หรือจะเกี่ยวข้องกับเนี่ยนเนี่ยน?เช่นนั้นเนี่ยนเนี่ยนคงไม่เป็นไรใช่ไหม?เดิมทีหลินเย่ว์อารมณ์หงุดหงิดอยู่แล้ว ตอนนี้เห็นจิ่งเหยียนเข้า ก็อดเดือดเป็นฟืนเป็นไฟไม่ได้แต่เมื่อนึกถึงคำเตือนของท่านหมอ เขาก็ไม่กล้าขยับตัวอะไรมาก ได้แค่กล่าวเสียงเย็น "เกี่ยวอะไรกับเจ้า?"ขณะกล่าว ก็มุ่งตรงไปทางจวนโหวจิ่งเหยียนไม่ยอมแพ้ ตามไปด้วย "เนี่ยนเนี่ยนล่ะ? ทั้งๆ ที่จวนโหวมีหมอประจำจวนอยู่แล้ว ท่านโหวน้อยกลับมาดูหมอข้างนอก หรือหมอประจำจวนกำลังรีบรักษาให้เนี่ยนเนี่ยนอยู่?"เห็นหลินเย่ว์เอาแต่ไม่ตอบ จิ่งเหยียนเลยก้าวไปข้างหน้าอีกก้าวหนึ่ง ขวางหลินเย่ว์ไว้ "หลินเย่ว์ เจ้าทำอะไรกับเนี่ยนเนี่ยนกันแน่!"หากไม่ใช่เพราะในมือถือยาสองห่อไว้ หลินเย่ว์ต้องซัดหมัดใส่เป็นแน่!เห็นสีหน้าร้อนรนเจือเต็มหน้าจิ่งเหยียน หลินเย่ว์ยิ่งรู้สึกกราดเกรี้ยวมากขึ้น "เรื่องในจวนโหวข้า รองแม่ทัพตัวเล็กๆ อย่างเจ้าเข้ามาสอดได้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?"จิ่งเหยียนหาได้ยอมแพ้ "ข้าไม่ได้เข้าไปยุ่งจวนโหว เพียงแค่ถามถึงเนี่ยนเนี่ยนเท่านั้น!""เจ้า!" เห็นจิ่งเหยียนไม่คิดแม้แต่จะหลีกทางให้ หลินเย่ว์รู้ หากวันนี้ไม่คุยกับเขาชัดเจน เขาไม
หลังจากหลินเย่ว์เดินจากไปได้ช่วงหนึ่งก็ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยโทสะ ทว่าเมื่อครู่ท่านหมอกำชับไว้แล้ว ห้ามขยับตัวมาก ไม่เช่นนั้น เขาต้องซัดจิ่งเหยียนไปสักหมัด เพื่อคลายโทสะเป็นแน่ไม่ง่ายนักที่จะกลับมาถึงจวน หลินเย่ว์จึงมุ่งไปยังเรือนลั่วเหมยหนึ่ง เพื่อดูว่าอาการบาดเจ็บของยวนเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้างสอง เพื่อให้หมอประจำจวนดูบาดแผลเขาสักหน่อยหมอที่อยู่ด้านนอกห้ามเลือดพอได้ ทว่ารักษานั้น อย่างไรก็เชื่อไม่ได้แต่คาดไม่ถึงเลยว่า ทันทีที่ถึงหน้าประตูเรือนลั่วเหมย ก็ปะทะเข้ากับหมอประจำจวนที่กำลังออกมาครั้นเห็นหลินเย่ว์ หมอประจำจวนกุมมือคำนับ "คารวะท่านโหวน้อย"หลินเย่ว์รีบทอดมองเข้าไปในเรือน ก่อนถาม "อาการบาดเจ็บของยวนเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้าง?"หมอประจำจวนตอบตามความเป็นจริง "อาการบาดเจ็บของคุณหนูรองไม่เป็นไรมากแล้ว ดาบนั้นคุณหนูใหญ่แทงได้แม่นยำมาก ไม่ทำให้ถึงตายขอรับ ส่วนบาดแผลตกหน้าอกก็ไม่ถือว่าลึกมาก ข้าน้อยได้สั่งยาให้สาวใช้เรียบร้อยแล้วขอรับ"ได้ยินดังนี้ หลินเย่ว์ถึงได้ขมวดคิ้วหนัก นึกถึงดาบนั้นเมื่อก่อนเขาเป็นคนสอนเฉียวเนี่ยนเองเพียงแต่ตอนนั้น เขาสอนนางเพื่อให้นางจัดการกับพวกเด็กเหลื
