แถมยังทุ่มทุนเต็มที่อีกด้วย!ขนาดในสถานการณ์แบบนี้ ยังเจออุปสรรคซ้ำแล้วซ้ำเล่าแม้ว่าสุดท้ายจะสำเร็จได้ดั่งใจ แต่ทุกครั้งที่เย่ชิงหยุนคิดถึงเรื่องความยากลำบากในแต่ละขั้นตอนที่ผ่านมาก็อดบ่นออกมาไม่ได้”“ยาตัวใหม่ของพวกลั่วอู๋ฉาง ทำออกมาทีหลังแท้ๆ ทำไมถึงได้ใบอนุญาตไปได้ล่ะ?”“ของปลอม!”เย่ชิงหยุนตาเบิกกว้าง ร้องตะโกนขึ้นมา “ต้องเป็นของปลอมแน่ๆ ใช่ภาพตัดต่อหรือเปล่า?”หม่าฉางเกิงก็พูดตามว่า “ต้องเป็นของปลอมแน่ๆ ผมเป็นพยานได้!”ถึงแม้จะดูเหมือนจริงทั้งในแง่ของรูปแบบและหมายเลขลำดับ แต่ไม่มีทางที่มันจะเป็นของจริงได้!เขาไม่ได้ดูอย่างละเอียดด้วยซ้ำ แค่ใช้ประสบการณ์ของตัวเองในการตัดสินออกมาโดยตรง“ได้ยินกันแล้วยัง ท่านหม่าบอกว่ามันเป็นของปลอม มันก็ต้องปลอมแน่ๆ!”เมื่อเย่ชิงหยุนมีหม่าฉางเกิงหนุนหลัง ก็เริ่มทำตัวโอหังทันที “พวกเขาไม่เพียงแต่ทำยาปลอม ยังปลอมแปลงใบอนุญาตด้วย!”“นี่มันโทษหนักเพิ่มขึ้นอีกกระทง!”“ถ้าไม่มีท่านหม่ามาพูดให้ฟังเอง พวกเขาอาจจะหลอกพวกเราได้สำเร็จไปแล้ว!”“ท่านหม่า รีบจับพวกเขาไปให้หมด อย่าปล่อยใครให้รอดไปได้แม้แต่คนเดียว”หม่าฉางเกิงโบกมืออีกครั้ง “ลงมือได้
“ท่านหม่าแข็งแกร่งและตรงไปตรงมา สุดยอดเลย!”เย่ชิงหยุนรีบประจบหม่าฉางเกิงทันที พูดว่า “ท่านหม่าเป็นคนมีความซื่อสัตย์ เป็นแบบอย่างของความยุติธรรมที่ไม่มีอคติ”หม่าฉางเกิงรู้สึกพอใจ แสดงท่าทีในการปฏิบัติหน้าที่อย่างมั่นคงดั่งขุนเขาทางฝั่งลั่วอู๋ฉาง โทรศัพท์ก็ถูกกดรับสายอย่างรวดเร็ว“คุณลั่ว เอกสารอนุมัติเรียบร้อยแล้ว คุณเห็นหรือยังครับ?”ปลายสายเป็นหวังเจิ้นอวี่ที่อยู่ในสำนักงานใหญ่ที่เมืองหลวง เขาพูดด้วยท่าทีและน้ำเสียงที่เคารพยิ่งลั่วอู๋ฉางตอบว่า “เห็นแล้วครับ แต่มีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง”“คุณ...คุณพูดมาเลยครับ?” หวังเจิ้นอวี่รู้สึกใจหายวูบเขารีบย้อนคิดถึงเรื่องทั้งหมด หรือว่ามีบางขั้นตอนที่เกิดปัญหาขึ้นหรือเปล่า?”ถ้าเป็นแบบนั้นจริง เรื่องเล็กๆ แบบนี้ยังทำไม่ได้ เขาจะยังมีหน้าไปเจอคุณลั่วอีกหรือ!“มีคนไม่เชื่อ ยืนกรานบอกว่ามันเป็นของปลอม” ลั่วอู๋ฉางพูดด้วยน้ำเสียงไม่เร่งรีบหวังเจิ้นอวี้โกรธขึ้นมาทันที “ใครกัน? ใครกล้าพูดว่าเป็นของปลอม เขาตาบอดรึเปล่า!”“เอกสารที่ผมเซ็นรับรองและประทับตราด้วยมือของตัวเอง กลับถูกบอกว่าเป็นของปลอม!”“ที่สำคัญคือ ยังมาสงสัยคุณลั่วด้วย”“ทนไม
