆ ก็รู้สึกแปลก ๆ เอ่ยก่อนจะเดินนำไปที่รถ ปัญจวัตรมองตามด้วยความไม่เข้าใจก่อนจะตามไปเมื่อหญิงสาวหันกลับมาด้วยท่าทีตั้งท่าจะโวยวายที่ไม่รีบตามมา
วันต่อมา
ร่างสูงสง่าของพงศ์พยัคฆ์เดินเข้ามาในโรงพยาบาลด้วยความรู้สึกแปลก ๆ วันนี้หมอหนุ่มต้องมาคนเดียวเพราะมัณฑนากรสาวต้องไปพบลูกค้าการเดินคนเดียวทำให้เขารู้สึกเหงาแปลก ๆ และไม่คุ้นชิน ปกติเขาก็เดินคนเดียวอยู่แล้วแต่เวลาสองสามวันมานี้เขามีเธอข้างกายตลอดมันทำให้เดินคนเดียวแล้วรู้สึกเหงาเหลือเกิน
“อรุณสวัสดิ์ครับพี่เสือ” รามินเอ่ยทักหลังจากเห็นพงศ์พยัคฆ์เดินมาที่แผนกศัลยกรรมประสาทและสมอง
“สวัสดีตอนเช้าราม สวัสดีตอนเช้าครับทุกคน อ่ะนี่ขนมพอดีแม่นมของพี่ทำขนมมาฝากน้องสาวพี่น่ะท่านเลยให้เอามาฝากที่แผนกด้วยเอาไปแจกจ่ายทานให้อร่อยนะครับทุกคนผมขอไปหาน้องก่อน เดี๋ยวมีเรื่องจะปรึกษา” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยทักทายรามินก่อนจะยื่นขนมให้แล้วเดินไปยังห้องพักของพิมพ์พิชชาทันทีโดนไม่รอคำตอบกลับของใคร
ทันทีที่เปิดประตูห้องเสียงซุบซิบของนางพยาบาลสองคนที่ตรวจอาการของพิมพ์พิชชาที่หลับอยู่ก็ดังลอดเข้ามาในหูทำให้ชายหนุ่มต้องหยุดฟัง
“นี่เธอได้ยินข่าวรึยัง หมอเสือน่ะแต่งงานแล้วแต่งมา9ปีแล้วแหน่ะ”นางพยาบาลที่เช็คสายน้ำเกลือเอ่ยบอก
“จริงเหรอเธอ ว่าแต่เมียหมอเสือสวยรึเปล่าสู้หมอฟ้าได้ไหม” นางพยาบาลอีกคนเอ่ยถามเธอเป็นคนนึงที่เชียร์ฟ้ารดากับพงศ์พยัคฆ์อยู่ พงศ์พยัคฆ์ที่หยุดฟังถึงกับถอนใจพรืดก่อนจะยื่นมือไปดันประตูหมายจะเข้าไปจัดการสองพยาบาลสาวที่เอาแพรวารินทร์ไปเปรียบเทียบกันฟ้ารดา ทว่าไม่ทันทีคุณหมอหนุ่มจะเปิดเข้าไปเสียงหวานจากเตียงก็ดังแทรกขึ้นเสียก่อน
“สวยค่ะ...สวยมากน่ารักมากด้วย”
พิมพ์พิชชาตื่นแล้ว และนางพยาบาลทั้งสองก็ตกใจเป็นอย่างมากด้วยคิดว่าตัวเองเป็นสาเหตุให้คนไข้วีไอพีรู้สึกตัวตื่น
“ขอโทษด้วยนะคะที่ทำคุณตื่น”
“ใช่ค่ะ ขอโทษที่ทำคุณตื่น”
“ไม่เป็นไรค่ะจริง ๆแล้วฉันแค่พักสายตาเท่านั้นเองพอได้ยินสิ่งที่พวกคุณพูดเลยอยากแจมด้วยน่ะค่ะ” พิมพ์พิชชาเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเป็นมิตรและไม่ถือสา ทว่าในใจนึกฉุนเมื่อคืนข่าวลือเรื่องเพื่อนของเธอกับพี่ชายก็มีให้ได้ยินแต่วันนี้นางพยาบาลยังคิดเอาเพื่อนเธอไปเทียบกับหมอฟ้าเสียอีก...ทำไมต้องไปเปรียบเทียบด้วย
“เอ่อ...คือ” แม้จะเป็นขาเม้าท์แต่สองพยาบาลสาวก็รู้ดีว่าการพูดเรื่องในโรงพยาบาลให้นไข้ฟังนั้นไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก ยิ่งเป็นเรื่องของแพทย์เจ้าของไข้ของคนไข้ยิ่งแล้วใหญ่ ขืนมีคนรู้ว่าพวกเธอเอาเรื่องส่วนตัวของนายแพทย์พงศ์พยัคฆ์มาเล่าให้คนไข้ของเขาฟังมีหวังโดนดีแน่
ท่าทีอึดอัดใจของสองพยาบาลสาวอยู่ในสายตาของนไข้ของคุณหมอพงศ์พยัคฆ์ตลอด หญิงสาวยักไหล่ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ “ไม่ต้องกลัวค่ะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นฉันจะรับผิดชอบเอง ถ้าไม่อยากเม้าท์ต่องั้นฉันอยากถามอะไรหน่อยได้ไหมหมอเสือกับหมอฟ้าอะไรนั้นมีข่าวลือว่าอะไรบ้างแล้วทำไมคุณพยาบาลต้องเอาภรรยาหมอเสือมาเปรียบเทียบกับหมอฟ้าด้วย”
“ที่นี่มีข่าวลือบ่อย ๆค่ะบ้างก็ว่าหมอเสือกับหมอฟ้ามีซัมติงรองกัน บ้างว่าหมอฟ้าอยู่บ้านเดียวกับหมอเสือสองต่อสองบ้างมีข่าวว่าพากันเข้าม่านรูดและก่อนหน้านี้ไม่นานก็มีข่าวลือว่าหมอฟ้ากำลังจะถูกเขี่ยทิ้งเพราะสำส่อนจนหมอเสือทนไม่ได้ไปคบคนอื่น” นางพยาบาลที่เช็คสายน้ำเกลือเอ่ยบอกเมื่อพิจารณาแล้วรู้สึกได้ว่าปลอดภัย พิมพ์พิชชาขมวดคิ้วพิจารณา...ดูเหมือนว่าข่าวลือที่ผ่านมาไม่เคยมีข่าวที่ดีกับฟ้ารดาเลย
