มือทั้งสองของเขาจับแขนของหลินยวนทั้งซ้ายและขวา ก่อนผลักนางออกไปเต็มแรง แววตาเต็มไปด้วยความรังเกียจ "เจ้าเสียสติไปแล้วหรือ? ใครสั่งสอนเจ้ากัน?"ตลอดชีวิตนี้ หลินยวนไม่เคยถูกใครผลักไสอย่างรุนแรงเช่นนี้มาก่อน ความรู้สึกอัปยศถาโถมเข้ามาทันที อีกทั้งแผนการในวันนี้ล้วนเป็นการเดิมพันครั้งสุดท้าย หากล้มเหลว ทุกสิ่งจะพังทลาย นางมิอาจยอมแพ้ได้ อารมณ์ในใจพลันแตกกระจาย น้ำตาร่วงลงมาเป็นสาย แต่ถึงกระนั้น นางก็ยังคงพยายามพุ่งเข้าหาเซียวเหิงอย่างไม่คิดชีวิต"ท่านพี่เหิง ได้โปรดเมตตาข้าสักครั้งเถิด ข้ามิได้ต้องการสิ่งใด ขอเพียง...ขอเพียงแค่บุตรสักคน!"เซียวเหิงคว้าดาบที่แขวนอยู่บนผนัง ใช้ฝักดาบดันไหล่ของหลินยวนไว้ ไม่ให้นางเข้ามาใกล้กว่านี้เมื่อเห็นหลินยวนมีท่าทีคลุ้มคลั่งคล้ายคนเสียสติ หัวใจของเขาก็เกิดความสงสัย จู่ๆ เหตุใดนางจึงพูดถึงเรื่องบุตรกะทันหัน?แต่คิดไม่ถึงว่าในพริบตา ท้องน้อยของเขาจะพลันร้อนวูบขึ้นมาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนร่างทั้งร่างของเซียวเหิงตึงแข็งขึ้นทันที และในเสี้ยววินาทีนั้น เขาก็เข้าใจทุกอย่างน้ำแกงไก่ถ้วยนั้น!เขาจ้องมองไปที่หลินยวนอย่างรวดเร็ว แววตาเต็มไปด้วยความเหลือเ
ขณะเดียวกัน ภายในเรือนของเซียวเหอ เสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดก็ดังขึ้นวันนี้ หลังจากที่หนิงซวงได้ใบสั่งยาจากหมอประจำจวนก็รีบไปซื้อยากลับมาทันที บอกว่าเป็นยาต้มสำหรับแช่เท้าให้เซียวเหอโดยเฉพาะสมุนไพรหลายห่อนั้น ต้องต้มด้วยไฟอ่อนเป็นเวลาถึงสามชั่วยาม และให้เอาเท้าของเซียวเหอลงแช่ในช่วงที่เขากำลังอาการกำเริบแต่ทุกครั้งที่เซียวเหอมีอาการกำเริบ ร่างกายของเขาจะบิดเกร็งด้วยความเจ็บปวด ดิ้นรนอย่างรุนแรง จี้เยว่เพียงคนเดียวมิอาจควบคุมได้ ดังนั้นคืนนี้เฉียวเนี่ยนจึงมาช่วยอีกแรงเฉียวเนี่ยนกับจี้เยว่ช่วยกันจับตัวเขา คนหนึ่งกดไหล่ของเซียวเหอไว้ ไม่ให้เขาดิ้นหลุดจากเก้าอี้ล้ออีกคนกดขาของเซียวเหอไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้เขาดิ้นจนถังไม้ล้มทั้งสองช่วยกันกดร่างของเซียวเหอไว้เช่นนี้นานเป็นเวลาหนึ่งก้านธูป แรงดิ้นของเซียวเหอถึงค่อยๆ ลดลงแต่ก่อนที่เฉียวเนี่ยนและจี้เยว่จะทันได้ผ่อนลมหายใจ ประตูห้องกลับถูกผลักออกอย่างแรงเซียวเหิงแทบจะล้มกลิ้งเข้ามาในห้องเมื่อเห็นดังนั้น จี้เยว่ก็ตกใจตะโกนขึ้นทันที "คุณชายรอง!"เมื่อมองเห็นว่าที่ขาของเซียวเหิงยังคงมีเลือดไหล จี้เยว่ก็เหลือบมองเซียวเหอแวบหนึ
