หลังจากวันนั้นกลอยใจก็ไปเล่นกับเด็ก ๆ ที่ชุมชนบ้านพักคนงานเป็นประจำ เพราะมีลูกคนงานหลายคนที่ยังไม่ได้ไปโรงเรียน เธอเอาของเล่นมาให้บ้าง ขนมแล้วก็เสื้อผ้า บางทีก็มากินส้มตำกับคนงานผู้หญิงชาวอีสานโดยเฉพาะส้มตำปูปลาร้าอย่างแซ่บ เธอมาเพราะเหงาด้วยส่วนหนึ่ง แล้วอีกอย่างก็อยากมาหาข้อมูลเพื่อเอาไปเป็นวัตถุดิบในการเขียนนิยายของเธอด้วย
ตอนนี้กลอยใจรู้แล้วว่ากันต์เป็นเจ้าของสวนผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัด ในตอนแรกที่เธอรู้ความจริงนั้นเธอยังไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่เธอคิดว่ากันต์แต่งเรื่องเพื่อให้เธอสบายใจ เธอพูดเกลี้ยกล่อมให้เขาบอกความจริงมาว่าเขาเป็นแค่หัวหน้าคนงาน จนเขาต้องพาเธอไปถามป้าสุนีย์กลอยใจถึงได้เชื่อ "คุณกลอยได้แล้วจ้ะ" กุหลาบ สาวน้อยวัยยี่สิบยกถาดส้มตำมาวางลงตรงหน้าของกลอยใจ "ว้าวว..น่าทานจัง ไม่เผ็ดใช่ไหมคะ ?" "บ่อเผ็ดจ้า" ตอบกลอยใจไปแล้วก็หันไปเรียกน้ำผึ้งเพราะเธอเดินผ่านมาพอดี "อ้าว..พี่ผึ้ง มากินส้มตำด้วยกันจ้ะ" "ไม่ล่ะ เหม็นปลาร้า" พูดจบก็สะบัดหน้าเดินผ่านกุหลาบแล้วก็กลอยใจไปที่ร้านค้า กุหลาบทำหน้างงเพราะเมื่อก่อนน้ำผึ้งก็เคยกินส้มตำปูปลาร้ากับเธอบ่อย ๆ ส่วนกลอยใจก็ได้แต่นึกขำกับท่าทางของน้ำผึ้ง กลอยใจคุยกับกันต์จริงจังแล้วเรื่องน้ำผึ้ง กันต์ไม่ได้คิดอะไรกับเธอจริง ๆ ถ้าคิดเกินเลยกับเธอเขาจะประกาศหาเมียผ่านแอพหาคู่ทำไม "แซ่บบ่อจ้า" กุหลาบถามกลอยใจถึงรสชาดของส้มตำฝีมือเธอ "อร่อยมากเลย" "ถ้าเผ็ดกว่านี้จะดีมาก" "ฉันทานเผ็ดไม่ได้ เดี๋ยวมันจะปวดท้อง เดี๋ยววันหลังเราค่อยแยกครกตำเนาะ" "จ้า" งานในสวนจะมีทุกวันแต่ว่าหาญกล้าจะจัดวันหยุดให้ทุกคนอาทิตย์ละวันสลับกันไป ซึ่งวันนี้ก็เป็นวันหยุดของกุหลาบพอดี กลอยใจชอบคุยกับกุหลาบเพราะมีกุหลาบและน้ำผึ้งที่อายุไล่เลี่ยกับเธอ นอกนั้นก็เป็นคุณป้าและมีครอบครัวกันหมด แต่ว่าน้ำผึ้งนั้นคงไม่อยากคุยกับเธอแน่นอน ช่วงนี้กันต์ยุ่ง ๆ เพราะว่าเป็นช่วงเก็บผลไม้ทั้งลองกอง เงาะแล้วก็ทุเรียน โดยเฉพาะทุเรียนนั้นกันต์ต้องไปดูแลเองทุกขั้นตอนเพราะว่าได้ทำสัญญาส่งขายให้ประเทศจีนด้วย กลอยใจจึงไม่ได้เจอหน้าเขามาสองสามวันแล้ว เขากลับมาดึกตอนที่เธอหลับไปแล้วเวลาออกจากบ้านก็ไปตั้งแต่ไก่โห่เธอยังไม่ตื่น "คุณกลอย" เด็กผู้ชายสามคนหนึ่งในนั้นมีเกด้วยเดินตรงมาที่เธอซึ่งทานส้มตำอิ่มและกุหลาบเก็บโต๊ะพอดี เธอกับกลอยใจนั่งทานส้มตำที่โต๊ะหน้าร้านค้าในชุมชนบ้านพักคนงาน "ว่าไงคะ เอาขนมมั้ย ?" "เอาครับ" "ไปหยิบเลย" เด็กทั้งสามคนจึงเดินไปหยิบขนมมาคนละห่อ กลอยใจจ่ายเงินแล้วก็พาเด็ก ๆ กลับมานั่งที่โต๊ะเหมือนเดิม แกะขนมให้เด็กชายทั้งสามคน "ที่นี่ไม่มีเด็กผู้หญิงเลยเหรอกุหลาบ ?" "มันใหญ่จนไปโรงเรียนกันหมดแล้วจ้ะ เหลือแต่พวกลิงพวกนี้แหละคุณกลอย" กลอยใจนึกขำกับคำเปรียบเทียบของกุหลาบ จะว่าไปแล้วเด็ก ๆ พวกนี้ก็ซนจริงแหละ ปีนป่ายต้นไม้ก็เก่ง หน้าตามอมแมมเลอะเทอะเพราะเล่นดินเล่นโคลน "มา ๆ เดี๋ยวน้ากลอยอ่านนิทานให้ฟัง" เธอสั่งหนังสือนิทานอีสปมาจากร้านค้าออนไลน์เพื่อมาอ่านนิทานให้เด็ก ๆ ฟังโดยเฉพาะ แต่รู้สึกว่าเด็ก ๆ จะไม่ชอบเท่าไหร่ พวกเขาชอบเล่นรถของเล่นแล้วก็ชอบปั้นดินน้ำมันมากกว่า กลอยใจอยู่กับกันต์อย่างมีความสุข แม้ชีวิตที่นี่จะเรียบง่ายแต่ก็สงบ เผลอแป๊บเดียวเธอมาอยู่กับเขาได้สองเดือนแล้ว ข่าวคราวของเกมส์กับน้ำฟ้าก็มีมาให้เห็นบ้างในหน้าฟีดเฟสบุค แต่น่าแปลกที่เธอแทบจะไม่รู้สึกอะไรแล้ว