เสียงดนตรียังคงบรรเลงด้วยความเพลิดเพลิน บรรยากาศภายในเกาะเป็นไปได้อย่างอบอุ่น เนตรนภา และลูกชาย พากันเดินกินอาหารฟาสฟู้ดจนทั่ว เรียกได้ว่าอิ่มหนำสำราญจนรู้สึกอยากนอนพักผ่อน"สนุกเลยล่ะสิสองแม่ลูก ซื้ออะไรมากินกันบ้างไม่เห็นแบ่งพ่อเลย"เขาเอ่ยแซวภรรยาที่ตอนนี้ลูบท้องตัวเองอย่างรู้สึกอิ่ม และเมื่อได้ยินเสียงของสามีก็รีบเดินเข้ามาสวมกอดเอาไว้หลวม ๆ ส่วนลูกชายก็วิ่งมาสวมกอดเอวคุณพ่ออีกข้างหนึ่ง"อิ่มมากเลยค่ะ มีแต่ของอร่อยทั้งนั้นเลย""น้องบลูเบลก็อิ่มมากเลยครับ ได้กินทั้งไอศกรีมมะพร้าว ลูกชิ้นทอด ขนมโป๊งเหน่ง ขนมไข่เต่า แล้วก็มีบิงชูด้วยนะครับ เยอะแยะไปหมดเลย"เด็กน้อยพูดให้คุณพ่อฟังว่าตัวเองได้กินอะไรบ้าง น้ำเสียงดูสดใสมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก คนเป็นพ่อยื่นมือไปลูบผมลูกชาย จ้องมองใบหน้าของทั้งคู่ด้วยความเอ็นดู"กินเยอะแบบนี้เดี๋ยวก็เดินไม่ไหวกันหรอก ถ้าอย่างนั้นพาพ่อไปชิมหน่อยสิ เมนูไหนอร่อยบ้าง เดินไปเดินมาเริ่มหิวแล้วเนี่ย""ถ้าอย่างนั้นไปกินบะหมี่กุ้งตรงนั้นดีไหมคะ อร่อยมากเลยค่ะ""อร่อยเหมือนกันครับน้องบลูเบลคอนเฟิร์ม""ฮ่า ๆ คอนเฟิร์มเลยเหรอ OK งั้นไปกัน"เขากุมมือลูกชาย และภรรยาคนล
หลังจากที่ลงจากเวทีปราศรัย ทุกคนก็พากันกลับไปยังที่ทำการพรรคชั่วคราว ซึ่งคราวนี้ท่านสมเกียรติค่อนข้างที่จะโดนตักเตือนมาจากผู้บริหารของพรรค เกี่ยวกับการจัดเวทีปราศรัยโดยไม่ดูว่าวันนั้นมีกิจกรรมภายในจังหวัดอะไรบ้าง ซึ่งเขาเลือกที่จะเงียบ และถูกด่าไม่แก้ตัวใด ๆ เพราะถ้าบอกเหตุผลที่เป็นส่วนตัวไปจะต้องถูกเพ่งเล็ง แคนดิเดตนายกอันดับหนึ่งอาจจะต้องหลุดลอยจากมือไป"อย่าทำแบบนี้อีกนะท่านสมเกียรติ ถือว่าครั้งนี้ท่านรู้เท่าไม่ถึงการณ์แล้วกัน เพราะถ้ามีอีกครั้งทางเราอาจจะพิจารณาตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของท่าน""ครับท่าน ผมขอโทษจากใจจริง"ที่ปรึกษาพรรคถอนหายใจออกมาเล็กน้อย บางทีคนเราก็ต้องนึกถึงพรรคการเมืองให้มากกว่านี้ เขาเป็นคนก่อตั้งพรรครักประชาชนขึ้นมา ก็เพื่อประชาชนในประเทศนี้ ไม่ใช่จะเอาแต่ใจตัวเองยังไงก็ได้ ต้องคำนึงถึงส่วนรวมให้มากที่สุดซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายของการก่อตั้งพรรคนี้ขึ้นมาเมื่อ 20 ปีก่อน"ช่างมันเถอะเดินทางกลับกรุงเทพกันได้แล้ว พรุ่งนี้จะต้องไปปราศรัยที่ภาคเหนือ ใกล้จะถึงเวลาเลือกตั้งเราไม่มีเวลามากหรอก""ครับท่าน"ท่านสมเกียรติกำมือแน่นพยายามสะกดกลั้นอารมณ์ของตัวเองไม่ให้หงุดหงิ
