หลิ่วซือหยินกอดเอวลั่วอู๋ฉางต่อ ไม่ได้ยินเสียงปืนของเธอ จึงเผลอหันกลับมามองอย่างลืมตัว“ตาย......หมดแล้วเหรอ?”ระดับความตื่นตกใจของเธอ ไม่น้อยไปกว่าใครอื่นเลยด้วยซ้ำลั่วอู๋ฉางยิ้มบาง “แน่นอน ฉันมาเพื่อช่วยเธอ จะปล่อยให้ใครมาทำร้ายเธอตามอำเภอใจได้ยังไง”กลิ่นอายอันแข็งแกร่งของชายหนุ่ม ความรู้สึกปลอดภัยแรงกล้าโอบล้อมเข้ามาจากทุกทิศทางกระทั่งชั่ววินาทีนี้ หลิ่วซือหยินถึงได้รู้สึกตัวว่ากำลังกอดลั่วอู๋ฉางไว้ ใบหน้าพลันขึ้นริ้วแดงทันใดบรรยากาศระหว่างทั้งสอง กลายเป็นความเคอะเขินขึ้นหลิ่วซือหยินรีบปล่อยมือ ถอยหลังไปหนึ่งก้าวทันทีเพราะเหยียบใส่รอยเลือดกองหนึ่ง ทำเอาเท้าไถลลื่นไปข้างหน้าจนเกือบล้มลั่วอู๋ฉางเป็นพวกตาไวมือไว เหยียดแขนรั้งเอวบางหลิ่วซือหยินไว้อย่างง่ายดายแค่ดึงเบาๆ หลิ่วซือหยินจึงกลับมาสู่อ้อมแขนเขาอีกครั้งลั่วอู๋ฉางสัมผัสได้ชัดเจนว่า อกสองเต้าของสาวสวยแนบชิดกับหน้าอกตัวเอง“ฮึก……”หลิ่วซือหยินไม่ทันระวังป้องกันตัว เผลอส่งเสียงร้องน่าเอ็นดูดังขึ้นกลิ่นฮอร์โมนชายเข้มข้น ทำเอาใจเธอเต้นเร็วในชั่วพริบตา ใจเต้นระรัวราวกับกวางน้อยอยู่ไม่สุขใบหน้าสวยได้รูป แดงก่ำฝ
“ลุงสอง ลุงมันไร้เหตุผลที่สุด!”หลิ่วซือหยินโมโหสุดขีด เธอรู้สึกเหนื่อยใจเหลือเกินคราวก่อนที่ตนเจตนาดีหวังดี พาหลิ่วเจิ้นเจียงไปพบลั่วอู๋ฉางนั้นคนเขาไม่ได้ตำหนิเรื่องที่พวกเขาเป็นแขกไม่ได้รับเชิญ ไม่เพียงต้อนรับขับสู้อย่างดี แต่ยังเป็นฝ่ายออกตัวพูดที่มาของมีดบินสังหารเซียนปลอมอีกด้วยเตือนด้วยความหวังดีว่าของสิ่งนี้เป็นสิ่งชั่วร้าย หากเอาไว้ข้างกายจะสร้างปัญหาแก่เจ้าของต้องรู้ก่อนว่า ลั่วอู๋ฉางไม่ได้เก็บค่าวินิจฉัยประเมินด้วยซ้ำพูดออกมาได้ขนาดนี้ ถือว่าไว้หน้าแก่หลิ่วซือหยินแล้วแต่หลิ่วเจิ้นเจียงล่ะ ไม่เพียงซาบซึ้งในบุญคุณ แต่ยังลบหลู่ดูหมิ่นลั่วอู๋ฉางไปหมดเห็นชัดว่าเป็นช่างไม่รู้จักคนดี มีตาหามีแววไม่ ไม่รู้จักคนใจดีจิตเมตตาหลายวันมานี้ หลิ่วเจิ้นเจียงซวยมาโดยตลอด แค่อุบัติเหตุทางรถทั้งน้อยทั้งใหญ่ ก็เกิดขึ้นสามสี่ครั้งได้แล้วนักบู๊โบราณแต่กำเนิดอย่างเขา คาดไม่ถึงว่าตอนเดินเหินยังจะข้อเท้าแพลงได้หลิ่วซือหยินตัดสินแล้วว่า เป็นเพราะมีดบินนั่นสร้างเรื่องก่อกวนหลายครั้งที่เธอพูดโน้มน้าวด้วยความจริงใจ ให้หลิ่วเจิ้นเจียงเอามีดบินนั่นทิ้งแต่หลิ่วเจิ้นเจียง กลับไม่ฟังแ
