“คุณดูเป็นผู้ใหญ่มากไม่น่าเชื่อว่าจะมีเรื่องให้คิดทุกข์ใจถึงกับต้องมานั่งที่นี่กลางดึกคนเดียวแบบนี้ ข้าง ๆ สวนสาธารณะมีร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตเปิด 24 ชั่วโมงเราไปหาอะไรกินกันเถอะ”
ชายหญิงสองคนเดินพูดคุยกันเรื่องทั่ว ๆ ไประหว่างเดินทางข้ามถนนเพื่อไปยังร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตที่อยู่ใกล้ที่สุด ในสายตาของคนอื่นคงคิดว่าทั้งคู่เป็นคนรู้จักกันทั้งที่ความจริงแล้วทั้งสองเป็นเพียงแค่คนแปลกหน้าที่มีโอกาสคุยกันได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง
“ปกติแล้วคุณชอบกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบนี้ไหม”
ชายหนุ่มหันมาถามเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกินบะหมี่แบบกระป๋องจนถึงขั้นยกน้ำซดจนหมดถ้วยด้วยหน้าตาที่ดูจะมีความสุขขึ้น
“ชอบกินมากเลยล่ะค่ะแต่ปกติแล้วจะชอบแบบต้มในถ้วยใส่ไข่ใส่ผักโดยเฉพาะเวลาไปนอนกางเต็นท์กับเพื่อน ๆ เมนูนี้จะเป็นเมนูยอดฮิตในตอนเช้าโดยเฉพาะเวลาที่อากาศหนาว
“คุณเป็นคนชอบเที่ยวเชิงธรรมชาติเหมือนกับผมเลยแต่ไม่ค่อยมีโอกาสได้ไปเพราะเพื่อนผมก็ไม่ใช่สายนี้ คุณแม่ผมเองท่านก็ป่วยอยู่ไปเที่ยวด้วยไม่ได้เวลาจะไปไหนทีก็ได้แต่ไปคนเดียว นอนกางเต็นท์คนเดียวบางครั้งก็ได้แต่อิจฉาเต้นท์ข้าง ๆ ที่เขาพาครอบครัวหรือไม่ก็เพื่อนมานั่งคุยกันสนุก”
ขนมผิงส่งยิ้มหวานเมื่อรู้สึกว่าชายแปลกหน้าที่เธอกำลัง คุยด้วยมีรสนิยมความชอบคล้าย ๆ เธอ ตั้งแต่สมัยเรียนเธอกับ แฟนหนุ่มมักจะชวนกันไปกางเต็นท์พร้อมเพื่อน ๆ ตามจังหวัดที่อยู่บนภูเขาสูง แต่ตอนเรียนจบคนรักของเธอได้ตำแหน่งเป็นถึง รองประธานบริษัทเขาก็มักจะให้เธอไปกับเพื่อนส่วนเขาเองไม่มีเวลาแม้แต่จะเที่ยวใกล้ ๆ ด้วยซ้ำ
“ก่อนมาอยู่ที่เชียงใหม่ฉันเรียนจบมาจากกรุงเทพฯที่นั่น ทุกคนก็รู้ว่าเป้นเมืองที่วุ่นวาย ฉันตั้งใจมาหางานทำที่นี่ด้วยเหตุผลแรกเพราะแฟนมีบริษัทอยู่ที่นี่กลับอีกเหตุผลคือบรรยากาศที่เชียงใหม่เต็มไปด้วยธรรมชาติแต่ตอนนี้ฉันคงจะอยู่ที่นี่ไม่ได้อีกแล้วเพราะครอบครัวของแฟนฉันยื่นคำขาดถ้าฉันยังอยู่ที่เชียงใหม่เขาจะเอาฉันให้ตาย”