โทสะเมื่อครู่เหมือนถูกสายน้ำเย็นชะล้างจนแปรเปลี่ยนเป็นความเย็นยะเยือกนาง...ถึงกับไม่สนใจเขาแม้แต่น้อย…เซียวเหิงบังคับตนเองให้ละสายตากลับมา หลับตาลงก่อนส่ายศีรษะ "ไม่เป็นไร"จี้เยว่ยังคงเป็นกังวล ทว่า สิ่งที่เขาห่วงยิ่งกว่าก็คือเจ้านายของตนเองในเมื่อเซียวเหิงบอกว่าไม่เป็นไร อีกทั้งบาดแผลที่ขาก็ได้รับการพันแผลเรียบร้อยแล้ว จี้เยว่จึงกล่าวว่า "คุณชายรอง แช่น้ำไปก่อนสักครู่ อีกเดี๋ยวบ่าวจะกลับมารับใช้ท่านอีกที"เมื่อกล่าวจบ เขาก็เดินไปหาเซียวเหอยาแช่เท้าของเซียวเหอต้องแช่ให้ครบเวลาหนึ่งชั่วยามเฉียวเนี่ยนกังวลว่าจี้เยว่จะดูแลคนเดียวไม่ไหว จึงกะจะอยู่รอจนกระทั่งเซียวเหอแช่เท้าเสร็จ แล้วจึงค่อยกลับเรือนของตนคืนนั้นนางหลับสนิทตลอดคืนเช้าวันรุ่งขึ้น สิ่งแรกที่เฉียวเนี่ยนทำก็คือไปดูอาการของเซียวเหอเพราะเมื่อคืนเป็นการรักษาครั้งแรก นางจึงต้องไปตรวจดูให้แน่ใจนางเคาะประตูเบาๆ ก่อนเอ่ยเรียก "ท่านพี่เซียว ข้าเข้าไปได้หรือไม่?"แต่ในห้องกลับไม่มีเสียงตอบรับเฉียวเนี่ยนแอบเงยหน้ามองพระอาทิตย์ เวลานี้แล้ว เซียวเหอไม่น่าจะยังไม่ตื่นเช่นนั้น ไฉนถึงไม่มีเสียงตอบกลับ?หรือว่าหลังจาก
หากเซียวเหิงไม่กล่าวสิ่งนี้ออกมายังดี แต่พอเขาเอ่ยขึ้นมา กลับยิ่งทำให้ความโกรธของเฉียวเนี่ยนปะทุหนักขึ้นไปอีก"เซียวเหิง เจ้าฟังให้ดี ข้าคือพี่สะใภ้ของเจ้า! ข้ากับพี่ชายเจ้าจะแต่งงานกันด้วยความรักหรือไม่ ไม่เกี่ยวกับเจ้า! เจ้าไม่มีสิทธิ์มาสั่งสอนข้า! ถอยไป!"กล่าวจบ นางก็ออกแรงผลักเซียวเหิงสองครั้ง แต่เขากลับไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย!กลับกลายเป็นว่ามือของนางถูกเขากดลงแนบแผงอกตัวเอง ความร้อนจากร่างกายของเขาแผ่ซ่านผ่านอาภรณ์เข้าสู่ฝ่ามือนางมันร้อนราวกับถูกเปลวเพลิงเผาไหม้เฉียวเนี่ยนรีบจะดึงมือกลับมา แต่กลับเป็นว่าแรงกดของเขากลับยิ่งหนักขึ้นกว่าเดิม"เนี่ยนเนี่ยน..."เสียงเรียกแผ่วเบาดังขึ้นจากเหนือศีรษะของนาง แฝงความแหบพร่าและอ่อนล้าแต่ก่อน เขาไม่เคยใช้เสียงเช่นนี้เรียกนางเลยสักครั้งร่างของเฉียวเนี่ยนชะงักไปทันที นางสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนเงยหน้าสบตากับเขาในดวงตาของนาง มีทั้งความโกรธ ดื้อรั้น และประกายแดงเรื่อที่ยากจะคาดเดาแต่เสียงของนางกลับเย็นเยียบ "แม่ทัพเซียว หรือเจ้าต้องการให้ตระกูลเซียวเต็มไปด้วยข่าวลือชั่วช้าเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างน้องชายและพี่สะใภ้?"เซียวเหิง
