ช่วงแรกคุณพ่อคุณแม่ยังเลี้ยงลูกกันไม่เป็น..ยังดีที่ได้คุณยายของหลานๆมาช่วยในช่วงแรก แต่ท่านก็ไม่ได้อยู่ด้วยตลอดเวลา
เมื่อหนูน้อยดารินในวัย7วันร้องไห้ไม่หยุด..อันธิยาอุ้มเด็กน้อยมือไม้สั่น..แตกต่างจากคนเป็นสามี..ที่ดูจะอุ้มเด็กคล่องเหลือเกิน
'ทำไมพี่มิล..อุ้มเด็กเก่งจัง'ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความสงสัย..ชายหนุ่มผอมสูงส่งยิ้มละไม
'น้องอัญลืมไปแล้วไง..ยายพี่เคยรับฝากเลี้ยงเด็กเล็ก'น้ำเสียงคนพูดอารมณ์ดี..พอเด็กน้อยอยู่ในอ้อมกอดคนเป็นพ่อ..เสียงร้องไห้..เงียบลงทันที
ใบหน้าเล็กทำปากจุ๊บจิ๊บๆ.. เนื้อตัวเด็กน้อยแดงแจ๋..ดวงตาที่ยังเบิกได้ไม่เต็ม..หรี่ลงสู้แสง
'น้องอายของป๊ะป๋าน่ารักเหลือเกิน'เขาอุ้มพร้อมเดินร้องเพลงกล่อมไปด้วย..ทิ้งให้คนเป็นเมียมองตาปริบๆ..ชักอิจฉาลูกสาวตัวน้อยเหลือเกิน
'มองแบบนั้นคืออะไรคะยัยตัวเล็ก'เสียงพี่ชายข้างบ้านหันมาแซว..ตอนที่เห็นคนเป็นเมียมองตาละห้อย
'ตั้งแต่มีลูก..เหมือนพี่มิลรักอัญน้อยลงเลย'ฮอร์โมนหลังคลอดลูกทำงานทันที..ใบหน้าน่ารักจิ้มลิ้มเริ่มยู่ยี่เตรียมร้องไห้
'โอ้ย..เด็กบ้า..พี่ก็รักเราเหมือนเดิมแหละ'เขาพูดพร้อมวางลูกสาววัยแรกเกิดลงเบาะ..ก่อนหันมาจุ๊บเหม่งน้อยๆของเมียรัก
'แน่นะ..พี่มิลต้องรักอัญเป็นอันดับ1นะ..ห้ามรักใครมากกว่าหนู..แม้แต่ลูกก็ไม่ได้!!'
ไอ้คนหลงผัวยังพร่ำเพ้อไม่เลิก..ชายหนุ่มที่อีก1ปีจะเรียนจบรีบรับคำ..ส่งผลให้มนุษย์แม่ยิ้มได้
'น้องอัญหิวยัง..เดี๋ยวพี่ไปเอาข้าวมาให้'
สามีแสนดีไม่พูดเปล่าเตรียมไปยกอาหารเช้ามาเสิร์ฟถึงเตียง..เขาสงสารเธอที่ต้องมานั่งปั๊มนมทุก3ชั่วโมง..ไหนจะตื่นขึ้นมาให้นมลูกด้วย..แทบไม่ได้หลับได้นอน..ชายหนุ่มเคยบอกเมียรักว่า
'น้องอัญไม่ต้องให้นมแม่ก็ได้นะ..จะได้ไม่เหนื่อย'
'ไม่เอาอะ หนูอยากให้นมแม่..น้องอายจะได้มีภูมิ..อีกอย่างจะได้ประหยัดเงินด้วยค่ะ'
เขามองเธออย่างซึ้งใจ..ผู้หญิงตัวเล็ก..แต่ความเสียสละของเธอไม่เล็กตามเลย..เพราะความมักง่ายของเขา..ทำให้น้องน้อยต้องมามีลูกในวัยที่ยังไม่มีความพร้อมอะไรสักอย่าง..เพราะงั้นอะไรที่เขาทำเพื่อเธอได้..เขาพร้อมจะทำทุกอย่าง
พอพ้น6เดือน..เด็กน้อยดารินเริ่มนั่งได้..ป๊ะป๋ามือใหม่เลิกเรียน..มักมารับไม้ต่อดูแลลูกต่อ..ทั้งทำกับข้าว..สอนลูกกินข้าวเอง...เด็กน้อยเองก็รู้ความว่าเกิดมาในครอบครัวฐานะไม่ดี..หนูถึงเลี้ยงง่ายเหลือเกิน..ให้นั่งตรงไหน..ก็มักนั่งเล่นคนเดียวได้..จะร้องไห้แค่เฉพาะเวลาหิว..ง่วง..เหนื่อยเกินไปเท่านั้น
ส่วนไอ้ต้าวตัวเล็กใจไม่เล็ก..พอได้มีคนมาเปลี่ยนมือ..ก็รีบไปอาบน้ำกินข้าว..แต่งหน้าสวยๆ..ไลฟ์ขายเสื้อผ้าต่อ..แต่รอบนี้เธอลองสั่งเสื้อผ้าเด็กจากจีนมาลอง ..นางแบบก็ไม่ใช่ใคร..เด็กน้อยตัวเล็กลูกสาวเธอนั่นเอง
ลูกสาวยิ่งโตก็ยิ่งน่ารัก..โดยเฉพาะดวงตาคู่สวยได้รูปประกอบด้วยแผงขนตาหนา..ถอดออกจากคนเป็นพ่อ..ใต้ตาข้างซ้ายมีขี้แมลงวันเล็กๆ ผมดำสนิทซึ่งก็เหมือนพ่อนั่นแหละ..ผิวหรือก็ขาวอมชมพู มีเพียงแค่ปากทรงกระจับเท่านั้นที่เหมือนเธอ
'บางทีมนุษย์แม่ก็ปวดใจ..ฉันตั้งท้องมา9 เดือน..ทำไมลูกจ๋า..ถึงไม่เหมือนแม่บ้างเลยนะ'
เด็กหญิงในวัย1ขวบ เริ่มเดินเต๊าะแต๊ะ.. เด็กน้อยหันมายิ้มหวานให้คนเป็นแม่และพ่อตาหยี ..อันธิยาใจแทบละลาย..สำหรับหญิงสาวอะไรที่ว่าดีกับลูกเธอทำแทบทุกอย่าง..แม้สิ่งนั้นจะใช้พลังกาย และเหนื่อยมากกว่าปกติ..เธอก็ยินดี
ข้าวของของลูกอาจไม่ได้แพงที่สุด..แต่ของจำเป็นไม่มีขาด..โดยเฉพาะพวกหนังสือนิทานเด็กที่คุณหมอแนะนำ..ราคาก็แพงหูฉี่..เด็กหญิงดารินมีเป็นของตัวเองไม่น้อย
ตอนกลางคืนส่วนใหญ่เธอจะอ่านนิทานให้ลูกฟัง..บางทีก็เป็นคุณพ่อบ้าง..บรรยากาศก่อนนอนเต็มไปด้วยความอบอุ่น
สำหรับคนทั้งคู่..ที่ต่างมาจาก 'ครอบครัว' ที่ไม่สมบูรณ์..ก็หวังว่าครอบครัวที่กำลังสร้างจะ 'สมบูรณ์' ที่สุด
เด็กหญิงดารินในวัยขวบกว่าๆ เริ่มพูดเป็นคำ..ทั้งเธอและเขาต่างลุ้นกันว่า..คำแรกที่เด็กน้อยจะพูดจะเรียกใครก่อน
พอเจ้าต้าวแก้มยุ้ย..เรียก 'ป๊ะป๋า'
มนุษย์แม่ก็แอบน้อยใจ..ตอนกลางคืนเข้าเต้า..แทบทั้งวันอยู่กับเธอ..แต่เวลาเรียกกับเรียก..'มนุษย์พ่อ' ก่อนคืออะไร?