ขนมผิงรู้ว่าสิ่งที่ครอบครัวของคนรักเธอพูดไม่ใช่แค่คำขู่แต่พวกเขาเอาจริงไม่ใช่พูดแค่สร้างความกลัว เธอพยายามอธิบายว่าถึงแม้เธอจะอยู่ที่นี่แต่เธอก็ไม่มีทางที่จะกลับไปแย่งคนที่มีเจ้าของแล้วแต่ทางนั้นก็ยังยืนยันว่าเธอจะกลับมาที่เชียงใหม่ได้อีกครั้งก็ต่อเมื่อตัวเองแต่งงานมีลูกมีครอบครัวแล้วเท่านั้น
“คุณจะอยู่ที่ไหนคนพวกนั้นไม่น่ามีสิทธิ์มาก้าวก่าย ผมไม่เชื่อว่าเขาจะทำอะไรคุณได้ บ้านเมืองเรามีกฎหมายถ้าคุณอยากจะอยู่ที่นี่ไปทำงานกับผมที่บริษัทนะผมช่วยคุณได้”
ภาคินคิดอย่างที่พูดตัวเขาเองก็มีบริษัทเป็นของตัวเองแถมเป็นท่านประธานของบริษัทไม่ใช่เป็นเพียงแค่รองประธานเหมือนคนรักเก่าของหญิงสาวการพาคนเข้าทำงานในบริษัทไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาและยิ่งเมื่อรู้ว่าหญิงสาวข้าง ๆ ต้องเจอเรื่องราวเลวร้ายมาแบบนี้เขายิ่งอยากจะยื่นมือเข้าช่วยเหลือ
“อีกชั่วโมงเดียวก็จะเช้าแล้ว คุณไปพักผ่อนที่คอนโดผมก่อนไหมรับรองว่าผมไม่ทำอะไรคุณแน่นอนเพราะเราทั้งคู่ต่างก็เป็น คนแปลกหน้าสำหรับกันและกันแต่ถ้าคุณไม่ไว้ใจให้ผมไปส่งคุณที่ห้องนะเพราะผมไม่มีทางทิ้งคุณให้นั่งอยู่ที่นี่คนเดียวแบบนี้เพราะถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นผมคงรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต”
ท่าทางที่ดูอิดโรยใต้ดวงตาคล้ำเป็นสีน้ำตาลบ่งบอกว่า ขนมผิงร้องไห้มาเป็นระยะเวลาหลายชั่วโมงจึงทำให้ภาคินรู้สึก เป็นห่วงและอยากจะให้หญิงสาวตรงหน้าได้ไปพักผ่อน
“คุณจะว่าฉันเป็นผู้หญิงไวไฟก็ได้แต่ฉันอยากไปเที่ยวคุณพาฉันไปเที่ยวต่างจังหวัดได้ไหมเราไปกางเต็นท์นอนกัน คุยกันมา ตั้งนาน....ขนมผิงค่ะ”
คนถามหยุดพูดหันมาสบตาคนฟังเหมือนต้องการหยั่งเชิงว่าสิ่งที่เธอกำลังร้องขออีกฝ่ายรู้สึกอย่างไรเธอควรจะพูดต่อไปไหมหรือควรจะจบด้วยคำว่าล้อเล่นแต่เพียงเท่านี้
“ ผมภาคิน ก็ดีเหมือนกันผมเองก็จะได้ลืมเรื่องราว ความทุกข์ในช่วงนี้เอาร่างกายและหัวใจไปพักผ่อนบ้าง บางครั้งการที่เราสองคนเป็นคนแปลกหน้าต่อกันมันก็ทำให้เราไม่ต้องสวมหน้ากากแห่งความเป็นคนดีตามที่เราเคยใส่ในสังคมของเรา คุณรู้ไหมผมกล้าเป็นตัวตนต่อหน้าคุณมากกว่าต่อหน้าเพื่อน ที่รู้จักกันมาเป็นสิบปีอีก”