แต่คิดไม่ถึงว่า นางจะพบกับจี้เยว่ที่กำลังเข็นรถพาเซียวเหอกลับมาพอดีเมื่อเห็นเฉียวเนี่ยนออกมาจากเรือนของตนเอง เซียวเหอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจ เขากำลังจะเอ่ยถาม แต่กลับสังเกตเห็นว่าดวงตาของนางขึ้นสีแดงเรื่อสีหน้าของเขาพลันเคร่งขรึมลงทันทีเฉียวเนี่ยนเองก็ไม่คิดว่าจะพบเซียวเหอในเวลานี้ นางสูดลมหายใจลึก พยายามปรับอารมณ์ที่สับสนของตนเอง ก่อนเดินเข้าไปยิ้มแล้วถามว่า "ท่านพี่เซียว ออกไปที่ไหนมาตั้งแต่เช้าหรือ?"ท่าทางทำเหมือนไม่มีอะไรของนาง กลับทำให้หัวใจของเซียวเหอรู้สึกเหมือนถูกบีบสายตาของเขาเหลือบมองไปยังห้องของตนเองประตูเปิดกว้าง ภายในเรือนยังเห็นเงาคนที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่รางๆจนกระทั่งเฉียวเนี่ยนเดินมาหยุดตรงหน้าเขา เซียวเหอจึงเงยหน้าขึ้นมองนาง เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ แฝงด้วยโทสะบางเบาที่แทบสัมผัสไม่ได้ "ถูกรังแกมาหรือ?"เฉียวเนี่ยนชะงัก ก่อนจะตระหนักได้ว่าตนเองยังจัดการอารมณ์ได้ไม่ดีพอ และถูกเซียวเหอมองออกจนได้แต่เพราะไม่อยากให้เซียวเหอกังวล นางจึงรีบส่ายศีรษะ "เปล่า เปล่าสักหน่อย"แต่เซียวเหอไม่เชื่อขณะนั้นเอง เซียวเหิงที่แต่งกายเรียบร้อยแล้วก็เดินออกมาจากเร
เฉียวเนี่ยนรู้ดีว่าเซียวเหอเป็นห่วงตนเพียงแต่ว่า อย่างไรเซียวเหอกับเซียวเหิงก็เป็นพี่น้องร่วมสายเลือดไม่พูดเรื่องอื่น เอาแค่เมื่อคืนหลังจากเซียวเหิงถูกวางยา สิ่งแรกที่เขาคิดถึงคือมาขอความช่วยเหลือจากเซียวเหอ และวันนี้เซียวเหอก็ออกไปตามหายาแก้ให้เขาตั้งแต่เช้า สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องทั้งสองแน่นแฟ้นเพียงใดไม่มีความจำเป็นที่พี่น้องคู่นี้จะต้องมาบาดหมางกัน เพียงเพราะคนที่จะจากไปในอีกสามปีเช่นนางเลยเฉียวเนี่ยนจึงกล่าวขึ้น "ต่อไปข้าจะระวังให้มากขึ้น"ระวัง…ไม่ให้ต้องอยู่กับเซียวเหิงเพียงลำพังอีกก็พอเซียวเหอเองก็จับความหมายในคำพูดของเฉียวเนี่ยนได้ จึงได้แต่เงียบไปเมื่อเห็นว่าบรรยากาศเริ่มอึมครึม จี้เยว่ที่เงียบอยู่นานก็พลันเอ่ยขึ้นมา "คุณชายใหญ่ บ่าวเห็นว่าวันนี้อากาศดีนัก ไม่สู้เราไปต่อชิงช้ากันเลยเถิดขอรับ?"เฉียวเนี่ยนได้ยินดังนั้นก็ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะเผยความประหลาดใจ "ท่านพี่เซียวเองก็อยากต่อชิงช้าด้วยหรือ?"ไม่ทันขาดคำ หนิงซวงที่เพิ่งกลับมาจากห้องครัวพร้อมอาหารเช้าก็เดินเข้ามาเมื่อได้ยินว่าจะต่อชิงช้า เด็กสาวก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที "ต่อชิงช้
