“มึง หมายความว่าอะไร?” สวีอวิ๋นฝานหัวใจกระตุก เหมือนกับสัมผัสได้ถึงบางอย่างที่ผิดปกติ“ทักทายลูกพี่ลูกน้องนายแทนฉันด้วย!” ลั่วอู๋ฉางเหยียบเท้าลงไป“ป้อก!”เสียงที่แปลกประหลาดดังขึ้น เป็นเพราะจุดลงของเท้า คือเป้ากางเกงของสวีอวิ๋นฝานกระจู๋ พังแล้วเลือดไหลนอง ซึมกางเกงออกมาอย่างรวดเร็วทุกคนถลึงตาโต เสียงสูดลมหายใจเข้าอย่างแรงต่อเนื่องกันเป็นระรอก โดยเฉพาะผู้ชาย แต่ละคนหนีบขาเอาไว้โดยไม่รู้ตัวฝ่าเท้าเดียวก็กลายเป็นขันที คงเจ็บมากสินะ?สวีอวิ๋นฝานเจ็บจนตัวสั่นรุนแรง ร่างกายขดตัวจนเกิดเป็นท่าทางแปลประหลาด ใบหน้ากลายเป็นสีม่วงสีแดงเพราะเลือดสูบฉีด สีหน้าบิดเบี้ยวจนผิดรูปไปอย่างรุนแรงเขายังไม่ทันได้ร้องโอดครวญจากความเจ็บปวดด้วยซ้ำ จากนั้นสลบไปโดยตรงลั่วอู๋ฉางมองดูรองเท้าที่ไม่ได้เปื้อนเลือดแม้แต่นิด พูดเสียงเย็นชา “ถอนรากแล้ว ต่อไปถึงได้ไม่มีโอกาสก่อความวุ่นวายไปทั่ว”ซี้ด!ทุกคนสูดลมหายใจเข้าอีกครั้ง ตอนนี้ทั้งงานเงียบสงัดเขากล้าได้อย่างไร?นี่เป็นถึงลูกชายของผู้มีอำนาจทิศเหนือเชียวนะ เพียงแค่ฝ่าเท้าเดียวก็ทำให้มีทายาทไม่ได้อีกแล้ว ตระกูลสวีจะปล่อยเขาไปได้เหรอ?แม้แต่เกา
ลูกน้องกลุ่มนั้นของตระกูลสวีต่างช่วยกันประคองยืนขึ้น หามสวีอวิ๋นฝานคนละไม้คนละมือ หนีหัวซุกหัวซุนไปด้วยสภาพที่แย่มากแขกในงานต่างกระซิบกระซาบ พากันวิพากษ์วิจารณ์ "ดูท่า ตระกูลเกาตัดสินใจเด็ดเดี่ยวที่จะเปิดศึกกับตระกูลสวี!""ใครว่าไม่ใช่ล่ะ! เสือสองตัวต่อสู้กันต้องมีตัวหนึ่งที่บาดเจ็บ ไม่รู้ว่าคนที่ยิ้มจนถึงตอนสุดท้ายจะเป็นตระกูลไหน แต่ไม่ว่าอย่างไร สภาพการณ์ของเมืองจิงไห่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่""คุณลั่วท่านนี้มีที่มาอย่างไรกันแน่? ดูธรรมดาอย่างมาก ชนิดที่ว่าโยนไปในกลุ่มคนก็หาไม่เจอ ทำไมคุณเกาถึงให้ความสำคัญขนาดนี้ ไม่เข้าใจจริง ๆ!""เพื่อเขาแล้ว ไม่เสียดายที่จะต่อสู้กับตระกูลสวี ทำให้คนคาดคิดไม่ถึง! อีกอย่างพวกคุณสังเกตุเห็นแล้วยัง คุณลั่วท่านนี้ถึงจะเป็นบุคคลสำคัญในคืนนี้ คุณเกาในฐานะผู้จัดงาน กลับเหมือนกับเป็นตัวเสริม""เทพของทั้งสองตระกูลสู้กัน ไม่ว่าใครชนะใครแพ้ พวกเราคนธรรมดาหลบไปไกล ๆ หน่อยเป็นดี จะได้ไม่ถูกลูกหลง"เกาชิงเหยียนแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น เรื่องที่เธอตัดสินใจแล้ว ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงเปิดศึกกับตระกูลสวี่แล้วจะอย่างไร พวกเราตระกูลเกาก็ไม่ได้อ่อนแอสักห
