"คุณโจว ขอบอกตามตรงนะครับ ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเมื่อห้าปีก่อนของคุณยังไม่หายขาด จนในที่สุดก็หลงเหลือโรคบางอย่างตามมา" "โรคที่ตามมาพวกนี้แฝงอยู่ในร่างกายของคุณก็เลยก่อให้เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน!" "ไม่ใช่โรคหลอดเลือดหัวใจตีบครับ!" ฉินหมิงกล่าวขึ้น คุณโจวพลันเข้าใจขึ้นมาทันที "อย่างนี้เอง!" "งั้นคุณรักษาได้ไหมล่ะ?" "ได้สิครับ เมื่อสักครู่นี้ตอนที่ผมฝังเข็มให้คุณ ได้ขจัดโรคที่ตามมาพวกนั้นไปแล้วล่ะ" "ตอนนี้ผมจะเขียนใบสั่งยาให้คุณ ถ้าคุณกินยาไปสักสัปดาห์หนึ่ง อาการของคุณก็จะหายขาดไปเองครับ!" คุณโจวโบกมือให้บอดี้การ์ดไปหากระดาษกับปากกา ฉินหมิงเขียนใบสั่งยาไม่กี่ทีก็ยื่นให้แก่คุณโจว "น้องฉิน ขอบคุณมากเลยนะ ผมไม่รู้จะตอบแทนบุญคุณยังไงดี..." "เช็คเงินสดใบนี้เป็นน้ำใจเล็กน้อยของผม น่าจะพอเป็นค่ารักษาได้อยู่นะ ได้โปรดรับเอาไว้ด้วยเถอะ!" คุณโจวกล่าวด้วยความซาบซึ้งใจยิ่ง เขาหยิบเช็คเงินสดออกมาจากกระเป๋าแล้วเขียนจำนวนเงินลงไป จากนั้นค่อยยื่นให้ฉินหมิง ฉินหมิงไม่เหลือบมองเสียด้วยซ้ำไป เขายื่นมือผลักเช็คเงินสดออกไป "คุณโจว ผมซาบซึ้งในน้ำใจของคุณนะครับ" "แต่ผมไม่ใช่ห
ไม่เว้นแม้กระทั่งหมอหลิวที่ก่อนหน้านี้เขายังไม่พอใจในตัวฉินหมิง ทว่าตอนนี้เขาชื่นชมทักษะและจริยธรรมทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมของฉินหมิงเขาลังเลเล็กน้อยก่อนที่จะไปยืนอยู่ตรงหน้าฉินหมิง โค้งคำนับต่ำให้อย่างนับถือ “คุณฉิน เมื่อกี้ผมได้สงสัยในวิชาการแพทย์ของคุณ ผมขอโทษสำหรับความหยาบคายของผมด้วย!”“เมื่อก่อนผมดูถูกแพทย์แผนจีนมาโดยตลอด คิดว่าแพทย์แผนจีนคงสู้แพทย์แผนปัจจุบันไม่ได้ ครั้งนี้คุณได้มอบบทเรียนที่ดีมากให้กับผม ผมได้เรียนรู้จากคุณมามากมาย!”“ขอบคุณนะครับ!”“หมอหลิว คุณชมเกินไปแล้วครับ”“คุณเป็นผู้อาวุโสในด้านการแพทย์ เป็นหมอที่มีชื่อเสียง ผมยังห่างชั้นคุณอีกเยอะเลยครับ “ฉินหมิงรีบพูดปัด และก็ไม่ไม่เอาเรื่องเล็กน้อยนี้มาใส่ใจ“น้องชายฉินนี่นามบัตรผม ต่อไปนี้ถ้าคุณมีเรื่องต้องการให้ช่วยล่ะก็ สามารถโทรหาผมได้ตลอดเวลาเลยนะ”นายท่านโจวได้หยิบนามบัตรออกมาให้ฉินหมิง ในเวลาเดียวกันเขาก็ไม่ลืมที่จะขอช่องทางการติดต่อของฉินหมิงไว้ฉินหมิงดูนามบัตรในมือ บนนามบัตรเขียนไว้ว่าโจวเจี้ยนคังประธานบริษัทโจวกรุ๊ป ในใจอดไม่ได้ที่จะแอบคิดว่ามิน่าล่ะที่นายท่านโจวควักเงินก้อนโตให้เขาตั้งห้าหมื่น