พูดจบ เขาคว้าโครงรถผิดรูปไว้ ก่อนแกะถ่างออกทันทีจากนั้น จึงค่อยๆอุ้มเด็กหญิงด้วยความระวัง วางเธอไว้ข้างกายคุณแม่“ลูก......เป็นยังไงบ้าง อย่าทำให้แม่กลัวนะ!”หญิงวัยกลางคนร้องไห้แทบขาดใจ ทำเอาคนเห็นปวดใจ คนได้ยินร้องไห้ไปตามๆกัน“คุณแม่อย่าร้องไห้เลย ถงถงไม่เจ็บค่ะ ไม่เจ็บ...... เลยสักนิดจริงๆ” เด็กหญิงตอบสนองปลอบใจผู้เป็นแม่สภาพตอนอยู่หลุดออกมาเมื่อครู่ ลั่วอู๋ฉางมั่นใจแล้วว่า อาการบาดเจ็บของเด็กหญิงรุนแรงเป็นอย่างยิ่งท้องน้อยฝั่งซ้ายถูกของแหลมเสียบทะลุ เสียเลือดอย่างรุนแรงกระดูกขาสองข้างหัก กระดูกแขนซ้ายหัก กระดูกซี่โครงหักด้วยเช่นกันรวมถึงกระดูกคอได้รับความเสียหายสถานการณ์ย่ำแย่ไม่สู้ดี!“โทรเบอร์ช่วยเหลือฉุกเฉิน......แม่จะโทรก่อน ถงถงต้องใจแข็งไว้นะลูก!”หญิงวัยกลางคนควานกระเป๋าเสื้อ แต่กลับหาโทรศัพท์ไม่เจอเมื่อครู่ถูกชนรุนแรงขนาดนั้น โทรศัพท์คงกระเด็นไปไหนแล้วไม่รู้ท่ามกลางความร้อนรนสุดขีด เธอร้องไห้ดังอย่างไร้ที่พึ่งอีกครั้ง ก่อนเว้าวอนขอความช่วยเหลือจากลั่วอู๋ฉาง “คุณพลเมืองดี รบกวนคุณช่วยเราโทรหาเบอร์ช่วยเหลือฉุกเฉินได้ไหม......ถ้าผ่านเรื่องนี้ไปแล้วฉันจะตอ
"หมอเทวดา ได้โปรดคิดใหม่อีกครั้ง!""เพื่อผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ท่านยอมทอดทิ้งตำแหน่งที่สูงศักดิ์จริง ๆ เหรอ?""ด้วยสถานะของท่าน เพียงท่านพยักหน้า นางแบบระดับโลก นักแสดงหญิงยอดนิยม หรือต่อให้เป็นเจ้าหญิงของประเทศ ก็จะต่อแถวมาปรนนิบัติท่านถึงเตียงนะครับ"เรือนจำเมืองจิงไห่แห่งที่ 1 เป็นเรือนจำระดับสุดยอดที่กักขังเหล่าวายร้ายระดับโลกและคนชั่วในวงการธุรกิจในตอนนี้ที่หน้าประตูเหล็ก ชายชราในชุดเสื้อคอจีนกำลังขอร้องอ้อนวอนชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าชายชราผู้นี้คือเหลยเทียนสงหัวหน้าแก๊งนักธุรกิจในประเทศหัวเซี่ย ควบคุมเส้นทางเศรษฐกิจหลายช่องทาง เพียงแค่ประโยคเดียวก็สามารถทำให้เศรษฐกิจของประเทศล่มสลายได้ในทันที และมีชื่อเสียงในเรื่องความโหดเหี้ยมไม่ไว้หน้าใครเพื่อที่จะตามหาลั่วอู๋ฉางให้รักษาโรคและช่วยชีวิต เหลยเทียนสงเป็นฝ่ายยอมเข้ามารับโทษที่หลงตัน ในที่แห่งนี้ สถานการณ์แบบนี้พบเห็นได้บ่อยมากและด้านหลังชายชรา ผู้คุมและนักโทษทั้งหมดในเรือนจำ คุกเข่าข้างเดียว เรียงตัวกันเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส แสดงสีหน้ามีความหวัง ไม่อยากให้เขาจากไปเพียงเพราะว่าชายหนุ่มคนนี้ ลั่วอู๋ฉางนอกจากสถานะนักโทษแ