"ไอ้สกุลลั่วลงมือหนักเกินไปแล้ว ถ้าหากกระทืบแค่คุณชายสวี ฉันให้พ่อโทรไปสายเดียว ให้เขาออกหน้าไกล่เกลี่ยสักหน่อย ยังสามารถกู้สถานการณ์กลับมาได้"หวังจื่อเฟิงพูดด้วยสีหน้าลำบากใจ "แต่ตอนนี้ คุณชายสวีกลายเป็นขันทีไปแล้ว พูดไพเราะมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์"หยางหว่านอวี่เหมือนคว้าฟางช่วยชีวิตเส้นสุดท้ายไว้ได้ เธอรีบพูดขึ้น "ให้คุณอาหวังลองดู ไม่แน่อาจจะมีประโยชน์ก็ได้"หวังฉีอิ๋งพ่อของหวังจื่อเฟิง เป็นคนโลเล อยู่ระหว่างตระกูลเกาและตระกูลสวีลื่นไหลมาเทมา ดูเหมือนมีหน้ามีตา แต่อยู่ต่อหน้าทั้งสองตระกูลแทบจะไม่มีตัวตนด้วยซ้ำไม่มีใครชอบคนโลเล มากสุดก็แค่มีเกียรติอยู่นิดหน่อยเท่านั้นหวังจื่อเฟิงรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี ตระกูลหวังถึงแม้จะมีการคบหากับตระกูลสวีอยู่เล็กน้อย แต่เพียงแค่ไปมาหาสู่ทางด้านธุรกิจ หวังฉีอิ๋งยังไม่ได้มีเกียรติมากมายขนาดนั้นที่จะเปลี่ยนแปลงความคิดของสวีเทียนได้"พี่เฟิง เพียงแค่พี่ชอบช่วยฉัน ถือว่าฉันเป็นหนี้น้ำใจที่ยิ่งใหญ่มหาศาลต่อพี่" หยางหว่านอวี่ทำท่ารับประกันจื่เห็นสายตาคาดหวังของนางฟ้า หวังจื่อเฟิงนึกขึ้นได้ว่านี่เป็นโอกาสดีที่จะได้รับความรู้สึกที่ดีจากคนสวย จะ
“อารอง!”เกาชิงเหยียนยังไม่ยอมแพ้ ในสายตาเต็มไปด้วยความอ้อนวอนเกาฉี่เซิ่งพูดด้วยใบหน้าเฉยเมย “นอกจากว่าพ่อเธอฟื้นขึ้นมา พูดกับปากตัวเองว่าจะเปิดศึกกับตระกูลสวี ไม่อย่างนั้นไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้อีก!”สีหน้าเด็ดเดี่ยว ไม่มีที่ว่างสำหรับการเจรจาเกาชิงเหยียนสิ้นหวัง เพียงแค่กำลังในมือของเธอ เป็นการไม่ประมาณตนด้วยซ้ำ ไม่เพียงพอที่จะตีเสมอกับตระกูลสวีสถานการณ์เกินความคาดหมายของตัวเอง ชั่วครู่หนึ่ง เธอไม่รู้ว่าควรจะอธิบายกับลั่วอู๋ฉางอย่างไร……โรงพยาบาลเมืองจิงไห่นอกห้องผ่าตัด โถงทางเดินมีคนยื่นเต็มไปหมดคนกลุ่มนี้สีหน้าท่าทางเหี้ยมโหดอย่างมาก พยาบาลตกใจจนไม่กล้าเข้าใกล้ด้วยซ้ำในตอนนี้ ประตูห้องผ่าตัดเปิดออกพอดี หมอสองคนเข็นเตียงผู้ป่วยออกมา สวีอวิ๋นฝานนอนอยู่บนเตียง ส่วนล่างมีผ้าพันแผลพันเต็มไปหมดกลุ่มคนที่รออยู่ด้านนอก กรูกันเข้าไปล้อมรอบเอาไว้คนที่เดินเข้าไปคนแรกรูปร่างสูงใหญ่ ใบหน้าทรงสี่เหลี่ยมเต็มไปด้วยความสง่าผ่าเผย สายตาเผยความโหดเหี้ยมไรปราณี เขาก็คือสวีเทียน ราชาใต้ดินผู้ที่มีชื่อเรียกว่าผู้มีอำนาจทิศเหนือ“คุณหมอ สถานการณ์ของลูกผมเป็นอย่างไรบ้าง?”หมอถอดหน้าก
