อาการป่วยของหวังหยวนกวงต้องย้อนกลับไปเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนตอนนั้นเขาเป็นคนกระตือรือร้น มีพลังและความมุ่งมั่นเต็มเปี่ยมเพราะแย่งชิงธุรกิจของคนจำนวนไม่น้อย หวังหยวนกวงจึงมีศัตรูมากมายครั้งหนึ่งเขาไปต่างประเทศ เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมทางธุรกิจ แต่ถูกลอบโจมตีโดยนักฆ่าที่ศัตรูส่งมา บอดี้การ์ดจึงต้องสู้สุดชีวิตเพื่อให้เขารอดมาให้ได้เมื่อเห็นว่าเกือบจะฝ่าวงล้อมได้อยู่แล้ว จู่ๆ ก็มีระเบิดมือขว้างเข้ามาแล้วระเบิดกลางอากาศหวังหยวนกวงล้มลงท่างกลางกองเลือด!แม้ว่าบอดี้การ์ดจะเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเขากลับมา ส่งตัวเข้าโรงพยาบาลและรักษาชีวิตไว้ได้ แต่ในหัวของเขาก็เหลือเศษระเบิดอยู่สามชิ้นเศษสองชิ้นถูกนำออกมาได้สำเร็จในการรักษาภายหลังแต่ชิ้นสุดท้ายเพราะตำแหน่งที่ยุ่งยาก แม้แต่นายแพทย์ศัลยกรรมที่ยอดเยี่ยมที่สุดก็ทำได้แค่ส่ายหัวถอนใจหวังหยวนกวงจึงใช้วิธีรักษาแบบประคับประคองไปอย่างไม่มีทางเลือกเมื่ออายุเพิ่มขึ้น ผลกระทบที่เกิดจากเศษระเบิดก็ยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อยๆเมื่อก่อนจะปวดหัวแค่ทุกๆ ไม่กี่เดือน แต่ตอนนี้ปวดแทบทุกวัน และยิ่งปวดมากขึ้นในแต่ละครั้งเพราะเวลาเกิดอาการป่วยไม่แน่นอน หวังหยวนก
การที่สามารถให้กำเนิดลูกชายกับเขาหลังวัยกลางคนได้ ถือเป็นบุญคุณอย่างใหญ่หลวงเลยทีเดียว!ลั่วอู๋ฉางขมวดคิ้วอีกครั้งแล้วพูดว่า "เป็นไปไม่ได้!""แม้มนุษย์จะมีโอกาสฝืนชะตา แต่บางสิ่งที่เป็นความจริงที่ถูกกำหนดไว้แล้ว มันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้""แม้ว่าการแพทย์จะก้าวหน้ามากแค่ไหน แต่ทั้งชีวิตนี้คุณก็ไม่มีทางมีลูกชายได้!""แต่ความจริงกลับกลายเป็นว่า คุณมีลูกชายอายุสามขวบ นั่นหมายความว่ามีความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น"หวังหยวนกวงรีบถาม "อะไร?""ลูกชายคนนี้ ไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของคุณ" ลั่วอู๋ฉางพูดอย่างหนักแน่นหวังหยวนกวงชะงักไป สีหน้าของเขาเริ่มแย่ลงเรื่อยๆถ้าเป็นเมื่อก่อน ใครก็ตามที่กล้าพูดแบบนี้ แม้ว่าจะเป็นการล้อเล่น เขาก็ไม่มีทางปล่อยไปง่ายๆเขาต้องทำให้คนพูดชดใช้อย่างเจ็บปวดแน่!แต่ในตอนนี้ สิ่งที่หวังหยวนกวงคิดมากขึ้นคือ เด็กคนนั้นหน้าตาไม่เหมือนกับตัวเองจริงๆตั้งแต่ภรรยาตั้งครรภ์จนคลอด เขาอยู่ข้างๆ และดูแลอย่างดีดังนั้นจึงไม่เคยสงสัยอะไรเลย!ไม่ใช่ว่าเด็กทุกคนจะต้องหน้าตาเหมือนพ่อแม่ ยิ่งไปกว่านั้นเด็กคนนี้เพียงแค่ไม่เหมือนเขา แต่ลักษณะระหว่างคิ้วและตาคล้ายกับภรรยาอย่