เธอเลือกที่จะไม่บล็อคบุคคลทั้งสองเพื่อพิสูจน์ว่าเธอไม่ได้เจ็บอะไรมากมาย เกมส์ยังโทรมาหาเธอบ้างแต่เธอไม่เคยรับสาย เรื่องราวในอดีตของเธอนั้นยังไม่ได้เล่าให้กันต์ฟัง กลอยใจคิดว่าอีกไม่นานเธอต้องเล่าให้เขาฟัง แต่ขอเวลาอีกสักหน่อยละกัน อยู่เล่นกับเด็ก ๆ และคุยกับกุหลาบจนบ่ายคล้อยเธอจึงขอตัวกลับ ขี่รถเครื่องที่กันต์ซื้อให้เพื่อเอาไว้ให้เธอไปไหนมาไหนใกล้ ๆ แถวนี้กลับ วันหยุดคราวหน้าของกุหลาบสองสาวนัดกันว่าจะพากันเข้าเมืองเพื่อไปตลาดนัด กลอยใจอยากไปหาซื้อเสื้อผ้าสักหน่อยไม่ได้ช็อปนานแล้ว เมื่อมาถึงบ้านเธอก็พบว่าสามีของเธอกลับมาแล้วและเขากำลังทำกับข้าวอยู่ กลอยใจรีบวิ่งไปกอดเขาด้วยความคิดถึง กันต์เองก็หัวใจพองโตเพราะครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เธอเข้าหาเขาก่อน กอดตอบเธอด้วยอารมณ์คิดถึงไม่แพ้กัน "ทำไมไม่โทรบอกกลอยล่ะว่ากลับมาแล้ว" "ฮื้อ..เหม็นจังไปกินอะไรมา ?" กันต์ไม่ตอบคำถามแต่หอมแก้มเธอฟอดใหญ่แทน แล้วย่นจมูกและถามเธอกลับ "ตำปูปลาร้า เหม็นจริงเหรอคะ ?" "จริงสิ ไปอาบน้ำไปแล้วมากินข้าว ไข่เจียวหมูสับเสร็จแล้ว" กันต์ตอบเธอยิ้ม ๆ เหม็นที่ไหนล่ะเมียเขาหอมจะตาย เธอทำตามอย่างว่าง่ายเดินเข้าห้องไปอาบน้ำเพื่อมากินกับข้าวฝีมือสามี กันต์ทำไข่เจียวหมูสับเพราะได้น้ำพริกกะปิมาจากบ้านป้าสุนีย์ น้ำพริกกะปิทานกับผักสดเช่นแตงกวา ลูกตอแล้วก็ลูกเนียงอร่อยอย่าบอกใคร "งานเสร็จแล้วเหรอคะ ?" ระหว่างทานข้าวก็สอบถามถึงเรื่องงานของเขาไปด้วย "ส่งทุเรียนล็อตแรกออกไปแล้วก็มีเวลาพักอีกสองสามวัน" ทานข้าวอิ่มเก็บล้างจานชามก็เกือบหกโมงเย็น กันต์ไปอาบน้ำอาบท่าส่วนกลอยใจเขียนนิยายต่อ งานเขียนของเธอคืบหน้าไปมากเพราะอยู่ที่นี่บรรยากาศที่เงียบสงบทำให้ไอเดียบรรเจิดเขียนได้น้ำไหลไฟดับ อาบน้ำเสร็จแล้วกันต์ก็มาทำบัญชีประจำเดือนและเตรียมเงินไว้สำหรับจ่ายเงินเดือนให้กับคนงาน กลอยใจเห็นสามีทำหน้ายุ่ง ๆ อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เธอจึงเข้าไปดูเขา "มีอะไรให้กลอยช่วยไหมคะ ?" "กลอยช่วยเอาเงินใส่ซองตามรายชื่อและจำนวนที่ผมทำรายการไว้ให้หน่อยครับ" "ได้ค่ะ แต่กลอยว่าคุณกันต์น่าจะปริ๊นท์ออกมานะคะจะได้ดูง่ายกว่า" มิน่าเขาถึงทำหน้ายุ่ง เพราะรายการเงินเดือนและรายชื่อนั้นมันอยู่ในเครื่อง จ้องไปจ้องมาก็ตาลาย เมื่อก่อนก็ไม่มีปัญหาอะไรแต่พักหลังมานี่เป็นเพราะมีเมียหรือเปล่าก็ไม่รู้ รู้สึกว่ากำลังวังชาจะถดถอยสายตาก็เหนื่อยล้าง่าย กันต์หัวเราะหึในลำคอ 'มีเมียเด็กต้องหมั่นตรวจเช็คร่างกาย' เพลงนี้ลอยเข้ามาในความคิดของเขาทันที "เครื่องปริ๊นท์มันเสีย" "อ้อ..ค่ะ เดี๋ยวกลอยจัดการเอง" กันต์ขยับลุกจากเก้าอี้กลอยใจนั่งลงแทนเขา "ต้องเอาเครื่องปริ๊นท์ไปซ่อม" ระหว่างเอาเงินใส่ซองเธอก็บอกกับเขาไปด้วย "ถ้างั้นพรุ่งนี้ค่อยเอาไป" "ดีมาก เชื่อฟังเมียแล้วจะเจริญ" สองผัวเมียยิ้มให้กันอย่างมีความสุขแล้วก็ช่วยกันนำเงินใส่ซอง พรุ่งนี้จะได้ให้หาญกล้าเอาไปจ่ายให้กับคนงาน กว่าจะเสร็จก็เกือบสี่ทุ่มกลอยใจหาวแล้วหาวอีกเพราะง่วงนอน "ฮ้าววว..ง่วงจัง" ปิดปากหาว กันต์จึงโอบไหล่เธอพาเดินเข้าไปในห้องนอน ปิดไฟก่อนจะล้มตัวนอนลงบนเตียง "คุณกันต์" ล้วงมือเข้าไปในเสื้อนอนของกันต์และลูบไล้หน้าอกแกร่งของเขาอย่างซุกซน ท่าทางง่วงงุนหายไปเป็นปลิดทิ้ง กันต์รีบตะครุบมือเธอเอาไว้ก่อนที่มันจะเลื้อยต่ำลงไปกว่านี้ "ไม่นอนแล้วไง ?" "ไม่นอนแล้ว อยากทำอย่างอื่นมากกว่า""ไม่นอนแล้วไง ?""