กุนซือยังคงยิ้มเจ้าเล่ห์ “ถ้าหากบุกไปตอนนี้ เพื่อปกป้องตัวเอง ตระกูลเกาหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเป็นหมาจนตรอก ทำให้ศัตรูบาดเจ็บหนึ่งพันจะทำให้ธุรกิจของคุณเสียหายแปดร้อย ไม่คุ้มค่า!”สวีเทียนจิตใจสงบลงอย่างรวดเร็ว พยักหน้าด้วยรอยเยาะหยัน “กุนซือพิจารณาได้รอบคอบ งั้นก็ให้คนตระกูลเกามีชีวิตอยู่อีกสักสองวัน”“แจ้งไปยังราชาแห่งสวรรค์ทั้งสี่และนักรบแปดผู้ยิ่งใหญ่ เตรียมพร้อมรับมือข้าศึก ออกไปสู้ได้ทุกเมื่อ! ถึงเวลาคนของตระกูลเกาทุกคน ลงนรกไปพร้อมกับเกาฉี่เฉียง!”กุนซือรีบเปลี่ยนสีหน้า พูดประจบสอพลอ “นายท่านสวีฉลาดปราดเปรื่อง ตระกูลสวีอยู่ภายใต้การบัญชาของคุณ จะต้องกลายเป็นกษัตริย์แห่งเมืองจิงไห่ได้แน่นอน ถึงเวลานั้นคุณจะอยู่ถึงจุดยอดสุด ก้มลงมองผู้คน”เวลาปกติ สวีเทียนต้องดีใจจนหัวเราะร่าตอนนี้ลูกชายกลายเป็นขันที ถึงแม้เขาจะยิ้มไม่ออก แต่มันก็ยังมีประโยชน์อยู่ในใจอย่างมาก“รีบเตรียมตัวให้พร้อม ฉันไปควบคุมที่บริษัท มีเรื่องอะไรรายงานฉันในทันที” สวีเทียนหันหลังเดินออกไปบนถนน รถเบนซ์สีดำคันหนึ่งเร่งความเร็วขับผ่านทางแยกไปในรถ หยางหว่านอวี่เหม่อลอยเล็กน้อย ตั้งแต่ออกจากงานเลี้ยงการกุศล เธ
ความจริงแล้ว ก่อนที่หยางหว่านอวี่จะปรากฏตัวที่นี่เมื่อหลายนาทีก่อน ลั่วอู๋ฉางก็อยู่ที่ชั้นล่างแล้วตอนบ่ายของเมื่อวานซืน สวีอวิ๋นเลี่ยงพาอันธพาลบุกเข้าไปตระกูลอวี๋ และบังคับให้กู้ยืมเงินเพื่อเรียกเก็บเงิน ลั่วอู๋ฉางก็ไม่คิดจะปล่อยตระกูลสวีไปอยู่แล้วแน่นอนว่า จากแผนการเดิมของเขา เพียงแค่สั่งสอนสวีเทียนสักยก ตีจนพวกเขายอมแพ้พรุ่งนี้วันจันทร์ ไม่รบกวนอาอวี๋ไปสอนหนังสือที่มหาวิทยาลัยก็พอสำหรับความขัดแย้งของตระกูลสวีกับตระกูลเกา ลั่วอู๋ฉางไม่อยากเข้ายุ่งด้วยซ้ำ เดิมทีก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเขาอยู่แล้ว ทำไมต้องเข้าไปยุ่งเรื่องชาวบ้านแต่ว่า ทนกับการรนหาที่ตายของตระกูลสวีไม่ได้เรื่องในคืนนี้ ยั่วโมโหลั่วอู๋ฉางได้สำเร็จถึงแม้หยางหว่านอวี่จะกลายเป็นอดีตภรรยา ลั่วอู๋ฉางก็ตัดใจจากเธอได้แล้ว แต่ในเมื่อเคยเป็นผู้หญิงของราชันมังกรลั่วเทียน คนอื่นยังไม่มีสิทธิ์เหยียดหยามได้ตามใจชอบสวีอวิ๋นเลี่ยงกับสวีอวิ๋นฝานถูกลั่วอู๋ฉางกระทืบจนบาดเจ็บหนัก ความแค้นนี้นับว่าถูกมัดตายไปแล้ว ไม่มีทางย้อนกลับคืนสองเรื่องรวมเข้าด้วยกัน ตระกูลสวีจำเป็นต้องถอนราก หม ไม่เช่นนั้นจะมีเรื่องตามมาไม่หยุดเพียงแต่
“ไม่ต้องพูดถึงว่ามีคนกล้าเข้ามายุ่ง ต่อให้มี พรรคพวกของฉันที่ชั้นล่างก็ไม่ได้กระจอกงอกง่อย รอตำรวจขึ้นมาชั้นบนอย่างเอื่อยเฉื่อย เธอกับฉันคงทำเสร็จไปตั้งนานแล้ว!”เพิ่งพูดจบ สวีเทียนเปิดลิ้นชักออกอย่างแรง หยิบยากล่องสีฟ้ากล่องหนึ่งออกมา เปิดออกต่อหน้าหยางหว่านอวี่ โยนเข้าปากทั้งหมด“ฮ่าฮ่า มีสิ่งเพิ่มความสนุก ดูสิว่าวันนี้ฉันจะเล่นสนุกกับเธออย่างไร!”