และตรงหน้า ก็เป็นภาพของนางที่งดงามราวกับภาพฝันทุกสิ่งทุกอย่างงดงามเกินกว่าจะเป็นจริงมุมปากของเซียวเหอเผลอคลี่ยิ้มขึ้นโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าเบื้องหน้าของเขายังคงมีม่านบางๆ ที่มองไม่เห็น คั่นกลางระหว่างเขากับความงดงามนั้นแต่เพียงได้เฝ้ามองฉากนี้ด้วยตาตนเอง ก็ทำให้เขารู้สึกพึงพอใจอย่างประหลาดแต่คิดไม่ถึงว่า เฉียวเนี่ยนจะเงยหน้าขึ้นมองเขาพร้อมรอยยิ้มสดใส "ท่านพี่เซียว รีบมาช่วยข้าผลักชิงช้าหน่อยสิ!"เซียวเหอชะงักไปครู่หนึ่งแต่สองมือกลับเลื่อนไปจับล้อรถเข็นก่อนที่เขาจะทันรู้ตัวทางจี้เยว่ก็รีบก้าวเข้าไปทางเฉียวเนี่ยน "ข้าช่วยเองๆ!"เขาหรือจะปล่อยให้นายของตนต้องลงมือทำ "งานหนัก" เช่นนี้คิดไม่ถึงว่า หนิงซวงจะดึงแขนเขาไว้ ก่อนจะตบไหล่เบาๆ กระซิบจี้เยว่เสียงเบาว่า "เจ้าจะเข้าไปยุ่งทำไม?"จี้เยว่ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะเห็นว่าเซียวเหอได้ไปยืนอยู่ด้านหลังเฉียวเนี่ยนแล้ว และยื่นมือออกไปผลักชิงช้าเบาๆนางไกวชิงช้าไปมา รอยยิ้มบนใบหน้าก็ยิ่งสดใสขึ้นเรื่อยๆส่วนเซียวเหอที่อยู่ด้านหลัง ใบหน้าของเขาก็ปรากฏรอยยิ้มชัดเจนกว่าครั้งไหนๆจี้เยว่รู้สึกแสบจมูกขึ้นมาทันทีเขาเคยคิดหลายครั้งว่าคุณ
อีกด้านหนึ่ง เซียวเหิงก็กลับมายังเรือนของตนแล้วแม้ว่าตอนนี้มีหลินยวนอยู่ในเรือน ทำให้เขาไม่อยากกลับมานัก แต่ไม่ว่าอย่างไร เขาก็จำเป็นต้องมาเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนไปที่กองทัพในลานเรือน บรรดาสาวใช้กำลังทำความสะอาดอยู่มองไม่เห็นความผิดปกติใดๆเซียวเหิงเดินตรงไปยังห้องหนังสือของตนเอง แต่ไม่คาดคิดว่ากลับมีคนมาขวางทางกลางคัน"ท่านแม่ทัพ! รีบไปดูคุณหนูของข้าด้วยเถอะเจ้าค่ะ! นางขังตัวเองอยู่ในห้องตั้งแต่เมื่อคืน ไม่ยอมออกมาเลย!"สาวใช้ตรงหน้าดูคุ้นตา เซียวเหิงจำได้ว่านางชื่อเสี่ยวหวน เป็นสาวใช้ที่ติดตามหลินยวนมาตั้งแต่แต่งงานเมื่อได้ยินเช่นนั้น เซียวเหิงก็เหลือบมองไปยังเรือนของหลินยวน แต่เพราะเรื่องเมื่อคืนมันเหลวไหลเกินไป อีกทั้งวันนี้เขาก็เพิ่งถูกเฉียวเนี่ยนทำให้หงุดหงิดมา จึงไม่มีอารมณ์ไปสนใจหลินยวนอีกเขาเพียงเอ่ยเสียงเย็นชา "เมื่อไหร่ที่นางอยากออกมา นางก็ออกมาเองนั่นแหละ"พูดจบ เขาก็เตรียมจะเดินจากไปแต่ไม่คาดคิดว่า จู่ๆ ภายในห้องกลับมีเสียงดัง "ปัง"บรรดาสาวใช้ที่กำลังทำความสะอาดอยู่ข้างนอกต่างสะดุ้ง "เสียงอะไรน่ะ?"แต่เสี่ยวหวนกลับหน้าซีดเผือด นางวิ่งไปที่หน้าประตู ตะโกนลั่น
แล้วจะให้เซียวเหอทําอย่างไร?หรือว่าจะทําให้พี่ใหญ่น้องของพวกเขาแตกหักกันเพื่อนางจริงๆ?ไม่สู้ถือโอกาสนี้จากไป หลุดพ้นทุกคนในเมืองหลวงให้หมดสิ้นนางตั้งตารอคอยมานานแล้ว ไปหาโลกใหม่นอกเมืองหลวง ไปหาตัวเองใหม่นางรู้สึกว่าถึงเวลาแล้วแต่ในมุมมองของหนิงซวง อยู่ต่อก็ดีเหมือนกันคุณชายใหญ่เซียวเป็นคนดี จี้เยว่ก็เป็นคนดีเช่นกัน นางอยู่ที่นี่กับคุณหนูของนาง ไม่ได้รู้สึกน้อยใจแม้แต่น้อยเพียงแต่ ในเมื่อคุณหนูบอกว่าถึงเวลาที่ต้องไปแล้ว