ชายผมขาวโกรธมาก!ไอ้หมอนี่กล้าไม่สนใจฉันโมโห!พี่ตาวพูดอย่างภาคภูมิใจกับชายผมขาวว่า "ฟังให้ดี นี่คือคุณลั่ว ลั่วอู๋ฉาง!""นายเคยพูดว่า คุณลั่วคือผู้สนับสนุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของตระกูลเกาของเรา ใช่แล้ว นายพูดถูกแล้ว"ลูกน้องก็เริ่มยืดอกและมีขวัญกำลังใจสูงขึ้นชายผมขาวแสดงความรังเกียจและเยาะเย้ยว่า "งั้นตระกูลเกาอย่างพวกนายก็ไม่มีสายตาจริง ๆ หาเด็กที่ไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมมาเป็นผู้สนับสนุน""ในขณะเดียวกันก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ได้ว่าเมืองจิงไห่ของพวกนายไม่มีใครแล้วจริง ๆ ในที่ที่ไม่มีใครเรียกตัวเองว่าราชา!"ลั่วอู๋ฉางกวาดตามอง "นายว่าใครไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม?"ชายผมขาวตกใจกับสายตาอันเฉียบคมก่อน สีหน้ากลัวจนกลายเป็นโกรธขึ้นมา!เห็นได้ชัดว่าเขาเข้าใจคำพูดของลั่วอู๋ฉางในทันทีในแง่ของอายุ ชายผมขาวอายุน้อยกว่าลั่วอู๋ฉางมาก อย่างน้อยห้าหรือหกปีทั้ง ๆ ที่ตัวเองเป็นคนที่ไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม มีสิทธิ์อะไรมาเยาะเย้ยคนอื่น?ไร้ยางอายจริง ๆ!ตั้งแต่เล็กจนโตของชายผมขาว ใครก็เคารพเขาอยู่ตลอด เคยได้รับความอัปยศอดสูแบบนี้มาก่อนที่ไหน?แม้แต่ในเมืองหลวงซึ่งมีคนอวดดีมากมาย แต่ก็ไม่มีใครกล้าพูดกับเขาแบบน
"ไปตายซะ!"ขณะที่กู่จื้อเกาโจมตี คำรามด้วยสีหน้าดุร้ายตัวเขาเองก็จำไม่ได้ว่าไม่ได้ต่อสู้แบบใช้กำลังอย่างนี้มานานแค่ไหนแล้วเพราะคู่ต่อสู้ในอดีตเหล่านั้น ล้วนไม่สมควรได้รับครั้งนี้ก็ด้วย!แต่เนื่องจากนายน้อยมีคำสั่งพิเศษ กู่จื้อเกาจึงต้องทำเช่นนี้เพื่อทำให้เขามีความสุขทันใดนั้นลมแรงก็พัดมาพลังปรมาจารย์ที่น่าสะพรึงกลัวแพร่กระจายไปยังทุกมุมของบาร์ทันทีทุกคนถูกผลักกลับด้วยคลื่นอากาศที่มองไม่เห็นนี้คนหนึ่งโจมตีสุดกำลัง อีกคนไม่สนใจอะไรเลยและนี่ยังอยู่ภายใต้เงื่อนไขเบื้องต้นของการละทิ้งองค์ประกอบมากมายเช่น ระดับ อายุและประสบการณ์ใครชนะใครแพ้เห็นได้อย่างชัดเจน!ทางฝั่งชายผมขาว ทุกคนคิดว่าชนะแพ้ถูกตัดสินแล้ว ทันใดนั้นเหตุการณ์แปลกประหลาดก็เกิดขึ้นลั่วอู๋ฉางตบออกไปตกบนใบหน้าของกู่จื้อเกาอย่างแม่นยํา"เพียะ!"เสียงตบที่ดังสนั่นก็ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหันคมชัดและทรงพลัง!ท่ามกลางสายตาที่เหลือเชื่อของทุกคน กู่จื้อเกาที่เพิ่งหยิ่งผยองมากเมื่อกี้ ตัวกลิ้งออกไปไกลกว่าสิบเมตร"เพียะ..."ตัวของกู่จื้อเกาชนกำแพงทำให้เกิดเสียงแปลก ๆภายใต้สถานการณ์ปกติ ควรเป็นเสียงแบบ "ปัง" "ตุ