ช่วงเย็น...ท่านสมเกียรติ และภรรยา มีนัดกินข้าวกับครอบครัวเพื่อนสนิท ซึ่งทางนั้นก็ทำธุรกิจเกี่ยวกับการนำเข้าเพชรพลอย รวมถึงไข่มุกอัญมณีน้ำงาม และเขามีลูกชายที่เพิ่งกลับมาจากเมืองนอก วางแผนไว้ว่าจะให้ลูกสาวแต่งงานด้วย แต่ก็ทำให้ผิดหวังเมื่อเนตรนภาหนีออกจากบ้าน เจอตัวอีกทีก็ไปอยู่กับผู้ชายแถมยังท้องป่องหนีไปอยู่ต่างประเทศอีก คิดแล้วยังเจ็บใจไม่หายเลย อุตส่าห์เลี้ยงมาอย่างดีแต่กลับทำเรื่องน่าอับอายซะได้"คุณไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น เรื่องนี้ผมจะเป็นคนจัดการเอง""ได้ค่ะ ฉันจะอยู่เงียบ ๆ ไม่พูดอะไรทั้งนั้น""ก็ดี"เขายื่นมือไปตรงหน้าภรรยาเพื่อให้เธอจับ คุณหญิงนพรัตน์ควงแขนสามีก็จะพากันเดินเข้าไปยังร้านอาหารสุดหรู ซึ่งมีผู้ติดตามตามมาด้วยอยู่ประมาณห้าคน การเป็นนายกรัฐมนตรีทำให้เขาเดินทางไปไหนลำบาก ถ้าไม่มีผู้ติดตามไปด้วยก็จะถูกประชาชนรุมล้อมขอถ่ายรูป ซึ่งบางทีเขาก็ไม่ได้มีเวลาที่จะพบปะผู้คนทุกเวลาขนาดนั้น"สมเกียรติทางนี้"เพื่อนของเขากวักมือเรียกทันทีเมื่อเปิดประตูออกมาแล้วบังเอิญเจอกัน เขาเดินเข้าไปหาเพื่อนรักก่อนจะสวมกอดกันด้วยความคิดถึง"เป็นไงบ้างวะสบายดีไหมดนัย""แน่นอนอยู่แล้ว นี่ลูกชา
หลังจากที่ท่านสมเกียรติ และเพื่อนรักแยกย้ายกัน เขาก็เดินทางกลับมาที่คฤหาสน์สุดหรูของตัวเอง หยิบโทรศัพท์กดโทรไปหาลูกสาว ซึ่งได้เบอร์ติดต่อมาจากลูกน้องอีกทีในขณะที่เนตรภากำลังเอาลูกเข้านอนพร้อมกับสามี ไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ก็ปล่อยให้น้องบลูเบลนอนเล่นอยู่กับคุณพ่อ ส่วนเธอก็ไปรับโทรศัพท์ก่อน"สวัสดีค่ะเนตรนภาพูดสายค่ะ"หญิงสาวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสาย จากนั้นก็เอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ก่อนจะชะงักไปเมื่อเสียงปลายสายตอบกลับมา ซึ่งเป็นเสียงอันคุ้นเคยดี(นี่พ่อเอง)"คุณพ่อ มีอะไรหรือเปล่าคะ"หญิงสาวเอ่ยออกมาก่อนจะเหลือบสายตาหันไปมองชายคนรัก ซึ่งดูเหมือนว่าเขาจะได้ยินเธอคุยโทรศัพท์กับคุณพ่ออยู่ เธอกดเปิดลำโพงเพื่อให้ได้ยินทั่วห้อง จะได้ไม่ต้องมานั่งอธิบายกับสามีว่าเมื่อครู่คุยอะไรกัน(จะชวนมากินข้าวที่บ้าน พรุ่งนี้เจอกันตอนเย็นพาหลานมาด้วยล่ะพ่ออยากเจอ)"พ่อไม่ได้คิดที่จะทำอะไรไม่ดีใช่ไหมคะ ตอนนี้คุณพ่อกำลังทำให้หนูระแวง"หญิงสาวพูดออกมาอย่างไม่ปิดบัง คนแบบนั้นไม่มีทางที่จะชวนเธอไปกินข้าวเพราะคิดถึงหรอก ยิ่งให้พาหลานกลับไปด้วยต้องมีอะไรบางอย่างแน่(แกจะคิดกับพ่อในแง่ร้ายขนาดนั้นเลยหรือไง