"ยวนเอ๋อร์ พี่รู้ว่าเจ้าเป็นคนจิตใจงดงาม และเชื่อด้วยว่าครั้งนี้เจ้ามีเจตนาดีจริงๆ แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจ้าทําเรื่องนี้ ก่อนหน้านี้เจ้าเคยทําครั้งหนึ่ง และถูกเนี่ยนเนี่ยนกดลงบนพื้นสั่งสอนไปครั้งหนึ่งแล้ว ทําไมครั้งนี้ถึงยังไม่จําอีก? เจ้าก็รู้อยู่แก่ใจว่า ในจวนโหวตอนนี้ ท่านย่าเป็นคนเดียวที่เนี่ยนเนี่ยนใส่ใจ หากเจ้าแตะต้องท่านย่า นางจะต้องสู้ตายกับเจ้าแน่!"หลินยวนก้มหน้า น้ำตาไหลพรากลงอาบแก้มไม่หยุด แต่แววตากลับฉายแววอํามหิตใช่ นางจะไม่รู้ได้ยังไง?ฮูหยินเฒ่านับเป็นจุดอ่อนของเฉียวเนี่ยน ตราบใดที่ฮูหยินเฒ่านี่ยังมีชีวิตอยู่ เฉียวเนี่ยนก็จะไม่มีวันออกจากจวนโหวได้!หนังสือตัดขาดความสัมพันธ์เหรอ?เหอะ! หยุดพูดเล่นได้แล้ว!หากเฉียวเนี่ยนสามารถตัดขาดกับจวนโหวได้จริง หลังจากถูกหมิงอ๋องตีจนปางตายก็คงตัดขาดไปนานแล้ว!ไม่สิ ไม่ถูก!มันควรจะตัดขาดตั้งแต่เมื่อสามปีที่แล้ว!แต่จนถึงวันนี้ เฉียวเนี่ยนก็ยังได้ชื่อว่าเป็นคุณหนูใหญ่แห่งจวนโหว!นางมีสิทธิ์อะไร?ตัวนางเองต่างหากที่เป็นบุตรสาวของภรรยาเอกของจวนโหว!ทําไมนางต้องโดนเฉียวเนี่ยนควบคุมอยู่ทุกหนทุกแห่ง ทําไมต้องโดนนางข่มขู่ด้วย?
แคว้นจิ้ง ยี่สิบแปดเดือนสิบสองมันเป็นวันที่อากาศกำลังหนาวเย็นพอดีเฉียวเนี่ยนซักเสื้อผ้าชุดสุดท้ายในตอนเช้าเสร็จ ยังไม่ทันเช็ดมือที่หนาวจนชาให้แห้งก็ได้ยินนางกำนัลอาวุโสจากกรมซักล้างตะโกนเรียกนางว่า “เฉียวเนี่ยน เร็วเข้า จวนโหวมีคนมารับเจ้าแล้ว!”นางยืนอึ้งอยู่ที่เดิมจวนโหว ช่างเป็นคําที่ทั้งคุ้นเคยและไม่คุ้นเคยยิ่งนักนางเคยเป็นคุณหนูผู้สูงศักดิ์ของจวนโหวมาสิบห้าปี แต่เมื่อสามปีก่อนกลับได้รับแจ้งว่าตนเองเป็นตัวปลอมเป็นนางกำนัลอาวุโสที่ทําคลอดในตอนนั้นที่เห็นแก่ตัว นำลูกของตัวเองกับคุณหนูของจวนโหวแลกเปลี่ยนกัน และก่อนตายก็ค้นพบมโนธรรมและบอกความจริงออกมาเฉียวเนี่ยนจําได้แม่นว่าวันนั้นที่ท่านโหวสองสามีภรรยาได้รู้จักกับหลินยวนลุกสาวแท้ๆ นั้นตื่นเต้นแค่ไหน พวกเขากอดกันทั้งร้องไห้ทั้งหัวเราะ ส่วนนางยืนมองอยู่ข้างๆ อย่างทําอะไรไม่ถูก ไม่เข้าใจว่าพ่อแม่ที่ตัวเองเรียกมาสิบห้าปี ทําไมจู่ๆ ถึงไม่ใช่พ่อแม่ของตัวเองแล้วอาจเป็นเพราะมองเห็นความผิดหวังของนางได้ ท่านโหวหลินจึงสัญญากับนางว่า นางยังคงเป็นคุณหนูของจวนโหว และยังให้หลินยวนเรียกนางว่าพี่สาว แม้แต่ฮูหยินหลินก็ยังบอกว่า พวกเขาย
เฉียวเนี่ยนชะงักงัน หัวใจที่คิดว่าไม่รู้สึกอะไรอีกแล้วยังคงเต้นผิดจังหวะเพราะเสียงที่คุ้นเคยนั้นนางค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มในรถม้าเป็นแม่ทัพหนุ่มที่ถูกแต่งตั้งผู้นั้น อดีตคู่หมั้นของนาง เซียวเหิงนางแทบจะคุกเข่าลงทันที “บ่าวคารวะแม่ทัพเซียวเจ้าค่ะ”คิ้วของเซียวเหิงขมวดเข้าหากันเล็กน้อย สายตากวาดมองข้อเท้าของนางแวบหนึ่ง เอ่ยถามเสียงเรียบว่า “แม่นางหลินจะกลับจวนหรือ?”