ตอนที่ 6หวงหรือแค่...“พรุ่งนี้ผมจะพาคุณไปพบคุณแม่จะว่าอะไรไหมถ้าผมอยากจะให้คุณโชว์ฝีมือทำกับข้าวให้คุณแม่ได้กินบ้าง” สองเดือนแล้วที่ขนมผิงย้ายเข้ามาอยู่ที่คอนโดของภาคิน ตลอดเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันชายหนุ่มเริ่มมั่นใจว่าขนมผิงจะทำหน้าที่แม่ของลูกเขาได้ดีจึงตัดสินใจที่จะพาเธอไปพบมารดา “ผิงขอทำกับข้าวที่คอนโดไปนะคะเพราะคงไม่ถนัดถ้าต้องไปทำที่อื่น” หญิงสาวนอนคิดเมนูอาหารที่เธอจะไปทำให้แม่ภาคินกินในวันพรุ่งนี้ในหัวของเธอมีเมนูมากมายแต่ด้วยความใส่ใจเธอพยายามคิดเมนูที่ดีต่อสุขภาพของคนที่มีอายุมากและรสชาติถูกปาก “เบื่อไหมอยู่แต่คอนโดไม่ได้ไปไหน” “ก็เบื่อเหมือนกันนะคะแต่ตั้งแต่มาอยู่ที่คอนโดก็ยังไม่ได้หยุดอยู่เฉย ๆ เลยค่ะก็คุณภาคินมานอนทุกคืนไหนจะต้องซักผ้า รีดผ้าทำกับข้าวก็หมดวันพอดีไม่รู้จะเอาเวลาที่ไหนมาเบื่อแต่ ความจริงผิงก็อยากจะออกไปทำงานนะคะแต่ถ้ามันจะกระทบต่อการผลิตลูกให้คุณก็ไม่เป็นไร” ภาคินฟังแล้วก็อดสงสารไม่ได้แต่ก็ได้แต่เงียบเพราะเขากลัวจะกระทบต่อการที่เธอจะต้องมีลูกให้เขาเพราะคุณหมอบอกว่าสุขภาพของแม่
ตอนที่ 7กลับบ้านมาพักใจ“อยู่ดี ๆ ทำไมถึงเป็นลมล้มไปแบบนั้นถ้าผมเข้าไปรับคุณ ไม่ทันป่านนี้คงล้มหัวฟาดพื้นกลายเป็นเรื่องใหญ่ไปแล้ว”ภาคินถามคำถามด้วยน้ำเสียงเหมือนกำลังรู้สึกโมโหเพราะตัวเขาเองทั้งเป็นห่วงและคิดไปเองว่าเวลาที่อยู่ที่คอนโดขนมผิงคงมัวแต่ทำงานบ้านไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อนจึงทำให้ร่างกายทรุดโทรมและมันคงจะส่งผลไปถึงเรื่องการมีลูกให้เขาจึงทำให้ผ่านมาหลายเดือนแล้วยังไม่มีทีท่าว่าหญิงสาวจะท้อง“ช่วงนี้ผิงนอนไม่ค่อยหลับเวลาหลับก็มักจะฝันร้ายก็คงจะพักผ่อนไม่เพียงพอ คุณภาคินไม่ต้องเป็นห่วงนะคะผิงจะพยายามดูแลสุขภาพให้ดีกว่านี้จะได้มีลูกให้คุณไว ๆ ”หญิงสาวถึงแม้ว่าจะรู้จักกับภาคินมาแค่ไม่นานแต่เขาก็เดาได้ถูกว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรในใจเพียงแต่เธอเลือกมองแต่แง่ร้ายไม่มองในส่วนดีของอีกฝ่ายที่เป็นห่วงเธออยู่เหมือนกันวันนี้หน้าที่ทำกับข้าวและงานบ้านอีกเล็ก ๆ น้อย ๆ จึงตกเป็นของภาคินเพราะเขาเองก็เริ่มไม่ชอบกับการที่ต้องจ้างแม่บ้านมาทำจึงเลือกที่จะทำแทนคนป่วยถึงแม้ว่าการที่เขาเป็นผู้ชายมันจะทำได้ดีไม่เหมือนหญิงสาวก็ตาม“รีดแบบนั้นใส่ไปอายเขาแย่ คุณวางไว้ตรงนั้นเลยเดี๋ยวผิงไปรีดให้ แค่รีดผ้าคง