ขนมผิงพยักหน้าเล็กน้อยยิ้มมุมปากให้อีกฝ่ายรู้ว่าเธอเองก็ไม่ต่างจากเขาแต่ก่อนเวลาที่เธออยู่ที่บริษัทของคนรัก เธอมักจะทำตัวเป็นคนเรียบร้อยไม่กล้าพูดและคอยหลบตาผู้อื่นอยู่เสมอเหมือนกับคนที่มีความผิดที่ต้องปกปิดซ่อนเร้นตลอดเวลาแต่เวลานี้เธอกลายเป็นคนพูดเก่งและกล้าพอที่จะชวนอีกฝ่ายให้ไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเธอได้
ภาคินขอที่อยู่และแลกไลน์กับหญิงสาวเพื่อตกลงนัดแนะกันว่าทั้งคู่จะเดินทางไปเที่ยวที่จังหวัดน่านในเช้าของวันถัดมาโดยที่ชายหนุ่มจะไปรับขนมผิงที่คอนโดของเธอ
ตอนที่ 2เต็นท์และรสรักของเรา“โกรธแม่ใช่ไหมถึงได้จะไปต่างจังหวัดแบบนี้” ผกาพยายามยันตัวขึ้นจากที่นอนเมื่อได้รู้จากปากของ ลูกชายว่าพรุ่งนี้เช้าภาคินจะเดินทางไปเที่ยวที่ต่างจังหวัด “ผมไม่ได้โกรธคุณแม่เลยก็แค่รู้สึกน้อยใจแต่ก็ไม่เกี่ยวกับการเดินทางไปครั้งนี้ครับ ผมอยากไปเที่ยวที่น่านมานานและบางทีผมอาจจะหาแม่ของลูกได้ที่นั่นกลับมาจากเหนือคราวนี้คุณแม่อาจจะได้ข่าวดีก็ได้นะครับชายหนุ่มไม่ได้คิดอย่างที่พูดในตอนแรกแต่ทันทีเมื่อเขาเห็นหน้ามารดาแผนการทุกอย่างก็ปรากฏขึ้นในใจอย่างน้อยขนมผิงก็ไม่ใช่คนที่นี่การที่เขาจะจ้างเธอให้เป็นแม่พันธุ์มีลูกให้ก็อาจจะเป็นความลับที่ปิดมิดเพราะเธอไม่มีคนรู้จักที่เชียงใหม่บางทีการไปเที่ยวด้วยกันในครั้งนี้เขาอาจจะทำการผลิตทายาทตัวน้อยสำเร็จในครั้งนี้เลย“จริงหรือเปล่าลูก อย่าหลอกคนแก่นะถึงแม้ว่าลูกจะยังไม่มีหลานให้แม่ในเร็ว ๆ นี้ไปยังน้อยให้แม่เห็นสักครั้งเถอะว่ามันพอจะมีทาง ลูกเองไม่อยากมีครอบครัวไม่อยากมีเมียแม่ก็จะไม่บังคับแต่เอาเป็นว่าลูกไปหาวิธีการที่จะมีหลานให้แม่และขออย่างหนึ่งเลือกแม่พันธุ์ที่หน้าตาน่ารักหน่อยหลานของแม่จะไ
สาวน้อยพูดร่าเริงนำเสนอตัวเองโดยที่เธอเองไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าสิ่งที่พูดแต่สำหรับภาคินชายหนุ่มที่ถึงแม้จะไม่ได้ชอบการมีครอบครัวแต่เขาก็มีความสัมพันธ์กับหญิงอื่นที่เขาซื้อกินตามแบบฉบับของผู้ชายทั่วไปจึงอดรู้สึกไม่ได้ว่าหญิงสาวตรงหน้าถึงแม้จะดูเป็นเด็กแต่เธอก็มีเสน่ห์บางอย่างที่ทำให้หัวใจความเป็นชายของเขารู้สึกหวิวไปทั้งใจอุทยานแห่งชาติขุนสถานวันนี้มีที่ว่างกางเต็นท์ทั่วบริเวณเนื่องจากมันไม่ใช่วันหยุดทั้งคู่จึงไม่ต้องแย่งวิวดี