คุณแม่วัยสาวอยากร้องไห้แล้ว
พอพี่รามิลเรียนจบก็เปลี่ยนงานบ่อยตามประสาผู้ชายไม่สู้งาน..มีแต่รับเป็นไกด์นำเที่ยวตามเกาะทุกวันหยุดที่ดูจะทนทำได้นานสุด..ส่วนเด็กน้อยดารินวัยสองขวบกว่า..น่ารักช่างอ้อนเป็นที่สุด
เด็กน้อยเรียกหา 'ป๊ะป๋าทั้งวัน' คนเป็นพ่อเองก็หลงลูกหนักมาก..สิ่งแรกที่เขากลับบ้านมาคืออาบน้ำอาบท่า..และเลี้ยงลูกต่อ..เป็นแบบนี้แทบทุกวัน
วันนึงลุงไตรเจ้าของจัดกรุ๊ปทัวร์ติดต่อเข้ามา
'ไอ้มิล..อาทิตย์นี้มีกรุ๊ปทั่วกลุ่ม6คน เอ็งสนใจจะไปเป็นไกด์มั้ย'
ชายวัย20ต้นๆ เต็มไปด้วยความลังเล..วันอาทิตย์ตรงกับวันเกิดน้องสาวข้างบ้าน..จริงๆ เขาไม่ค่อยอยากจะรับงานเท่าไร..คุณสามีที่เคารพคุณภรรยายิ่งชีพเลยเอาเรื่องปรึกษาผู้นำครอบครัว
'ไปก็ได้ค่ะพี่..ตอนเย็นก็เจอกันแล้วนี้ค่ะ..จะได้เก็บเงินสำหรับเข้าโรงเรียนอนุบาลให้น้องอายด้วย'เสียงหวานของยัยตัวเล็ก..ทำให้เขาตกลง
'ถ้าย้อนเวลาได้..เธอจะไม่ให้เขาไป'
อันธิยาจำได้วันเกิดปีนั้นอากาศช่วงเช้าสดใส..เธอเตรียมผัก..หมักหมู..อาหารทะเล ทั้งยังโทรนัดแม่มาทำหมูกระทะกินมื้อเย็น..เจ้าตัวเล็กเดินเต๊าะแต๊ะไปมารอบๆบ้าน..บรรยากาศเต็มไปด้วยความสุข
ค่ำๆ ฝนฟ้าเริ่มคะนอง..ฝนหลงฤดูทำให้เธอกังวลใจ..ทำไมสามีเธอถึงยังไม่กลับมานะ..ใบหน้าเล็กจิ้มลิ้มขมวดยุ่ง..เจ้าตัวเล็กเริ่มง่วง เธอเอาเด็กน้อยเข้านอนก่อน
เธอโทรตามเขา..แต่..สายไม่ว่าง..จนดูเหมือนเขาปิดมือถือ..ซึ่งผิดปกติวิสัยของพี่รามิลมาก
'เขาไม่เคย..ไม่รับสายเธอ'
อันธิยาเปลี่ยนใจโทรหาแม่ทันที..คุณนายนกบอกเธอให้รอก่อน..สักพักคุณลุงไตรเจ้าของบริษัททัวร์ก็โทรมาแจ้งข่าวร้าย
'ยัยหนูอัญ..ทำใจดีๆไว้นะลูก..ไอ้มิลมันตกทะเล! ยังหาตัวไม่เจอ'น้ำเสียงปลายสายตระหนก..เสียงแทรกลมพายุไม่ได้หยุด
วันนั้น..เพราะมีนักท่องเที่ยวชาวกรุงบางคนดื้อ หนีไปถ่ายรูปคนเดียว..จนกลับไม่ทันเวลา..ทำให้เรือต้องออกช้าลง..ประกอบกับพายุเข้ากระทันหัน..ทำให้ระหว่างทางเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน..เขาลงไปช่วยเด็กน้อยหนึ่งในกรุ๊ปที่ตกทะเล
'ไอ้มิล..ว่ายน้ำเก่ง..ต้องไม่เป็นไรแน่เชื่อลุงนะ'
'...'
ภาพวันวานเก่าๆ ตั้งแต่เรารู้จักกันกลับย้อนมา..เธอ..รู้พี่ชายข้างบ้าน..อ่อนโยนใจดีแค่ไหน
เขามักชอบปกป้อง..เด็กที่ตัวเล็กกว่า..ทั้งที่ตัวเองไม่ใช่ผู้ชายตัวโต
เขา..ที่ชอบแบ่งปัน..ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ใช่คนมั่งมี
เขา..ผู้มีน้ำใจ..กับทุกคน..ถ้าบ้านไหนต้องการความช่วยเหลือ..ขอแค่มาขอร้อง..พี่ชายใจดีคนนี้มักไปช่วยเสมอ
เขา..ผู้ปฏิเสธใครไม่เป็น..และคนในชุมชนต่างก็รัก..รวมถึง..เธอที่รักเขานานมาหลายปี..รักตั้งแต่เริ่มจำความได้
แต่มาวันนี้..อันธิยากลับเกลียด 'ความใจดี'ของคนเป็นสามี
เธออยากให้เขา 'เห็นแก่ตัว' บ้าง..ทำไมต้องลงไปช่วยเด็กคนนั้น..ทั้งที่..ที่บ้านก็มี 'ลูกสาว'ตัวน้อยที่รอคอย..ป๊ะป๊ากลับบ้านอยู่...ทำไม?