"ทางผมได้ทำการตรวจสอบซ้ำแล้ว ไม่มีทางผิดแน่ครับ"เสี่ยวหลิน ผู้ช่วยพิเศษพูดอย่างจริงจัง "แล้วผมก็ได้ติดต่อไปที่โรงพยาบาลแล้วด้วย หมอที่รับดูแลคุณชายยอมรับว่า เขารับเงินจากภรรยาของคุณ และทุกครั้งจะเปลี่ยนหมู่เลือดในรายงานจากบีเป็นเอครับ!"หวังหยวนกวงโกรธขึ้นทันที กัดฟันพูดว่า "ผู้หญิงสารเลวสมควรตายนัก!"ความหวังสุดท้ายในใจของเขาสลายไปหมดภรรยานอกใจ ลูกชายก็ไม่ใช่ของตัวเอง!เขามอบความจริงใจให้คนผิดมาตลอดหลายปีหวังหยวนกวงโกรธจนสุดจะทน อยากจะสั่งให้ฉีกแม่ลูกคู่นี้เป็นชิ้นๆ ไปซะ!"ถ้าอย่างนั้น ชีวิตนี้ผมคงไม่มีโอกาสมีลูกได้แล้ว"หวังหยวนกวงเหมือนแก่ลงสิบปีในทันที ร่างกายดูหมดแรงอย่างเห็นได้ชัดยิ่งเมื่อคิดถึงว่าในภายภาคหน้าหลังจากเขาตายแล้ว จะไม่มีใครสืบทอดทรัพย์สินมหาศาลนี้ ก็ยากที่จะอธิบายความรู้สึกเจ็บปวดในใจลั่วอู๋ฉางขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วพูดว่า "ที่ผมพูดเมื่อกี้ไม่ชัดเจน หรือคุณเข้าใจผิดไป?""คุณหมายความว่า?" หวังหยวนกวงรีบถามลั่วอู๋ฉางอธิบายว่า "ผมหมายความว่าคุณไม่มีลูกชาย ไม่ใช่ว่าคุณจะไม่มีทายาท"หวังหยวนกวงมีสีหน้าดีใจขึ้นมาทันที ตื่นเต้นจนพูดไม่เป็นคำว่า "คุณหมายความ
หลังจากอธิบายเรื่องทั้งหมดแล้ว หวังหยวนกวงก็ถอนหายใจลึกๆ แล้วพูดด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้งว่า "คุณลั่ว คุณหนูหลิ่ว ขอโทษที่ทำให้พวกคุณต้องมาเห็นเรื่องตลกแบบนี้!"จากนั้นเขาก็แสดงท่าทีที่ซาบซึ้งใจทันที พูดว่า "ขอบคุณคุณลั่ว ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ ตอนนี้ผมก็คงยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย!""ไม่เพียงแต่ต้องกลายเป็นคนที่เลี้ยงลูกคนอื่น แต่ยังปล่อยให้ลูกแท้ๆ ของตัวเองตกระกำลำบากอยู่ข้างนอก ทำให้คนรักเจ็บปวด คนชั่วได้ดี""และคุณหนูหลิ่ว ขอบคุณมากที่พาคุณลั่วมาหาผม บุญคุณนี้ผมจะตอบแทนอย่างดีแน่นอน!"หลิ่วซือหยินโบกมือแล้วพูดยิ้มๆ ว่า "ไม่เกี่ยวกับฉันหรอกค่ะ ถ้าคุณอยากจะขอบคุณ ก็ขอบคุณคุณลั่วคนเดียวก็พอค่ะ"เธอเชื่ออย่างเต็มที่ว่า ด้วยบุญคุณทั้งหมดนี้ หวังหยวนกวงได้ยืนอยู่ข้างลั่วอู๋ฉางแล้ว"ในเมื่อเรื่องอื่นๆ ก็ทำความเข้าใจเรียบร้อยแล้ว เราก็มารีบรักษาโรคกันเถอะค่ะ!"หลิ่วซือหยินเสนอ รอให้รักษาหวังหยวนกวงจนหายดีแล้ว เขาต้องภักดีต่อคุณลั่วแน่นอนถึงตอนนั้นแค่เทพเจ้าแห่งความร่ำรวยเป่ยกั๋วเพียงคนเดียว ก็เพียงพอที่จะทำให้ตระกูลหม่า ตระกูลจ้าว และตระกูลจางลำบากไปหมดแล้วถ้าพวกเขาคิดจะหาเรื่องคุณลั่ว
ท่าทีที่จริงใจของหวังหยวนกวง และการมองเงินทองเหมือนสิ่งไร้ค่า ทำให้หลิ่วซือหยินประหลาดใจอย่างยิ่ง!เธอยกมือปิดปาก มองหวังหยวนกวงด้วยความไม่อยากเชื่อถึงแม้เทพเจ้าแห่งความร่ำรวยเป่ยกั๋วผู้นี้จะเป็นคนใจบุญ และได้รับการยกย่องว่าเป็นแบบอย่างในการช่วยเหลือผู้อื่นแถมทรัพย์สินส่วนตัวของเขาก็มีมากระดับพันล้านมานานแล้ว!แต่การรักษาโรคแค่นี้ ต้องจ่ายถึงครึ่งหนึ่งของทรัพย์สินเลยหรือ?หากเป็นคนอื่นๆ เกรงว่าจะไม่มีใครยอมรับได้ง่ายๆ แน่แต่หวังหยวนกวง เขากลับยอมรับได้!และยังเป็นฝ่ายเสนอตัวที่จะจ่ายค่ารักษาตามกฎอีกด้วยเหมือนกับว่าการทำเช่นนี้เป็นเกียรติอย่างใหญ่หลวงของเขาหลิ่วซือหยินอยากจะเชื่อว่าทุกสิ่งที่เธอเห็นนี้ ไม่ใช่เรื่องจริงทั้งหมดมากกว่าเธอไม่เข้าใจว่าลั่วอู๋ฉางมีเสน่ห์ในตัวอย่างไร ทำไมแค่พูดไม่กี่คำ ก็สามารถทำให้เทพเจ้าแห่งความร่ำรวยเป่ยกั๋ว ผู้ที่ทุกคนต่างเคารพยกย่อง ยอมก้มหัวให้ได้เมื่อพูดถึงขั้นนี้แล้ว ลั่วอู๋ฉางก็ย่อมจะไม่ปฏิเสธอีกต่อไป"ถ้าเป็นเช่นนั้น ผมก็จะลงมือรักษาคุณจนหายดีทั้งหมด"ลั่วอู๋ฉางแสดงออกอย่างใจกว้าง ในฐานะราชันมังกรลั่วเทียน เขาย่อมไม่เอาเปรียบผู้ป่