เฉียวเนี่ยนหลุบตามองเข่าทั้งสองข้างของตัวเอง แล้วพยักหน้า “เจ้าค่ะ”สิ้นเสียงก็เงียบไปพักหนึ่งเซียวเหิงรอให้นางพูดต่อเพราะเมื่อก่อน ต่อหน้าเขานางมักมีเรื่องพูดไม่จบตลอดเขาไม่ชอบคนพูดมาก แต่เห็นแก่มิตรภาพของทั้งสองตระกูลจึงไม่ตําหนินางมากเกินไป แต่ก็ไม่เคยปิดบังความเบื่อหน่ายของตัวเองบางครั้งถูกรบกวนจนรําคาญจริงๆ ก็จะหยิบขนมกล่องหนึ่งออกมาอุดปากนาง ทุกครั้งที่ถึงเวลานั้น นางมักจะดีใจเหมือนเด็กๆ แต่ปากที่หนวกหูนั้นอย่างมากก็อุดได้แค่ครึ่งก้านธูปเท่านั้นนึกไม่ถึงว่าไม่ได้เจอกันสามปี นางตอบแค่คําสั้นๆ คําเดียวเซียวเหิงลงจากรถม้า ไม่ได้เข้าไปประคองนาง เพียงกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ข้าเข้าวังไปรายงานพอดี แม่นา
เรือนเก่าของเฉียวเนี่ยนมีชื่อว่าเรือนลั่วเหมยในเรือนเต็มไปด้วยดอกเหมยต่างๆ ตั้งแต่ต้นฤดูหนาว ดอกเหมยในเรือนดอกเหมยจะบานสะพรั่งอย่างแข่งกัน จนกระทั่งต้นฤดูใบไม้ผลิก็จะไม่เหี่ยวเฉาดอกเหมยเหล่านั้น ล้วนเป็นท่านโหวหลินส่งคนไปตามหาจากทั่วแคว้นจิ้งด้วยตนเอง เพียงเพราะเฉียวเนี่ยนในวัยเด็กเคยกล่าวไว้ว่า ดอกไม้ที่โปรดปรานที่สุดในชีวิตนี้ก็คือดอกเหมยจวนโหวต้องใช้เงินหลายร้อยตําลึงในการบํารุงรักษาดอกเหมยเหล่านั้นทุกปีแต่หลังจากหลินยวนกลับมาในปีนั้น ก็บอกแค่ว่าดอกเหมยในสวนของพี่หญิงสวยมาก เรือนดอกเหมยนั้นก็กลายเป็นของหลินยวนแล้วเฉียวเนี่ยนในตอนนั้นเต็มไปด้วยความเคียดแค้น ตอนนี้พอนึกขึ้นได้กลับไม่มีอารมณ์ใดๆหลินยวนต่างหากที่เป็นลูกสาวแท้ๆ ของจวนโหว ของในบ้านนี้ก็ดี คนก็ดี ล้วนเป็นของหลินยวนทั้งนั้นและนางก็เป็นเพียงคนนอกที่มาครอบครองก็เท่านั้นสาวใช้ที่นําทางกลับกระตือรือร้น “สาวใช้ที่เคยรับใช้คุณหนูแต่งงานไปแล้ว ฮูหยินให้บ่าวติดตามคุณหนูต่อไป บ่าวชื่อหนิงซวง ต่อไปหากคุณหนูมีเรื่องอะไรก็สั่งบ่าวได้เลย”หนิงซวงมีใบหน้าอ่อนเยาว์ แก้มอวบอิ่ม เฉียวเนี่ยนเห็นนางคุ้นตาจึงถามว่า “เจ้าเป็นคน
เมื่อเห็นเจตนาดีของหลินยวนถูกเฉียวเนี่ยนตอกกลับ หลินเย่ว์ก็เก็บความรู้สึกผิดในใจกลับทันที เอ่ยเสียงเย็นชาว่า “เจ้าไม่ต้องทําตัวประหลาดเช่นนี้ ร่างกายบาดเจ็บทําไมไม่บอกตั้งแต่แรก! ไม่มีปากเหรอ?ถ้านางพูดก่อนหน้านี้ เขาจะไปโรงหมอหลวงเพื่อขอยามาให้นางอย่างแน่นอน!“เมื่อครู่กลับอยากบอกว่า ท่านโหวน้อยไม่ให้โอกาส” เฉียวเนี่ยนพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ในที่สุดก็ดึงมือทั้งสองกลับมาจากมือของฮูหยินหลินดวงตาของหลินเย่ว์มืดมนลง นางกลับจวนไปแล้ว ยังไม่ยอมเรียกเขาว่าพี่ชายอีกความโกรธในใจไม่ลดลง เขาตะคอกเสียงต่ำว่า “ข้าก็อยากถามเหมือนกัน ถึงอย่างไรเจ้าก็เป็นคุณหนูสูงศักดิ์ของจวนโหวของข้า ตั้งแต่เด็กก็ฝึกวรยุทธ์กับอาจารย์วรยุทธ์ของจวนนี้ ในกรมซักล้างนั้นมียอดฝีมือคนไหนกันแน่ที่ทําร้ายเจ้าได้ถึงเพียงนี้?”คําพูดเพียงประโยคเดียวทําให้เฉียวเนี่ยนใจหายวาบนางหลุบตาลงดึงแขนเสื้อลง น้ำเสียงอ่อนโยนกลับแฝงไว้ด้วยความหนาวเหน็บที่ทําให้คนตัวสั่นเทิ้ม “ตอนแรกก็เคยต่อต้าน เหมือนที่ท่านโหวน้อยกล่าวไว้ นางบ่าวในวังเหล่านั้นล้วนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้าจริงๆ แต่พวกนางสู้ข้าไม่ได้ก็จะใช้เล่ห์เหลี่ยมในที่มืด! อย่า
