“นี่มึงไม่ได้ขิงพวกกูเนอะ”พีรวิชญ์ถามพลางหรี่ตามองอย่างหมั่นไส้นิดๆเมื่อเห็นความคลั่งรักในตัวเพื่อน “กูแค่อยากแชร์อย่าคิดมาก เดี๋ยวมึงเจอคนที่พอดีกับตัวเองมึงจะเข้าใจเลย”“อือ กูก็รอคนนั้นอยู่เหมือนกันแหละ”“กูไปอ้วกได้มั้ย อยู่ดีๆจะทำตัวเลี่ยนกันเพื่อ”เป็นอัคคีที่ตัดบทขึ้นมาอย่างทนฟังบทสนทนานี้ไ
“คุณแม่จะไปไหนนะครับ”วิกรถามด้วยความตกใจเมื่อคนเป็นแม่โทรมาบอกว่าจะไปต่างจังหวัดสักพัก แต่ต่างจังหวัดที่ว่าคือบ้านของนีรนาราทำเอาตกใจจนต้องถามย้ำอีกครั้ง“ตกใจอะไรขนาดนั้นล่ะคะลูก แม่จะไปบ้านหนูนีนค่ะ”“ไม่ได้นะครับ ผมบอกแล้วไงว่าเค้ายังไม่ยอมรับที่ผมกับนีนคบกัน”วิกรรีบห้ามไว้ทันทีเมื่อแม่ตอบชัดเจ
นีรนาราเริ่มเอะใจ แต่ลักษณะที่ว่าไม่เห็นเหมือนแม่ของวิกรสักนิดเลย“มีคนมาดูแลอยู่นะ แต่ก็ไม่เห็นจะคุยอะไรนอกจากคอยนั่งเฝ้าห่างๆ”“เค้าอายุเยอะเหรอคะถึงต้องมีคนดูแล”“แม่ว่าก็น่าจะประมาณแม่นะ ถ้าเดาไม่ผิดก็น่าจะป่วยด้วยกลัวเค้าจะคิดสั้นขึ้นมาละแย่เลยนะ”“คงไม่ขนาดนั้นมั้งคะแม่”“แม่ก็ภาวนาให้ไม่เป็นอ
“ก็คุณแม่พี่กรน่ะสิ”“ทำไมวะ”“จำที่เราเล่าว่ามีคนแปลกๆไปพักที่รีสอร์ตได้มั้ย นั่นแหละคือคุณแม่พี่กร”นีรนาราเฉลยออกมาเพราะหลังจากที่วางสายจากพ่อเธอก็รีบโทรไปหาแม่ทันที อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นพ่อเธอถึงได้พูดแบบนั้นทั้งที่คัดค้านมาตลอด“เอ้า ยังไงนะ”“ตอนแรกก็งงเหมือนกันแหละ แต่พอแม่เราเล่าถึงได้เข้าใ
“นักธุรกิจที่มีบริษัทใหญ่โตอย่างคุณคงมองว่าที่นี่เล็กไปเลยสินะ”ประดิพัทธ์ถามพลางขำออกมาเบาๆ ในน้ำเสียงไร้ความประชดเพียงแต่พูดตามความเป็นจริงเพราะรู้ดีว่าวิกรนั้นบริหารธุรกิจที่ใหญ่มากขนาดไหน หากเป็นก่อนหน้าจะได้รู้จักกันคงมีแต่อคติเท่านั้น แต่พอได้ฟังเรื่องราวหลายๆอย่างจากวิภาดาคนเป็นแม่มาแล้ว จากท
“ผมเข้าใจครับ ผมจะดูแลนีนให้ดีที่สุดไม่ต้องห่วงนะครับ”“อืม เข้าบ้านกันเถอะป่านนี้นีนมันห่วงแย่แล้วมั้ง”เมื่อหมดเรื่องจะคุยต่อประดิพัทธ์ก็ชวนวิกรกลับเข้าไปในบ้านเพราะเห็นว่าใกล้จะมืดเต็มทีแล้ว “ครับ คุณพ่อ”วิกรพยักหน้ารับคำก่อนจะเดินตามเข้าไป ในใจที่เคยหนักอึ้งก่อนหน้ากลับถูกพัดหายไปกับสายลมยามเย