ตอนที่8หึงที่ไม่ได้อยู่ในสัญญาขนมผิงเดินผ่านร้านขายยาระหว่างที่ออกมาซื้อข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับบิดาอยู่ดี ๆ เธอก็คิดถึงเรื่องที่ตัวเธอเองสงสัยจึงตัดสินใจเข้าไปซื้อที่ตรวจการตั้งครรภ์เพราะประจำเดือนของเธอเกินระยะเวลาที่ควรจะมาได้เกือบ 2 อาทิตย์แล้วแต่ความเป็นจริงมันก็เคยมาผิดเวลาแบบนี้อยู่บ่อย ๆ แต่จากอาการที่เธอเป็นลมและยังจะอารมณ์ที่แปรปรวนในช่วงนี้ทำให้หญิงสาวไม่อยากรู้สึกกังวลและคิดไปเองถ้าเธอท้องเธอจะได้วางแผนชีวิตถูกว่าเธอจะตัดสินใจทำอย่างไรต่อไป หญิงสาวกลับมาถึงที่บ้านเธอตัดสินใจยังไม่กล้าพอที่จะตรวจจึงหันเหความสนใจไปดูแลการซ่อมแซมบ้านที่ตอนนี้ช่างเริ่มลงมือทำให้แล้ว“ห้องนี้ตั้งใจจะให้เป็นห้องของพ่อตอนที่กลับมาพักฟื้นที่บ้าน คุณลุงช่วยออกแบบให้มันดูโล่งอากาศถ่ายเทหน่อยนะคะ”นอกจากซ่อมแซมตัวบ้านหลังเดิมให้แข็งแรงขึ้นหญิงสาวยังทำห้องต่อเติมด้านข้างออกมาเพื่อใช้เป็นห้องสำหรับพักฟื้นและต้องการให้มองเห็นวิวทิวทัศน์ที่เป็นภูเขาด้านล่างเพราะอยากให้ คนป่วยรู้สึกสดชื่นเวลาที่ตื่นนอนคืนวันสุดท้ายก่อนที่หญิงสาวจะต้องเดินทางกลับไปเชียงใหม่ตามที่ได้ให้สัญญาไว้กับภาคินโดยที่ตัวช
ตอนที่ 9อย่ารอให้สายเกินไปภาคินเฝ้าสังเกตอาการของหญิงสาวที่เขาตั้งตารอให้เธอกลับมาจากบ้านแต่เมื่อคืนกลับมาถึงกับมีแต่อารมณ์ที่หงุดหงิดและบ่อยครั้งที่เธอมักจะไล่ให้เขาไปอาบน้ำทั้งที่เขาก็เพิ่งอาบมาโดยให้เหตุผลว่ากลื่นตัวของเขาเหม็นเขียวอย่างบอกไม่ถูก“ต้องท้องแน่ ๆ ”เพื่อนสนิทที่ภาคินเลือกจะปรึกษายืนยันว่าอาการแบบนี้น่าจะเป็นอาการของคนท้องถึงแม้ภาคินจะนำเรื่องนี้ไปปรึกษาเพื่อนแต่เขาก็ไม่เล่าความจริงให้เพื่อนฟังพูดแค่เพียงว่าพนักงานที่บริษัทของเขาเป็นคนที่มีอาการแปลกๆแบบนี้ชายหนุ่มกลับมาถึงที่คอนโดเขาตั้งใจว่าจะให้ขนมผิงไปตรวจการตั้งครรภ์ให้เรียบร้อยที่โรงพยาบาลแต่หญิงสาวกลับปฏิเสธโดยให้เหตุผลว่าประจำเดือนของเธอเพิ่งจะมาไปเมื่อตอนที่เธอกลับบ้าน“ประจำเดือนก็เพิ่งมาจะท้องได้อย่างไรกันผิงเพิ่งกลับมาหาคุณได้แค่ไม่กี่วัน”ภาคินไม่กล้าพูดอะไรต่อมากเพราะอีกฝ่ายพร้อมจะหัวร้อนใส่เขาเสมอ เขาจึงได้แต่พยายามสังเกตเธอต่อไปที่สำคัญเขาจะเฝ้ามองว่าเธอจะเป็นประจําเดือนอีกครั้งเมื่อไหร่ถ้าเดือนนี้เขายังไม่เห็นเธอเป็นเขาจะบังคับให้เธอไปหาหมอให้ได้ขนมผิงได้แต่นั่งร้องไห้อยู่คนเดียวริมระเบียงทุกวันในช