“ส่วนที่เปรียบเทียบก็เพราะฉันชอบหมอฟ้าเป็นการส่วนตัวค่ะเธอน่ารักและไม่ได้เป็นอย่างข่าวลือแน่นอนถ้าเป็นจริงแบบข่าวฉันว่าหมอเสือต่างหากที่ผิดมีเมียอยู่แล้วก็ไม่พูด” นางพยาบาลอีกคนพูดบ้างพร้อมกับบ่นถึงหมอหนุ่มอย่างไม่ชอบใจ
“แต่ละข่าวแรง ๆ ทั้งนั้นเหมือนจงใจให้หมอฟ้าดูแย่แต่ทำไมต้องสร้างข่าวกับหมอเสือเป็นคนอื่นไม่ได้เหรอคะ” พิมพ์พิชชาเอ่ยถามทำไมจงใจเล่นข่าวแต่กับพี่ชายของเธอแถมมีน้อยมากที่มองว่าพี่เธอผิดส่วนมากจะฟ้ารดาผิดซะมาก
“ก็หมอเสือน่ะได้รับการโหวตให้เป็นหมอที่หล่อ รวย เท่ มีเสน่ห์ และฮอตที่สุดในโรงพยาบาลไงคะพอหมอฟ้าสนิทกับหมอเสือก็มีแต่คนอิจฉาเพราะสาว ๆ ทั้งโรงพยาบาลเนี้ยถึงขั้นคลั่งไคล้หมอเสือทั้งนั้น”นางพยาบาลที่ตรวจสาวน้ำเกลือเอ่ยบอก
‘นั้นสินะ เสน่ห์แรงจริง ๆ พี่เรา’ พิมพ์พิชชาอมยิ้มคิดในใจอย่างปลาบปลื้มที่มีพี่ชายเพอร์เฟคในสายตาคนหมู่มาก แต่เพียงแค่ชั่วพริบตาหญิงสาวก็คิดบางอย่างขึ้นมาได้ และก็หลุดพูดออกมาอย่างที่คิด“แต่พอมีข่าวหมอเสือมีเมียคนที่ปล่อยข่าวแย่ ๆ คงไม่อยู่เฉย ๆ แน่”
“แล้วเขาจะปล่อยว่าอะไรได้อีกละคะ มีข่าวแบบนี้คงไม่มีใครคิดเรื่องหมอฟ้าคบกับหมอเสือ คนที่แต่งงานแล้วแต่ปิดเงียบมันไม่ค่อยดีเลยสงสารหมอฟ้าที่ต้องเป็นข่าวกับหมอเสือ” พยาบาลสาวเอ่ยถามพร้อมพูดถึงพงศ์พยัคฆ์ตั้งแต่ที่ข่าวว่าเขาแต่งงานพยาบาลสาวก็มองพงศ์พยัคฆ์แย่ลงกว่าเดิมแม้จะรู้สึกโกรธนิดๆที่มีคนต่อว่าพี่ชายแต่พิมพ์พิชชาก็เข้าใจได้มันก็จริงว่าพงศ์พยัคฆ์ไม่เคยพูดเรื่องส่วนตัวกับใครแต่เมื่อนึกถึงคำถามแรกหญิงสาวจึงอ้าปากเอ่ยอธิบาย
“ก็ว่าหมอฟ้าเป็น...”
“อ้าวเสือ...ยืนทำอะไรอยู่ลูกทำไมไม่เข้าไป” แต่ก่อนที่พิมพ์พิชชาจะพูดจบประโยคเสียงของคุณหญิงพราวกะรัตที่กลับจากออกไปทานกาแฟที่ร้านข้างล่างก็ดังขึ้นก่อนจะเดินเข้ามาพร้อมกับคุณสิงหาส่วนพงศ์พยัคฆ์นั้นเดินตามหลังมา
“นิสัยไม่ดีแอบฟังคนเค้าคุยกัน” พิมพ์พิชชาที่เห็นพี่ชายตามผู้เป็นพ่อและแม่เข้ามาเอ่ยต่อว่าพี่ชายไม่จริงจังนัก
“พี่ไม่ได้แอบฟังนะหนูทราย แค่บังเอิญได้ยิน”พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวแม้จะเริ่มรู้สึกแปลกและคิดเหมือนกันว่าคนที่ชอบปล่อยข่าวทำลายฟ้ารดาจะทำอย่างไรต่อ
“แล้วคุยอะไรกับคุณพยาบาลหึตัวแสบถึงว่าพี่เค้าแอบฟัง” คุณสิงหาเอ่ยถามบุตรสาวพร้อมกับทำหน้าสนใจไปทางลูกชาย “ว่าไง?”
“ไม่มีอะไรหรอกครับพ่อ แค่อยากรู้อยากเห็นไปทั่วนั่นแหละหนูทรายน่ะ จริงสิแม่อุ่นทำขนมมาฝากด้วยทานมั้ยครับ เสือจะจัดให้” พงศ์พยัคฆ์ตัดบทไม่อยากให้คนเป็นพ่อและแม่ต้องมากังวลไปด้วย คุณสิงหาและคุณหญิงพราวกะรัตมองตากันก่อนจะพยักหน้าให้บุตรชาย พิมพ์พิชชามองขนมหวานตาแป๋ว สองนางพยาบาลถึงกับอ้าปากค้างไม่คิดว่าจะได้ยินหมอหนุ่มที่ได้ฉายาว่าเสือยิ้มยากแสนเย็นชาเอ่ยอย่างน่ารักและอ่อนหวาน
“เอ้อคุณพิมพ์ คุณสิตาจะมองอีกนานมั้ยครับ” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยถามนางพยาบาลสาวทั้งสองแต่สายตาและนิ้วเรียวยังอยู่กับขนมที่จัดใส่จาน สองพยาบาลสาวสะดุ้งโหยงก่อนสบตากันเมื่อกี้พวกเธอนินทาในระยะเผาขนแถมยังอาจจะนินทาให้คนในครอบครัวเขาฟังอีกด้วย
“ขอโทษนะคะหมอเสือคือเราเอ่อ...”