"ขอบคุณมากครับ คุณลั่ว!"หวังหยวนกวงรีบลุกขึ้น ยกมือไหว้ต่อหน้าลั่วอู๋ฉางแล้วพูดว่า "ผมจะรีบจัดการคำนวณทรัพย์สินส่วนตัว แล้วจ่ายค่ารักษาให้""บุญคุณช่วยชีวิตของคุณลั่ว ผมจะไม่มีวันลืมไปชั่วชีวิต""เอาแบบนี้นะครับ คืนนี้ผมจะจัดงานเลี้ยงที่โรงแรมแกรนด์เป่ยกั๋ว เพื่อขอบคุณบุญคุณที่ช่วยชีวิตผม ขอให้คุณลั่วกรุณาให้เกียรติมาด้วยครับ"ตามนิสัยของลั่วอู๋ฉาง เมื่อรักษาหายแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างหมอกับคนไข้ก็สิ้นสุดลงหากมีวาสนาก็ค่อยพบกันใหม่!แต่เมื่อพิจารณาว่าหลิ่วซือหยินอยู่ที่นี่ด้วย เขาจึงต้องขอความเห็นของสุภาพสตรีก่อน"ตกลงค่ะ...คืนนี้ฉันว่างพอดี" หลิ่วซือหยินตอบรับทันทีตอนนี้เธอตื่นเต้นมาก!คุณลั่วไม่เพียงรักษาหวังหยวนกวงหาย แต่ยังช่วยป้องกันไม่ให้เขาติดโรคเอดส์ได้สำเร็จ และเตือนว่าเขาไม่ใช่พ่อแท้ๆ ของลูกชายบุญคุณมากมายขนาดนี้ หวังหยวนกวงต้องยืนอยู่ฝ่ายเดียวกับคุณลั่วแน่นอนเป้าหมายของหลิ่วซือหยินก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้วในเมื่อเป็นเช่นนี้ เมื่อหวังหยวนกวงเสนอจะจัดงานเลี้ยง หลิ่วซือหยินก็ไม่คิดอะไรมากและตอบรับทันที"งั้นก็ได้" ลั่วอู๋ฉางพยักหน้าหวังหยวนกวงรู้สึกยินดีอ
"นายแน่ใจหรือว่า การปรากฏตัวของหนานเทียนหวัง จวงจวิ้นข่ายนั้น มีเป้าหมายเพื่อมาจัดการกับหยุนมู่และจูอี้ฉวินโดยตรง?"ใบหน้าของชายในชุดคลุมจีนดูยิ่งเคร่งเครียดขึ้นเรื่อยๆชายวัยกลางคนพยักหน้า "คนอื่นในหน่วยรักษาการณ์ของเมืองอัน แค่ถูกกักตัวสอบสวน ถ้าไม่พบปัญหาก็ปล่อยตัวทันที""มีเพียงคุณหนูใหญ่และจูอี้ฉวินที่ถูกส่งตัวเข้าศาลยุติธรรมโดยตรง ท่านจวงจวิ้นข่ายสั่งให้ลงโทษอย่างเคร่งครัดด้วยตัวเอง"ชายในชุดคลุมจีนขมวดคิ้วแน่น ใบหน้าดูเหลือเชื่อ "นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?""อยู่ดีๆ ทำไมถึงไปมีเรื่องกับท่านหนานเทียนหวังได้ล่ะ!"ชายวัยกลางคนรีบพูดว่า "ผมได้สั่งการให้คนไปสืบหาว่าเกิดอะไรขึ้นแล้วครับ""ไม่!"ชายในชุดคลุมจีนเงยหน้าขึ้นทันทีแล้วพูดว่า "เรื่องเกิดขึ้นแล้ว สาเหตุไม่สำคัญอีกต่อไป สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือท่าทีของตระกูลจางเรา""ถ้าเราแสดงท่าทีแข็งกร้าว ว่าจะไม่ยอมแพ้ ก็เท่ากับว่าตั้งตัวเป็นศัตรูกับหน่วยรักษาการณ์""จวงจวิ้นข่ายเป็นหนึ่งในราชาแห่งสวรรค์ทั้งสี่ ตระกูลจางของเราจะสู้เขาได้ยังไง?"ชายวัยกลางคนก็ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า "แต่ว่า เราก็ไม่สามารถไม่ช่วยคุณหนูใหญ่ได้นี่ครับ!"
