ระหว่างที่ต้นน้ำ จอย เหมี่ยว พยาบาลสาววอร์ดเดียวกัน กำลังทานอาหารอย่างเพลิดเพลิน ก็มีแม่ค้าขนมหวานนำขนมหวาน สามถ้วยมาเสิร์ฟ “ป้าจันทร์ พวกหนูไม่ได้สั่งนะจ๊ะ” จอยเอ่ยปากกับแม่ค้าขนมหวาน อย่างงุนงง “อ๋อ คุณหมอโต๊ะโน้นให้เอามาให้ค่ะ” ป้าจันทร์ชี้ไปที่โต๊ะ หมอภัทร หมออนวินท์ และหมอนิ ที่นั่งอยู่ด้วยก
“พี่หมอ....เป็นอะไรหรือเปล่า” เงียบ ... อนวินท์หันมามองภรรยาสาว นัยน์ตาดุ ก่อนตะคอกเสียงดัง “บอกแล้วไง ให้หุบปาก ไม่งั้นเจอดีแน่” ต้นน้ำชะงัก ก่อนจะหันไปมองเสี้ยวหน้า ที่แข็งกระด้างและ ดุดัน ในใจของหญิงสาวว้าวุ่น “เป็นอะไรของเค้านะ” หญิงสาวคิดในใจ “นี่เราจะไปไหนค่ะ” ต้นน้ำอดใจไม่ได้ เมื่อรถเหมือ
พิพัฒนพงค์ คุณหญิงมณีจันทร์ ตรีรินทร์ และ ธมกานต์ กำลังรับประทานขนมหวาน และน้ำชา หลังจากเพิ่งเสร็จจากทาน อาหารกลางวัน ร่วมชั่วโมง “ยัยตาล กลับหัวหินไปทำงานต่อแล้วรึ พ่อกานต์” “ครับ คุณแม่” ธมกานต์ตอบ ขณะที่วางแก้วน้ำชาเบาๆ “แม่อยากให้หลานกลับมา แต่เห็นเจ้าตาลบอกว่าจะทำงานต่อให้เสร็จ” “ครับคุณแ
เมื่อรถเข้ามาจอดที่บริเวณบ้านของนายแพทย์อนวินท์ ที่ต้นน้ำเคยมา บ้านที่เคยจะเป็นเรือนหอของชายหนุ่มข้างๆ กับน้องสาวบุญธรรม บ้านที่เธอแวะเวียนมาบ่อยครั้ง ไม่นึกเลยว่าต่อไปเธอต้องอยู่บ้านหลังนี้อีกอย่างน้อยเป็นปี ต้นน้ำนั่งมองบ้าน สายตาเหม่อลอยก่อนจะสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงเรียก “ลงมาสิ นั่งบื้อทำไมเนี่ย
กริชชัยคลายใบหน้าที่หงุดหงิดที่ตามหาภรรยาสาว ทั่วห้องนอนแล้วไม่เจอ ก่อนจะเหลียวตัวกลับแล้วอีกไม่กี่นาทีต่อมา กริชชัยก็เดินมาสมทบกับหญิงสาวชายหนุ่มเอื้อมมือไปคว้าตัวมากอดอย่างแนบแน่น "อื้อ กอดแน่นจัง" "คิดถึงเมียนี่" "เว่อร์อีกแล้วห่างกันยังไม่ถึงชั่วโมง" "ไม่รู้เหรอว่าพี่คิดถึงเราทุกนาที" กริชชั
เอลี่ เดินออกมาจากห้องน้ำ ตรงไปที่ตู้เสื้อผ้า กำลังจะเปลี่ยนเสื้อผ้า ประตูเปิดออก พร้อมกับเสียงกรี๊ดของตนเองที่มองเห็นผู้บุกรุก ที่ใบหน้าเหมือนกับชายหนุ่มคนรัก มีเพียงความแต่งต่างจุดเล็กๆ ที่คนที่สนิทเท่านั้นจะรู้ว่า คนไหนคืออดิสร คนไหนคืออดิศวร อดิศวรได้ยินเสียงกรี๊ด แล้วเห็นคนแปลกหน้าที่สวมเพียงผ
