แชร์

บทที่ 19 หลุดปาก

ผู้เขียน: เทียนเหอ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-20 15:00:15

เสวียนซือชิงขยับผ้าปักลายดอกฝูหรง[1]ในมือออกห่างจากตัว เก็บเข็มและด้ายเข้ากล่องเล็ก ๆ อย่างเป็นระเบียบ ระหว่างรอคำตอบจากบุรุษที่นางรัก คุณชายเฉินหยางเกาหางคิ้วของตัวเองเบา ๆ นิ่วหน้าอยู่ครู่หนึ่งก็พลันถอนหายใจออกมาแรง ๆ

“หากเจ้าไม่เตือน พี่คงตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากแล้ว”

“เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้นล่ะเจ้าคะ”

“วันคล้ายวันเกิดของพี่คือเดือนหน้าวันที่ยี่สิบเก้า หาใช่เดือนนี้แต่อย่างใดไม่ ส่วนตวนอ๋องเฉินฟาหยาง… ยอดรัก ต่อให้มิอยากอยู่ห่างจากเจ้า แต่งานฉลองของเขา พี่จำต้องเข้าร่วมดูแล ให้คำปรึกษายามสนทนากับแขกในงาน”

“ท่านพี่ต้องเดินทางเข้าเมืองหลวงหรือเจ้าคะ”

“ถูกต้องแล้ว แต่คราวนี้พี่สัญญาว่าจะรีบกลับมา มิให้ผู้ใดหรือสิ่งใด รั้งตัวของพี่ให้อยู่ห่างจากเจ้าอีก”

ตวนอ๋องเฉินฟาหยางอึดอัดยิ่งนัก กระทั่งตนเองเป็นใครก็มิกล้าบอกนาง เรื่องธรรมดาเช่นวันคล้ายวันเกิดก็ยังบอกมิได้ ทราบดีว่าหากเปิดเผยความจริงออกไป เสวียนซือชิงจะไม่มีวันเหมือนเดิม

“คงเป็นหนึ่งเดือนที่เนิ่นนานอย่างมาก ท่านพี่ดูแลตัวเองให้ดีนะเจ้าคะ”

“ไม่ไปถึงเดือนแล้ว คราวนั้นมีราชกิจ… ของตวนอ๋องให้พี่ต้องช่วยให้คำปรึกษา ครั้งนี้คงไม่มีเรื่องใดถ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • พระชายาตำหนักร้างรัก   บทที่ 20 เรื่องน่ายินดี

    คล้ายกับโชคชะตาต้องการเล่นตลกกับเสวียนซือชิง หลังได้ยินคำว่ารักที่นางรอคอยมานานแสนนาน แต่วันต่อมากลับต้องลาจากกันไกล มิได้นอนกอดก่ายข้ามวันข้ามคืนดั่งเช่นที่เคยจินตนาการเอาไว้เลยสักนิดคุณชายเฉินหยางเองพอได้เอ่ยคำว่ารักแล้วก็พร่ำคำนั้นซ้ำ ๆ ตลอดคืน จวบจนกระทั่งฟ้าสางก็ยังมิยอมหยุดปาก เขาไม่ดื้อดึงเอาแต่ใจ ร่วมรักกับนางอย่างอ่อนโยนเพียงแค่ครั้งเดียวก็บอกว่าอิ่มแล้ว ทั้งยังออดอ้อนด้วยคำหวาน บอกว่าจะรีบกลับมาจัดการทุกอย่างให้ถูกต้องตามประเพณีเสวียนซือชิงเดาว่าเขาคงจะนำหนังสือหย่ามาให้หลังจากให้คำมั่นว่าจะไม่มองสตรีใด พร้อมทั้งกำชับสองสาวใช้ให้ดูแลคุณหนูเสวียนให้ดี คุณชายเฉินหยางจึงออกจากบ้าน แต่กว่าจะชักม้าที่พ่อบ้านของสกุลหลี่จูงมาให้ออกเดินทาง เวลาก็ล่วงเลยผ่านไปเกือบหนึ่งเค่อแล้วเสวียนซือชิงเห็นว่าเขารักใคร่จนมิอยากจากไปถึงเพียงนี้ หัวใจนางยิ่งพองโตคับแน่น แม้ต้องแอบเช็ดน้ำตาหลังม้าตัวใหญ่ลับสายตา ทว่านางก็ยังมีความสุขอย่างมากอยู่ดียามกลางวันเสวียนซือชิงใช้ชีวิตเป็นปกติ ยิ้มแย้มแจ่มใส ยามกลางคืนแม้ปวดใจไปบ้าง แต่พอถึงนึกคำว่ารักที่คุณชายเฉินหยางพร่ำบอกก่อนจาก นางจึงยังพอข่มความเศร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-20
  • พระชายาตำหนักร้างรัก   บทที่ 21 พิษร้าย พิษรัก