ชายผมขาวไม่เคยคิดเคยฝันว่าสถานการณ์จะพลิกผันเร็วขนาดนี้เมื่อกี้ทางฝั่งเกาชิงเหยียน เพราะเสียซุนหมิงฮุยไป ไม่สามารถส่งคนที่สามารถออกไปต่อสู้ได้ตอนนี้กลายเป็นฝั่งชายผมขาว กู่จื้อเกาเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในมือเขากู่จื้อเกายังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนอื่น ใครจะกล้าขึ้นไปตาย?พอพวกเขามองไปที่ลั่วอู๋ฉางอีกครั้ง สายตาเต็มไปด้วยความกลัว เคารพเหมือนเทพเจ้า!โดยเฉพาะซุนหมิงฮุย ตอนที่ลั่วอู๋ฉางเพิ่งปรากฏตัว เขามีสีหน้าดูถูกและไม่รู้สึกว่าลั่วอู๋ฉางจะเอาชนะได้เขาถึงขั้นหวังว่าลั่วอู๋ฉางจะสู้แพ้อย่างนี้ก็มีคนแบ่งปันความรับผิดชอบกับเขาแล้วเมื่อถึงตอนนั้นก็สามารถพูดอย่างหน้าด้านได้ว่า ถึงแม้ตัวเองจะแพ้ไปเกมส์หนึ่ง แต่ก็ชนะไปเกมหนึ่ง ถือว่าทดแทนกันได้ พวกคุณจะมาโทษผมไม่ได้ตอนนี้ซุนหมิงฮุยเหลือแต่ความยกย่องเท่านั้นคนที่สามารถฆ่ากู่จื้อเกาได้ในพริบตา สามารถจินตนาการได้ว่าความแข็งแกร่งของลั่วอู๋ฉางแข็งแกร่งแค่ไหนชายผมขาวรีบหายใจเข้าลึก ๆ อย่างต่อเนื่อง สงบหัวใจที่เต้นอย่างบ้าคลั่ง แสร้งทำเป็นสงบแล้วกล่าวว่า "ถือว่าพวกนายโชคดี ชนะเกมที่สองได้""ในเมื่อเป็นแบบนี้ ฉันก็ยินดีที่จะยอมรับความ
"แย่แล้ว!"ซุนหมิงฮุยกระโดดขึ้นจากพื้น ชี้ไปที่ลั่วอู๋ฉางแล้วด่าเสียงดัง "ไอ้หนุ่ม นายสร้างปัญหาใหญ่แล้ว!""นายรู้ไหมว่าตระกูลจางแห่งเมืองหลวงเป็นการดำรงอยู่แบบไหน ก็กล้าฆ่านายน้อยคนนี้""นายน้อยจางหยุนฉู่คนนี้เป็นลูกชายคนเล็กที่ได้รับความโปรดปรานมากที่สุดของตระกูลจาง เขาตายแล้ว พวกเราต้องซวยกันหมดแน่!"ลั่วอู๋ฉางมองซุนหมิงฮุยอย่างเย็นชาตั้งแต่วินาทีที่เขาเข้าไปในบาร์ ซุนหมิงฮุยนอนอยู่บนพื้นเหมือนหมาที่ตายแล้ว ท่าทางได้รับบาดเจ็บอย่างหนักและร่างกายอ่อนแอตอนนี้กลับสามารถกระโดดขึ้นมาด่าลั่วอู๋ฉางเสียงดังได้เห็นได้ชัดว่าครึ่งหนึ่งของอาการบาดเจ็บและความอ่อนแอของเขาเป็นของปลอม"คุณจ้องผมก็จะเปลี่ยนผลลัพธ์ได้เหรอ?"ซุนหมิงฮุยยิ่งพูดยิ่งเยอะขึ้นเรื่อย ๆ "แม้ว่านายจะไม่รู้จักนายน้อยจาง นายก็ควรพิจารณาจากการที่มียอดฝีมืออย่างกู่จื้อเกาติดตาม เขาต้องเป็นคนที่ไม่ธรรมดา""นายฆ่ากู่จื้อเกาก็ถือว่าเป็นการหาเรื่องตระกูลจางแล้ว!""คาดไม่ถึงว่าจะยังฆ่านายน้อยจางอย่างโหดเหี้ยมอีก รู้ไหมว่าตัวเองได้สร้างปัญหาใหญ่หลวงแค่ไหน?"ลั่วอู๋ฉางหันไปมองเกาชิงเหยียนแล้วถามว่า "ผู้ชายคนนี้มาจากไหน?"