หยางหว่านอวี่เสียใจภายหลัง ความจริงพิสูจน์แล้วว่าเรื่องตัวเองคิดตื้นเกินไป ตอนนี้คิดเพียงอย่างเดียว นั่นก็คือต้องรีบออกจากที่อันตรายแห่งนี้ให้เร็วที่สุดภายใต้ความตื่นตระหนก เธอหันหลังจะวิ่งหนี“ส่งมาถึงที่อยากจะหนีไป ถิ่นของผู้มีอำนาจทิศเหนือของฉัน จะอนุญาติให้เธออยากจะมาก็มา อยากจะไปก็ไปได้อย่างไร!”สวีเทียนพุ่งเข้าไป ดึงผมของหยางหว่านอวี่เอาไว้ ลากไปที่โซฟาอย่างหยาบคาย ยกแก้วเหล้าขึ้นกรอกปากเธอ“กูกินของที่ช่วยเพิ่มความสนุก มึงก็ขาดไม่ได้ กูชอบท่าทางยั่วยวนของผู้หญิงเย็นชาเหมือนภูเขาน้ำแข็งแบบมึง หลังจากที่ดื่มจนเมา ฮ่าฮ่าฮ่า!”หยางหว่านอวี่ดิ้นรนสุดแรง แต่เธอที่เป็นผู้หญิงอ่อนแอ จะสู้กับสวีเทียนที่ร่างกายบึกบึนได้อย่างไร เหล้าแก
ในตอนที่จ้าวเหม่ยอวิ๋นร้อนใจเหมือนไฟแผดเผา กลับไร้ซึ่งหนทาง เกาชิงเหยียนพาพี่ตาวมาที่โรงแรมฮิลตันอารองเกาฉี่เซิ่งไม่อนุญาติให้เปิดศึกกับตระกูลสวี เท่ากับเกาชิงเหยียนผิดคำพูด เธอจะต้องขอโทษลั่วอู๋ฉางต่อหน้าล็อบบี้ของโรงแรม“คุณลั่วออกไปแล้ว ไปไหน?”เกาชิงเหยียนสีหน้าเป็นกังวล ลั่วอู๋ฉางจัดการสวีอวิ๋นฝาน ค่ำขนาดนี้แล้ว ออกไปข้างเป็นอันตรายอย่างมาก เธอไม่วางใจจริง ๆผู้จัดการห้องโถงกวักมือเรียกพนักงานเปิดประตู สอบถามอย่างละเอียด“ลูกค้านั่งรถส่วนตัวออกไป ผมเปิดประตูรถให้เขา เหมือนได้ยินคนขับรถถามจุดหมายปลายทางจากลูกค้า จากนั้นพูดถึงเทียนเซี่ยกรุ๊ป”เพราะว่าแขกวีไอพีของห้องสวีท พนักงานเปิดประตูจะปฏิบัติเป็นพิเศษกลัวอะไรได้แบบนั้นจริงๆเกาชิงเหยียนร้อนใจทันที “อาตาว เรียกคนของอามาเดี๋ยวนี้ ไปที่เทียนเซี่ยกรุ๊ป”พี่ตาวรีบพูดเกลี้ยกล่อม "คุณหนูครุ่นคิดให้ดีนะครับ เพียงแค่คนของผมที่น้อยนิด เสี่ยงบุกเข้าไป ไม่เพียงพอให้พวกเขาแคะฟันด้วยซ้ำ"ถึงเวลาคนช่วยออกมาไม่ได้ แถมยังต้องตาย คำนวณอย่างไรก็เป็นการค้าขายที่ขาดทุนเกาชิงเหยียนถลึงตาโต กัดฟันพูด “ถ้าหากคุณลั่วเป็นอะไรไป พ่อของฉันก
ผู้หญิงนอกจากจะอิจฉา ก็ได้แต่ยอมรับว่าตัวเองสู้ไม่ได้ช่างเป็นผู้หญิงที่สวยเหลือเกิน!เย้ายวนและเซ็กซี่!อะไรคือ ใบหน้าเหมือนนางฟ้า หุ่นเหมือนปีศาจ เหมือนถูกสร้างมาเพื่อเธอคนนี้โดยเฉพาะ"ทำไมถึงเป็นเธอ?" ลั่วอู๋ฉางดูตกใจเล็กน้อยถ้าเป็นเกาชิงเหยียนหรือหนิงซินถง เขาคงคิดว่าเป็นเรื่องปกติแม้แต่หยูอีเหริน ลั่วอู๋ฉางก็ยังไม่รู้สึกตกใจแต่กลับเป็นหูเยว่ซี!จิ้งจอกตัวนี้ ไม่อยู่เฉยๆ ที่บ้านแล้วออกมาทำอะไร?"มารับนายท่านไงล่ะ!"