    หลังจากพลั้งปากเผลอบอกรักสาวงามไป ตวนอ๋องเฉินฟาหยางก็ทราบแล้วว่าถึงเวลาที่ตนควรต้องเสี่ยง หากนางโกรธก็จะถูบ้านทำความสะอาดจนกว่านางจะพอใจ ยามว่างจึงได้ไปแอบดูเหล่าสาวใช้ทำงาน เผื่อว่าจะได้ความรู้อันใดติดมือติดสมองกลับไปบ้างหากนางเกลียด…เขาก็พร้อมที่จะทำความดีไถ่โทษอย่างไม่ย่อท้อ ขอเพียงแค่ได้ยืนอยู่ข้าง ๆ หากเสวียนซือชิงอยากตี เขาก็จะยอมให้ตี หากเสวียนซือชิงอยากตบ เขาก็จะเอียงแก้มให้ลงมือตามสบาย และจะทำเช่นนั้นต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่านางจะยอมให้อภัย แต่จะทำเช่นนั้นได้ย่อมต้องมีคนรับผิดชอบงานเสียก่อนองค์ฮ่องเต้มิได้ว่าอะไรยามเขาส่งฎีกาขอถวายคืนกองทหารส่วนหนึ่งเพื่อให้พระองค์จัดสรรตามพระทัย ส่วนงานราชกิจที่ต้องรับผิดชอบ เขาก็ตั้งใจว่าจะฝากให้องค์ชายสามเหวินอวิ๋นฝูช่วยดูแล“เสด็จอาให้ข้าตัดสินใจเองเช่นนี้ มั่นใจดีแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ” เหวินอวิ๋นฝูถูกเรียกเข้ามาเรียนรู้งานติดต่อหลายวัน นึกประหลาดใจที่เสด็จอาบอกว่าต้องการวางมือชั่วคราว หากเขาทำได้ดีก็มิแน่ว่าจะยกทุกอย่างในเมืองหลวงให้เสด็จอาทำราวกับว่ามิใช่ตวนอ๋องผู้หวงของคนเดิม“ย่อมต้องมั่นใจ แต่หากเจ้ามีเรื่องที่ตัดสินใจเองไม่ได้ ก็ให้ส่งจด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-20
  • พระชายาตำหนักร้างรัก   บทที่ 22 อิทธิพลต่อหัวใจ

    เสียงตะโกนทักทายกันของคนในเมืองหลวง ปลุกเสวียนซือชิงให้ตื่นขึ้นมาได้ในที่สุด อาการของนางดูไม่ดีเพราะเร่งเดินทางแทบมิได้หยุดพัก บางคืนถึงขั้นต้องนอนในรถม้า มิได้แวะนอนโรงเตี๊ยมระหว่างทางเสียด้วยซ้ำไปทีแรกหลี่จินหมิงก็ไม่ยอมทำตามคำขอเพราะกลัวว่าการนั่งรถม้านาน ๆ จะเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ ทว่าพอทราบจากสาวใช้ว่าคุณหนูเสวียนพักที่โรงเตี๊ยมแล้วนอนไม่หลับ เขาจึงจัดการตกแต่งรถม้าเสียใหม่ให้สะดวกสบายคล้ายมีเตียงนอนอยู่ในนั้น กระทั่งอาหารและยาบำรุงครรภ์ก็มีพร้อม เรียกได้ว่าเป็นโรงเตี๊ยมเคลื่อนที่ได้ก็ไม่ผิดนัก“พักโรงเตี๊ยมอีกคืนเดียว พรุ่งนี้เจ้าก็จะได้พบกับตวนอ๋องแล้ว แต่จำไว้ว่าจงตั้งสติให้มั่น อย่าเครียดให้มากจนเกินไป มิเช่นนั้นทารกในครรภ์อาจเป็นอันตรายได้”“ท่านเตือนข้าเป็นรอบที่ร้อยแล้วกระมัง ท่านพี่หลี่”เสวียนซือชิงยิ้มหวาน ทว่าใบหน้ายังคงซีดขาว ร่างกายบอบบางไร้เรี่ยวแรง มิกล้าบอกใครว่าอาการของตนไม่ค่อยดีนักเมื่อครั้งแวะทำธุระหลายชั่วยามก่อน สังเกตเห็นว่ามีเลือดออกจากตรงนั้น แม้ปริมาณไม่มาก แต่ก็ทำให้นางกังวลจนแทบคลั่งแล้ว“ย่อมต้องเตือนให้บ่อยเพราะน้องสาวของข้าดื้อรั้นยิ่งนัก ทั้งเร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-20
  • พระชายาตำหนักร้างรัก   บทที่ 23 อนุคนโปรด

    อ้อมกอดคุ้นเคยยังอบอุ่นอย่างที่จำได้ เสวียนซือชิงปล่อยให้คุณชายกอดจูบจนกลีบปากฉ่ำบวมเจ่อ พอฝ่ามืออุ่นร้อนเลื่อนสัมผัสทรวงอกนุ่มหยุ่น นางกลับขัดขืนอย่างนุ่มนวล แม้กลัวว่าบุรุษที่นางรักจะไม่พอใจ แต่ในเมื่อร่างกายของนางยังไม่ปกติ การปัดป้องจึงเป็นเพียงทางออกเดียวที่สามารถทำได้“ชิงชิงไม่คิดถึงพี่หรือ”เฉินฟาหยางตัดพ้ออย่างน่าสงสาร เขามิทราบว่านางมีอาการคัดเต้านม จนทนรับสัมผัสเร่าร้อนไม่ไหว จึงได้พยายามเอาแต่ใจอย่างต่อเนื่อง“ซือชิงเร่งเดินทางแทบไม่ได้พัก ใช้ชีวิตอยู่บนรถม้า ทั้งภายนอกอากาศหนาวเหน็บ ซือชิงจึงรู้สึกไม่สบายตัวเจ้าค่ะ”“เช่นนั้นพี่จะนอนกอดเจ้าจนกว่าตัวจะอุ่น แล้วนี่กินอะไรมาหรือยัง อยากดื่มสุราเพื่อคลายหนาวหรือไม่” เฉินฟาหยางกล่าวอย่างเอาใจ ทราบดีว่าหากนางไม่รู้สึกแย่อย่างมาก คงไม่มีวันบอกว่าตนเองรู้สึกไม่สบายแน่เสวียนซือชิงมิชอบทำตัวให้ผู้ใดเป็นห่วง“ไม่ดีกว่าเจ้าค่ะ ง่วงนอนแล้ว”เสวียนซือชิงส่ายหน้า สุรานับได้ว่าเป็นของต้องห้ามสำหรับสตรีตั้งครรภ์อ่อน ๆ ยิ่งหลายวันมานี้นางไม่แข็งแรง ยิ่งควรต้องระวังให้มาก“ชิงชิง แม้เจ้าดูอวบขึ้นเล็กน้อย แต่ดูไร้เรี่ยวแรงอย่างมาก เอาไว้ฟ้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-20
  • พระชายาตำหนักร้างรัก   บทที่ 24 ผิดหวังอย่างมาก

