ถ้าไม่รู้ยังนึกว่าเขาคือหม่าเฉียนคุนตัวจริงซะอีก!ทำทีวางท่าแบบนี้ ดูจะเวอร์เกินไปหน่อยแล้ว!“ที่วันนี้ฉันมาก็เพื่อสูตรยายาแก้บาดเจ็บ”พ่อบ้านหม่าพูดอย่างอวดดีว่า “เถ้าแก่หม่าของเราบอกไว้ว่า แค่แกยอมมอบสูตรยาออกมาดีๆ เรื่องที่เคยทำร้ายคุณหนูใหญ่ของเราจะถือว่าจบกันไป”“ไอ้หนุ่ม ตระกูลหม่าอุตส่าห์เสนอทางออกให้กับแกเองนี่ถือเป็นเกียรติมากนะ เป็นความโชคดีที่แกสะสมมาแปดชาติเลยรู้ไหม?”“แกต้องรู้จักตอบแทนบุญคุณ รีบมอบสูตรยาออกมาได้แล้ว!”ในความคิดของเขา แค่ตนเองบอกชื่อของตระกูลหม่าเรื่องนี้ก็คงสำเร็จแล้วในเมืองอัน ใครจะกล้าขัดคำของตระกูลหม่าล่ะ?ทุกอย่างที่ตระกูลหม่าต้องการ ไม่ว่าจะเป็นคนหรือของ ถ้าอยากได้ก็ต้องได้ยิ่งไปกว่านั้น คราวนี้หม่าเฉียนคุนยังเป็นคนสั่งการด้วยตัวเองอย่าว่าแต่คนต่างถิ่นที่ไร้อำนาจเลย แม้แต่คนสำคัญที่มีชื่อเสียงในท้องถิ่น ก็จะต้องทำตามคำสั่งเท่านั้นไม่อย่างนั้น จะทำให้บ้านแกย่อยยับ คนในครอบครัวล่มจม ไม่ให้ได้เห็นดวงตะวันพรุ่งนี้!“พวกแกจะยอมจบเรื่องง่ายๆ งั้นเหรอ?!”ลั่วอู๋ฉางหัวเราะเย็นชา “คำพูดนี้ถึงตาหม่าเฉียนคุนมาพูดตั้งแต่เมื่อไหร่?”พ่อบ้านหม่าเล
“สมควร!”ซูเทียนคั่วสบถออกมาเดิมทีเขาก็รู้สึกโกรธเพราะเรื่องลูกเขยอยู่แล้วเมื่อเห็นหัวของพ่อบ้านหม่าตกลงกับพื้น เลยไม่ต้องพูดเลยว่าเขาสะใจแค่ไหนถ้าไม่ใช่ลั่วอู๋ฉางลงมือก่อน เขาเองก็จะไม่ปล่อยเจ้านี่ที่โคตรหยิ่งผยองไปได้ง่ายๆ เหมือนกัน“คุณปู่คะ เมื่อกี้คุณแม่ถามว่า จะเอาของไปเคารพบรรพบุรุษที่บ้านคุณป้าใหญ่ไหมคะ?” ซูเฉี่ยนเฉี่ยนถามซูเทียนคั่วตอบโดยไม่ต้องคิด “ไม่ไป!”“หา?”ซูเฉี่ยนเฉี่ยนอึ้งค้างอยู่ตรงนั้นคุณปู่ให้ความสำคัญกับคุณลุงเขยมาตลอดไม่ใช่เหรอ ตอนนี้เขาตายแล้ว เหลือแต่ภรรยาและลูกสาว ครอบครัวเราก็ควรจะไปช่วยจัดการเรื่องงานศพสิถึงจะถูก“ปู่ไม่ไป พวกเธอก็ไม่ต้องไป” ซูเทียนคั่วพูดด้วยน้ำเสียงที่เผด็จการคนชั่วไม่รู้บุญคุณแบบนั้น คู่ควรเหรอ?ที่ฉันไม่เปิดโปงพฤติกรรมที่น่าอับอายของพวกเขาสองพี่น้องต่อหน้าคนอื่น ก็ถือว่าเป็นบุญคุณที่ใหญ่หลวงแล้ว!บาดแผลที่หลังของซูเทียนคั่ว แม้จะกินยาแก้บาดเจ็บแล้ว จนถึงตอนนี้ก็ยังคงเจ็บอยู่เพื่อไม่ให้หลานสาวคนโปรดเป็นห่วง เขาจึงกัดฟันทนมาโดยตลอดจะให้ฉันไปเคารพศพพวกเขาหรอ ไม่มีทาง!“แล้วทางคุณป้าใหญ่กับถังเจียเจียจะไม่ว่าอะไรใช่ไห