เมื่อหม่าหยุนหลงได้รู้ว่า ดาบหัวผีเป็นผู้เชี่ยวชาญทั้งด้านพิษและการใช้ดาบ เขาก็ดีใจมากที่สุดไอ้คนแซ่ลั่วนั่น ต้องถูกตัดเป็นพันๆ ชิ้นแน่!สะใจสุดๆ!"พี่ พี่สะใภ้เกิดเรื่องแล้ว!"หม่าอวี่เฟยนั่งอยู่บนรถเข็น โดยมีสาวใช้คนหนึ่งเข็นเธอเข้ามาเธอเล่าเรื่องคร่าวๆ ทั้งหมดให้ฟังเนื่องจากหน่วยรักษาการณ์ในเมืองอันถูกคุมเข้ม จึงมีเพียงข้อมูลเล็กน้อยเท่านั้นที่ถูกส่งออกมาข้างนอก"ทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะ?"หม่าหยุนหลงตาเบิกกว้าง แสดงออกว่าเขาไม่สามารถยอมรับได้นี่มันคือที่เขาพูดกันว่าสุขจัดจนเกิดทุกข์ใช่ไหม?ตัวเองถูกทำร้ายจนพิการ คิดว่าจะพึ่งแฟนสาวที่มีอำนาจทางบ้านแข็งแกร่งมาช่วยล้างแค้นแต่ตอนนี้ แฟนสาวดันพลาดท่าถูกจับเข้าคุกไปซะเอง!ในตอนนี้เอง หม่าเฉียนคุนก็เดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม"พ่อครับ มู่มู่เกิดเรื่องแล้ว พ่อรีบหาทางช่วยเธอออกมาที นี่เป็นโอกาสดีที่เราจะแสดงพลังของพวกเราแล้ว!"หม่าหยุนหลงไม่ได้สังเกตสีหน้าของพ่อตัวเอง รีบพูดว่า "สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องช่วยมู่มู่ เธอจะรู้สึกสำนึกบุญคุณต่อครอบครัวเรา""ผมมีสภาพแบบนี้แล้ว แต่เธอยังไม่รังเกียจผม นี่นับว่าสวรรค์เมตตาแล้ว เรา
ชวีซานตัวไม่กล้าขัดขืน ได้แต่ทำตามคำสั่งเมื่อทุกคนมาถึงภูเขาด้านหลัง ฟ้าก็เริ่มสางแล้วเบื้องหน้าคือเหวลึกที่ขวางทางอยู่ลั่วอู๋ฉางผูกปลายเชือกด้านหนึ่งไว้กับเสา แล้วสะพายเชือกที่มัดรวมกันไว้บนหลัง ก่อนพยักหน้าให้ทุกคน"มีปัญหาอะไรไหม?"ลั่วอู๋ฉางถามอาวุโสที่มีใบหน้าฟกช้ำดำเขียวคนนั้นอาวุโสรีบตอบ "ไม่มีปัญหาครับ!"ลั่วอู๋ฉางกระโดดขึ้นด้วยเท้าข้างเดียว ตัวเขาลอยขึ้นสูงก่อนเหาะตรงไปยังอีกฟากของหน้าผาเมื่อเหาะไปได้ครึ่งทาง ร่างของลั่วอู๋ฉางก็เริ่มร่วงลงเมื่อคำนวณจากมุมนี้ เขาแทบไม่มีโอกาสไปถึงอีกฝั่งเลยทันใดนั้น นกอินทรียักษ์ตัวหนึ่งก็โฉบมาจากด้านข้างอาวุโสคนเมื่อกี้ยืนอยู่ริมหน้าผาและเป่านกหวีดเรียกอินทรีอินทรียักษ์กางปีก ลั่วอู๋ฉางเหยียบลงบนหลังมันหนึ่งที ทิศทางที่กำลังร่วงพลันเปลี่ยนเป็นลอยขึ้นเสี้ยววินาทีต่อมา เขาก็ลงถึงริมหน้าผาอีกฝั่งอย่างมั่นคงจากนั้นก็ทำแบบเดิม ผูกปลายเชือกฝั่งนี้ไว้กับเสาอีกข้าง"เจ้าสำนักชวี สั่งคนของท่านให้เริ่มได้แล้ว!" ซูเทียนคั่วออกคำสั่งอย่างไม่ไว้หน้าชวีซานตัวไม่ใช่ไม่เคยคิดจะเล่นงานตอนที่ลั่วอู๋ฉางกำลังข้ามหน้าผาเขาเคยคิดจะสั่ง