“ครับผม แล้วเจอกันครับ”—-------------------“ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก กูตั้งตัวไม่ทันแล้วเพื่อน มึงไปเจอวันเดียวได้ฤกษ์แต่งงานกลับมาเลยเหรอวะสุดยอด”พีรวิชญ์พูดออกมาด้วยสีหน้าที่ตื่นเต้นเมื่อวิกรนัดเจอกันคืนนี้เพื่อบอกข่าวดีกับเพื่อนๆ“ก็วางแผนจะแต่งกันมานานแล้วไง ติดแค่คุยกับทางบ้านนีนเฉยๆหรอก”“ให
ช่วงเวลายามดึกบนยอดดอยในช่วงเดือนธันวาคมนั้นอากาศค่อนข้างเย็นพอสมควร ยิ่งมีสายลมที่พัดผ่านไปเป็นระยะๆก็ยิ่งสร้างความหนาวให้กับนักท่องเที่ยวที่มาสัมผัสอากาศแบบนี้ไม่น้อย ไม่ต่างจากนีรนารากับวิกรที่พากันมาชมดาวบนดอยแห่งนี้ด้วยเช่นกัน เพราะตกลงกันว่าจะมาก่อนกำหนดแต่งงานเพื่อพากันมาดูดาวที่นี่ แต่ช่วงน
“เลิกเล่นแล้วไปอาบน้ำได้แล้วค่ะ จะได้มาทานข้าวเย็นกัน”“โอเคครับ”—-------------------------------“ไหน ลูกชายพ่อทำไมยังไม่หลับอีกครับเนี่ย”วิกรที่เพิ่งเข้ามาในห้องนอนชะโงกดูลูกชายที่นอนอยู่ในเปลข้างๆเตียง นีรนาราที่นั่งกล่อมลูกอยู่หันมายิ้มก่อนจะบอกให้สามีรีบนอน“วันนี้ตาใสมากเลยค่ะ พี่กรนอนก่อนได
วิกรอธิบายเพิ่ม เพราะคนอื่นๆที่ไม่รู้จักเค้ามักจะเข้าใจผิดกันตลอดว่าที่บ้านจะต้องเข้มงวดและบังคับให้สืบทอดธุรกิจแน่ๆ แต่ที่จริงทั้งพ่อและแม่ไม่เคยมีใครมากำหนดชีวิตลูกๆเลยสักคน แค่ทำสิ่งที่ชอบก็พร้อมสนับสนุนทุกอย่างอยู่แล้ว ถือว่าเป็นโชคดีก็ได้ที่ได้ต้นทุนชีวิตที่ดีพร้อมแบบนี้ การได้ทำทุกอย่างจนรู้ว
“ไม่ไปยุโรปกันแน่นะคะลูก”วิภาดาถามย้ำอีกครั้งแม้ลูกจะยืนยันว่าจะเปลี่ยนที่เที่ยวก็ตาม วันครบรอบแต่งงานที่เคยวางแผนกันไว้ว่าจะไปแถวๆยุโรปกลายเป็นต้องเปลี่ยนแผนใหม่เพราะว่านีรนาราท้องขึ้นมาซะก่อน “ไม่ไปครับ ผมกลัวนีนจะลำบากถ้าเดินทางไกลมากเราเลยตกลงจะไปแค่ที่ภูเก็ตครับ”“นั่นสิเนอะกำลังท้องอยู่ด้วย