ในตอนนี้เนตรนภา และครอบครัวนั่งกินข้าวด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา ส่วนน้องบลูเบลก็ดูจะเอาใจคุณตาไม่น้อย ข้อดีของลูกชายเธอคือเขาเป็นคนเอาใจใส่กับทุกคน และรู้ว่าควรเข้าหาคนไหนจะดีกับตัวเอง"คุณตาชอบกินผักไหมครับ คุณแม่บอกว่ากินผักแล้วจะแข็งแรงนะ คุณตาลองกินดูสิครับ""ตาก็ชอบกินผักอยู่แล้ว ว่าแต่เราเถอะกินได้หรือไง ปกติเด็กเขาไม่กินผักกันนี่""น้องบลูเบลกินได้ครับ เดี๋ยวกินให้คุณตาดูนะ"เด็กน้อยเอ่ยออกมาพร้อมกับหยิบแตงกวาใส่ปากก่อนจะเคี้ยวแก้มตุ่ย ท่านสมเกียรติเห็นแบบนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างเอ็นดูเด็กน้อย และนี่เป็นครั้งแรกแล้วมั้งที่เขาดูอ่อนโยน ถ้าเป็นปกติน่าจะข่มขู่เสียงแข็ง แล้วก็บังคับคนนั้นคนนี้ให้ทำตามใจตัวเอง"เก่งเหมือนกันนะเนี่ย งั้นเดี๋ยวตากินให้ดูบ้าง"ทุกคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะดูผ่อนคลายขึ้นเมื่อผู้ใหญ่ของบ้านดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ตอนแรกเธอก็มีความกังวลว่าคุณพ่อเรียกให้กลับมามีเหตุผลอะไรหรือเปล่า บางทีท่านอาจจะแค่คิดถึงหลานก็ได้"คุณตาเก่งจังเลยครับ ถ้าอย่างนั้นเรามากินผักกันดีกว่าจะได้แข็งแรง"เด็กน้อยพยายามเอาอกเอาใจคุณตา เพราะไม่อยากให้สถานการณ์ดูน่าอึดอัด เนื่องจากว่าก่อนหน้านี้น้องบ
เนตรนภากุมมือลูกชายเดินออกมาตรงหน้าบ้าน ซึ่งตอนนี้รถตู้คันหรูที่เธอนั่งมาเคลื่อนที่เข้ามาพอดี และเมื่อประตูถูกเปิดออก ใบหน้าของหญิงสาวก็ยิ้มออกมาทั้งน้ำตา นายหัวบุรินทร์เดินลงมาจากรถ เข้าไปสวมกอดภรรยาเอาไว้แน่น ก่อนจะเอ่ยปลอบโยนเสียงหวาน"ไม่ร้องนะคนดี""ฮึก! หนูคิดว่าคุณพ่อจะเปลี่ยนไปแล้วซะอีก""คนบ้าอำนาจแบบนั้นไม่มีทางคิดได้จนกว่าจะสูญเสียทุกอย่าง เพราะฉะนั้นพี่จะทำให้พ่อของหนูหมดอำนาจเอง"เขาเอ่ยออกมาก่อนจะจ้องมองเข้าไปข้างในตัวบ้าน หลังจากนี้เขาจะไม่เป็นฝ่ายถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียวแล้ว และคุณพ่อของเนตรนภาจะต้องได้รับผลกรรมที่เขาทำไว้ทั้งหมด"ทำไมคุณตาใจร้ายจังเลยครับคุณพ่อ""คุณตาไม่ได้ใจร้ายหรอกครับ เขาแค่หลงระเริงกับอำนาจที่มี บลูเบลไม่ต้องเป็นห่วงนะ พ่อจะทำให้คุณตากลับมาเป็นคนใจดีให้ได้"เขายื่นมือเป็นลูบของลูกชายก่อนจะอุ้มเจ้าตัวเล็กขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน กุมมือภรรยาเดินไปขึ้นรถ จากนั้นก็พากันเดินทางออกไปจากคฤหาสน์ที่เป็นเหมือนนรก มันร้อนรุ่มภายในใจจนใครก็ไม่อยากอยู่ตรงนี้หลังจากที่เดินทางกลับมาถึงที่บ้าน เขาก็พาภรรยา และลูกไปนอนพักผ่อน เนตรนภาร้องไห้ในรถจนตาบวม ตั้งแต่ที่เธอมีลูกแ