ๆ กับใครเรียกได้ว่ากางเต็นท์กันแบบเหงา ๆ เลยดีกว่า“ผมไม่ได้เอาเต็นท์มาเดี๋ยวไปเช่าที่อุทยานเอาดีกว่า”ภาคินมัวแต่ตื่นเต้นที่จะได้มากางเต็นท์กับสาวและอาจจะได้ทำภารกิจที่มารดาสั่งสำเร็จจนลืมของที่จำเป็นนั่นก็คือเต็นท์ส่วนตัวของเขา“นอนด้วยกันก็ได้ค่ะคุณคงไม่ปล้ำฉันในเต็นท์ใช่ไหมสถานการณ์โรคภัยไข้เจ็บตอนนี้อย่าใช้ของร่วมกับใครเลยดีกว่าอย่างน้อยถ้าคุณจะติดโควิดจากใครก็คงติดจากฉันเพราะเรานั่งรถมาด้วยกันตลอดทางฉันเองก็ลืมใส่แมสแล้วก็พูดพ่นน้ำลายอยู่ในรถคุณมาตั้งหลายชั่วโมง”หญิงสาวเธอพูดเปิดทางให้เสือหนุ่มเจ้าเล่ห์ได้ทำตามแผนได้ไวขึ้นมีหรือที่ภาคินจะปฏิเสธเพราะเขาคิด
ตอนที่3สุขนี้ที่สะปัน...“ข้าวต้มร้อน ๆ กับยำไข่เค็มรีบลุกมากินนะเดี๋ยวถ้าเย็นจะไม่อร่อย” ขนมผิงค่อยๆ โผล่หน้ามาจากเต็นท์เมื่อได้กลิ่นของอาหารลอยเข้าไปแตะจมูกเธอและไม่ใช่ฝีมือของใครอื่นแต่คือพ่อครัว คนใหม่ภาคินนั่นเอง “อายจังค่ะแผนที่ผิงจะเป็นคนทำให้คุณแต่กลับต้องให้ผู้ชายทำกับข้าวรอ” หญิงสาวถึงแม้จะยังคงอายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแต่ในเมื่ออีกฝ่ายทำหน้าเหมือนทุกอย่างปกติหญิงสาวก็ค่อยๆรู้สึก ผ่อนคลายลง “ผมลองไปค้นในลังโฟมเห็นอะไรพอหยิบจับมาทำได้ก็เลยลองทำเตรียมอาหารไว้ให้คุณตอนเช้า กินข้าวเสร็จเดี๋ยวเรารีบเก็บของและเดินทางกันต่อเวลาของเรามีแค่ 1 สัปดาห์ผมอยากเที่ยวให้ทั่วจังหวัดน่านเพราะไม่รู้ว่ามาครั้งนี้แล้วจะได้มาอีกเมื่อไหร่” ข้าวต้มหมูที่แสนธรรมดาในมื้อนี้แต่สำหรับขนมผิงมันคือข้าวต้มที่อร่อยที่สุดเพราะคนที่ทำให้เธอกินคือผู้ชายคนแรกของเธอตลอดเวลาที่นั่งรถมาหญิงสาวคิดว่าชีวิตนี้คงไม่สามารถรักใครได้อีกนอกจากอดีตคนรักแต่เพียงข้ามคืนเธอก็ได้รู้หัวใจตัวเองว่าความรักมันสามารถเปลี่ยนแปลงได้ถ้าเราเจอคนที่สามารถทำให้เรามี