ตอนที่ 10รักแท้ที่มีอยู่จริง“เป็นอะไรไปอีกหรือเปล่าแอบร้องไห้มาใช่ไหม”ภาคินเดินมาสวมกอดหญิงสาวจากทางด้านหลัง ชายหนุ่มแนบแก้มของตัวเองลงไปบนแก้มนุ่มเนียนใสเหมือนต้องการเอาใจอีกฝ่ายให้รู้สึกสดชื่นขึ้น“ผิงแค่คิดถึงบ้านค่ะ”หญิงสาวตอบความจริงแค่เพียงครึ่งเดียวส่วนสาเหตุหลักคือเธอกำลังรู้สึกน้อยใจเมื่อเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับแก้วกนกทั้งที่ตัวภาคินเองก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรให้กับหญิงสาวคนนั้นเป็นพิเศษแต่เธอคิดว่าบางทีสาเหตุที่ภาคินไม่อยากเปิดเผยเรื่องราวของเธอให้ใครรู้อาจเป็นเพราะเธอเป็นเพียงผู้หญิงที่มาจากครอบครัวยากจนไม่ได้ร่ำรวยเหมือนอย่างผู้หญิงคนนั้น“คิดถึงก็กลับบ้านได้คราวนี้ผมจะไม่บังคับแล้วอยากกลับมาที่นี่เมื่อไหร่ก็กลับแต่มีข้อแม้คุณบอกได้ไหมว่าบ้านของคุณอยู่ที่ไหนถ้าผมทนไม่ไหวคิดถึงก็จะไปหาเอง”หัวใจที่เคยเศร้าหมองมันพองโตขึ้นทันทีเมื่อได้ยินคำว่าคิดถึงถึงแม้ว่าสำหรับบางคนคำนี้มันจะมีความหมายแค่ทั่วไปเพราะใครก็คิดถึงกันได้ทั้งนั้นแต่สำหรับขนมผิงมันคือยาชั้นดีที่ทำให้เธอรู้สึกมองเห็นคุณค่าในตัวเองขึ้นมาบ้าง“คุณแก้วกนกเธอดูเป็นผู้หญิงน่ารักนะคะ”คนพูดเอ่ยออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ
ตอนที่ 1เจรจา คุณนายศิริหญิงหม้ายเศรษฐีระดับต้น ๆ ของตำบล เธอเสียสามีเพราะป่วยจากโรคตับแข็ง เพราะดื่มเหล้ามาก ตอนนี้ลูกชาย เพียง คนเดียวก็เริ่มทำตัวเหมือนพ่อเข้าไปทุกที คนเป็นแม่จึงรู้สึกทุกข์ใจมาก หญิงวัยใกล้หกสิบ มองไม่เห็นอนาคตที่จะได้มีทายาท เพราะตั้งแต่โสรยาทิ้งลูกชายเธอไป อิทธิฤทธิ์ก็ไม่มองผู้หญิงคนไหนอีกเลย กลางวันทำงานตกเย็นก็ดื่มจนเมามาย ต่อให้รวยแค่ไหนก็ไม่มีผู้หญิงคนไหนกล้าฝากชีวิตด้วย ศิริมองหญิงสาวในหมู่บ้านคนหนึ่งไว้ เธอดูเป็นแม่บ้านแม่เรือนและดูจะทนกับลูกชายเธอได้ และวันนี้ศิริก็ตั้งใจจะไปคุยกับนวลซึ่งเป็นแม่ของวนิดา เด็กสาวที่เธออยากได้มาเป็นเมียให้ลูกชาย “สวัสดีจ้าคุณนาย” ชาวบ้านแถวนี้มักจะเรียนผู้หญิงที่มีฐานะร่ำรวยว่าคุณนายนำหน้าชื่อ ศิริจึงก็กลายเป็นคุณนายศิริ นวลยกมือไหว้ต้อนรับอย่างนอบน้อม “ไปเรียกลูกสาวมา วันนี้ฉันจะคุยกับเธอให้รู้เรื่อง” นวลรู้อยู่แล้วว่าที่คุณนายมาวันนี้คงมาคุยเรื่องที่จะยึดบ้านของเธอ เพราะหนี้ที่นวลยืมศิริมา เธอไม่เคยได้ใช้คืนเลย แต่อดสงสัยไม่ได้ทำไมต้องให้เรีย