"ผมผิดไปแล้ว ขอให้คุณลั่วสบายใจได้ หลังจากที่ผมกลับไปจะต้องปรับปรุงแน่นอน"ลั่วอู๋ฉางพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ว่า "แต่มีอีกคำพูดหนึ่ง มันยากที่จะเปลี่ยนธรรมชาติ ทำผิดแล้วไม่ถูกลงโทษ เกรงว่ามันยากที่จะจดจำไว้""อ๊า?"รอยยิ้มบนใบหน้าของเกาฉี่เซิ่งหายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันที ตะโกนว่า "คุณลั่ว ไว้ชีวิตด้วย!""หักขาข้างหนึ่ง เพิ่มความทรงจำให้เขา" ลั่วอู๋ฉางกลับไม่คิดจะปล่อยเขาไปง่าย ๆถ้าไม่ใช่เพราะเห็นแก่เกาฉี่เฉียงและเกาชิงเหยียน คนอย่างเกาฉี่เซิ่ง ลั่วอู๋ฉางจะไม่ไว้ชีวิตเขาง่าย ๆคนประเภทนี้สามารถกลายเป็นจุดทะลวงของศัตรูได้อย่างง่ายดายพูดตรง ๆ เขาก็คือพวกชอบก่อเรื่องมีเพียงขาหักเท่านั้นที่เขาถึงจะหยุดได้สักพักช่วงนี้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมาย ลั่วอู๋ฉางต้องรับประกันว่าทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของตัวเอง ช่องโหว่อย่างเกาฉี่เซิ่งจะต้องจัดการให้ดี"ครับ คุณลั่ว!"เรื่องหยาบคายแบบนี้ แน่นอนว่าพี่ตาวต้องเป็นคนรับผิดชอบ"พี่เซิ่ง ขอโทษที คำพูดของคุณลั่วต้องปฏิบัติตาม คุณอดทนหน่อย"เกาฉี่เซิ่งยังไม่ทันขอความเมตตา พี่ตาวก็ตีเขาด้วยไม้"แกร่ก!""โอ๊ย!"ขาขวาของเกาฉี่เซิ่งแสดงให้เห
"เกิดอะไรขึ้นกับอาจารย์หญิง?"พอลั่วอู๋ฉางได้ยินว่าเย่ปิงเหยาขาดการติดต่อก็ขมวดคิ้วขึ้นมาทันทีซูเฉี่ยนเฉี่ยนตอบว่า "สิบวันก่อน อาจารย์ไปทำธุรกิจที่พื้รที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ บอกว่าไปหาสมุนไพรที่ล้ำค่ามากชนิดหนึ่ง""เราติดต่อกันผ่านไลน์ทุกวัน แต่ตั้งแต่บ่ายของเมื่อสามวันก่อน จู่ ๆ ก็ขาดการติดต่อไป""ฉันลองติดต่อด้วยวิธีต่าง ๆ แล้ว แต่ก็ไม่ได้ผล แม้แต่โทรศัพท์ดาวเทียมที่อาจารย์พกติดตัวก็โทรติดเช่นกัน"ลั่วอู๋ฉางขมวดคิ้วอีกครั้ง สมุนไพรที่สามารถให้อาจารย์หญิงไปค้นหาด้วยตัวเอง น่าจะเกี่ยวข้องกับอาการป่วยของอาจารย์เทพอวี้สมุนไพรสามชนิดสุดท้ายที่ขาดไป ได้แก่ บัวหิมะเจ็ดกลีบ หญ้าสวนแหยนและแก่นของคริสตัลสวรรค์สองประเภทแรก ลั่วอู๋ฉางได้มาแล้วเหลือเพียงแก่นของคริสตัลสวรรค์เท่านั้น แม้แต่พวกเหลยเทียนสงก็ไม่พบเบาะแสใด ๆ"อาจารย์หญิงไปพื้นที่ตะวันตกเฉียงใต้ เพื่อไปหาแก่นของคริสตัลสวรรค์เหรอ?" ลั่วอู๋ฉางถามอีกครั้งซูเฉี่ยนเฉี่ยนพยักหน้าและพูดว่า "ถูกต้อง ชื่อนี้แหละ ฉันค้นหาในตำราแพทย์ทั้งหมดแล้ว ก็ไม่พบการแนะนำที่เกี่ยวข้องกับมันเลย""ฉันถามอาจารย์ว่าแก่นของคริสตัลสวรรค์นี้มีไว้ทำอะ