ภาคินลืมตาตื่นขึ้นมากลางดึกด้วยความตกใจเมื่อหญิงสาวที่นอนข้าง ๆ เขาอยู่ดี ๆ ก็พูดอะไรออกมาเหมือนว่ากำลังรู้สึกโกรธและเกลียดใครสักคน ชายหนุ่มจึงรีบคว้าตัวเธอมากอดและเขย่าเรียกให้ได้สติเพราะคิดว่าอีกฝ่ายคงกำลังฝันไป “คุณภาคิน พวกนั้นจะเอาเรื่องผิง” หญิงสาวเมื่อรู้สึกตัว เธอค่อย ๆ ลืมตาและจ้องมองอีกฝ่ายที่กำลังโอบกอดเธอไว้เหมือนว่าเธอกำลังไม่แน่ใจว่าตอนนี้มันคือเรื่องจริงหรือเธอกำลังฝันก่อนที่จะรู้สึกตัวและรีบกอดกลับทันทีเหมือนว่าเธอกำลังกลัวว่าจะถูกใครทำร้าย “คุณแค่ฝันร้าย ทำใจให้สบายหายใจเข้าลึกๆทุกอย่างมันอยู่ที่ใจเราคนพวกนั้นไม่ได้ตามคุณมาแต่คุณต่างหากที่เอาพวกนั้นใส่ใจมาด้วย” ขนมผิงหลบตาลงทุกสิ่งที่ภาคินพูดมันคือความจริงคนพวกนั้นป่านนี้ก็คงใช้ชีวิตอย่างมีความสุขโดยที่ไม่ได้เก็บความทุกข์ของเธอมาใส่ใจแต่ตัวเธอเองต่างหากที่เอาพวกนั้นเข้ามาอยู่ภายใต้ความทรงจำและปล่อยให้คนเหล่านั้นกัดกินหัวใจของเธอไม่เว้นแม้แต่เวลานอน “อีกนานไหมผิงจะลืมทุกอย่างได้” “ผมจะทำให้คุณลืมเองขอแต่คุณเปิดใจและยอมรับ ความจริงว่าเวลานี้
ตอนที่1คนแปลกหน้าสองเรา“ดึกแล้วเป็นผู้หญิงทำไมถึงมานั่งที่นี่คนเดียว”ภาคินที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ริมสระน้ำกลางสวนสาธารณะมองเห็นสายน้ำที่กระเพื่อมเป็นระลอกวงกลมเมื่อถูกหญิงสาวที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ถัดจากเขาไปไม่ไกลขว้างก้อนหินลงไปในน้ำ ชายหนุ่มจึงลุกเดินไปหาหญิงสาวผู้ทำให้สติของเขากลับคืนมาอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงก้อนหิน“แล้วคุณล่ะทำไมถึงได้มานั่งที่นี่คนเดียว”ขนมผิงเงยหน้าหันมองชายหนุ่มที่กำลังยืนอยู่ข้างเธอเหมือนกับว่าคำถามที่เธอถามไปมันไม่ได้ต้องการคำตอบแต่เธอคิดว่าเหตุผลของทั้งคู่ที่พาตัวเองมาอยู่ที่นี่แบบเหงา ๆ คงไม่ต่างกันสักเท่าไหร่“ขอผมนั่งด้วยคนได้ไหม”หญิงสาวพยักหน้าพร้อมกับขยับตัวเองเพื่อให้ที่ข้าง ๆ พอเหลือสำหรับอีกคน เวลานี้ขนมผิงรู้สึกไว้ใจทุกคนที่เข้ามาเพราะความเจ็บช้ำที่เธอเพิ่งผ่านมาวันนี้เธอคิดว่ามันคงไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่านี้แน่นอน“เราสองคนคงมานั่งที่นี่ด้วยเหตุผลเดียวกันนั่นก็คือ ความทุกข์ใจถ้าคุณมีอะไรไม่สบายใจระบายให้ผมฟังได้นะ อย่างน้อยคุณก็ไว้ใจผมได้เพราะผมกับคุณเราไม่รู้จักกัน”หญิงสาวในชุดพนักงานบริษัทถอนหายใจเหมือนว่าเธอกำลังต่อสู้ก