เธอไม่รู้ว่าช่วงนั้น..ผ่านเวลาที่บอบช้ำมาได้ยังไง..เสียงลูกที่ร้องหาป๊ะป๋าทั้งคืนติดต่อกันหลายเดือน..อ้อมกอดอบอุ่นที่เคยได้รับ..คนที่อยู่เคียงข้างรับฟัง..มาวันนี้..มันไม่มีแล้ว
ความทรมานอีกอย่างคือ..ไม่มีใครพบศพของพี่เขา..เธอได้แต่ภาวนา...ว่าเขายัง 'ไม่ตาย' ..แม้ลึกๆ จะรู้ว่า..มันคือการหลอกตัวเองทั้งเพ
ช่วงแรกคุณพ่อคุณแม่ยังเลี้ยงลูกกันไม่เป็น..ยังดีที่ได้คุณยายของหลานๆมาช่วยในช่วงแรก แต่ท่านก็ไม่ได้อยู่ด้วยตลอดเวลาเมื่อหนูน้อยดารินในวัย7วันร้องไห้ไม่หยุด..อันธิยาอุ้มเด็กน้อยมือไม้สั่น..แตกต่างจากคนเป็นสามี..ที่ดูจะอุ้มเด็กคล่องเหลือเกิน'ทำไมพี่มิล..อุ้มเด็กเก่งจัง'ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความสงสัย..ชายหนุ่มผอมสูงส่งยิ้มละไม'น้องอัญลืมไปแล้วไง..ยายพี่เคยรับฝากเลี้ยงเด็กเล็ก'น้ำเสียงคนพูดอารมณ์ดี..พอเด็กน้อยอยู่ในอ้อมกอดคนเป็นพ่อ..เสียงร้องไห้..เงียบลงทันทีใบหน้าเล็กทำปากจุ๊บจิ๊บๆ.. เนื้อตัวเด็กน้อยแดงแจ๋..ดวงตาที่ยังเบิกได้ไม่เต็ม..หรี่ลงสู้แสง'น้องอายของป๊ะป๋าน่ารักเหลือเกิน'เขาอุ้มพร้อมเดินร้องเพลงกล่อมไปด้วย..ทิ้งให้คนเป็นเมียมองตาปริบๆ..ชักอิจฉาลูกสาวตัวน้อยเหลือเกิน'มองแบบนั้นคืออะไรคะยัยตัวเล็ก'เสียงพี่ชายข้างบ้านหันมาแซว..ตอนที่เห็นคนเป็นเมียมองตาละห้อย'ตั้งแต่มีลูก..เหมือนพี่มิลรักอัญน้อยลงเลย'ฮอร์โมนหลังคลอดลูกทำงานทันที..ใบหน้าน่ารักจิ้มลิ้มเริ่มยู่ยี่เตรียมร้องไห้'โอ้ย..เด็กบ้า..พี่ก็รักเราเหมือนเดิมแหละ'เขาพูดพร้อมวางลูกสาววัยแรกเกิดลงเบาะ..ก่อนหันมาจุ๊บเหม่งน้อยๆ
"ม๊ะม๊า..น้องอายไปโรงเรียนก่อนนะคะ"เสียงเจื้อยแจ้วของลูกสาวตัวน้อย..ที่ตอนนี้กำลังขึ้นป.6 ดังจากหน้าบ้าน..ใบหน้าสวยหวานที่ยังมีเบบี้เฟซ..ส่งยิ้มกว้างมาให้ก่อนที่คนจะเป็นแม่ ซึ่งกลับมาจากตากผ้าหลังบ้านจะได้พูดอะไรเพิ่ม..ร่างบอบบางในชุดนักเรียนประถมก็วิ่งขึ้นรถสองแถวโรงเรียน..พร้อมโบกมือหย็อยหย็อยมาให้อันธิยาตั้งใจมาจัดการถ้วยชามใช้แล้วบนโต๊ะอาหาร..ปรากฏว่าลูกสาวตัวน้อยช่วยล้างจัดเก็บไว้เรียบร้อยแล้ว..เธอส่ายหน้าด้วยความเอ็นดูนาฬิกาบนผนังชี้บอกเวลา 6.30 น. เธอเปิด app ไลน์ กับเปิดไลน์กรุปหมู่บ้าน..เพื่อลงขายอาหารเช้าทันที"อัญ..น้องอายไปโรงเรียนแล้วเหรอลูก""จ๊ะแม่"คนเป็นลูกหันไปตอบ..คุณนายนกแม่ของเธอจัดการขนตะกร้าที่ซักแล้วไปตากต่อบ้านของเราเป็นบ้านหลังเล็กๆ มี2ชั้น ชั้นล่างทำร้านซักอบรีด ส่วนชั้นบนมีห้องนอนสองห้อง ข้างๆมีพื้นที่ราวๆ 100ตารางวาที่ยังปล่อยทิ้งร้างอยู่..มันคือ 'บ้าน' ที่เธอเติบโตมารอได้ไม่นานเสียงไลน์ก็ดังขึ้น..เธอจัดการรับออร์เดอร์ทันที..โชคยังดีแถบที่เธออยู่..เป็นเขตที่กำลังเติบโต..มีหมู่บ้านจัดสรร..กับคอนโดเกิดใหม่ขึ้นเพียบ..ส่วนนึงเพราะจังหวัดที่เธออยู่ไม่ไกลจาก
ณ โรงพยาบาลประจำอำเภอร่างบอบบางผิวขาวผ่องเดินแกมวิ่งเข้ามาในโรงพยาบาล..ใบหน้าจิ้มลิ้มซีดเซียว..โดยเฉพาะดวงตากลมโตยิ่งบวมแดง..ผมสีน้ำตาลถูกถักเปียเดี่ยว ในชุดเสื้อยืดหลวมโคร่ง..กางเกงยีนพอดีตัว อันธิยาจึงดูเหมือน..หญิงสาวอายุ25 มากกว่าที่จะอายุย่าง30ตามอายุจริง"แก้ว..น้องอายอยู่ห้องไหน"เสียงคนตัวเล็กสั่นกั้นสะอื้น..นางพยาบาลสาวสวยในชุดขาวที่ชื่อ..'แก้ว' เป็นลูกค้าประจำร้านเธอ"น้องอายอยู่ห้อง 201 ตึกผู้ป่วยเด็ก..พี่อัญ..มะ.."ก่อนที่คนอายุน้อยจะพูดจบ..ร่างของพี่แม่ค้าสุดแสนน่ารักก็วิ่งอ้าวไปแล้วเนื่องจากโรงพยาบาลสังกัด..อำเภอ เธอจึงหาห้องไม่ยาก..เปิดประตูเข้าไป เจอลูกสาวสุดน่ารักนั่งพิงหมอน..ในมือมีหนังสือเตรียมสอบเข้าโรงเรียนมัธยมอยู่ด้วย..คนเป็นแม่หายใจโล่งอกพอเด็กน้อยเห็นเธอก็ส่งรอยยิ้มละไมมาให้ อันธิยารีบเดินเข้าไปจับเนื้อตัว..ราวกับว่าจะมีสิ่งใดแตกหักคามือ..ดวงตาคู่สวยเริ่มมีน้ำตาคลอ..ก่อนจะอาละวาดเสียงดัง..ใบหน้าเล็กๆเต็มไปด้วยความโกรธ..ทำเธอได้..แต่ทำลูกเธอ..มึงตาย!!"ใคร! ใครหน้าไหนมันชนลูกหนู!..แม่จะด่าให้ไม่ได้ผุดได้เกิด"คำสบถที่แทบไม่เคยใช้ตามมาเป็นพรวนเด็กสาวในวัย12ปีห