ไม่นอนแล้ว อยากทำอย่างอื่นมากกว่า"ตอบเขาไปอย่างซุกซน กันต์คำรามในลำคอพลิกตัวขึ้นมาคร่อมร่างเล็กแต่อวบอิ่ม กลอยใจคล้องคอเขาเอาไว้ ตาหวานเยิ้มเผยอปากรอรับจูบจากเขา กันต์เห็นอย่างนั้นก็ไม่รอช้าก้มลงบดขยี้ริมฝีปากช่างยั่วนั้นอย่างร้อนแรง"อือ.."ครางอือในลำคอ จูบตอบเขาร้อนแรงไม่แพ้กัน เสื้อผ้าหลุดลุ่ยเหลือแต่ร่างเปลือยเปล่าทั้งสองคน หน้าอกอวบยังคงเป็นส่วนที่กันต์หลงใหล เขาดูดดึงยอดถันสีชมพูราวกับทารกดูดนม สองมือเค้นคลึงเต้าอวบเบา ๆ"อ๊าส์"พยายามกักเก็บเสียงเอาไว้แล้ว แต่เพราะความเสียวซ่านจึงไม่อาจอดทนเอาไว้ได้"ครางออกมาเลยที่รัก"กันต์บอกเมียรักเสียงแหบพร่า ก่อนจะลากลิ้นเลียลงมายังหน้าท้องแบนราบขาวเนียน จูบตรงสะดือของเธออย่างหยอกล้อ ส่วนมือใหญ่นั้นก็กอบกุมตรงเนินสามเหลี่ยมแสนหวานเอาไว้ ก่อนจะส่งนิ้วแกร่งเข้าไปสำรวจช่องทางรักที่น้ำหวานฉ่ำเยิ้มเบา ๆ"อาว์"กลอยใจยิ่งครางกระเส่า กันต์ถอนนิ้วออกมาแล้วใช้ลิ้นหนาเข้าไปสำรวจแทน เพิ่มความเสียวซ่านให้เมียรักอย่างไม่หยุดหย่อน ไม่นานกลอยใจก็ร่างกายกระตุกกันต์กลืนกินน้ำหวานที่หลั่งออกมาอย่างไม่รังเกียจ เมียเขาหวานไปทั้งตัวจริง ๆ
กลับมาจากบ้านของป้าสุนีย์เกือบสองทุ่มเพราะท่านชวนทานข้าวเย็นด้วย กลอยใจบอกกับตัวเองว่าคงต้องไปหาท่านบ่อย ๆ คนแก่มักจะขี้เหงา เธอคิดถึงยายของเธอที่เสียไปแล้วด้วย อีกอย่างป้าสุนีย์คุยสนุกโดยเฉพาะเรื่องนิยาย "รับ ๆ พี่กันต์ รับ"เสียงกลอยใจเชียร์สามีอย่างนึกสนุกแกมหวาดเสียวไปด้วย ถ้าเกิดว่าทุเรียนหล่นใส่หัวกันต์ เธอมีสิทธิ์เป็นหม้ายได้เลยนะนั่น แต่กันต์ก็รับได้อย่างคล่องแคล่ว โดยใช้กระสอบป่านเพียงใบเดียวรอรับทุเรียนที่พี่คนงานปีนขึ้นไปบนต้นสูง ๆ แล้วก็ใช้มีดปาดให้ลูกทุเรียนตกลงมา คนที่อยู่ข้างล่างก็คอยรับเพื่อไม่ให้ลูกทุเรียนตกพื้นวันนี้เธอมาสวนทุเรียนกับเขาด้วยเพื่อมาดูการเก็บทุเรียน และที่สำคัญในวันนี้เธอจะกินทุเรียนให้พุงกางไปเลยทีเดียว"เย้ ๆๆ พี่กันต์เก่งจัง"ปรบไม้ปรบมือเมื่อเห็นว่าสามีของเธอรับทุเรียนได้ทุกลูก จนกระทั่งหาญกล้าเดินเข้ามาหากันต์เพื่อบอกให้เขาไปเช็คดูทุเรียนล็อตใหม่ที่จะส่งไปที่เมืองจีน นั่นแหละกันต์ถึงได้ส่งกระสอบป่านไปให้คนงานชายคนหนึ่งที่ยืนใกล้ ๆ เขา แล้วก็เดินมาเรียกกลอยใจเพื่อไปดูทุเรียนที่จะส่งไปยังประเทศจีนกันต์กับหาญกล้าหายเข้าไปในโดมขนาดใหญ่สำหรับเก็บทุเ
วันนี้กลอยใจจะไปตลาดกับกุหลาบตามที่ได้นัดกันไว้เมื่ออาทิตย์ก่อน เธอขับรถกระบะของกันต์มารับกุหลาบที่ชุมชนบ้านพักคนงาน สาวน้อยมานั่งรอกลอยใจที่หน้าร้านค้านานแล้ว เพราะดีใจที่จะได้เข้าเมืองไปเที่ยวเปิดหูเปิดตา"ไปรถคันนี้หรือจ๊ะคุณกลอย ?"กุหลาบถามอย่างประหม่า"ใช่จ้ะ ทำไมหรือจ๊ะ ?""ฉันไม่กล้านั่งหรอกจ้ะ เรานั่งสองแถวไปกันก็ได้"สาวน้อยเอ่ยออกมาอย่างเกรงใจ รถของเจ้านายเธอไม่กล้านั่ง"ไปรถคันนี้แหละ สะดวกดี ถ้าเกิดว่าเราซื้อของเยอะ ๆ จะได้ไม่ต้องลำบากหอบหิ้ว"กลอยใจลากกุหลาบไปขึ้นรถและขับออกไปจากบริเวณนั้น แต่มีใครบางคนเบะปากอย่างหมั่นไส้ น้ำผึ้งนั่นเอง ที่จริงแล้วน้ำผึ้งก็อยากไปตลาดกับพวกกลอยใจอยู่เหมือนกันแต่เพราะทิฐิจึงทำให้เธอไม่กล้าขอไปด้วย"คุณกลอย พี่ผึ้งก็อยากไปตลาดกับเราอยู่นะ แต่ว่าพี่ผึ้งไม่กล้าขอมาด้วย"กุหลาบพูดขึ้นมาด้วยความซื่อ กลอยใจจึงชะลอรถเพราะยังขับออกมาไม่ไกล"ถ้าอย่างนั้นเรากลับไปรับพี่ผึ้งดีมั้ย ? แล้วมีใครอยากไปอีกบ้าง ชวนมาให้หมดเลย ไปหลาย ๆ คนสนุกดี"เพราะน้ำผึ้งอายุมากกว่า กลอยใจจึงเรียกเธอว่าพี่ กลอยใจไม่ได้คิดอะไรกับน้ำผึ้งเพราะเธอเชื่อใจสามีของเธอ กันต์ยืนยั