แต่หม่าอวิ๋นหลงบอกว่าจะพาแฟนสาวกลับมาด้วยได้ยินว่าแฟนของเขามีฐานะสูงส่ง เป็นถึงเจ้าหญิงน้อยจากตระกูลใหญ่ในเมืองหลวงเมื่อหม่าเฉียนคุนได้ยินแบบนี้ แน่นอนว่าต้องให้ความสำคัญจึงลากสังขารหม่าอวี่เฟย ลูกสาวของเขามาด้วยเพื่อแสดงถึงความจริงใจและให้ความสำคัญต่อฝ่ายหญิง หม่าเฉียนคุนจึงให้คนขับรถออกเดินทางมาก่อนเวลาด้านหลังพวกเขาคือรถโรลส์-รอยซ์รุ่นลิมิเต็ดที่หม่าเฉียนคุนเพิ่งซื้อมาและปกติไม่ค่อยได้เอาออกมาขับผลคือหม่าอวี่เฟยต้องมารอที่ประตูสนามบินกับเขานานถึงเกือบสามชั่วโมงเวลานี้เอง ชายหญิงคู่หนึ่งก็เดินจับมือกันเข้ามาฝ่ายชายมีท่าทางองอาจ รูปงาม เป็นคนที่ดูเต็มเปี่ยมไปด้วยอำนาจและพร้อมสู้เสมอแสดงออกถึงความแข็งแกร่งและน่าเกรงขาม!คนทั่วไปแทบจะไม่กล้าสบตาเขาคือศิษย์เอกของสำนักกระบี่เหล็ก และเป็นลูกชายคนโตของตระกูลหม่า หม่าอวิ๋นหลงหญิงสาวในชุดขาวที่อยู่ข้างๆ ไม่เพียงมีรูปร่างสูงเพรียว สวยงาม แต่ยังมีออร่าที่ไม่ธรรมดาเมื่อเทียบกับเธอแล้ว หม่าอวี่เฟยดูเหมือนเป็นลูกเป็ดขี้เหร่ไปเลยพวกเขาทั้งสองเป็นเหมือนคู่กิ่งทองใบหยก!“ลูก ทางนี้!”หม่าเฉียนคุนเมื่อเห็นลูกชายก็ดีใจจนตาล
"คงไม่บังเอิญขนาดนั้นหรอกใช่ไหม? หรือว่าแค่ชื่อซ้ำกัน?”หม่าอวิ๋นหลงพูดขึ้นอย่างตกใจ“ชื่อที่พิเศษขนาดนี้ โอกาสที่จะซ้ำกันคงมีไม่มาก!”จางอวิ๋นมู่มั่นใจในการวิเคราะห์ของตัวเอง ถามหม่าเฉียนคุนว่า “คุณอาหม่า ลั่วอู๋ฉางคนนี้มาจากไหนคะ?”“จากที่ไหนสักแห่งทางใต้ น่าจะชื่อว่า...ชื่อว่าอะไรนะ?”หม่าเฉียนคุนพยายามนึกอยู่พักหนึ่ง แล้วก็เบิกตาโตพูดว่า “ใช่แล้ว จิงไห่!”“ใช่เลย ชื่อนี้แหละ ก่อนหน้านี้ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย”จางอวิ๋นมู่พยักหน้าหงึกๆ “ใช่แล้ว ลั่วอู๋ฉางจากจิงไห่ เขาฆ่าน้องชายฉันอย่างโหดเหี้ยม และจินจวิ้นอู่ ลูกพี่ลูกน้องฉันอีกคน ก็ตายด้วยน้ำมือของเขา!”“จนถึงวันนี้ พ่อแม่ฉันและคุณอาก็ยังร้องไห้อยู่ทุกวัน”“ก่อนหน้านี้ ครอบครัวเราส่งคนไปจิงไห่เพื่อตามหาลั่วอู๋ฉาง แต่ไม่คิดเลยว่าเขามาซ่อนตัวอยู่ที่เมืองอัน!”จางอวิ๋นมู่ คือพี่สาวของจางอวิ๋นฉู่ เด็กหนุ่มผมขาวคนนั้นตอนนี้ เมื่อเธอได้ยินชื่อศัตรู แน่นอนว่าต้องโกรธจนตาแดง“ลั่วอู๋ซางคนนี้ สมควรตายแล้ว!”หม่าเฉียนคุนกัดฟันพูด “เขาไม่เพียงแค่ทำร้ายเสี่ยวเฟย ยังทำให้ตระกูลหม่าเราต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง กลายเป็นตัวตลกของเมืองอัน
