เมื่อป๊อบเห็นพิมกลับมา เขาก็ปลีกตัวออกจากกลุ่มนักเรียนแล้วเดินมาหาพิมพร้อมกับเอ่ยถามขึ้น
" พิมเขาทำอะไรคุณหรือเปล่า " พิมส่ายหน้าแล้วเอ่ย " ไม่ค่ะ " ป๊อบพยักหน้าแล้วเอ่ย " เช่นนั้นก็ดีแล้ว ปิดเทอมนี้เราก็ว่างบ้างแล้วเดี๋ยวผมจะให้เขาเซ็นหย่าให้คุณให้ได้ ต่อไปเขาจะได้ไม่ต้องมายุ่งวุ่นวายกับคุณอีก " พิมมองป๊อบด้วยสีหน้าเหนื่อยใจนึกถึงคำพูดของเตชินก่อนหน้านี้ เธอไม่อยากได้แล้วใบหย่า เธอจึงเอ่ยว่า " จะหย่าหรือไม่หย่าฉันไม่สนใจแล้วค่ะ แค่ใบหย่าใบเดียวไม่มีผลอะไรกับชีวิตฉันหรอกค่ะ ฉันไม่อยากข้องเกี่ยวกับเขาอีกแล้ว เราอย่าไปใส่ใจกับใบหย่านั่นอีกเลยค่ะ " " ก็ได้ครับ ไว้คุณคลอดลูกแล้วค่อยมาตัดสินใจอีกที " เขาก็ไม่อยากให้พิมติดอยู่กับสถานะสมรสนี้ เพราะเขาอยากจะจดทะเบียนสมรสกับเธอใช้ชีวิตฉันสามีภรรยาอย่างถูกต้อง เตชินเดินเข้ามาเห็นทั้งสองยืนคุยกันอยู่ เขาจึงเดินผ่านทั้งสองไป แล้วเดินไปยังกลุ่มของนักเรียนถ่ายรูปกับพวกเขา จากนั้นเขาก็เอ่ยถามเด็กนักเรียนว่า " เด็กๆพวกคุณปิดเทอมกันเมื่อไหร่ครับ " " พวกเราปิดเทอมแล้วครับ กลับไปพวกเราจะฉลองแชมป์ปิดเทอมกันครับ คุณเตชินไปฉลองกับพวกเรามั้ยครับ " " โอ้ว ดีจังเลย ดีใจด้วยได้แชมป์ปิดเทอมพอดี เสียดายไม่ได้ไปร่วมฉลองด้วยไว้โอกาสหน้านะครับ ผมยังมีธุระ ที่ต้องขอยืมตัวครูพิมของพวกคุณให้อยู่ต่อกรุงเทพอีกสักพัก พวกคุณจะโอเคมั้ย " " โอเคค่ะ/ โอเครับ " เด็กๆเอ่ยขึ้นพร้อมกันอย่างไม่คิดอะไร เตชินได้ยินดังนั้นก็ยิ้มขึ้นแล้วหันไปทางเทเท่แล้วเอ่ย " คุณเทเท่ฝากดูแลเด็กๆแทนคุณพิมด้วยนะครับ เธออาจจะต้องอยู่กับผมสักพัก " " เอ่อ ดะ...ได้...ได้ค่ะ " เทเท่เอ่ยตอบอย่างตะกุกตะกักยิ้มอย่างไม่เต็มหน้า เตชินยิ้มแล้วเอ่ย " ขอบคุณครับ " จากนั้นเตชินก็เดินเข้าไปหาพิมที่ยืนหันหลังให้ เขายื่นมือไปจับแขนของเธอแล้วเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ " ไปกับผม " พิมหันมามองเขาอย่างไม่พอใจ " ไปไหน? " แล้วเตชินก็หรี่ตาสายตาจ้องป๊อบอย่างดุดันแล้วเอ่ยเสียงเย็น " ฝากคุณพาเด็กๆกลับไปด้วยนะครับ คุณป๊อบ " " คุณจะพาพิมไปไหน " ป๊อบเอ่ยถามขึ้นเสียงเบาด้วยแววตาดุดัน " ผมต้องบอกแมวขโมยแบบคุณด้วยเหรอ เรื่องที่คุณทำภรรยาผมท้อง ผมยังไม่คิดบัญชีกับคุณเลย คุณเอาเวลาเตรียมตัวรับมือผมไว้จะดีกว่า " พิมจ้องเขม่นไปยังเตชินแล้วเอ่ยถามขึ้น " คุณเตชิน คุณพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง " เตชินเลื่อนสายตากลับมามองพิมแล้วเอ่ย " หมายความว่ายังไงน่ะเหรอ เดี๋ยวคุณก็รู้เอง " เอ่ยจบ เขาก็จับแขนพิมแน่นแล้วลากพิมออกไป ป๊อบจึงตัดสินใจไปยืนขวางเขาไว้ แล้วกัดฟันเอ่ยด้วยความโกรธ " คุณเตชินอย่าให้ผมรู้นะว่าคุณแตะต้องตัวคุณพิม ไม่งั้นผมจะไม่เกรงใจคุณแล้ว " เตชินยิ้มเยาะขึ้นที่มุมปากเอ่ยยั่วขึ้นอย่างท้าทาย " เหรอ คุณไม่ต้องเกรงใจหรอก เพราะผมเป็นสามีที่ต้องแตะต้องสัมผัสตัวภรรยาอยู่แล้ว " พิมมองตาเขียวใส่เตชินแล้วกัดฟันเอ่ยด้วยความโมโห " คุณพูดให้มันดีๆหน่อยนะ " เตชินมองเธอแล้วค้อมตัวลงมาเอ่ยกระซิบข้างหูเธอในขณะที่ยังจับแขนเธอแน่นไม่ให้ถอยห่างออกไปได้ " ผมพูดไม่ดีตรงไหน แต่คุณไม่ต้องกลัวหรอก เพราะผมจะยังไม่แตะต้องตัวคุณในขณะที่มารหัวขนนี่ยังอยู่ " ป๊อบโกรธจนมือไม้สั่นเกือบจะควบคุมตนเองไม่ได้แล้ว พิมเห็นดังนั้นเธอจึงเอ่ยกับเขาว่า " คุณป๊อบ คุณเคยรับปากฉันยังไงยังจำได้อยู่มั้ยคะ คุณไม่ต้องห่วงฉันค่ะ ฉันไม่มีทางยอมให้เขาทำอะไรฉันได้เด็ดขาด ฝากดูแลเด็กๆแทนฉันด้วยนะคะ " ได้ยินดังนั้นป๊อบจึงเอ่ยว่า " ผมเชื่อใจคุณนะพิม ดูแลตัวเองให้ดี เสร็จทางนี้แล้วผมจะไปพาคุณกลับ " " ค่ะ " พิมพยักหน้าแล้วเอ่ยตอบ เตชินเห็นดังนั้นก็ไม่ชอบใจแล้วเอ่ยขึ้น " พิมคุณอย่าทำเหมือนว่าผมพรากคุณไปจากเขาได้มั้ย " พิมยืนหน้านิ่งแล้วเอ่ย " แล้วมันใช่มั้ยล่ะ " ได้ยินดังนั้นเตชินก็ยิ่งรู้สึกโกรธและไม่พอใจ เขาจึงเอ่ยออกมาว่า " พิมคุณจะให้ผมประกาศให้ทุกคนรู้มั้ยว่าผมเป็นสามีที่ถูกต้องตามกฎหมาย " พิมหันไปมองเขาพร้อมกับกำมือแน่นด้วยความโกรธจัดอย่างไม่รู้ตัว จากนั้นเตชินก็ลากตัวเธอให้เดินไปที่รถทันที ป๊อบได้แต่มองตามแผ่นหลังของพิมด้วยความเจ็บใจที่ทำอะไรไม่ได้เพราะมีหน้าที่ เมื่อเตชินกับพิมไปแล้ว เทเท่จึงเดินเข้ามาหา ป๊อบแล้วเอ่ย " อาจารย์ป๊อบคะ เราพาเด็กๆกลับไปเก็บข้าวของแล้วกลับบ้านเลยดีมั้ยคะ ไหนๆก็ปิดเทอมแล้ว เรายังมีเวลาจัดการเรื่องอื่นอีกเยอะ คุณไม่ต้องห่วงพิมหรอกนะคะ เธอเป็นคนฉลาดเอาตัวรอดได้อยู่แล้ว อีกอย่างเธอท้องอยู่ คุณเตชินคงไม่ทำอะไรเธอหรอกค่ะ " ป๊อบหันมามองเทเท่แล้วถอนหายใจออกมาผ่อนคลายอารมณ์โกรธที่อัดอั้นในอกแล้วเอ่ยว่า " ครับ เราพาเด็กๆกลับกัน " จากนั้นเทเท่ก็หันไปพูดกับเด็กนักเรียนว่า " นักเรียนไป เรากลับไปเก็บของแล้วกลับบ้านกัน " " รับทราบครับ/ รับทราบค่ะ " เด็กๆเอ่ยตอบจากนั้นป๊อบกับเทเท่และครูผู้หญิงอีกสองคน ก็พาเด็กๆกลับออกไปจากสถานที่จัดการแข่งขัน บนรถหรู เตชินขับรถพาพิมกลับมาที่บ้าน พิมเอาแต่นั่งเงียบตลอดทาง เมื่อถึงบ้าน เตชินก็ลงจากรถ แล้วเดินมาเปิดประตูให้พิมพร้อมกับเอ่ยเสียงเย็น " ลงมา " พิมลงจากรถด้วยสีหน้าบึ้งตึงแล้วเอ่ยถามขึ้น " คุณจะให้ฉันนอนที่ไหน " เตชินหรี่ตามองเธอแล้วเอ่ย " มีมารหัวขนนี่คุณความจำเสื่อมเลยเหรอพิม ว่าคุณห้องนอนของคุณอยู่ไหน ดีเหมือนกันเมื่อมีมันแล้วทำให้คุณความจำเสื่อมพรุ่งนี้ผมจะพาคุณไปเอามันออก " พิมง้างมือตบ " เพี๊ยะ!!! " ลงบนใบหน้าของเตชินอย่างแรงแล้วเอ่ยเสียงกร้าวอย่างดุดัน " คุณสิเป็นมารหัวขน แม้เขาจะได้ได้เกิดมาจากความตั้งใจ แต่ฉันจะไม่ยอมให้คุณมาเรียกเขาแบบนั้นอีกและจะไม่ยอมให้คุณทำร้ายเขาเด็ดขาด " เตชินค่อยๆเลื่อนสายตากลับมามองพิมอย่างดุร้ายแล้วเอ่ยเสียงเย็น " คุณว่าไงนะ มารหัวขนนี่ไม่ได้เกิดมาจากความตั้งใจอย่างงั้นเหรอ มันบังคับขืนใจคุณอย่างงั้นเหรอ " พิมจ้องหน้าเขาอย่างโกรธเคืองแล้วเอ่ย " ใช่! มันบังคับขืนใจฉัน " เอ่ยจบเธอก็เดินเข้าไปในบ้านด้วยสีหน้าบูดบึ้ง ปล่อยให้เตชินยืนอยู่ตรงนั้นคนเดียว เธอหมายถึงเขานั่นแหละที่ขืนใจเธอ แต่เขากลับไม่รู้ตัวเลย และเธอเองก็ไม่รู้เลยว่าคำพูดของเธอ กำลังทำให้ป๊อบเดือดร้อน เพราะเตชินโกรธจนหน้ามืดตามัวและอาฆาตแค้นป๊อบอย่างมาก " ไอ้ป๊อบแกกล้ามากที่มาบังคับขืนใจภรรยาฉัน แกไม่ได้ตายดีแน่ " จากนั้นเขาก็เดินกลับเข้าไปในบ้าน แล้วเดินกลับขึ้นไปบนห้อง พอเข้าไปในห้องแล้วเขาก็หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรออกไปยังเบอร์ลูกน้องแล้วเอ่ย " พรุ่งนี้ทันทีที่ ผอ. ป๊อบ นั่นกลับมาถึงโรงเรียนก็ไปอุ้มตัวมันมาเลย ต้องทำยังไงคงไม่ต้องบอกนะ " " ครับ " จากนั้นเขาก็วางสายไป พิมที่กำลังออกจากห้องน้ำก็มาได้ยินเข้าเธอตกใจแล้วเอ่ยขึ้นเสียงกร้าว " คุณเตชิน คุณเป็นบ้าอะไรอีก คุณสั่งให้คนไปจับตัวคุณป๊อบทำไม ทำไมคุณถึงได้ทำตัวป่าเถื่อนแบบนี้ " เตชินหันมามองเธอด้วยแววตาแดงก่ำที่เต็มไปด้วยไฟโกรธแล้วเอ่ยอย่างดุร้าย " มันแตะต้องขืนใจคุณมันไม่สมควรจะมีชีวิตอยู่บนโลกนี้แล้ว " พิมได้ยินดังนั้นก็ตกใจมากขึ้นไปอีกแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงโมโห " เขาไม่ได้ขืนใจฉัน ฉันเต็มใจเอง " " พิม!!! " เตชินเอ่ยตะคอกชื่อพิมเสียงดังด้วยความโกรธ จากนั้นก็ไปลากตัวเธอมาแล้วผลักเธอลงบนเตียงอย่างแรง จนใบหน้าพิมบิดเบี้ยวด้วยความรู้สึกเจ็บท้อง " คุณพูดใหม่อีกทีสิพิม คุณเต็มใจให้มันใช่มั้ย " พิมจ้องหน้าเตชินแล้วเอ่ยด่าด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด " คุณเตชิน คุณมันก็ดีแต่ใช้กำลังอำนาจข่มเหงรังแกผู้อื่น คุณคิดว่าคุณทำแบบนี้แล้วฉันจะกลัวคุณเหรอ คุณคิดว่าทำแบบนี้แล้วฉันจะรักคุณ จะเต็มใจอยู่กับคนจิตใจอำมหิตบ้าอำนาจแบบคุณเหรอ " เตชินนิ่งอึ้งไปจับจ้องแววตาพิมสักพัก จากนั้นก็คว้าข้อมือพิมแล้วกระชากลากถูตัวเธอให้ไปกับเขาโดยไม่พูดไม่จา พิมเริ่มตระหนกในใจแล้วเอ่ยขึ้น " คุณจะพาฉันไป " เตชินไม่ตอบ แต่พาเธอออกจากบ้านลากแขนเธอไปที่รถแล้วเปิดประตูบังคับเธอขึ้นไป จากนั้นเขาก็สตาร์ทรถขับออกไปยังยังโรงพยาบาลทันที พอพิมเห็นโรงพยาบาล หน้าเธอก็ซีดทันที หันไปมองเขาแล้วเอ่ยถามอย่างหวาดกลัว " คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม คุณคิดจะทำอะไร " " ผมบอกแล้วว่าเก็บมารหัวขนนี่ไว้ไม่ได้ ไม่ว่ามันจะเกิดจากความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ มันก็ไม่ควรออกมาลืมตาดูโลก " พิมส่ายหน้าด้วยความหวาดกลัวน้ำตาเริ่มซึมออกมาแล้วเอามือมาจับท้องของตัวเองไว้ แล้วเธอก็เปิดประตูลงจากรถทันที เตชินรีบลงจากรถแล้วตามไปกระชากแขนเธอให้เธอเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนแล้วเอ่ยขึ้น " คุณไม่ต้องกลัว ถ้าคุณอยากได้ลูก ไว้ผมจะทำให้ใหม่ แต่คนนี้ไม่ใช่ลูกผม เก็บไว้ไม่ได้ " เอ่ยจบเขาก็อุ้มพิมขึ้นมาพาเธอเข้าไปในโรงพยาบาล" ไม่ได้นะคุณเตชิน คุณอย่าทำแบบนี้ ปล่อยฉันกับลูกไปเถอะนะ "พิมขอร้องอ้อนวอนให้เขาปล่อยเธอไม่หยุด แต่เขากลับนิ่งเฉย รตีลงจากรถแล้วแอบเดินถามเตชินเข้ามาในโรงพยาบาลก่อนหน้านี้เธอไปหาเตชินที่บ้าน เห็นเตชินขับรถออกจากบ้าน เธอจึงให้คนขับรถ ขับตามเตชินเธอใส่แว่นสีดำปกปิดดวงตาและใส่แมสก์ปกปิดหน้าเอาไว้ไม่ให้เตชินรู้ว่าเป็นเธอพิมที่อยู่ในอ้อมแขนของเตชินเธอทั้งตีทั้งข่วนเขาจนเธอน้ำตาไหลพรากแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครืออย่างจนปัญญาด้วยความหวาดกลัว" คุณเตชิน