"มาสายเหรอ?"ลั่วอู๋ฉางประหลาดใจเล็กน้อย มองทอดสายตาไปก็ว่างเปล่าภาพที่เขาคาดคิดไม่ได้ปรากฏขึ้น หยางหว่านอวี่ไม่ได้ทำเหมือนกับตอนก่อนที่จะเข้าคุก ที่มอบอ้อมกอดที่อบอุ่นที่สุดให้เขา ในช่วงเวลาแรกที่เขาออกจากคุกแต่เขาไม่ได้ใส่ใจ ขับรถช้าหน่อยปลอดภัยกว่าเขายืนอยู่ตรงนั้น รอคอยอยู่เงียบ ๆจนกระทั่งพระอาทิตย์ตก ฝนโปรยลงมาเป็นระยะรถคันหนึ่ง ถึงได้ขับมาจากปลายถนนช้า ๆรถจอดลงด้านข้าง ลั่วอู๋ฉางรีบเดินเข้าไปหาแต่ทว่า คนที่ลงจากรถกลับไม่ใช่หยางหว่านอวี่ภรรยาของเขา แต่เป็นจ้าวเหม่ยอวิ๋นเพื่อนสนิทของเธอ“เหม่ยอวิ๋น ทำไมถึงเป็นเธอ หว่านอวี่ล่ะ?” ลั่วอู๋ฉางรู้สึกแปลกใจจ้าวเหม่ยอวิ๋นกางร่ม เดินเข้ามาด้วยใบหน้าเฉยเมย “ประธานหยางไม่มา ฉันเป็นเลขาของเธอ นี่คือสิ่งที่ประธานหยางให้ฉันเอามาให้นาย”เธอเปิดแฟ้มเอกสารออก แสดงไปตรงหน้าลั่วอู๋ฉางสัญญาหย่าร้าง!ตัวอักษรใหญ่ ๆ สี่ตัว ทิ่มแทงดวงตาอย่างมากลั่วอู๋ฉางนิ่งอึ้ง จากนั้นยิ้มกริ่ม “อย่าล้อเล่นแบบนี้ รีบให้หว่านอวี่ออกมาเถอะ!”ใบหน้าที่เย็นชาของจ้าวเหม่ยอวิ๋นเผยความดูถูกออกมาแวบหนึ่ง พูดอย่างไม่แยแส “ไม่มีคนล้อเล่นกับนาย! ลั่วอู๋ฉาง
หยางหว่านอวี่กลับจะคบกับมัน นี่มันเป็นการเหยียดหยามกันอย่างมากในตอนนี้รถเบนซ์คันหนึ่งขับมา ร่างงามลงมาจากรถ ใบหน้าประณีตสวยงามสุด ๆ ชุดทำงานแบรนด์เนมเข้ารูปจนเห็นรูปร่างที่งดงาม ขาเรียวยาวตรงดิ่งทั้งสองข้างที่ดึงดูดสายตาเป็นพิเศษออร่าที่เหนือกว่าคนทั่วไปของเธอ เหมือนกับราชินี ทำให้ผู้คนตกตะลึงช่วงเวลาสี่ปี ไม่เพียงไม่ได้ทิ้งร่องรอยของการเวลาใด ๆ ไว้บนใบหน้าของเธอ ในทางกลับกันยังเพิ่มความเป็นผู้ใหญ่ของผู้หญิงที่แข็งแกร่งอีกด้วย“เสี่ยวอวี่……”ลั่วอู๋ฉางสีหน้าเผยความดีใจอย่างอดไม่ได้ สาวเท้าเดินเข้าไปหาหยางหว่านอวี่ถอยหลังไปหนึ่งก้าวด้วยสัญชาตญาณ และหลบสายตา “ขออภัย ธุรกิจรัดตัวมาช้าไปหน่อย เลขาจ้าว จัดการเรื่องเสร็จเรียบร้อยแล้วเหรอ?”ท่าทางเย็นชา กีดกันผู้คนออกไปไกลเป็นหลายพันไมล์จ้าวเหม่ยอวิ๋นสีหน้าประหม่า รีบกางร่มเดินเข้าไป “ฉันกำลังดำเนินการอยู่……อ่อใช่ ประธานหยาง คุณมีนัดกับคุณชายหวังไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงมีเวลามาที่นี่?”“ไม่กระทบหรอก จัดการเรื่องทางนี้เสร็จก็จะไปตามนัด”สายตาของหยางหว่านอวี่ถึงได้มองไป เห็นลั่วอู๋ฉางที่เสื้อผ้าเปียกชุ่ม เธอเผยสีหน้าซับซ้อนขึ้นมาก่อน แ