“ไม่เป็นไรครับจริง ๆแล้วผมก็ไม่คิดอะไรกับมันหรอกแค่รู้สึกไม่ดีนิดๆที่เอาภรรยาของผมไปเปรียบเทียบกับหมอฟ้า” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกแม้ไม่ใช้เสียงเยือกเย็นแต่สองพยาบาลสาวก็รู้ว่าหมอหนุ่มไม่พอใจเอามาก ๆ พิมพ์พิชชาเห็นท่าไม่ดีจึงคิดเปลี่ยนเรื่องเพราะรู้ดีว่าลองพี่ชายโกรธจากสุภาพบุรุษจะเปลี่ยนเป็นพยามารดี ๆนี่เอง
“ว่าแต่ยัยแพรล่ะคะไม่มาด้วยเหรอ”
“นั่นสิพ่อยังไม่เห็นหนูแพรเลย” คุณสิงหาที่เห็นบรรยาการไม่ดีจึงเอ่ยขึ้นชื่อของแพรวารินทร์เท่านั้นที่ทำให้ความไม่พอใจลดลงได้
“พอดีน้องมีงานด่วนนะครับเห็นว่าลูกค้าว่างแค่วันนี้หรืออะไรสักอย่างนี่ล่ะ แต่ช่วงบ่ายก็คงจะมา”พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกก่อนจะยกจานขนมมาให้น้องสาวเพราะบางอย่างไม่ดีต่อคนป่วยเขาจึงให้แม่อุ่นเลี่ยงของที่ทำให้สุขภาพของน้องแย่ลงและเพิ่มสิ่งมีประโยชน์ลงไปแทน
“นี่ขนมครับแม่อุ่นทำเอง ส่วนนี่น้ำส้มคั้นหนูแพรคั้นเองกับมือบอกว่าชดเชยที่ไม่ได้มาหาแต่เช้า คุณสิตาครับผมขอผลการตรวจความดันกับอุณหภูมิร่างกายของน้องสาวผมด้วย” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกก่อนจะหันมาหาพยาบาลสาวทั้งสอง
“ห๊ะ...น้องสาว”
“น้องสาวเหรอ?”
“ครับ พิมพ์พิชชาน้องสาวน้องแท้ๆคลานตามกันออกมาเลยแหละ ผมขอผลตรวจด้วย”
“นะนี่ค่ะ ความดันปกติ อุณหภูมิปกติสภาพจิตปกติถึงขั้นดีค่ะ” พยาบาลสาวเอ่ยตอบพร้อมยื่นผลการตรวจให้แพทย์เจ้าของไข้
“อืม...ถ้าเป็นแบบนี้ทุกวัน วันผ่าตัดก็ไม่น่ามีปัญหา” พงศ์พยัคฆ์พึมพำกับตัวเองก่อนจะคืนผลตรวจคืนให้
“เสือเอาขนมมาให้แล้วเสือไปทำงานก่อนนะครับเดี๋ยวเที่ยงจะมาทานข้าวด้วย” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกก่อนจะขอตัวไปทำงานต่อ พิมพ์พิชชามองตามพี่ชายก่อนจะนึกถึงคนที่สร้างข่าวลือเรื่องฟ้ารดาและหวังว่าสิ่งที่เธอคิดจะไม่เป็นจริง
‘คงไม่มีใครปล่อยข่าวว่าหมอฟ้ารดาเป็นเมียน้อยพี่เสือหรอกนะ’
กว่าชั่วโมงต่อมาและแล้วสิ่งที่พิมพ์พิชชาคาดไว้ก็เป็นจริงเมื่อมีข่าวลือดังกระฉ่อนไปทั่วโรงพยาบาลแถมไวยิ่งกว่า4Gเพราะข่าวนี้เกิดขึ้นหลังมีข่าวพงศ์พยัคฆ์แต่งงานแล้วไม่ถึงสองชั่วโมงแถมรู้กันเร็วกว่าข่าวแรกเสียอีก“พี่เสือครับแย่แล้วล่ะ มีคนปล่อยข่าวว่าหมอฟ้าเป็นเมียน้อยพี่อ่ะ” รามินที่ขออนุญาตออกจากห้องประชุมไปเข้าห้องน้ำรีบบอกทันทีที่เปิดประตูเข้ามาภายในห้องที่กำลังประชุมเรื่องแผนการผ่าตัดของพิมพ์พิชชาอยู่“ใครเล่นบ้าอะไรเนี่ย” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยขึ้นสายตาเยือกเย็นจนสัมผัสได้ถึงความกรุ่นโกรธที่กำลังจะปะทุ ที่ผ่านมาตลอดสองปีเขาทำทุกอย่างไม่ให้กุมารแพทย์สาวเสียหายแต่ดูเหมือนคนที่สร้างข่าวลือต่าง ๆจะไม่ยอมหยุดคนโกรธจนแทบปะทุก้าวออกจากห้องประชุมทันทีด้วยอารมณ์ที่พร้อมปะทะ ทว่าก่อนที่ชายหนุ่มจะได้ไปปะทะกับใครเสียงเรียกของปัญจวัตรก็ดังขึ้นเสียก่อน “เสือ”“นายได้ข่าวรึยัง” ปัญจวัตรที่โมโหไม่แพ้กันและอาจจะมากกว่าพงศ์พยัคฆ์ถามทันทีที่พบหน้าเพื่อนพงศ์พยัคฆ์พยักหน้าเป็นคำตอบก่อนจะถามถึงสถานการณ์ในโรงพยาบาลเพรา
เป็นอีกครั้งที่แพรวารินทร์ต้องมานั่งรอโดยไร้วี่แววการปรากฎตัวของลูกค้าคนพิเศษ หญิงสาวยังคงนิ่งสงบแต่ก็มั่นดูเวลาเป็นระยะ...หวังว่าคราวนี้เธอจะไม่ต้องรอเก้ออีกนะดวงตาคู่หวานละสายตาจากนาฬิกาข้อมือก่อนจะลอบถอนใจโล่งเมื่อเห็นร่างสูงก้าวลงมาจากบันได...ในที่สุดก็มาสักที“ขอโทษนะครับคุณมัณฑนากร พอดีนอนดึกไปหน่อยเลยตื่นสาย” ทัศนะผู้บริหารหนุ่มเจ้าของตำแหน่งลูกค้าวีไอพีเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้ายิ้มแย้มชวนฝันหลังจากที่ตนปล่อยให้มัณฑนากรสาวนั่งรออยู่เกือบสามชั่วโมง แพรวารินทร์ควรให้อภัยกับคำขอโทษถ้าลูกค้าหนุ่มเอ่ยจากใจไม่ใช่ใบหน้ายิ้มแย้มไม่รู้สึกผิด‘ชักจะทนไม่ไหวแล้วแฮะ คนอะไรกวนประสาทเหลือเกิน’ แพรวารินทร์คิดในใจอย่างสุดทน“ไม่เป็นไรค่ะ งั้นเราก็เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า” แพรวารินทร์เอ่ยราวกับไม่ถือสาหาความ ใจจริงคือเธออยากจะออกไปจากบรรยากาศชวนโมโหนี่แล้วทัศนะยิ้มมุมปากก่อนจะเอ่ยในสิ่งที่ตรงข้ามกับสิ่งที่หญิงสาวต้องการ “
ในลิฟต์“พี่หมอ แพรถามอะไรหน่อยสิ ทำไมต้องจับมือแพรตลอดแพรมาหลายครั้งแล้วไม่หลงหรอก”แพรวารินทร์เอ่ยบอกเธออยากจะรู้ว่าเขาจะจับมือเธอทำไมนักหนาจะกลัวเธอหลงรึก็ไม่ใช่“พี่ไม่ได้กลัวหนูแพรหลงพี่แค่อยากจับไว้แบบนี้ จับไว้ตลอดชีวิตและไม่อยากจะปล่อยเลยแม้วินาทีเดียวลองฟังมันดูสิครับว่าหัวใจพี่มันเต้นอย่างไร”พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกก่อนจะยกมือซ้ายของหญิงสาวขึ้นมาทาบทับตรงอกกว้างซึ่งตรงกับตำแหน่งของหัวใจหญิงสาวหยุดมือนิ่งราวกับฟังอัตราการเต้นของหัวใจชายหนุ่ม หัวใจของเขาเต้นรัวจนเธอสัมผัสได้มันเพราะอะไรกันนั่นคือสิ่งที่หญิงสาวพยายามขบคิด“ตรงนี้มันเต้นไม่ปกติทุกครั้งที่เข้าใกล้หนูแพร ตรงนี้มันเต้นแรงทุกครั้งที่ได้จับมือหนูแพรแต่มันก็อบอุ่นและมีความสุขทุกครั้งและไม่เคยเป็นแบบนี้กับใคร ที่เป็นแบบนี้เพราะพี่รักหนูแพรไงครับ” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกสายตาจ้องมองหน้าของภรรยาราวจะสื่อว่าพูดจริง“ความรักมันไม่ได้เกิดขึ้นง่ายขนาดนั้น ไม่มีทางที่เราจะรักใครสักคนได้ในเวลาแค่3-4วันหรอก”แพรวารินทร์เอ่ยบอกก่อนจะชักมือกลับแต่ชายหนุ่
3วันต่อมาเรือนแสนรักดวงตาคู่คมมองร่างบางที่ควรจะหลับไปเพราะความเหนื่อยล้าทว่ายังคงนั่งตาใสแจ๋ว แพรวารินทร์เพิ่งจะกลับมาถึงเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนนี้เอง สภาพหญิงสาวดูอิดโรยไม่น้อยแต่พอขึ้นมาบนห้องอาบน้ำเปลี่ยนชุดและมานอนแล้วเธอกลับไม่หลับเสียอย่างนั้น“หลับรึยังครับ” เขาถามพร้อมกับเดินมานอนลงข้างๆแพรวารินทร์ก่อนจะซ้อนกอดจากด้านหลังและบอกตัวเองว่าเขาต้องการแค่นอนกอดไว้เท่านั้น“พี่ขอแค่กอดสัญญาจะทำแค่นี้ครับ” พงศ์พยัคฆ์กระซิบข้างหูอย่างอ่อนโยนก่อนจะเห็นว่าแพรวารินทร์นิ่งไปเหมือนขบคิดอะไรสักอย่าง“นอนไม่หลับหรือครับคนดี กังวลอะไรบอกพี่ได้มั้ย”“ห่วงเรื่องทรายน่ะค่ะพี่หมอ มันจะเกิดอะไรขึ้นรึเปล่าแพรกังวลจนนอนไม่หลับเลย”แพรวารินทร์เอ่ยบอกตามสิ่งที่คิด...ใช่ว่าเธอไม่เชื่อฝีมือพงศ์พยัคฆ์แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้นี่“ทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดีเชื่อพี่สิครับ” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกก่อนจะลูบหัวหญิงสาวอย่างแสนรัก“เ
ห้องพักพิมพ์พิชชา“ปู่เชื่อว่าหลานสาวของปู่จะต้องผ่านเรื่องนี้ไปได้อย่างกังวลเลยหลานปู่”น้ำเสียงแหบชราของท่านสัตยะเอ่ยปลอบใจหลานสาวพร้อมกับลูบศีรษะหลานสาวอย่างรักใคร่ ท่านเดินทางมาที่นี่เมื่อช่วงสายของเมื่อวานและถึงโรงพยาบาลในช่วงค่ำหลังจากที่พิมพ์พิชชาหลับไปไม่นานทำให้ปู่กับหลานได้คุยกันในช่วงเช้านี้“ทรายไม่กังวลเรื่องผ่าตัดหรอกค่ะแต่ทรายกลัวทุกคนจะทุกข์ใจ ถ้าหลังผ่าตัดทรายเป็นอัลไซเมอร์ระยะสั้นโดยเฉพาะยัยแพร”พิมพ์พิชชาเอ่ยบอกเธอไม้ได้กังวลเรื่องการผ่าคัดแม้แต่น้อยแต่กังวลว่าผลกระทบหลังการผ่าตัดจะเป็นอย่างไรมากกว่าเธอพอรู้ผลข้างเคียงหลังผ่าตัดจากพงศ์พยัคฆ์มาบ้างทำให้นึกห่วงทุกคนจะทุกข์ใจโดยเฉพาะเพื่อนรักอย่างแพรวารินทร์“อย่ากลัวไปเลยลูกก็ไดอารี่ที่หนูทำไว้ไงล่ะถ้าหนูเป็นอะไรไปแม่กับพ่อจะให้หนูดูจะได้เปิดอ่านจะได้จำได้” คุณหญิงพราวกะรัตเอ่ยบอกพรางลูบหลังลูกสาว“ใช่...ส่วนหนูแพรพวกเราก็จะทำให้ลืมความทุกข์ใจและมีแต่รอยยิ้มเพื่อนของหนูและพวกเราจะไม่ทุกข