เซียวเหิงหลุบตามองกล่องของขวัญที่ใส่สมุนไพรในมือ ไม่ได้พูดอะไรหลินเย่ว์กลับยิ่งกระวนกระวายใจ “วันนี้เจ้าไม่ได้รับหมายเรียก เจตนาไปรับนางที่หน้าประตูวังหรือ?”เซียวเหิงยังคงไม่พูดอะไรหลินเย่ว์เติบโตมาด้วยกันกับเขา จะไม่รู้ได้อย่างไรว่านี่เป็นการยอมรับโดยปริยายจึงกดเสียงลงต่ำ “เซียวเหิง เจ้าบ้าไปแล้วหรือ? เมื่อก่อนตอนที่เจ้าพึมพําเจ้า เจ้าชอบที่จะไม่สนใจ แต่ตอนนี้เจ้ากลายเป็นคู่หมั้นของยวนเอ๋อร์แล้ว เจ้ากลับสนใจนางขึ้นมาหรือ? ข้าเตือนเจ้านะ ข้ามีแค่น้องสาวสองคนนี้ เจ้าอย่าบังคับให้ข้าเป็นพี่น้องกับเจ้าไม่ได้”ได้ยินดังนั้น เซียวเหิงกลับยิ้มหยัน เงยหน้าขึ้นมองหลินเย่ว์ เต็มไปด้วยการเยาะเย้ย “พี่หลินพูดแบบนี้ กลับทําให้ท่านดูเหมือนกําลังสนใจเนี่ยนเนี่ยนอยู่นะ”แต่เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นคนที่ใช้คำพุดทิ่มแทงเนี่ยนเนี่ยนเองแท้ๆเพียงประโยคเดียวก็ทําให้ความโกรธของหลินเย่ว์จุกอยู่ในลําคอเขาจ้องมองเซียวเหิงอย่างเอาเป็นเอาตาย พยายามเค้นสมองคิดแต่พูดออกมาเพียงประโยคเดียวว่า “แล้วเจ้าดีกว่าตรงไหนกัน? อย่าลืมว่าเมื่อสามปีก่อนเจ้าก็อยู่ที่นี่ด้วย นางเกลียดข้าและเกลียดเจ้าเช่นกัน”“ข้ารู้”
"ยวนเอ๋อร์ พี่รู้ว่าเจ้าเป็นคนจิตใจงดงาม และเชื่อด้วยว่าครั้งนี้เจ้ามีเจตนาดีจริงๆ แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจ้าทําเรื่องนี้ ก่อนหน้านี้เจ้าเคยทําครั้งหนึ่ง และถูกเนี่ยนเนี่ยนกดลงบนพื้นสั่งสอนไปครั้งหนึ่งแล้ว ทําไมครั้งนี้ถึงยังไม่จําอีก? เจ้าก็รู้อยู่แก่ใจว่า ในจวนโหวตอนนี้ ท่านย่าเป็นคนเดียวที่เนี่ยนเนี่ยนใส่ใจ หากเจ้าแตะต้องท่านย่า นางจะต้องสู้ตายกับเจ้าแน่!"หลินยวนก้มหน้า น้ำตาไหลพรากลงอาบแก้มไม่หยุด แต่แววตากลับฉายแววอํามหิตใช่ นางจะไม่รู้ได้ยังไง?ฮูหยินเฒ่านับเป็นจุดอ่อนของเฉียวเนี่ยน ตราบใดที่ฮูหยินเฒ่านี่ยังมีชีวิตอยู่ เฉียวเนี่ยนก็จะไม่มีวันออกจากจวนโหวได้!หนังสือตัดขาดความสัมพันธ์เหรอ?เหอะ! หยุดพูดเล่นได้แล้ว!หากเฉียวเนี่ยนสามารถตัดขาดกับจวนโหวได้จริง หลังจากถูกหมิงอ๋องตีจนปางตายก็คงตัดขาดไปนานแล้ว!ไม่สิ ไม่ถูก!มันควรจะตัดขาดตั้งแต่เมื่อสามปีที่แล้ว!แต่จนถึงวันนี้ เฉียวเนี่ยนก็ยังได้ชื่อว่าเป็นคุณหนูใหญ่แห่งจวนโหว!นางมีสิทธิ์อะไร?ตัวนางเองต่างหากที่เป็นบุตรสาวของภรรยาเอกของจวนโหว!ทําไมนางต้องโดนเฉียวเนี่ยนควบคุมอยู่ทุกหนทุกแห่ง ทําไมต้องโดนนางข่มขู่ด้วย?