คุณจะฆ่าเขาไม่ได้ เขาเป็นลูกของคุณไม่ใช่ลูกของคุณป๊อบอย่างที่คุณเข้าใจ เขาเป็นลูกของคุณจริงๆ "ได้ยินดังนั้นเตชินก็หยุดชะงักไป รตีได้ยินก็ช็อกไปเช่นกัน แล้วแววตาของเธอก็กลายเป็นดุร้ายเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาเตชินมองหน้าพิมแล้วเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง" คุณพูดว่าไงนะ "พิมมองเขาแล้วเอ่ยเสียงสั่น" เขาเป็นลูกของคุณ คุณวางฉันลงก่อนได้มั้ยแล้วฉันจะอธิบายให้ฟัง "เตชินวางเธอลง พอเธอเป็นอิสระจากมือของเขาเธอก็วิ่งหนีไปทันทีเตชินเห็นเธอวิ่งหนีไปเขารู้สึกเจ็บใจมากที่ถูกหลอกจึงวิ่งตามเธอออกไปแล้วคว้าข้อมือเธอมาจับไว้นำตัวเธอกลับมาอีกครั้งพร้อ
ในห้องผ่าตัดหลังจากผ่าตัดเสร็จอยู่ๆพิมก็หยุดหายใจไป เนื่องจากเธอเสียเลือดมากและแท้งบุตรในขณะที่ประสบอุบัติเหตุทำให้ร่างกายไม่สามารถทนพิษบาดแผลไหวในตอนที่เธอยังมีลมหายใจโรยริน จิตสุดท้ายของเธอคล้ายกับรับรู้ได้ว่าตัวเองสูญเสียลูกไปแล้ว คลื่นความเศร้าโศกถาถมความเสียใจเข้ามาสาดใส่ ทำให้เธอไม่มีกำลังใจที่จะอยากมีชีวิตอยู่ต่อ เพราะเธอตั้งใจจะพาลูกของเธอหนีไปอยู่ในที่ปลอดภัย ไม่คิดว่าจะเป็นการพาเขามาตายจากแล้วหมอก็รีบทำการช่วยชีวิตเธออีกครั้งอย่างสุดความสามารถใช้เวลาอยู่นานเธอก็ไม่กลับมาหายใจ คลื่นหัวใจเป็นเส้นตรงไม่ขยับเขยื้อนเลยสีหน้าหมอแสดงถึงความจนปัญหาด้วยความผิดหวังแล้วเอ่ยเสียงเศร้า" แจ้งญาติคนไข้เถอะ "" ค่ะ "พยาบาลเอ่ยตอบแล้วเดินออกไปจากห้องผ่าตัด" ผ่าตัดเสร็จแล้วแท้ๆ ไม่คิดว่าคนไข้จะมาเสียชีวิตในขณะที่เราเพิ่งจะมีความหวังขึ้นมา "พยาบาลสาวคนหนึ่งเอ่ยอย่างผิดหวัง เพราะในตอนแรกพวกเขาก็ทำใจไว้แล้วว่าคนไข้อาจจะไม่รอดแต่พวกเขาต่างก็ตั้งใจช่วยชีวิตพิมอย่างสุดความสามารถมากจนเธอกลับมาหายใจอีกครั้งความจริงพิมหยุดหายใจตั้งแต่ตอนเกิดเหตุแล้วหมอจึงเอ่ยอย่างสุขุมว่า" บางทีจิตสุ