หูเยว่ซีโบกมือ "มันก็เหมือนกัน! พาซีซีไปด้วยสิ ฉันมีลางสังหรณ์ว่าฉันจะช่วยคุณได้อย่างแน่นอน""ผมก็มีลางสังหรณ์ว่าบ้านของเราจะถูกขโมย" ลั่วอู๋ฉางกล่าวหูเยว่ซี "หมายความว่าไง?""หมายความว่าคุณอยู่เฝ้าบ้านและปกป้องคนที่บ้านให้ปลอดภัย" ลั่วอู๋ฉางพูดอย่างจริงจังหูเยว่ซีไม่ยอม "ทำไมฉันต้องเฝ้าบ้านด้วย?""เพราะผมเป็นเจ้านาย" ลั่วอู๋ฉางพูดทีละคำ น้ำเสียงของเขาหนักแน่นและไม่ให้สงสัยศัตรูที่ซ่อนตัวอยู่ในที่ลับกำลังเฝ้าดูอย่างกระตือรือร้นปกติพวกเขากลัวลั่วอู๋ฉาง ไม่กล้าเคลื่อนไหวอะไรง่าย ๆถ้าลั่วอู๋ฉางจากไป พวกเขาจะกล้าหาญขึ้นมาทันทีเมืองจิงไห่ เป็นรากฐานของลั่วอู๋ฉางที่นี่มีครอบครัวของเขากับเพื่อน ๆดังนั้นที่บ้านไม่สามารถเกิดเรื่องได้การให้หูเยว่ซีเฝ้าบ้านเพื่อข่มขู่สถานการณ์ ไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามกำเริบเสิบสาน"ก็ได้ก็ได้ เจ้านายร้ายที่สุด รู้จักแต่รังแกสุนัขจิ้งจอก" หูเยว่ซีกล่าวลั่วอู๋ฉางยิ้มและพูดว่า "ไม่ให้คุณทำงานเปล่า ๆ ขากลับผมจะซื้อของมาฝากคุณ รับรองว่าเป็นของที่คุณชอบ""สัญญาแล้วนะ ห้ามผิดคำพูด!" ดวงตาโตของหูเยว่ซี เป็นประกายออกมาทันทีอะไรคือของที่เธอชอบ?แน่นอนว
นี่มันเรื่องอะไรกัน?สีหน้าของลั่วอู๋ฉางจริงจังขึ้นและพูดว่า "ผมก็คือคนที่คุณต้องการมารับ"ซูเฉี่ยนเฉี่ยนหันกลับมามองแล้วพูดด้วยความสงสัย "คุณคือคุณลั่วอู๋ฉางเหรอ?""ใช่ครับ!" ลั่วอู๋ฉางพยักหน้าดวงตาของซูเฉี่ยนเฉี่ยนเบิกกว้างอย่างดุเดือด "คุณล้อเล่นหรือเปล่า? เพื่อจีบสาว คุณก็ปลอมตัวเป็นคนอื่นอย่างโจ่งแจ้งแบบนี้ ไม่คิดว่ามันมากเกินไปเหรอ?"เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอเจอเรื่องแบบนี้ดังนั้นจึงมีคำพูดปฏิเสธ!ลั่วอู๋ฉางตกใจ "ผม ปลอมตัว?"คนข้าง ๆ ก็ทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว พากันเยาะเย้ยว่า "เพื่อน เราเข้าใจความรู้สึกของคุณนะ แต่วิธีการของคุณไม่ค่อยฉลาดจริง ๆ""ถูกคนอื่นมองออกแล้ว ยังไม่ยอมไปอีก หน้าก็หนาเกินไปมั้ง!""การจีบสาว ต้องใช้ความกล้าหาญและรอบคอบ เขาทำแบบนี้ ไม่น่าอาย""นี่เป็นวิธีที่ไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ มันคุ้มค่าที่จะเรียนรู้จริง ๆ เก่งกว่าฉัน! ถ้าฉันได้เรียนรู้เคล็ดลับนี้มาตั้งนานแล้ว ฉันคงไม่เป็นโสดจนถึงตอนนี้"ลั่วอู๋ฉางแสดงตั๋วเครื่องบินของตัวเองให้ซูเฉี่ยนเฉี่ยนดู"คุณ... คือคุณลั่วอู๋ฉางจริง ๆ?"ซูเฉี่ยนเฉี่ยนตกใจ ตั๋วเครื่องบินมีชื่อผู้โดยสารอยู่ลั่วอู๋ฉางพูด