ตอนที่ 2รสสวาทที่ไม่ใช่แค่บนเตียง คุณนายศิริพานิดาเดินทางมาที่บ้านของเธอทันที เพราะต้องการจะพูดคุยเรื่องต่าง ๆ ให้เรียบร้อยก่อน หญิงสาวส่งสายตามองไปรอบ ๆ ตัวบ้าน เหมือนต้องการกำลังมองหาใครสักคน “ไม่ต้องมองหา ไอ้ลูกชายตัวดีมันไม่อยู่บ้าน ตอนนี้คงอยู่ที่ไร่ เสร็จจากงานแล้วก็คงไปดื่มเหล้ากับเพื่อนคนงานต่อ กว่าจะกลับอย่างเร็วก็สองทุ่มนั่นและ” ศิริสั่งให้วนิดาเอาของใช้ของเธอเข้าไปเก็บในห้องของลูกชาย ให้เรียบร้อย แล้วค่อยออกมาคุยกับเธอที่นั่งรออยู่ที่ระเบียงบ้าน สมาชิกใหม่ของบ้านเก็บข้าวของเครื่องใช้ที่เอาติดตัวมาเสร็จเรียบร้อย ก็เดินออกมานั่งคุยกับเจ้าของบ้านที่เระเบียง“วนิดาเธอรู้ไหมทำไมฉันถึงอยากได้เธอมาเป็นลูกสะใภ้ ทั้งที่ฐานะของเธอกับครอบครัวฉันแตกต่างกันมาก”ศิริมองใบหน้าได้รูปของนิดา เธอถูกชะตากับเด็กสาวคนนี้ ตั้งแต่สมัยที่นิดายังเป็นเด็กตามพ่อของเธอมาเป็นคนงานที่ไร่“นิดาไม่ทราบค่ะ”อนาคตแม่สามีตีฝ่ามือลงไปที่เก้าอี้ไม้ข้าง ๆ เธอ เพื่อให้อีกฝ่ายรู้ว่า เธอต้องการให้ขึ้นมานั่งบนเก้าอี้ข้าง ๆ เพราะวนิดาไม่ได้มาอยู่ที่
ตอนที่ 3เมียทาส ความบริสุทธิ์ของผู้หญิงคนหนึ่งที่เก็บรักษาไว้เพื่อผู้ชาย สักคนที่เธอรักและเขาก็รักเธอ เพียงชั่วข้ามคืนวนิดาก็กลายเป็นผู้หญิงที่มีสามีแล้ว คุณนายศิรินอนฟังเสียงที่เธอยินดีที่จะให้ทุกอย่างจบลงแบบนี้ ทั้งคืน ทุกอย่างง่ายกว่าที่เธอคิด เพราะตอนแรกเธอคิดว่าอิทธิฤทธิ์คงไม่มีทางนอนกับนิดาแต่สุดท้ายทั้งคู่ก็มีอะไรกัน “ฤทธิ์แม่ขอบใจลูกมากนะ ที่ยอมรับนิดาเป็นเมีย” ศิริพูดกับลูกชายเมื่อเธอกำลังหิ้วกับข้าวมาให้ฤทธิ์เพื่อให้เขาเอาติดตัวไปทำงานในไร่ ชายหนุ่มมองหน้ามารดา สีหน้าของเขาดูไร้ความรู้สึกเหมือนเช่นเคย “ของฟรีใครจะไม่เอา แถมสวยด้วย แล้วไม่ต้องห่วงนะครับผมรู้ว่าแม่อยากมีหลานเดี๋ยวจะเร่งทำให้ แล้วจะได้เลิกยุ่งกับชีวิตผมสักที ” วนิดายืนแอบฟัง เธอได้ยินทุกคำพูด สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนมันก็เป็นเพียงการระบายอารมณ์แบบผู้ชายที่มีผู้หญิงมาเสนอให้ถึงที่ เธอคิดว่าชายหนุ่มจะรู้สึกอะไรกับเธอบ้าง หลังจากที่ได้เธอเป็นภรรยา แต่จากคำพูดแสดงชัดเจนว่า เขาไม่มีพื้นที่ในหัวใจให้ใครอีกแล้ว “นิดา มานี่สิ”
ตอนที่ 12ครอบครัว เฌอพาปูนปั้นมาหาย่า ก่อนที่เด่นจันทร์จะยอมเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล “สาวน้อยของย่า” ปูนปั้นดีดแขนขาดีใจเมื่อได้ยินเสียงที่เธอคุ้นเคย จนผู้ใหญ่ทั้งสามคนต่างต้องเช็ดน้ำตา เด็กน้อยก็คือเด็ก เขารู้แต่ว่าเสียงนี้คือเสียงของคนที่ดีกับเขา “คิดถึงย่าใช่ไหม