เมื่อเห็นว่าทั้งสองคนกำลังเดินเข้ามาใกล้ เฉียวเนี่ยนจึงตะโกนออกมาเสียงดังว่า “ช้าก่อน!”อกของนางกระเพื่อมอย่างรุนแรง ความกลัวในใจถึงจุดสูงสุด แต่ก็ยังคงบังคับตัวเองให้สงบนิ่งชายทั้งสองดูเหมือนจะถูกนางข่มขู่จนชะงักฝีเท้าไปเฉียวเนี่ยนเอ่ยต่อว่า “เมื่อครู่ข้าบอกแล้วว่าฮ่องเต้ทรงพระราชทานงานแต่งให้ข้าแล้ว ขณะนี้ข้าเป็นว่าที่ภรรยาของหมิงอ๋อง หากพวกเจ้าคิดจะทำอะไรข้า ก็เท่ากับเป็นศัตรูกับฮ่องเต้ ไม่ใช่แค่กับฮ่องเต้เท่านั้น แต่ยังเป็นศัตรูกับหมิงอ๋อง และจวนโหวด้วย! พวกเจ้าลองคิดดูดีๆ ว่าคนที่ส่งพวกเจ้ามาที่นี่ จะสามารถปกป้องพวกเจ้าได้หรือไม่!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทั้งสองคนก็หันมาสบตากัน ดูเหมือนจะเห็นด้วยกับคำพูดของเฉียวเนี่ยนจึงประสานมือแสดงความเคารพเฉียวเนี่ยน แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงและท่าทีที่อ่อนโยนลงมากว่า “คุณหนูใหญ่ พวกข้าเป็นเพียงชาวยุทธภพ ไม่เข้าใจเรื่องราวความขัดแย้งระหว่างชนชั้นสูง พวกข้ารู้เพียงว่าได้รับเงินมา ก็ต้องทำตามคำสั่ง แต่คุณหนูใหญ่ไม่ต้องเป็นห่วง พวกข้าจะไม่ทำร้ายท่าน เพียงแค่ขอให้คุณหนูใหญ่ไปกับพวกข้าเท่านั้น”เมื่อได้ยินคำพูดของทั้งสองคน เฉียวเนี่ยนก็รู้สึกเหมือน
“แม่นางชอบหรือไม่?” เจ้าของแผงลอยตาไวเหลือเกิน พอเห็นหลินยวน ก็รีบหยิบโคมไฟกระต่ายลงมาทันที “เพียงห้าตำลึง”เซียวเหิงรีบควักเงินออกมาจ่ายเจ้าของแผงลอยยิ้มระรื่น ส่งโคมไฟให้เซียวเหิง แต่ยังไม่ทันที่เซียวเหิงจะส่งโคมไฟให้หลินยวน ก็สังเกตเห็นว่าฝูงชนด้านหลังเริ่มโกลาหลขึ้นมาทันทีดูเหมือนจะเกิดเรื่องใหญ่แล้วหลินยวนกับเซียวเหิงก็สนใจความโกลาหลนี้ไปด้วยเซียวเหิงรูปร่างสูง มองเห็นได้ไกลกว่าหลินยวนเมื่อมองทะลุฝูงชนไป ก็เห็นสาวใช้หน้าเปื้อนเลือดคนหนึ่งดูคุ้นหน้านักราวกับเป็น...สาวใช้ของเฉียวเนี่ยน!เขาตกใจ รีบวิ่งไปทางฝั่งของหนิงซวงหลินยวนตกใจจนร้องออกมา จึงเห็นว่าโคมไฟกระต่ายที่เซียวเหิงถืออยู่ตกลงพื้น แล้วก็ติดไฟลุกไหม้ขึ้นมาทันทีเปลวไฟติดชายกระโปรงของนาง นางตกใจมาก โชคดีที่เจ้าของแผงลอยว่องไว ตักน้ำมาดับไฟได้ทันท่วงทีหลินยวนยังคงตกใจจนทำอะไรไม่ถูก นางเงยหน้ามองไปยังทิศทางที่เซียวเหิงเดินจากไปด้วยสายตาว่างเปล่า นางไม่รู้ว่าเซียวเหิงเป็นอะไรไป ดูราวกับถูกผีเข้า นางจึงเดินตามเขาไปขณะนั้น เซียวเหิงวิ่งมาถึงหน้าหนิงซวง “เกิดอะไรขึ้น? คุณหนูของเจ้าอยู่ที่ใด?”หนิงซวงวิ่ง
