Share

บทที่ 59

Author: ลั่วเหล่ย
กลับถูกเขาเพียงคนเดียว ล้มคนสิบกว่าคนได้ในชั่วพริบตา

แม่เจ้า!

หยางหว่านอวี่ก็ตกตะลึงเช่นกัน เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าลั่วอู๋ฉางเก่งการต่อสู้ขนาดนี้

ลั่วอู๋ฉางเดินไปหาสวีอวิ๋นฝานทีละก้าว

ทุกย่างก้าว เหยียบย่ำตรงกับจังหวะหัวใจเต้นของสวีอวิ๋นฝาน ทำให้ผู้คนตัวสั่น

สวีอวิ๋นฝานร้อนรนถึงที่สุด เขาหยิบมีดพกออกมาแล้วจ่อไปที่คอของหยางหว่านอวี่ จากนั้นกัดฟันและขู่ด้วยสายตา "ถ้ามึงกล้าเข้ามาข้างหน้าอีกครั้ง กูจะฆ่าเธอ!"

ลั่วอู๋ฉางขมวดคิ้วเล็กน้อยและหยุดฝีเท้าลง

“ฮ่าฮ่า กูแม่งคิดว่มึงไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน ที่แท้ก็คนขี้ขลาด!”

สวีอวิ๋นฝานมีตัวประกันอยู่ในมือ คิดว่าตัวเองเก่งขึ้นมาทันที จากนั้นพูดสั่ง "คุกเข่าลง ไม่อย่างนั้น......"

จู่ๆ ลั่วอู๋ฉางพุ่งเข้าไป ร่างกายมีเงาติดตาม ทางด้านสวีอวิ๋นฝานยังไม่ทันตอบสนอง ก็ถูกจับข้อมือเอาไว้

"แกร่ก!"

มีเสียงดังก้อง จากนั้นมีดพกตกลงบนน

"ติ๊ง!"

สวีอวิ๋นฝานนิ่งอึ้ง จากนั้นในปากร้องโอดครวญเหมือนหมูถูกเชือด "อ้าก! มือกู......"

มือข้างนั้นของเขาถูกหักแล้ว ห้อยอยู่ในแขนเสื้อ และเขาไม่รู้เลยว่า นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น

ลั่วอู๋ฉางจับมืออีกข้างของเขาเอาไว้
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 60

    สีหน้าของหยางหว่านอวี่เปลี่ยนไปอีกครั้ง เดิมทีคิดว่าตัวเองปลอดภัยแล้ว ดังนั้นถึงได้เตือนลั่วอู๋ฉางด้วยความหวังดีและเธอก็ไม่คิดเลยว่า สวีอวิ๋นฝานยังไม่ล้มเลิกความคิดชั่วร้ายที่มีต่อเธอ"แกได้ยินแล้วยัง คุณชายสวีให้แกคุกเข่าน่ะ!" หวังจื่อเฟิงแอบอ้างบารมีข่มเหงคนอื่นเมื่อเทียบกันหยางหว่านอวี่จะเป็นอย่างไร เหมือนว่าเขาจะใส่ใจยิ่งกว่าว่าลั่วอู๋ฉางจะเลือกอย่างไร สุดท้ายจะมีจุดจบแบบไหนจะคุกเข่าหรือไม่คุกเข่า?คุกเข่าลงอับอายขายหน้า!คนมากมายขนาดนี้มองดูอยู่ และเกาชิงเหยียนก็อยู่ในงาน ต่อไปอย่าได้คิดจะเงยหน้าขึ้นอีกไม่คุกเข่า ก็ยั่วโมโหสวีอวิ๋นฝานถึงที่สุด!ด้วยวิธีโหดเหี้ยมของตระกูลสวี ผลลัพท์คือต้องตายแน่นอนไอ้หนุ่ม กำเริบเสิบสานไปเถอะ!ใครใช้ให้แกไม่เห็นฉันหวังจื่อเฟิงอยู่ในสายตา ฉันสั่งการแค่ไม่กี่ประโยค ก็ฆ่าแกตายได้"เพี๊ยะ เพี๊ยะ!"เสียงปรบมือดังขึ้น เกาชิงเหยียนที่หุ่นดีสวมชุดราตรีที่รัดรูปที่สมบูรณ์แบบ เดินเข้ามาอย่างสง่างาม ปรบมือขาวผ่อง ท่าทางร่างกายอ่อนช้อย"ได้ดูฉากเด็กฉากหนึ่งด้วย มีคนหวังดียื่นมือเข้ามาช่วยอย่างกล้าหาญ ทำดีกลับถูกมองว่าทำเลว มีบางคนกลางวันแสก ๆ