นั่นย่อมมีเหตุผลแน่นอนหนิงซวงจึงพยักหน้าอย่างหนักแน่น "ข้าล้วนเชื่อฟังคุณหนู"ตกดึกเมื่อเซียวเหอกลับมา ท้องฟ้าก็มืดมากแล้วตัวเขาติดกลิ่นเหล้าอยู่บ้าง แต่ไม่ใช่ของเขา ส่วนใหญ่เป็นของพ่อเซียววันนี้พ่อเซียวมีความสุขจริงๆสั่งให้คนทําอาหารโต๊ะใหญ่ ดึงเขาไว้แล้วพูดไม่หยุด ระหว่างนั้นยิ่งดีใจจนร้องไห้หลายครั้งแน่นอนว่ายังพูดถึงหัวข้อเกี่ยวกับเซียวเหิงอยู่บ้างพ่อเซียวบอกว่า พวกเขาสองคนพี่ใหญ่น้องวางใจกันตั้งแต่เด็ก บอกว่าเซียวเหิงเคารพเขาที่เป็นพี่ใหญ่ตั้งแต่เด็กบอกว่านิสัยของเซียวเหิงดูเหมือนสุขุมเยือกเย็น แต่ความจริงแล้วกลับดื้อรั้นมากบอกว่าใน
ทุกคนในที่นี้ต่างก็รู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเฉียวเนี่ยนกับเซียวเหิงเป็นอย่างไร ย่อมเข้าใจดีว่าการจากไปของเซียวเหิงในครั้งนี้ จะต้องเป็นเพราะทนเห็นเฉียวเนี่ยนกับเซียวเหอรักกันเช่นนี้ไม่ได้แน่เฉียวเนี่ยนขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัวสีหน้าของเซียวเหอก็มืดมนลงเช่นกันบรรยากาศในห้องโถงตกอยู่ในความอึดอัดใจแม่เซียวได้สติก่อน ผลักเซียวชิงหน่วนเบาๆ หนึ่งที บอกเป็นนัยว่าห้ามพูดถึงอีก จากนั้นก็พูดเสียงดังว่า "คาดว่าในกองทัพคงมีเรื่องต้องไป ไม่พูดถึงเขาแล้ว!"เซียวชิงหน่วนเพิ่งรู้ตัวว่า "ใช่ ใช่ ใช่ พี่รองเพราะงานทหารยุ่ง ไม่ใช่เพราะพี่..."พูดยังไม่ทันจบ เซียวชิงหน่วนก็ปิดปากตัวเองไว้ อยากจะตบหน้าตัวเองสักฉาดสีหน้าของเฉียวเนี่ยนและเซียวเหอยิ่งเข้มขึ้นพ่อเซียวอดถลึงตาใส่เซียวชิงหน่วนไม่ได้ แล้วจึงค่อยมองไปทางราชครูชิว "วันนี้ที่จวนตระกูลเซียวมีเรื่องมงคล ราชครูชิวจะอยู่ดื่มกับข้าน้อยสักแก้วหรือไม่ขอรับ?"ราชครูชิวก็ทําเป็นไม่ได้ยินที่เซียวชิงหน่วนพูดเมื่อครู่ เขาปฏิเสธอย่างยิ้มแย้มว่า "ไม่ล่ะ คนชั่วชิวอวี่ยังไงก็เป็นหลานชายแท้ๆ ของข้า ข้าคงต้องกลับไปที่จวนก่อน!"พูดจบ ราชครูชิวก็ลุกขึ้นเซี
ระหว่างที่พูดก็เลิกม่านรถเดินออกไปแต่ก่อนที่จะกระโดดลงจากรถม้า ก็พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "หากนางตาย ก็เป็นนางก่อกรรมทําเข็ญเอง แต่เนี่ยนเนี่ยนล่ะ นางทำอะไรผิด?"สิ้นเสียง หลินเย่ว์ก็ก้าวยาวๆ จากไปแล้วเขาไม่สามารถอยู่ในรถม้าคันนั้นได้แม้แต่วินาทีเดียวเป็นความจริงที่เขาไม่อยากเห็นหลินยวนตายถึงอย่างไรนั่นก็เป็นน้องสาวแท้ๆ ของเขา!ตอนแรกนางอยากฆ่าตัวตายด้วยการชนเสา เขาไม่ได้ห้ามเพราะเขาคิดว่านางแกล้งทําแต่วันนี้ เมื่อเขาเห็นใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะตาย เขาก็อดไม่ได้ที่จะรีบวิ่งเข้าไปน้องสาวของเขาเคยอ่อนโยนและใจดี แต่เพิ่งเข้ามาในจวนตระกูลเซียวได้ไม่นาน ก็กลายเป็นคนที่โหดร้ายเช่นนี้แล้ว?