"ถ้ามีชีวิตอยู่ทำไมหายตัวไปเป็น10ปีห๊ะ!!"น้ำเสียงคนพูดเต็มไปด้วยความโกรธ..และโล่งใจ..เธอร้องไห้ไปด้วย..ด่าไปด้วย..ทุบตีไปด้วย..ยิ้มไปด้วยเหมือนคนบ้า..ชายหนุ่มยืนมองพร้อมมือกุมหัว"ทำไมไม่รีบกลับบ้าน!!""..."ถถแกกกกแำฃฃ 'เรื่องบ้าอะไรวะเนี่ย!'พอเขาเผลอ..ไอ้แสบก็บิดหูเขาไปที..จนชายหนุ่มตัวบิดงอ..คุณแก้วพยาบาลประจำตึกรีบเข้ามาห้ามทัพ..ก่อนที่เขาจะน่วมไปมากกว่านี้เธอรีบเข้าไปดึงแม่ค้าข้าวคนสวย..และจับยัยตัวกระเปี๊ยกแรงเยอะได้ทัน"นี้พี่อัญจะทำอะไรเนี่ย"เสียงเจ้าหน้าที่แกมดุ ยิ่งเห็นสุดหล่อที่เธอหมายตาแก้มเต็มเป็นด้วยรอยมือ..ใจดวงน้อยเจ็บจี๊ดๆ"ทำไมพี่จะทำไม่ได้..ก็ไอ้เนี่ยผัวพี่!!!""..."เกศแก้วพยาบาลคนสวยขมวดคิ้วยุ่ง..มือซ้ายลากผู้ป่วยสุดหล่อ มือขวาลากหญิงสาวที่เคลมว่าตัวเองเป็น 'เมีย' ไปหาอาจารย์หมอ..พอมาถึงหน้าห้องถึงยอมปล่อยมือจากมือเธอเดินไปกระซิบกระซาบกับพี่พยาบาลร่างอวบอีกคน..คนมีอายุหันมามองไอ้ต้าวตัวเล็ดลอดแว่น..อันธิยาไม่ชอบสายตาแบบนี้เลย..มันเหมือนสายตาของครูแก่ๆ สมัยเธอยังเด็ก"รอแป๊บละกัน..เดี๋ยวอาจารย์หมอก็ตรวจคนไข้เสร็จแล้ว"เสียงแกมดุของนางพยาบาลรัฐคนตัวเล็กหันไปมองสา
"เห้ยย...มะ..มิลจริงๆ เหรอลูก..นี้คนหรือผี"ดวงตากลมโตของแม่ยายเบิกกว้าง..ใบหน้าซีดเผือด..อันธิยาหลุดหัวเราะคิกทันที..ก่อนจะลากไอ้ต้าวตัวใหญ่เข้าห้อง"คนดิแม่...พี่มิลจริงๆ"เสียงใสเจื้อยแจ้ว ใบหน้ายู่ยี่ที่เลอะไปด้วยคราบน้ำตาตอนนี้สว่างวาบเต็มไปด้วยความสุข..และเธอก็เริ่มเล่าเท้าความตั้งแต่ที่เดินไปซื้อไอติมชายหนุ่มดึงมือออกจากคนที่อ้างว่าเป็น 'เมีย'สีหน้าเขาเต็มไปด้วยความอึดอัด คนตัวเล็กเพียงหันมาส่งยิ้มสดใสให้ ทั้งยังเดินไปเม้าท์กลับแม่ด้วยเรื่องราวที่เธอเองก็แทบไม่เชื่อสีหน้าหล่อเหลาเข้าขั้นหดหู่...ทำไมเขาใน 'อดีต' ถึงไม่มีเทสเรื่องผู้หญิงเลยนะ เขาน่าจะชอบผู้หญิงนมโตๆ หุ่นแซ่บๆ ดิ..แล้วหน้าตาต้องสวยหวาน..ไม่ใช่มาโทนน่ารัก..น่าเอ็นดูแบบนี้..คาแรกเตอร์หญิงสาวเหมาะกับเป็นน้องสาว 'ข้างบ้าน' โดยแท้..ไม่น่าใช่สเปคเขาเลยหรือ..จะมีความเข้าใจผิดอะไรบางอย่างนะ..คิ้วเข้มของไอ้คนไม่ยอมรับความจริงขมวดแน่น..ในระหว่างที่คุณสามีสุดหล่อกำลังนั่งมึน..คนที่ได้ชื่อว่าเป็นลูกสาวกลับมองสำรวจ..ทั้งยังสังเกตเห็นพฤติกรรม..โดยเฉพาะสีหน้าเดี๋ยวหดหู่..เดี๋ยวเซ็ง..ดูแล้วไม่มีความสุข'ถ้าไม่เต็มใจจะกลับมา..จะ
ตอนที่คนป่วยตื่นก็เกือบ 9โมงเข้าไปแล้ว ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่เปลือยท่องบนจนเห็นอกแกร่งที่เต็มไปด้วยซิกแพค..ผมดำสลวยยุ่งเหยิง เขางัวเงียเดินบันไดลงมาชั้นล่าง ที่โต๊ะสารพัดประโยชน์กลางบ้าน..เจอเด็กผู้หญิงผมสั้นนั่งทำการบ้านอยู่..พอเธอเห็นเขา..ลูกสาวเบ้หน้าให้ทันที'กี่โมงกี่ยามแล้วทำไมพึ่งตื่น'ส่วนแม่ยายยืนเยื้องออกไป ร่างอวบอ้วนกำลังแขวงผ้าที่รีดเรียบร้อยแล้วไว้กับราวตาก.. บนนั้นมีเสื้อผ้าที่เตรียมส่งลูกค้าอยู่หลายตัว"อ้าว..ตามิลตื่นแล้วหรือลูก..เมื่อเช้ายัยอัญขับรถไปซื้อเสื้อมาให้..อยู่บนโต๊ะนะลูก"น้ำเสียงคนพูดใจดีเขาเดินไปดูถุงที่โต๊ะทันที..