เมื่อเฉียวเนี่ยนฟื้น ทุกอย่างเบื้องหน้ายังคงมืดมิด ดวงตาของนางราวกับถูกอะไรบางอย่างปิดไว้นางเผลอยกมือขึ้น แต่กลับพบว่ามือทั้งสองข้างถูกมัดไว้ด้วยกันนางจึงนึกขึ้นได้ในทันทีถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโรงน้ำชา!ฉะนั้นยามนี้ นางอยู่ที่ใดกัน?นางน่าจะนอนอยู่บนเตียงนิ่มๆ และยังพอได้ยินเสียงอึกทึกครึกโครมจากด้านนอกนางอยู่ที่ถนนชุนซาน!ที่นี่ น่าจะเป็นโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งบนถนนชุนซาน!เพียงแต่นางถูกปิดตา จึงไม่แน่ใจว่าตัวเองอยู่ที่ใด และไม่รู้ว่าบัดนี้เป็นเวลากี่ยามแล้วนางถูกจับตัวไปนานแค่ไหนแล้วเนี่ย?ขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้น เสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นชายทั้งสองกลับมาแล้วเฉียวเนี่ยนได้ยินเสียงฝีเท้าของหนึ่งในนั้นเดินเข้ามาหานาง ดูเหมือนจะมาตรวจสอบว่านางตื่นแล้วหรือไม่นางไม่กล้าขยับตัวโชคดีที่อีกฝ่ายไม่ได้สังเกตเห็นว่านางตื่นแล้ว เพียงแค่หัวเราะออกมาแล้วพูดว่า “พี่ใหญ่ ยานอนหลับที่พี่ซื้อมารอบนี้ใช้ได้เลย!” แล้วเดินออกไป“ใช่! ได้ยินมาว่าเป็นยาจากสำนักราชาโอสถ”เสียงปนกลิ่นสุราลอยมา คนทั้งสองเริ่มดื่มสุรา“พี่ใหญ่ พี่ว่าทำไมข้างนอกถึงมีทหารจำนวนมากเพียงนี้? จะไม่ใช่มาตามจับเ
เพียงรู้สึกว่ามือและเท้าชาไปหมด การขยับตัวเพียงเล็กน้อยก็รู้สึกเจ็บปวดราวกับถูกแทงด้วยเข็ม จนเฉียวเนี่ยนอดร้องครางออกมาเบาๆ ไม่ได้เมื่อรู้ตัวว่าร้องออกมา เฉียวเนี่ยนก็แข็งทื่อไปทั้งตัวโชคดีที่เสียงกรนของทั้งสองยังคงดังขึ้นๆ ลงๆนางจึงมั่นใจได้ว่าทั้งสองคนคงหลับไปแล้วไม่รอช้า นางจึงเริ่มดิ้นรนอย่างสุดกำลังแต่อีกฝ่ายดูเหมือนจะเป็นมืออาชีพ ปมเชือกที่ใช้มัดรัดแน่นมาก เฉียวเนี่ยนดิ้นรนอยู่นานก็ไม่สามารถคลายเชือกที่ข้อมือได้เลยทว่านางก็ไม่สามารถปล่อยให้เป็นเช่นนี้บทสนทนาของทั้งสองเมื่อครู่นี้ นางได้ยินชัดเจน พวกเขาต้องการให้นางเสื่อมเสียชื่อเสียง และต้องการทำลายการหมั้นหมายของนางกับหมิงอ๋องแม้ว่านางจะไม่สนใจเรื่องเหล่านี้ และจะไม่แต่งงานกับหมิงอ๋องก็ได้ แต่หากท่านย่ารู้เรื่องนี้เข้า ย่อมต้องเสียใจมากแน่ๆร่างกายของท่านย่าอ่อนแอลงเรื่อยๆ ตั้งแต่นางกลับมาที่จวนโหว ก็ยังไม่ได้ทำอะไรให้ท่านย่าเลย สิ่งเดียวที่ทำได้ในยามนี้คือไม่ให้ท่านย่าต้องเป็นห่วง!เมื่อนึกถึงภาพท่านย่ากอดนางพร้อมกับเอ่ยคำปลอบโยนเสียงเบา เฉียวเนี่ยนก็รู้สึกเหมือนมีไฟลุกโชนอยู่ในใจนางจะไม่ยอมให้ชะตากรรมของตนต