เดี๋ยวไม่นานเราจะได้กลับไปอยู่ด้วยกันนะ” เตชินปล่อยให้เด่นจันทร์ได้เล่นกับหลานโดยมีเฌอปรางคอยดูแลอยู่ ส่วนเขาแยกตัวออกมาคุยกับหมอที่กำลังจะทำเรื่องส่งต่อ คุณหมอคิดว่ามารดาของเขาคงอยู่โรงพยาบาลไม่นาน เพราะดูแล้วท่านยอมรับในตัวเอง และยอมรับที่จะรักษา เพราะไม่อยากมีจิตใจที่เป็นแบบนี้ เตชินดีใจ ที่อีกไม่นาน ชีวิตของเขาจะได้กลับมามีความสุขอีกครั้ง ตั้งแต่เด่นจันทร์เข้าโรงพยาบาล ลออต้องมาอยู่บ้านของลูกเขยเพื่อดูแลหลานสาว เพราะเฌอปรางต้องออกไปช่วยสามีทำงาน ดาริณก็ยังคงทำงานอยู่เพียงแต่เปลี่ยนตำแหน่งเท่านั้น กิจการทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ไม่โตมากแต่ผลกำไรก็ได้เพิ่มขึ้นทุกเดือน ทุกคนรวมทั้งครอบครัวของเฌอปรางไปเยี่ยมเด่นจันทร์ทุกอาทิตย์ เพื่อไม่ให้เธอรู้สึกว่
ตอนที่ 11ตาสว่างนาทีที่ต้องเลือก เตชินได้อ่านข้อความทั้งหมด เขาเดินไปหามารดา พร้อมกับส่งโทรศัพท์ให้เธอได้อ่าน “ไม่จริงลูก แม่ก็แค่อยากพูดให้เมียลูกกลัวก็เท่านั้น” เด่นจันทร์เดินเข้ามากอดลูกชาย หัวใจของเธอรู้สึกเหมือนกำลังจะสูญเสีย “หยุดเถอะครับแม่ ดาริณบอกผมหมดแล้ว เพราะผมใช้หนี้แทนพ่อกับแม่ให้เธอหมด ผมไม่คิดว่าความรักที่แม่มีให้ผม มันจะทำร้ายคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องแบบนี้ แม่รักผมแบบไหน ผมก็รักลูกผมแบบนั้น ดูแลตัวเองให้ดีนะครับแม่” ชายหนุ่มกำลังจะหันหลังเดินออกจากบ้านไป เขากลับต้องหยุดเมื่อได้เสียงมารดาตะโกนตามหลังมา “แกมันเนรคุณ ฉันเก็บแกมาเลี้ยง แม่แกมันก็แค่คนใช้ที่ถูกพ่อแกข่มขืน ฉันสงสารกลัวมันจะทำแท้งเอาแกออก เลยรับแกมาเป็นลูก ดูแลทุกอย่าง เลี้ยงแกให้ดีที่สุด สุดท้ายฉันก็ไม่อาจเปลี่ยนสายเลือดชั่ว ๆ ของแกได้ แกมันเลวเหมือนพ่อกับแม่แกไม่มีผิด” เตชินเข่าทรุดนั่งลงไปกับพื้น วันนี้มันคือวันอะไรของเขา ลูกเมียหนีไป สุดท้ายต้องมารู้ว่าตัวเองไม่ใช่ลูกของเด่นจันทร์ กลับเป็นลูกที่เกิดจากที่แม่ของเธอโดนข่มขืน “ผมจะกลับมา
ตอนที่ 10มือที่3 ปัญหาไม่ได้ถูกอธิบาย เฌอปรางไม่ถามอีกฝ่ายก็ไม่กล้าพูด ความสนิทสนมของดาริณและเตชินดูมากขึ้นทุกวัน เด่นจันทร์ก็พยายามที่จะพูดใส่หัวของเฌออยู่เรื่อย ๆ จนในที่สุดหญิงสาวก็ถึงขีดสุดของความอดทน เฌอไม่กล้าเล่าเรื่องนี้ให้พ่อกับแม่ฟัง เธอจึงตัดสินใจที่จะเล่าให้น้องชายของเธอช่วยหาทางแก้ปัญหา “พี่คุยกับพี่เตก่อน แต่ถ้าไม่มีอะไรดีขึ้น ก็หย่าแล้วกลับบ้านเรา” เฌอตัดสินใจทำตามที่น้องชายแนะนำ เธอรอจนเกือบสามวัน