“งั้นก็ยิ่งไม่มีปัญหา!” หม่าอวิ๋นหลงยิ้มยินดีมากขึ้นหม่าอวี่เฟยถาม “พี่คะ ดวงชะตาจักรพรรดิโดยกำเนิดคืออะไรเหรอ?”หม่าอวิ๋นหลงยิ้มแต่ไม่พูด จางอวิ๋นมู่ตอบว่า “มันคือพรสวรรค์พิเศษที่หาได้ยากยิ่ง”“ในประวัติศาสตร์ ผู้ที่มีดวงชะตานี้ล้วนเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่ การประสบความสำเร็จถือเป็นเรื่องง่ายสำหรับพวกเขา”เนื่องจากพรสวรรค์นี้ของหม่าอวิ๋นหลง จางอวิ๋นมู่จึงเลือกเขาเป็นแฟนถ้าไม่ใช่เพราะอย่างนี้ ด้วยสถานะคุณหนูใหญ่ตระกูลจาง เธอคงไม่มีทางสนใจหม่าอวิ๋นหลงที่มาจากตระกูลเศรษฐีบ้านนอกหรอกที่หม่าอวิ๋นหลงสามารถได้รับความสำคัญจากสำนักกระบี่เหล็ก ก็เพราะเหตุผลนี้แหละ“โอ้โห ไม่นึกเลยว่าลูกชายฉันจะยอดเยี่ยมขนาดนี้!”หม่าเฉียนคุนดีใจจนน้ำมูกโป่ง สวรรค์ช่างเมตตา ช่างเป็นเกียรติของตระกูลเราจริงๆ”มีลูกชายที่ยอดเยี่ยมแบบนี้ แถมยังมีลูกสะใภ้ที่มาจากตระกูลสูงส่ง ตระกูลหม่าจะไม่รุ่งเรืองก็คงยาก“ถ้าเป็นอย่างนี้ เจ้าเด็กแซ่ลั่วนั่นคงต้องตายสถานเดียว!”หม่าเฉียนคุนตื่นเต้นมาก ดูมีความมั่นใจอย่างมาก “ในเมื่อผลลัพธ์ถูกกำหนดมาแล้ว งั้นเราก็ไม่ต้องรีบร้อน”“เราหาโรงแรมดีๆ สักแห่ง เพื่อเลี้ยงต้อนรับพี่
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคน ร่างกายปลิวกระเด็นไปข้างหลัง เหมือนถูกรถบรรทุกชน“เพล้ง!”กระแทกประตูกระจกแตก แล้วล้มลงกับพื้นอย่างแรงร่างกายของทั้งคู่ถูกกระจกแตกบาดจนเลือดไหลไม่หยุดปากยังกระอักเลือดออกมาอย่างรุนแรง จากอาการบาดเจ็บสาหัสคนอื่นๆ ทั้งหมดต่างตกใจจนตัวแข็งทื่อ ไม่กล้าพูดอะไรออกมาเลยคนกลุ่มนั้นเดินเข้ามาอย่างไม่สะทกสะท้าน ราวกับเป็นที่ของตนชายหนุ่มที่เป็นผู้นำกลุ่มคือ หม่าอวิ๋นหลงหม่าเฉียนคุนจัดงานเลี้ยงสุดหรูให้เขาและแฟนสาวในห้องจัดเลี้ยง หม่าอวิ๋นหลงเสนอแผนการที่เรียกได้ว่าไร้ที่ติออกมานั่นก็คือ การลักพาตัว!เมื่อมีตัวประกันอยู่ในมือ ลั่วอู๋ฉางก็ย่อมไม่สามารถทำอะไรได้ตามใจ ต้องยอมประนีประนอมหม่าเฉียนคุนนึกว่าลูกชายจะเสนอแผนที่น่าตกใจสักแค่ไหนออกมาแผนนี้เหมือนกับความคิดของเหลียนหมิงเจิ้ง หัวหน้าสำนักเหลยถิงคนใหม่ในตอนนั้นไม่มีผิดดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่เลยแต่เพราะจางอวิ๋นมู่ก็อยู่ด้วย หม่าเฉียนคุนจึงต้องยกนิ้วโป้งชมลูกชายหม่าอวิ๋นหลงว่าเป็นแผนที่ดีมากหม่าอวิ๋นหลงรู้สึกตัวลอยขึ้นมาทันที หลังจากดื่มกินอย่างอิ่มหนำแล้ว จึงนำทีมมาปฏิบัติภารก
การที่จะตั้งหลักที่นี่ให้ได้ แค่มีผลิตภัณฑ์ที่ดีอย่างเดียวคงไม่พอตัวเองก็ต้องแข็งแกร่งด้วย!ดังนั้นเธอจึงเรียกบอดี้การ์ดจำนวนมากมาเพื่อรับผิดชอบงานรักษาความปลอดภัยของอาคารสำนักงานเดิมทีคิดแค่จะใช้ข่มขู่คนไม่ดี แต่ไม่คิดเลยว่าจะได้ใช้งานจริงเร็วขนาดนี้“หม่าอวิ๋นหลง คุณคิดว่าตัวเองเป็นคนของตระกูลหม่า ก็จะสามารถมาทำตัวอวดดีที่นี่ได้ตามใจชอบเหรอ?”หลิ่วซือหยินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ตระกูลหลิวของเราไม่ใช่จะมารังแกกันง่ายๆ ได้หรอก!”