นางเหม่อลอยอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็จำได้ว่าเป็นใคร “รอง รองแม่ทัพจิ่ง...”“คุณหนูเฉียว!” จิ่งเหยียนเพิ่งรู้สึกตัว รีบหันมองห้องด้านหลังเฉียวเนี่ยนทันที แล้วขมวดคิ้ว มือกำมือเฉียวเนี่ยนไว้ด้านหลังของเขา“อย่าให้ใครรู้ว่าข้าถูกจับตัวมา” นางกำชับเสียงเบาจิ่งเหยียนเข้าใจในทันที และรีบเอ่ยว่า “ข้าจะพาคุณหนูไปทางประตูหลัง”เอ่ยจบก็จะพาเฉียวเนี่ยนไปแต่แล้วเฉียวเนี่ยนก็ร้องกลั้นเสียงออกมาด้วยความเจ็บปวดเขารีบหันกลับไป พบว่าเฉียวเนี่ยนหน้าซีดเหงื่อออกเต็มหน้าผาก“คุณหนูเป็นอะไร?” จิ่งเหยียนเป็นห่วงว่าเฉียวเนี่ยนจะถูกคนร้ายทำร้ายแต่เห็นเฉียวเนี่ยนยกมือซ้ายที่ห้อยขึ้น แล้วพูดเสียงอ่อนแรงว่า “รองแม่ทัพจิ่ง มีวิธีแก้ไขหรือไม่?”อาการบาดเจ็บแบบนี้!ถึงแม้จะเคยร่วมรบกับเซียวเหิงมาแล้วมากมาย จิ่งเหยียนก็อดใจสั่นไม่ไหว เมื่อเห็นบาดแผลที่มือของเฉียวเนี่ยนถึงว่าเขาได้ยินเสียงร้องของหญิงสาวเมื่อครู่ น่าจะเป็นเพราะคุณหนูเฉียวพยายามสลัดเชือกจนกระดูกเคลื่อนสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันทีจนดูแย่มาก และเอ่ยเสียงทุ้มต่ำว่า "ค่อนข้างเจ็บหน่อย แม่นางเฉียวอดทนสักหน่อยนะ"เฉียวเนี่ยนพยักหน้ารับ แล้วกัด
เพราะชื่อเสียงของสตรีสำคัญที่สุดแต่ยามนี้ทุกคนที่อยู่ในที่นี่ต่างรู้ดีว่าไม่เป็นความจริงเขาโค้งคำนับตอบ แล้วหันมองเฉียวเนี่ยน “เหตุใดโรงน้ำชาหยวนไหลที่หมิงอ๋องหมายถึงจึงกลายเป็นโรงน้ำชาฝูไหลไปได้”เฉียวเนี่ยนนั่งอยู่ข้างๆ บาดแผลที่มือแม้จะพันแผลเรียบร้อยแล้ว แต่แค่ขยับนิ้วก็ยังคงเจ็บมากหมอประจำจวนบอกว่าแผลของนางแม้จะไม่ร้ายแรง แต่ก็ประมาทไม่ได้ อย่างน้อยไม่ควรใช้แรงหนึ่งเดือนเมื่อได้ยินคำถามของเซียวเหิง เฉียวเนี่ยนจึงลุกขึ้นยืน แล้วหันไปตอบเซียวเหิงว่า “ขณะที่ข้าได้รับจดหมาย จดหมายเขียนว่าโรงน้ำชาฝูไหล จดหมายฉบับนั้นน่าจะยังอยู่ในลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้งของข้า”เอ่ยถึงตรงนี้ เฉียวเนี่ยนก็หันมองหลินเย่ว์หลินเย่ว์ยืนอยู่มุมหนึ่งของห้องในที่ที่ค่อนข้างเงียบสงบ ราวกับกลัวว่าจะถูกใครบางคนพบเห็นทว่าตั้งแต่เขาก้าวเข้ามา เฉียวเนี่ยนก็สังเกตเห็นเขาแล้วนางค่อยๆ เดินไปหาหลินเย่ว์ “วันนี้ท่านโหวน้อยดูเงียบเป็นพิเศษ เกิดอะไรขึ้นหรือ”ฮูหยินหลินไม่เข้าใจว่าทำไมเฉียวเนี่ยนถึงมาสนใจหลินเย่ว์ ยามนี้จึงรีบเดินเข้ามาขวาง “เจ้ารอดตายมาได้แล้ว ควรนั่งพักผ่อนก่อน อย่าไปสนใจพี่ชายเลย”ทว่าเฉี
หลินเย่ว์ยังคงเงียบไม่พูดไม่จาในขณะที่ฮูหยินหลินกลับเนื้อตัวสั่นเทา เดินเข้ามาหาหลินเย่ว์ทีละก้าวนางเอื้อมมือไปดึงชายเสื้อของหลินเย่ว์เบาๆ “เย่ว์เอ๋อร์ เจ้ารีบบอกน้องสาวของเจ้าสิว่าทั้งหมดเป็นความเข้าใจผิด”หลินเย่ว์สีหน้าเย็นชา เงียบอยู่เช่นนั้นยิ่งเขาเงียบ ฮูหยินหลินก็ยิ่งเป็นห่วงมากขึ้นเรื่อยๆ แรงที่ดึงเสื้อของหลินเย่ว์ก็ยิ่งรุนแรงขึ้น จนในที่สุดก็กลายเป็นการผลัก“เจ้าพูดสิ! รีบพูดเร็ว!”