ชวีซานตัวไม่กล้าขัดขืน ได้แต่ทำตามคำสั่งเมื่อทุกคนมาถึงภูเขาด้านหลัง ฟ้าก็เริ่มสางแล้วเบื้องหน้าคือเหวลึกที่ขวางทางอยู่ลั่วอู๋ฉางผูกปลายเชือกด้านหนึ่งไว้กับเสา แล้วสะพายเชือกที่มัดรวมกันไว้บนหลัง ก่อนพยักหน้าให้ทุกคน"มีปัญหาอะไรไหม?"ลั่วอู๋ฉางถามอาวุโสที่มีใบหน้าฟกช้ำดำเขียวคนนั้นอาวุโสรีบตอบ "ไม่มีปัญหาครับ!"ลั่วอู๋ฉางกระโดดขึ้นด้วยเท้าข้างเดียว ตัวเขาลอยขึ้นสูงก่อนเหาะตรงไปยังอีกฟากของหน้าผาเมื่อเหาะไปได้ครึ่งทาง ร่างของลั่วอู๋ฉางก็เริ่มร่วงลงเมื่อคำนวณจากมุมนี้ เขาแทบไม่มีโอกาสไปถึงอีกฝั่งเลยทันใดนั้น นกอินทรียักษ์ตัวหนึ่งก็โฉบมาจากด้านข้างอาวุโสคนเมื่อกี้ยืนอยู่ริมหน้าผาและเป่านกหวีดเรียกอินทรีอินทรียักษ์กางปีก ลั่วอู๋ฉางเหยียบลงบนหลังมันหนึ่งที ทิศทางที่กำลังร่วงพลันเปลี่ยนเป็นลอยขึ้นเสี้ยววินาทีต่อมา เขาก็ลงถึงริมหน้าผาอีกฝั่งอย่างมั่นคงจากนั้นก็ทำแบบเดิม ผูกปลายเชือกฝั่งนี้ไว้กับเสาอีกข้าง"เจ้าสำนักชวี สั่งคนของท่านให้เริ่มได้แล้ว!" ซูเทียนคั่วออกคำสั่งอย่างไม่ไว้หน้าชวีซานตัวไม่ใช่ไม่เคยคิดจะเล่นงานตอนที่ลั่วอู๋ฉางกำลังข้ามหน้าผาเขาเคยคิดจะสั่ง
คำกล่าวอย่างมั่นใจของลั่วอู๋ฉางดังก้องไปทั่วสำนักใหญ่ของพันธมิตรบู๊ลิ้มหากเป็นเมื่อก่อน ใครกล้าพูดกับหัวหน้าสำนักพวกเขาเช่นนี้ คงไม่ต้องรอให้ชวีซานตัวเอ่ยปาก สมาชิกระดับล่างก็พร้อมจะซัดมันจนหมอบไปแล้วต่อหน้าประตูสำนักงานใหญ่ จะปล่อยให้คนมาพูดจาโอ้อวดได้อย่างไร?แต่สถานการณ์ตอนนี้คือ ลั่วอู๋ฉางไม่เพียงแต่พูด เขายังทำลายประตูใหญ่ของพวกเขาและทำร้ายคนไปอีกหลายสิบคนด้วยแน่นอนว่าจำนวนนี้ไม่ได้ตายตัวถ้าคนอื่นกล้าบุกเข้าไปอีก ลั่วอู๋ฉางจะไม่ปรานี และยินดีที่จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้บาดเจ็บให้พันธมิตรบู๊ลิ้มอีกด้วย"แก...ปากกล้านักนะ!"ชวีซานตัวในฐานะหัวหน้าแห่งบู๊ลิ้ม ไม่อาจเสียศักดิ์ศรีด้วยการยอมแพ้ง่าย ๆทั้งๆ ที่ความจริง ในใจเขานั้นกลับตื่นตระหนกจนแทบควบคุมไม่อยู่อาวุโสทั้งแปดร่วมมือกันยังเอาชนะไม่ได้!ถึงแม้ตอนฝึกซ้อมปกติ ชวีซานตัวจะเคยชนะพวกเขามาแล้วก็เถอะแต่ใช้นิ้วโป้งเท้าคิดก็ยังรู้เลยว่า เป็นอาวุโสทั้งแปดแกล้งอ่อนข้อให้ถ้าสู้จริง ชวีซานตัวไม่มีทางได้เปรียบหรอกแต่ลั่วอู๋ฉางกลับทำได้!นี่แสดงให้เห็นว่า ความสามารถของเขาเหนือกว่าชวีซานตัวมากถ้ายอมแพ้ต่อหน้าสมาชิกบู๊ลิ้มมา
เขาไม่อยากให้ใครพูดถึงเรื่องนี้ โดยเฉพาะต่อหน้าสาธารณชน"อาวุโสทั้งแปดของสภาผู้อาวุโสอยู่ที่ใด?"ดวงตาของชวีซานตัวเต็มไปด้วยความโกรธ พร้อมตะโกนออกคำสั่งอย่างดุดัน"ข้าน้อยอยู่ที่นี่!"อาวุโสทั้งแปดคนตอบรับออกมาพร้อมกัน"คนผู้นี้ทำลายประตูสำนักของเรา ทำร้ายศิษย์ของเรา จงสังหารมันตรงนี้เดี๋ยวนี้ เพื่อเป็นตัวอย่าง!" ชวีซานตัวกัดฟันกล่าวอาวุโสทั้งแปดคนตอบพร้อมกันอีกครั้ง "รับทราบ ท่านเจ้าสำนัก!""ฆ่า!"ทั้งแปดคนล้วนเป็นผู้มีวิชาระดับปรมาจารย์ใหญ่มีฝีมือไม่ธรรมดา!