ยังไม่ทันสิ้นเสียงพูด ด้านนอกก็เกิดการต่อสู้ขึ้นทันทีแต่หลังจากนั้นไม่นาน ใบหน้าของหลิ่วซือหยินก็เริ่มดูไม่ดีนักเพราะคนที่ถูกซ้อมจนล้มลงบนพื้น กลับกลายเป็นบอดี้การ์ดของเธอทั้งหมด!หม่าอวิ๋นหลงไม่ได้แสดงฝีมือเลย ท่าทางสบายๆ ลูกน้องที่เขาพามานั้นดูน่ากลัวราวกับปีศาจจนบอดี้การ์ดของตระกูลหลิ่ว ไม่สามารถต้านทานพวกเขาได้เลยในเวลาไม่นาน พวกเขาก็ถูกซ้อมจนล้มลงทั้งหมดกลุ่มทั้งกลุ่มล้มลงกับพื้น ร้องโอดโอยอย่างน่าสังเวช“แค่พวกหนอนแมลง ยังกล้ามาอวดดีต่อหน้าฉัน ช่างไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงจริงๆ!”หม่าอวิ๋นหลงยิ้มเยาะแล้วพูด “นี่แค่เป็นการให้บทเรียนเล็กๆ น้
“อะไรนะ? เสี่ยวหยินถูกลักพาตัวไป!”ที่ตระกูลหลิ่วในเมืองหลวง หลิ่วเจิ้นเจียงเมื่อได้ยินข่าวก็รีบกลับมา ใบหน้ามีแต่ความโกรธขึงหลิ่วเจิ้นไห่หน้าขรึมนิ่งสนิท พูดว่า “เพิ่งได้รับข่าวว่า หม่าอวิ๋นหลงจากตระกูลหม่าในเมืองอันพาคนมาลักพาตัวเสี่ยวหยินไป”หลิ่วซือหยินถูกลักพาตัว เลขาของเธอด้วยความที่ตื่นตระหนก จึงรีบโทรกลับไปที่ตระกูลหลิ่วก่อนหลิ่วเจิ้นเจียงโกรธจนถึงขั้นเดือดดาลทันที “กล้าขนาดนี้ ตระกูลหม่านี่ต้องการหาที่ตายใช่ไหม!”“ก่อนหน้านี้ตอนตระกูลหลิ่วก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมยา ก็มีตระกูลหม่าเป็นหัวหอกในเมืองอัน คอยขัดขวางเราตลอดเวลา ใช้วิธีสกปรกหลากหลายวิธี”“แต่ไม่ว่าจะพูดยังไง นั่นก็เป็นวิธีการทางธุรกิจปกติ แต่ตอนนี้ถึงกับกล้าใช้วิธีลักพาตัวที่สกปรกเช่นนี้”“มันจะทำเกินไปแล้ว พวกเขาไม่กลัวว่าตระกูลหลิ่วจะจัดการพวกเขาหรือไง?”หลิ่วเจิ้นไห่ขมวดคิ้วพูดว่า “ฉันตรวจสอบแล้ว หม่าอวิ๋นหลงเป็นศิษย์ของสำนักกระบี่เหล็ก เป็นศิษย์เอกที่ได้รับการถ่ายทอดวิชาโดยตรงจากเจ้าสำนัก”“อะไรนะ ศิษย์ของสำนักกระบี่เหล็ก?” หลิ่วเจิ้นเจียงตกใจหากเป็นเพียงตระกูลหม่า ด้วยฐานะและอำนาจของตระกูลหลิ่ว ก็ไม่จำเ
ชวีซานตัวไม่กล้าขัดขืน ได้แต่ทำตามคำสั่งเมื่อทุกคนมาถึงภูเขาด้านหลัง ฟ้าก็เริ่มสางแล้วเบื้องหน้าคือเหวลึกที่ขวางทางอยู่ลั่วอู๋ฉางผูกปลายเชือกด้านหนึ่งไว้กับเสา แล้วสะพายเชือกที่มัดรวมกันไว้บนหลัง ก่อนพยักหน้าให้ทุกคน"มีปัญหาอะไรไหม?"ลั่วอู๋ฉางถามอาวุโสที่มีใบหน้าฟกช้ำดำเขียวคนนั้นอาวุโสรีบตอบ "ไม่มีปัญหาครับ!"