เสียงของนางสั่นเครือปนไปด้วยเสียงร้องไห้เมื่อเห็นว่าฮูหยินหลินตื่นเต้นเช่นนั้น หลินยวนจึงรีบเข้าไปโอบกอดฮูหยินหลิน “ท่านแม่ ท่านอย่าทำเช่นนี้เลย ท่านนั่งลงแล้วให้พี่ชายค่อยๆ เล่า ข้าเชื่อว่าพี่ชายต้องมีเหตุผลแน่นอน”เมื่อได้ยินเช่นนี้ เฉียวเนี่ยนมองไปที่หลินยวนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่น่าเชื่อหลินเย่ว์จ้างคนมาทำลายชื่อเสียงของนาง แต่หลินยวนกลับบอกว่าลินเย่ว์ทำเช่นนั้นเพราะมีเหตุผล นี่เป็นพี่น้องอย่างไรเนี่ย?ในฐานะผู้หญิง หลินยวนจะกล้าพูดคำเช่นนี้ออกมาได้อย่างไร?แต่ดูเหมือนว่าหลินเย่ว์ได้สติกลับคืนมาเพราะคำพูดของหลินยวนถึงขั้นเหลือบมองหลินยวนด้วยแววตาขอบคุณ ก่อนจะหันมองเฉียวเน
"เพราะว่าเริ่มจากข้าง่ายกว่า เพราะข้าอ่อนแอกว่า""เพื่อความสุขในอนาคตของข้า เจ้าจึงจ้างชายฉกรรจ์สองคนในราคาหนึ่งพันสองเพื่อทำลายชื่อเสียงของข้า คำพูดแบบนี้ พูดออกมาแล้ว เจ้าเองรู้สึกน่าขันหรือไม่?""หลินเย่ว์ เก็บใบหน้าที่น่ารังเกียจของเจ้าไปเถิด เจ้าไม่ได้เป็นห่วงข้า แค่ไม่อยากให้ข้ายืนสูงกว่าเจ้าเท่านั้น! เจ้าไม่ได้ทำเพื่อข้าเลย เจ้าแค่เห็นข้าได้ดีไม่ได้!"เพียงไม่กี่ประโยคก็เปิดโปงมุมที่น่าเกลียดที่สุดในใจของหลินเย่ว์ออกมาแต่หลินเย่ว์ไม่ยอมรับ "ข้าจะไม่อยากเห็นเจ้าได้ดีได้อย่างไร? การแต่งงานกับหมิงอ๋องคือเรื่องดีอย่างนั้นหรือ? แม้เจ้าจะเสียชื่อเสียงแล้วจะอย่างไร มีจวนโหวหนุนหลัง เจ้ากลัวว่าภายหลังจะไม่มีใครมาขอแต่งงานอีกหรือ?"เอ่ยจบ ภายในห้องโถงก็เงียบสงบไปชั่วขณะนอกจากเสียงสะอื้นของหลินยวนที่หยุดไม่ได้แล้ว ดูเหมือนทุกคนกำลังกลั้นหายใจสายตาของเฉียวเนี่ยนมองไปรอบๆ นางเหลือบมองฮูหยินหลิน แล้วมองท่านโหวหลิน และในที่สุดก็มองหลินเย่ว์พร้อมกับหัวเราะเสียงเบา "ข้าเข้าใจแล้วว่าทำไมท่านโหวหลินและฮูหยินหลินถึงเลือกที่จะใช้ชายกระโปรงข้ารักษาสถานะที่สั่นคลอนของจวนโหว"คำพูดที่เบาหวิ
กลิ่นอายที่ทั้งคุ้นเคยและไม่คุ้นเคยนั้นจู่โจมเข้ามา ทําให้คิ้วของเฉียวเนี่ยนขมวดแน่นเฉียวเนี่ยนกลัวระยะห่างระหว่างพวกเขาใกล้เกินไป จึงไม่ได้หันกลับมา เพียงจ้องมองชั้นวางหนังสือตรงหน้า ถามเสียงเย็นชาว่า "มาแก้แค้นให้เมียเจ้างั้นหรือ?"เซียวเหิงยืนอยู่ข้างหลังนาง จ้องมองข้ามวยของนาง ขมวดคิ้วแน่นกําหมัดแน่น แต่เสียงกลับแหบแห้งหลังจากจงใจระงับ "เจ้าก็รู้ว่าข้าไม่สนใจนาง""ข้าไม่รู้" เฉียวเนี่ยนตอบอย่างเย็นชาว่า"ทุกอย่างเกี่ยวกับแม่ทัพเซียว ข้าไม่อยากรู้เลย""เนี่ยนเนี่ยน..." เสียงด้านหลังสั่นเทิ้มเล็กน้อย แต่กลับสูดหายใจเข้าลึกๆ เหมือนคิดอะไรออกแล้ว แม้แต่น้ำเสียงก็แฝงไปด้วยความโล่งใจ "ไม่เป็นไร ต่อไปข้าจะค่อยๆ เล่าให้เจ้าฟัง ไม่ว่าเจ้าอยากรู้หรือไม่อยากรู้ ข้าก็ค่อยๆ เล่าได้"แต่คําพูดนี้กลับทําให้เฉียวเนี่ยนแค่นหัวเราะอย่างเย็นชาต่อไป?"