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 61

    “มึง หมายความว่าอะไร?” สวีอวิ๋นฝานหัวใจกระตุก เหมือนกับสัมผัสได้ถึงบางอย่างที่ผิดปกติ“ทักทายลูกพี่ลูกน้องนายแทนฉันด้วย!” ลั่วอู๋ฉางเหยียบเท้าลงไป“ป้อก!”เสียงที่แปลกประหลาดดังขึ้น เป็นเพราะจุดลงของเท้า คือเป้ากางเกงของสวีอวิ๋นฝานกระจู๋ พังแล้วเลือดไหลนอง ซึมกางเกงออกมาอย่างรวดเร็วทุกคนถลึงตาโต เสียงสูดลมหายใจเข้าอย่างแรงต่อเนื่องกันเป็นระรอก โดยเฉพาะผู้ชาย แต่ละคนหนีบขาเอาไว้โดยไม่รู้ตัวฝ่าเท้าเดียวก็กลายเป็นขันที คงเจ็บมากสินะ?สวีอวิ๋นฝานเจ็บจนตัวสั่นรุนแรง ร่างกายขดตัวจนเกิดเป็นท่าทางแปลประหลาด ใบหน้ากลายเป็นสีม่วงสีแดงเพราะเลือดสูบฉีด สีหน้าบิดเบี้ยวจนผิดรูปไปอย่างรุนแรงเขายังไม่ทันได้ร้องโอดครวญจากความเจ็บปวดด้วยซ้ำ จากนั้นสลบไปโดยตรงลั่วอู๋ฉางมองดูรองเท้าที่ไม่ได้เปื้อนเลือดแม้แต่นิด พูดเสียงเย็นชา “ถอนรากแล้ว ต่อไปถึงได้ไม่มีโอกาสก่อความวุ่นวายไปทั่ว”ซี้ด!ทุกคนสูดลมหายใจเข้าอีกครั้ง ตอนนี้ทั้งงานเงียบสงัดเขากล้าได้อย่างไร?นี่เป็นถึงลูกชายของผู้มีอำนาจทิศเหนือเชียวนะ เพียงแค่ฝ่าเท้าเดียวก็ทำให้มีทายาทไม่ได้อีกแล้ว ตระกูลสวีจะปล่อยเขาไปได้เหรอ?แม้แต่เกา

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 62

    ลูกน้องกลุ่มนั้นของตระกูลสวีต่างช่วยกันประคองยืนขึ้น หามสวีอวิ๋นฝานคนละไม้คนละมือ หนีหัวซุกหัวซุนไปด้วยสภาพที่แย่มากแขกในงานต่างกระซิบกระซาบ พากันวิพากษ์วิจารณ์ "ดูท่า ตระกูลเกาตัดสินใจเด็ดเดี่ยวที่จะเปิดศึกกับตระกูลสวี!""ใครว่าไม่ใช่ล่ะ! เสือสองตัวต่อสู้กันต้องมีตัวหนึ่งที่บาดเจ็บ ไม่รู้ว่าคนที่ยิ้มจนถึงตอนสุดท้ายจะเป็นตระกูลไหน แต่ไม่ว่าอย่างไร สภาพการณ์ของเมืองจิงไห่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่""คุณลั่วท่านนี้มีที่มาอย่างไรกันแน่? ดูธรรมดาอย่างมาก ชนิดที่ว่าโยนไปในกลุ่มคนก็หาไม่เจอ ทำไมคุณเกาถึงให้ความสำคัญขนาดนี้ ไม่เข้าใจจริง ๆ!""เพื่อเขาแล้ว ไม่เสียดายที่จะต่อสู้กับตระกูลสวี ทำให้คนคาดคิดไม่ถึง! อีกอย่างพวกคุณสังเกตุเห็นแล้วยัง คุณลั่วท่านนี้ถึงจะเป็นบุคคลสำคัญในคืนนี้ คุณเกาในฐานะผู้จัดงาน กลับเหมือนกับเป็นตัวเสริม""เทพของทั้งสองตระกูลสู้กัน ไม่ว่าใครชนะใครแพ้ พวกเราคนธรรมดาหลบไปไกล ๆ หน่อยเป็นดี จะได้ไม่ถูกลูกหลง"เกาชิงเหยียนแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น เรื่องที่เธอตัดสินใจแล้ว ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงเปิดศึกกับตระกูลสวี่แล้วจะอย่างไร พวกเราตระกูลเกาก็ไม่ได้อ่อนแอสักห