ไม่รอให้เขาพูดจบ หวังเจิ้นอวี่ก็พูดแทรกเขาทันที “พูดเหลวไหล!”“ชัดเจนว่ามีผู้มีอิทธิพลเข้ามาแทรกแซง คุณกลับไปเป็นสุนัขรับใช้พวกเขา แล้วยังกล้าโกหกผมอีก”“หม่าฉางเกิง ผมขอแจ้งให้คุณทราบอย่างเป็นทางการ ตอนนี้คุณถูกพักงานแล้ว!”เมื่อหม่าฉางเกิงได้ยินเช่นนั้น ขาของเขาทั้งสองข้างก็สั่นอย่างรุนแรงโดยไม่รู้ตัว"ผมจะส่งคนไปตรวจสอบคุณอย่างเข้มงวดที่สุด ทางที่ดีคุณควรภาวนาให้ตัวเองไม่เคยทำเรื่องผิดกฎระเบียบ ไม่งั้นคุณตายแน่”นี่แหละ คือจุดที่อันตรายที่สุด!ในใจหม่าฉางเกิงเหลือแค่ความคิดเดียว คือ จบแล้ว!จบสิ้นแล้วจริงๆ!เรื่องแบบนี้ ไม่สามารถให้ตรวจสอบกันได้ตัวเองพยายามมาครึ่งชีวิต กว่าจะได้ขึ้นมาถึงตำแหน่งนี้ กลับต้องมาเสียทุกอย่างเพราะเรื่องเล็กน้อยหม่าฉางเกิงไม่อาจยอมรับ และรู้สึกเสียใจจนแทบจะบ้าตาย“ท่านหม่า ท่านอย่ามัวนิ่งสิครับ รีบโทรเรียกคนมาจับไอ้เจ้านี่ไปจัดการอย่างเข้มงวดเลยสิ!”ในตอนนี้เอง เย่ชิงหยุนไม่ยอมอยู่เงียบๆ กระโดดออกมาออกคำสั่งหม่าฉางเกิงโกรธจัด ยกแขนขึ้นตบหน้าเย่ชิงหยุนอย่างแรง“เพี๊ยะ!”เสียงดังชัดเจน เย่ชิงหยุนถูกตบจนล้มลงไปกองกับพื้น“ไอ้คนแซ่หม่า แกบ้า
ทุกคนพอฟังแล้วก็ตกใจ นี่มันเรื่องใหญ่หนิ!"จะเลือกยังไงล่ะ?"“แน่นอนว่าต้องเลือกร้านร้อยสมุนไพร เลือกตระกูลเย่สิ!”“อันหนึ่งเป็นของแท้ อันหนึ่งเป็นของปลอม ความดีความแย่เห็นกันอยู่ตรงหน้า”“ร้านร้อยสมุนไพรมีการสืบทอดกันมามากว่าร้อยปี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องชื่อเสียงหรือคุณภาพ ล้วนแล้วแต่มีการรับประกัน”“ส่วนอีกฝ่าย เป็นแค่บริษัทใหม่ที่ไม่มีชื่อเสียง จะไปเทียบกับร้านร้อยสมุนไพรได้ยังไง!”“ยังอีกจุดที่สำคัญที่สุด ก็คือการข่มขู่จากตระกูลหม่า”“ถ้าไม่เลือกร้านร้อยสมุนไพร ก็เท่ากับเป็นศัตรูกับตระกูลหม่า”“ตระกูลหม่าไม่ใช่คนที่จะไปมีเรื่องด้วยได้ ถ้าไปยั่วโมโหพวกเขา ผลลัพธ์อาจถึงขั้นบ้านแตกสาแหรกขาดก็ได้”“ใครจะทนได้ล่ะ?”“แน่นอนว่าต้องเลือกร้านร้อยสมุนไพรอยู่แล้ว พวกเราเชื่อมั่นในตระกูลเย่!”“ทุกคนต่างก็แสดงความเห็นกันออกมา”เย่ชิงหยุนยืดตัวขึ้นได้ในทันที พูดอย่างภูมิใจว่า “คนแซ่ลั่ว แกได้ยินแล้วยัง?”“ถึงแกจะได้ใบอนุญาตมา แต่ถ้าตลาดไม่ยอมรับ แกก็ขายไม่ได้อยู่ดี!”“นี่แหละคือจุดจบของการที่แกมาสู้กับร้านร้อยสมุนไพร ฮ่าฮ่าฮ่า!”“ทุกท่าน เชิญตามกระผมขึ้นไปเถอะ ใครก็ตามที่เลือกตระกูลเย