หูเยว่ซีไม่สนใจสายตาประหลาดใจของลั่วอู๋ฉาง เดินอวดโฉมเข้ามาและคว้าแขนเขาทันทีทรวงอกที่ใหญ่โตนุ่มนิ่ม กระชับแนบชิดกับแขนของลั่วอู๋ฉางพอมองไปที่พวกผู้ชายที่ยืนตะลึงอยู่ ก็เห็นว่าต่างพากันอิจฉาอย่างสุดขีดสาวงามที่หายากทั้งบนฟ้าและบนดิน กลับมีเจ้าของแล้ว!ที่สำคัญ ผู้ชายคนนั้นดูธรรมดาขนาดนั้น เขามีดีอะไรกัน?"ขับรถมาไหม?" ลั่วอู๋ฉางถามขณะสวด "บทสงบใจ" ในใจหูเยว่ซีพยักหน้า "แน่นอน!""ถึงจะบินมาสะดวกกว่า แต่กลางวันแสกๆ แบบนี้ ฉันคงโดนจับไปแยกร่างเพื่อค้นคว้าวิจัยแน่ๆ"ลั่วอู๋ฉางพูดว่า "ไปชานเมืองทางใต้"ห่างออกไปสิบกว่ากิโลเมตร ริมทะเลสาบที่ส่องประกาย
"ตูม...!"ทันใดนั้นพื้นดินก็สั่นสะเทือน!เสียงดังมาจากปากทางขึ้นเขา เห็นกลุ่มควันรูปเห็ดสีขาวลอยขึ้นช้าๆ"ระเบิด...จริงเหรอ?" ซูเฉี่ยนเฉี่ยนเบิกตากว้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกใจส่วนหนานกงจือรั่วมีสีหน้าหวาดกลัวไม่ใช่ของปลอมเหรอ? แล้วมันระเบิดได้ยังไง?บริเวณปากทางขึ้นเขา เต็มไปด้วยความวุ่นวายผนังหินทั้งสองข้างถล่มลงมา ก้อนหินเล็กใหญ่กลิ้งลงมาจนเป็นกำแพงกั้นหลุมขนาดใหญ่ที่เกิดจากระเบิด มีเส้นผ่านศูนย์กลางกว่าสิบเมตร และลึกถึงห้าเมตรอย่างน่ากลัว!แม้แต่น้ำใต้ดินก็เริ่มไหลออกมาบนพื้นมีผู้คนล้มลงกระจัดกระจาย รอบศูนย์กลางของการระเบิดมีศพหลายร่างที่ถูกทำลายจนดูไม่ออก อวัยวะต่างๆ กระจัดกระจายเต็มพื้นไม่ใช่แค่ศพของชาวบ้าน แต่ยังมีศพของนักบู๊โบราณที่ใส่ชุดต่อสู้อีกด้วยคนคนหนึ่งที่เปื้อนเต็มไปด้วยดินและฝุ่นจนเสื้อผ้าดูไม่ออกว่ามีสีหรือรูปแบบอะไร ใบหน้าก็สกปรกไปหมด เธอเงยหน้าขึ้นอย่างลำบากจากรูปร่างและผมเผ้าที่ยุ่งเหยิง ดูออกได้ไม่ยากว่าเป็นผู้หญิงหลังจากที่ตบและเช็ดไปอย่างบ้าคลั่ง ในที่สุดใบหน้าที่แท้จริงก็ปรากฏออกมาใช่แล้ว เธอก็คือหลินเชี่ยน!เธอได้รับการเลี้ยงดูแบบชนชั
ชายชราเพียงส่งสายตา ชาวบ้านที่ผูกระเบิดไว้กับตัวก็เดินกราดเข้ามาทันที พร้อมกับอุปกรณ์จุดระเบิดในมือคนอื่นๆ ก็เปลี่ยนท่าทีเป็นดุดันอย่างเห็นได้ชัด ท่าทีไม่เป็นมิตรอย่างยิ่งชายชรายิ้มเจ้าเล่ห์ "พวกคนในเมืองอย่างพวกนาย ชีวิตคงมีค่ามากล่ะสิ จะมาเสี่ยงชีวิตเพื่อของนอกกายพวกนี้ทำไม จริงไหม?""แต่พวกเรามันต่างออกไป ชีวิตของเรามันไร้ค่า เอามาแลกกับชีวิตกับพวกนาย ไม่คุ้มกันหรอก!"ชายชราผู้นี้ เจ้าเล่ห์ยิ่งนักเขารู้จักใช้จุดแข็งของตัวเองและพูดกดดัน เพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามยอมถอย"ระเบิดเลยสิ" ลั่วอู๋ฉางพูดขึ้นอย่างเย็นชาชายชราอึ้งไป "นายพูดว่าอะไรนะ?""ไม่ใช่ว่าจะตายไปด้วยกันเหรอ เอาเลยสิ!" ลั่วอู๋ฉางพูดด้วยสีหน้าไม่หวาดกลัวใดๆ เหมือนกำลังพูดถึงเรื่องเล็กที่ไม่สำคัญชายชราเบิกตากว้าง "ไอ้หนู นายพูดจริงหรือ?""