หลังจากที่ยัดเงินใส่มือให้หาญกล้า กันต์ก็กระดกเบียร์ในแก้วให้หมดแล้วรีบกลับบ้านทันที เสียงหาญกล้าแซวมาตามหลัง"งานนี้มีคนกลัวเมีย"แต่กันต์ไม่ได้ใส่ใจ ใครบอกเขากลัวเมีย เขากลัวที่ใหนทำไมต้องกลัว เมียก็แค่ลูกไก่ในกำมือจะบีบก็ตายจะคลายก็รอด ไอ้พวกนี้จะรู้อะไรที่เขารีบกลับแบบนี้ก็เพราะไม่อยากมีเรื่อง ไม่อยากมีปัญหาก็เท่านั้นเอง ผู้หญิงคือเพศที่อ่อนแอเราต้องดูแลและทะนุถนอมเธอ กันต์ปลอบใจตัวเอง"กลับมาแล้วครับ"ส่งเสียงบอกเมียรักที่กำลังทำอะไรบางอย่างอยู่ในครัว"พี่กันต์กลับมาแล้ว กินข้าวกัน กลอยซื้ออาหารที่ร้านชื่อดังของอำเภอมาฝาก"พูดจบก็ยกจานกับข้าวออกไปวางที่โต๊ะกินข้าว กันต์จึงเดินเข้าไปช่วย เมื่อยกกับข้าวออกมาหมดแล้วเขาก็ดึงตัวของกลอยใจเข้ามากอด "อี๋..พี่กันต์เหม็นจังไปอาบน้ำก่อนค่ะ"ผลักตัวของสามีออกเบา ๆ กันต์ทำหน้าเหรอหรา แล้วก็ยกแขนขึ้นสูดดมตรงซอกรักแร้ของตัวเอง"ก็ไม่เหม็นนี่นา พี่ขอกอดหน่อยนะ""ไม่ได้ ! ไปอาบน้ำก่อน"กลอยใจพูดเสียงเข้ม กันต์ทำหน้าจ๋อย"จ้ะ ๆ"แล้วก็เดินเข้าห้องเพื่อไปอาบน้ำ สักพักเมื่อเขาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วกลอยใจถึงได้ยอมให้เขากอดหอมเหมือนเดิม"
เมื่อกันต์ออกจากบ้านไปแล้วกลอยใจก็ขับมอเตอร์ไซค์ตรงไปที่บ้านของป้าสุนีย์ ความจริงเธออยากจะไปคุยกับกุหลาบมากกว่าแต่วันนี้ไม่ใช่วันหยุดของสาวน้อยคนซื่อ อยู่บ้านคนเดียวก็เหงาแถมยังไม่มีไอเดียในการเขียนนิยายด้วย จึงไปหาป้าสุนีย์แทนขับรถเครื่องแค่สิบนาทีก็ถึงบ้านของป้าสุนีย์ กลอยใจเดินเข้าไปในบ้านเพราะเธอโทรบอกกับท่านแล้วว่าเธอจะมาหาแต่ก็ไม่นึกว่าท่านจะมีแขก พอเธอเดินเข้าไปในบ้านก็พบว่าท่านกำลังคุยอยู่กับผู้หญิงสาวสวยซึ่งอายุอานามน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับนายหัวกันต์ ในตอนแรกกลอยใจคิดจะกลับแต่ป้าสุนีย์เหลือบมาเห็นเธอเสียก่อนและท่านก็เรียกเธอไว้"อ้าว..แม่กลอย มานี่สิ"กลอยใจจึงเดินเข้าไปและนั่งลงที่เก้าอี้ข้าง ๆ ป้าสุนีย์"สวัสดีค่ะคุณป้า"ยกมือไหว้และกล่าวทักทายท่าน ป้าสุนีย์จึงแนะนำเธอกับผู้หญิงคนนั้น"นี่กลอยใจ เมียของกันต์"กลอยใจจึงยกมือไหว้เพราะเธอคนนั้นน่าจะอายุมากกว่าเธอ พอป้าสุนีย์แนะนำว่าเธอเป็นใครผู้หญิงคนนั้นก็นิ่งไป"ถ้าอย่างนั้นบุหงาขอตัวก่อนนะคะ"แล้วก็กล่าวคำลาเสียดื้อ ๆ พร้อมกับลุกขึ้นยืนคว้ากระเป๋า่ถือแล้วก็เดินออกไปจากบ้าน กลอยใจได้แต่สงสัยว่าเธอคนนี้เป็นใคร แต่จากคำพูดขอ
"รู้ได้ไงว่าเธอเป็นแฟนเก่าพี่ ?"นึกฉุนที่เขาหัวเราะแต่ก็ตอบเขาไป"คุณป้าบอก กลอยเจอเธอที่บ้านคุณป้า"กันต์นิ่งเงียบไปบุหงายังกล้าไปหาป้าของเขาถึงที่บ้านอีกหรือ ทั้งที่ตอนนั้นเธอสร้างเรื่องไว้มากมาย"เธอก็เป็นแค่แฟนเก่า แต่กลอยคือเมียพี่"กันต์พูดเสียงหนักแน่นจับมือของเธอขึ้นมาแนบอก"แต่พี่กันต์กอดกันกับเธอ""บุหงากอดพี่ต่างหากล่ะ"คิดไว้ไม่มีผิดเมียของเขาจะต้องเห็นตอนที่เขาอยู่กับบุหงาแน่ ๆ แต่ว่าเธอออกมาก่อนไม่ได้ดูจนจบ"ก็เหมือนกันแหละ ถ้าพี่กันต์ไม่ยอมให้เธอกอดเธอจะกอดได้ไหมล่ะ เรื่องแบบนี้ตบมือข้างเดียวมันไม่ดังหรอก กลอยจะหย่า ยังไงก็จะหย่า""โอเค ๆ เดี๋ยวค่อยคุยกัน แต่ตอนนี้เราไปอาบน้ำกันก่อนดีกว่า จะได้กินข้าวพี่หิวแล้ว"กันต์พูดเสียงเข้มขึ้นมา ท่าทางว่าคงไม่ง้อไม่อธิบายอะไรกับเธออีกต่อไปแล้ว กลอยใจก็ยิ่งน้อยใจน้ำตารื้นขึ้นมาอีกแต่ก็ลุกออกจากเตียงและยอมเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำอาบท่าเพราะเธอเองก็ไม่สบายตัวเหมือนกัน กันต์เห็นแบบนั้นก็ลอบยิ้ม เดินตามเธอเข้าไปในห้องน้ำ"เข้ามาทำไม !?"ร่างกายเปลือยเปล่าภายใต้สายน้ำของฝักบัวเอ่ยถามสามีเสียงดัง"อาบน้ำไง"กันต์พูดจบก็ถอดเสื้อผ้าออกแล้วก็เ