ลั่วอู๋ฉางกระโดดขึ้นด้วยเท้าข้างเดียว ตัวเขาลอยขึ้นสูงก่อนเหาะตรงไปยังอีกฟากของหน้าผาเมื่อเหาะไปได้ครึ่งทาง ร่างของลั่วอู๋ฉางก็เริ่มร่วงลงเมื่อคำนวณจากมุมนี้ เขาแทบไม่มีโอกาสไปถึงอีกฝั่งเลยทันใดนั้น นกอินทรียักษ์ตัวหนึ่งก็โฉบมาจากด้านข้างอาวุโสคนเมื่อกี้ยืนอยู่ริมหน้าผาและเป่านกหวีดเรียกอินทรีอินทรียักษ์กางปีก ลั่วอู๋ฉางเหยียบลงบนหลังมันหนึ่งที ทิศทางที่กำลังร่วงพลันเปลี่ยนเป็นลอยขึ้นเสี้ยววินาทีต่อมา เขาก็ลงถึงริมหน้าผาอีกฝั่งอย่างมั่นคงจากนั้นก็ทำแบบเดิม ผูกปลายเชือกฝั่งนี้ไว้กับเสาอีกข้าง"เจ้าสำนักชวี สั่งคนของท่านให้เริ่มได้แล้ว!" ซูเทียนคั่วออกคำสั่งอย่างไม่ไว้หน้าชวีซานตัวไม่ใช่ไม่เคยคิดจะเล่นงานตอนที่ลั่วอู๋ฉางกำลังข้ามหน้าผาเขาเคยคิดจะสั่ง
คำกล่าวอย่างมั่นใจของลั่วอู๋ฉางดังก้องไปทั่วสำนักใหญ่ของพันธมิตรบู๊ลิ้มหากเป็นเมื่อก่อน ใครกล้าพูดกับหัวหน้าสำนักพวกเขาเช่นนี้ คงไม่ต้องรอให้ชวีซานตัวเอ่ยปาก สมาชิกระดับล่างก็พร้อมจะซัดมันจนหมอบไปแล้วต่อหน้าประตูสำนักงานใหญ่ จะปล่อยให้คนมาพูดจาโอ้อวดได้อย่างไร?แต่สถานการณ์ตอนนี้คือ ลั่วอู๋ฉางไม่เพียงแต่พูด เขายังทำลายประตูใหญ่ของพวกเขาและทำร้ายคนไปอีกหลายสิบคนด้วยแน่นอนว่าจำนวนนี้ไม่ได้ตายตัวถ้าคนอื่นกล้าบุกเข้าไปอีก ลั่วอู๋ฉางจะไม่ปรานี และยินดีที่จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้บาดเจ็บให้พันธมิตรบู๊ลิ้มอีกด้วย"แก...ปากกล้านักนะ!"ชวีซานตัวในฐานะหัวหน้าแห่งบู๊ลิ้ม ไม่อาจเสียศักดิ์ศรีด้วยการยอมแพ้ง่าย ๆทั้งๆ ที่ความจริง ในใจเขานั้นกลับตื่นตระหนกจนแทบควบคุมไม่อยู่อาวุโสทั้งแปดร่วมมือกันยังเอาชนะไม่ได้!ถึงแม้ตอนฝึกซ้อมปกติ ชวีซานตัวจะเคยชนะพวกเขามาแล้วก็เถอะแต่ใช้นิ้วโป้งเท้าคิดก็ยังรู้เลยว่า เป็นอาวุโสทั้งแปดแกล้งอ่อนข้อให้ถ้าสู้จริง ชวีซานตัวไม่มีทางได้เปรียบหรอกแต่ลั่วอู๋ฉางกลับทำได้!นี่แสดงให้เห็นว่า ความสามารถของเขาเหนือกว่าชวีซานตัวมากถ้ายอมแพ้ต่อหน้าสมาชิกบู๊ลิ้มมา
เขาไม่อยากให้ใครพูดถึงเรื่องนี้ โดยเฉพาะต่อหน้าสาธารณชน"อาวุโสทั้งแปดของสภาผู้อาวุโสอยู่ที่ใด?"ดวงตาของชวีซานตัวเต็มไปด้วยความโกรธ พร้อมตะโกนออกคำสั่งอย่างดุดัน"ข้าน้อยอยู่ที่นี่!"อาวุโสทั้งแปดคนตอบรับออกมาพร้อมกัน"คนผู้นี้ทำลายประตูสำนักของเรา ทำร้ายศิษย์ของเรา จงสังหารมันตรงนี้เดี๋ยวนี้ เพื่อเป็นตัวอย่าง!" ชวีซานตัวกัดฟันกล่าวอาวุโสทั้งแปดคนตอบพร้อมกันอีกครั้ง "รับทราบ ท่านเจ้าสำนัก!""ฆ่า!"ทั้งแปดคนล้วนเป็นผู้มีวิชาระดับปรมาจารย์ใหญ่มีฝีมือไม่ธรรมดา!ในสำนักใหญ่ ทั้งด้านสถานะและพลังฝีมือ พวกเขาเป็นรองเพียงชวีซานตัวเท่านั้นเมื่อทั้งแปดร่วมมือกัน แม้แต่วีรบุรุษในตำนานก็ยากที่จะเอาชนะพวกเขาได้พวกเขาร่วมมือกันอย่างเข้าขา ล้อมลั่วอู๋ฉางไว้ตรงกลาง และออกกระบวนท่าสังหารทุกอย่างใส่เขาถ้าเป็นคนอื่น คงถูกพวกเขาสับเป็นชิ้นๆ ไปแล้วแต่ลั่วอู๋ฉางกลับไม่สะทกสะท้านใดๆ เพียงแค่ส่งกระแสจิต"วึ้ง!"คาถาป้องกันตัวปล่อยแสงสีทองออกมา ขัดขวางการโจมตีทั้งหมดไว้"อะไรกัน?"ชวีซานตัวเบิกตากว้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อในสายตาของเขา ต่อให้ลั่วอู๋ฉางเก่งแค่ไหน แต่ก็ยังเป็น