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 63

    "ไอ้สกุลลั่วลงมือหนักเกินไปแล้ว ถ้าหากกระทืบแค่คุณชายสวี ฉันให้พ่อโทรไปสายเดียว ให้เขาออกหน้าไกล่เกลี่ยสักหน่อย ยังสามารถกู้สถานการณ์กลับมาได้"หวังจื่อเฟิงพูดด้วยสีหน้าลำบากใจ "แต่ตอนนี้ คุณชายสวีกลายเป็นขันทีไปแล้ว พูดไพเราะมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์"หยางหว่านอวี่เหมือนคว้าฟางช่วยชีวิตเส้นสุดท้ายไว้ได้ เธอรีบพูดขึ้น "ให้คุณอาหวังลองดู ไม่แน่อาจจะมีประโยชน์ก็ได้"หวังฉีอิ๋งพ่อของหวังจื่อเฟิง เป็นคนโลเล อยู่ระหว่างตระกูลเกาและตระกูลสวีลื่นไหลมาเทมา ดูเหมือนมีหน้ามีตา แต่อยู่ต่อหน้าทั้งสองตระกูลแทบจะไม่มีตัวตนด้วยซ้ำไม่มีใครชอบคนโลเล มากสุดก็แค่มีเกียรติอยู่นิดหน่อยเท่านั้นหวังจื่อเฟิงรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี ตระกูลหวังถึงแม้จะมีการคบหากับตระกูลสวีอยู่เล็กน้อย แต่เพียงแค่ไปมาหาสู่ทางด้านธุรกิจ หวังฉีอิ๋งยังไม่ได้มีเกียรติมากมายขนาดนั้นที่จะเปลี่ยนแปลงความคิดของสวีเทียนได้"พี่เฟิง เพียงแค่พี่ชอบช่วยฉัน ถือว่าฉันเป็นหนี้น้ำใจที่ยิ่งใหญ่มหาศาลต่อพี่" หยางหว่านอวี่ทำท่ารับประกันจื่เห็นสายตาคาดหวังของนางฟ้า หวังจื่อเฟิงนึกขึ้นได้ว่านี่เป็นโอกาสดีที่จะได้รับความรู้สึกที่ดีจากคนสวย จะ

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 64

    “อารอง!”เกาชิงเหยียนยังไม่ยอมแพ้ ในสายตาเต็มไปด้วยความอ้อนวอนเกาฉี่เซิ่งพูดด้วยใบหน้าเฉยเมย “นอกจากว่าพ่อเธอฟื้นขึ้นมา พูดกับปากตัวเองว่าจะเปิดศึกกับตระกูลสวี ไม่อย่างนั้นไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้อีก!”สีหน้าเด็ดเดี่ยว ไม่มีที่ว่างสำหรับการเจรจาเกาชิงเหยียนสิ้นหวัง เพียงแค่กำลังในมือของเธอ เป็นการไม่ประมาณตนด้วยซ้ำ ไม่เพียงพอที่จะตีเสมอกับตระกูลสวีสถานการณ์เกินความคาดหมายของตัวเอง ชั่วครู่หนึ่ง เธอไม่รู้ว่าควรจะอธิบายกับลั่วอู๋ฉางอย่างไร……โรงพยาบาลเมืองจิงไห่นอกห้องผ่าตัด โถงทางเดินมีคนยื่นเต็มไปหมดคนกลุ่มนี้สีหน้าท่าทางเหี้ยมโหดอย่างมาก พยาบาลตกใจจนไม่กล้าเข้าใกล้ด้วยซ้ำในตอนนี้ ประตูห้องผ่าตัดเปิดออกพอดี หมอสองคนเข็นเตียงผู้ป่วยออกมา สวีอวิ๋นฝานนอนอยู่บนเตียง ส่วนล่างมีผ้าพันแผลพันเต็มไปหมดกลุ่มคนที่รออยู่ด้านนอก กรูกันเข้าไปล้อมรอบเอาไว้คนที่เดินเข้าไปคนแรกรูปร่างสูงใหญ่ ใบหน้าทรงสี่เหลี่ยมเต็มไปด้วยความสง่าผ่าเผย สายตาเผยความโหดเหี้ยมไรปราณี เขาก็คือสวีเทียน ราชาใต้ดินผู้ที่มีชื่อเรียกว่าผู้มีอำนาจทิศเหนือ“คุณหมอ สถานการณ์ของลูกผมเป็นอย่างไรบ้าง?”หมอถอดหน้าก

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 65

    กุนซือยังคงยิ้มเจ้าเล่ห์ “ถ้าหากบุกไปตอนนี้ เพื่อปกป้องตัวเอง ตระกูลเกาหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเป็นหมาจนตรอก ทำให้ศัตรูบาดเจ็บหนึ่งพันจะทำให้ธุรกิจของคุณเสียหายแปดร้อย ไม่คุ้มค่า!”สวีเทียนจิตใจสงบลงอย่างรวดเร็ว พยักหน้าด้วยรอยเยาะหยัน “กุนซือพิจารณาได้รอบคอบ งั้นก็ให้คนตระกูลเกามีชีวิตอยู่อีกสักสองวัน”“แจ้งไปยังราชาแห่งสวรรค์ทั้งสี่และนักรบแปดผู้ยิ่งใหญ่ เตรียมพร้อมรับมือข้าศึก ออกไปสู้ได้ทุกเมื่อ! ถึงเวลาคนของตระกูลเกาทุกคน ลงนรกไปพร้อมกับเกาฉี่เฉียง!”กุนซือรีบเปลี่ยนสีหน้า พูดประจบสอพลอ “นายท่านสวีฉลาดปราดเปรื่อง ตระกูลสวีอยู่ภายใต้การบัญชาของคุณ จะต้องกลายเป็นกษัตริย์แห่งเมืองจิงไห่ได้แน่นอน ถึงเวลานั้นคุณจะอยู่ถึงจุดยอดสุด ก้มลงมองผู้คน”เวลาปกติ สวีเทียนต้องดีใจจนหัวเราะร่าตอนนี้ลูกชายกลายเป็นขันที ถึงแม้เขาจะยิ้มไม่ออก แต่มันก็ยังมีประโยชน์อยู่ในใจอย่างมาก“รีบเตรียมตัวให้พร้อม ฉันไปควบคุมที่บริษัท มีเรื่องอะไรรายงานฉันในทันที” สวีเทียนหันหลังเดินออกไปบนถนน รถเบนซ์สีดำคันหนึ่งเร่งความเร็วขับผ่านทางแยกไปในรถ หยางหว่านอวี่เหม่อลอยเล็กน้อย ตั้งแต่ออกจากงานเลี้ยงการกุศล เธ