“รวมผมด้วยเหรอครับ”วิกรที่ได้ยินว่าตัวแสบรีบหันไปถามแม่อย่างไม่เชื่อว่าตัวเองจะถูกเหมารวมกับน้องๆด้วย“เราตอนเด็กก็ใช่ย่อยที่ไหนล่ะตากร ให้แม่แฉเลยดีมั้ยคะ”“อย่าเลยครับ วันนี้คุณแม่คงเหนื่อยรีบพักผ่อนนะครับ”วิกรยิ้มเอาใจก่อนจะรีบห้ามไม่ให้แม่แฉความดื้อต่อหน้าภรรยาสุดที่รัก วิภาดามองค้อนก่อนจะยอมไ
“มีแต่ของโปรดทั้งนั้นเลย ขอบคุณทุกคนที่ช่วยเตรียมให้นะครับ”วิกรบอกก่อนจะนั่งลงใกล้ๆกับนีรนารา เพราะมีกันอยู่สามคนเลยทำให้อาหารวันนี้เยอะเป็นพิเศษจนเจ้าของวันเกิดตาเป็นประกายและยิ้มไม่หุบกับความใส่ใจของทั้งแม่และภรรยาตัวเอง“เดี๋ยวมีพิเศษกว่านี้อีกค่ะลูก ยังไม่ต้องรีบดีใจไป”“โห คุณแม่ทำผมตื่นเต้นนะ
“ไม่ไปโรงพยาบาลแน่นะครับ”วิกรถามด้วยความเป็นห่วงเพราะหลายวันมานี้นีรนารามีอาการป่วยบ่อยๆจนวันนี้ถึงกับลุกไปทำงานไม่ไหว แต่เจ้าตัวก็ยังยืนยันว่าจะไม่ไปโรงพยาบาลอยู่ดี“ไม่ต้องหรอกค่ะ แค่เวียนหัวนิดหน่อยนอนพักไม่นานก็หาย”“ตามใจครับ แต่ว่าถ้าไม่โอเครีบโทรหาพี่เลยนะครับรู้มั้ย”“รู้แล้วค่า พี่กรไม่ต้อ
“ค่ะ”นีรนารารับคำพลางมองตามหลังคนพี่ไปด้วยความอ่อนใจ มาไม้นี้มีหรือจะเดาไม่ออกว่าคืนนี้สามีต้องการอะไร การดื่มมันก็แค่ข้ออ้างเท่านั้นแหละเธอรู้ดี“ดื่มได้มั้ยครับ”วิกรถามเมื่อนีรนาราจิบไวน์ที่เอามาให้ไปแล้ว“ได้ค่ะ แต่ว่าเหมือนมันจะแรงไปหน่อย”นีรนาราตอบพลางมองขวดไวน์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนอย่างสนใจ“
“หนาวมั้ยครับ”วิกรหันมาถามภรรยาที่เดินข้างๆด้วยความเป็นห่วง ช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ญี่ปุ่นนั้นอากาศหนาวมากๆ มือหนาเอื้อมไปกระชับผ้าพันคอให้นีรนาราอีกครั้งแล้วจับมือเล็กมากุมไว้เหมือนเดิม“นิดหน่อยค่ะ พี่กรล่ะคะ”“เหมือนกันครับ แต่ว่าอากาศดีมากเลยไม่ได้เดินสูดอากาศแบบนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ”วิกรบอกพลางยิ้
“งั้นก็ได้ครับ แต่ว่าต้องดูแลตัวเองดีๆนะครับที่นั่นอากาศหนาวแถมยังฝนตกบ่อยมาก คุณแม่ไม่สบายง่ายด้วย”“แหม่ คุณพี่ชายครับผมกับยัยกชก็อยู่ด้วยจะห่วงอะไรครับพี่ อยู่นี่รีบมีหลานตัวน้อยให้พวกเราไวๆก็พอครับ”วิศวะมองค้อนพี่ชายที่ทำเหมือนว่าแม่จะไม่มีใครดูแลทั้งที่มีพวกเค้าอยู่ด้วยตั้งสองคน แต่ท้ายประโยคด