หลังจากหลินเย่ว์เดินจากไปได้ช่วงหนึ่งก็ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยโทสะ ทว่าเมื่อครู่ท่านหมอกำชับไว้แล้ว ห้ามขยับตัวมาก ไม่เช่นนั้น เขาต้องซัดจิ่งเหยียนไปสักหมัด เพื่อคลายโทสะเป็นแน่ไม่ง่ายนักที่จะกลับมาถึงจวน หลินเย่ว์จึงมุ่งไปยังเรือนลั่วเหมยหนึ่ง เพื่อดูว่าอาการบาดเจ็บของยวนเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้างสอง เพื่อให้หมอประจำจวนดูบาดแผลเขาสักหน่อยหมอที่อยู่ด้านนอกห้ามเลือดพอได้ ทว่ารักษานั้น อย่างไรก็เชื่อไม่ได้แต่คาดไม่ถึงเลยว่า ทันทีที่ถึงหน้าประตูเรือนลั่วเหมย ก็ปะทะเข้ากับหมอประจำจวนที่กำลังออกมาครั้นเห็นหลินเย่ว์ หมอประจำจวนกุมมือคำนับ "คารวะท่านโหวน้อย"หลินเย่ว์รีบทอดมองเข้าไปในเรือน ก่อนถาม "อาการบาดเจ็บของยวนเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้าง?"หมอประจำจวนตอบตามความเป็นจริง "อาการบาดเจ็บของคุณหนูรองไม่เป็นไรมากแล้ว ดาบนั้นคุณหนูใหญ่แทงได้แม่นยำมาก ไม่ทำให้ถึงตายขอรับ ส่วนบาดแผลตกหน้าอกก็ไม่ถือว่าลึกมาก ข้าน้อยได้สั่งยาให้สาวใช้เรียบร้อยแล้วขอรับ"ได้ยินดังนี้ หลินเย่ว์ถึงได้ขมวดคิ้วหนัก นึกถึงดาบนั้นเมื่อก่อนเขาเป็นคนสอนเฉียวเนี่ยนเองเพียงแต่ตอนนั้น เขาสอนนางเพื่อให้นางจัดการกับพวกเด็กเหลื
หรือจะเกี่ยวข้องกับเนี่ยนเนี่ยน?เช่นนั้นเนี่ยนเนี่ยนคงไม่เป็นไรใช่ไหม?เดิมทีหลินเย่ว์อารมณ์หงุดหงิดอยู่แล้ว ตอนนี้เห็นจิ่งเหยียนเข้า ก็อดเดือดเป็นฟืนเป็นไฟไม่ได้แต่เมื่อนึกถึงคำเตือนของท่านหมอ เขาก็ไม่กล้าขยับตัวอะไรมาก ได้แค่กล่าวเสียงเย็น "เกี่ยวอะไรกับเจ้า?"ขณะกล่าว ก็มุ่งตรงไปทางจวนโหวจิ่งเหยียนไม่ยอมแพ้ ตามไปด้วย "เนี่ยนเนี่ยนล่ะ? ทั้งๆ ที่จวนโหวมีหมอประจำจวนอยู่แล้ว ท่านโหวน้อยกลับมาดูหมอข้างนอก หรือหมอประจำจวนกำลังรีบรักษาให้เนี่ยนเนี่ยนอยู่?"เห็นหลินเย่ว์เอาแต่ไม่ตอบ จิ่งเหยียนเลยก้าวไปข้างหน้าอีกก้าวหนึ่ง ขวางหลินเย่ว์ไว้ "หลินเย่ว์ เจ้าทำอะไรกับเนี่ยนเนี่ยนกันแน่!"หากไม่ใช่เพราะในมือถือยาสองห่อไว้ หลินเย่ว์ต้องซัดหมัดใส่เป็นแน่!เห็นสีหน้าร้อนรนเจือเต็มหน้าจิ่งเหยียน หลินเย่ว์ยิ่งรู้สึกกราดเกรี้ยวมากขึ้น "เรื่องในจวนโหวข้า รองแม่ทัพตัวเล็กๆ อย่างเจ้าเข้ามาสอดได้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?"จิ่งเหยียนหาได้ยอมแพ้ "ข้าไม่ได้เข้าไปยุ่งจวนโหว เพียงแค่ถามถึงเนี่ยนเนี่ยนเท่านั้น!""เจ้า!" เห็นจิ่งเหยียนไม่คิดแม้แต่จะหลีกทางให้ หลินเย่ว์รู้ หากวันนี้ไม่คุยกับเขาชัดเจน เขาไม