ถึงจะมีเวลาเหมาะที่จะคุยเรื่องนี้กับสามี ตอนนี้ปูนปั้นอายุได้สามเดือนแล้ว เป็นเวลาสามเดือนที่ลูกสาวแทบจะไม่ได้ใช้ชีวิตแบบพ่อแม่ลูกเลย วันนี้เฌอตั้งใจจะคุยทุกอย่างให้จบ “เตชิน เราคิดว่าความสนิทสนมที่เธอกับดาริณมีให้กัน มันมากเกินไป เราไม่สบายใจ และก็ทนที่จะรู้สึกแบบนี้ต่อไปไม่ไหวแล้ว” เตชินทำท่าเหมือนคำพูดของภรรยาเป็นเรื่องตลกเป็นการแสดงความหึงที่ดูน่ารัก “ดาริณเขาน่ารักไม่ถึงครึ่งของเฌอเลย เราไม่นอกใจหรอก อย่าทำเป็นหึงแค่มีสามีหน้าตาดีแค่นี้” ชายหนุ่มทำท่าจะจับมือภรรยา แต่เฌอป
ตอนที่ 9ดูแลหรือกักขัง เด่นจันทร์ดูแลลูกสะใภ้เรียกได้ว่าแทบจะไม่ให้คลาดสายตา มีหลายครั้งที่แม่สามีลืมตัว เผลอพูกจาออกคำสั่งมากเกินไปแต่พอรู้ตัวว่าอีกฝ่ายเริ่มไม่ถูกใจ เธอก็จะเปลี่ยนเป็น ขอโทษแทน “แม่ก็ไม่เคยมีหลานกับเขา ใจมันก็ห่วง แม่รู้ตัวว่าเผลอพูดจาไม่ดีกับเฌอไปบ่อย ๆ ให้อภัยคนแก่อย่างแม่นะ ทำไปทั้งหมดก็เพราะว่ารัก ว่าห่วงหลานเท่านั้น” เฌอปรางจับมือส่งยิ้มให้กับแม่สามี ทั้งที่หัวใจของเธอมันกำลังคิดตรงข้ามกับท่าทางที่แสดงออกไป “เฌอเข้าใจค่ะ” หญิงสาวไม่ได้เข้าใจอย่างที่เธอพูด เพราะเธอมองว่าชีวิตของเธอตอนนี้เหมือนนกน้อยในกรงทอง เตชินเองก็ขยันทำงานมากขึ้น เพราะเด่นจันทร์เปิดสาขาที่หก ทั้งที่ก็รู้ว่าตอนนี้ลูกชายของเธอเมียกำลังท้อง เฌอปรางอดคิดไม่ได้ ว่าเด่นจันทร์กำลังต้องการให้เธอและสามี อยู่ด้วยกันให้น้อยที่สุด เพราะบางคืนเตชินถึงขั้น ต้องนอนที่สาขาใหม่ไม่ได้กลับมานอนบ้าน วันนี้เป็นวันที่หมอนัด เพราะเริ่มใกล้คลอดคุณหมอจะนัดถี่ขึ้น เด่นจันทร์พาลูกสะใภ้ไปหาหมอ โดยมีคนขับรถคอยบริการ
ตอนที่ 8แม่ย่าเดินหน้าเอง เด่นจันทร์เธอรู้จักหมอเก่ง ๆ หลายคนและหลายสาขา เพราะกิจการของเธอต้องยุ่งเกี่ยวกับหมออยู่แล้ว เธอจึงตัดสินใจที่จะพาเฌอปรางไปปรึกษาหมอเพื่อวางแผนครอบครัว “แม่ต้องขอโทษหนูเฌอด้วยนะลูก ที่ไม่ได้บอกก่อน แต่แม่กลัวถ้าเตชินรู้เขาจะไม่ยอม” แม่สามีพูดกับลูกสะใภ้เมื่อเธอพามาถึงโรงพยาบาล ที่ได้โทรศัพท์มานัดหมายไว้ล่วงหน้าแล้ว เฌอปรางรู้สึกแปลกใจที่เด่นจันทร์ดูรีบมีหลานมาก อยากมีคงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่การแสดงออกมันทำให้รู้ว่ารีบมาก “ไม่เป็นไรค่ะ มันก็เหมือนกับเราได้มาวางแผนครอบครัว ถ้าหากวันใดท้อง ตัวน้อยก็จะได้แข็งแรงด้วยค่ะ” คนพามาส่งยิ้มให้กับความโง่ของลูกสะใภ้ ที่เชื่อเธอทุกอย่างไม่ว่าเธอจะให้ทำอะไร คุณหมอแนะนำเรื่องการดูแลสุขภาพร่างกายทั้งของสามีและภรรยา มีการแจ้งวันที่ไข่ตก เพื่อจะได้ผลที่ดีมากขึ้น เฌอปรางคุยกับหมอไปก็เขินไปด้วย เพราะเธอไม่เคยพูดเรื่องแบบนี้ต่อหน้าคนอื่น “เราเลือกเพศได้ไหมคะคุณหมอ” เด่นจันทร์ถามขึ้นมาเมื่อเห็นทางคุณหมอไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ เธออยากได้หลา