นายอยากตายเอง แต่จะพาคนอื่นไปด้วยหรือ? นายมีสิทธิ์อะไรไปตัดสินใจแทนคนอื่น นายมีสิทธิ์นั้นหรือไง?""ไอ้หนูนี่มันบ้าแล้ว พวกนายจะปล่อยให้เขาทำตามอำเภอใจหรือ?"นี่ก็คือการพยายามยุแหย่ให้แตกกัน!คนหนึ่งคนไม่กลัวตาย ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะไม่กลัวตายถ้าสร้างความขัดแย้งในหมู่พวกเขาไ
"ชวีหลิงหาน?"ลั่วอู๋ฉางชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตะโกนออกมา"อาจารย์หญิงรอง!"ซูเฉี่ยนเฉี่ยนเบิกตากว้าง แม้แต่คนนอกอย่างหนานกงจือรั่วก็ยังตกใจมีเพียงซูเทียนคั่วที่ยังคงสงบนิ่ง ตาแก่ผู้นี้เคยเจอเรื่องมีภรรยาหลายคนบ่อยจนชินแล้ว จึงยอมรับได้ง่ายเป็นธรรมดาเย่ปิงเหยาพยักหน้าอย่างจนใจในตอนแรก ลั่วอู๋ฉางตั้งใจปิดบังเนื้อหาในกระดาษ เพราะกลัวว่าพวกเธอจะไม่รู้เรื่องของกันและกันถ้าถูกเปิดเผย เรื่องคงจะยุ่งยากแน่นอน!แม้ว่าเทพอวี้คนนั้นมักทำให้ลูกศิษย์ลำบากเสมอ และลั่วอู๋ฉางก็ไม่เห็นด้วยกับการกระทำหลายอย่างของเขาแต่เรื่องนั้นเป็นปัญหาเรื่องศีลธรรมในตัวของเทพอวี้เองลั่วอู๋ฉางจะไม่เอาคืนโดยการไปทำให้อาจารย์ลำบากหรอกเพราะนี่ก็เป็นเรื่องของศีลธรรมเช่นกันดังนั้นลั่วอู๋ฉางจึงยอมช่วยตาแก่นั่นปิดบังให้ไม่คิดเลยว่า สุดท้ายตาแก่คนนั้นจะโป๊ะแตกซะเอง!เย่ปิงเหยาผู้เป็นอาจารย์หญิงคนนี้ช่างไม่ธรรมดาเธอหาเบาะแสเจอได้ในเวลาอันสั้นแม้ว่าเธอกับเทพอวี้จะไม่ได้แต่งงานกันอย่างเป็นทางการ แต่ชื่ออาจารย์หญิงก็เป็นที่ยอมรับอย่างแท้จริงในตอนที่ตาแก่นั่นป่วยหนักและต้องการคนดูแลเอาใจใส่ กลับไปหลบอย
"ยังมีใครอีก?" น้ำเสียงของลั่วอู๋ฉางสงบนิ่งยิ่งนัก แต่กลับสร้างความหวาดกลัวที่ไม่อาจอธิบายได้กวานเหวินเหยารีบก้มหน้าลงทันที เกรงว่าจะสบตากับลั่วอู๋ฉางเข้า"คุณหนูหนานกง ไปกันเถอะ" ลั่วอู๋ฉางกล่าวหนานกงจือรั่วเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว พร้อมกับรอยยิ้มกว้างดั่งดอกไม้บาน "ได้ค่ะ!"เมื่อเห็นพวกเขาเดินจากไป หลินเชี่ยนกัดริมฝีปากแน่น ดวงตาเปล่งประกายความเคียดแค้นเมื่อทั้งห้าคนเดินห่างออกจากพื้นที่ใจกลางภูเขาชางหลง สัญญาณโทรศัพท์ก็ค่อยๆ ดีขึ้นเย่ปิงเหยาวุ่นอยู่กับการติดต่อคนรู้จักทันที เพื่อสอบถามวิธีการถ่ายทอดพลังเข้าสู่แท่งคริสตัล"ได้เรื่องแล้ว!"ผ่านไปครู่หนึ่ง เย่ปิงเหยาก็ยิ้มออกมา "มีคนบอกฉันว่า มีชายคนหนึ่งชื่อหมอพิษกระหายเลือด เขารู้วิธีนี้""แต่เขาเป็นพวกอารมณ์สองขั้ว แถมมีศัตรูนับไม่ถ้วน ช่วงหลายปีมานี้เขาหายตัวไปจากยุทธภพ แทบไม่มีใครรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน""ฉันได้ขอให้เพื่อนช่วยตามหาแล้ว คิดว่าอีกไม่นานคงจะมีข่าว"คิ้วคมของลั่วอู๋ฉางขมวดเข้าหากันเล็กน้อย เขาพึมพำกับตัวเอง "หมอพิษกระหายเลือด...ทำไมชื่อฟังดูคุ้นๆ นะ""เธอก็เป็นคนในวงการแพทย์ จะเคยได้ยินชื่อนี้ก็ไม่แปลกหรอก"