โรงพยาบาลเลิศวสิน พยาบาลจอย และ ต้นน้ำ ถอนหายใจพร้อมๆ กัน เมื่อคนไข้ที่หนาแน่น ในช่วงเช้า เริ่มลดน้อยจนเหลือสามคนสุดท้าย ซึ่งคนสุดท้ายพึ่งเข้าไปตรวจเมื่อสักครู่ จอยบิดตัวไปมา อย่างต้องการผ่อนคลายความตึงเครียด “โห คนไข้เยอะเนอะวันนี้” “อืม” ต้นน้ำตอบสั้นๆ ก่อนจะถือแฟ้ม มากอดแนบอก “จะไปไหน....” “
นายแพทย์ภัทรอึ้งกับท่าทางของเพื่อนร่วมงานรุ่นน้อง มองสายตาของชายหนุ่มที่มองหญิงสาวที่ตนกำลังจะหมายปอง ทำให้ภัทรแอบใจหาย แต่ยังฝืนยิ้มแบบที่ตนเองก็รู้ว่า คงเจื่อนเต็มที “เออ ข่าวดีอะไรครับ วินท์ พี่สงสัยตกข่าวไม่รู้เลย” ภัทรพูดด้วยน้ำเสียงที่พยายามไม่ให้สั่น ชายหนุ่มพยายามตั้งสติอย่างสุดความสามารถ
“ขอเวลา สี่ห้าวันให้พ่อกับแม่ฮันนีมูนกันหน่อยนะ แล้วจะกลับไปรบกับลูกต่อ” อดิศวรหันกลับมาจับที่ไหล่ภรรยาสาวให้มาเผชิญหน้า ส่งสายตาหวานฉ่ำ “อะไรคะเนี่ย ลูกห้าแล้วนะ ยังจะหวานอีก” ยาริกายิ้มเขิน “หวานแบบนี้ตลอดไปครับ จะรักยิ่งๆ ขึ้นไปเชื่อไหมแยม แต่ตอนนี้ผมขอเบรคสักห้าวัน ฝากลูกไว้กับปู่ยา และทวดๆ ก่
ภายในห้องรับประทานอาหาร อดิศวรกำลังสอนให้ อ้น อัคราวัฒน์ ตักอาหารกินเอง ในขณะที่ยาริกากำลังป้อนข้าวให้อั๋น อัคราวุธยาริกาหันไปมองสามีที่กำลังสอนแฝดพี่อย่างใจเย็น “อ้น หัดทานข้าวเองครับ ตักแบบนี้พ่อตักให้ดู” อดิศวรสอนอย่างใจเย็น “โถ คุณศวร ลูกยังเล็กอยู่เลย แยมอยากป้อนข้าวลูก” “ผมอยากให้ลูกช่วยต
สามปีต่อมา ยาริกามองภาพพ่อและลูกๆ ที่วิ่งเล่นกันที่สนามอย่างมีความสุข นึกย้อนไปเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา งานแต่งงานของเธอกับอดิศวรจัดอย่างยิ่งใหญ่ โดยมีลูกแฝด ทั้งสอง อ้น และ อั๋น อัคราวัฒน์ และ อัคราวุธ กรณ์วิภาคและตอนนี้เธอกำลังตั้งครรภ์อ่อนๆ อีกหกสัปดาห์ จำได้ว่าหลังจากอดิศวรรู้ก็รีบจัดงานแต่งงาน แบ