ตอนที่ 7ความสุข(ปลอม)หลังแต่งงาน งานแต่งงานถูกจัดขึ้นอย่างหรูหราและใหญ่โตสมกับ เป็นลูกชายคนเดียวของเจ้าแม่สถาบันความงาม ที่มีทรัพย์สินนับรวมแล้วเป็นร้อยล้าน ทั้งที่ส่วนใหญ่ทางครอบครัวของฝ่ายหญิงเป็นคนจัดการ ฌอนน้องชายคนเดียวของเฌอ ทำหน้าที่ช่วยพ่อกับแม่จัดเตรียมงานให้พี่สาว ฌอนกับเตชินเคยเจอกันหลายครั้งแล้ว แต่ด้วยเป็นเด็กผู้ชายโลกส่วนตัวสูง เขาจึงไม่ค่อยคุยกับใคร หลังจากงานกินเลี้ยงเสร็จ ทั้งสองคนบ่าวสาวก็เดินทางมาเข้าหอที่บ้านของเตชิน ลออกับธนทำหน้าที่ส่งตัว ระหว่างที่กำลังนั่งรออยู่ข้างนอกเด่นจันทร์พยายามชวนฌอนคุย แต่เด็กหนุ่มกลับพูดแต่ครับอย่างเดียว เด่นจันทร์สัมผัสได้ถึงความเป็นคนเอาจริงเอาจัง และอารมณ์ร้ายของฌอน เธออยากจะตีสนิทเพราะกลัวอนาคตถ้าเธอตัดสินใจทำอะไรลูกสะใภ้ไปกลัวว่าเจ้าเด็กน้อยหน้านิ่งคนนี้ จะมาเป็นขวากหนามทีหลัง “เรียนจบแล้ว จะไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่ไหน” เด่นจันทร์อยากรู้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะได้อยู่ไกลหรืออยู่ใกล้พี่สาวแค่ไหน “ยังไม่ได้คิดครับ” คนถามถอนหายใจ เธอหมดความพยายามแล้ว นั่
ตอนที่ 6ข้อตกลงของสินสอด เฌอปรางกลับมาที่บ้านพร้อมกับเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทั้งคำพูดและท่าทางของมารดาคนรัก ที่แสดงต่อเธออย่างละเอียดที่สุดเท่าที่เธอจะจำได้ “เฌอไม่ได้ไว้ใจใครง่ายนะคะพ่อกับแม่ ตอนแรกลูกคิดว่าเธอคงจะแกล้งพูดดี ทำดี จนเกินหน้าเกินตา แต่พอไปถึงเธอก็เหมือนปกติเพียงแต่ยิ้มบ้างและดูมีเหตุผล ดูนี่สิคะคุณเด่นจันทร์เขาฝากครีมที่ร้านมาให้แม่ด้วย” ลออเอื้อมมือไปรับของจากมือลูกสาว ถึงเธอจะยังไม่ได้ไว้วางใจในตัวแม่ของเตชินแต่ก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะรับของฝาก “เจ้าแม่สถาบันความงามจริง ๆ ” ลออหยิบของออกจากถุงมาดูที่ละชิ้นว่ามีอะไรบ้าง เพราะมีทั้งแบบที่เป็นขวดเป็นกระปุก “เออ..เฌอ แม่ไม่เคยได้ยินใครพูดถึงสามีของคุณเด่นจันทร์เลยนะ เตชินเคยพูดเรื่องพ่อของเขาให้ฟังบ้างไหมลูก” “ไม่เคยเลยค่ะแม่ เฌอก็ไม่เคยถามนะคะ เพราะกลัวเรื่องนี้จะทำให้เขารู้สึกมีปมด้อย เอ่อ..แม่ของเตชินเขาพูดย้ำเรื่องการแต่งงานด้วยนะคะ พ่อกับแม่คิดว่าอย่างไรกับเรื่องนี้” สีหน้าท่าทางแววตาของคนถามแสดงให้พ่อกับแม่เห็นชัดว่าตัวเธอเอง ก็อยากแต่งงานก