ห้องพักของพิมพ์พิชชาร่างบางในชุดคนไข้ของพิมพ์พิชชาถูกพากลับมายังห้องพักโดยมีแพรวารินทร์นั่งอยู่ที่โซฟา หลังจากกลับมายังห้องพักได้ไม่นานแพรวารินทร์ก็ขออยู่เฝ้าพิมพ์พิชชาจนกว่าจะฟื้นเพื่อให้คุณสิงหาและคุณหญิงพราวกะรัตได้กลับไปพักที่บ้านและอีกเหตุผลคือหญิงสาวอยากเป็นคนแรกที่พิมพ์พิชชาเห็นเมื่อลืมตาในตอนแรกคุณหญิงพราวกะรัตไม่เห็นด้วยเพราะรู้ดีว่าแพรวารินทร์ไม่ค่อยชอบกลิ่นและบรรยากาศของโรงพยาบาลแต่เมื่อพงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกว่าเขาต้องเข้าเวรในวันนี้ทำให้ทั้งหมดคลายความกังวลลงได้เพราะรู้ดีว่าหมอหนุ่มคงจะเข้ามาดูน้องสาวและภรรยาเป็นพักๆเป็นแน่ ท่านสัตยะ คุณสิงหาและคุณหญิงพราวกะรัตจึงต้องจำใจกลับไปพักผ่อนเพราะเย็นมากแล้วภายในห้องเงียบไปหลายนาทีเมื่อพงศ์พยัคฆ์อาสาลงไปส่งพ่อแม่และปู่ที่รถ แพรวารินทร์หยิบไดอารี่ของเพื่อนสาวขึ้นมาอ่านเป็นการฆ่าเวลา ทว่าหลายเรื่องในสมุดไดอารี่ก็ทำให้หญิงสาวจมไปกับอดีตอยู่หลายครั้งทำให้หญิงสาวไม่รับรู้ถึงการมาของพงศ์พยัคฆ์แม้แต่นิดเดียว...กว่าจะรู้ตัวความเย็นจากแก้วน้ำกระเจี๊ยบก็ถูกนำมาแนบห
เมฆสีขาวหลากหลายขนาดและต่างรูปทรงล่องลอยสวยงาม แสงของพระอาทิตย์ลอดผ่านผ้าม่านส่องแสงจ้าเป็นสัญญาณว่าฟ้าวันใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ท้องฟ้าวันนี้ไร้ซึ่งเมฆฝนมองแล้วช่างเป็นฟ้าวันใหม่ที่สดใสในความรู้สึกของแพรวารินทร์หญิงสาวอยู่ในชุดเสื้อยืดคอวีสีขาวกับกางเกงยีนดูสบายตา เธอและพิมพ์พิชชาไม่ชอบใส่ชุดที่เรียบหรูนุ่งน้อยห่มน้อยตามที่ผู้หญิงคนอื่นนิยมแต่เสื้อผ้าสบายๆก็ไม่ได้ลดทอนความสะสวยลงได้แพรวารินทร์ยังดูสวยสง่างามใบหน้าหวานปราศจากการเติมแต่งแต่ก็ยังคงดูน่ามองและน่าหลงใหลเช่นเคยหญิงสาวยืนมองดอกกุหลาบสีขาวและดอกลิลลี่สีขาวที่ถูกจัดอยู่ในแจกันที่ตั้งติดกันอย่างมีรอยยิ้ม พิมพ์พิชชาชื่นชอบดอกลิลลี่สีขาวที่สุดเธอจึงวานให้พงศ์พยัคฆ์ออกไปหาซื้อมาให้หมอหนุ่มกลับมาพร้อมดอกลิลลี่ที่ต้องการแต่เธอไม่คาดคิดว่าหมอหนุ่มจะมีดอกกุหลาบขาวของโปรดติดไม้ติดมือมาฝากเธอด้วย ยิ่งนับวันเธอยิ่งรู้สึกแปลกๆกับการกระทำของเขาจนต้องมานั่งคิดว่าเธอกำลังรู้สึกอย่างไรเพราะมัวแต่มองแจกันลิลลี่และกุหลาบที่อยู่ข้างโซฟาจึงทำให้แพรวา
สนามบิน...“ขอโทษที่ทำให้รอนะครับทุกคน คุณอาครับนี่ป้าลัดดาหรือป้าดา คุณป้าของผมครับ” รณพีร์เอ่ยบอกหลังจากพาผู้เป็นป้ามาถึงที่สนามบินที่นัดกันไว้กับพงศ์พยัคฆ์ หลังจากที่เมื่อสองวันก่อนแพรวารินทร์เข้าไปที่บริษัทเพื่อขอลาหยุดและขอร้องให้เลื่อนนัดส่งแบบร่างให้ทัศนะได้เล่าอาการของพิมพ์พิชชาให้ฟังและชวนชายหนุ่มไปเที่ยวเขาจึงไม่คิดปฏิเสธ ลัดดาที่บังเอิญได้ยินการสนทนาของหลานชายกับหญิงสาวที่ตนเอ็นดูที่ชอบมีข่าวว่าทั้งสองแอบคบหากันเล่าลือในบริษัทเธอจึงขอมาด้วยแม้จะเอ็นดูอยู่แต่เธอชอบพิมพ์พิชชามากกว่าและอยากให้พิมพ์พิชชาลงเอยกับหลานชายเพราะแพรวารินทร์นั้นเป็นกลางเกินไปนิ่งเกินไปไม่แสบขี้แกล้งได้ใจเหมือนพิมพ์พิชชาพิมพ์พิชชาคงทำให้ชีวิตของรณพีร์มีสีสันต์ขึ้น เธอที่ยังไม่ทราบความสัมพันธ์ของพงศ์พยัคฆ์และแพรวารินทร์จึงต้องออกโรงขัดขวางจนกว่าคนที่หมายตาจะจำทุกอย่างได้“ป้าดาครับนี่ คุณอาคุณสิงหากับคุณอาพราวกะรัต พ่อกับแม่ของหมอเสือครับ”รณพีร์เอ่ยบอกผู้เป็นป้าก่อนหันไปมองหน้าคนที่รักที่ยืนหลบอยู่หลังคุณสิงหาเหมือนเกรงกลัว“ยินด