อีกด้านหนึ่ง จิ่งเหยียนไปที่จวนเซียวตอนเขามา เซียวเหิงกำลังอ่านตำราพิชัยสงครามอยู่ในห้องหนังสือครั้งเห็นในมือจิ่งเหยียนถือเหล้ามาสองไห ตำราพิชัยสงครามในมือก็ถูกวางลงตาม นัยน์ตาลุ่มลึดทอดมองออกไป เห็นจิ่งเหยียนหยักยิ้ม "ข้าน้อยมาดื่มกับท่านแม่ทัพ"สิ้นเสียง เหล้าไหหนึ่งก็โยนที่ทางเซียวเหิงเซียวเหิงยกมือขึ้นรับ และดึมลงไปหนึ่งอึกรสแสบร้อนลงสู่ปาก ผ่านคอหอยเซียวเหิงอดเลิกคิ้วขึ้นไม่ได้ "จิ่วถานฉุนชั้นยอดของหอจุ้ยเซียง" ระหว่างสนทนา มุมปากก็ยกขึ้นยิ้ม "รองแม่ทัพจิ่งได้ลาภลอยมาหรือ?"เหล้าไหนี้ ราคาไม่ธรรมดายิ่งไปกว่านั้น จิ่งเหยียนถือมาสองขวดจิ่งเหยียนก้าวเข้ามาย้ายเก้าอี้ และนั่งลงตรงข้ามเซียวเหิง พลางยกไหเหล้าในมือตัวเองขึ้นดื่ม "ไหของข้าน้อยไม่ใช่"ของเขาเป็นแค่เหล้าขาวธรรมดาทั่วไปเท่านั้นเซียวเหิงมองไปที่จิ่งเหยียนอย่างไม่เข้าใจ และเห็นจิ่งเหยียนกล่าวด้วยสีหน้าปกติ "วันนี้ขอบคุณท่านแม่ทัพยิ่งนัก"ได้ยินเช่นนี้ เซียวเหิงกลับยิ้มเยาะ "ผู้ที่ไปกู้หน้าให้คือพี่ใหญ่ข้า แต่เจ้ากลับมาขอบคุณข้า?"ขณะว่า ก็แหงนหน้ายกเหล้าขึ้นดื่มจิ่งเหยียนแค่ดื่มไปอึกหนึ่ง ก่อนกล่าวด้วยรอ
นั่นมันต้องเจ็บขนาดไหนกัน!เนี่ยนเนี่ยนของนางต้องเจ็บขนาดไหนกัน!ฮูหยินเฒ่าแค่คิด ก็รู้สึกปวดใจแทบขาดแล้วย่าอย่างนาง ช่างไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ!นางเอาแต่อยู่ในจวนนี้ทั้งวันทั้งคืน ไยแม้แต่ข่าวเล็กน้อยก็ยังไม่ได้รับ?หากนางรู้เร็วกว่านี้ว่าหมิงอ๋องคนนั้นไม่ใช่คนดีอะไร นางคงไม่มีทางให้เนี่ยนเนี่ยนเข้าวังหรอกหากนางรู้ว่าหลินเย่ว์ไอ้สารเลวนั่นทำเรื่องร้ายแรงขนาดนี้ นางคงตีเขาให้ตายแน่!หาก...หากนางจากไปเร็วกว่านี้ เนี่ยนเนี่ยนของนางคงไม่ต้องลำบาก ต้องกล้ำกลืนความไม่เป็นธรรม! อยู่ที่จวนโหวมาตลอดขนาดนี้!เป็นนางเองที่ไร้ประโยชน์!เป็นเพราะนางแก่แล้ว ทนได้ไม่ไหวแล้ว ไม่เพียงแต่ปกป้องเนี่ยนเนี่ยนของนางไม่ได้ ยังกลายเป็นภาระของนางด้วย!พวกเขายังให้นางกินน้ำล้างจานด้วย!หลานสาวแท้ๆ ที่นางรักทะนุทะนอมมาตั้งแต่เด็ก!พวกเขากล้าให้นางกินน้ำล้างจานได้อย่างไรกัน!ฮูหยินเฒ่ายิ่งคิด ความเจ็บปวดในใจก็ยิ่งรุนแรงขึ้น จนสุดท้าย ก็ส่งเสียงร้องไห้ออกมาเสียงโหยหวนและแก่ชราที่ดังเรื่อยๆ นั้น แฝงไปด้วยความเสียใจมากมายและช่วยอะไรไม่ได้นางถึงขนาดที่ไม่รู้แล้วว่า ให้เฉียวเนี่ยนออกมาจากกรมซักล้าง
