“ไม่ต้องห่วง พ่อจะทำตามที่พูดไว้!”"ไปกันเถอะ ลูกไปเข้าร่วมการประชุมตระกูลกับพ่อเถอะ!"หลินเถิงฮุ่ยพูดอย่างมั่นใจอย่างมาก"อื้ม ค่ะ"หลินหว่านชิงพยักหน้า รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น จากนั้นเธอก็เข็นรถที่มีหลินเถิงฮุ่ยนั่งอยู่ไป พ่อและลูกสาวออกจากห้องไปพร้อมกัน......ในห้องโถงใหญ่ภายใต้การเรียกร้องของผู้อาวุโสหลายคนของตระกูลหลิน บุคคลสำคัญทั้งหมดในตระกูลก็มารวมตัวกัน รวมถึงไป่จิ้งและหลินโย่ว ผู้เป็นแม่และลูกชาย และยังมีลี่ตั๋วไห่และคนอื่น ๆ ที่ได้รับเชิญจากตระกูลหลินในเวลานี้ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น หลินหว่านชิงเข็นหลินเถิงฮุ่ยเดินเข้ามาในห้องโถงหลัก"ทุกคนโปรดเงียบก่อน!"เมื่อเห็นหลินเถิงฮุ่ยปรากฏตัว ผู้อาวุโสของตระกูลหลินคนหนึ่งก็ออกมา และจัดการสถานการณ์ความเรียบร้อยโดยรวม“การประชุมตระกูลที่ผู้อาวุโสของเราเรียกร้องให้จัดขึ้นครั้งนี้ จะมีการประกาศเรื่องสำคัญอยู่สองเรื่อง!”“เรื่องแรกเกี่ยวกับสถานการณ์ของบริษัท ฉันเชื่อว่าทุกคนคงได้ยินมาก่อนว่าหลินกรุ๊ปของเราถูกวางแผนและจัดการโดยพวกอันธพาลตัวเล็ก ๆ ในช่วงที่ผ่าน และตกอยู่ในวิกฤติครั้งแล้วครั้งเล่า…”"ต้องขอบคุณเถิงฮุ่ยสำหรับการอ
ลี่ตั๋วไห่พูดอย่างไม่เต็มใจ“ลี่ตั๋วไห่ หมายความว่ายังไง?”“กลัวว่าผมจะกลับคำเหรอ?”สีหน้าของหลินเถิงฮุ่ยเข้มขึ้น แสดงออกถึงความไม่พอใจตอนนี้สมาชิกหลักของตระกูลหลินล้วนอยู่ที่นี่ และเขากำลังจะขึ้นรับหน้าที่เป็นผู้นำตระกูล ถ้าเขายืนยันการแต่งงานต่อหน้าทุกคนในตอนนี้ แต่ไปกลับคำพูดในทีหลัง เขาจะไม่กลายเป็นตัวตลกของทุกคนในตระกูลหลินหรอกหรือ!เมื่อถึงตอนนั้น บารมีทั้งหมดของเขาคงได้ดับมอดลง แล้วเขายังจะยืนในตระกูลอย่างมั่นคงได้อย่างไร!“ใช่ ผมกังวลนิดหน่อยจริง ๆ!”“ถ้าคุณไม่คิดกลับคำพูด แล้วจะผลัดวันประกันพรุ่งไปทำไม!”“คิดว่าผมหลอกได้ง่ายเหมือนเด็กสามขวบจริง ๆ เหรอ?”ลี่ตั๋วไห่ตะคอกอย่างเย็นชาแม้ว่าหลินเถิงฮุ่ยกำลังจะขึ้นมารับตำแหน่งผู้นำตระกูลหลิน แต่ตราบใดที่ยังไม่เข้าพิธีการอย่างเป็นทางการ หลินเถิงฮุ่ยก็ไม่ถือเป็นผู้นำตระกูลอย่างแท้จริง!ต่อให้ตอนนี้เขาจะมีการโต้เถียงกับหลินเถิงฮุ่ย แต่อย่างน้อยทั้งสองฝ่ายก็ยังมีที่ว่างสำหรับการเจรจาอยู่ในทางตรงกันข้าม ถ้าหลินเถิงฮุ่ยขึ้นมาเป็นผู้นำตระกูลหลินอย่างเป็นทางการแล้ว เมื่อเขาขัดแย้งกับหลินเถิงฮุ่ย เขาก็จะกลายเป็นศัตรูของตระกูลหล