จะให้แก้ผ้าเดินไปเดินมา..ในที่..ที่ไม่คุ้นเคยก็กะไรอยู่ ถึงเขาจะเป็นผู้ชายแต่มันก็อดจะเขินไม่ได้ในถุงนั้นมีเสื้อยืดสีสดใสอยู่สามสี่ตัว ส่วนใหญ่เป็นสีหวานๆแบบสีชมพู..สีฟ้าอ่อน ถ้าแค่สียังไม่เท่าไร แต่ดันมีลายพิมพ์โง่ๆ อย่าง 'รักเมีย','รักเมียที่สุดในโลก' ติดอยู่ด้วยรามิลหน้าเหยลงทันที..จำใจเลือกเสื้อสีฟ้ามาใส่แบบไม่เต็มใจนัก ใบหน้าหล่อเหลาบูดบึ้งพอเจ้าของบ้านเห็นสามีใส่เสื้อที่พึ่งซื้อมาให้..ก็เอาแต่มองตาเคลิ้ม..ผู้ชายผิวขาวใส่เสื้อสีอ่อน..ยิ่ง
ตอนที่รถมอเตอร์สีดำเทาจอดหน้าบ้าน..ชายหนุ่มรีบถอดหมวกกันน็อคแล้วเดินจ้ำอ้าวเข้าร้านทันที..ข้างหลังมีหญิงสาวในเสื้อยืดสแกนลาย 'คนหลงผัว' ตัวใหญ่ กางเกงยีนสีซีดขาสั้น..เดินยิ้มกริ่มอารมณ์ดีตามมา..ผมสีน้ำตาลธรรมชาติที่ถูกถักเปียยุ่งเล็กน้อยพอเปิดประตูเข้ามา คนป่วยถึงกับชะงัก..เพราะในร้านแน่นขนัด..เต็มไปด้วยผู้คนในหมู่บ้าน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุ หรือไม่ก็เด็กเล็กไปเลย..ใบหน้าหล่อเหลายุ่งขึ้นทันที..ดวงตาคมคู่สวยหันไปขอความช่วยเหลือจากยัยตัวแสบข้างๆเธอหันมายิ้มเป็นกำลังใจให้..มือเล็กจับกุมมือใหญ่เพื่อสร้างความมั่นใจ"คนในหมู่บ้านคงได้ข่าวแหละพี่..ก็เลยมาเยี่ยมกัน"เสียงหวานกระซิบแผ่วเบา..ก่อนจะส่งยิ้มหวานไปให้ลุงๆป้าๆ"เห้ย..ใช่เจ้ามิลจริงๆด้วย"เสียงคุณลุงชัยคนหาปลาทักพร้อมกับเข้ามาจับเนื้อจับตัว..ตามมาด้วยผู้เฒ่าผู้แก่หลายคน..เขาสะบัดตัวออก..เปลี่ยนมาหลบหลังหญิสาวทันทีเสียงคุยเซ็งแซ่ดังอื้ออึงในร้านเล็กๆแห่งนี้"คืองี้ค่ะ...พี่มิลกำลังป่วย..เป็นโรคสูญเสียความจำ..ตอนนี้จำอะไรไม่ได้เลยค่ะ"เสียงหวานใสพยายามอธิบาย..ได้รับความเห็นใจจากคนรอบข้างทันที"เมื่อกี้ยัยนกก็บอกป้าแล้วเหมือนกัน..
"พี่มิลตื่นได้แล้วพี่..ถึงบ้านแล้ว"น้ำเสียงใสของน้องสาวข้างบ้าน..ปลุกคนตัวโตเสียงแจ๋วแต่ด้วยอาการป่วย..ชายหนุ่มจึงหลับลึกเหลือเกิน..ดวงตากลมโตสีน้ำตาลครุ่นคิด..ก่อนจะใช้วิธีในอดีตที่ 'เขา' กับ 'เธอ' เคยใช้ปลุกกันและกันอันธิยาปลดเซพตี้ฝั่งตัวเอง ก่อนจะโน้มตัวไปที่ตัวเขา...ริมฝีปากสีแดงรูปกระจับเริ่มไล้จูบแผ่วเบาตั้งแต่คิ้วหนาเข้ม..จมูกโด่งสันได้รูป..ก่อนที่จะแตะเบาๆที่ริมฝีปากสุดแสนเซ็กซี่..สัมผัสแผ่วเบาราวกับผีเสื้อหยอกเย้า ส่งผลให้ชายหนุ่มปัดมือออกไปอย่างรำคาญปนจั๊กกะจี้..แต่ยัยตัวแสบยังไม่ยอมหยุดยังคงทำซ้ำรามิลลืมตาตื่น..ด้วยทนไม่ไหว..กลิ่นสบู่อ่อนๆบนตัวเธอเกือบชิดจมูก ที่สำคัญร่างบอบบางของน้องสาวข้างบ้านเกือบจะแนบชิดกับตัวเขาพอรู้ตัวว่า 'โดนลวนลาม' ร่างสูงใหญ่กระเด้งตัว แล้วดันยัยตัวแสบออกทันที..ตรงที่โดนไล้จูบร้อนผะผ่าว..หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ..ใบหน้าหล่อเหลาขึ้นสี"เธอจะทำอะไรนะ!!""เก๊าะ..ปลุกพี่ไง"น้ำเสียงคนพูดสบายๆ แต่คนฟังไม่สบายด้วย..เขาเผลอยัยหื่นนี้ก็แอบลวนลามเขาแล้ว..รู้งี้อยู่บ้านกับยัยลูกสาวเจ้าระเบียบขี้บ่นดีกว่า"ทำไมไม่ปลุกดีๆละ มาลวนลามฉันทำไม""เอ้า..สมัยก่อนเว
ณ ศาลาทรงจีน หลังตึกเป่ยวันนั้นเป็นเสาร์เช้าเด็กหญิงดารินนั่งมองดูบ่อบัวที่กำลังบานสะพรั่ง มีผีเสื้อตัวน้อยบินวนรอบ...ในมือมีจดหมายที่คนเป็นทวดเขียนให้..ตั้งแต่วันที่ได้รับมันมา..เธอเองกลับเป็นฝ่ายที่ไม่กล้าจะเปิดมันขึ้นมาอ่าน..ส่วนหนึ่งเธอไม่อยากจะยอมรับว่า หนึ่งในบุคคลที่เธอเคารพรักมากที่สุดในชีวิต..ท่านได้เสียไปแล้วมือน้อยขาวผ่องสั่นเล็กน้อย..เธอสูดหายใจเข้าเพื่อรวบรวมความกล้า ก่อนจะตัดสินใจแกะซองจดหมายออกมาอ่าน‘ถึง จินเยว่..