เวลานี้นักข่าวยังคงโทรศัพท์มาไม่หยุด จนเขาจะต้องปิดเครื่องเพราะรู้สึกหนวกหู อันที่จริงมันก็ไม่ได้เป็นข่าวแย่อะไรหรอก แค่เพียงไม่อยากยอมรับความจริงก็เท่านั้น ส่วนเพื่อนรักก็โทรศัพท์มาหาโวยวายกับเรื่องที่เกิดขึ้น และครั้งนี้ธุรกิจที่คุยกันน่าจะไปต่อไม่ได้แล้ว แถมยังต้องมาแตกหักกับเพื่อนรักก็เพราะไอ้ลูกเขยตัวดีอีก"ท่านครับ ถ้าเข้าสภาน่าจะมีนักข่าวมารอสัมภาษณ์แน่นอนเลย""วันนี้ยังไม่เข้าแล้วกัน เรื่องราวไม่หยุดหย่อนน่ารำคาญชะมัดเลย"เขากุมขมับก่อนจะหยิบไอแพดมากดดูโซเชียลไปเรื่อย กับเรื่องนักข่าวไม่เท่าไหร่หรอก ประเด็นคือคนในพรรคเนี่ยแหละ ทำให้เขาปวดหัวแน่"พ่อเห็นข่าวหรือยังครับ"ลูกชายเดินเข้ามาในห้องรับแขกพร้อมกับถือโทรศัพท์ที่มีข่าวหน้าหนึ่งประจำวัน การที่นายหัวบุรินทร์ตัดสินใจประกาศถึงสถานะครอบครัว ทั้งที่ผ่านมาเขาไม่เคยเปิด นั่นเท่ากับว่าเขาต้องการปกป้องภรรยา และลูก แสดงว่าเรื่องที่ครอบครัวเราคุยกันเมื่อวาน ทางนั้นรับรู้ทุกอย่างแน่นอนจึงเลือกตัดสินใจทำแบบนี้"เห็นแล้ว น้องแกนี่มันชอบสร้างเรื่องจริง ๆ เลยนะ กลับไปถึงบ้านมันคงรีบวิ่งแจ้งไปฟ้องผัว ดูสิทำงามหน้าไหมล่ะ""ก็ไม่มีอะไรที่ต้
ท่านสมเกียรติเดินทางมาที่บ้านของท่านบรรพตในช่วงค่ำ ท่านเป็นผู้ก่อตั้งพรรครักประชาชน เป็นคนเก่าแก่ และอยู่เบื้องหลังทุกอย่าง เมื่อเดินทางมาถึงเขาก็เข้าไปข้างใน แม่บ้านผายมือเชิญท่านนายกให้เข้าไปนั่งรอที่ห้องรับแขก เพียงไม่นานที่ปรึกษาของพรรคก็เข้ามาหา และให้การต้อนรับเป็นอย่างดี"สวัสดีครับท่าน""สวัสดีท่านนายก อยู่ภูเก็ตไม่ใช่เหรอมากรุงเทพฯ ตอนไหน"ท่านบรรพตเอ่ยถามพร้อมกับขยับตัวนั่งลงตรงโซฟา เขาพอจะทราบข่าวเรื่องวุ่นวายภายใน เพราะโดยปกติจะมีคนมารายงานให้ฟังอยู่แล้ว"ผมตั้งใจเดินทางมาหาท่านก่อน อีกเดี๋ยวจะต้องไปหาเสียงต่อที่ภาคอีสาน ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เข้ากรุงเทพฯ สักเท่าไหร่""ว่ามาสิ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า""ช่วงนี้สถานการณ์ของพรรคดูสั่นคลอน กระแสคู่แข่งก็กำลังมาแรงด้วย ล่าสุดสามีของลูกสาวทำแสบ บริจาคเงินให้พรรคฝั่งตรงข้าม ถ้านักข่าวทราบเรื่องรับรองว่าต้องวุ่นวายแน่"เขารู้สึกเครียดมากในตอนนี้ ก็ไม่คิดว่าเจ้าของเกาะบุรินทร์จะตลบหลังคืนแบบนั้น เจ็บใจตั้งแต่วันเปิดตัวว่าเป็นลูกเขยของเขาแล้ว ทั้งที่ยังไม่แม้แต่จะมาสู่ขอลูกสาวของเขาเลยด้วยซ้ำ"แล้วทำไมถึงไม่ไปเคลียร์กันล่ะ ของแบบนี้มันเคลี
สองปีผ่านไป...ในตอนนี้น้องบีน่าอายุได้สองขวบกว่าแล้ว พูดเก่งมากถามนั่นนี่ไม่หยุด ส่วนพี่ชายคนโตอายุอานามก็ประมาณ 7 ขวบกว่า เข้าเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 พูดภาษาอังกฤษเก่งมาก แถมยังเรียนเก่งที่สุดในรุ่นอีกด้วย เป็นคนที่ไม่เคยทำให้พ่อผิดหวัง แต่นายหัวบุรินทร์ก็ไม่เคยพูดจาคาดหวังกับลูกชาย เพราะไม่อยากกดดันลูกมากนัก อยากให้เขาเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด"บีน่าพี่บอกแล้วไงว่าเวลากินห้ามใช้มือจับแบบนี้ ต้องใช้ส้อมจิ้มก่อน