ตอนที่ 5เชื่อใจ เฌอปรางมาตามนัดหมาย เธอพยายามเก็บอาการเพื่อไม่ให้เจ้าของบ้านรู้ว่าเธอไม่ไว้วางใจ เด่นจันทร์เดินออกมาต้อนรับที่หน้าบ้าน เมื่อได้ยินเสียงรถของลูกชายขับเข้ามาจอด “สวัสดีค่ะคุณป้า” หญิงสาวไม่กล้าเรียกว่าคุณแม่ เพราะยังไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะอารมณ์ไหน เด่นจันทร์ทำท่ายิ้มแบขำ ๆ เมื่อถูกเรียกว่าคุณป้าแบบนั้น “ฉันดูแก่ขนาดนั้นเลยเหรอ อายเขาตายเลย เป็นถึงเจ้าแม่ศูนย์ความงาม ยังเพิ่งจะหกสิบเป็นคุณป้าเสียแล้ว” “เอ่อ..คือเฌอไม่รู้จะเรียกว่าอะไรถึงจะเหมาะค่ะ ต้องขอโทษด้วยนะคะ” เฌอปรางหน้าเปลี่ยนสี เธอคิดว่าคงเผลอตัวทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจแล้วแน่ ๆ เจ้าแม่สถาบันความงามเดินมาจับมือเพื่อนสาวของ ลูกชาย ด้วยสายตาที่ไม่ยิ้มจนเกินควร เอาแค่พอดูจริงใจเท่านั้น “เรียกคุณแม่นั่นแหละ ไม่ว่าเธอจะเป็นแค่เพื่อนหรือเป็นแฟนของเตชิน เธอก็ควรจะเรียกว่าคุณแม่” เฌอปรางยิ้มแบบเจื่อน ๆ ให้คนที่กำลังจับมือเธอ และพาเดินเข้าไปในบ้าน ที่มีโต๊ะอาหารตั้งเด่นเป็นสง่ารอท่าอยู่ “ความจริงแม่
ตอนที่ 4เปลี่ยนแผน “เตชินวันนี้ลูกเมามาหรือเปล่าแม่มีเรื่องจะคุยด้วย รับรองว่าเป็นข่าวดี แต่ถ้าลูกเมาไว้วันหลังเราค่อยคุยกันก็ได้นะ” เด่นจันทร์คิดว่าคำว่าข่าวดีจะทำให้ลูกชายกลับมาสนใจเธอและมีรอยยิ้มขึ้นบ้างแต่มันกลับไม่ใช่อย่างที่เธอคิด “เมาครับ ผมขอตัวไปอาบน้ำนอนก่อน ไว้พรุ่งนี้เช้าผมคงไม่เมาแน่นอน คุณแม่ค่อยบอกข่าวดีนะครับ” เด่นจันทร์ฟังคำตอบจากลูกชายเธอทั้งแค้นทั้งเสียใจ เธอโยนความผิดในเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นกับเตชินตอนนี้เป็นเพราะผู้หญิงที่เธอไม่ชอบหน้าเอาเสียเลย ทั้งที่เฌอปรางไม่เคยมา ยุ่งเกี่ยวอะไรกับลูกชายเธออีก แต่คนอย่างเด่นจันทร์โทษตัวเองไม่เป็น เตชินอาบน้ำเสร็จเขานอนเล่นโทรศัพท์แก้เหงา วันนี้ความจริงแล้วเขาไม่ได้เมา ดื่มเบียร์มาแค่หนึ่งกระป๋อง แต่ที่ ชายหนุ่มเลือกพูดแบบนั้นกับมารดา เพราะสำหรับเขามันไม่มีข่าวดีอะไรแล้ว ตั้งแต่วันที่เขาถูกคนรักบอกเลิก เตชินพยายามที่ตอบแทนพระคุณเด่นจันทร์ทุกอย่างและเขาก็จะทำทุกอย่างที่แม่ต้องการ แม้เขาจะไม่หลงเหลือความสุขใดในชีวิตอีก ค่ำคืนแต่ล