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 66

    ความจริงแล้ว ก่อนที่หยางหว่านอวี่จะปรากฏตัวที่นี่เมื่อหลายนาทีก่อน ลั่วอู๋ฉางก็อยู่ที่ชั้นล่างแล้วตอนบ่ายของเมื่อวานซืน สวีอวิ๋นเลี่ยงพาอันธพาลบุกเข้าไปตระกูลอวี๋ และบังคับให้กู้ยืมเงินเพื่อเรียกเก็บเงิน ลั่วอู๋ฉางก็ไม่คิดจะปล่อยตระกูลสวีไปอยู่แล้วแน่นอนว่า จากแผนการเดิมของเขา เพียงแค่สั่งสอนสวีเทียนสักยก ตีจนพวกเขายอมแพ้พรุ่งนี้วันจันทร์ ไม่รบกวนอาอวี๋ไปสอนหนังสือที่มหาวิทยาลัยก็พอสำหรับความขัดแย้งของตระกูลสวีกับตระกูลเกา ลั่วอู๋ฉางไม่อยากเข้ายุ่งด้วยซ้ำ เดิมทีก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเขาอยู่แล้ว ทำไมต้องเข้าไปยุ่งเรื่องชาวบ้านแต่ว่า ทนกับการรนหาที่ตายของตระกูลสวีไม่ได้เรื่องในคืนนี้ ยั่วโมโหลั่วอู๋ฉางได้สำเร็จถึงแม้หยางหว่านอวี่จะกลายเป็นอดีตภรรยา ลั่วอู๋ฉางก็ตัดใจจากเธอได้แล้ว แต่ในเมื่อเคยเป็นผู้หญิงของราชันมังกรลั่วเทียน คนอื่นยังไม่มีสิทธิ์เหยียดหยามได้ตามใจชอบสวีอวิ๋นเลี่ยงกับสวีอวิ๋นฝานถูกลั่วอู๋ฉางกระทืบจนบาดเจ็บหนัก ความแค้นนี้นับว่าถูกมัดตายไปแล้ว ไม่มีทางย้อนกลับคืนสองเรื่องรวมเข้าด้วยกัน ตระกูลสวีจำเป็นต้องถอนราก หม ไม่เช่นนั้นจะมีเรื่องตามมาไม่หยุดเพียงแต่

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 67

    “ไม่ต้องพูดถึงว่ามีคนกล้าเข้ามายุ่ง ต่อให้มี พรรคพวกของฉันที่ชั้นล่างก็ไม่ได้กระจอกงอกง่อย รอตำรวจขึ้นมาชั้นบนอย่างเอื่อยเฉื่อย เธอกับฉันคงทำเสร็จไปตั้งนานแล้ว!”เพิ่งพูดจบ สวีเทียนเปิดลิ้นชักออกอย่างแรง หยิบยากล่องสีฟ้ากล่องหนึ่งออกมา เปิดออกต่อหน้าหยางหว่านอวี่ โยนเข้าปากทั้งหมด“ฮ่าฮ่า มีสิ่งเพิ่มความสนุก ดูสิว่าวันนี้ฉันจะเล่นสนุกกับเธออย่างไร!”หยางหว่านอวี่เสียใจภายหลัง ความจริงพิสูจน์แล้วว่าเรื่องตัวเองคิดตื้นเกินไป ตอนนี้คิดเพียงอย่างเดียว นั่นก็คือต้องรีบออกจากที่อันตรายแห่งนี้ให้เร็วที่สุดภายใต้ความตื่นตระหนก เธอหันหลังจะวิ่งหนี“ส่งมาถึงที่อยากจะหนีไป ถิ่นของผู้มีอำนาจทิศเหนือของฉัน จะอนุญาติให้เธออยากจะมาก็มา อยากจะไปก็ไปได้อย่างไร!”สวีเทียนพุ่งเข้าไป ดึงผมของหยางหว่านอวี่เอาไว้ ลากไปที่โซฟาอย่างหยาบคาย ยกแก้วเหล้าขึ้นกรอกปากเธอ“กูกินของที่ช่วยเพิ่มความสนุก มึงก็ขาดไม่ได้ กูชอบท่าทางยั่วยวนของผู้หญิงเย็นชาเหมือนภูเขาน้ำแข็งแบบมึง หลังจากที่ดื่มจนเมา ฮ่าฮ่าฮ่า!”หยางหว่านอวี่ดิ้นรนสุดแรง แต่เธอที่เป็นผู้หญิงอ่อนแอ จะสู้กับสวีเทียนที่ร่างกายบึกบึนได้อย่างไร เหล้าแก