    องค์ชายเหวินอวิ๋นฝูมองสตรีในอ้อมแขนของบุตรชายเสนาบดีหลี่อย่างกระวนกระวายใจ แม้จะเจอหน้ากันไม่กี่ครั้ง และครั้งล่าสุดก็ผ่านมานานมากกว่าสามปีแล้ว แต่ก็ยังจำได้ดีว่านางคือบุตรสาวรองแม่ทัพเสวียนซือเหยา หนึ่งในที่ปรึกษาที่เขาเคารพนับถืออย่างมาก“หากเสด็จอาทราบเรื่องว่าพวกเจ้ารุมทำร้ายพระชายา เขาจะต้องสับพวกเจ้าเป็นชิ้น ๆ แน่”“พระชายา! นางคือพระชายาตำหนักร้างหรือเพคะ!” เหอเพ่ยเจินอุทานออกมาอย่างตื่นตกใจ นึกไม่ถึงว่าสตรีที่นางตบจนสุดกำลัง คือพระชายาเสวียน!ก่อนหน้านี้แม้พระชายาไม่เป็นที่โปรดปราน แต่พักหลังมานี้ท่านอ๋องกล่าวชื่นชมนางไม่หยุดปาก อวดอ้างว่าปักผ้าได้เก่งอย่างมาก ทั้งยังเอ่ยวาจาอ่อนหวานเอาใจ นั่นมิใช่ว่าอนุภรรยาเช่นนางกำลังตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายถึงแก่ชีวิตมิใช่หรือ“พระชายาแต่งตัวธรรมดา มองแล้วคิดว่าเป็นสาวใช้ ข้าจึงล่วงเกินไปโดยมิได้เจตนาเจ้าค่ะ”“ยังปากสุนัขไม่เลิก!”หลี่จินหมิงไม่ห่วงเรื่องมารยาทหรือความเหมาะสม เขาอุ้มเสวียนซือชิงและรีบเดินตามพ่อบ้านชราที่เพิ่งมาถึงกลับเรือนเล็กท้ายจวน มิสนใจสตรีใจร้ายผู้รั้งตำแหน่งอนุภรรยาของตวนอ๋องอีก“จินหมิง ให้ข้าตามหมอหลวงดีหรือไม่”“ไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-20
  • พระชายาตำหนักร้างรัก   บทที่ 25 ต้องการหย่าขาด

    ตวนอ๋องเฉินฟาหยางโกรธจนสั่นสะท้านทั่วร่าง แม้ในใจคิดอยากสอบถามให้รู้เรื่องว่าเหตุใดนางจึงให้ความสนิทสนมกับบุรุษอื่น ทั้ง ๆ ที่ช่วงเวลาอยู่ห่างกันก็มิได้นาน หรือว่าสาวงามมีใจให้คุณชายหลี่ตั้งแต่แรกเริ่ม เขาคาดเดาเรื่องราวไม่ได้จริง ๆหากบุกเข้าเจรจาทันทีที่เห็นทั้งสองร่ำลากันหวานซึ้ง เฉินฟาหยางก็เกรงว่าตนจะเผลอทำเรื่องร้ายกาจจนเกินไป อย่างไรตอนนี้เสวียนซือชิงก็ยังไม่แข็งแรง ต้องเอาใจใส่ดูแลให้มากเขาไม่รู้ว่านางป่วยด้วยสาเหตุอะไร แต่ดูเหมือนอาการเจ็บไข้จะดีขึ้นมากกว่ายามที่นางอยู่กับเขาหรือว่าเป็นเพราะหลี่จินหมิง ?ทีแรกเฉินฟาหยางก็มิแน่ใจในภาพที่เห็นนัก เพราะมองจากหน้าต่างในห้องเก็บตำรา เขาเห็นบุรุษผู้หนึ่งตระกองกอดสตรีอยู่ไกล ๆ ความจริงแม้ไกลเพียงใด เขาก็มั่นใจว่าสตรีนางนั้นคือยอดรักเสวียนซือชิง แต่ในเมื่อเรือนร่างบอบบางนั้นชิดใกล้กับบุรุษอื่นอยู่ ตวนอ๋องคลั่งรักจึงมิอยากเชื่อว่าเป็นนางหลังจากจัดการธุระแล้วเสร็จ ส่งเสนาบดีกลาโหมกลับจวน เขาก็รีบเดินกึ่งวิ่งไปยังเรือนเล็กท้ายจวน ไม่เข้าใจนักยามเห็นองค์ชายสามเหวินอวิ๋นฝูที่ควรกลับไปนานแล้ว เดินสวนออกไปพร้อมกับชายชราที่เขาคุ้นหน้าอยู่บ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-20
  • พระชายาตำหนักร้างรัก   บทที่ 26 ความจริงปรากฏ