ท่ามกลางความมืด มีร่างคนจำนวนมากพุ่งผ่านไปอย่างรวดเร็วเมื่อพวกเขาเห็นชัดเจนแล้วว่าประตูทางเข้าซึ่งเป็นหน้าตาของพันธมิตรบู๊ลิ้มถูกทำลาย กลายเป็นซากปรักหักพัง พวกเขาก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟทันที"ใครกันที่กล้าบ้าบิ่นถึงขนาดนี้!""บังอาจมาพังประตูใหญ่ของพันธมิตรบู๊ลิ้ม รนหาที่ตายแล้ว!""จะเป็นใครก็ช่าง แต่แน่ๆ คงไม่ใช่คนดีหรอก สับมันเป็นชิ้นๆ ก่อนค่อยว่ากัน!"กลุ่มคนที่โกรธแค้นเห็นร่างหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าซากปรักหักพัง"ไอ้หนุ่ม แกเห็นไหมว่าใครเป็นคนทำ?"คนตาไวมองเห็นว่าเป็นเงาของชายหนุ่มจึงรีบถามออกไปทันที"ขอเตือนไว้ก่อน เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ รีบพูดสิ่งที่นายเห็นออกมาทั้งหมก ไม่งั้นนายเองก็ต้องเดือดร้อนด้วย!"ลั่วอู๋ฉางยืนอย่างสงบพลางตอบว่า "เห็น""รีบบอกมาว่าใคร!" คนกลุ่มนั้นร้องถามขึ้นพร้อมกันลั่วอู๋ฉางตอบอย่างไม่รีบร้อนว่า "ก็ฉันไง!""อะไรนะ?!"คนกลุ่มนั้นเบิกตาโต ความโกรธที่ปรากฏบนใบหน้าชัดเจนยิ่งกว่าความตกใจ"ไอ้หนุ่ม นี่ไม่ใช่เวลามาอวดเก่ง คิดว่าเราจะเชื่อแกหรือไง?""รีบบอกมาว่าใครเป็นคนทำ ไม่งั้นจะถือว่าแกเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วย!""ให้โอกาสสุดท้าย รีบพูด ไม่งั้นพวกเร
ซูเทียนคั่วกังวลขึ้นมาทันที ขณะที่ปกป้องซูเฉี่ยนเฉี่ยนหลานสาว เขาก็ตะโกนเสียงดังขึ้นว่า "เจ้าสำนักชวี นี่คือวิธีการต้อนรับแขกของพันธมิตรบู๊ลิ้มหรือ?""หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ไม่กลัวคนในยุทธภพจะหัวเราะเยาะหรือ?"ชวีซานตัวไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย "อย่างพวกนายเนี่ยนะ? เรียกว่าแขกได้ด้วยหรือ?"เมื่อต้องเผชิญหน้ากับจำนวนคนที่มากกว่าหลายเท่า อีกทั้งสายตาที่จับจ้องมาอย่างอาฆาต ทั้งสามคนไม่สามารถต่อกรได้เลยไม่นานพวกเขาก็ถูกจับตัวได้!"ชวีซานตัว การที่คุณทำเช่นนี้ ไม่กลัวว่าศิษย์ของเทพอวี้อย่างราชันมังกรลั่วเทียนจะมาหาเรื่องหรือ?" ซูเทียนคั่วพูดขณะดิ้นรนชวีซานตัวไม่สนใจแม้แต่น้อย "ถ้าเขากล้าหาญมาที่นี่ ฉันจะให้เขาลิ้มรสชาติของการต้องเป็นนักโทษเช่นกัน!""ศิษย์ที่ถูกสอนโดยตาแก่แบบนั้น คงไม่ใช่คนดีสักเท่าไรหรอก พอดีเลย จะได้ให้เขาชดใช้หนี้แทนตาแก่นั่นและพวกแกไปพร้อมกัน!""ราชันมังกรลั่วเทียนอะไรกัน แค่เด็กหนุ่มอายุยี่สิบต้นๆ จะมีอะไรพิเศษนัก?""ตัวเขาไม่อายก็ช่างเถอะ แต่ยังกล้าไปหาคนมาคุยโวแทนตัวเอง คิดจะดังจากการสร้างกระแสเช่นนี้ คิดว่าบู๊ลิ้มเป็นที่สำหรับเล่นขายของหรือไง ฝันไปเถ