หลังจากเลิกงานฉินหมิงขี่รถมอเตอร์ไซค์ขับรถตรงไปยังตลาดของเก่าที่ใหญ่ที่สุดในเจียงเฉิงตามบันทึกที่ได้รับสืบทอดมา ในนั้นมีรูปแบบที่เรียกว่ารูปแบบการรวบรวมวิญญาณ สามารถเร่งการรวบรวมและฝึกฝนพลังวิญญาณได้ ให้ผลของการฝึกฝนเพิ่มเป็นสองเท่าโดยแค่ใช้ความพยายามเพียงครึ่งเดียว!ภูเขาด้านหลังบ้านนั้นเต็มไปด้วยพลังจิตวิญญาณ ฉินหมิงวางแผนที่จะวางรูปแบบการรวบรวมวิญญาณบนภูเขาด้านหลัง เพื่อลองดูว่าตนจะสามารถเพิ่มความเร็วในการฝึกฝนได้หรือไม่ทว่าการรวบรวมวิญญาณนั้นต้องการหยกและต้องเป็นหยกธรรมชาติที่มีพลังทางจิตวิญญาณ ยิ่งพลังของหยกแข็งแกร่งเท่าใด ผลของรวบรวมวิญญาณก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้นตอนนี้ฉินหมิงจึงมุ่งไปยังตลาดของเก่า คิดจะจัดเตรียมซื้อหยก...ด้านนอกตลาดของเก่าซวนเหวินฉินหมิงที่เพิ่งจะจอดรถเสร็จ ก็เห็นประตูรถปอร์เช่ที่เปิดอยู่ไม่ไกลนัก มีผู้ชายหนึ่งคนและผู้หญิงอีกหนึ่งคนเดินออกมาสองคนนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นอดีตภรรยาของฉินหมิงที่มีชื่อว่าหม่าลู่ และยังมีชู้รักที่ชื่อซุนกวนจงพอหันหลังกลับไป หม่าลู่และซุนกวนฉงก็มองเห็นฉินหมิงพอดีเมื่อต่างคนต่างพบศัตรู บรรยากาศก็คุกรุ่นขึ้นมาทัน
ฉินหมิงมองเขาด้วยดวงตาที่เย็นชา การเคลื่อนไหวของเขาหยุดชั่วคราว แม้แต่หมัดของเขาก็ไม่ได้ปล่อยออกไป“นี่ฉินหมิง ฉันขอเตือนนายไว้ ต่อไปนี้อยู่ห่างจากลู่ลู่ของฉันด้วย ถ้านายยังมาพัวพันกับเธออีกล่ะก็ ฉันเอานายถึงตายแน่!”ซุนกวนฉงพูดด้วยสีหน้าดุร้ายฉินหมิงกำหมัดแน่นจากนั้นก็คลายมือลงตระกูลซุนมีพลังอำนาจมากไม่ใช่เล่น แต่ก่อนที่ตัวเขาจะแข็งแกร่งอย่างแท้จริง เขายังไม่ต้องการที่จะมีความขัดแย้งกับซุนกวนฉงในตอนนี้“ไสหัวไปให้พ้นหน้าฉัน!”ซุนกวนฉงตะคอกอย่างเย็นชา เขาปล่อยมือจากคอเสื้อของฉินหมิงฉินหมิงไม่ได้พูดอะไร และเดินไปทางตลาดของเก่าอย่างเงียบ ๆ “ที่รัก คนไร้ค่าอย่างฉินหมิงไม่ใช่แฟนของหลินหว่านชิง แถมหลินหว่านชิงก็ทิ้งเขาไปแล้ว!”“แล้วทำไมคุณถึงไม่สั่งสอนเขาล่ะคะ ปล่อยเขาไปทำไม!”หม่าลู่พูดอย่างไม่มีความสุขครั้งที่แล้วที่อำเภอหลินหว่านชิงตบเธอสองไปสองฉาด เธอรู้ว่าตนไม่มีความสามารถที่จะแก้แค้นหลินหว่านชิงได้ ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงระบายความไม่พอใจใส่ฉินหมิงเท่านั้นแต่ตอนนี้เธอกำลังมองฉินหมิงเดินจากไป แน่นอนว่าเธอใจไม่ยินยอม“นี่เธอโง่หรือเปล่า?”“ครั้งนี้พวกเรามากันเอง ไม่ไ