    รอยยิ้มหวานล้ำบนใบหน้างามของเสวียนซือชิงเลือนหาย นางขมวดคิ้วอย่างมิเข้าใจอยู่ครู่หนึ่งก็เริ่มตระหนักอะไรได้บางอย่าง แต่กระนั้นหัวใจก็ยังพร่ำบอกซ้ำ ๆ ว่าตนแค่คิดมากไปนางบอกกับตัวเองว่านอนมากไป เรื่องตรงหน้าจึงมิใช่ความจริง“ว่าอย่างไรเล่า ชิงชิงยอดรัก”หากเขากล่าวเรียกเช่นนี้แล้ว เรื่องที่นางหวาดกลัวย่อมต้องเป็นความจริง ท่านพี่คือตวนอ๋องเฉินฟาหยาง พระสวามีใจร้ายที่ทอดทิ้งนางให้อยู่ตำหนักร้างนานสามปี มิสมกับตำแหน่งพระชายาเลยแม้แต่น้อย“ท่านพี่…”เสวียนซือชิงมิรู้ว่าควรทำอย่างไรต่อ ทั้งยังประมวลความคิดมิได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นแน่ รู้แค่เพียงอย่างเดียวว่านางถูกหลอกให้เข้าใจผิดอย่างร้ายกาจโดยบุรุษที่นางรักหมดทั้งหัวใจพระสวามีที่ไม่เคยเห็นหน้าคือคุณชายเฉินหยาง บุรุษที่นางรักหมดหัวใจ ทั้งสองคือคนคนเดียวกัน แต่เพราะเหตุใดเล่า เหตุใดจึงต้องปิดบัง เหตุใดจึงต้องหลอกลวงนาง“ไม่อยากพูดก็ไม่ต้องพูด ถึงอย่างไรเจ้าก็พูดมากจนข้าปวดหัว น่ารำคาญใจเป็นที่สุด เสวียนซือชิง ทีแรกข้าถอดใจไปแล้ว เพราะคิดว่าเจ้าคงไม่ยอมหย่า นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะดั้นด้นเดินทางมาหา อำนวยความสะดวกให้พระสวามีเช่นข้าถึงเพียงนี้ เห็นที

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-20
  • พระชายาตำหนักร้างรัก   บทที่ 27 รองแม่ทัพเสวียน

    แม้มิอยากจากก็จำจะต้องจาก เฉินฟาหยางย้ำหลายคำว่ายังสนทนากันไม่จบ ห้ามมิให้นางหนีไปไหน ทั้งยังสั่งพ่อบ้านชราเฝ้านางไว้ให้ดี และหลังจากเร่งขี่ม้าเกือบสามชั่วยาม ฝ่าสายลมอันหนาวเหน็บ ทรมานผิวกายจนแทบไร้ความรู้สึก จนกระทั่งดวงอาทิตย์ปรากฏอยู่บนท้องฟ้าได้พักใหญ่ เขาจึงเดินทางมาถึงค่ายทหารนอกเมือง“พบโครงกระดูกแล้วหรือ มั่นใจหรือไม่ว่าเป็นเขา”ตวนอ๋องเฉินฟาหยางผู้ครองตำแหน่งแม่ทัพเลื่องชื่อรีบเร่งสอบถามหลังส่งซวี่หยาม้าตัวโปรดให้กับทหารคนสนิท เขาก้าวยาว ๆ เข้าไปในกระโจมโดยมิรอองค์ชายสามและบุตรชายคนเล็กของเสนาบดีหลี่ที่เดินตามมาติด ๆ ในใจรู้สึกทั้งเสียใจและโล่งใจ แม้ทราบดีว่าองค์ชายรองคงมิรอดแล้ว แต่เมื่อได้เห็นกระดูกจริง ๆ ก็คงอดสะท้อนใจมิได้‘อา เสด็จพี่คงรู้สึกแย่กว่าข้ามาก’ชั่วขณะนั้นเองที่เฉินฟาหยางเข้าใจได้ว่าเหตุใดองค์ฮ่องเต้จึงได้พิโรธนักหากเขาต้องสูญเสียเสวียนซือชิงโดยไม่มีทางหวนกลับคืนมา ความรู้สึกคงย่ำแย่ไม่ต่างกัน นี่ไม่ใช่ว่านางสอนให้เขารู้จักคำว่ารักและห่วงใย จนถึงขั้นเผื่อแผ่มันให้กับผู้อื่นด้วยหรือนี่“เสด็จอา!”เสียงคุ้นหูที่มิได้ยินนานหลายปีดังขึ้น พร้อมกับเจ้าของรูปร่างผอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-20