Latest chapter

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1059

    ชวีซานตัวไม่กล้าขัดขืน ได้แต่ทำตามคำสั่งเมื่อทุกคนมาถึงภูเขาด้านหลัง ฟ้าก็เริ่มสางแล้วเบื้องหน้าคือเหวลึกที่ขวางทางอยู่ลั่วอู๋ฉางผูกปลายเชือกด้านหนึ่งไว้กับเสา แล้วสะพายเชือกที่มัดรวมกันไว้บนหลัง ก่อนพยักหน้าให้ทุกคน"มีปัญหาอะไรไหม?"ลั่วอู๋ฉางถามอาวุโสที่มีใบหน้าฟกช้ำดำเขียวคนนั้นอาวุโสรีบตอบ "ไม่มีปัญหาครับ!"ลั่วอู๋ฉางกระโดดขึ้นด้วยเท้าข้างเดียว ตัวเขาลอยขึ้นสูงก่อนเหาะตรงไปยังอีกฟากของหน้าผาเมื่อเหาะไปได้ครึ่งทาง ร่างของลั่วอู๋ฉางก็เริ่มร่วงลงเมื่อคำนวณจากมุมนี้ เขาแทบไม่มีโอกาสไปถึงอีกฝั่งเลยทันใดนั้น นกอินทรียักษ์ตัวหนึ่งก็โฉบมาจากด้านข้างอาวุโสคนเมื่อกี้ยืนอยู่ริมหน้าผาและเป่านกหวีดเรียกอินทรีอินทรียักษ์กางปีก ลั่วอู๋ฉางเหยียบลงบนหลังมันหนึ่งที ทิศทางที่กำลังร่วงพลันเปลี่ยนเป็นลอยขึ้นเสี้ยววินาทีต่อมา เขาก็ลงถึงริมหน้าผาอีกฝั่งอย่างมั่นคงจากนั้นก็ทำแบบเดิม ผูกปลายเชือกฝั่งนี้ไว้กับเสาอีกข้าง"เจ้าสำนักชวี สั่งคนของท่านให้เริ่มได้แล้ว!" ซูเทียนคั่วออกคำสั่งอย่างไม่ไว้หน้าชวีซานตัวไม่ใช่ไม่เคยคิดจะเล่นงานตอนที่ลั่วอู๋ฉางกำลังข้ามหน้าผาเขาเคยคิดจะสั่ง

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1058

    คำกล่าวอย่างมั่นใจของลั่วอู๋ฉางดังก้องไปทั่วสำนักใหญ่ของพันธมิตรบู๊ลิ้มหากเป็นเมื่อก่อน ใครกล้าพูดกับหัวหน้าสำนักพวกเขาเช่นนี้ คงไม่ต้องรอให้ชวีซานตัวเอ่ยปาก สมาชิกระดับล่างก็พร้อมจะซัดมันจนหมอบไปแล้วต่อหน้าประตูสำนักงานใหญ่ จะปล่อยให้คนมาพูดจาโอ้อวดได้อย่างไร?แต่สถานการณ์ตอนนี้คือ ลั่วอู๋ฉางไม่เพียงแต่พูด เขายังทำลายประตูใหญ่ของพวกเขาและทำร้ายคนไปอีกหลายสิบคนด้วยแน่นอนว่าจำนวนนี้ไม่ได้ตายตัวถ้าคนอื่นกล้าบุกเข้าไปอีก ลั่วอู๋ฉางจะไม่ปรานี และยินดีที่จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้บาดเจ็บให้พันธมิตรบู๊ลิ้มอีกด้วย"แก...ปากกล้านักนะ!"ชวีซานตัวในฐานะหัวหน้าแห่งบู๊ลิ้ม ไม่อาจเสียศักดิ์ศรีด้วยการยอมแพ้ง่าย ๆทั้งๆ ที่ความจริง ในใจเขานั้นกลับตื่นตระหนกจนแทบควบคุมไม่อยู่อาวุโสทั้งแปดร่วมมือกันยังเอาชนะไม่ได้!ถึงแม้ตอนฝึกซ้อมปกติ ชวีซานตัวจะเคยชนะพวกเขามาแล้วก็เถอะแต่ใช้นิ้วโป้งเท้าคิดก็ยังรู้เลยว่า เป็นอาวุโสทั้งแปดแกล้งอ่อนข้อให้ถ้าสู้จริง ชวีซานตัวไม่มีทางได้เปรียบหรอกแต่ลั่วอู๋ฉางกลับทำได้!นี่แสดงให้เห็นว่า ความสามารถของเขาเหนือกว่าชวีซานตัวมากถ้ายอมแพ้ต่อหน้าสมาชิกบู๊ลิ้มมา