“จากที่ไม่ชอบ ก็กลายเป็นใช่ กลายเป็นคำตอบของใจฉันความผูกพันเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นไม่ลดเลย ฉันรักเธอจัง...”เมื่อเสียงเพลงจบลงแพรวารินทร์ได้แต่เขินอายจนต้องวิ่งเข้าไปในห้องน้ำทั้งเขินทั้งเสียใจที่หมอหนุ่มยังคงนิ่งโดยไม่รู้เลยว่าคนที่คิดว่านิ่งนั้นแอบยิ้มและร้องไชโยในใจอยู่ถ้าไม่ติดที่ต้องเก๊กนิ่งนะเขาจะกระโดดเต้นแร้งเต้นกาเลยด้วยซ้ำ“สำเร็จ” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยเบาๆอย่างดีใจเมื่อแพรวารินทร์วิ่งเข้าไปในห้องน้ำ“สำเร็จแต่ยังไม่พอ ต้องบอกตรง ๆ” หมอหนุ่มเอ่ยบอกตัวเองและทำหน้านิ่งตัวตรงอีกครั้งด้านคนในห้องน้ำยืนมองตัวเองในกระจกอย่างเขินอายก่อนจะกรี๊ดลั่นแต่หมอหนุ่มก็ไม่มีทางได้ยินเพราะเป็นห้องเก็บเสียง ก่อนที่จะโทรศัพท์หาที่ปรึกษาตัวแสบอย่างพิมพ์พิชชาพร้อมเล่าทุกอย่างให้ฟัง“แก ฉันร้องเพลงบอกรักไปแล้วแต่พี่เสือยังนิ่งอีกเอาไงดีล่ะ”ด้านพิมพ์พิชชาอมยิ้มและกลั้นหัวเราะอย่างเต็มที่เธอไม่เชื่อว่าพี่ชายเธอยังนิ่งแค่ยัยเพื่อนรักไม่เห็นเท่านั้นแหละ“บอกรักผ่านเพลงอาจจะครุมเครือมั้งแก พี่เส
พระอาทิตย์ใกล้จะตกดินแล้วแต่คุณหมอหนุ่มยังไม่เลิกงานซึ่งนั้นก็หมายความว่าผู้ติดตามอย่างแพรวารินทร์ก็ยังไม่เลิกงานด้วยหญิงสาวมองญาติคนไข้ฉุกเฉินของพงศ์พยัคฆ์อย่างหงุดหงิดเธอพอจะรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นตกใจเสียใจที่ญาติเข้าโรงพยาบาลแต่มีสิทธิ์อะไรมากอดสามีเธอไว้แบบนั้นแถมยังเบียดหน้าอกหน้าใจเข้าหาเขาอีกนั้นสามีของเธอนะภรรยาเขานั่งอยู่นี่ไม่เห็นรึไง‘ชิ แกนั่งอยู่นี่ทั้งคน นางยังเบียดนมเข้าแนบอกพี่เสืออีกยัยนมแตงโม’ แพรวารินทร์ได้แต่แยกเขี้ยวใส่พร้อมก่นด่าในใจตอนนี้เข้าใจความรู้สึกของคนหึงแล้วโวยวายไม่ได้แล้วว่าเป็นยังไงและพอเข้าใจความรู้สึกของพงศ์พยัคฆ์ในวันนั้นแล้วด้วย แพรวารินทร์ได้แต่หงุดหงิดก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องทำงานของพงศ์พยัคฆ์เพราะทนภาพบาดตาไม่ไหวอยากจะกระชากออกจากกันให้รู้แล้วรู้รอด“พิมพ์พิชชาส่งคุณมาใช่มั้ย” หมอหนุ่มเอ่ยถามเมื่อแพรวารินทร์กลับห้องทำงานไปแล้ว เขามั่นใจว่าผู้หญิงที่พยายามเอาหน้าอกมาเบียดเขาเนี่ยไม่ใช่ญาติของคนไข้แน่นอนและจะเป็นใครไปไม่ได้ที่จะส่งมาถ้าไม่ใช่น้องสาวเขา“รู้ด้วย ฉลาดจังหมอขา&r
เดอะ ซัน คอนโดมิเนี่ยมคนที่ไม่ออกจากเรือนแสนรักมาโดยไม่รู้จุดหมายปลายทางเลือกจะมายังคอนโดมิเนียมแห่งนี้ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลและเป็นที่พักในช่วงที่เขาไปทำงานที่นิติเวชร่างสูงเปิดประตูเข้ามาในห้องก่อนจะเดินเข้ามายังห้องนอนแล้วทรุดลงนั่งบนเตียงอย่างหมดแรง เขาน้อยใจที่เธอว่าเขาไม่มีเหตุผลและมีสิทธิ์อะไรไปทำแบบนั้นและเขาหึงที่เธออยู่ในอ้อมกอดของชายคนอื่นและที่เป็นแบบนี้ไม่ใช่ความผิดของแพรวารินทร์แต่เป็นเพราะเขารักเธอมากเกินไปแถมเธอยังไม่มีใจให้กันอีกด้วย พงศ์พยัคฆ์ล้มลงนอนก่อนจะฝืนหลับตาลงอย่างยากลำบาก“พี่เสือคิดถึงหนูแพรนะครับ ขอแค่คิดถึงแต่จะไม่ไปกวนใจอีกแล้ว”2วันผ่านไปเรือนแสนรักเป็นเวลาสองวันแล้วหลังจากพงศ์พยัคฆ์ขับรถออกไปและหมอหนุ่มก็ไม่ได้กลับมาอีกตลอดระยะเวลาสองวันที่ผ่านมาช่างดูหดหู่ในความรู้สึกของแพรวารินทร์และทุกคนในบ้านที่ต่างเฝ้ารอการกลับมาของหมอหนุ่มโดยเฉพาะแพรวารินทร์ที่มีอาการเหม่อลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัวจนต้องขอลางานอีกหนึ่งอาทิตย์“แพรจะไปตามพี่เสือกลับมา พี่เสือ