จินจินน้อยของเหล่ากงวันที่จินจินน้อยได้รับจดหมายฉบับนี้ เหล่ากงคงไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว..เหล่ากงรู้ว่าจินจินเองก็คงจะเสียใจไม่น้อย แต่เหล่ากงอยากจะบอกจินจินว่าการลาจากอาจเป็นเรื่องที่ยาก แต่ทุกคนล้วนหนีมันไม่พ้น เหมือนที่จินจินเองสูญเสียพ่อตั้งแต่อายุยังน้อยแต่เหล่ากงก็ยังเชื่ออย่างหนึ่งว่า..เหลนของเหล่ากงเป็นเด็กที่เข้มแข็ง จินจินจะต้องผ่านมันไปได้อย่างแน่นอนถ้าจะมีเรื่องไหนที่เหล่ากงเสียดายมากที่สุด ก็คงเป็นเพราะเราได้ใช้เวลาด้วยกันน้อยเกินไป มันมีหลายสิ่งที่เหล่ากงอยากเล่าให้หนูฟัง อยากดูการเติบโตของหนู อยากอยู่ถึงวันที่หนูมีคู่ชีวิต มีลูก แต่ไม้ใกล้ฝ
ย้อนกลับไปเมื่อสิบปีก่อน..กลางทะเลระหว่างหมู่เกาะกับผืนแผ่นดินใหญ่ร่างผอมสูงค่อยๆ จมลงไปในน้ำทะเล มันทั้งมืดลึก และหนาวเหน็บ เสียงพายุพัดรุนแรงค่อยๆ เลือนหายไปจากโสตประสาท จิตใต้สำนึกพยายามบอกตัวเองให้ว่ายขึ้นไปเหนือน้ำให้ได้ ‘เมียกับลูกน้อย’ยังรอเขาอยู่..แต่..ถึงแม้จะว่ายน้ำเก่งตามประสาลูกทะเลมากแค่ไหนก็ตาม.. ณ เวลานี้...ตอนนี้ เรี่ยวแรงกับค่อยๆ หายไป..และพรากลมหายใจของการดิ้นรนครั้งสุดท้ายไปพร้อมกันด้วยรามิลมารู้สึกตัวอีกที ตอนที่พระอาทิตย์ขึ้นเรียบร้อยแล้ว...ท้องฟ้าดำมืดเมื่อคืนเปลี่ยนเป็นสว่างจ้าฉายแสงสดใส ชายหนุ่มถอนหายใจโล่งอก...โชคดีเขารอดมาได้‘ให้มาตายตอนอายุแค่ยี่สิบสองมันจะใจร้ายไปหน่อยมั้ย!!’ไอ้ต้าวอดีตเดือนเกษตรคิดอย่างอารมณ์ดี แต่พอคิดได้ว่า..เมื่อวานวันเกิดยัยตัวเล็ก..เขากลับบ้านไม่ทัน..แม่เสือตัวจ้อยคงโกรธเขาเป็นแน่ แถมลูกสาวตัวน้อยถ้าไม่ใช่เขากล่อมนอน..ไม่รู้ว่ายัยหนูน้อยจะยอมนอนมั้ยนะคิดได้ดังนั้น ชายหนุ่มก็ลุกขึ้นยืน พร้อมสะบัดทรายที่อยู่ตามขากางเกงออกดวงตาคมคู่สวยหันซ้ายแลขวา..สำรวจรอบๆ ไม่รู้ว่าน้ำทะเลพัดเขามาถึงไหน..หมู่บ้านที่อยู่ตรงหน้าเองก็ไม่คุ้นเคยเอาเ
ปิดเทอมฤดูร้อนวนมาอีกครั้ง รอบนี้ครอบครัวเล็กๆ ของอันธิยานัดกันไปเที่ยวทะเลทางใต้ โดยภากรเป็นหัวเรือใหญ่ในการจัดหาที่พัก เรือยอชต์สุดหรู นอกจากนี้ยังมีสมาชิกคนใหม่อยู่ในพุงยัยแบนสะท้านโลก..ตอนชายหนุ่มเห็นผลตรวจครั้งแรก...ความรู้สึกอิ่มเอมฟองฟูขึ้นเต็มหัวใจ..ดวงตาคมมองหน้าท้องแบนราบของไอ้ต้าวตัวเล็ก..เขานึกประหลาดใจเหลือเกินว่าข้างในพุงเล็กๆ นั้นจะมีเด็กน้อยอาศัยอยู่ ขณะเดียวกันเด็กหญิงดารินยิ้มแก้มบานแทบทั้งวัน เธอลากป๊ะป๋ากับม๊ะม๊า ไปหาซื้อเสื้อผ้า..ข้าวของเครื่องใช้..ของเล่นให้น้องน้อยตั้งแต่ยังไม่รู้เพศ ทั้งยังลงมือจัดห้องนอนเล็กให้น้องเอง เพราะห้องเดิมที่คนเป็นแม่ตั้งใจแต่งให้ลูกคนที่สอง กลับยกให้เด็กชายคีรีตัวแสบไปนานแล้ว เด็กหญิงเลือกโทนสีเขียว ซึ่งเป็นสีกลาง ทั้งยังขอห้องด้านล่างที่แต่เดิมเป็นห้องว่างไว้ทำ kid room เพิ่มอีกต่างหากแต่พอทำไปทำมา ก็พึ่งนึกได้...ถ้ามีน้องตอนนี้ เธอกับเด็กน้อยอายุจะห่างเกินหนึ่งรอบ...น้องสุดที่รักของเธอจะเหงา เหมือนที่เธอเคยเหงาในสมัยวัยเยาว์มั้ยนะ? เมื่อสมองของคนเป็นพี่สาวคนโตคิดได้..ใบหน้าสวยหวานแฝงแววเจ้าเล่ห์..วิธีที่เธอนึกออกคงต้องกดดันให้ป๊ะ