คำกล่าวอย่างมั่นใจของลั่วอู๋ฉางดังก้องไปทั่วสำนักใหญ่ของพันธมิตรบู๊ลิ้มหากเป็นเมื่อก่อน ใครกล้าพูดกับหัวหน้าสำนักพวกเขาเช่นนี้ คงไม่ต้องรอให้ชวีซานตัวเอ่ยปาก สมาชิกระดับล่างก็พร้อมจะซัดมันจนหมอบไปแล้วต่อหน้าประตูสำนักงานใหญ่ จะปล่อยให้คนมาพูดจาโอ้อวดได้อย่างไร?แต่สถานการณ์ตอนนี้คือ ลั่วอู๋ฉางไม่เพียงแต่พูด เขายังทำลายประตูใหญ่ของพวกเขาและทำร้ายคนไปอีกหลายสิบคนด้วยแน่นอนว่าจำนวนนี้ไม่ได้ตายตัวถ้าคนอื่นกล้าบุกเข้าไปอีก ลั่วอู๋ฉางจะไม่ปรานี และยินดีที่จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้บาดเจ็บให้พันธมิตรบู๊ลิ้มอีกด้วย"แก...ปากกล้านักนะ!"ชวีซานตัวในฐานะหัวหน้าแห่งบู๊ลิ้ม ไม่อาจเสียศักดิ์ศรีด้วยการยอมแพ้ง่าย ๆทั้งๆ ที่ความจริง ในใจเขานั้นกลับตื่นตระหนกจนแทบควบคุมไม่อยู่อาวุโสทั้งแปดร่วมมือกันยังเอาชนะไม่ได้!ถึงแม้ตอนฝึกซ้อมปกติ ชวีซานตัวจะเคยชนะพวกเขามาแล้วก็เถอะแต่ใช้นิ้วโป้งเท้าคิดก็ยังรู้เลยว่า เป็นอาวุโสทั้งแปดแกล้งอ่อนข้อให้ถ้าสู้จริง ชวีซานตัวไม่มีทางได้เปรียบหรอกแต่ลั่วอู๋ฉางกลับทำได้!นี่แสดงให้เห็นว่า ความสามารถของเขาเหนือกว่าชวีซานตัวมากถ้ายอมแพ้ต่อหน้าสมาชิกบู๊ลิ้มมา
เขาไม่อยากให้ใครพูดถึงเรื่องนี้ โดยเฉพาะต่อหน้าสาธารณชน"อาวุโสทั้งแปดของสภาผู้อาวุโสอยู่ที่ใด?"ดวงตาของชวีซานตัวเต็มไปด้วยความโกรธ พร้อมตะโกนออกคำสั่งอย่างดุดัน"ข้าน้อยอยู่ที่นี่!"อาวุโสทั้งแปดคนตอบรับออกมาพร้อมกัน"คนผู้นี้ทำลายประตูสำนักของเรา ทำร้ายศิษย์ของเรา จงสังหารมันตรงนี้เดี๋ยวนี้ เพื่อเป็นตัวอย่าง!" ชวีซานตัวกัดฟันกล่าวอาวุโสทั้งแปดคนตอบพร้อมกันอีกครั้ง "รับทราบ ท่านเจ้าสำนัก!""ฆ่า!"ทั้งแปดคนล้วนเป็นผู้มีวิชาระดับปรมาจารย์ใหญ่มีฝีมือไม่ธรรมดา!ในสำนักใหญ่ ทั้งด้านสถานะและพลังฝีมือ พวกเขาเป็นรองเพียงชวีซานตัวเท่านั้นเมื่อทั้งแปดร่วมมือกัน แม้แต่วีรบุรุษในตำนานก็ยากที่จะเอาชนะพวกเขาได้พวกเขาร่วมมือกันอย่างเข้าขา ล้อมลั่วอู๋ฉางไว้ตรงกลาง และออกกระบวนท่าสังหารทุกอย่างใส่เขาถ้าเป็นคนอื่น คงถูกพวกเขาสับเป็นชิ้นๆ ไปแล้วแต่ลั่วอู๋ฉางกลับไม่สะทกสะท้านใดๆ เพียงแค่ส่งกระแสจิต"วึ้ง!"คาถาป้องกันตัวปล่อยแสงสีทองออกมา ขัดขวางการโจมตีทั้งหมดไว้"อะไรกัน?"ชวีซานตัวเบิกตากว้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อในสายตาของเขา ต่อให้ลั่วอู๋ฉางเก่งแค่ไหน แต่ก็ยังเป็น