เฉียวเนี่ยนวิ่งไปด้วย เช็ดคราบเลือดตรงมุมปากไปด้วย นางจะให้ท่านย่าเห็นสภาพนางกระอักเลือดไม่ได้!เมื่อมาถึงนอกห้องฮูหยินเฒ่า ก็เห็นซูมามากับหมอประจำจวนรออยู่หน้าประตูห้องก่อนแล้วครั้นเห็นเฉียวเนี่ยน หมอประจำจวนก็คำนับเฉียวเนี่ยนรีบไถ่ถาม "เป็นอย่างไรบ้าง? ท่านย่าข้าเป็นอย่างไรบ้าง?"หมอประจำจวนถึงได้ตอบ "คุณหนูใหญ่ ร่างกายของฮูหยินเฒ่าเสียหายอย่างรุนแรง แม้ข้าน้อยจะฝังเข็มรักษาชีพจรหัวใจของฮูหยินเฒ่าไว้มั่นได้ แต่ เกรงว่าคงยืนหยัดได้ไม่เกินสิบวัน"เฉียวเนี่ยนอึ้งไป พลางส่ายหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อย "ไม่ ไม่จริง ซูมามาบอกว่า วันนี้สภาพท่านย่าไม่เลว แถมยังลุกจากเตียงได้อยู่เลยมิใช่หรือ... "เหตุใดแม้แต่สิบวันก็ทนไม่ไหวแล้วเล่า?ซูมามาปาดน้ำตาไร้สุ้มเสียงแต่หมอประจำจวนกลับถอนหายใจเล็กน้อย กล่าว "หากไม่เคยได้รับการกระตุ้น บางทีฮูหยินเฒ่าอาจทนได้สองสามเดือน เฮ้อ!"ได้ยินเช่นนี้ น้ำตาเฉียวเนี่ยนพลันไหลลงมาไม่หยุด แม้แต่ลมหายใจก็สับสนไปชั่วขณะอย่างไรเสียก็เป็นเรื่องของนางที่ทำร้ายฮูหยินเฒ่า!เมื่อครู่นางควรตวัดดาบจบหลินยวนไปเสีย!ซูมามารีบเข้ามาเช็ดน้ำตาให้นาง และกล่าวโน้
แต่ในเวลานี้เอง ร่างๆหนึ่งปรี่เข้ามาในห้อง ผลักเฉียวเนี่ยนออกและเพราะการกระแทกนี้ ทำให้ดาบยาวทิ้งรอยเลือดไว้เป็นทางยาวตรงหน้าอกหลินยวนหลินเย่ว์ตกใจหน้าถอดสี รีบอุ้มหลินยวนไปข้างนอกทันทีแต่คาดไม่ถึงว่า เฉียวเนี่ยนไล่ตามออกมาเหมือนกับคนบ้า ถือดาบยาวตวัดฟันลงบนหลังของหลินเย่ว์หลินเย่ว์หลบไม่ทัน หลังรับดาบเฉียวเนี่ยนไปเต็มๆ สองมือไร้เรี่ยวแรงทันที และล้มลงไปบนพื้นพร้อมกับหลินยวนท่านโหวหลินที่เร่งตามาเห็นภาพนี้ ก็ปรี่เข้ามาจับสองมือของเฉียวเนี่ยนไว้ทันที พลางตะคอกอย่างกราดเกรี้ยว “เจ้าบ้าไปแล้วหรือ!”หากไม่ใช่เพราะทหารองครักษ์ที่ถูกแย่งดาบไปรีบมารายงาน เกรงว่าเมื่อพวกเขามาถึง หลินยวนคงตายภายใต้ดาบของนางไปแล้วแต่ไม่คิดเลยว่า เฉียวเนี่ยนแทบจะตะโกนเดือดดาลอย่างบ้าบิ่น “ใช่ข้าบ้าไปแล้ว! หากไม่ใช่เพราะนางส่งคนไปพูดไร้สาระต่อหน้าท่านย่า ท่านย่าก็คงจะไม่เป็นไร! วันนี้ข้าจะต้องตัดลิ้นนางให้ได้ ข้าจะดูว่าต่อไปเจ้าจะเอาอะไรออกมาทำร้ายท่านย่าอีก!”ท่านโหวหลินเหมือนเพิ่งจะรู้ว่าจู่ๆ ที่ฮูหยินเฒ่าอาการกำเริบเกิดมาจากหลินยวน จึงมองไปที่หลินยวนด้วยสีหน้าตกตะลึงทันทีเห็นเพียงอีกฝ้ายหมอบอยู่