ในสำนักใหญ่ ทั้งด้านสถานะและพลังฝีมือ พวกเขาเป็นรองเพียงชวีซานตัวเท่านั้นเมื่อทั้งแปดร่วมมือกัน แม้แต่วีรบุรุษในตำนานก็ยากที่จะเอาชนะพวกเขาได้พวกเขาร่วมมือกันอย่างเข้าขา ล้อมลั่วอู๋ฉางไว้ตรงกลาง และออกกระบวนท่าสังหารทุกอย่างใส่เขาถ้าเป็นคนอื่น คงถูกพวกเขาสับเป็นชิ้นๆ ไปแล้วแต่ลั่วอู๋ฉางกลับไม่สะทกสะท้านใดๆ เพียงแค่ส่งกระแสจิต"วึ้ง!"คาถาป้องกันตัวปล่อยแสงสีทองออกมา ขัดขวางการโจมตีทั้งหมดไว้"อะไรกัน?"ชวีซานตัวเบิกตากว้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อในสายตาของเขา ต่อให้ลั่วอู๋ฉางเก่งแค่ไหน แต่ก็ยังเป็น
ท่ามกลางความมืด มีร่างคนจำนวนมากพุ่งผ่านไปอย่างรวดเร็วเมื่อพวกเขาเห็นชัดเจนแล้วว่าประตูทางเข้าซึ่งเป็นหน้าตาของพันธมิตรบู๊ลิ้มถูกทำลาย กลายเป็นซากปรักหักพัง พวกเขาก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟทันที"ใครกันที่กล้าบ้าบิ่นถึงขนาดนี้!""บังอาจมาพังประตูใหญ่ของพันธมิตรบู๊ลิ้ม รนหาที่ตายแล้ว!""จะเป็นใครก็ช่าง แต่แน่ๆ คงไม่ใช่คนดีหรอก สับมันเป็นชิ้นๆ ก่อนค่อยว่ากัน!"กลุ่มคนที่โกรธแค้นเห็นร่างหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าซากปรักหักพัง"ไอ้หนุ่ม แกเห็นไหมว่าใครเป็นคนทำ?"คนตาไวมองเห็นว่าเป็นเงาของชายหนุ่มจึงรีบถามออกไปทันที"ขอเตือนไว้ก่อน เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ รีบพูดสิ่งที่นายเห็นออกมาทั้งหมก ไม่งั้นนายเองก็ต้องเดือดร้อนด้วย!"ลั่วอู๋ฉางยืนอย่างสงบพลางตอบว่า "เห็น""รีบบอกมาว่าใคร!" คนกลุ่มนั้นร้องถามขึ้นพร้อมกันลั่วอู๋ฉางตอบอย่างไม่รีบร้อนว่า "ก็ฉันไง!""อะไรนะ?!"คนกลุ่มนั้นเบิกตาโต ความโกรธที่ปรากฏบนใบหน้าชัดเจนยิ่งกว่าความตกใจ"ไอ้หนุ่ม นี่ไม่ใช่เวลามาอวดเก่ง คิดว่าเราจะเชื่อแกหรือไง?""รีบบอกมาว่าใครเป็นคนทำ ไม่งั้นจะถือว่าแกเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วย!""ให้โอกาสสุดท้าย รีบพูด ไม่งั้นพวกเร
ซูเทียนคั่วกังวลขึ้นมาทันที ขณะที่ปกป้องซูเฉี่ยนเฉี่ยนหลานสาว เขาก็ตะโกนเสียงดังขึ้นว่า "เจ้าสำนักชวี นี่คือวิธีการต้อนรับแขกของพันธมิตรบู๊ลิ้มหรือ?""หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ไม่กลัวคนในยุทธภพจะหัวเราะเยาะหรือ?"ชวีซานตัวไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย "อย่างพวกนายเนี่ยนะ? เรียกว่าแขกได้ด้วยหรือ?"เมื่อต้องเผชิญหน้ากับจำนวนคนที่มากกว่าหลายเท่า อีกทั้งสายตาที่จับจ้องมาอย่างอาฆาต ทั้งสามคนไม่สามารถต่อกรได้เลยไม่นานพวกเขาก็ถูกจับตัวได้!"