ท่ามกลางความมืด มีร่างคนจำนวนมากพุ่งผ่านไปอย่างรวดเร็วเมื่อพวกเขาเห็นชัดเจนแล้วว่าประตูทางเข้าซึ่งเป็นหน้าตาของพันธมิตรบู๊ลิ้มถูกทำลาย กลายเป็นซากปรักหักพัง พวกเขาก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟทันที"ใครกันที่กล้าบ้าบิ่นถึงขนาดนี้!""บังอาจมาพังประตูใหญ่ของพันธมิตรบู๊ลิ้ม รนหาที่ตายแล้ว!""จะเป็นใครก็ช่าง แต่แน่ๆ คงไม่ใช่คนดีหรอก สับมันเป็นชิ้นๆ ก่อนค่อยว่ากัน!"กลุ่มคนที่โกรธแค้นเห็นร่างหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าซากปรักหักพัง"ไอ้หนุ่ม แกเห็นไหมว่าใครเป็นคนทำ?"คนตาไวมองเห็นว่าเป็นเงาของชายหนุ่มจึงรีบถามออกไปทันที"ขอเตือนไว้ก่อน เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ รีบพูดสิ่งที่นายเห็นออกมาทั้งหมก ไม่งั้นนายเองก็ต้องเดือดร้อนด้วย!"ลั่วอู๋ฉางยืนอย่างสงบพลางตอบว่า "เห็น""รีบบอกมาว่าใคร!" คนกลุ่มนั้นร้องถามขึ้นพร้อมกันลั่วอู๋ฉางตอบอย่างไม่รีบร้อนว่า "ก็ฉันไง!""อะไรนะ?!"คนกลุ่มนั้นเบิกตาโต ความโกรธที่ปรากฏบนใบหน้าชัดเจนยิ่งกว่าความตกใจ"ไอ้หนุ่ม นี่ไม่ใช่เวลามาอวดเก่ง คิดว่าเราจะเชื่อแกหรือไง?""รีบบอกมาว่าใครเป็นคนทำ ไม่งั้นจะถือว่าแกเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วย!""ให้โอกาสสุดท้าย รีบพูด ไม่งั้นพวกเร
ซูเทียนคั่วกังวลขึ้นมาทันที ขณะที่ปกป้องซูเฉี่ยนเฉี่ยนหลานสาว เขาก็ตะโกนเสียงดังขึ้นว่า "เจ้าสำนักชวี นี่คือวิธีการต้อนรับแขกของพันธมิตรบู๊ลิ้มหรือ?""หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ไม่กลัวคนในยุทธภพจะหัวเราะเยาะหรือ?"ชวีซานตัวไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย "อย่างพวกนายเนี่ยนะ? เรียกว่าแขกได้ด้วยหรือ?"เมื่อต้องเผชิญหน้ากับจำนวนคนที่มากกว่าหลายเท่า อีกทั้งสายตาที่จับจ้องมาอย่างอาฆาต ทั้งสามคนไม่สามารถต่อกรได้เลยไม่นานพวกเขาก็ถูกจับตัวได้!"ชวีซานตัว การที่คุณทำเช่นนี้ ไม่กลัวว่าศิษย์ของเทพอวี้อย่างราชันมังกรลั่วเทียนจะมาหาเรื่องหรือ?" ซูเทียนคั่วพูดขณะดิ้นรนชวีซานตัวไม่สนใจแม้แต่น้อย "ถ้าเขากล้าหาญมาที่นี่ ฉันจะให้เขาลิ้มรสชาติของการต้องเป็นนักโทษเช่นกัน!""ศิษย์ที่ถูกสอนโดยตาแก่แบบนั้น คงไม่ใช่คนดีสักเท่าไรหรอก พอดีเลย จะได้ให้เขาชดใช้หนี้แทนตาแก่นั่นและพวกแกไปพร้อมกัน!""ราชันมังกรลั่วเทียนอะไรกัน แค่เด็กหนุ่มอายุยี่สิบต้นๆ จะมีอะไรพิเศษนัก?""ตัวเขาไม่อายก็ช่างเถอะ แต่ยังกล้าไปหาคนมาคุยโวแทนตัวเอง คิดจะดังจากการสร้างกระแสเช่นนี้ คิดว่าบู๊ลิ้มเป็นที่สำหรับเล่นขายของหรือไง ฝันไปเถ