เรือนลั่วเหมย ประตูใหญ่ปิดสนิทเฉียวเนี่ยนถีบประตูเปิด ย่างสามขุมเข้าไปในเรือนลั่วเหมยคนรับใช้ สาวใช้ภายในเรือน แต่ละคนเตรียมพร้อมรออยู่ ราวกับคาดเดาได้ว่าเฉียวเนี่ยนจะมาแต่กลับคาดไม่ถึงเลยว่า เฉียวเนี่ยนจะถือดาบเข้ามาด้วย!กระนั้น แม้พวกเขาจะเคยเห็นความดุร้ายของเฉียวเนี่ยน ทว่ากลับไม่เคยเห็นเฉียวเนี่ยนฆ่าคน จึงคิดว่าเฉียวเนี่ยนแค่มาขู่ก็เท่านั้นมีคนรับใช้ใจกล้าคนหนึ่งเข้ามาพูดโน้มน้าว “คุณหนูใหญ่โปรดระงับโทสะ อย่าทำเรื่องโง่ๆ รอท่านโหวมา…อ๊าก!”ไม่รอให้คนรับใช้คนนั้นพูดจบ เฉียวเนี่ยนก็ฟัดดาบลงไป คนรับใช้คนนั้นถูกฟันเข้าที่แขนทันที เลือดแดงสดไหลลงมาดวงตาสองข้างของเฉียวเนี่ยนแดงก่ำ ตะโกนเสียงดัง “หลินยวน ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้!”จากนั้น เหลือบมองกลุ่มคนรับใช้สาวใช้ที่ยังขวางอยู่ตรงหน้าตัวเอง แล้วตะคอกเสียงเย็น “ใครกล้าขวางข้า!”เหล่าสาวใช้ที่ขี้ขลาดบางส่วนรีบวิ่งหนีเตลิดกันหมด ทว่ายังพอมีใจกล้าอยู่บ้าง ขวางอยู่ข้างหน้าเฉียวเนี่ยน “คุณหนูใหญ่ใจเย็นก่อนๆ หากฆ่าคุณหนูรองจริง ท่านโหวจะปล่อยคุณหนูไปได้อย่างไร?”เฉียวเนี่ยนจ้องคนรับใช้คนนั้นเขม็ง พลางกดเสียงต่ำ “รนหาที่ตาย!”ดาบยา
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ ซูมามาก็ห้ามเสียงสะอื้นไม่ได้แล้ว “ฮู ฮูหยินเฒ่ารู้เรื่องที่คุณหนูใหญ่จะตัดขาดท่านโหว จึงบีบเค้นถามบ่าว บ่าวไม่กล้าพูดมาก ฮูหยินเฒ่าจึงบีบให้นังพวกใจสกปรกเหล่านี้พูด…”“ฮูหยินเฒ่าไม่เพียงรู้เรื่องที่คุณหนูตัดขาดจวนโหว ยังรู้เรื่องก่อนหน้าที่คุณหนูเกือบถูกหมิงอ๋องตีตาย รู้ว่าท่านโหวน้อยรังแกคุณหนูอย่างไร ดังนั้นฮูหยินเฒ่าก็เลย ก็เลย…”พูดมาถึงตอนท้าย ซูมามาร่ำไห้จนพูดออกมาไม่ได้แล้วส่วนเฉียวเนี่ยน เดือดดาลจนสั่นเทาไปทั่วร่างนางมีสีหน้าเย็นชา ค่อยๆเดินไปทางสาวใช้พวกนั้นพวกสาวใช้แต่ละคนต่างหลุบตาต่ำก้มหน้า จิตใจกระวนกระวาย ไม่กล้าเหลือบมองเฉียวเนี่ยนได้ยินเพียงสุ้มเสียงสั่นเทาของเฉียวเนี่ยนดังออกมา และเจือไปด้วยโทสะ “ข้ากำชับหลายครั้งหลายหนแล้วว่าห้ามเปิดเผยเรื่องของข้าให้ท่านย่าฟัง พวกเจ้าไปเอาความกล้ามาจากไหนกัน ถึงกล้าเอ่ยถึงข้าในเรือนของท่านย่า!”เหล่าสาวใช้ต่างตกใจพากันร่ำไห้โขกหัว “บ่าวผิดไปแล้ว ขอคุณหนูใหญ่ยกโทษให้ด้วย!”“บ่าวรู้ความผิดแล้ว บ่าวไม่กล้าทำอีกแล้ว!”ทว่าสายตาของเฉียวเนี่ยน กลับถูกสาวใช้หนึ่งในนั้นดึงดูดไปนางขมวดคิ้ว กล่าวเสียงเย็น “เ