หย่าร้างสำเร็จ!แต่หยางหว่านอวี่สังเกตเห็น ตัวเองไม่ได้ดีใจขนาดนั้นเหมือนอย่างที่คิดไว้แต่เธอยังต้องรักษาท่าทางแข็งกร้าวเอาไว้ พูดว่า "มีแต่คนอ่อนแอถึงจะเห็นศักดิ์ศรี และเกียรติที่ไม่มีค่าสำคัญขนาดนั้น ตอนนี้นายปฏิเสธ จะต้องเสียใจภายหลังแน่นอน"“ของพวกนี้ฉันเก็บเอาไว้ให้นาย คิดได้เมื่อไหร่ ก็มาหาเลขาจ้าวได้ทุกเมื่อ”ลั่วอู๋ฉางผิดหวังอย่างถึงที่สุด หันหลังเดินจากไปมองดูแผ่นหลังที่ค่อย ๆ ไกลออกไป หัวใจที่เย็นชาของหยางหว่านอวี่เหมือนกับถูกทิ่มแทง พูดด้วยความสับสน “เหม่ยอวิ๋น ฉันทำแบบนี้……ถูกหรือผิดนะ?”“ถูกอยู่แล้ว เพียงแค่เตะสิ่งกีดขวางออกไป คุณถึงจะแสดงความมุ่งมาดปรารถนาออกมาได้ตามอำเภอใจ กลายเป็นผู้หญิงแกร่งที่อยู่จุดสูงสุด ส่วนลั่วอู๋ฉางก็แค่คนต่ำต้อย ไม่มีสิทธิ์แม้แต่เงยหน้ามองคุณด้วยซ้ำ เก็บเอาไว้มีแต่จะเป็นตัวถ่วงคุณ” จ้าวเหม่ยอวิ๋นพูดอย่างมั่นใจหยางหว่านอวี่ไม่พูดจา แต่กลับมีความรู้สึกเหมือนสูญเสียสิ่งสำคัญที่สุดไป เธอเหม่อลอยอยู่ที่เดิมจ้าวเหม่ยอวิ๋นเห็นแบบนี้ รีบเปลี่ยนเรื่องพูด “ฉันสืบถามถึงคุณเกาของเกาซื่อกรุ๊ปได้ เธออยู่ที่กลางเมือง คุณติดที่ไม่ได้เจอตัวจริงของเธอ
เกาชิงเหยียนแทบจะร้องไห้ เธอพูดทั้งน้ำตา “ตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่ได้รับการช่วยเหลือจากท่าน คุณพ่อทำตามคำแนะนำของท่านและเปลี่ยนแนวทางของเขา ละทิ้งพฤติกรรมชั่วเหล่านั้น เปลี่ยนไปทำธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย”"ทุกปีเขาจะนำเงินห้าพันล้านบาทออกมาทำการกุศล สร้างสถานเด็กกำพร้าและโรงเรียนประถม ช่วยเหลือกลุ่มคนที่รายรับน้อยกับผู้ที่ไม่มีกำลังทรัพย์รักษาโรค"“พ่อของฉันเปลี่ยนแปลงไปแล้วจริง ๆ ค่ะ หมอเทวดาลั่วต้องช่วยเขานะคะ เพียงแค่คุณยอมรักษา ตระกูลเกายินยอมมอบโสมพันปีให้!”หลายวันมานี้ เกาชิงเหยียนไม่ลังเลที่จะใช้จ่ายเงินหลายแสนบาท เชิญหมอที่มีชื่อเสียงรักษาอาการให้พ่อ แต่สุดท้ายต่างก็ล้มเลิกกลางคันมีวันหนึ่งที่เธอนึกขึ้นได้กะทันหัน อาการของพ่อเมื่อสามปีก่อนแย่ยิ่งกว่านี้ แต่ประหลาดตรงที่เขาออกไปรอบหนึ่งก็หายแล้ว เกาฉี่เฉียงบอกว่าตัวเองโชคดี หายป่วยเอง ทำอย่างขอไปทีเกาชิงเหยียนไม่เชื่ออยู่แล้ว เพราะว่าหลังจากที่พ่อกลับมา นิสัยก็เปลี่ยนไปอย่างมาก เหมือนกับเปลี่ยนไปคนละคนจนกระทั่งเกาชิงเหยียนเปิดตู้เซฟออก ได้รู้เรื่องนี้จากบันทึกของพ่อ ถึงได้เข้าใจทันทีผู้มีฝีมือมีกฎเกณฑ์เยอะ เป็นเรื่องป