บทล่าสุด

  • พระชายาตำหนักร้างรัก   บทที่ 41 เรื่องงานรุมเร้า

    ตวนอ๋องเลื่องชื่อทำอย่างที่กล่าวเอาไว้จริง ๆ เขาไม่ล่วงเกินหรือฉวยโอกาสเพราะต้องการให้พระชายาพักผ่อนอย่างเพียงพอ นอกจากจะไม่ทำให้นางลำบากใจแล้ว หลายวันที่ผ่านมายังช่วยดูแลเจ้าก้อนแป้งตั้งแต่ตื่นเช้าจนกระทั่งถึงเวลาเข้านอน ตกค่ำก็แวะเข้าไปบีบนวด ก่อนกลับไปพักผ่อนในห้องของตนตามลำพังนอกจากทาบจูบลงบนแผ่นหลังบางเบาก่อนจาก ตวนอ๋องเฉินฟาหยางก็มิได้ทำอันใดที่มากไปกว่านั้นอีก“วันนี้อาการดีขึ้นบ้างหรือไม่”“ไม่ปวดแล้วเจ้าค่ะ”เฉินฟาหยางดูแลนางอย่างดี มิให้หยิบจับอันใดเลยแม้แต่น้อย ทั้งยังหมั่นนวดให้ทุกคืน อาการปวดจึงทุเลาลงอย่างรวดเร็ว“เจ้าจะปักผ้าเลยหรือ” เขาถามเมื่อเห็นสองสาวใช้นำผ้าที่ปักลายค้างอยู่มาวางไว้ในศาลาหลังเล็กในสวน“เจ้าค่ะ กำหนดส่งงานพรุ่งนี้แล้ว”“เช่นนั้นคืนนี้พี่จะเข้าไปนวดให้อีก อาการจะได้ไม่กำเริบ ส่วนหนิงเอ๋อร์ เจ้าอย่าเพิ่งอุ้มนางเลย”เสวียนซือชิงหุบยิ้มเมื่อเห็นเจ้าก้อนแป้งที่กำลังวิ่งเข้ามากอดนาง ถูกแขนแข็งแกร่งของบุรุษคว้าเอาเสียก่อน นางมองเขาหอมแก้มของร่างนุ่มนิ่มอย่างทะนุถนอมรักใคร่ ได้ยินเสียงกระซิบบอกว่าท่านแม่ยังมิหายดี ช่วงนี้จึงยังมิควรรบกวนให้มากจนเกินไปนัก“

  • พระชายาตำหนักร้างรัก   บทที่ 40 ไม่อนุญาตให้เถียง

    หลายปีที่ผ่านมาชื่อเสียงเรื่องความหยิ่งยโสและโมโหร้ายของตวนอ๋องเฉินฟาหยางลบเลือนลงไปบ้าง ทว่าวันนี้โทสะรุนแรงของเขากลับคุกรุ่นขึ้นมาอีกครั้ง เนื่องจากพระชายาคนงามถูกสตรีใจหยาบเอ่ยวาจาล่วงเกินอย่างมิน่าให้อภัยที่สุด“เมื่อครู่นี้เจ้าเรียกชายาข้าว่าอย่างไร!”“หม่อมฉันผิดไปแล้วเพคะ ท่านอ๋อง…”“ตอบมิตรงคำถาม!” เฉินฟาหยางตะโกนเสียงดังลั่น เมื่อครู่เขาได้ยินครบถ้วนทุกคำจึงเคียดแค้นแทบคลั่ง แล้วเสวียนซือชิงยอดรักของเขาเล่า นางจะปวดใจมากมายเพียงใด“ท่านอย่าเสียงดังรบกวนผู้อื่น รีบซื้อด้ายปักผ้าแล้วรีบกลับเถิดเจ้าค่ะ”เสวียนซือชิงร้องห้าม คนจำนวนมากเริ่มเข้ามามุงดูเพราะเสียงวิวาท ส่วนคนที่เห็นเหตุการณ์แต่แรกก็กระซิบว่าบุรุษรูปงามคือตวนอ๋องเฉินฟาหยาง ส่วนสาวงามที่ยืนข้าง ๆ คือพระชายาเสวียนอย่างมิต้องสงสัยแล้วความจริงถูกเปิดเผยเช่นนี้ ชีวิตของเสวียนซือชิงคงไม่มีวันสงบได้แน่“นางลบหลู่เจ้าถึงเพียงนี้แล้ว ไยยังคิดปล่อยผ่าน”เมื่อตวนอ๋องกล่าวเช่นนั้น นางจึงขยับไปยืนอยู่ข้าง ๆ ก่อนกระซิบด้วยประโยคที่ทำให้เขารู้สึกแย่เสียยิ่งกว่าเดิม“ทุกอย่างล้วนเป็นเพราะท่าน… หากท่านปฏิบัติต่อข้าให้สมกับที่เป็นพระ