พูดของชวีซานตัวเต็มไปด้วยความหยาบคายใบหน้าสวยของเย่ปิงเหยาเริ่มบึ้งตึง แต่เพราะนี่เป็นถิ่นของอีกฝ่าย เธอจึงไม่อาจโต้ตอบได้ชวีหลิงหานคือน้องสาวของชวีซานตัว ทั้งสองคนมีอายุห่างกันมากกว่ายี่สิบปีหลังจากชวีหลิงหานเกิดได้ไม่นาน พ่อแม่ของเธอก็เสียชีวิตจากอาการป่วย ก่อนสิ้นใจได้ฝากให้ชวีซานตัวช่วยเลี้ยงดูน้องสาวที่ยังเป็นแค่ทารกแรกเกิดชวีซานตัวเลี้ยงดูน้องสาวด้วยความยากลำบาก จนเธอเติบโตขึ้นมาเป็นหญิงสาวที่งดงามยิ่ง ทั้งยังมีพรสวรรค์จนได้รับความสนใจจากคนในบู๊ลิ้มมีผู้คนมาสู่ขอเธอมากมายจนทำให้ประตูบ้านตระกูลชวีแทบพังในขณะที่ชวีซานตัวกำลังเลือกคู่ครองให้น้องสาวจนตาลาย และวาดฝันว่าเธอจะได้แต่งงานกับตระกูลใหญ่โตความฝันกลับพังทลาย!ชวีหลิงหาน หญิงสาวผู้แสนงดงาม กลับถูกชายแก่อัปลักษณ์คนหนึ่งมาชิงตัวไป!ในตอนแรก ชวีซานตัวคิดว่าน้องสาวของเขายังไร้เดียงสา และถูกชายชั่วหลอกลวงเขาคิดว่าเพียงแค่พูดจาโน้มน้าวด้วยความรักและเหตุผล น้องสาวจะกลับตัวกลับใจแต่ผลกลับเป็นตรงกันข้าม!ชวีหลิงหานไม่เพียงแต่ไม่สำนึกในสิ่งที่ทำ แต่กลับรักชายแก่คนนั้นอย่างหัวปักหัวปำ และพูดคำพูดไร้สาระอย่างเช่นรักจน
พูดตามตรง ลั่วอู๋ฉางก็มีใจอ่อนนิดหน่อยทุกครั้งที่ต้องต่อสู้กับพวกกระจอก เขามักจะคิดถึงหูเยว่ซีอย่างมากเป็นถึงจักรพรรดินีแห่งชิงชิว แต่เขากลับใช้งานเหมือนลูกน้องปลายแถวประเด็นสำคัญคือ หูเยว่ซีไม่เพียงแต่ไม่โกรธ แต่ยังเต็มใจช่วยอย่างยินดีอีกด้วย"ไม่ได้"ความมีเหตุผลเอาชนะความหุนหัน ลั่วอู๋ฉางพูดพร้อมขมวดคิ้ว "เธอต้องอยู่เฝ้าบ้าน มีแต่แบบนี้ ฉันถึงจะวางใจได้"หูเยว่ซีทำหน้าหงอย: "ก็ได้!"ลั่วอู๋ฉางหัวเราะ "เธอว่านอนสอนง่ายขนาดนี้ ต้องให้รางวัลสักหน่อยแล้ว""รางวัลอะไร?" จิ้งจอกน้อยถามอย่างตื่นเต้น ดวงตาทั้งสองส่องประกายวิบวับทันทีลั่วอู๋ฉางหยิบลูกแก้วพญานาคออกมาจากกระเป๋าแล้วพูดว่า "ก่อนหน้านี้สัญญาว่าจะให้ของขวัญเธอ ตอนนี้ถึงเวลาทำตามสัญญาแล้ว"หูเยว่ซีตาเป็นประกายอีกครั้ง "ลูกแก้วพญานาค!"ถ้าเป็นเมื่อก่อน ลูกแก้วพญานาคระดับนี้เธอคงไม่แม้แต่จะชายตามองด้วยซ้ำแค่มองนานหน่อย ก็ถือเป็นการดูหมิ่นคำว่า "จักรพรรดินีแห่งชิงชิว" แล้ว!แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน หลังจากถูกขังอยู่ในแหวนมานานถึงพันปี เพิ่งจะได้อิสรภาพคืนมา พลังลดลงไปมากและร่างกายก็อ่อนแอสุดขีดนี่คือช่วงเวลาที่เธอต้อง