”ฉินหมิงนี่นายอีกแล้วเหรอ ทำไมนายตามหลอกหลอนกันขนาดนี้เนี่ย!”“ไม่ว่าเมื่อกี้ฉันเตือนนายไปแล้วหรอกเหรอ ไม่ให้มาพัวพันลู่ลู่ นายรนหาที่ตายใช่ไหม!”ซุนกวนฉงโมโหหนัก ดวงตาเขาดุร้ายถลึงมองฉินหมิง“ฉันก็บอกกับนายไปตั้งนานแล้วว่าฉันมาซื้อของ ใครที่ไหนจะมาพัวพันกับเธอ!”“ไม่เข้าใจเหตุผลหรือไง!”ฉินหมิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา เขาไม่คิดเลยว่าตลาดของเก่าใหญ่ขนาดนี้ ตัวเองต้องมาบังเอิญเจอสองคนนี้เร็วขนาดนี้ น่าโมโหซะจริง!“นายอย่ามาเล่นไม้นี้เลยดีกว่า!”“พวกเราเท้าเพิ่งจะแตะร้าน เท้าของนายก็แตะร้านเข้ามาตามหลังติด ๆ เรื่องอะไรจะบังเอิญได้ขนาดนี้!”“ทำไม แค่หลินหว่านชิงไม่สนใจคนไร้ค่าอย่างนาย นายก็คิดอยากจะมาวอแวกับฉันงั้นเหรอ! นายนี่มันร้ายจริง ๆ !แม้ว่าเธอกับซุนกวนฉงจะหวังให้เจอฉินหมิงอีกครั้ง หลังจากนั้นจะได้สั่งสอนเขาสักรอบแต่ฉินหมิงกลับตามเธอมาตลอดทาง เห็นได้ชัดว่าเขามีเจตนาชั่วร้ายต่อเธอ นี่มันคนละเรื่องกันเลยนี่!“ฉันขี้เกียจจะสนใจพวกนายแล้ว!”ฉินหมิงทำท่าทีไม่แยแสใส่ซุนกวนฉงและหม่าลู่ ก่อนจะเดินตรงไปยังบริเวณที่มีการขายหินหยกดิบ“จะไปไหน คิดว่าจะไปได้ง่าย ๆ หรือไง!”“ที่รัก
“ที่รัก ถ้าหาที่ถูกใจไม่เจอ อย่างนั้นเราไปดูร้านอื่นกันดีกว่าไหมคะ?”หม่าลู่พูดแนะนำซุนกวนฉงส่ายหน้า “ไม่ละ ร้านนี้เป็นขายหยกที่ใหญ่ที่สุดในตลาดของเก่าแล้ว แม้แต่ที่นี่ยังไม่มีของคุณภาพสูงขนาดนี้ ร้านอื่นก็คงไม่มี ไปก็เสียเที่ยวเปล่า ๆ”“แล้วจะทำอย่างไรล่ะ?”หม่าลู่รู้สึกอึดอัดใจ เธอเพิ่งได้จดทะเบียนสมรสกับซุนกวนฉงเมื่อสองวันก่อน นี่เป็นครั้งแรกที่ซุนกวนฉงจะพาเธอไปพบกับครอบครัวเขาอย่างเป็นทางการ แถมยังเป็นโอกาสสำคัญเช่นงานเลี้ยงวันเกิดแน่นอนว่าพวกเขาจะต้องหาของขวัญที่ดีที่สุดเพื่อหน้าตาของพวกเขา แต่ว่าครั้งนี้กลับหาไม่ได้!“งั้นเอาอย่างนี้ล่ะกัน ไปดูบริเวณที่มีหยกดิบตรงนั้น”“หากสามารถซื้อหยกดิบดี ๆ ได้ อยากมากสุดใช้เวลาสองหรือสามวันในการหาช่างฝีมือระดับปรมาจารย์เพื่อแกะสลักรูปให้เสร็จ แค่นี้ก็ทันวันเกิดคุณปู่แล้ว!”ซุนกวนฉงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดออกมาเขามีความรู้เกี่ยวกับหินหยกดิบอยู่บ้างแม้ว่าซุนกวนฉงจะไม่ได้มีงานอดิเรกเล่นหินหยกก็ตาม แต่ถ้าเขาเจอหินหยกคุณภาพดี เขาก็สามารถซื้อสักชิ้นสองชิ้นเพื่อลองเสี่ยงโชค หรือถ้าใครเสนอหยกดี ๆ มาให้ เขาก็สามารถซื้อได้ในราคาที่สูง