ชวีซานตัว การที่คุณทำเช่นนี้ ไม่กลัวว่าศิษย์ของเทพอวี้อย่างราชันมังกรลั่วเทียนจะมาหาเรื่องหรือ?" ซูเทียนคั่วพูดขณะดิ้นรนชวีซานตัวไม่สนใจแม้แต่น้อย "ถ้าเขากล้าหาญมาที่นี่ ฉันจะให้เขาลิ้มรสชาติของการต้องเป็นนักโทษเช่นกัน!""ศิษย์ที่ถูกสอนโดยตาแก่แบบนั้น คงไม่ใช่คนดีสักเท่าไรหรอก พอดีเลย จะได้ให้เขาชดใช้หนี้แทนตาแก่นั่นและพวกแกไปพร้อมกัน!""ราชันมังกรลั่วเทียนอะไรกัน แค่เด็กหนุ่มอายุยี่สิบต้นๆ จะมีอะไรพิเศษนัก?""ตัวเขาไม่อายก็ช่างเถอะ แต่ยังกล้าไปหาคนมาคุยโวแทนตัวเอง คิดจะดังจากการสร้างกระแสเช่นนี้ คิดว่าบู๊ลิ้มเป็นที่สำหรับเล่นขายของหรือไง ฝันไปเถ
พูดของชวีซานตัวเต็มไปด้วยความหยาบคายใบหน้าสวยของเย่ปิงเหยาเริ่มบึ้งตึง แต่เพราะนี่เป็นถิ่นของอีกฝ่าย เธอจึงไม่อาจโต้ตอบได้ชวีหลิงหานคือน้องสาวของชวีซานตัว ทั้งสองคนมีอายุห่างกันมากกว่ายี่สิบปีหลังจากชวีหลิงหานเกิดได้ไม่นาน พ่อแม่ของเธอก็เสียชีวิตจากอาการป่วย ก่อนสิ้นใจได้ฝากให้ชวีซานตัวช่วยเลี้ยงดูน้องสาวที่ยังเป็นแค่ทารกแรกเกิดชวีซานตัวเลี้ยงดูน้องสาวด้วยความยากลำบาก จนเธอเติบโตขึ้นมาเป็นหญิงสาวที่งดงามยิ่ง ทั้งยังมีพรสวรรค์จนได้รับความสนใจจากคนในบู๊ลิ้มมีผู้คนมาสู่ขอเธอมากมายจนทำให้ประตูบ้านตระกูลชวีแทบพังในขณะที่ชวีซานตัวกำลังเลือกคู่ครองให้น้องสาวจนตาลาย และวาดฝันว่าเธอจะได้แต่งงานกับตระกูลใหญ่โตความฝันกลับพังทลาย!ชวีหลิงหาน หญิงสาวผู้แสนงดงาม กลับถูกชายแก่อัปลักษณ์คนหนึ่งมาชิงตัวไป!ในตอนแรก ชวีซานตัวคิดว่าน้องสาวของเขายังไร้เดียงสา และถูกชายชั่วหลอกลวงเขาคิดว่าเพียงแค่พูดจาโน้มน้าวด้วยความรักและเหตุผล น้องสาวจะกลับตัวกลับใจแต่ผลกลับเป็นตรงกันข้าม!ชวีหลิงหานไม่เพียงแต่ไม่สำนึกในสิ่งที่ทำ แต่กลับรักชายแก่คนนั้นอย่างหัวปักหัวปำ และพูดคำพูดไร้สาระอย่างเช่นรักจน
พูดตามตรง ลั่วอู๋ฉางก็มีใจอ่อนนิดหน่อยทุกครั้งที่ต้องต่อสู้กับพวกกระจอก เขามักจะคิดถึงหูเยว่ซีอย่างมากเป็นถึงจักรพรรดินีแห่งชิงชิว แต่เขากลับใช้งานเหมือนลูกน้องปลายแถวประเด็นสำคัญคือ หูเยว่ซีไม่เพียงแต่ไม่โกรธ แต่ยังเต็มใจช่วยอย่างยินดีอีกด้วย"ไม่ได้"ความมีเหตุผลเอาชนะความหุนหัน ลั่วอู๋ฉางพูดพร้อมขมวดคิ้ว "เธอต้องอยู่เฝ้าบ้าน มีแต่แบบนี้ ฉันถึงจะวางใจได้"หูเยว่ซีทำหน้าหงอย: "ก็ได้!"ลั่วอู๋ฉางหัวเราะ "เธอว่านอนสอนง่ายขนาดนี้ ต้องให้รางวัลสักหน่อยแล้ว""รางวัลอะไร?" จิ้งจอกน้อยถามอย่างตื่นเต้น ดวงตาทั้งสองส่องประกายวิบวับทันทีลั่วอู๋ฉางหยิบลูกแก้วพญานาคออกมาจากกระเป๋าแล้วพูดว่า "ก่อนหน้านี้สัญญาว่าจะให้ของขวัญเธอ ตอนนี้ถึงเวลาทำตามสัญญาแล้ว"หูเยว่ซีตาเป็นประกายอีกครั้ง "ลูกแก้วพญานาค!"ถ้าเป็นเมื่อก่อน ลูกแก้วพญานาคระดับนี้เธอคงไม่แม้แต่จะชายตามองด้วยซ้ำแค่มองนานหน่อย ก็ถือเป็นการดูหมิ่นคำว่า "จักรพรรดินีแห่งชิงชิว" แล้ว!แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน หลังจากถูกขังอยู่ในแหวนมานานถึงพันปี เพิ่งจะได้อิสรภาพคืนมา พลังลดลงไปมากและร่างกายก็อ่อนแอสุดขีดนี่คือช่วงเวลาที่เธอต้อง