"ขอบคุณค่ะพ่อ...”ดวงตาของหลินหว่านชิงเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อย หัวใจที่เป็นกังวลของเธอสงบลงในที่สุดก่อนหน้านี้หลินเถิงฮุ่ยเคยทำให้เธอกับฉินหมิงต้องเลิกรากัน ต่อมาหลินเถิงฮุ่ยก็อยากให้เธอแต่งงานเพื่อแลกกับผลประโยชน์ ทำให้เธอขุ่นเคืองใจไม่น้อย และรู้สึกผิดหวังในตัวหลินเถิงฮุ่ยพ่อของเธอมาตั้งนานแล้ว!แต่ตอนนี้หลินเถิงฮุ่ยไม่ลังเลที่จะละทิ้งผลประโยชน์ที่กำลังจะได้มาอย่างง่ายดายเพื่อเธอ แบบนี้สิถึงจะเป็นแบบอย่างของพ่อผู้ยิ่งใหญ่ในใจของเธอในเวลานี้เธอมีความสุขมาก แม้แต่ความขุ่นเคืองใจและความไม่พอใจที่มีต่อหลินเถิงฮุ่ยในอดีตได้พลันหายไปทันที“ดี ดีมาก!”“หลินเถิงฮุ่ย ตระกูลลี่ของเรามอบเงินช่วยเหลือแก่หลินกรุ๊ปเป็นจำนวนห้าพันล้านเพื่อช่วยตระกูลหลินของคุณผ่านพ้นความยากลำบาก แต่เมื่อคุณได้รับผลประโยชน์แล้วกลับถีบหัวส่ง!”“คุณคิดว่าจะรังแกได้ง่าย ๆ จริงเหรอ?”ลี่ตั๋วไห่โกรธจัดจนหลุดหัวเราะออกมา“ราชาแดนเหนือ ความรู้สึกมันบังคับกันไม่ได้ โปรดให้อภัยผมด้วย!”“สำหรับเงินห้าพันล้านที่ตระกูลลี่ของคุณช่วยเหลือหลินกรุ๊ปนั้น คุณไม่ต้องห่วง ผมจะคืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยทั้งหมดให้กับตระกูลลี่ของค
“นี่...เป็นไปได้ยังไง!”“เห็นได้ชัดว่าระดับการบ่มเพาะของคุณอยู่แค่ขั้นครึ่งก้าวราชาสงครามเท่านั้น แล้วคุณกลายเป็นยอดฝีมือระดับราชาสงครามได้อย่างไร!”หลังจากที่หลินเถิงฮุ่ยได้สติ ใบหน้าของเขาก็ตื่นตระหนกแม้ว่าความแตกต่างระหว่างขั้นครึ่งก้าวราชาสงครามและราชาสงครามนั้นจะต่างกันเพียงครึ่งก้าวเล็กๆ แต่ทั้งสองก็มีความแต่กต่างกันราวฟ้ากับเหว!ในเมืองเจียงเฉิง ยอดฝีมือระดับราชาสงครามเพียงคนเดียวก็เพียงพอที่จะต่อกรกับกองกำลังของตระกูลใหญ่ทั้งตระกูลได้!ถ้าระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่อยู่แค่ขั้นครึ่งก้าวราชาสงคราม ด้วยพลังและรากฐานที่แข็งแกร่งของตระกูลหลิน เพียงแค่ส่งยอดฝีมือระดับครึ่งก้าวราชาสงครามสองสามคนออกไป ก็จะสามารถสยบลี่ตั๋วไห่ได้อย่างง่ายดาย!แต่ตอนนี้ระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่ได้มาถึงระดับราชาสงครามแล้ว นี่เป็นการพัฒนาแบบก้าวกระโดด!ตระกูลหลินต้องการปราบยอดฝีมือระดับราชาสงครามคนหนึ่ง และคู่ต่อสู้คนนั้นคือราชาแดนเหนือลี่ตั๋วไห่หนึ่งในหกกองกำลังชั้นนำของเมืองเจียงเฉิง นี่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้!เช่นเดียวกับเมื่อก่อน นายท่านซูและราชาแดนใต้เฝิงเจิ้น บุกเข้าไปสังหารคนในถิ่นของ