“ผมให้ 60 ล้าน!”สีหน้าของฉินหมิงยิ่งไม่สู้ดีหากเมื่อกี้ความรู้สึกของเขาไม่ผิดพลาด หินหยกดิบนี้มีพลังทางจิตวิญญาณที่ทรงพลังและบริสุทธิ์มาก ซึ่งมากเกินพอสำหรับการรวบรวมวิญญาณ!เมื่อก่อนเขาเคยเลือกหินผิดไปแล้ว พอมาตอนนี้ได้เจอหินที่เหมาะสม แน่นอนว่าเขาไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ แน่“ฉันให้ 70 ล้าน!”ซุนกวนฉงยังคงเพิ่มเงินเรื่อย ๆ “ผมให้ 80 ล้าน!”ฉินหมิงกัดฟันพูดฉันให้ 90 ล้าน!”ซุนกวนฉงมองฉินหมิงด้วยสีหน้ากวนประสาท“ผม…”สีหน้าฉินหมิงโกรธเกรี้ยว เงินทุนของเขามีแค่ 100 ล้าน นอกจากค่ารักษาพยาบาลที่จ่ายให้กับหลี่ฉินแล้ว บวกเงินค่าประกันมัดจำ 5000000 ที่เพิ่งจ่ายไป ตอนนี้ในบัตรเขาเหลือ 90 สิบกว่าล้านเท่านั้นเขาจะเอาอะไรมาสู้ซุนกวนฉง!“90 ล้าน?”“แค่หินหยกก้อนเล็ก ๆ ถึงกับให้ 90 ล้านเลยเหรอ คุณสองคนมันบ้าไปแล้ว!”“บ้าอย่างนั้นเหรอ แต่ฉันคิดว่าพวกเขาทั้งสองกำลังเล่นสงครามประสาทกันต่างหาก!”“ใช่น่ะสิ แม้ว่าหยกจะเป็นหยกเนื้อน้ำแข็ง แต่ก็ไม่คุ้มเลยที่จะเสียตั้ง 90 ล้าน!”“ถ้าสองคนนี้ไม่เล่นสงครามประสาทแล้วจะเป็นอะไรไปได้!”…กลุ่มฝูงชนชนสูดลมหายใจลึกและมองดูฉินหมิงกับซุนกวนฉงราวกับว
ครั้งนี้ซุนกวนฉงเล่นงานเขาเจ็บแสบ หลอกให้เขาเสียเงินไปกว่า 90 ล้านอย่างเปล่าประโยชน์!เงินขนาดนี้ไม่ใช่เงินเล็กน้อยสำหรับเขา เขารู้สึกว่าใจของเขากำลังมีเลือดหยดไหลติ๋ง ๆ“ที่แท้เจ้าหมอนั่นกำลังเล่นสกปรกและจงใจเล่นกลกับอีกฝ่าย!”“น่าสงสารเด็กหนุ่มคนนั้นจังที่ถูกหลอก ไม่เพียงแต่เขาจะต้องจ่ายเงิน 90 กว่าล้าน อีกทั้งยังต้องถูกมองว่าเป็นคนโง่อีก!”“ถ้าหินหยกนี้ไม่ทำให้เกิดประโยชน์ขึ้นมาล่ะก็ กลัวว่าเขาจะโกรธจนอกแตกตายแน่!...ทันใดนั้นทุกคนก็ตระหนักและมองดูฉินหมิงด้วยความสงสาร นอกจากนี้ก็ยังมีคนส่งสายตาดูถูก คิดว่าฉินหมิงเป็นคนโง่!ฉินหมิงอดทนกลั้นความโกรธเอาไว้ แม่ว่าครั้งนี้เขาจะถูกซุนกวนฉงแกล้ง แต่ก็ยังถือว่าดีที่เขาได้หินหยกดิบนี้มาครอบครองตอนนี้เขาแค่หวังว่าหินหยกชิ้นนี้จะมอบในสิ่งที่เขาต้องการได้ ขอร้องอย่าให้เกิดข้อผิดพลาดอะไรเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นเขาคงเป็นคนโง่จริง ๆ แน่!”“ที่รัก คุณจะปล่อยให้เป็นอย่างนี้หรือไง!“ถ้ายอมยกหินหยกชิ้นนี้ให้กับเขา มันไม่เหมาะนะ!”หม่าลู่พูดอย่างไม่พอใจเล็กน้อย“เอาเปรียบเขาเหรอ? จะเป็นไปได้อย่างไร!”“นี่เธอไม่รู้สถานการณ์ของเขาเหรอ คนจนที