ร่างสูงสมบูรณ์แบบของพงศ์พยัคฆ์หันมองไปยังโต๊ะที่มีคนคุ้นเคยในหัวใจของเขานั่งอยู่อย่างหงุดหงิดและพยายามควบคุมอารมณ์ไว้ไม่เดินเข้าไปกระชากผู้ชายคนนั้นขึ้นมาต่อยเพราะรู้ดีว่าตนทำผิดไว้มากและถ้าเดินเข้าไปต่อยลูกค้าของเธออีกมีหวังโอกาสของเขาคงหมดลงเป็นแน่แม้ว่าคำว่าสามีจะมีสิทธิ์ทำแบบนั้นแต่เขาไม่ใช่สามีที่เธอรักและยังอยู่ในสถานะที่รอการพิจารณาว่าจะรักหรือไม่เท่านั้นหมอหนุ่มจึงหันกลับมาสนใจกลุ่มเพื่อนร่วมงานตรงหน้าที่ชวนเขามาทานอาหารเที่ยงแทน ทีมแพทย์ที่สนิทของชายหนุ่มซึ่งนำทีมโดยรามินเอ่ยชวนเขามาทานอาหารเที่ยงที่นี่พงศ์พยัคฆ์ที่ไม่อยากเป็นกขค.ของเพื่อนรักกับกุมารแพทย์สาวจึงไม่คิดปฏิเสธการร่วมโต๊ะในครั้งนี้แต่เมื่อมาถึงที่นั่งของเขาดันบังเอิญมองไปเห็นอีกมุมนึงของร้านซึ่งเป็นที่ที่เจ้าของหัวใจของเขานั่งอยู่นั้นเอง“พี่เสือเป็นไรเปล่า ผมว่าพี่ทำหน้าดูน่ากลัวไงไม่รู้”รามินเอ่ยถามหลังจากเห็นรุ่นพี่หนุ่มทำหร้าเหมือนจะหักคอคนได้“เปล่าไม่มีอะไร ว่าแต่ที่มากันครบทีมแบบนี้เนื่องในโอกาสอะไร” พงศ์พยัคฆ์ที่ไม่อยากเป็นกอขอคอของเพื่อนรักเอ่ย
รุ่งอรุณแห่งวันเริ่มต้นการทำงานได้เริ่มขึ้นอย่างอึมครึมแต่ที่อึมครึมหาใช่สภาพอากาศไม่แต่หากเป็นความรู้สึกของพงศ์พยัคฆ์หลังจากกลับจากไร่พยัคฆาเมื่อเช้าวานซืนรณพีร์ก็โทรศัพท์มาบอกว่าทัศนะต้องการจะดูแบบและคุยรายละเอียดกับแพรวารินทร์เพียงแค่หมอหนุ่มทราบเท่านั้นแหละถึงกับหน้าบึ้งตึงไปเฉยๆ“ไม่ไปไม่ได้เหรอครับ หนูแพร” คือถ้อยคำที่พงศ์พยัคฆ์เอ่ยถามเมื่อช่วงเช้าวานที่ผ่านมาหากแต่แพรวารินทร์กลับบอกว่าเมื่อรับงานมาแล้วก็ต้องทำจะปฏิเสธไม่ได้เพราะเคยรับปากรณพีร์ไว้แล้วแค่เพียงได้ยินเช่นนั้นหมอหนุ่มที่เคยยิ้มแย้มเอาอกเอาใจก็เงียบลงทันตาแถมพูดถามคำตอบคำจนแพรวารินทร์ได้แต่สงสัยพอเอ่ยถามหมอหนุ่มกลับบอกว่าไม่เป็นไรแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะกลับจางหายไปตลอดหนึ่งวันมานี้ยิ่งรุ่งเช้าที่ผ่านมาหมอหนุ่มก็รีบออกไปทำงานแต่เช้าตรู่“พี่เสือหึงแกอยู่น่ะสิยัยแพร”พิมพ์พิชชาเอ่ยบอกขณะที่เดินมาส่งแพรวารินทร์ที่รถเพื่อไปทำงานเนื่องจากรณพีร์เกรงว่าเธอจะเป็นอะไรไปอีกชายหนุ่มจึงให้พักอีกหนึ่งอาทิตย์พิมพ์พิชชาจึงได้พักยาวๆจนถึงสิ้นเดือนนี้“พูดไปนั่นยัยทร
เช้าวันเสาร์ที่แสนสดใสวันนี้คือวันสุดท้ายที่พวกของพงศ์พยัคฆ์จะอยู่ที่ไร่พยัคฆารุ่งเช้าของวันพรุ่งนี้ทั้งหมดยกเว้นท่านสัตยะจะเดินทางกลับกรุงเทพฯความสัมพันธ์ของพงศ์พยัคฆ์กับแพรวารินทร์และปัญจวัตรกับฟ้ารดาดีขึ้นมากพอสมควรส่วนรณพีร์และพิมพ์พิชชาก็ถือว่าดีแต่เมื่อใกล้จะกลับพิมพ์พิชชายิ่งต้องหาวิธีบอกว่าความจำเธอกลับมาแล้ว พิมพ์พิชชายืนมองคนอื่น ๆอย่างคิดหนักโอกาสเล่นละครว่าความทรงจำเพิ่งกลับมามีแค่วันนี้เท่านั้นแล้วเธอจะทำอย่างไรดี‘เอาไงดีเนี่ย บอกไปตรง ๆไม่มีใครเชื่อแน่ บอกว่าจำได้ตั้งแต่สองวันแรกที่มาอีตาคุณพีร์คงโกรธแน่ เอาไงดีล่ะ ใช่แล้ว…ยัยแพร’ พิมพ์พิชชาครุ่นคิดในใจก่อนจะคิดอะไรได้หญิงสาวรีบเดินไปหาแพรวารินทร์“แพรมาทางนี้กับทรายหน่อยสิ”พิมพ์พิชชาเอ่ยบอกก่อนจะดึงเพื่อนรักไปในมุมลับตาคน“มีอะไรจ๊ะยัยคนความจำเสื่อม” แพรวารินทร์เอ่ยแกล้งเพื่อนรักที่ทำเป็นจำอะไรไม่ได้“แกรู้?” พิมพ์พิชชาเอ่ยถามอย่างตกใจไม่คิดว่าเพื่อนรักจะล่วงรู้ว่าเกือบสองอาทิตย์ที่ผ่านมาเธอแกล้งจำอะไรไม่ได้