หลินเย่ว์คิดไม่ออกแต่สิ่งที่คิดไม่ออกยิ่งกว่าคือเนี่ยนเนี่ยนทําอะไรผิด?นางทําผิดอะไรถึงต้องถูกจับเป็นเชลยต่อหน้าชิวอวี่ไปให้ชิวอวี่ข่มเหง?นางทําอะไรผิด ต้องหลบเข้าไปในพุ่มไม้หนามโดยไม่คํานึงถึงอะไร ทําให้ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล?นางก็เป็นน้องสาวของเขาเหมือนกันนะ!น้องสาวที่เขาตามใจมาสิบห้าปี มีสิทธิ์อะไรมาได้รับความอัปยศเช่นนี้?มีสิทธิ์อะไร พวกเขาแค่พูดไม่กี่คํา วันหล
รถม้าของจวนโหวรออยู่นอกจวนตระกูลเซียวตั้งนานแล้วหลินยวนถูกล้อมรอบด้วยกลุ่มคนรับใช้และยกเข้าไปในรถม้า ดึงดูดความสนใจของคนเดินถนนให้หันมาดูท่านโหวหลินและฮูหยินหลินตามขึ้นรถม้า คิดแต่จะรีบกลับจวนโหว ให้หมอประจำจวนรีบรักษาหลินยวนแต่ไม่คิดว่าหลินเย่ว์จะไม่ออกมาเสียทีท่านโหวหลินร้อนใจจนอยากเข้าไปเรียกคน จากนั้นถึงได้เห็นหลินเย่ว์ออกจากจวนแล้วขึ้นรถม้าไป"เร็ว รีบกลับจวน!" ท่านโหวหลินร้องเรียกอย่างร้อนใจ รถม้าก็มุ่งหน้าไปทางจวนโหวอย่างรวดเร็วและหัวใจของท่านโหวหลินก็มีโอกาสหายใจได้บ้างในเวลานี้เมื่อเห็นหลินยวนที่เต็มไปด้วยเลือด สีหน้าของท่านโหวหลินก็มืดครึ้ม แต่จู่ๆ ก็นึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เขามองไปทางหลินเย่ว์ "เจ้าก็เหมือนกัน ทําไมเรื่องใหญ่ขนาดนี้ไม่บอกล่วงหน้าล่ะ? วันนี้ข้ากับแม่เจ้ามาไม่ได้เตรียมใจไว้เลยสักนิด"แต่เห็นได้ชัดว่าหลินเย่ว์เพิ่งเริ่มค้นหานักลอบสังหารชุดดําเมื่อไม่กี่วันก่อน!หลินเย่ว์กําลังใช้ผ้าเช็ดหน้าพันแผลที่มือขวาของตัวเอง สีหน้าของเขาไม่ได้ดีไปกว่าท่านโหวหลินสักเท่าไร "แจ้งให้พวกท่านทราบล่วงหน้า เพื่อที่พวกเจ้าจะได้แอบส่งข่าวให้ยวนเอ๋อร์เหรอ?"ได้ยิ
พูดจบก็หันไปพูดกับพ่อเซียวว่า "ขอพี่เซียวยืมด้วยขอรับ"ตระกูลเซียวเป็นท่านแม่ทัพมาหลายชั่วอายุคน สิ่งที่ขาดไม่ได้ที่สุดในจวนก็คือแส้หนังพ่อเซียวพยักหน้าเล็กน้อยและคํารามเสียงต่ำ ไม่นานก็มีคนส่งแส้หนังมาท่านโหวหลินกํามือไว้ แล้วตะโกนว่า "หลินยวน คุกเข่าให้ดี"หลินยวนเองก็รู้ว่าวันนี้ตนคงหนีไม่พ้นการเฆี่ยนตี แต่นี่ก็เป็นสิ่งที่ท่านโหวหลินและฮูหยินหลินหามาให้ตน อย่างไรก็ดีกว่าตาย!ตอนนี้จึงได้แต่ร้องไห้สะอึกสะอื้น ปล่อยหลินเย่ว์แล้วค่อยๆ คุกเข่าตัวตรงหลินเย่ว์สูดหายใจเข้าลึกๆ ถอยไปด้านข้างและเอามือที่บาดเจ็บไว้ด้านหลังท่านโหวหลินก้าวไปข้างหน้า ยกแส้ม้าในมือขึ้น แล้วฟาดไปที่หลังของหลินยวนอย่างแรง"เพียะ!"แส้ที่ทําจากหนังวัวนั้นเหนียวเป็นพิเศษและเสียงดังมากเมื่อตีลงบนร่างกายเพียงครู่เดียว บนหลังของหลินยวนก็มีรอยเลือดสายหนึ่งตกลงมาแล้ว"เจ้าใจดําอํามหิต ทําร้ายคนอื่นทําร้ายตัวเอง วันนี้ข้าจะให้คําอธิบายแก่ทุกคน"ท่านโหวหลินดื่มเสร็จก็ฟาดแส้ใส่หลินยวนอีกครั้งท่านโหวหลินก็เป็นนายทหารเช่นกัน แรงเฆี่ยนตีไม่เบาแน่นอน เสียงเฆี่ยนตีดังก้องไปทั่วคฤหาสน์ตระกูลเซียว แผ่นหลังของหล