“แยมแน่ใจนะว่าจะไม่อันตรายกับลูก ศวรกลัวว่า..” อดิศวรจ้องมองตาภรรยาสาว ถามย้ำเพื่อความแน่ใจ ยาริกาพยักหน้าเบาๆ ยิ้มเขิน พร้อมกับกอดชายหนุ่มกระชับ “ก็อย่ารุนแรงสิคะคุณพ่อ ทำเบาๆ หมอก็ไม่ห้ามหรอกค่ะ นอกจากจะหกอาทิตย์ก่อนคลอดหรือเปล่า แยมไม่แน่ใจ” ยาริกาใช้เล็บกรีดเบาๆ ที่หน้าอก “คุณเรียกผมว่า “คุณพ่อ
ยาริกาน้ำตาไหลตลอด ด้วยความตกใจ ซึ้งใจ ตื่นเต้น มีความสุข ไม่รู้ความรู้สึกไหนมาก่อนแต่มันผสมปนเปกันไปหมด หญิงสาวพยักหน้าๆ ยกมือปิดปาก รับดอกไม้แล้วสวมกอด ท่ามกลางเสียงเชียร์จากเพื่อนๆ ร่วมรุ่น และอีกหลายชั่วโมงต่อจากนั้น มิตติ้งร่วมรุ่นท่ามกลางทะเลแสนสวย และเพื่อนสนิท ทำให้ปาร์ตี้เต็มไปด้วยความสนุกส
สามวันผ่านไป หลังจากประชุมผู้แทนประกอบการโรงแรมที่มิลานสามวัน ยาริกาเพิ่งเห็นมาดบอสของอดิศวรเป็นครั้งแรกเวลาเค้าจริงจังกับการทำงานทำให้เค้าดูมีเสน่ห์ หญิงสาวมองสามีอย่างภาคภูมิใจ ตลอดสามวันที่มีนัดตลอดทั้งวัน ตารางแน่นมากๆ ทำให้แทบจะไม่มีส่วนตัวกันเลย วันนี้ยาริกามีความหวังว่าคงได้ไปเดินเล่นในเมือง
ยาริกาตกใจแทบสิ้นสติ เมื่ออดิศวรทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้น แถมจับมือเธอไว้แน่น ยาริกาพยายามบิดมือหนีพร้อมหันไปซ้ายขวาว่ามีใครมองอยู่ไหม มีคนมองอยู่สองสามคน หญิงสาวใบหน้าร้อนด้วยความอายรีบกระตุกมือหนี แต่ชายหนุ่มจับไว้จนแน่น “นี่ คุณศวร ทำบ้าอะไร คุกเข่าทำไม...บ้าหรือเปล่า” ยาริกากัดฟันพูดเบาๆ “แยม ..
ระหว่างขับรถกลับบ้าน ยาริกาเงียบมาตลอดทาง พอๆ กับอดิศวร ก็เงียบเช่นเดียวกัน ตั้งแต่รถออกจากโรงพยาบาล เมื่อรถเลี้ยวเข้าสู่บ้าน เมื่อรถจอดนิ่งสนิทที่โรงจอดรถ อดิศวรนั่งรวบรวมสมาธิก่อนพูดกับภรรยาสาวอย่างใจเย็น “สรุป ยังไงคุณก็จะไปประชุมกับคุณกริชที่อิตาลีแน่ๆ ไม่เปลี่ยนใจ รู้ไหมการเดินทางไกลอาจเป็นอัน
ท่านผู้หญิงแพรวมองดูหลานสะใภ้กับหลานชาย สายตาเต็มไปด้วยความสุข คิดวาดฝันว่าอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า หลานคนเล็กของตระกูลจะลืมตาดูโลก แค่นี้ท่านก็ยิ้มออกแล้ว ถึงแม้จะมีอาการเจ็บไข้อย่างผู้ป่วยสูงอายุ พอนึกถึงหลานที่จะเกิดขึ้นมาทำให้ท่านผู้หญิงไม่ยอมแพ้กับโรคภัย หมั่นไปหาหมอและกินยาตามที่หมอสั่งทุกประการ