หวงผู่เจิ้งซิ่นย่อมไม่พอใจแน่!คนเป็นครูยังล้มเหลว แต่ศิษย์กลับทำสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกถ้าไม่ใช่บังเอิญ แล้วมันคืออะไร?ลั่วอู๋ฉางไม่ตอบอะไร จากนั้นก็หยิบคริสตัลสวรรค์ก้อนที่สองมาไม่นานก็ทำสำเร็จอีกครั้ง!หวงผู่เจิ้งซิ่นเบิกตากว้าง ประหลาดใจราวกับเห็นเทพเจ้าส่วนใบหน้าของหูเยว่ซีก็เต็มไปด้วยความชื่นชมมากขึ้นเรื่อยๆ"ลองอีกครั้งสิ!" หวงผู่เจิ้งซิ่นยังคงไม่ยอมแพ้คราวนี้ ลั่วอู๋ฉางไม่ทำตามเขาอีกต่อไป เขาเก็บแท่งคริสตัลสวรรค์ที่เหลือทันที"หมายความว่าไง?" หวงผู่เจิ้งซิ่นถามตาโตลั่วอู๋ฉางลุกขึ้นเดินออกไป ทิ้งคำพูดไว้โดยไม่หันกลับมา "ขอบคุณนะ!""เดี๋ยวสิ นายแน่ใจแล้วเหรอว่านายเข้าใจทั้งหมด?"หวงผู่เจิ้งซิ่นรีบไล่ตามไป "ถ้าไม่สำเร็จล่ะ ฉันจะได้ช่วยหาสาเหตุไง!""ไม่จำเป็นแล้ว ถ้านายท่านของฉันคิดว่าไม่มีปัญหา มันก็ไม่มีปัญหาแน่" หูเยว่ซีขวางเขาไว้ พร้อมพูดอย่างหนักแน่นในตอนนี้ สีหน้าหวงผู่เจิ้งซิ่นเต็มไปด้วยความซับซ้อนศิษย์ที่เก่งเกินไปทำให้ครูรู้สึกอับอาย"ไหนว่าราชันมังกรลั่วเทียนก็เป็นแค่คนธรรมดา เขาเป็นปีศาจชัดๆ!"หวงผู่เจิ้งซิ่นยอมแพ้อย่างหมดท่า พูดอย่างเศร้าๆ "คิดว่า
หวงผู่เจิ้งซิ่นเชิดคอขึ้น พยายามทำสีหน้าให้ดูปกติที่สุดเพื่อปกปิดความเขินอายของตัวเองเนื่องจากการสาธิตเมื่อครู่นั้นจบลงด้วยความล้มเหลวแม้ว่าเขาจะรู้วิธี แต่เพราะไม่ได้ปฏิบัติมาเป็นเวลานาน ความผิดพลาดจึงถือเป็นเรื่องปกติ"หาว..."หูเยว่ซีอ้าปากหาวครั้งใหญ่ ราวกับเปลือกตาถูกกดด้วยน้ำหนักมหาศาลใช่แล้ว เธอง่วงจริงๆ!การสอนของหวงผู่เจิ้งซิ่นทำให้เธอง่วงได้สำเร็จส่วนเนื้อหาที่พูดในภายหลัง แทบไม่ได้เข้าหัวของหูเยว่ซีเลย ผ่านหูซ้ายออกหูขวา ไม่มีอะไรในหัวเลย"พวกคุณ...ทำต่อไปเลย!"หูเยว่ซียืดแขนบิดขี้เกียจ และส่งสัญญาณให้ทั้งคู่ไม่ต้องสนใจเธอสิ่งนี้ทำให้หวงผู่เจิ้งซิ่นรู้สึกว่าตัวเองล้มเหลวมาก!รู้สึกเหมือนโดนตบหน้าฉาดใหญ่!การทำให้นักเรียนง่วงถือเป็นเรื่องที่น่าอับอายอยู่แล้ว ที่สำคัญคือการสาธิตของตัวเองยังล้มเหลวอีกด้วย"ไม่เป็นไร ฉันขอลองเอง" ลั่วอู๋ฉางเสนอตัวขึ้นอย่างกล้าหาญ"คุณจำทั้งหมดได้แล้วเหรอ?"หวงผู่เจิ้งซิ่นพูดด้วยสีหน้าจริงจังทันที "อย่าเพิ่งรีบร้อนปฏิบัติเลย ลองทบทวนสิ่งที่ฉันพูดสักรอบก่อน มีจุดไหนที่ไม่เข้าใจก็ถามให้แน่ชัด แล้วค่อยลงมือ"เพราะจำนวนของแท่งค