เมื่อคําพูดนี้ออกมา ทุกคนต่างก็รู้สึกประหลาดใจแม้แต่ท่านโหวหลินกับฮูหยินหลินก็คิดไม่ถึงว่าเฉียวเนี่ยนจะตอบตกลงอย่างง่ายดายเช่นนี้เซียวเหอรู้สึกปวดใจ อดไม่ได้ที่จะหันไปมองนาง น้ำเสียงเย็นชาแฝงไปด้วยความอ่อนโยน กระซิบว่า "เจ้าไม่จําเป็นต้องประนีประนอม"แน่นอนว่าเขาสามารถออกหน้าแทนนางได้ ทําให้หลินยวนและจวนโหวต้องก้มหัวให้นางเฉียวเนี่ยนเนี่ยนรู้ว่าเซียวเหอทําเพื่อตัวเองคําว่า 'ไม่จําเป็นต้องประนีประนอม' นั้นเข้าสู่หัวใจของเฉียวเนี่ยนเนี่ยนอย่างแท้จริงแต่นางไม่อยากข้องเกี่ยวกับคนของจวนโหวอีกแล้วจริงๆไม่ว่าจะดีหรือร้ายก็ไม่อยากแล้วทั้งนั้นนางแค่อยากอยู่ให้ห่างจากพวกเขาให้ไกลที่สุด ชาตินี้ไม่ได้พบกันอีกจะดีที่สุดดังนั้นนางจึงส่ายหัวเล็กน้อยและหันไปมองเซียวเหอเล็กน้อยพลางกระซิบว่า "แบบนี้ก็ดีแล้ว"เสียงกระซิบของทั้งสองคนดังเข้าหูเซียวเหิง รู้สึกแสบแก้วหูเหลือเกินพวกเขาเอียงตัวเข้าหากัน หัวเหมือนจะชนกัน สนิทสนมกันเป็นพิเศษข้อมือของเฉียวเนี่ยนยังคงถูกเซียวเหอกุมไว้ในฝ่ามือเช่นเดิม แต่เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ได้ตระหนักถึงข้อนี้เหมือนว่าการสัมผัสผิวกายของทั้งสองคนเป็นเรื่องป
ท่านโหวหลินก็ปาดน้ำตาเช่นกัน "พ่อรู้ เจ้าเองก็ไม่อยากเห็นหน้าพวกเรา ขอเพียงเจ้ายอมไว้ชีวิตยวนเอ๋อร์ ครอบครัวของพวกเราจะไม่มีวันปรากฏตัวต่อหน้าเจ้าอีก!""เนี่ยนเนี่ยน ยวนเอ๋อร์เพิ่งอยู่กับแม่ได้เพียงสามปีเท่านั้น เดิมทีนางควรจะอยู่เคียงข้างแม่เสมอและได้รับการปกป้องจากแม่ ตอนนี้ เจ้า เจ้าคิดเสียว่าช่วยแม่ชําระหนี้ก้อนนี้ได้หรือไม่? เจ้าไว้ชีวิตนางได้ไหม? แม่โขกหัวให้เจ้าแล้ว"พูดจบ ฮูหยินหลินก็โขกหัวต่อหน้าทุกคนจริงๆแม่เซียวตกใจ รีบปรี่เข้าไปประคองฮูหยินหลินทันที "นี่ท่าน ท่านทําอะไรอยู่เนี่ย""นางจะบังคับให้เนี่ยนเนี่ยนตาย" น้ำเสียงเย็นชาของเซียวเหอดังขึ้น ดวงตาเรียวยาวเต็มไปด้วยความเย็นชา "ท่านทั้งสองยังไงก็เลี้ยงดูเนี่ยนเนี่ยนมาสิบห้าปีแล้ว แม้ว่าจะตัดสายสัมพันธ์กัน แม้ว่าเนี่ยนจะทนทุกข์ทรมานมาสามปี แต่ในสายตาของคนนอก พวกท่านก็ยังคงเลี้ยงดูเนี่ยนเนี่ยนมาสิบห้าปี ตอนนี้พวกท่านใช้บุญคุณมาบังคับตอบแทน แม้กระทั่งคุกเข่าโขกหัวก็ยอม ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการยัดข้อหาเนรคุณใส่เนี่ยนเนี่ยน บังคับให้นางพูดคําว่าให้อภัยออกมา แต่ทั้งสองท่านอย่าลืมว่าคนที่เกือบถูกข่มเหงคือนาง คนที่เกือบตายก็คือ