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1057

    เขาไม่อยากให้ใครพูดถึงเรื่องนี้ โดยเฉพาะต่อหน้าสาธารณชน"อาวุโสทั้งแปดของสภาผู้อาวุโสอยู่ที่ใด?"ดวงตาของชวีซานตัวเต็มไปด้วยความโกรธ พร้อมตะโกนออกคำสั่งอย่างดุดัน"ข้าน้อยอยู่ที่นี่!"อาวุโสทั้งแปดคนตอบรับออกมาพร้อมกัน"คนผู้นี้ทำลายประตูสำนักของเรา ทำร้ายศิษย์ของเรา จงสังหารมันตรงนี้เดี๋ยวนี้ เพื่อเป็นตัวอย่าง!" ชวีซานตัวกัดฟันกล่าวอาวุโสทั้งแปดคนตอบพร้อมกันอีกครั้ง "รับทราบ ท่านเจ้าสำนัก!""ฆ่า!"ทั้งแปดคนล้วนเป็นผู้มีวิชาระดับปรมาจารย์ใหญ่มีฝีมือไม่ธรรมดา!ในสำนักใหญ่ ทั้งด้านสถานะและพลังฝีมือ พวกเขาเป็นรองเพียงชวีซานตัวเท่านั้นเมื่อทั้งแปดร่วมมือกัน แม้แต่วีรบุรุษในตำนานก็ยากที่จะเอาชนะพวกเขาได้พวกเขาร่วมมือกันอย่างเข้าขา ล้อมลั่วอู๋ฉางไว้ตรงกลาง และออกกระบวนท่าสังหารทุกอย่างใส่เขาถ้าเป็นคนอื่น คงถูกพวกเขาสับเป็นชิ้นๆ ไปแล้วแต่ลั่วอู๋ฉางกลับไม่สะทกสะท้านใดๆ เพียงแค่ส่งกระแสจิต"วึ้ง!"คาถาป้องกันตัวปล่อยแสงสีทองออกมา ขัดขวางการโจมตีทั้งหมดไว้"อะไรกัน?"ชวีซานตัวเบิกตากว้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อในสายตาของเขา ต่อให้ลั่วอู๋ฉางเก่งแค่ไหน แต่ก็ยังเป็น

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1056

    ท่ามกลางความมืด มีร่างคนจำนวนมากพุ่งผ่านไปอย่างรวดเร็วเมื่อพวกเขาเห็นชัดเจนแล้วว่าประตูทางเข้าซึ่งเป็นหน้าตาของพันธมิตรบู๊ลิ้มถูกทำลาย กลายเป็นซากปรักหักพัง พวกเขาก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟทันที"ใครกันที่กล้าบ้าบิ่นถึงขนาดนี้!""บังอาจมาพังประตูใหญ่ของพันธมิตรบู๊ลิ้ม รนหาที่ตายแล้ว!""จะเป็นใครก็ช่าง แต่แน่ๆ คงไม่ใช่คนดีหรอก สับมันเป็นชิ้นๆ ก่อนค่อยว่ากัน!"กลุ่มคนที่โกรธแค้นเห็นร่างหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าซากปรักหักพัง"ไอ้หนุ่ม แกเห็นไหมว่าใครเป็นคนทำ?"คนตาไวมองเห็นว่าเป็นเงาของชายหนุ่มจึงรีบถามออกไปทันที"ขอเตือนไว้ก่อน เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ รีบพูดสิ่งที่นายเห็นออกมาทั้งหมก ไม่งั้นนายเองก็ต้องเดือดร้อนด้วย!"ลั่วอู๋ฉางยืนอย่างสงบพลางตอบว่า "เห็น""รีบบอกมาว่าใคร!" คนกลุ่มนั้นร้องถามขึ้นพร้อมกันลั่วอู๋ฉางตอบอย่างไม่รีบร้อนว่า "ก็ฉันไง!""อะไรนะ?!"คนกลุ่มนั้นเบิกตาโต ความโกรธที่ปรากฏบนใบหน้าชัดเจนยิ่งกว่าความตกใจ"ไอ้หนุ่ม นี่ไม่ใช่เวลามาอวดเก่ง คิดว่าเราจะเชื่อแกหรือไง?""รีบบอกมาว่าใครเป็นคนทำ ไม่งั้นจะถือว่าแกเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วย!""ให้โอกาสสุดท้าย รีบพูด ไม่งั้นพวกเร

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1055

    ซูเทียนคั่วกังวลขึ้นมาทันที ขณะที่ปกป้องซูเฉี่ยนเฉี่ยนหลานสาว เขาก็ตะโกนเสียงดังขึ้นว่า "เจ้าสำนักชวี นี่คือวิธีการต้อนรับแขกของพันธมิตรบู๊ลิ้มหรือ?""หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ไม่กลัวคนในยุทธภพจะหัวเราะเยาะหรือ?"ชวีซานตัวไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย "อย่างพวกนายเนี่ยนะ? เรียกว่าแขกได้ด้วยหรือ?"เมื่อต้องเผชิญหน้ากับจำนวนคนที่มากกว่าหลายเท่า อีกทั้งสายตาที่จับจ้องมาอย่างอาฆาต ทั้งสามคนไม่สามารถต่อกรได้เลยไม่นานพวกเขาก็ถูกจับตัวได้!"ชวีซานตัว การที่คุณทำเช่นนี้ ไม่กลัวว่าศิษย์ของเทพอวี้อย่างราชันมังกรลั่วเทียนจะมาหาเรื่องหรือ?" ซูเทียนคั่วพูดขณะดิ้นรนชวีซานตัวไม่สนใจแม้แต่น้อย "ถ้าเขากล้าหาญมาที่นี่ ฉันจะให้เขาลิ้มรสชาติของการต้องเป็นนักโทษเช่นกัน!""ศิษย์ที่ถูกสอนโดยตาแก่แบบนั้น คงไม่ใช่คนดีสักเท่าไรหรอก พอดีเลย จะได้ให้เขาชดใช้หนี้แทนตาแก่นั่นและพวกแกไปพร้อมกัน!""ราชันมังกรลั่วเทียนอะไรกัน แค่เด็กหนุ่มอายุยี่สิบต้นๆ จะมีอะไรพิเศษนัก?""ตัวเขาไม่อายก็ช่างเถอะ แต่ยังกล้าไปหาคนมาคุยโวแทนตัวเอง คิดจะดังจากการสร้างกระแสเช่นนี้ คิดว่าบู๊ลิ้มเป็นที่สำหรับเล่นขายของหรือไง ฝันไปเถ