กลับมาถึงบ้านกลอยใจก็เข้ามาคลอเคลียกันต์ไม่ยอมหยุด แม้เขาจะชอบแต่ก็พอรู้ว่าเมียรักมีจุดประสงค์อะไร "ก็ได้ ๆ เดี๋ยวพี่เล่าให้ฟัง"กลอยใจจึงจูบแก้มซ้ายขวาของเขาข้างละสองที ก่อนจะนั่งเท้าคางรอฟังเขาเล่าเรื่องของบุหงา ความจริงแล้วเธอก็ไม่ได้อยากจะสนใจอดีตของเขาหรอกนะ แค่อยากรู้ว่าเพราะสาเหตุอะไรกันแน่ทำไมบุหงาที่เลิกรากับกันต์ไปถึงห้าปีถึงได้กลับมาตามตื๊อสามีของเธออีกครั้งบุหงากับกันต์คบหากันตอนเรียนมหาวิทยาลัย เธอเป็นรุ่นน้องของกันต์ พ่อกับแม่ของทั้งคู่รู้จักกันด้วยและหมายมั่นอยากให้กันต์แต่งงานกับบุหงา ทั้งคู่เป็นคู่รักที่น่าอิจฉามากเพราะสวยหล่อกันทั้งคู่ แถมฐานะทางบ้านก็เท่าเทียมกัน ครอบครัวของบุหงาก็มีสวนผลไม้เหมือนกัน กันต์กับบุหงาคบกันเนิ่นนานหลายปี ทุกอย่างก็ดูราบรื่นดีจนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อห้าปีก่อนบุหงาก็หนีตามเสี่ยร้านทองไป สร้างความเจ็บปวดให้กันต์เป็นอย่างมาก และทางบ้านของบุหงาก็บอกกับเขาว่า บุหงาไม่อยากเป็นแค่เมียของชาวสวนเท่านั้น เธออยากไปใช้ชีวิตที่กรุงเทพ ฯ อยากสะดวกสบายไม่ต้องทนอยู่ตามป่าตามเขาแบบนี้ และการที่บุหงาหนีไปแบบนี้เพราะส่วนหนึ่งก็มาจากครอบครัวของเธอเองที่สนับ
หลังจากที่บุหงาพาลูกกลับไปแล้ว ป้าสุนีย์จึงโทรหากันต์บอกให้มาหาท่านที่บ้านด่วนเพราะมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย กันต์กับกลอยใจจึงรีบมาหาป้าสุนีย์ทันที"นั่งก่อนสิ"กันต์ซึ่งตกอกตกใจเพราะเขาคิดว่าป้าสุนีย์ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า กำลังจะเอ่ยปากถามก็ถูกป้าขัดขึ้นเสียก่อน เขากับกลอยใจจึงนั่งลง"แม่บุหงาไปหากันต์หรือเปล่า ?""ไปครับ"ตอบคำถามของท่านแล้วกันต์กับกลอยใจก็มองหน้ากัน ป้าสุนีย์จึงพูดต่อ"วันนี้บุหงามาที่นี่ มาพร้อมกับเด็กผู้ชายคนหนึ่ง หน้าตาน่าเอ็นดูเชียว เธอบอกว่าเป็นลูกของกันต์"กันต์รู้สึกตกใจและงงงวย ลูกของเขา เขาไปมีลูกตั้งแต่เมื่อไหร่ มองหน้าเมียรักเห็นว่ากลอยใจเองก็หน้าตาไม่สู้ดีเช่นกัน"บุหงาบอกกับป้าอย่างนั้นหรือครับ ?""ใช่ และป้าก็มาคิดดูแล้วอายุของเด็กคนนั้นมันก็คาบเกี่ยวอยู่นะกับช่วงเวลาที่กันต์คบหากับบุหงา"เขานิ่งเงียบไปรู้สึกโกรธบุหงามาก เป็นคนทิ้งเขาไปเองแท้ ๆ สุดท้ายก็ยังเลือกที่จะกลับมาทำร้ายเขาอีกครั้ง"คุณป้าเชื่อเธอหรือครับ ?""ก็ไม่เชิง แต่ถ้าเด็กคนนั้นเป็นลูกของกันต์จริง ๆ ล่ะ"กันต์หันไปมองหน้ากลอยใจ เขาบีบมือเธอไว้แน่น"ผมขอปรึกษากับเมียผมก่อนได้ไหมครับ ?"ท่า
เมื่อมาถึงผับของนทีแล้วเขาก็เปิดห้อง VIP ให้กับทุกคน และสั่งเครื่องดื่มมาให้แบบจัดเต็ม หาญกล้าชอบใจมาก เมธีเองก็สนุก ส่วนกันต์นั้นในตอนแรกเขาก็ไม่กล้าเมาได้แต่หันไปมองหน้าภรรยา "พี่กันต์อยากดื่มก็ดื่มเลยค่ะ"กลอยใจบอกกับสามีเสียงอ่อนโยน เธอเองก็นึกเห็นใจเขาไม่น้อย เพราะตั้งแต่รู้ว่าเธอตั้งครรภ์เขาก็เข้าหน้าเธอไม่ติดเลย เพราะนอกจากเธอจะเหม็นกลิ่นตัวเขาแล้วยังเข้าหน้าเธอไม่ติดอีกด้วย เพิ่งจะมีสองสามวันมานี่แหละที่เธอการดีขึ้นเธอจึงไม่ค่อยหงุดหงิดใส่เขาเมื่อเมียรักอนุญาติกันต์จึงจัดเต็ม ชนแก้วกับเมธี หาญกล้าแล้วก็นทีด้วยความสนุกสนาน แหกปากร้องคาราโอเกะแบบไม่สนคีย์ ดูท่าทางสนุกสนานของสามีแล้วกลอยใจก็พลอยมีความสุขไปด้วย เธอเข้าไปเช็คยอดวิวของนิยายและใช้โอกาสนี้เขียนนิยายสักหน่อย ตั้งแต่แพ้ท้องเธอก็ไม่ได้อัพนิยายมาเป็นอาทิตย์แล้ว มีรี้ดเข้ามาคอมเมนต์ทวงตอนต่อไปอยู่หลายคน แม้จะมีเสียงดังอยู่รอบตัวก็ไม่ใช่ปัญหา ขอแค่อารมณ์มาไอเดียผุด กลอยใจก็สามารถเขียนนิยายได้ทุกที่"เป็นไงบ้าง ?"