มานี่ครับเดี๋ยวพี่จะสอน"น้องบลูเบลอุ้มน้องสาวให้มานั่งที่เก้าอี้ จากนั้นก็ใช้ส้อมจิ้มผลไม้ที่อยู่ในจาน จากนั้นก็ส่งไปให้น้องสาวเธอไว้ หยิบทิชชูเช็ดริมฝีปากให้ด้วยความห่วงใย"อันนี้อย่อย""อร่อยก็กินเยอะ ๆ เลย ถ้าเกิดว่าหมดเดี๋ยวพี่ไปเอาใหม่มาให้ แล้วดูสิมือเลอะหมดเลยเห็นไหม เดี๋ยวพี่เช็ดให้ดีกว่า"พี่ชายคนดีใช้ผ้าขนหนูค่อย ๆ เช็ดมือให้น้องสาว ตั้งแต่น้องคลอดออกมาจนถึงตอนนี้ เขาดูแลน้องและหวงแหนเป็นอย่างมาก คนเป็นพ่อแม่สะกิดนิดเดียวยังไม่ได้เลย น้องร้องไห้ก็โอ๋เอง เรียกได้ว่าห่วงน้องหนักจนคนเป็นแม่เริ่มกังวล"พี่บุรินทร์คะ เนตรว่าน้องบลูเบลห่วงน้องหนักมากเกินไปนะคะ ถ้าเ
ช่วงค่ำ...ในตอนนี้ท่านบรรพต คุณหญิงผกากรอง ท่านสมเกียรติ และคุณหญิงนพรัตน์ รวมถึงลูกชายซึ่งก็คือท่านนายกคนปัจจุบัน และแฟนของเขา นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารใจกลางคฤหาสน์สุดหรูของนายหัวบุรินทร์ และมีเนตรนภากับลูกชายนั่งอยู่ร่วมโต๊ะเช่นกัน"บลูเบลดีใจจังเลยครับที่ทุกคนมาเที่ยวหา""โธ่เอ๊ยเด็กแสบ ใครก็อยากจะมาอยู่กับเราทั้งนั้นแหละ แต่ทุกคนก็ต้องทำงานไง เข้าใจใช่ไหมครับ""เข้าใจอยู่แล้วครับ แค่นี้ก็ดีใจมากแล้วครับคุณลุง ถ้างั้นเรากินข้าวกันเถอะครับผมหิวแล้ว"เด็กน้อยชี้นิ้วไปที่หมูกรอบชิ้นใหญ่ตรงหน้า คุยโม้นักหนาว่าตัวเองชอบกินผัก แต่พออาหารตรงหน้าเป็นหมูกรอบ กับเลือกที่จะทิ้งสิ่งที่ชอบไว้บนจานทันที"แล้วบอกว่าตัวเองชอบกินผัก แต่เห็นหมูกรอบทีไรหยิบใส่ปากทันทีเลยนะ""แฮะ! ก็มันอร่อยนี่ครับ กรอบมาก"เด็กน้อยเอ่ยออกมาก่อนจะหยิบหมูกรอบใส่ปากอย่างเอร็ดอร่อย ผู้ใหญ่ที่เห็นก็หัวเราะออกมาอย่างชอบใจ การมีเด็กมาวิ่งเล่นทั่วบ้านก็ทำให้พวกผู้ใหญ่ไม่เหงาเลย พูดจ้อไม่หยุดทำให้ทุกคนมีเรื่องสนทนาคุยกันทั้งวันทั้งคืน โดยเฉพาะเรื่องของหลานกลายเป็นบทสนทนาหลักในการคุยกันเสร็จแล้ว"แล้วเจ้าตัวเล็กอีกคนล่ะจะคลอดเมื่
และในที่สุดก็การประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ซึ่งพรรครักประชาชนได้คะแนนเสียงจากประชาชนอย่างล้นหลาม ได้เก้าอี้คะแนนเสียงเกินครึ่งของสภา สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้โดยไม่ต้องมีพรรคร่วม"ดีใจด้วยนะเนติในที่สุดก็ทำได้"นายหัวบุรินทร์ถือช่อดอกไม้มาแสดงความยินดีให้กับว่าที่นายกคนใหม่ รวมถึงเนตรนภาที่วิ่งเข้ามาสวมกอดพี่ชายด้วยความดีใจ"ดีใจจังเลยมีพี่ชายได้เป็นนายกแล้ว""ขอบคุณมากนะน้องสาว เพราะว่าเนตรมีสามีเป็นพี่บุรินทร์ เขาดีกับครอบครัวเรามาก แถมยังทำให้คุณพ่อเปลี่ยนไปเป็นคนละคนอีก ผมขอบคุณมากเลยนะครับสำหรับทุกอย่าง"เนติยกมือขอบคุณผู้ชายตรงหน้า เพราะเขาจึงทำให้ครอบครัวของเรากลับมารักกันเหมือนเดิม