ข้ากับแม่ทัพเซียว ไม่มีอนาคตหรอก"นางบอกว่านางไม่ต้องการเขามานานแล้วความโกรธที่อดกลั้นของเซียวเหิง ราวกับถูกจุดขึ้นอย่างเงียบๆ ในขณะนี้ "แล้วเจ้าอยากมีอนาคตกับใคร?"คําถามนี้เต็มไปด้วยความหึงหวงอย่างเห็นได้ชัด เฉียวเนี่ยนรู้สึกว่าไม่จําเป็น
เมื่อหลินยวนพูดจบ กลับเห็นผู้ชายสองคนในห้องไม่มีปฏิกิริยาใดๆ นางจึงตระหนักว่าไม้นี้ของนางไม่ได้ผลแล้วเมื่อก่อน ไม่ว่ายังไง ขอเพียงตนหลั่งน้ำตา คนของจวนโหวก็จะมาล้อมตนไว้ ปลอบโยนนาง ดูแลนางแม้แต่เซียวเหิงก็ไม่เว้นแต่ตอนนี้ เซียวเหิงกลับทําเป็นไม่ได้ยินนางรู้ว่าเซียวเหิงเกลียดนางแล้วแต่ว่า...แม้แต่ความเห็นอกเห็นใจเล็กๆ น้อยๆ นั้นก็ไม่มีแล้วหรือ?เฉียวเนี่ยนมองตามสายตาของหลินยวน และอดไม่ได้ที่จะมองเข้าไปในห้องเมื่อเห็นใบหน้าด้านข้างที่ละเอียดอ่อนของเซียวเหิงยังคงมีความเย็นชาเหมือนเคย หัวใจของนางก็อดไม่ได้ที่จะหนักอึ้งแต่เซียวเหิงก็เป็นแบบนี้มาตลอด ไม่ใช่หรือ?ยามที่ปกป้องนาง ก็จะแก้แค้นไล่ตามคนไปทั่วเมืองหลวงแทนนางต่อมาเมื่อไม่ได้ปกป้องนางอีกต่อไป แม้แต่คนแปลกหน้าก็สู้ไม่ได้เฉียวเนี่ยนหันหน้ากลับมา มองหลินยวนด้วยสายตาเย็นชา "จําไว้นะ เจ้าเป็นคนที่ไม่มีคุณสมบัติจะมาโอ้อวดต่อหน้าข้ามากที่สุดในโลกนี้ ข้าไม่เถียงกับเจ้า เพราะข้าไม่อยาก ไม่ใช่ข้ากลัวเจ้า สงบเสงี่ยมหน่อย เป็นนายหญิงน้อยรองของเจ้าให้ดี อย่ามาหาเรื่องข้า ไม่งั้น เจ้าจะไม่มีชีวิตที่ดีแน่"พูดจบ เฉียวเนี่ยนก็
เฉียวเนี่ยนไม่ได้ตอบนาง แต่พึมพําต่อไปว่า "ตอนนั้นเจ้าเห็นข้า น้ำตาก็ไหลลงมา แม้ยังน่ารําคาญเหมือนตอนนี้ แต่ข้ารู้ว่าน้ำตาของเจ้าในตอนนั้น อย่างน้อยครึ่งหนึ่งมาจากใจจริง""ข้าเคยถามเจ้าว่าผิดตรงไหน คําตอบของเจ้าในตอนนั้นข้าไม่พอใจ เพราะสิ่งที่เจ้าผิดไม่ใช่แค่การทําชามแก้วแตกเท่านั้น แต่ยังเป็นการนิ่งเงียบด้วย เห็นข้าถูกใส่ร้ายแต่ก็เงียบมาตลอด จุดนี้ แม้แต่ตอนที่หลินเย่ว์ใส่ร้ายข้าว่าผลักเจ้าลงน้ํา เจ้าก็ยังไม่เปลี่ยนเลย""แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น ตอนนั้นข้าก็ไม่คิดว่าเจ้าโหดร้าย แต่ตอนนี้ล่ะ? หลินยวน ตอนนี้ในมือของเจ้ามีกี่ชีวิตกัน เจ้าเคยนับบ้างไหม? เมื่อถึงตอนเที่ยงคืน พวกเขาไม่เคยมาหาเจ้าเลยหรือ?"ฮูหยินเฒ่า ขอทานเหล่านั้น เสี่ยวชุ่ย...หลินยวนยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ดวงตาซ่อนความหวาดกลัวไว้อย่างชัดเจน แต่น้ำตาในดวงตาคู่นั้นกลับไม่ยอมไหลออกมานางไม่ใช่หลินยวนคนเดิมอีกต่อไปแล้วหลินยวนในอดีตไม่สามารถกลั้นน้ำตาได้เฉียวเนี่ยนหายใจเข้าลึกๆ แล้วลุกขึ้นยืน เดินช้าๆ ไปตรงหน้าหลินยวน "เสี่ยวชุ่ยตายเพราะถูกมีดสั้นแทงทะลุหน้าอก ก็คือตําแหน่งนี้"เฉียวเนี่ยนพูดพลางยื่นนิ้วหนึ่งไปกดที่หน้าอก
เซียวเหิงถึงค่อยมีปฏิกิริยาขึ้นมา หลุบตามองเซียวเหอ "ขาทั้งสองข้างของพี่ใหญ่เป็นอย่างไรบ้าง?"สิ่งที่เขาสนใจเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เรื่องนี้เซียวเหอเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งในใจ จึงเอ่ยเพียงว่า "ยังดีอยู่"พูดมาถึงตรงนี้แล้ว ถ้าเซียวเหิงกับหลินยวนรู้กาลเทศะ ก็ควรจะไปได้แล้วแต่เห็นได้ชัดว่าเซียวเหิงไม่รู้จักกาลเทศะ"ข้าไม่ได้เดินหมากล้อมกับพี่ใหญ่มานานแล้ว วันนี้ว่างพอดี มาแข่งสักรอบดีไหม?"ความคิดในใจของเขา ใครๆ ต่างก็รู้ดีเซียวเหอกําลังจะปฏิเสธโดยไม่รู้ตัว แต่ไม่คิดว่าหลินยวนจะพูดว่า "ก็ดี ข้าก็อยากคุยกับพี่สะใภ้ดีๆ เหมือนกัน"คําว่า 'ดีๆ' นั้นเน้นเสียงเป็นพิเศษเฉียวเนี่ยนถึงเงยหน้ามองหลินยวนก็เห็นหลินยวนยังคงรักษาความอ่อนโยนตามแบบฉบับของนางไว้ แต่ดวงตาคู่นั้นกําลังบอกเฉียวเนี่ยนอย่างชัดเจนว่านางมีเรื่องจะคุยด้วยท่าทีนี้ค่อนข้างแข็งไปหน่อยแล้วเฉียวเนี่ยนขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกว่าท่าทางและกลิ่นอายของหลินยวนในตอนนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนทําผิดควรมีเลยงั้นนางจะสอนนางสักหน่อยว่า คนที่ทําผิดควรมีท่าทางอย่างไร!จึงได้ยิ้มเล็กน้อยพลันเอ่ยตอบ "ได้สิ!"ในเมื่อหลินยวนอยู่ต่อเพื่อคุยธุระกั
เซียวเหิงมองสํารวจหลินยวนด้วยสายตาเย็นชา เขารู้ว่าหลินยวนไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่เห็นภายนอกตอนนี้ก็คงมีความคิดอย่างอื่นอยู่แน่นอนแต่ ไม่สําคัญหรอกจุดประสงค์ที่เขากลับมาก็เพื่อขัดขวางการพัฒนาต่อไปของเฉียวเนี่ยนและเซียวเหอดังนั้น แม้ว่าจะใช้ข้ออ้างนี้ไปสักครั้ง แล้วยังไงล่ะ?จึงตอบตกลงด้วยสีหน้าเย็นชาและในขณะนี้ เซียวเหอกําลังสอนเฉียวเนี่ยนยิงหินอยู่เมื่อเทียบกับหนึ่งเดือนก่อน เฉียวเนี่ยนมีความก้าวหน้าไปไม่น้อย ตอนนี้ห่างจากต้นอู๋ถงประมาณสิบก้าว ก็สามารถตีถึงลําต้นได้ทุกอันแล้วแค่ความแม่นยํายังแย่ไปหน่อยดังนั้น เฉียวเนี่ยนจึงนั่งลงบนบันได เซียวเหอจับมือของเฉียวเนี่ยนและปรับท่าทางของนางแต่เมื่อจะเล็งไปที่กลางเป้า