คราวนี้ถึงตาเย่ชิงหยุนทำหน้างงบ้าง “ยาแก้บาดเจ็บอะไรครับ? ท่านต้องเข้าใจผิดแล้วแน่ๆ ที่ร้านร้อยสมุนไหรของเราผลิตคือยาหุยชุนตันนะครับ”อวิ่นชางชวี่พูดอย่างไม่เกรงใจ “ผมยังไม่ได้แก่จนจำเรื่องราวไม่ได้ขนาดนั้นนะ”มีคนพูดเตือนว่า “นายน้อยเย่ ที่ชั้นนี้จัดงานเปิดตัวยาแก้บาดเจ็บครับ!”พูดจบ เขายังชี้ไปที่โปสเตอร์โฆษณาข้างๆเย่ชิงหยุนถึงได้เห็นคำว่า “ยาแก้บาดเจ็บ” ตัวโตๆ!“ท่านอวิ่นไท่โต่ว คงต้องถูกหลอกมาแน่ๆ!”เย่ชิงหยุนรีบอธิบาย “ยาแก้บาดเจ็บนี้ขโมยสูตรจากร้านยาร้อยสมุนไพรของพวกเรา ยาหุยชุนตันของเราต่างหากที่เป็นของแท้”“ท่านอย่าหลงเชื่อนะครับ ตามผมขึ้นไปข้างบนเถอะ!”อวิ่นชางชวี่หัวเราะเบาๆ แล้วพูดอย่างดูถูก “ยาหุยชุนตัน? ของห่วยแตกเหมือนขยะแบบนั้นยังกล้าเอามาเทียบกับยาแก้บาดเจ็บ ใครซื้อไปก็ต้องเสียใจ!”“คุณหนุ่มอย่างคุณ พูดจาเหลวไหล ไม่มีสักคำที่เป็นความจริง!”“สูตรยาแก้บาดเจ็บดีกว่ายาหุยชุนตันเป็นหมื่นเท่า แต่คุณกลับพูดได้ไม่อายปากว่าขโมยสูตรมาจากพวกคุณ คุณต่างหากที่ขโมยสูตรมาจากเขา”เย่ชิงหยุนอึ้งไป ถลึงตาโตแล้วแย้งว่า “ผู้เฒ่าอวิ่น ท่านพูดจาแบบไม่มีหลักฐานไม่ได้นะครับ ยาหุยชุน
“คุณลั่ว เจอกันอีกแล้วนะครับ”อวิ่นชางชวี่วิ่งเหยาะๆ มาหยุดที่หน้าลั่วอู๋ฉางไม่เพียงแต่เป็นฝ่ายทักทายก่อน แต่ยังวางท่าทางอย่างนอบน้อมเป็นอย่างมากทุกคนต่างตะลึงจนตาค้างถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขารู้จักอวิ่นชางชวี่ พวกเขาอาจเชื่อว่านี่คือเป่ยไท่โต่วตัวปลอมก็ได้ปกติทุกคนจะต้องเคารพและกราบไหว้อวิ่นไท่โต่ว ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐีผู้ร่ำรวยหรือข้าราชการที่มีอำนาจ ก็ไม่มีข้อยกเว้นเมื่ออยู่ต่อหน้าความเจ็บป่วย ทุกคนล้วนเท่าเทียมกันหากต้องการรอดชีวิต แน่นอนว่าต้องให้ความเคารพหมอเป็นพิเศษเคยเห็นที่ไหนล่ะ ที่อวิ่นไท่โต่วจะไปเคารพคนอื่น?วันนี้ถือว่าได้เปิดหูเปิดตาจริงๆ!“ชายหนุ่มคนนี้ แท้จริงมีที่มาที่ไปอย่างไรกันแน่?”“ถึงขนาดอวิ่นไท่โต่วยังนอบน้อมกับเขาขนาดนี้”แล้วมาดูที่ลั่วอู๋ฉาง เพียงแค่พยักหน้าทักทายตามสบายเท่านั้นในสายตาของทุกคน นี่มันไร้มารยาทเกินไปแล้วพวกเขาไม่รู้เลยว่าอวิ่นชางชวี่เคารพนับถือลั่วอู๋ฉางมากกว่าอาจารย์ของเขาอย่างเทพอวี้เสียอีกโปรเจคทางการแพทย์ที่อวิ่นชางชวี่ภาคภูมิใจหลายอย่างนั้น บ้างก็ได้รับการช่วยพัฒนาจากลั่วอู๋ฉาง บ้างก็ได้รับการสอนโดยตรงจากเขาหากไม่ใช่เพรา