พูดของชวีซานตัวเต็มไปด้วยความหยาบคายใบหน้าสวยของเย่ปิงเหยาเริ่มบึ้งตึง แต่เพราะนี่เป็นถิ่นของอีกฝ่าย เธอจึงไม่อาจโต้ตอบได้ชวีหลิงหานคือน้องสาวของชวีซานตัว ทั้งสองคนมีอายุห่างกันมากกว่ายี่สิบปีหลังจากชวีหลิงหานเกิดได้ไม่นาน พ่อแม่ของเธอก็เสียชีวิตจากอาการป่วย ก่อนสิ้นใจได้ฝากให้ชวีซานตัวช่วยเลี้ยงดูน้องสาวที่ยังเป็นแค่ทารกแรกเกิดชวีซานตัวเลี้ยงดูน้องสาวด้วยความยากลำบาก จนเธอเติบโตขึ้นมาเป็นหญิงสาวที่งดงามยิ่ง ทั้งยังมีพรสวรรค์จนได้รับความสนใจจากคนในบู๊ลิ้มมีผู้คนมาสู่ขอเธอมากมายจนทำให้ประตูบ้านตระกูลชวีแทบพังในขณะที่ชวีซานตัวกำลังเลือกคู่ครองให้น้องสาวจนตาลาย และวาดฝันว่าเธอจะได้แต่งงานกับตระกูลใหญ่โตความฝันกลับพังทลาย!ชวีหลิงหาน หญิงสาวผู้แสนงดงาม กลับถูกชายแก่อัปลักษณ์คนหนึ่งมาชิงตัวไป!ในตอนแรก ชวีซานตัวคิดว่าน้องสาวของเขายังไร้เดียงสา และถูกชายชั่วหลอกลวงเขาคิดว่าเพียงแค่พูดจาโน้มน้าวด้วยความรักและเหตุผล น้องสาวจะกลับตัวกลับใจแต่ผลกลับเป็นตรงกันข้าม!ชวีหลิงหานไม่เพียงแต่ไม่สำนึกในสิ่งที่ทำ แต่กลับรักชายแก่คนนั้นอย่างหัวปักหัวปำ และพูดคำพูดไร้สาระอย่างเช่นรักจน
พูดตามตรง ลั่วอู๋ฉางก็มีใจอ่อนนิดหน่อยทุกครั้งที่ต้องต่อสู้กับพวกกระจอก เขามักจะคิดถึงหูเยว่ซีอย่างมากเป็นถึงจักรพรรดินีแห่งชิงชิว แต่เขากลับใช้งานเหมือนลูกน้องปลายแถวประเด็นสำคัญคือ หูเยว่ซีไม่เพียงแต่ไม่โกรธ แต่ยังเต็มใจช่วยอย่างยินดีอีกด้วย"ไม่ได้"ความมีเหตุผลเอาชนะความหุนหัน ลั่วอู๋ฉางพูดพร้อมขมวดคิ้ว "เธอต้องอยู่เฝ้าบ้าน มีแต่แบบนี้ ฉันถึงจะวางใจได้"หูเยว่ซีทำหน้าหงอย: "ก็ได้!"ลั่วอู๋ฉางหัวเราะ "เธอว่านอนสอนง่ายขนาดนี้ ต้องให้รางวัลสักหน่อยแล้ว""รางวัลอะไร?" จิ้งจอกน้อยถามอย่างตื่นเต้น ดวงตาทั้งสองส่องประกายวิบวับทันทีลั่วอู๋ฉางหยิบลูกแก้วพญานาคออกมาจากกระเป๋าแล้วพูดว่า "ก่อนหน้านี้สัญญาว่าจะให้ของขวัญเธอ ตอนนี้ถึงเวลาทำตามสัญญาแล้ว"หูเยว่ซีตาเป็นประกายอีกครั้ง "ลูกแก้วพญานาค!"ถ้าเป็นเมื่อก่อน ลูกแก้วพญานาคระดับนี้เธอคงไม่แม้แต่จะชายตามองด้วยซ้ำแค่มองนานหน่อย ก็ถือเป็นการดูหมิ่นคำว่า "จักรพรรดินีแห่งชิงชิว" แล้ว!แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน หลังจากถูกขังอยู่ในแหวนมานานถึงพันปี เพิ่งจะได้อิสรภาพคืนมา พลังลดลงไปมากและร่างกายก็อ่อนแอสุดขีดนี่คือช่วงเวลาที่เธอต้อง