เซียวเหอต้องเอนตัวพิงแก้มของเฉียวเนี่ยนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จะได้รู้ว่านางฟังเขาหรือไม่ เล็งไปที่เป้าหมายแล้วหรือเปล่าตอนที่เซียวเหิงเข้ามา สิ่งที่เห็นก็คือภาพแบบนี้ตาซ้ายของเฉียวเนี่ยนปิดสนิท ตาขวาจ้องหินในมืออย่างตั้งอกตั้งใจ ส่วนแก้มของเซียวเหอ อีกนิดเดียวก็จะแนบกับใบหน้าของนางแล้วชั่วพริบตาเดียว ก็มีคําคำหนึ่งแทรกเข้ามาในสมองของเซียวเหิง ติดหนึบเหมือน
แม่เซียวพาหลินยวนกลับมาที่จวนสำเร็จอย่างสมใจ แต่กลับไม่คาดคิดว่า เซียวเหิงจะกลับมาด้วยนางคิดว่าเซียวเหิงรู้ว่าหลินยวนกลับมาถึงได้กลับมาตาม จึงดีใจเล็กน้อย "สองสามีภรรยามีอะไรก็พูดคุยกันให้เข้าใจก็ดีแล้ว มีหรือจะทะเลาะกันนานเช่นนี้"ขณะแม่เซียวกล่าว ก็ผลักหลินยวนไปอยู่ข้างหน้าเซียวเหิง "เอาล่ะ คนนี้แม่พากลับมาให้เจ้าแล้ว ห้ามทะเลาะกันอีก พวกเจ้าไม่ได้เจอกันมานาน คุยกันดีๆ ล่ะ แม่ออกไปก่อน"ว่าจบ แม่เซียวก็หมุนตัวเดินจากไป คิดแค่ว่าให้พวกเขาได้มีเวลาคุยกันตามลำพังหลินยวนถูกแม่เซียวผลัก จนเแทบจะโถมเข้าไปในอ้อมกอดของเซียวเหิงแต่นางรู้สึกถึงการต่อต้านของเซียวเหิง จึงหยุดชะงักฝีเท้าไว้ และยืนอยู่ข้างเซียวเหิงอย่างเชื่อฟังระยะห่างใกล้กันมาก ใกล้กันจนมือของนางเหมือนจะสัมผัสโดนหลังมือของเขา ใจอดรู้สึกหวั่นไหวไม่ได้ได้แค่ก้มหน้าลง เรียงด้วยเสียงอ้อนแอ้น "ท่านพี่เหิง...""อย่ามาเสแสร้งกับข้า"น้ำเสียงเย็นชาดังขึ้นดวงตาคู่นั้นของเซียวเหิงมองหลินยวนด้วยสายตาเยือกเย็นและเย้ยหยันดวงตาลุ่มลึกของเขา มองท่าทางภายนอกที่ดูอ่อนแอของนางออก ทำให้ตอนนี้ เขาพูดอย่างไม่เกรงใจออกมาได้“ช่วงนี้
แม่เซียวรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย "ให้ข้าไปรับกลับมาแล้วอย่างไร? เหิงเอ๋อร์ก็ไม่กลับมาอยู่อยู่ดี!"“เช่นนั้นก็คิดหาวิธีให้เขากลับมาอยู่สิ!” พ่อเซียวโกรธเกรี้ยวจัด ถลึงตาจ้องแม่เซียว “สองสามีภรรยา ทะเลาะกันไม่นานก็ดีกัน หากไม่ใช่เพราะเป็นอย่างทุกวันนี้ เอาแต่แยกกันอยู่ จะดีกันได้เมื่อใด?”ขณะว่า ก็มองไปที่แผ่นหลังของเซียวเหอกับเฉียวเนี่ยนอีกครั้ง “เจ้าดูเหอเอ๋อร์กับเนี่ยนเนี่ยนสิ ตอนนี้รักกันขนาดไหน”แม่เซียวมองตามแผ่นหลังของเซียวเหอกับเฉียวเนี่ยนด้วยเช่นกันพบว่า แม้เฉียวเนี่ยนจะเข็นเก้าอี้ล้อ แต่บางครั้งก็โน้มตัวไปข้างหน้า พูดคุยกับเซียวเหอเซียวเหอเองก็หันหน้ามา พูดอะไรบางอย่างกับเฉียวเนี่ยนการแสดงออกบนใบหน้า ไม่ถือว่าชอบมากนัก ทว่ามันดูผ่อนคลายและสบายใจมากเมื่อเทียบกับช่วงเวลาก่อนหน้านี้ที่ขังตัวเองอยู่ในห้องทั้งวันโดยไม่พบใคร ไม่รู้ว่าดีขึ้นกว่าเดิมตั้งเท่าไหร่แล้ว!ในหนึ่งเดือนมานี้ แม้จะบอกว่าเซียวเหอยังคงกักตัวไม่ออกมาเหมือนเดิม ทว่าอย่างน้อยก็ได้อยู่กับเฉียวเนี่ยนอยู่ที่เรือนความรู้สึกของทั้งสอง เกรงว่าคงเพิ่มไปอีกขั้นหนึ่งแล้วเมื่อคิดเช่นนี้ แม่เซียวก็รู้สึกว่าที่พ่อ