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1054

    พูดของชวีซานตัวเต็มไปด้วยความหยาบคายใบหน้าสวยของเย่ปิงเหยาเริ่มบึ้งตึง แต่เพราะนี่เป็นถิ่นของอีกฝ่าย เธอจึงไม่อาจโต้ตอบได้ชวีหลิงหานคือน้องสาวของชวีซานตัว ทั้งสองคนมีอายุห่างกันมากกว่ายี่สิบปีหลังจากชวีหลิงหานเกิดได้ไม่นาน พ่อแม่ของเธอก็เสียชีวิตจากอาการป่วย ก่อนสิ้นใจได้ฝากให้ชวีซานตัวช่วยเลี้ยงดูน้องสาวที่ยังเป็นแค่ทารกแรกเกิดชวีซานตัวเลี้ยงดูน้องสาวด้วยความยากลำบาก จนเธอเติบโตขึ้นมาเป็นหญิงสาวที่งดงามยิ่ง ทั้งยังมีพรสวรรค์จนได้รับความสนใจจากคนในบู๊ลิ้มมีผู้คนมาสู่ขอเธอมากมายจนทำให้ประตูบ้านตระกูลชวีแทบพังในขณะที่ชวีซานตัวกำลังเลือกคู่ครองให้น้องสาวจนตาลาย และวาดฝันว่าเธอจะได้แต่งงานกับตระกูลใหญ่โตความฝันกลับพังทลาย!ชวีหลิงหาน หญิงสาวผู้แสนงดงาม กลับถูกชายแก่อัปลักษณ์คนหนึ่งมาชิงตัวไป!ในตอนแรก ชวีซานตัวคิดว่าน้องสาวของเขายังไร้เดียงสา และถูกชายชั่วหลอกลวงเขาคิดว่าเพียงแค่พูดจาโน้มน้าวด้วยความรักและเหตุผล น้องสาวจะกลับตัวกลับใจแต่ผลกลับเป็นตรงกันข้าม!ชวีหลิงหานไม่เพียงแต่ไม่สำนึกในสิ่งที่ทำ แต่กลับรักชายแก่คนนั้นอย่างหัวปักหัวปำ และพูดคำพูดไร้สาระอย่างเช่นรักจน

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1053

    พูดตามตรง ลั่วอู๋ฉางก็มีใจอ่อนนิดหน่อยทุกครั้งที่ต้องต่อสู้กับพวกกระจอก เขามักจะคิดถึงหูเยว่ซีอย่างมากเป็นถึงจักรพรรดินีแห่งชิงชิว แต่เขากลับใช้งานเหมือนลูกน้องปลายแถวประเด็นสำคัญคือ หูเยว่ซีไม่เพียงแต่ไม่โกรธ แต่ยังเต็มใจช่วยอย่างยินดีอีกด้วย"ไม่ได้"ความมีเหตุผลเอาชนะความหุนหัน ลั่วอู๋ฉางพูดพร้อมขมวดคิ้ว "เธอต้องอยู่เฝ้าบ้าน มีแต่แบบนี้ ฉันถึงจะวางใจได้"หูเยว่ซีทำหน้าหงอย: "ก็ได้!"ลั่วอู๋ฉางหัวเราะ "เธอว่านอนสอนง่ายขนาดนี้ ต้องให้รางวัลสักหน่อยแล้ว""รางวัลอะไร?" จิ้งจอกน้อยถามอย่างตื่นเต้น ดวงตาทั้งสองส่องประกายวิบวับทันทีลั่วอู๋ฉางหยิบลูกแก้วพญานาคออกมาจากกระเป๋าแล้วพูดว่า "ก่อนหน้านี้สัญญาว่าจะให้ของขวัญเธอ ตอนนี้ถึงเวลาทำตามสัญญาแล้ว"หูเยว่ซีตาเป็นประกายอีกครั้ง "ลูกแก้วพญานาค!"ถ้าเป็นเมื่อก่อน ลูกแก้วพญานาคระดับนี้เธอคงไม่แม้แต่จะชายตามองด้วยซ้ำแค่มองนานหน่อย ก็ถือเป็นการดูหมิ่นคำว่า "จักรพรรดินีแห่งชิงชิว" แล้ว!แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน หลังจากถูกขังอยู่ในแหวนมานานถึงพันปี เพิ่งจะได้อิสรภาพคืนมา พลังลดลงไปมากและร่างกายก็อ่อนแอสุดขีดนี่คือช่วงเวลาที่เธอต้อง