  • พระชายาตำหนักร้างรัก   บทที่ 39 พระชายาของตวนอ๋อง

    เกือบเดือนแล้วที่เสวียนซือชิงพาเจ้าก้อนแป้งย้ายเข้ามาพำนักในตำหนักเยว่ฉี ต่อหน้าลูกนางยิ้มหวานให้เขาอยู่เสมอ แต่หากถึงยามนอนกลางวันของเสวียนหนิงอัน นางก็จะกลับไปนั่งเงียบ ๆ อยู่ในสวนดังเดิม“พี่ช่วย…”เฉินฟาหยางยังไม่ยอมแพ้ ในเมื่อนางให้โอกาสให้เขาได้ทำหน้าที่บิดา หน้าที่ของสามีก็คงยังพอมีความหวังอยู่บ้างมิใช่หรือเขาหยิบด้ายออกมาจากตะกร้า สนเข็มอย่างชำนาญ ซึ่งกว่าจะทำเช่นนี้ได้ก็ต้องฝึกฝนอยู่หลายคืน ถูกเข็มตำนิ้วอีกนับครั้งไม่ถ้วน“ชิงชิง ด้ายปักผ้าสีแดงหมดเสียแล้ว เจ้าต้องการให้พี่ไปซื้อมาให้ใหม่หรือไม่” เสวียนซือชิงมิได้ออกนอกบ้านนานกว่าสามปีเพราะต้องซ่อนตัวให้พ้นจากตวนอ๋อง บัดนี้ความจริงเปิดเผยแล้ว จึงสามารถไปเดินดูของในตลาดได้ โดยมิต้องรบกวนสองสาวใช้อีก ทว่านางก็มิเคยออกไป“คราวก่อนจำได้ว่าเสี่ยวผิงเลือกด้ายมาผิดประเภท ครั้งนี้ชิงชิงต้องการออกไปเลือกที่ตลาดเองหรือไม่”เฉินฟาหยางยืนยันมิให้นางย้อมด้ายด้วยตนเองเพราะกลัวว่าจะเหนื่อยเกินไป อยากได้สิ่งใดก็ให้สาวใช้ไปซื้อหามาแทน แรก ๆ เสวียนซือชิงก็มิพอใจอยู่บ้าง จนกระทั่งเขาอ้างว่าเจ้าซาลาเปาน้อยซนขึ้นทุกวัน อาจไม่ทันระวังและถูกน้ำต้ม

  • พระชายาตำหนักร้างรัก   บทที่ 38 ขาดสติ

    ตำหนักเยว่ฉีครึกครื้นกว่าที่เคย พ่อบ้านชราออกคำสั่งให้สาวใช้จัดเตรียมห้องนอนสำหรับพระชายาและเจ้าก้อนแป้งที่ร่าเริงเสียยิ่งกว่าผู้ใด ส่วนสาวงามผู้เป็นมารดากลับทำสีหน้าคล้ายคิดไม่ตก ด้วยไม่มั่นใจว่าการตัดสินใจในครั้งนี้ถูกต้องดีแล้วจริงหรือ‘ชิงชิงยอดรัก เจ้าก็เห็นว่าหลี่จินหมิงมักมากจนทำให้ลูกของเราเห็นภาพที่มิสมควรเห็น เจ้าจะกล่าวหาว่าพี่วางแผนลวงอย่างไรก็ได้ แต่ข้อเสนอที่กล่าวออกไปนั้น ล้วนเป็นผลดีต่อเจ้าซาลาเปาน้อยหนิงเอ๋อร์จริง ๆ มิใช่หรือ’‘ข้าจะคอยดูนางมิให้เข้าไปยุ่มย่ามให้ห้องส่วนตัวของเขาอีก’‘คิดว่าห้ามนางได้หรือ หนิงเอ๋อร์ดื้อดึงไม่ผิดกับพี่ในยามเด็ก มองอย่างไรก็คล้ายกับเห็นเงาของตัวเอง หากเจ้ายิ่งเอ่ยปากห้าม นางก็จะยิ่งต่อต้านและลงมือทำ มิได้โทษว่าเจ้าเลี้ยงลูกไม่ดี แต่เรื่องนิสัยนี้สืบทอดจากสายเลือด ยิ่งพี่มิได้อยู่ด้วยแต่แรก...’เหตุผลของเขามีมากมายและล้วนแต่ฟังขึ้น เดิมทีไม่เข้าใจว่าเหตุใดเสวียนหนิงอันจึงได้ซนเกินเด็กนัก แต่พอได้ฟังวีรกรรมของผู้เป็นบิดาในวัยเด็กสักหลายคำ เสวียนซือชิงก็พอจะเข้าใจได้บ้าง‘ข้าแสร้งเชื่อฟัง ทว่าความจริงแล้วดื้อรั้นอย่างมาก’นางมองบุตรสาวที่ก