ในวันที่9ของการมาเยือนไร่พยัคฆ์ของพงศ์พยัคฆ์และครอบครัวเป็นวันที่ท้องฟ้าสดใสพระอาทิตย์ส่องแสงเจิดจรัส โปรมแกรมการฟื้นฟูความทรงจำของพิมพ์พิชชาที่แพรวารินทร์วางไว้คือการไปปิ๊กนิคที่ทุ่งหญ้าพักใจแต่เมื่อถึงถึงวันจริงพงศ์พยัคฆ์กลับมีอาการตัวร้อนแพรวารินทร์จึงอยู่คอยดูแล มีเพียงปัญจวัตร ฟ้ารดา รณพีร์ และพิมพ์พิชชาเท่านั้นที่ไปตามโปรแกรมส่วนปรียาภัทรนั้นต้องอยู่เคลียร์งานเพื่อส่งให้เจ้านายที่โทรศัพท์มาทวงงานจึงไม่ได้ไป“หนูแพรครับ พี่เสืออยากไปนั่งชิงช้าริมน้ำจังไปด้วยกันหน่อยนะครับ” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยขึ้นหลังจากที่แพรวารินทร์กลับจากเรือนใหญ่เพราะผู้เป็นพ่อแม่สามีเรียกให้ไปพบด้วยสาเหตุบางอย่าง“แต่ไข้ยังไม่ลดเลยนะคะ” แพรวารินทร์เอ่ยถามอย่างเป็นห่วง“ไม่มีไข้แล้วครับ แตะดูสิตัวไม่ร้อนแล้วเห็นไหม”หมอหนุ่มเอ่ยบอกก่อนจะจับมือขวาของหญิงสาวขึ้นสัมผัสหน้าผาก“จริงด้วย ก่อนแพรจะไปเรือนใหญ่ยังตัวร้อนจี๋อยู่เลย”แพรวารินทร์เอ่ยอย่างสงสัยหากแต่หมอหนุ่มไม่ยอมให้หญิงสาวได้สงสัยนานไม่หมอหนุ่มลดมือหญิงสาวลงก่อนจ
“หมอปัญจ์ ฉันอยากได้ดอกไม้ตรงนั้นเอาให้หน่อย” ฟ้ารดาเอ่ยบอกขณะเดินตามทางเพื่อกลับไปที่จุดรวมพลพร้อมชี้ไม้ชี้มือไปที่ดอกของไม้เลื้อยชนิดหนึ่งที่เกาะอยู่บนต้นไม้ ปัญจวัตรมองดอกไม้ที่อยู่สูงพอสมควรก่อนจะเอ่ยขึ้น“จัดไปตามคำขอครับ คุณผู้หญิง” เมื่อจบหมอหนุ่มก็ถอดรองเท้าก่อนจะปีนป่ายขึ้นไปบนต้นไม้“ระวังนะหมอปัญจ์”“รับทราบครับผม” ปัญจวัตรเอ่ยบอกและในที่สุดหมอหนุ่มก็มาถึงจุดที่มีดอกไม้ที่ฟ้ารดาต้องการหมอหนุ่มเด็ดมันก่อนจะหันไปเห็นดอกไม้อีกชนิดที่สวยงามไม่แพ้กัน หมอหนุ่มดึงมาทั้งเถาก่อนจะทำเป็นมงกุฏดอกไม้ป่าพร้อมยิ้มสายตาพลันเหลือบไปเห็นน้องสาวที่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่ด้านล่างหมอหนุ่มจับตามองก่อนจะพยายามสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ...คงไม่ได้คุยกับไอ้บอสดี้นั่นอีกนะ“ได้รึยังหมอปัญจ์”เสียงของฟ้ารดาเอ่ยถามอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นหมอหนุ่มเงียบไปนาน ปัญจวัตรละสายตาจากน้องสาวกลับมาสนใจดอกไม้ในมือก่อนจะปีนป่ายหาทางลงไป“นี่ครับดอกไม้ของคุณ ส่
เพราะความขบเมื่อยตรงบริเวณต้นคอปลุกให้คนแกล้งลืมต้องรู้สึกตัวขึ้นบรรยากาศรอบข้างไม่ได้น่ามองกว่าเจ้านายปากเสียของเธอเลยเพราะไหล่ขวาถูกเธอครอบครองไว้ทำให้ชายหนุ่มเลือกที่จะเอาศีรษะพิงต้นไม้ใหญ่ข้างๆแทนเพื่อไม่ให้รบกวนเธอแม้จะหลับอยู่ชายตรงหน้าก็มีเสน่ห์อยู่มาก ปากนิดจมูกหน่อยน่ารักเวลายิ้มก็น่ารัก‘อีตาคุณพีร์ขี้เก๊ะหลงให้เข้าใจว่าชอบยัยแพรอยู่ได้ตั้งหลายปี หึถ้าอธิบายแต่แรกฉันคงรักคุณหัวปักหัวปำไปแล้วอีตาคนซื่อบื้อ’ พิมพ์พิชชาได้แต่คิดในใจอย่างหมั่นไส้ก่อนจะลุกขึ้นอย่างเบาๆก่อนจะย่องลงไปในน้ำอย่างระวังไม่ทำให้เจ้านายขี้เซาตื่น หญิงสาวมองคนหลับอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะวิดน้ำใสใส่เต็มแรงความเย็นจากของเหลวบางอย่างทำให้รณพีร์สะดุ้งตื่นพร้อมหาที่มาของสิ่งนั้น พลันสายตาปะทะเข้ากับร่างบางที่กำลังสะบัดน้ำใส่เขาอย่างสนุกสนาน“คุณพีร์คะมาเล่นน้ำกัน”พิมพ์พิชชาเอ่ยบอกแน่นอนว่าชายหนุ่มไม่มีทางสงสัยได้แน่นอนจากการพูดที่แสนจะสุภาพ“แล้วถ้าผมบอกว่าไม่ล่ะ”รณพีร์เอ่ยถามอยากรู้ว่าพิมพ์พิชชาเวอร์ชั่นเสียความทรงจำจะทำอย่า