หวงผู่เจิ้งซิ่นย่อมไม่พอใจแน่!คนเป็นครูยังล้มเหลว แต่ศิษย์กลับทำสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกถ้าไม่ใช่บังเอิญ แล้วมันคืออะไร?ลั่วอู๋ฉางไม่ตอบอะไร จากนั้นก็หยิบคริสตัลสวรรค์ก้อนที่สองมาไม่นานก็ทำสำเร็จอีกครั้ง!หวงผู่เจิ้งซิ่นเบิกตากว้าง ประหลาดใจราวกับเห็นเทพเจ้าส่วนใบหน้าของหูเยว่ซีก็เต็มไปด้วยความชื่นชมมากขึ้นเรื่อยๆ"ลองอีกครั้งสิ!" หวงผู่เจิ้งซิ่นยังคงไม่ยอมแพ้คราวนี้ ลั่วอู๋ฉางไม่ทำตามเขาอีกต่อไป เขาเก็บแท่งคริสตัลสวรรค์ที่เหลือทันที"หมายความว่าไง?" หวงผู่เจิ้งซิ่นถามตาโตลั่วอู๋ฉางลุกขึ้นเดินออกไป ทิ้งคำพูดไว้โดยไม่หันกลับมา "ขอบคุณนะ!""เดี๋ยวสิ นายแน่ใจแล้วเหรอว่านายเข้าใจทั้งหมด?"หวงผู่เจิ้งซิ่นรีบไล่ตามไป "ถ้าไม่สำเร็จล่ะ ฉันจะได้ช่วยหาสาเหตุไง!""ไม่จำเป็นแล้ว ถ้านายท่านของฉันคิดว่าไม่มีปัญหา มันก็ไม่มีปัญหาแน่" หูเยว่ซีขวางเขาไว้ พร้อมพูดอย่างหนักแน่นในตอนนี้ สีหน้าหวงผู่เจิ้งซิ่นเต็มไปด้วยความซับซ้อนศิษย์ที่เก่งเกินไปทำให้ครูรู้สึกอับอาย"ไหนว่าราชันมังกรลั่วเทียนก็เป็นแค่คนธรรมดา เขาเป็นปีศาจชัดๆ!"หวงผู่เจิ้งซิ่นยอมแพ้อย่างหมดท่า พูดอย่างเศร้าๆ "คิดว่า
หวงผู่เจิ้งซิ่นเชิดคอขึ้น พยายามทำสีหน้าให้ดูปกติที่สุดเพื่อปกปิดความเขินอายของตัวเองเนื่องจากการสาธิตเมื่อครู่นั้นจบลงด้วยความล้มเหลวแม้ว่าเขาจะรู้วิธี แต่เพราะไม่ได้ปฏิบัติมาเป็นเวลานาน ความผิดพลาดจึงถือเป็นเรื่องปกติ"หาว..."หูเยว่ซีอ้าปากหาวครั้งใหญ่ ราวกับเปลือกตาถูกกดด้วยน้ำหนักมหาศาลใช่แล้ว เธอง่วงจริงๆ!การสอนของหวงผู่เจิ้งซิ่นทำให้เธอง่วงได้สำเร็จส่วนเนื้อหาที่พูดในภายหลัง แทบไม่ได้เข้าหัวของหูเยว่ซีเลย ผ่านหูซ้ายออกหูขวา ไม่มีอะไรในหัวเลย"พวกคุณ...ทำต่อไปเลย!"หูเยว่ซียืดแขนบิดขี้เกียจ และส่งสัญญาณให้ทั้งคู่ไม่ต้องสนใจเธอสิ่งนี้ทำให้หวงผู่เจิ้งซิ่นรู้สึกว่าตัวเองล้มเหลวมาก!รู้สึกเหมือนโดนตบหน้าฉาดใหญ่!การทำให้นักเรียนง่วงถือเป็นเรื่องที่น่าอับอายอยู่แล้ว ที่สำคัญคือการสาธิตของตัวเองยังล้มเหลวอีกด้วย"ไม่เป็นไร ฉันขอลองเอง" ลั่วอู๋ฉางเสนอตัวขึ้นอย่างกล้าหาญ"คุณจำทั้งหมดได้แล้วเหรอ?"หวงผู่เจิ้งซิ่นพูดด้วยสีหน้าจริงจังทันที "อย่าเพิ่งรีบร้อนปฏิบัติเลย ลองทบทวนสิ่งที่ฉันพูดสักรอบก่อน มีจุดไหนที่ไม่เข้าใจก็ถามให้แน่ชัด แล้วค่อยลงมือ"เพราะจำนวนของแท่งค