เซียวเหิงจากไปแบบนี้ ทำให้พ่อเซียวโมโหไม่น้อยเขาทรุดตัวนั่งลงที่เดิมอย่างแรง ชี้เซียวเหิงที่หายลับไปแล้ว พลางกล่าวด้วยความโกรธจัด“ไอ้เด็กเวร! ไปแล้วก็ดี!แน่จริงไปแล้วก็อย่ากลับมาอีก!”แม่เซียวรีบเข้าไปหา ลูบแผ่นหลังพ่อเซียว ทว่าน้ำเสียงกลับตำหนิ "ดูท่านสิ เอาแต่พูดจาด้วยอารมณ์! ท่านรอเขาตั้งเดือนกว่ากว่าเขาจะกลับมา ตอนนี้เขาไปแล้ว ท่านไม่ต้องมารออีกหรอกหรือ!"พ่อเซียวโดนพูดแทงใจ โมโหจนกลอกตาไปมาเซียวเหิงไม่เคยกลับจวนมาหนึ่งเดือนแล้ว เมื่อส่งคนไปถาม เขาก็บอกว่ามีงานในกองทัพ แต่ตอนนี้ไม่มีสงครามเสียหน่อย ในกองทัพที่ไหนจะมีงานมากมายที่ทำให้เขาต้องเอาแต่อยู่ข้างนอกกัน?ไม่ง่ายนักที่ใช้งานวันเกิดพ่อเซียวหนนี้ เรียกเขากลับมาแต่ไม่คิดเลยว่า จะแยกจากไปอย่างไม่สบอารมณ์แบบนี้อีกเมื่อเห็นภาพนี้ เซียวชิงหน่วนอดพูดปลอบขึ้นมาไม่ได้ "แต่อย่างน้อย ทางด้านพี่ใหญ่ก็เป็นข่าวดีนะ! ส่วนพี่รอง...บางที เราควรให้เวลาเขามากกว่านี้อีกสักหน่อย!"ได้ยินคำพูดนี้ แม่เซียวพยักหน้ารัว พ่อเซียวมีสีหน้าขรึมลง ไม่พูดอะไรออกมาอีกสักประโยคบรรยากาศของสามคนนี้ก็ยังคงหม่นหมองลงเพราะการจากไปของเซียวเหิงส่วนเซี
เซียวชิงหน่วนรีบลุกขึ้นยืน ไปขวางหน้าพ่อเซียวเอาไว้ด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความยินดี "ท่านพ่อดีใจจนเลอะเลือนแล้ว! ขาของพี่ใหญ่ดีขึ้นได้ก็เพราะพี่สะใภ้เป็นคนฝังเข็มรักษา จะไปเรียกหมอคนอื่นมาทำไมกัน?"เมื่อถูกนางเตือนสติ พ่อเซียวก็พยักหน้ารัวๆ “ใช่ๆ เป็นเนี่ยนเนี่ยนที่รักษา ต้องขอบคุณเนี่ยนเนี่ยนจริงๆ !”แม้แต่เซียวเหิงที่เดิมมีสีหน้าเคร่งขรึมก็ยังอ่อนลงไปไม่น้อยเขาไม่เคยคิดเลยว่า ขาของพี่ใหญ่จะกลับมามีความรู้สึกได้อีกครั้งสำหรับตระกูลเซียวแล้ว นี่ถือเป็นเรื่องมงคลที่ยิ่งใหญ่ที่สุด!ในเวลานี้ ทุกคนในตระกูลเซียวต่างพากันหันมามองเฉียวเนี่ยนด้วยสายตาเต็มไปด้วยความขอบคุณ ราวกับว่าที่มองเฉียวเนี่ยนด้วยสีหน้าไม่พอใจเมื่อครู่ ไม่ใช่พวกเขาอย่างไรอย่างนั้นโชคดีที่เฉียวเนี่ยนไม่ได้ใส่ใจช้าเร็วนางก็ต้องไปจากตระกูลเซียว ดังนั้นตระกูลเซียวจะมีท่าทีอย่างไรกับนาง นางก็ไม่สนใจขอเพียงแค่ขาของเซียวเหอหายเหมือนปกติได้ นางก็พอใจแล้วนางแอบคิดในใจ ต้องไปปรึกษาหมอประจำจวนเพื่อหาวิธีรักษาขั้นต่อไปแต่ไม่ทันไร แม่เซียวกลับคว้ามือนางไว้ฉับพลัน น้ำตาหลั่งไหลนองหน้า "เนี่ยนเนี่ยน แม่ แม่ไม่รู้จะพูดอะไรถ