เมธีถามกุหลาบอย่างเป็นห่วง เห็นท่าทางพะอืดพะอมของเธอแล้วเขาก็ทั้งขำแล้วก็สงสาร "ไม่เป็นไร ดีขึ้นแล้วค่ะ"เธอย
เมื่อหนุ่ม ๆ ขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว จึงไปรับสามสาวที่ร้านเสริมสวย กลอยใจมองสามีไม่วางตาเพราะลุคนี้เขาดูหล่อเหลา ชุดสูทพอดีตัวสีเทาเข้มส่งให้ร่างสูงกำยำของกันต์ดูเปลี่ยนไป แม้ความหล่อคมเข้มยังอยู่ แต่ที่เพิ่มมาอีกก็คือความอ่อนละมุนอบอุ่นอบอวลไปทั่วร่าง กันต์เองก็เขินกับสายตาของเมียรักและก็อดตะลึงกับความสวยของเมียไม่ได้ ชุดราตรีสีชมพูอ่อน เปิดไหล่เนียนละมุน เอวคอดกิ่วและหน้าท้องแบนราบแม้ตอนนี้เธอจะท้องได้เกือบสองเดือนแล้วก็ตาม แต่รูปร่างก็ยังเพรียวระหงอยู่เช่นเดิม ส่วนน้ำผึ้งกับกุหลาบก็สวยมากเช่นกันในชุดราตรีโทนสีฟ้าอ่อนขับผิวสีน้ำผึ้งของทั้งสองให้ดูเนียนละเอียดมากขึ้น โดยเฉพาะกุหลาบแทบดูไม่ออกเลยว่าเป็นเพียงสาวน้อยในสวนในไร่คนหนึ่งเท่านั้น เมธีมองกุหลาบตาไม่กระพริบ เมื่อสามสาวขึ้นรถเรียบร้อยแล้วรถก็เคลื่อนตัวตรงไปที่โรงแรมที่จัดงานแต่งของเกมส์กับน้ำฟ้า ทั้งหกคนเดินเข้าไปในงาน ต่างก็ตกเป็นเป้าสายตาของใครหลาย ๆ คน โดยเฉพาะกลอยใจนั้นต่างก็มีสายตาอยากรู้อยากเห็นของหลายคนมองตาม"นั่นมันยัยกลอยนี่"เสียงกระซิบกระซาบของอดีตเพื่อนร่วมงานของเธอพูดคุยกัน เกมส์กับน้ำฟ้าคงเชิญคนทั้งบริษัท กลอยใจคล
"โอ้..ว่าแล้ว"หลังจากที่กลอยใจเปิดประตูรั้วเข้าไปในบ้านเธอก็อุทานออกมา บริเวณหน้าบ้านในตอนนี้หญ้าขึ้นรก ดอกไม้ต้นไม้ก็เหี่ยวเฉา ฝุ่นเกาะเต็มตรงระเบียงหน้าบ้าน และขอบหน้าต่าง และภายในบ้านก็คงไม่ต่างกัน"นี่แหละค่ะบ้านของกลอย เชิญทุกคนค่ะ"เมื่อเธอพูดจบก็ดันประตูหน้าบ้านให้เปิดกว้างออก น้ำผึ้ง กุหลาบ กันต์แล้วก็หาญกล้าจึงลากกระเป๋าเสื้อผ้าเดินเข้าไปบ้านของกลอยใจเป็นบ้านเดี่ยว สามห้องนอนสองห้องน้ำลักษณะเหมือนบ้านในหมู่บ้านจัดสรรทั่วไป เธอซื้อบ้านหลังนี้ด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง เมื่อก่อนเธออยู่กับยายแต่พอยายเสียเธอก็เลยอยู่คนเดียว บ้านของน้ำฟ้าก็อยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้แต่อยู่ถัดไปอีกซอย"คุณกลอย ต้องทำความสะอาดกันยกใหญ่เลยนะเนี่ย"กุหลาบเอ่ยขึ้นมา เพราะมองดูสภาพแล้วถ้าไม่ทำความสะอาดก่อนคงเข้าพักไม่ได้แน่ ๆ กลอยใจพยักหน้าเห็นด้วย เธอไปอยู่กับกันต์ก็สี่ห้าเดือนแล้ว อีกอย่างตอนไปก็ไปอย่างกะทันหันจึงไม่ได้ฝากให้ใครช่วยดูแล ค่าน้ำค่าไฟเธอก็อาศัยจ่ายผ่านช่องทางออนไลน์เอา"เดี๋ยวกลอยโทรหาบริษัทรับทำความสะอาดมาช่วยจัดการ""ไม่ต้องหรอกคุณกลอย พวกเราช่วยกันทำก็ได้จ้ะ"น้ำผึ้งพูดขึ้นมา กุหาบกับหาญก