พอผ่านเรื่องราวทั้งหมดผ่านพ้นไป ชีวิตของครอบครัวเล็กๆ ก็กลับกลายมามีความสุขเหมือนดั่งเก่า เพิ่มเติมคงจะเป็นการหวงแหนช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันมากยิ่งขึ้น..สิ่งที่ดีที่สุดของเรื่องคราวนี้ คือภากรไม่ต้องทำงานหนัก..เขามีความสุขกับการมีเวลาให้กับครอบครัวมากยิ่งขึ้น..ส่วนใหญ่ชายหนุ่มเลือกจะทำงานที่บ้าน เด็กชายคีรียังคงตามติดเด็กหญิงดารินไม่เปลี่ยน ส่วนเด็กหญิงดารินกลับชอบหนีไปเล่นกับแก๊งพี่ไค พี่ปาลมากกว่า ไม่ว่าจะพูด หรือแกล้งทำตัวใจร้ายไอ้ต้าวเพื่อนชายก็ยังคงติดหนึบราวกับว่ากลัวเธอจะหายไป เล่นเอาจินจินน้อยของเหล่ากงแทบกุมขมับทุกวันในขณะที่คนเป็นแม่กำลังวางแผนกับลูกชายกำมะลอสุดที่รัก ว่าจะไปเรียกร้องพ่อแม่ฝ่ายชายให้มารับผิดชอบ 'หมั้นหมาย' กันไว้ก่อนดีมั้ย? ผู้ชายดีๆ ถ้าไม่รีบจับจองตั้งแต่ต้นๆ เด็กผู้หญิงคนอื่นก็จ้องจะคาบไปกินนะซิ ซึ่งเด็กชายคีรีย่อมเห็นด้วย แววตาสองชั้นดีใจจนปิดไม่มิด แต่คนหนึ่งผู้ใหญ่ คนหนึ่งเด็ก...ยังคิดแผนไม่ออกว่าต้องทำอย่างไรดี ในส่วนของฝั่งครอบครัวคีรีนั้นไม่ติดปัญหาอะไร เพราะคุณหมอกินรี มักจะตามใจลูกๆ อยู่แล้ว ขณะพี่ไคเปลี่ยนแฟนเป็นว่าเล่นทุกเดือน แม่ของเขายังไม่ว่าอ
ทนายประจำบ้านยังคงอ่านพินัยกรรมไปเรื่อยๆ สรุปได้ว่า บ้านรองเองก็ได้บริษัทประกันภัย...ซึ่งเป็นบริษัทที่มีมูลค่าใหญ่อันดับสองของตระกูล และถ้าเป็นธุรกิจที่บริหารให้ดีสามารถต่อยอดได้หลายอย่าง ลูกชายคนที่สองมองหน้าคนในครอบครัวด้วยความตกใจไม่แพ้กันส่วนลูกสาวคนสุดท้องได้เงินสดมูลค่าหลายพันล้าน...ชวนให้บรรดาญาติห่างๆ อิจฉาไม่น้อยคฤหาสน์หลังใหญ่มอบให้กับอดิศัยลูกชายคนโต โดยมีหน้าที่ต้องดูแลมารดาจนสิ้นอายุขัย...ส่วนอื่นๆ ในคฤหาสน์ย่อยนั้นถูกเซ็นมอบที่ดินเป็นของลูกๆ หลานๆ นานแล้ว ในขณะที่หลานชายคนโต ที่แต่เดิมคาดว่าจะได้ทรัพย์สมบัติมากที่สุด กับได้เพียงจำนวนหุ้นหลักสิบ ถึงสิบห้าเปอร์เซ็นต์ในธุรกิจต่างๆ กันไป หลายคนส่งรอยยิ้มแสดงความเห็นใจมาให้ แต่ใครจะรู้ว่าภากรดีใจมากแค่...อะไรจะดีเท่ากับการไม่ต้องทำอะไรเลย แต่ได้ส่วนแบ่งกันเล่า!!!ถ้าจะมีคนรู้ทัน ก็คงมีแต่ลูกสาวคนสวยที่เธอหันมายิ้มมุมปาก พร้อมทั้งยั่กคิ้วให้หนึ่งที แน่ละ...ป๊ะป๋าต้องขอบคุณเธอ เพราะเธอเป็นหนึ่งในคนที่เกลี้ยกล่อมเหล่ากง....ในเครือบริษัทมหาชนนั้น เดิมมีการวางรากฐานที่ดีอยู่แล้ว ถ้าไม่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ หรือผู้บริหารโง่เง่า อีโ
คุณวันชายหัวหน้าทนายประจำตระกูลอยู่ในชุดสูทสีเทา บุคลิกเคร่งขรึม..เขาอายุราวๆ ห้าสิบกว่า แต่เดิมเขาคือ เด็กในอุปการะของท่านเจ้าสัวธงชัยนั้นเอง ชายวัยเกษียณขยับแว่นตากลมสีใสเล็กน้อย ก่อนจะเดินมายืนด้านหน้า ในมือมีเอกสารพินัยกรรม..ทุกคนในห้องเงียบพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย"ฮะแฮ่ม...ทุกท่านในตระกูลมากันคบทุกคนแล้วใช่มั้ยครับ?"ทนายพูดพร้อมกวาดตา เช็กจำนวนคน ที่มีสิทธิ์ในพินัยกรรมที่ท่านเจ้าสัวได้จัดทำไว้ พอเห็นว่าผู้มีสิทธิ์คบตามจำนวน จึงพยักหน้าก่อนจะอ่านเอกสารในมือต่อ"เอาละครับ วันนี้ผมจะมาประกาศพินัยกรรมที่ท่านเจ้าสัวได้ทำไว้ อย่างแรกผมอยากทำความเข้าใจกับทุกคนว่า..นี้คือวัตถุประสงค์ของผู้ตาย และเป็นความตั้งใจแน่วแน่ ผมก็หวังว่าทุกคนจะเคารพในการตัดสินใจของท่านเจ้าสัว""...""ถ้าพร้อมแล้ว...ผมขอเริ่มเลยนะครับ""...""ข้าพเจ้า นายธงชัย กิตติวรชัยกุล ในขณะทำพินัยกรรมข้าพเจ้าขอยืนยันว่ามีสติสัมปชัญญะปกติดี โดยเมื่อข้าพเจ้าถึงแก่กรรมให้แบ่งทรัพย์สินต่างๆ ของข้าพเจ้าให้บุคคลดังต่อไปนี้ในส่วนของบริษัท..ข้าพเจ้าขอแบ่งแยกบริษัทออกเป็นดังนี้ ธุรกิจในเครือร้านสะดวกซื้อ..หุ้น 60%ที่ข้าพเจ้าถืออย