เปลี่ยนให้คุณพ่อกลายเป็นคนธรรมดา ไม่บังคับจิตใจของคนในบ้านอีกส่วนไอซ์ตอนนี้ก็เข้าไปอยู่ที่คฤหาสน์หลังใหญ่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แถมคุณพ่อกับคุณแม่ยังลงทุนเปิดคาเฟ่ให้อีก เรียกว่าตอนนี้กลายเป็นลูกรักแทนที่เขาเรียบร้อยแล้ว เพราะว่าไอซ์เขาเรียนเชฟมา ทำอาหารอร่อย ทำขนมก็เก่ง คุณพ่อกับคุณแม่ถูกใจมากเอ่ยปากชมไม่มีหยุด เขาก็เลยตกกระป๋องไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว"ขอบคุณอะไรนักหนาเนี่ย ทั้งพี่ทั้งน้องเลยนะ
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา...ตอนนี้อยู่ในช่วงลงคะแนนเสียง และช่วงค่ำน่าจะรู้แล้วว่าพรรคไหนจะได้คะแนนเสียงเยอะที่สุด ดูจากผลสำรวจก็น่าจะไม่ผิดโผสักเท่าไหร่ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้"เดี๋ยวจะเริ่มนับคะแนนกันแล้ว หวังว่าพรรคของเราจะได้ทำเพื่อประชาชนอีกสมัยหนึ่งนะ"และที่ทำการพรรคทุกคนกำลังนั่งประชุมกันอยู่ และก็จะมีตัวแทนของแต่ละพรรค เข้าดูการนับคะแนนในแต่ละเขต เพื่อไม่ให้เกิดการทุจริตในช่วงการนับคะแนนที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าและที่ทำการพรรคจะมีโปรแกรมนับคะแนนแบบไม่เป็นทางการ ซึ่งตัวแทนที่อยู่ประจำหน่วยยืนดูเขานับคะแนน จะแจ้งผลเบื้องต้นให้ทางนี้รับทราบ ซึ่งคะแนนจะไม่เป็นทางการแต่ก็พอเดาได้ว่าพรรคไหนที่มีคะแนนนำในเวลานั้น"ยังไงผมต้องขอบคุณทุกคนมากเลยนะครับ ที่คอยแนะนำแล้วก็ให้โอกาสเด็กรุ่นใหม่อย่างผม ถ้าเกิดว่ามีโอกาสในการได้เป็นนายกรัฐมนตรี ผมจะตั้งใจทำเพื่อประชาชน แล้วก็จะไม่ทำให้ผู้ใหญ่ในพรรคผิดหวังเด็ดขาด"เนติขยับตัวลุกขึ้นก่อนจะเอ่ยออกมาสัญญากับทุกคนที่อยู่ภายในห้องประชุมนั้น ถึงแม้ว่าทุกคนจะไม่ได้เลือกให้เขามายืนอยู่จุดนี้ แต่เป็นเพราะอำนาจของพี่เขยที่ยื่นข้อเสนอใ
ชายหนุ่มดึงรั้งตัวภรรยาให้มานั่งลงอยู่บนเตียงนอน แต่เนื่องจากเธอมีอายุครรภ์ที่ค่อนข้างโต จึงไม่สามารถขึ้นไปคร่อมอยู่บนตัวของเธอได้ จึงเปลี่ยนใจอุ้มคนรักให้ขึ้นมาอยู่บนตัวของเขาแทน"ลำบากเหมือนกันนะคะเนี่ย"หญิงสาวถึงกับหลุดขำออกมาเมื่อการมีเซ็กซ์ของคุณแม่ลูกสองค่อนข้างดูทุลักทุเลไม่น้อย แต่เพื่อความสุขของสามียังไงเธอก็ต้องยอม มันไม่ใช่ข้ออ้างในการไม่ให้ความสุขแก่คนรัก เพราะถึงแม้จะท้องโตแต่ก็ใช่ว่าจะมีไม่ได้สักหน่อย"ไม่ลำบากหรอกหนูก็อยู่ข้างบนนั่นแหละ เดี๋ยววันนี้พี่จะทำเบา ๆ เดี๋ยวหนูจะปวดท้องเอาได้"เขานอนราบลงกับเตียง ก่อนจะจับเอวเล็กของภรรยาทั้งสองข้างจึงรั้งขึ้นมาบนตัวของเขา จากนั้นก็ค่อย ๆ เลิกกระโปรงขึ้นไปไว้ที่ช่วงเอวของเธอ ใช้นิ้วเรียวถูไถยังน้องสาวเพื่อเล้าโลมภรรยาสุดที่รัก"อื้อ อ้าส์~"เนตรนภาถึงกับสะกดกั้นอารมณ์ของตัวเองไว้ไม่ไหว ถึงแม้จะท้องโตขนาดนี้ แต่เรื่องบนเตียงเขาก็ยังคงทำให้เธอมีความสุขได้เสมอ โชคดีที่ชายหนุ่มเป็นคนมีเหตุผล เข้าใจว่าธรรมชาติของคนท้องไม่เหมือนกับมนุษย์ปกติทั่วไป เขาจะมีวิธีในการทำให้เธอมีความสุขโดยที่ไม่ต้องใช้ความรุนแรงเหมือนทุกครั้ง"หอมจัง""ไม