"พ่อกันต์วันนี้พาแม่กลอยไปหาหมอเลยนะ"ป้าสุนีย์หันไปบอกหลานชาย"ทำไมครับป้า ? กลอยป่วยหนักขนาดนั้นเลยเหรอครับ""ไม่ได้ป่วยแต่แม่กลอยกำลังแพ้ท้อง""แค่แพ้ท้อง ทำไมต้องไปหาหมอ อะ อะไรนะครับ แพ้ท้อง ?"กันต์ตะกุกตะกักถามด้วยความตื่นเต้น จับมือของเมียมาเขย่าพร้อมกับละล่ำละลักถาม"จริงเหรอกลอย ?""ยังไม่แน่ค่ะ แต่ประจำเดือนเลื่อนมาสองอาทิตย์แล้ว"กลอยใจเองก็อ้อมแอ้มตอบสามี รู้สึกตื่นเต้นปนกังวลเหมือนกัน"เราไปโรงพยาบาลกันเลยดีกว่า"กันต์ดึงมือเมียรักให้ลุกขึ้น เห็นท่าทางตื่นเต้นของหลานชายป้าสุนีย์ก็ส่ายหน้า"แม่กลอยยังกินข้าวไม่อิ่ม"กันต์จึงพึ่งนึกได้ ประคองเมียให้นั่งลงเหมือนเดิม ตัวเขาเองก็เพิ่งกินข้าวไปได้แค่สองสามคำเหมือนกัน "แบบนี้ต้องรีบจัดงานแต่ง"ป้าสุนีย์บอกกับสองผัวเมีย ความจริงแล้วท่านเองก็ตื่นเต้นไม่น้อย นึกไปถึงตอนที่มีเด็กตัวเล็ก ๆ มาวิ่งเล่นในบ้านแล้วก็ยิ้มอย่างมีความสุข คงต้องสร้างบ้านหลังใหม่เอาให้ใหญ่กว่าเดิม และท่านก็จะเป็นคนเลี้ยงเจ้าหนูหรือยัยหนูเองกับมือ บางทีท่านจะย้ายตัวเองไปอยู่บ้านเดียวกันกับหลานชายและหลานสะใภ้เลยดีกว่า"ใช่ครับป้า"แล้วก็หันไปพูดกับกลอยใจ"เราแ
บุหงาขับรถหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยความเร็วสูง ภูมิที่นั่งเบาะข้าง ๆ ไม่กล้าขยับตัวเลยแม้แต่นิดเดียว ได้แต่มองหน้าแม่ด้วยความหวาดกลัวย้อนไปเมื่อสองอาทิตย์ก่อน "เพี๊ยะ !!""ฮือ ๆ ไอ้ผัวชั่ว"เสียงทะเลาะตบตีกันของแม่กับพ่อยังคงดังออกมาจากห้อง ภูมิได้แต่นั่งหลบอยู่ใต้โต๊ะกินข้าวด้วยความหวาดกลัว"โอ๊ย ! มึงหยุดนะอีบุหงา"เสี่ยนพร้องเสียงดังลั่นเมื่อบุหงาขว้างแจกันโดนหัวของเขา รู้สึกปวดแปลบที่หน้าผากและเหมือนมีของเหลวสีแดงอุ่น ๆ ไหลลงมาที่ข้างแก้ม เมื่อเห็นดังนั้นเขาก็โมโหขีดสุดเดินตรงปรี่เข้าไปหาบุหงาทันที และเมื่อเข้ามาใกล้ตัวของบุหงาเขาก็เงื้อมือขึ้นหมายจะตบลงไปที่ใบหน้าของเธอ"ฟุบ !"ร่างของเสี่ยนพหงายผึ่งลงไปทันที ที่หน้าผากมีรูกระสุนขนาด .22 มม. ปรากฏอยู่ ปืนกระบอกนั้นเป็นของเขาเอง บุหงาทรุดนั่งลงกับพื้น ทั้งหัวเราะและร้องไห้สลับกันไปมา มองปืนในมือที่ใส่ที่เก็บเสียงอย่างเลื่อนลอย นานนับสิบนาทีเธอจึงได้ลุกขึ้นและเดินออกไปหาภูมิเมื่อเสียงในห้องนอนของแม่กับพ่อเงียบไปแล้วภูมิจึงค่อย ๆ คลานออกมาจากใต้โต๊ะ ก็เห็นว่าแม่ของเขาออกมาจากห้องแล้ว ส่วนพ่อก็คงออกจากบ้านเหมือนเช่นทุกครั้ง แต่คราวน
น้ำผึ้งหาเก้าอี้มาให้เมธีนั่ง พร้อมกับหาน้ำหาท่ามาเสิร์ฟ ไม่นานกันต์ก็มาถึง"เอามา"กันต์ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรแบมือไปตรงหน้าของเมธี เขาจึงยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลให้เพื่อนรัก กันต์รีบเปิดดูทันที เมธีส่ายหน้าเอือมระอากับพฤติกรรมของเพื่อน ขอบอกขอบใจเขาสักคำก็ไม่มี แต่ก็ชินแล้วล่ะ เดี๋ยวถ้ามันนึกได้มันก็คงขอบใจเองแหละเมื่อกันต์อ่านทุกตัวอักษรบนเอกสารแผ่นนั้นอย่างละเอียดแล้วเขาก็กระโดดกอดเมธีแล้วก็จุ๊บแก้มเพื่อนไปหนึ่งที"อี๋ ไอไอ้ไอ้บ้า"เมธีถูแก้มข้างที่โดนจุ๊บอย่างแรง กันต์ไม่ได้สนใจท่าทางของเพื่อน รีบเดินเข้าไปหาเมียรักและเอาเอกสารแผ่นนั้นให้กลอยใจอ่าน และเมื่อเธออ่านจบแล้วก็หันไปมองภูมิด้วยความสงสาร ไม่รู้ว่าหากนำเรื่องนี้ไปคุยกับบุหงาภูมิจะโดนอะไรบ้าง"ไอ้หมอ มานี่"กันต์กวักมือเรียกเพื่อนที่กำลังถูแก้มด้วยความสยดสยองให้เดินเข้ามาหา เมธีก็เดินเข้ามาอย่างงง ๆ"กลอยนี่เมธี เพื่อนของพี่""สวัสดีค่ะ"กลอยใจยกมือไหว้ "นี่กลอยใจเมียของข้า""สวัสดีครับ"กันต์เล่าให้เขาฟังแล้วเรื่องกลอยใจ ก็ดูสวยเหมาะสมกันดีแหละกับไอ้กันต์ แต่เขาสะดุดตาแม่สาวน้อยผิวสีน้ำผึ้งนัยน์ตาโศกคนนั้นมากกว่า เพราะถ้าเกิ