หวงผู่เจิ้งซิ่นย่อมไม่พอใจแน่!คนเป็นครูยังล้มเหลว แต่ศิษย์กลับทำสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกถ้าไม่ใช่บังเอิญ แล้วมันคืออะไร?ลั่วอู๋ฉางไม่ตอบอะไร จากนั้นก็หยิบคริสตัลสวรรค์ก้อนที่สองมาไม่นานก็ทำสำเร็จอีกครั้ง!หวงผู่เจิ้งซิ่นเบิกตากว้าง ประหลาดใจราวกับเห็นเทพเจ้าส่วนใบหน้าของหูเยว่ซีก็เต็มไปด้วยความชื่นชมมากขึ้นเรื่อยๆ"ลองอีกครั้งสิ!" หวงผู่เจิ้งซิ่นยังคงไม่ยอมแพ้คราวนี้ ลั่วอู๋ฉางไม่ทำตามเขาอีกต่อไป เขาเก็บแท่งคริสตัลสวรรค์ที่เหลือทันที"หมายความว่าไง?" หวงผู่เจิ้งซิ่นถามตาโตลั่วอู๋ฉางลุกขึ้นเดินออกไป ทิ้งคำพูดไว้โดยไม่หันกลับมา "ขอบคุณนะ!""เดี๋ยวสิ นายแน่ใจแล้วเหรอว่านายเข้าใจทั้งหมด?"หวงผู่เจิ้งซิ่นรีบไล่ตามไป "ถ้าไม่สำเร็จล่ะ ฉันจะได้ช่วยหาสาเหตุไง!""ไม่จำเป็นแล้ว ถ้านายท่านของฉันคิดว่าไม่มีปัญหา มันก็ไม่มีปัญหาแน่" หูเยว่ซีขวางเขาไว้ พร้อมพูดอย่างหนักแน่นในตอนนี้ สีหน้าหวงผู่เจิ้งซิ่นเต็มไปด้วยความซับซ้อนศิษย์ที่เก่งเกินไปทำให้ครูรู้สึกอับอาย"ไหนว่าราชันมังกรลั่วเทียนก็เป็นแค่คนธรรมดา เขาเป็นปีศาจชัดๆ!"หวงผู่เจิ้งซิ่นยอมแพ้อย่างหมดท่า พูดอย่างเศร้าๆ "คิดว่า
หวงผู่เจิ้งซิ่นเชิดคอขึ้น พยายามทำสีหน้าให้ดูปกติที่สุดเพื่อปกปิดความเขินอายของตัวเองเนื่องจากการสาธิตเมื่อครู่นั้นจบลงด้วยความล้มเหลวแม้ว่าเขาจะรู้วิธี แต่เพราะไม่ได้ปฏิบัติมาเป็นเวลานาน ความผิดพลาดจึงถือเป็นเรื่องปกติ"หาว..."หูเยว่ซีอ้าปากหาวครั้งใหญ่ ราวกับเปลือกตาถูกกดด้วยน้ำหนักมหาศาลใช่แล้ว เธอง่วงจริงๆ!การสอนของหวงผู่เจิ้งซิ่นทำให้เธอง่วงได้สำเร็จส่วนเนื้อหาที่พูดในภายหลัง แทบไม่ได้เข้าหัวของหูเยว่ซีเลย ผ่านหูซ้ายออกหูขวา ไม่มีอะไรในหัวเลย"พวกคุณ...ทำต่อไปเลย!"หูเยว่ซียืดแขนบิดขี้เกียจ และส่งสัญญาณให้ทั้งคู่ไม่ต้องสนใจเธอสิ่งนี้ทำให้หวงผู่เจิ้งซิ่นรู้สึกว่าตัวเองล้มเหลวมาก!รู้สึกเหมือนโดนตบหน้าฉาดใหญ่!การทำให้นักเรียนง่วงถือเป็นเรื่องที่น่าอับอายอยู่แล้ว ที่สำคัญคือการสาธิตของตัวเองยังล้มเหลวอีกด้วย"ไม่เป็นไร ฉันขอลองเอง" ลั่วอู๋ฉางเสนอตัวขึ้นอย่างกล้าหาญ"คุณจำทั้งหมดได้แล้วเหรอ?"หวงผู่เจิ้งซิ่นพูดด้วยสีหน้าจริงจังทันที "อย่าเพิ่งรีบร้อนปฏิบัติเลย ลองทบทวนสิ่งที่ฉันพูดสักรอบก่อน มีจุดไหนที่ไม่เข้าใจก็ถามให้แน่ชัด แล้วค่อยลงมือ"เพราะจำนวนของแท่งค