“ตระกูลหลินของพวกคุณพอได้รับผลประโยชน์แล้วก็ถีบหัวส่ง ปั่นหัวผมเหมือนคนโง่ อย่างน้อยคุณควรเสนอข้อแลกเปลี่ยนที่น่าพึงพอใจกับฉันไหม!”ลี่ตั๋วไห่พูดอย่างเย็นชา“คุณอยากได้อะไรเป็นข้อแลกเปลี่ยนล่ะ?”หลินจิ่วถาม“ผมมีคำขอสองข้อ!”“ข้อแรก หลินเถิงฮุ่ยทรยศต่อคำสัญญาและกลับคำพูดของตัวเอง ผมรู้สึกว่าคนน่ารังเกียจเช่นเขาไม่มีคุณสมบัติที่จะขึ้นเป็นผู้นำตระกูลหลินอีกต่อไป!”ลี่ตั๋วไห่พูดอย่างเย็นชา“อะไรนะ?”หลินเถิงฮุ่ยตกใจเมื่อได้ยินสิ่งนี้ เขามองหลินจิ่วด้วยความตื่นตระหนก กังวลว่าหลินจิ่วจะยอมรับคำขอของลี่ตั๋วไห่!“ลี่ตั๋วไห่ การที่หลินเถิงฮุ่ยจะมีคุณสมบัติขึ้นเป็นผู้นำตระกูลหรือไม่นั้น เป็นเรื่องภายในของตระกูลหลินของเรา คุณเป็นคนนอกเข้ามายุ่งเกินไปหรือเปล่า?”หลินจิ่วพูดด้วยสีหน้าไม่พอใจเพื่อคลี่คลายความขัดแย้งระหว่างทั้งสองฝ่าย เขาสามารถยอมรับคำขอที่สมเหตุสมผลจากลี่ตั๋วไห่ เช่นคำขอโทษต่าง ๆแต่ลี่ตั๋วไห่นั้นหยิ่งผยองมากเกินไป ถึงขนาดสั่งให้ตระกูลหลินถอดหลินเถิงฮุ่ยออกจากตำแหน่งผู้นำตระกูล คำขอนี้มันเกินไปมาก และเขาจะไม่มีวันเห็นด้วย!“ปู่รองหลิน ผมกำลังทำสิ่งนี้ก็เพื่อประโยชน์ข
ใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความกระทบกระเทือนใจของเขาได้!“เถิงฮุ่ย อย่าหาว่าลุงรองใจร้าย เพื่อคำนึงถึงอนาคตของตระกูล ฉันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้อง...”หลินจิ่วถอนหายใจเมื่อเห็นว่าเรื่องนี้ได้ข้อสรุปแล้ว หลินเถิงฮุ่ยก็เศร้าสลด จากนั้นเขาก็ดูเหมือนจะนึกอะไรบางอย่างได้และรีบหันความสนใจไปยังไป่จิ้ง“ไป๋จิ้ง ตอนนี้ทุกคนต้องการปลดฉันออกจากการเป็นผู้นำตระกูล เธอช่วยฉันพูดอะไรหน่อยสิ!”หลินเถิงฮุ่ยรีบพูดอย่างรวดเร็วหลินกรุ๊ปเป็นเสาหลักของตระกูลหลิน การได้ควบคุมหลินกรุ๊ปนั่นเท่ากับได้ควบคุมตระกูลหลิน!อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่กี่วันก่อน เขาได้โอนอำนาจใหญ่ของบริษัทให้กับหลินโย่วลูกชายของเขา โดยมีไป๋จิ้งเป็นผู้รับผิดชอบชั่วคราวขอแค่ไป่จิ้งออกมายืนหยัดสนับสนุนเขาในตอนนี้ และพูดว่าเขาเป็นผู้สืบทอดลำดับที่หนึ่งของตระกูล เช่นนี้แล้วเขายังคงมีความหวังอย่างมากที่จะได้ขึ้นมารับตำแหน่งผู้นำตระกูลหลิน!“ฉันคิดว่าลุงรองพูดถูก!”“หลินเถิงฮุ่ย เพื่อช่วยหลินหว่านชิงคุณไม่สนใจผลประโยชน์ของตระกูล คุณจึงไม่มีคุณสมบัติที่จะดูแลตระกูลอีกต่อไป!”ไป่จิ้งพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย"เธอพูดอะไรนะ?"หลินเถิงฮุ่ยตก