หลังจากที่กลับมาจากโรงพยาบาลบุหงาพบว่าไม่มีใครอยู่ที่บ้านเลยสักคน กันต์ไปไหนนะ ? เธอจึงอาละวาดและทำลายข้าวของในบ้านจนพังเสียหายเกือบหมด แล้วก็กลับไปที่บ้านของเธอ"แม่กลับมาแล้ว"ภูมิวิ่งไปหาแม่ของเขาที่กำลังเดินเข้ามาในบ้านด้วยความดีใจ "หยุด ! ไม่ต้องเข้ามา"แต่บุหงาตวาดลูกเสียก่อน ภูมิหยุดชะงักเดินก้มหน้ากลับไปหาตากับยาย"บุหงา พูดกับลูกดี ๆ หน่อย"นายหัวเข้มตำหนิลูกสาว ส่วนยายนั้นก็กอดปลอบหลานชายตัวน้อย"เพราะมันชีวิตหนูถึงได้เป็นแบบนี้" พูดจบบุหงาก็เดินเข้าไปในห้อง ไม่สนใจลูกแล้วก็พ่อกับแม่อีก ทั้งสองท่านได้แต่มองหน้ากันแล้วก็ถอนหายใจ "กินขนมเถอะนะลูก""ครับยาย"หนูน้อยกินขนมที่คุณยายส่งมาให้ พลางชะเง้อตามหลังแม่ อยากจะเข้าไปกอดแต่ก็ไม่กล้า บุหงานอนร้องไห้อยู่บนเตียง ตั้งแต่เธอตั้งท้องเสี่ยนพก็เปลี่ยนไป เธอจึงคิดว่าเป็นเพราะลูกที่ทำให้ชีวิตของเธอเป็นแบบนี้ เพราะตั้งแต่มันเกิดมาก็มีแต่เรื่องเฮงซวยตลอด เธอหารู้ไม่ว่าที่เสี่ยนพเป็นแบบนั้นไม่ใช่เพราะเขาเปลี่ยนไปแต่มันคือสันดานที่แท้จริงของเขาต่างหากคำพูดหวาน ๆ การเอาใจสารพัดในตอนที่คบกันใหม่ ๆ นั้นเพราะเสี่ยนพเห็นว่าเธอร่ำรวยและหน้
และแล้วก็มาถึงวันที่จะไปรับฟังผลตรวจ DNA ซึ่งน่าแปลกมากหลังจากที่วันนั้นวันที่บุหงาไปสลบที่หน้าบ้านของกันต์เธอก็ไม่ได้ไปรังควานอะไรเขาอีก เพราะคงจะมั่นใจในผลตรวจจนน่าสงสัยกันต์กับกลอยใจไปรับป้าสุนีย์แล้วจึงเลยไปที่โรงพยาบาลและพอไปถึงก็พบว่าครอบครัวของบุหงาไปรออยู่ที่นั่นเรียบร้อยแล้วเมื่อทุกคนไปกันครบแล้วเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลก็ถือซองใส่ผลตรวจ DNA ของกันต์กับน้องภูมิออกมา เขาสบตากับบุหงาแวบหนึ่งก่อนจะยื่นซองให้กันต์"เปิดดูได้เลยครับ"กันต์จึงเปิดซองเอกสารออกมาและค่อย ๆ ไล่สายตาไปตามตัวอักษรในกระดาษแผ่นนั้น'ผลการตรวจ DNA ปรากฏว่า โครโมโซมมีความคล้ายคลึงกัน 99.999 % ยืนยันว่าบุคคลทั้งสองเป็นพ่อลูกกัน'กันต์รู้สึกตกใจและแปลกใจเป็นอย่างมากกับผลตรวจ กลอยใจเองก็เช่นกันแม้ว่าเธอจะทำใจไว้แล้วส่วนหนึ่งก็ตาม"ฮึ ฮึ ฮ่า ๆๆๆ"บุหงาหัวเราะออกมาอย่างพอใจและสะใจ"ว่าไงคะกันต์ พอใจรึยัง"กันต์ไม่พูดกับบุหงาแต่หันไปหานายหัวเข้มกับคุณนายจันทราและคุยกับพวกท่านทั้งสองแทน"เราคงมีเรื่องต้องคุยกันอีกหลายเรื่อง ยังไงผมจะไปหานายหัวที่บ้านนะครับ"พูดจบแล้วกันต์ก็จูงมือของกลอยใจและหันไปมองป้าสุนีย์ เดินพา
"อะไรกันเนี่ย !?"น้ำผึ้งร้องโวยวายก่อนจะโทรหาหาญกล้า เพราะสภาพที่อยู่ตรงหน้าของเธอตอนนี้เละเทะไปหมด ข้าวของภายในบ้านโดยเฉพาะห้องนอนนั้นแตกเสียหายยับเยิน ประมาณสิบนาทีหาญกล้าก็ขับรถเครื่องมาถึง "พี่โทรบอกนายหัวแล้วเดี๋ยวนายหัวก็มา"น้ำผึ้งมาทำความสะอาดและจะนำผ้าห่มกับผ้าปูไปซักตามปกติ แต่พอมาเห็นสภาพบ้านของนายหัวที่บุหงาทำเอาไว้ เธอก็ทำอะไรไม่ถูกโมโหมากเพราะคนที่เก็บกวาดนั้นเป็นเธอ แต่งานนี้คงไม่ไหวเพราะเละเทะขนาดนี้คงต้องเก็บทิ้งแล้วล่ะระหว่างรอนายหัวน้ำผึ้งกับหาญกล้าก็ช่วยกันเก็บกวาดของบางส่วนเท่าที่พอจะทำได้ไปก่อน"พี่หาญ ชั้นว่าแม่บุหงานี่คงเป็นโรคจิตแน่ ๆ เลย ดูสิทำบ้านช่องคนอื่นพังเสียหายหมด"น้ำผึ้งวิพากษ์วิจารณ์แฟนเก่าของเจ้านายด้วยความโมโห ตอนที่บุหงาคบกับเจ้านายของเธอนั้นบุหงามักจะจิกหัวใช้คนงานแทบทุกคนรวมทั้งน้ำผึ้งด้วย ดีที่เลิกกับนายหัวไปได้ไม่งั้นคงวุ่นวายน่าดูเมื่อกันต์กับกลอยใจมาถึงและเห็นสภาพบ้านก็ได้แต่ส่ายหน้า เขาบอกให้น้ำผึ้งเก็บของที่แตกเสียหายทิ้ง เอากระเป๋าของบุหงามาวางไว้ที่ใต้ถุนบ้าน แล้วก็ล็อคกุญแจปิดบ้านเอาไว้ ก่อนที่จะพากันออกจากบ้านบุหงาก็ขับรถมาถึงพอดี