  • พระชายาตำหนักร้างรัก   บทที่ 37 ต้องเรียกท่านพ่อ

    เสียงหัวเราะของเจ้าก้อนแป้งดังลั่นเรือนตั้งแต่ยามเช้า เรียกรอยยิ้มของเสวียนซือชิงและสองสาวใช้ได้เป็นอย่างดี วันนี้อากาศอบอุ่นขึ้นบ้างแล้ว คุณหนูตัวเล็กที่หมายใจว่าจะออกไปวิ่งเล่นให้ทั่วจึงอารมณ์ดี มารดาให้กินดื่มอันใดก็มิเอ่ยถ้อยคำต่อรอง ต้องอาบน้ำขัดผิวแสบตัวอย่างไรก็ไม่โอดครวญเลยสักคำเสวียนหนิงอันพร้อมออกไปเล่นนอกเรือนอย่างมาก ทว่ามารดาของนางกลับมิอยากก้าวออกไปเลยแม้แต่น้อยนางยังไม่พร้อมที่จะเจอ...ท่านพี่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องเรียกเขาอย่างไร ควรเรียกท่านพี่อย่างที่เคยเรียกยามเขาหลอกนางว่าเป็นคุณชายเฉินหยาง เรียกท่านอ๋องแทนตำแหน่ง หรือว่าเรียกคุณชายเฉินเพราะเขาคงมิอยากเปิดเผยตัวเอง“เสี่ยวอัน อาเหยาอยู่ที่นี่หรือไม่”เกือบเจ็ดวันแล้วที่เสวียนซือชิงมิได้ออกนอกเรือนเพื่อตรวจสอบดูการย้อมสีเส้นด้าย มิใช่ว่าไว้ใจในฝีมือของลูกจ้างคนใหม่ แต่เป็นเพราะนางไม่ไว้ใจความคิดและการกระทำของตนเองต่างหาก“อยู่เจ้าค่ะ กำลังเก็บด้ายที่เพิ่งแห้ง อีกไม่นานก็คงเสร็จงานแล้วเจ้าค่ะ”“เขากลับไปเมื่อไหร่ก็ให้รีบมาแจ้ง ข้าจะได้พาหนิงเอ๋อร์ออกไปเดินเล่นในสวน หากคุณชายหลี่กลับมาแล้วนางอยากไปหาเขา พวกเจ้าค่อยพาไป

  • พระชายาตำหนักร้างรัก   บทที่ 36 ท่านพี่

    หากผู้ใดได้ยินประโยคที่ลูกจ้างคนใหม่กล่าวต่อคุณชายสกุลหลี่คงยิ้มอย่างพึงพอใจ ว่าวาจาของเขาไพเราะอ่อนหวานมากมารยาท น้ำเสียงนุ่มทุ้มน่าฟังจนทำให้ลืมเลือนไปว่าใบหน้านั้นซ่อนอยู่ใต้ผ้าพันแผล ทั้งดวงตาข้างหนึ่งยังมืดบอดไม่น่าชมทว่าหลี่จินหมิงทราบดีที่สุดว่าตนกำลังตกอยู่ในห้วงแห่งความเป็นความตาย เป็นที่ทราบโดยทั่วกันว่าเฉินฟาหยางมิได้พูดจาเช่นนี้ตั้งแต่ได้รับตำแหน่ง ตวนอ๋อง ยิ่งรั้งตำแหน่งแม่ทัพคนสำคัญด้วยแล้ว ยิ่งมิต้องกล่าวคำหวานเอาใจผู้ใดอีก เว้นเพียงยามอยากได้สตรีที่มีรูปโฉมงดงามมาอุ่นเตียง แต่อย่างไรเสียคำพูดเหล่านั้นก็มิได้จริงใจ กล่าวออกไปเพียงเพราะต้องการผลประโยชน์ตอบแทนล้วน ๆวันนี้ตวนอ๋องกล่าววาจาน่าฟังหลายคำ หลี่จินหมิงจึงเดาได้ว่ามิใช่เรื่องดี‘หากคุณชายหลี่เสร็จธุระแล้ว ผู้น้อยขอรบกวนเวลาอันมีค่า สนทนาเรื่องสำคัญสักหน่อยจะได้หรือไม่’อันตรายอย่างมาก...เกริ่นมาเช่นนี้อันตรายจริง ๆคุณชายสกุลหลี่ทำอันใดมิได้นอกจากพยักหน้ารับคำ ตอบไปว่าเสร็จธุระแล้วจะรีบไปหา ทว่าถ่วงเวลาอยู่ได้ไม่นานก็เปลี่ยนใจ เพราะคิดได้ว่ายิ่งพบหน้ากันช้าเท่าไหร่ โทสะของตวนอ๋องก็ยิ่งทวีคูณมากเท่านั้น“ท่านอ๋อง

  • พระชายาตำหนักร้างรัก   บทที่ 35 เจ้าซาลาเปาน้อย

    หลังจากสนทนากับอาเหยาจนความทรงจำในอดีตปรากฏชัด ย้ำเตือนให้นางคิดถึงความรักครั้งแรก เสวียนซือชิงก็มิได้ออกนอกเรือนอีก มิใช่ว่านางกลัวที่จะพูดคุยลูกจ้างคนใหม่ แต่เป็นเพราะต้องเร่งปักผ้าให้ทันตามคำสั่งของลูกค้าที่พี่ชายบุญธรรมรับงานมาให้อีกที“เสี่ยวผิง ฝากผ้าพวกนี้ให้คุณชายหลี่ อย่าลืมบอกให้เขาแวะมาสักหน่อย ข้างในบ้านวุ่นวายอีกแล้ว”เสวียนซือชิงมิลืมกล่าวต่อเสี่ยวอันด้วยว่าให้เข้าไปดูแลเรื่องในบ้าน เพราะนางต้องตรวจดูด้ายที่ตากไว้ครู่ใหญ่จึงจะกลับเข้าไปทำหน้าที่ของตนได้ ทว่าเพียงแวบแรกที่เห็นลูกจ้างที่กำลังยืนกวาดลานบ้าน นางก็พลันนิ่วหน้า ขยี้ตาแรง ๆ ครั้งหนึ่งก็ตระหนักได้ว่าตนมิได้ตาฝาดไปอาเหยาคล้ายมิใช่บุรุษผู้อาภัพดังเดิม“อาเหยา มิใช่ว่าวันนี้คือวันหยุดของเจ้าหรอกหรือ”สิ่งที่ทำให้เสวียนซือชิงประหลาดใจมิใช่เรื่องลูกจ้างคนใหม่ยืนกวาดบ้านในวันหยุดงานของตน ทว่าเป็นเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่ต่างหากเล่าเสื้อผ้าของอาเหยาสีสันเรียบง่ายไม่ฉูดฉาด แต่มองไกล ๆ ก็ยังรู้ว่าเป็นผ้าเนื้อดี ราคาแพงอย่างมาก นอกจากนั้นเขายังมิได้เดินกะเผลกหรือห่อไหล่อย่างที่เคย มองดูแล้วคล้ายกับ...“เป็นวันหยุดขอรับ แต่ข้