“ไม่มีอะไรที่ไม่เหมาะสม!”“มีเหล่าผู้อาวุโสในตระกูลคอยช่วยเหลือหลินโย่ว ดังนั้นจึงไม่น่าจะมีปัญหาใด ๆ!”หลินจิ่วพูดอย่างใจเย็นแม้ว่าหลินจิ่นหัวจะเป็นลูกชายของเขา แต่ตามกฎของตระกูลหลิน ตำแหน่งผู้นำตระกูลมักจะเป็นทายาทสายตรงของบ้านใหญ่ขึ้นสืบทอดด้วยสถานะอันสูงส่งของเขาในฐานะปู่รองของตระกูลหลิน เมื่อคำนึงถึงผลประโยชน์ของตระกูล เขาไม่สามารถเข้าข้างหลินจิ่นหัวได้ เพื่อไม่ให้ตกเป็นที่ครหาในการแย่งชิงอำนาจ!เขาไม่สามารถรับข้อหาร้ายแรงเช่นนั้นได้!แน่นอนว่า ถ้าหลินโย่วมีความสามารถอย่างแท้จริงและสามารถนำพาตระกูลหลินไปสู่ความรุ่งโรจน์ได้ แบบนั้นคงจะดีมาก!ในทางกลับกัน ถ้าหลินโย่วไม่มีความสามารถหรือมีไม่เพียงพอ ก็ไม่สายเกินไปที่เขาจะปลดหลินโย่วออกจากการเป็นผู้นำตระกูลเมื่อถึงตอนนั้น เขาสามารถปล่อยให้หลินจิ่นหัวขึ้นมารับตำแหน่งผู้นำตระกูลได้อย่างถูกต้อง และไม่ทิ้งประเด็นเรื่องการแย่งชิงอำนาจไว้!“ก็ได้”หลินจิ่นหัวทำอะไรไม่ได้ และไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมรับเรื่องนี้เมื่อเห็นว่าปู่รองหลินจิ่วและเหล่าผู้อาวุโสทั้งหลายของตระกูลหลินสนับสนุนหลินโย่วให้ขึ้นมารับช่วงดูแลตระกูลต่อ โดย
อย่างไรก็ตามการแต่งงานเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของตระกูลหลิน พวกเขาทุกคนล้วนคำนึงถึงผลประโยชน์ของตระกูล จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหลินหว่านชิงจะยอมรับการแต่งงานนี้ได้!ยิ่งไปกว่านั้นนี่เป็นหนึ่งในเงื่อนไขเพื่อไกล่เกลี่ยเรื่องพิพาทกับลี่ตั๋วไห่ หากพวกเขาพูดออกมาว่าไม่เห็นด้วย ก็จะทำให้ลี่ตั๋วไห่โกรธอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้!:ซึ่งนี่ไม่ใช่เรื่องดีต่อตระกูลหลิน!ชั่วขณะหนึ่งหลินจิ่วและเหล่าผู้อาวุโสของตระกูลหลินเลือกที่จะนิ่งเงียบ ตั้งตารอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น“ไป่จิ้ง อย่ารังแกคนอื่นให้มันมากนัก!”หลินหว่านชิงถลึงตาจ้องด้วยความโกรธไป่จิ้งบังคับให้เธอขายกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ป จากนั้นวางแผนขโมยตำแหน่งผู้นำตระกูลจากหลินเถิงฮุ่ยพ่อของเธอไป และท้ายที่สุดไป่จิ้งก็ยังไม่ยอมปล่อยเธอ!เธอไม่ใช่คนโง่ ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าบางทีไป่จิ้งอาจกำลังใช้วิธีค่อย ๆ เล่นงานตนโดยวางแผนคิดร้ายทีละขั้น และพยายามบังคับเธอให้แต่งงานกับลี่หย่งเจี๋ย!เธอไม่ได้เอะใจมันเลย จนตอนนี้เธอได้ตกหลุมพรางของไป่จิ้งเสียแล้ว!น่าเสียดายที่เธอเพิ่งเข้าใจในวันที่มันสายเกินไป!“แล้วถ้าฉันจะรังแกเธอมากเกินไปล่ะ มันจะทำไมเหรอ?”