เมื่อเห็นลั่วอู๋ฉางที่หันหลังเดินจากไป พร้อมกับนึกถึงอาการป่วยของปู่ที่ทรุดหนัก หลินเชี่ยนก็กัดฟันกรอดด้วยความแค้น"เรื่องนี้รีบร้อนไม่ได้!"เฉินเหล่าพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง "อย่างน้อยตอนนี้เราก็รู้แล้วว่าหญ้าน้ำแข็งใบเก้าประกายอยู่ที่ไหน รอเราออกไปจากที่นี่ก่อน แล้วค่อยหาวิธีอีกทีเถอะ""จะมีวิธีอะไรได้ คนบ้านั้นมันไม่ฟังใครเลย!" หลินเชี่ยนนึกถึงท่าทางหยิ่งยโสของลั่วอู๋ฉางแล้วก็ยิ่งโกรธเฉินเหล่าฝืนยิ้มและพูด "ถ้าไม่มีทางเลือกจริงๆ คุณหนูใหญ่ก็คงต้องลดท่าทีลงไปขอโทษเขา เขาบอกให้ไปหาเขา แสดงว่ายังมีโอกาสอยู่...""ให้ฉันไปขอโทษเขาเนี่ยนะ? ทำไมต้องทำด้วย!" หลินเชี่ยนตาโต"คิดถึงสุขภาพของท่านหัวหน้าตระกูลไว้สิครับ เมื่อเทียบกับคำขอโทษประโยคเดียว มันไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย!" เฉินเหล่ายังคงพยายามเกลี้ยกล่อมหลินเชี่ยนไม่โง่ เธอรู้ว่าในถิ่นทุรกันดารนี้ เธอไม่มีทางสู้ลั่วอู๋ฉางได้รอออกไปข้างนอกก่อน ใช้อิทธิพลของตระกูลหลินกดดันเขา ถึงตอนนั้นค่อยไปเจรจาใหม่ก็ยังไม่สายเมื่อเห็นลั่วอู๋ฉางกับพวกกำลังจะเดินไปไกลแล้ว ในที่สุดซืออวิ๋นหานก็ทนไม่ไหวและตะโกนขึ้น "ลั่วอู๋ฉาง หยุดเดี๋ยวนี้นะ!""นายฆ
มันต้องเป็นข้ออ้างที่ไอ้เด็กนี่กุขึ้นมาแน่ๆ!"ลั่วอู๋ฉาง นายว่าหัวหน้าผู้พิทักษ์ของตระกูลฉันลอบโจมตีนาย มีหลักฐานหรือเปล่า?" ซืออวิ๋นหานกัดฟันแน่น พยายามควบคุมความโกรธที่กำลังจะปะทุลั่วอู๋ฉางกล่าวอย่างไม่แยแสว่า "แค่ฆ่าคนสักคนสองคนเท่านั้น ต้องการหลักฐานอะไรกัน?""นาย..." ซืออวิ๋นหานโกรธจนหน้าอกสะท้าน มือข้างหนึ่งกำด้ามดาบแน่นซูเฉี่ยนเฉี่ยนพูดเสียงดังว่า "ศิษย์พี่ฉันเป็นคนมีคุณธรรม ใจกว้าง และไม่เคยหาเรื่องใครก่อน""แต่หากใครมาหาเรื่อง ศิษย์พี่ฉันก็จะไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆ!""คนที่ชื่อซือเทียนฉีนั่น คิดจะฆ่าพวกเราเพื่อแย่งชิงสมบัติ สมควรตายแล้ว!"ซืออวิ๋นหานเกือบจะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ แต่เมื่อคิดถึงภาพที่ลั่วอู๋ฉางสังหารพญานาคในพริบตา ก็เหมือนถูกสาดน้ำเย็นจนทั่วหัว ทำให้เขายอมถอยอย่างรวดเร็วเขาไม่กล้าจริงๆ!ลั่วอู๋ฉางเห็นเช่นนั้น จึงกล่าวว่า "ไปกันเถอะ""เดี๋ยวก่อน!"คราวนี้คนที่พูดคือหลินเชี่ยน ท่าทีราวกับออกคำสั่งเห็นได้ชัดว่าเธอไม่สนใจคำเตือนของเฉินเหล่า"ไอ้แซ่ลั่ว ฉันถามนาย หญ้าน้ำแข็งใบเก้าประกายอยู่ในมือนายหรือเปล่า?"หลินเชี่ยนจ้องเขาเขม็งและกล่าวว่า "ตั้งแต่พญาน