  • พระชายาตำหนักร้างรัก   บทที่ 34 ไม่ค่อยเจ็บแล้ว

    ลมหนาวที่พัดมาทำให้สาวงามต้องกระชับเสื้อคลุมตัวโปรดให้แน่น เสวียนซือชิงมิได้ออกนอกตัวเรือนบ่อยนัก แต่ในเมื่อลูกจ้างใหม่ยังด้อยประสบการณ์เรื่องการย้อมสีเส้นด้าย การสอนงานให้จนกว่าเขาจะชำนาญจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างมากอาเหยาดูคล้ายมิใช่คนชอบพูดเช่นเดียวกับนาง บทสนทนาที่มีต่อกันจึงสั้นกระชับ เช่นเปลือกไม้ประเภทไหนมีชื่อว่าอะไร ให้สีอะไรบ้าง ดอกไม้ประเภทใดให้สีติดทนทาน ส่วนเรื่องส่วนตัวนั้นแทบมิได้พูดกันเลยสักคำ ยิ่งคืนวันเลยผ่านนานเกือบเดือน นางก็ยิ่งคลายความสงสัยและเชื่อว่าลูกจ้างคนใหม่ คงไม่มีส่วนเกี่ยวพันกับตวนอ๋องเฉินฟาหยางอย่างแน่นอน“อาเหยาสรุปวิธีการเตรียมสีด้วยเปลือกไม้ให้ฟังหน่อยได้หรือไม่”“ก่อนอื่นต้องตัดเปลือกไม้ให้เป็นชิ้นเล็ก แช่ในน้ำสะอาดราวสี่ชั่วยาม จากนั้นนำมาห่อด้วยผ้าขาว ต้มในน้ำนานครึ่งชั่วยาม แล้วจึงนำเปลือกไม้ออก เติมเกลือเล็กน้อยเพื่อให้สีเข้มและติดทนดียิ่งขึ้น”“แล้วยามย้อมเส้นด้ายเล่า”“ก่อนอื่นต้องต้มเส้นด้ายให้สะอาด จากนั้นแช่ไว้ในน้ำเกลือราวหนึ่งเค่อ เมื่อสีพร้อมแล้วจึงคลี่เส้นด้ายลงต้มด้วยไฟอ่อนนานครึ่งชั่วยาม ความเข้มของการย้อมในแต่ละครั้งอาจแตกต่าง ขึ้น

  • พระชายาตำหนักร้างรัก   บทที่ 33 อาเหยา

    เมื่อวานเฉินฟาหยางได้เข้าไปในบ้านหลังเล็กของนางแล้ว ทว่าได้ช่วยงานอยู่แค่ลานด้านนอก ยกเตาสำหรับย้อมสีด้ายและเปลือกไม้เอาไปเก็บในห้องเก็บฟืน โดยมิได้รับอนุญาตให้เฉียดใกล้เรือนหลังเล็ก หลังจากทำงานท่ามกลางสายฝนเกือบหนึ่งชั่วยาม เขาก็พาร่างเปียกปอนไปยืนรับฟังคำสั่งของสาวงามที่ยังซ่อนตัวอยู่ในบ้าน มิยอมเปิดเผยตัวตนออกมาให้ได้ยลโฉม‘พี่ชายมีชื่อว่าอะไรหรือเจ้าคะ’เสียงหวานปานน้ำผึ้งเช่นนี้ เป็นเสวียนซือชิงมิผิดแล้ว หัวใจของเขาเต้นโครมคราม หากเลือกได้ก็คงตรงเข้าไปกอดจูบให้หายคิดถึง แต่จะทำเช่นนั้นก็ต้องมั่นใจว่านางให้อภัยเขาเสียก่อน‘ข้าผู้ต่ำต้อยมีนามว่าเสิ่นซือเหยา นายหญิงเรียกว่าอาเหยาเถิดขอรับ’เฉินฟาหยางดัดเสียงตอบ จำได้ว่านางเงียบไปพักใหญ่ ซึ่งก็ไม่ผิดไปจากที่คาดเพราะเสวียนซือเหยาคือชื่อบิดานาง มิใจอ่อนยอมว่าจ้างก็คงแปลกแล้ว‘อีกสามวันเจ้าค่อยมาเริ่มงานเถิด ช่วงนี้ฝนตกแรง ยังไม่มีเรื่องอันใดให้ทำมากนัก’นางกล่าวเรื่องค่าจ้างอีกสองสามประโยค ยังคงไม่ยอมออกมาให้เห็นหน้า มีเพียงเสียงดังออกมาจากตัวเรือนแผ่วเบา แต่กระนั้นในใจเฉินฟาหยางก็สุขล้นจนแทบกลั้นรอยยิ้มไม่อยู่ รีบรับคำด้วยน้ำเสียงแหบ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status