หลินเย่ว์ไม่ขยับ มือทั้งสองของเขาห้อยลง ปล่อยให้หลินยวนกอดอยู่แบบนี้ที่ด้านข้าง ท่านโหวหลินและฮูหยินหลินเห็นเช่นนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะปาดน้ำตาเฉียวเนี่ยนยืนอยู่ข้างหลังเซียวเหอ มองฉากที่พี่ใหญ่น้องกอดกันด้วยสายตาเย็นชา ถ้าบอกว่าในใจไม่รู้สึกอะไรเลย นั่นต้องเป็นเรื่องโกหกแน่ๆนางรู้ว่าหลินยวนเป็นตัวปลอมก็รู้ว่านั่นควรจะเป็นพี่ใหญ่ของนางยิ่งรู้ว่าความรักและความโปรดปรานของคนในตระกูลหลินที่มีต่อหลินยวนนั้น เดิมทีควรเป็นของนางดังนั้นในตอนนี้ เมื่อเห็นหลินยวนแย่งทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยเป็นของนางก่อนหน้านี้อย่างโจ่งแจ้ง หัวใจของนางก็จมดิ่งลงไปในเหวลึกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้คิ้วและดวงตาคู่นั้นยิ่งเย็นจนน่ากลัวโชคดีที่นางไม่สนใจแล้วตอนนี้สิ่งเหล่านั้นที่สามารถถูกแย่งไปได้ง่ายๆ นั้นถูกลิขิตไว้แล้วว่าจะไม่ใช่ของล้ำค่าอะไร นางย่อมไม่เสียดายอยู่แล้วแต่ในขณะนั้นเอง ฮูหยินหลินก็หันมองทุกคนและคุกเข่าลงอย่างช้าๆเมื่อเห็นเช่นนี้ ทุกคนต่างก็ตกใจแม่เซียวรีบเข้าไปประคอง แต่กลับถูกเซียวชิงหน่วนดึงกลับมาได้ยินเพียงฮูหยินหลินพูดว่า "ยวนเอ๋อร์ทําผิดพลาดครั้งใหญ่ในวันนี้ ทั้งหมดเป็นความผิดของ
กําปั้นคู่หนึ่งถูกกําแน่นจนเกิดเสียงกรอบแกร้บโดยไม่รู้ตัวแต่ในขณะนี้ไม่มีใครสนใจเขาเลยราชครูชิวก็น้ำตาไหลพรากตามไปด้วย "คิดไม่ถึงว่าวันนี้ข้าจะได้เห็นเรื่องมงคลเช่นนี้ ดี ดีมาก! เยี่ยมไปเลย!"เซียวเหอมีบุญคุณต่อเขา ในใจเขารู้สึกซาบซึ้งใจ ย่อมคาดหวังให้เซียวเหอดีขึ้นมาตอนนี้เห็นเซียวเหอลุกขึ้นยืนด้วยตาตัวเอง จะไม่ตื่นเต้นได้อย่างไร?แม้แต่ท่านโหวหลินและฮูหยินหลิน ในขณะนี้ต่างก็ตกตะลึงไปด้วย?พวกเขาไม่สามารถคิดได้เลยว่าคนที่ถูกตัดสิน‘โทษตาย’โดยทั้งโรงหมอหลวงจะยืนขึ้นได้อย่างไรกัน!และในตอนนั้นเอง เสียงหัวเราะเบาๆ ก็ดังขึ้นอย่างกะทันหัน"ฮ่าๆๆ ฮ่าๆๆ..."คาดไม่ถึงว่าจะเป็นหลินยวนนางเพิ่งโดนฝ่ามือไป ตอนนี้ยังลุกไม่ขึ้นเลยเมื่อเห็นเซียวเหอลุกขึ้นยืน นางก็ตระหนักว่านางแพ้แล้วเฉียวเนี่ยน รักษาเซียวเหอให้หายได้จริงๆ ด้วยและนาง ก็ถูกทุกคนรังเกียจแล้วจริงๆน่าขำไหม?นางพยายามมาตั้งนาน แต่สุดท้ายก็ยังสู้เฉียวเนี่ยนไม่ได้มีดสั้นที่หล่นอยู่ข้างๆหลินยวนเอื้อมมือไปหยิบมาเมื่อเห็นเช่นนี้ แม้แต่ท่านโหวหลินและฮูหยินหลินก็อดไม่ได้ที่จะถอยหลังไปหนึ่งก้าว และตะโกนด้วยเสียงต่ำว่า