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1052

    หวงผู่เจิ้งซิ่นย่อมไม่พอใจแน่!คนเป็นครูยังล้มเหลว แต่ศิษย์กลับทำสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกถ้าไม่ใช่บังเอิญ แล้วมันคืออะไร?ลั่วอู๋ฉางไม่ตอบอะไร จากนั้นก็หยิบคริสตัลสวรรค์ก้อนที่สองมาไม่นานก็ทำสำเร็จอีกครั้ง!หวงผู่เจิ้งซิ่นเบิกตากว้าง ประหลาดใจราวกับเห็นเทพเจ้าส่วนใบหน้าของหูเยว่ซีก็เต็มไปด้วยความชื่นชมมากขึ้นเรื่อยๆ"ลองอีกครั้งสิ!" หวงผู่เจิ้งซิ่นยังคงไม่ยอมแพ้คราวนี้ ลั่วอู๋ฉางไม่ทำตามเขาอีกต่อไป เขาเก็บแท่งคริสตัลสวรรค์ที่เหลือทันที"หมายความว่าไง?" หวงผู่เจิ้งซิ่นถามตาโตลั่วอู๋ฉางลุกขึ้นเดินออกไป ทิ้งคำพูดไว้โดยไม่หันกลับมา "ขอบคุณนะ!""เดี๋ยวสิ นายแน่ใจแล้วเหรอว่านายเข้าใจทั้งหมด?"หวงผู่เจิ้งซิ่นรีบไล่ตามไป "ถ้าไม่สำเร็จล่ะ ฉันจะได้ช่วยหาสาเหตุไง!""ไม่จำเป็นแล้ว ถ้านายท่านของฉันคิดว่าไม่มีปัญหา มันก็ไม่มีปัญหาแน่" หูเยว่ซีขวางเขาไว้ พร้อมพูดอย่างหนักแน่นในตอนนี้ สีหน้าหวงผู่เจิ้งซิ่นเต็มไปด้วยความซับซ้อนศิษย์ที่เก่งเกินไปทำให้ครูรู้สึกอับอาย"ไหนว่าราชันมังกรลั่วเทียนก็เป็นแค่คนธรรมดา เขาเป็นปีศาจชัดๆ!"หวงผู่เจิ้งซิ่นยอมแพ้อย่างหมดท่า พูดอย่างเศร้าๆ "คิดว่า

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1051

    หวงผู่เจิ้งซิ่นเชิดคอขึ้น พยายามทำสีหน้าให้ดูปกติที่สุดเพื่อปกปิดความเขินอายของตัวเองเนื่องจากการสาธิตเมื่อครู่นั้นจบลงด้วยความล้มเหลวแม้ว่าเขาจะรู้วิธี แต่เพราะไม่ได้ปฏิบัติมาเป็นเวลานาน ความผิดพลาดจึงถือเป็นเรื่องปกติ"หาว..."หูเยว่ซีอ้าปากหาวครั้งใหญ่ ราวกับเปลือกตาถูกกดด้วยน้ำหนักมหาศาลใช่แล้ว เธอง่วงจริงๆ!การสอนของหวงผู่เจิ้งซิ่นทำให้เธอง่วงได้สำเร็จส่วนเนื้อหาที่พูดในภายหลัง แทบไม่ได้เข้าหัวของหูเยว่ซีเลย ผ่านหูซ้ายออกหูขวา ไม่มีอะไรในหัวเลย"พวกคุณ...ทำต่อไปเลย!"หูเยว่ซียืดแขนบิดขี้เกียจ และส่งสัญญาณให้ทั้งคู่ไม่ต้องสนใจเธอสิ่งนี้ทำให้หวงผู่เจิ้งซิ่นรู้สึกว่าตัวเองล้มเหลวมาก!รู้สึกเหมือนโดนตบหน้าฉาดใหญ่!การทำให้นักเรียนง่วงถือเป็นเรื่องที่น่าอับอายอยู่แล้ว ที่สำคัญคือการสาธิตของตัวเองยังล้มเหลวอีกด้วย"ไม่เป็นไร ฉันขอลองเอง" ลั่วอู๋ฉางเสนอตัวขึ้นอย่างกล้าหาญ"คุณจำทั้งหมดได้แล้วเหรอ?"หวงผู่เจิ้งซิ่นพูดด้วยสีหน้าจริงจังทันที "อย่าเพิ่งรีบร้อนปฏิบัติเลย ลองทบทวนสิ่งที่ฉันพูดสักรอบก่อน มีจุดไหนที่ไม่เข้าใจก็ถามให้แน่ชัด แล้วค่อยลงมือ"เพราะจำนวนของแท่งค

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status