ท่านสมเกียรติรู้สึกเกร็งไม่น้อยเลยกับการมาอยู่ที่นี่ อาจจะเพราะว่าตัวเองทำผิดพลาดไว้มาก แต่คนในครอบครัวไม่ถือโทษโกรธแถมยังให้อภัยง่ายดาย มันยิ่งทำให้เขารู้สึกแย่ในการกระทำของตัวเอง และสัญญาว่าจะไม่ทำเหมือนอย่างอดีตที่ผ่านมาอีก"คุณหญิงผมขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม""กินข้าวก่อนดีไหมคะ เดี๋ยวค่อยคุยก็ได้"คุณหญิงนพรัตน์รู้ดีว่าเขาเป็นกังวลมากแค่ไหน เธอกับลูกคุยกันว่าถ้าเจอคุณพ่อจะไม่มีใครพูดเรื่องอดีต เพราะสิ่งที่เขาได้รับมันหนักหนามากพออยู่แล้ว แต่ดูเหมือนว่าเขายังคงมีอะไรภายในใจอยู่"คุยตอนนี้แหละ""ก็ได้ ลูกไปกินข้าวก่อนเลยนะ แม่กับพ่อจะไปคุยกันแป๊บหนึ่ง"เนตรนภา และนายหัวบุรินทร์ยิ้มออกมาก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็กุมมือลูกชายพากันเดินเข้าไปยังห้องอาหาร ปล่อยให้พวกผู้ใหญ่ได้เคลียร์ใจกันให้จบ จะได้ไม่มีอะไรติดค้างกันอีก"มีอะไรเหรอคะ ฉันไม่ได้โกรธหรือติดใจอะไรทั้งนั้น คุณจะคิดมากทำไม"คุณหญิงเอ่ยออกมาก่อนจะกุมมือของสามีเอาไว้ทั้งสองข้าง ท่านสมเกียรติดึงภรรยาเข้ามาสวมกอดอย่างกลัวว่าเธอจะหายไปไหนอีก เพียงแค่ไม่กี่สัปดาห์ที่เขาใช้ชีวิตอยู่คนเดียว มันโดดเดี่ยว และรู้สึกทรมานหัวใจมาก จากที
เมื่อจบประโยคของลูกเขยท่านสมเกียรติก็นิ่งเงียบไปทันที ไม่รู้จะเอาประโยคไหนมาเถียงกลับ เพราะทุกสิ่งอย่างที่เขาทำมันก็เป็นประโยชน์ต่อตัวเขาทั้งนั้น เวลาผ่านมาที่เขาอยู่คนเดียว และคิดทบทวนกับทุกสิ่ง มันก็ได้คำตอบที่แน่ชัดเราว่าท้ายที่สุดตัวเราเองก็ต้องการแค่ครอบครัวที่อบอุ่นเท่านั้น"รู้แล้วน่าว่าฉันผิด แต่คงแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ทั้งลูกแล้วก็เมียหนีออกไปหมดเลย""ทำไมจะแก้ไขอะไรไม่ได้ล่ะครับ ไม่มีใครเกลียดคุณพ่อเลยสักคน ทุกคนแค่รอว่าคุณพ่อจะเป็นคนใหม่ตอนไหนก็เท่านั้น แต่ว่าตอนนี้ดีขึ้นเยอะเลยนี่ครับ ผมว่าน่าจะถึงเวลาแล้วที่คุณพ่อควรจะแก้ไขทุกอย่างที่เคยทำผิดพลาด ทุกคนพร้อมให้โอกาสนะครับ แล้วอีกอย่างหนึ่งกำลังจะเป็นคุณตาที่มีหลานถึงสองคน ทำหน้าตาให้มันดูสดใสหน่อยสิครับ"ท่านสมเกียรติถึงกับขมวดคิ้วด้วยความสงสัย หมายความว่ายังไงที่บอกว่าเป็นคุณตาที่มีหลานถึงสองคน"นายหมายความว่ายังไง""ก็หมายความว่าตอนนี้เนตรกำลังอุ้มท้องลูกคนที่สองอยู่ ถ้าคุณพ่ออยากอยู่กับหลานผมแนะนำให้เป็นคนใหม่แล้วก็ไปง้อลูกง้อเมียนะครับ แต่ถ้าเกิดว่าไม่ก็คงจะต้องได้ใช้ชีวิตอยู่คนเดียวจนตาย""ปากดีนักนะแกเนี่ย"ถึงจะบ่นแบบ