ด้วยแบบนี้แผนการร้ายของพวกเย่ชิงหยุนจึงถูกเปิดโปงต่อหน้าลั่วอู๋ฉางแบบหมดเปลือกในเมื่อพวกแกอยากก่อเรื่อง งั้นฉันก็จะเล่นสนุกเป็นเพื่อนพวกแกด้วยก็แล้วกันไม่ว่าจะเล่นงานเรื่องใบอนุญาตหรือแย่งแขก แสดงฝีมือมาเต็มที่ได้เลย!“ทำไมถึงได้เงียบเหงาขนาดนี้ล่ะ ไม่มีแขกคนอื่นเลยเหรอ?”อวิ่นชางชวี่อยู่มาจนปูนนี้แล้ว มีเรื่องอะไรที่ยังไม่เคยเจออีกบ้าง?แค่กลอุบายเล็กๆ ของพวกเย่ชิงหยุนย่อมหนีไม่พ้นสายตาอันแหลมคมของเขาไปได้อวิ่นชางชวี่จงใจพูดเชิงตำหนิ “เมืองอันใหญ่โตขนาดนี้ พวกเขาทั้งหมดตาบอดกันหรือไง? ยาดีๆ ไม่รู้จัก กลับไปเชิดชูขยะกองหนึ่ง”“ช่างเป็นพวกคนที่มีดวงตามืดบอด ไม่รู้จักเพชรแท้กันซะจริง!”เมื่อคำพูดประโยคนี้ออกไป ทุกคนต่างพากันรู้สึกตาสว่างขึ้นมาถึงกับสามารถทำให้อวิ่นไท่โต่วให้ความสำคัญได้ แน่นอนว่าต้องอยู่ต่อสิ!ใครไปก็โง่จริงๆ แล้ว!เย่ชิงหยุนเพิ่งจะรู้สึกตัว เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้คิดถึงจุดนี้มาก่อน จึงหงุดหงิดแล้วโบกมือพูดว่า “พวกเราไป!”พูดจบ เขาก็ก้าวเท้าเดินออกไปเลยแต่พอเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ก็พบว่าไม่มีใครเดินตามมาเลยสักคน“พวกคุณอย่าลืมนะ ว่าเมื่อกี้พวกคุณให้คำมั่นส
เย่ชิงหยุนกุมหน้าของตัวเองไว้ ตกใจจนตัวสั่นเมื่อกี้เขาเพิ่งเสียหน้าที่ชั้นบน เดิมทีเขาตั้งใจจะระบายความอัดอั้นและขอคำปลอบใจสักหน่อยแต่ใครจะคิดว่า ยังไม่ทันจะได้ระบายความอัดอั้น กลับต้องโดนตบหน้าแทนน่าน้อยใจเกินไปแล้ว!ถึงยังไง ความพยายามอยู่ที่คนแต่ความสำเร็จอยู่ที่ฟ้าแม้ว่าแผนการที่วางไว้จะสมบูรณ์แบบเพียงใด แต่ก็ยังอาจมีปัญหาต่างๆ เกิดขึ้นในระหว่างการดำเนินการได้ในฐานะผู้วางแผนและผู้ควบคุมกลยุทธ์ เมื่อแผนล้มเหลว เขาเองก็รู้สึกจนใจเหมือนกันเขาเองก็ไม่ได้อยากให้ผลมันเป็นแบบนี้นะ!ส่วนหม่าเฉียนคุน ที่เป็นพันธมิตรกัน ไม่เพียงไม่ปลอบใจเขา การตอบสนองแรกยังเป็นการกล่าวโทษเขาอีกอย่าลืมนะว่าคนที่เสนอแผนนี้ขึ้นมาเป็นคนแรกก็คือหม่าเฉียนคุนเองเขาก็ยังพูดกับทุกคนอย่างมั่นใจอีกว่า แบบนี้จะทำให้ลั่วอู๋ฉางเสียหน้า และถูกตราหน้าว่าขายยาปลอมโดยสมบูรณ์ตอนนี้พอภารกิจล้มเหลว หม่าเฉียนคุนก็ควรเป็นคนรับผิดชอบมากที่สุดสินอกจากนี้ การที่อวิ่นชางชวี่เป่ยไท่โต่วปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน มันเป็นเรื่องที่เย่ชิงหยุนสามารถควบคุมได้หรือ?ทำไมต้องโทษทุกอย่างมาที่เขาด้วย มันเหมาะสมแล้วเหรอ?จนถ