ช่วงเย็นในระหว่างครอบครัวเล็กๆ กำลังนั่งกระเซ้าเย้าแหย่..ทั้งยังตกลงกันว่าปิดเทอมรอบหน้าจะไปเที่ยวต่างประเทศกันดีมั้ย? รวมถึงเล่าเรื่องระหว่างช่วงเวลาที่ลูกสาวสุดที่รักนอนหลับเป็นตายเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง ทุกอย่างเหมือนจะดี..บรรยากาศอบอุ่นหวนคืนกลับมา..มาวันนี้..สิ่งเล็กๆ เหล่านี้..มันเป็นสิ่งที่คนในบ้านหวงแหนนักหนาแน่ละ..การที่เด็กหญิงฟื้นจากอาการบาดเจ็บ นั้นสมควรเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่แล้วเสียงโทรศัพท์จากมือถือของหัวหน้าครอบครัวกลับพรากบรรยากาศดีๆ ให้จางหายไป 'ท่านเจ้าสัวอาการโคม่า!!!'หน้าห้อง icu ตอนที่ภากรเข็นรถลูกสาวมาถึง..ครอบครัวกิตติวรชัยกุลต่างมายืนออหน้าห้อง..แต่ละคนหน้าตาไม่ดีนัก..คุณอดิศัยนั่งซึม ข้างๆ มีคุณหญิงชญานินนั่งซับน้ำตาพร้อมกุมมืออยู่ด้านข้าง ดาริกาเองพอเห็นพี่สะใภ้ก็รีบวิ่งมาหา..เธอเองก็จวนเจียนจะร้องไห้ส่วนครอบครัวบ้านรอง..ชาญวิทย์เองเดินไปเดินมาด้วยความเคร่งเครียด ไหนจะเครียดเรื่องเงินที่ต้องใช้หมุนในบริษัท มาอาการป่วยของคนเป็นพ่อ ลูกชายลูกสาวทั้งสองก็ยังมีฐานะไม่มั่นคง และถ้าวันนี้ไม่มีท่านเจ้าสัว ครอบครัวเขาคงลำบากกว่าเดิมแน่ ระหว่างที่รออ
จากเหตุการณ์ครั้งนี้..ใครจะคิดว่าตระกูลที่มั่งคั่ง..หนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของประเทศถึงกับเกิดเรื่องราวตามมามากมาย..ถึงขณะที่คนในตระกูลกิตติวรชัยกุลก็คาดไม่ถึงช่วงเวลานั้นเป็นช่วงที่ภากรเหนื่อยล้าทั้งกายใจ..ไหนจะลูกสาวที่ออกจากห้องไอซียู มาพักฟื้นของ vvip แต่เวลาผ่านไปเกือบเดือน จวนใกล้เปิดเทอมใหม่ เด็กหญิงก็ยังไม่ฟื้น ส่วนอากงที่ทุกคนในบ้านต่างก็มองว่าท่านมีสุขภาพแข็งแรง..แต่หลังจากที่ท่านได้รับความกระทบกระเทือนทางใจ โรคหัวใจที่มีแต่เดิมกำเริบ...ทุกวันนี้ท่านเจ้าสัว ผู้เป็นร่มเงาให้กับคนในตระกูลกลับกลายเป็นต้องมาอยู่ในห้องไอซียูแทนภาพร่างผอมเกร็งของชายสูงอายุ เครื่องช่วยหายใจระโยงระยาง ชายที่เคยโอบอุ้มเลี้ยงดูอุ้มชูเขามาตั้งแต่จำความได้..มาวันนี้ราวกับจะผุพังพร้อมจะจากไปทุกเมื่อถึงอากงจะเข้มงวดมากเพียงใด แต่ความรักที่ชายหนุ่มได้รับ จนเติบใหญ่มาจนทุกวันนี้ก็มาจากคนเป็นปู่แทบทั้งนั้นนอกจากที่ต้องเทียวมาโรงพยาบาล ยังต้องระงับเหตุการณ์ทะเลาะกันของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เพราะพอข่าวสารของท่านเจ้าสัวป่วยหลุดออกมา...ขั้วอำนาจการบริหารทั้งฝั่งคุณอดิศัยกับลูกชาย คุณชาญวิทย์ และผู้ถือหุ้นนอกตระกูลก
"เห้ย พี่อัญเป็นอะไรคะ ร้องไห้ทำไม"น้องสามีละมือจากผักที่กำลังหั่น ร่างเพรียวระหงรีบวิ่งเข้าไปหาทันที..ยิ่งเมื่อเห็นพี่สะใภ้ที่แสนจะเข้มแข็ง..เต็มไปด้วยพลังชีวิต..แต่เวลานี้ร่างเล็กบอบบางกับตัวสั่นเทาทั้งยังพยายามกั้นสะอื้น"น้องอาย..เกิดอุบัติเหตุ"น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเจ็บปวดปนช็อก หญิงสาวเข้าไปกอดปลอบเหมือนที่ครั้งหนึ่งพี่สะใภ้เคยทำตอนที่เธอเองทุกข์ใจ "เดี๋ยวก่อนนะคะ ใจเย็นๆ นะพี่ แล้วตอนนี้หลานอยู่ที่ไหนคะ คิดในแง่ดีบางทีหลานอาจจะไม่เป็นอะไรมากก็ได้" คำพูดของหญิงสาวเรียกสติได้ไม่น้อยบางทีลูกอาจไม่เป็นอะไร เหมือนที่ครั้งหนึ่งเคยเกิดอุบัติเหตุรถเฉี่ยวแล้วเด็กหญิงบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย มือเล็กตบหน้าตัวเองพยายามเรียกสติ..ไม่...ลูกสาวจะต้องไม่เป็นอะไร เธอลากน้องสามีไปโรงพยาบาลทันทีทางด้านภากร...ชายหนุ่มยังคงวุ่นวายกับคู่ค้าที่ยังตกลงข้อสัญญากันไม่ได้ แต่ถึงคนตรงหน้าจะสำคัญแค่ไหน..เสียงโทรศัพท์ที่เป็นเสียงเรียกเข้าเฉพาะของคนเป็นเมีย ย่อมสำคัญกว่า..ตั้งแต่ที่รู้จักกันมา ไม่มีครั้งไหนที่ไอ้ต้าวตัวโตไม่เคยไม่รับโทรศัพท์ แต่ยัยแบนตัวแสบก็ไม่ใข่ผู้หญิงที่ชอบโทรจิกสามี เว้นแต่มีเรื่องสำคัญจ