"คุณหนูหลิน ไม่ใช่ว่าพวกเราไร้ความสามารถ แต่ข้างล่างว่างเปล่า ไม่มีวี่แววของหญ้าวิเศษเลย"ยอดฝีมือระดับปรมาจารย์ใหญ่จากตระกูลกวาน พูดไปตัวสั่นไปว่า "พวกเราค้นจนทั่วแล้ว แต่สุดท้ายก็หาอะไรไม่เจอเลย"ปรมาจารย์ใหญ่จากตระกูลซือที่อยู่ข้างๆ กำลังห่อตัวด้วยผ้าห่มอย่างเต็มที่ พลางเสริมว่า "ไม่มีจริง ๆ ครับ!"ในที่ไกลๆ ชายสูงวัยที่เพิ่งเปลี่ยนเสื้อผ้าแห้งเสร็จ แต่ผมยังเปียกอยู่ กล่าวว่า "เห็นไหมว่าพวกเราไม่ได้โกหก พูดจริงทั้งนั้น!"เพื่อหลีกเลี่ยงการฮุบไว้คนเดียว ทุกครั้งจะเลือกคนจากทั้งสองตระกูลลงไปด้วยกันเพื่อคอยตรวจสอบและถ่วงดุลซึ่งกันและกันนี่เป็นกลุ่มที่สองแล้ว แต่ก็ยังกลับมามือเปล่าหลินเชี่ยนจ้องตาเขม็งพูดว่า "มันต้องมีสิ พวกนายไม่มีความสามารถเองถึงได้หาไม่เจอ!""ไอ้คนแซ่กวาน แล้วก็ซืออวิ๋นหาน พวกนายเพิ่งสัญญาต่อหน้าฉันเองว่าต้องเก็บหญ้าวิเศษมาได้แน่ๆ!""เสียเวลาตั้งนาน ได้แค่นี้เนี่ยนะ?"ทั้งสองคนสีหน้าไม่ค่อยดีนัก"คุณหนูหลิน ใจเย็นๆ นะครับ เดี๋ยวพวกเราจะส่งคนลงไปอีก" กวานเหวินเหยาพูดอย่างหน้าด้านๆซืออวิ๋นหานรีบพยักหน้า "ใช่ครับๆ ความล้มเหลวคือแม่ของความสำเร็จ ยิ่งยากก็
ลั่วอู๋ฉางถามต่อว่า "ดังนั้น พวกเขาเลยฆ่ากันเองใช่ไหมครับ?""ใช่แล้ว!"เย่ปิงเหยาพยักหน้า "ในช่วงค่ำคืนเดียว พวกเขาที่ต่างก็มีแผนร้ายในใจ สุดท้ายก็ปะทุออกมาเมื่อเช้าวานนี้""ทุกคนต่างพยายามยึดถ้ำแห่งนี้เป็นของตัวเอง ใช้วิธีสกปรกเช่นวางยาและโจมตีแบบลอบกัดอย่างต่อเนื่อง""ฉันรู้ตั้งแต่แรกว่าพวกเขาคิดไม่ซื่อ จึงระวังตัวไว้บ้าง แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็ยังกลายเป็นเป้าหมายหลัก ไม่เพียงถูกทำร้ายยังถูกวางยาพิษด้วย"พูดถึงตรงนี้ เย่ปิงเหยาก็แสดงสีหน้ายินดีแล้วพูดว่า "ยังดีที่ฉันรู้วิชาแพทย์ จึงสามารถควบคุมพิษไว้ได้""และด้วยวิชาแกล้งตายที่ตาแก่นั่นสอนฉัน ทำให้ฉันหลอกพวกเขาได้อย่างสนิทใจ ไม่เช่นนั้นฉันคงตายสภาพอนาถกว่าพวกเขาแน่"เพียงแค่เย่ปิงเหยาคิดถึงใบหน้าชั่วร้ายของพวกเขา เธอก็อดโมโหไม่ได้แม้พวกเขาจะตายหมดแล้ว ก็ยังไม่สามารถหยุดความเกลียดชังของเย่ปิงเหยาได้!ในความเป็นจริง หากลั่วอู๋ฉางและพวกไม่ได้มาทันเวลา เย่ปิงเหยาคงไม่มีโอกาสฟื้นขึ้นมาเองได้อย่างช้าสุด เธอคงต้องจบชีวิตลงในเย็นวันนี้"อาจารย์หญิง ท่านมั่นใจหรือว่านี่คือแก่นของคริสตัลสวรรค์?"ลั่วอู๋ฉางยื่นมือไปหักคริสตัลชิ้นหนึ