เวลาผ่านไป...หลังจากที่นายหัวบุรินทร์จัดการทุกอย่างเรียบร้อย เนตรนภากับลูกก็ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขมากขึ้น ไม่ต้องมาคอยระแวงว่าคุณพ่อจะบังคับให้ทำตามอำเภอใจอะไรอีก และที่สำคัญคุณแม่ย้ายมาอยู่ที่นี่สักพักใหญ่แล้ว ส่วนพี่ชายก็เดินหน้าหาเสียงอย่างเต็มกำลัง เป็นส.สบัญชีรายชื่อลำดับที่ 4 นับเป็นแคนดิเดตนายก ที่ทางพรรคจะส่งเข้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไป"ไม่รู้ว่าตอนนี้คุณพ่อเป็นยังไงบ้าง พี่ชายก็ไม่กลับบ้านเลย คุณแม่ก็มาอยู่ที่นี่ เอาจริงหนูก็เริ่มเป็นห่วงท่านอยู่นะคะ"เนตรนภาเอ่ยออกมาด้วยใบหน้าเป็นกังวล ถึงแม้ว่าท่านจะทำตัวใจร้ายกับคนในครอบครัว แต่เธอไม่ใช่คนแบบนั้น ยังไงท่านก็เป็นคุณพ่อ ห่างหายกันไปนานแบบนี้ต้องอดเป็นห่วงไม่ได้ โดยเฉพาะตอนนี้ท่านอยู่คนเดียวด้วย"เดี๋ยวพี่ไปดูให้ ก็ไม่คิดว่าจะใจแข็งขนาดนี้นะ แต่เอาจริงก็ไม่ค่อยแปลกใจสักเท่าไหร่ คนดื้อรั้นแบบนั้นไม่ยอมฟังใครง่าย ๆ แน่"นายหัวบุรินทร์อุ้มภรรยาให้ขึ้นมานั่งลงบนตัก ลูบหน้าท้องของคนรักด้วยความเอ็นดู ตอนนี้เธอกำลังตั้งครรภ์อยู่ เขาไม่อยากจะให้คิดมาก ส่วนเรื่องพ่อตาเดี๋ยวจะไปเคลียร์ด้วยตัวเอง"ห้ามเครียดนะรู้หรือเปล่า ตัวเองไม่ไ
ทุกคนไม่คิดว่าสิ่งที่นายหัวบุรินทร์ต้องการจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ท่านนายกคนปัจจุบันกำลังจะอำลาตำแหน่ง เนื่องจากว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งตอนนี้เขายังทำหน้าที่รักษาการอยู่ ประชาชนค่อนข้างที่จะรักท่านนายกรัฐมนตรีคนนี้มาก และถ้าเกิดว่าจะต้องเปลี่ยนแคนดิเดตนายกในเวลานี้ อาจจะทำให้ประชาชนเปลี่ยนใจเทคะแนนเสียงไปที่พรรคอื่นก็เป็นได้"ทำแบบนี้พรรคเราจะแย่เอานะครับ ประชาชนค่อนข้างรักท่านสมเกียรติ พวกเราถึงเลือกแคนดิเดตนายกเป็นท่านดังเดิม""ไร้สาระน่า การที่ประชาชนจะเลือกใครสักคนไม่ได้ขึ้นอยู่กับคนคนเดียว พรรครักประชาชนสู้เพื่อประชาชนมาโดยตลอดเกือบ 20 ปี ไม่ว่าแคนดิเดตนายกจะเป็นใคร ผมเชื่อว่าประชาชนจะยังคงเลือกพรรคของเรา"ทุกคนไม่มีใครพูดหรือเถียงนายหัวบุรินทร์กลับ เนื่องจากว่าสิ่งที่เขาพูดมานั้นไม่ได้ผิดไปเลยแม้แต่น้อย เพียงแค่ประชาชนไว้ใจพรรคไม่ว่าจะเลือกใครขึ้นมาเป็นผู้นำ ทุกคนก็พอใจทั้งนั้น ขอแค่เห็นประโยชน์ของประชาชนมาก่อนเสมอ แค่นี้ก็จะชนะใจคนทั้งประเทศได้แล้ว"ก็ได้ถ้านายต้องการแบบนั้น ถ้าอย่างนั้นก็ชี้ตัวมาเลยสิว่าจะเลือกใครมาแทนที่ฉันในตอนนี้ แต่ขอหาคนที่เห