งานรับปริญญาถูกจัดขึ้นที่ จังหวัดเชียงใหม่ ภาคเหนือของประเทศไทยบรรยากาศดีมากอากาศหนาวเย็น ให้ความรู้สึกสดชื่นผู้คนเดินไปมาอย่างครึกครื้น เพื่อร่วมแสดงความยินดีกับบัณฑิตจบใหม่หลังจากที่เข้ารับปริญญาบัตรเสร็จเหล่าบัณฑิตก็ทยอยเดินออกมาจากหอประชุมแล้วมาถ่ายรูปร่วมเฟรมเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกกับกลุ่มเพื่อนและญาติพี่น้องรถหรูค่อยๆขับเข้ามาจอด จากนั้นคนในรถก็ยื่นเท้าลงมาเหยียบบนพื้นปรากฏรูปร่างสูงใหญ่ราวๆ185 ใบหน้าเรียคมสัน ดั้งจมูกโด่ง ริมฝีปากได้รูป ดูหล่อเหลาไร้ที่ติมาในชุดสูทสีขาว แล้วเดินเข้าไปหากลุ่มแก๊งของบัณฑิตสาวหน้าใสที่กำลังถ่ายรูปกันอยู่ในมือเขา ถือช่อดอกไม้ราคาแพงกับตุ๊กตาหมีสีขาวหูชมพูอุ้งเท้าชมพู เดินตรงไปยังบัณฑิตสาวหน้าใสคนหนึ่งแล้วยื่นช่อดอกไม้กับตุ๊กตาหมีไปให้เธอ พร้อมกับเอ่ย" ยินดีด้วยนะพิม เรียนจบแล้วขอให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานนะ "คนได้รับช่อดอกไม้ถึงกับตะลึง อึ้งไป หัวใจเธอเต้นไม่เป็นจังหวะแล้วเพราะคนตรงหน้าของเธอคือ อาจารย์หนุ่มสุดหล่อ ที่เพิ่งจบปริญญาโทมาหมาดๆเป็นคนที่เพื่อนร่วมห้องไม่ว่าจะสาวแท้สาวเทียมหรือเก้งกวางต่างพากันกรี๊ดกร๊าดในความหล่อ
ในหัวสมองของพิม มีแต่เรื่องของเงินๆๆแล้วก็เงิน เธอกำลังคิดว่าถ้าเธอทำงานได้หนึ่งปี เธอก็จะมีเงินเก็บถึงสองแสน สี่หมื่นบาทเมื่อกินอยู่กับเขาหมด หักค่าใช้จ่ายส่วนตัวไป ก็จะเหลือเก็บ สองแสนเธออายุยี่สิบสาม เธอจะต้องมีรถก่อนจากนั้นค่อยเก็บเงินซื้อที่ดิน แล้วก็เก็บเงินซื้อบ้านคิดได้ดังนั้นเธอก็ลุกมานั่งอีกครั้งแล้วพึมพำกับตัวเอง" อันดับแรกต้องเก็บเงินซื้อรถก่อน รถคันละแป็ดแสน เป็นแม่บ้านสักสี่ปี พอได้รถแล้วค่อยกลับมาทำอาชีพที่เรียนมา ก็ไม่สาย ทำไงได้ ก็เกิดมาจนทำไมล่ะในเมื่อเลือกเกิดไม่ได้ ก็เลือกที่จะเดิน เลือกที่จะเก็บหอมรอมริบได้หนิเน้อ "แล้วเธอก็เดินไปนั่งหน้าโน๊ตบุ๊คอีกครั้ง พ่นลมหายใจออกมาทางปาก แล้ววางมือลงบนแป้นพิมพ์ ตัดสินใจสมัครเป็นแม่บ้านคลิกไปยังเจ้าของโพส ทักเข้าไปในแชทของผู้โพสโดยพิมพ์ว่า( สวัสดีค่ะ ดิฉันสนใจงานแม่บ้านที่คุณประกาศรับสมัครค่ะ ฉันมีคุณสมบัติครบตามที่คุณต้องการเลยเป็นคนไทยแท้ ไม่มีประวัติอาชญากรรม เรียนจบมัธยมปลาย ถนัดทำงานบ้านและเคยทำงานบ้านมาแล้ว อายุยี่สิบสามปี หากคุณยังไม่ได้คน โปรดรับดิฉันไว้พิจารณาด้วยคนนะคะ แต่ขอบอกไว้ก่อนเลย ถ้าคุณมอง
ผู้ช่วยคังนั่งดูรูปผู้สมัครแต่ละคนอย่างตั้งใจเพราะเขาไม่รู้ว่าคุณชายของเขาต้องการแม่บ้านแบบไหน เขาจึงต้องคัดหลายรอยเพื่อเลือกคนที่ดีที่สุดให้คุณชายเขาและพิจารณาในหลายๆด้าน" คนนี้อ้วนไป "กดเลื่อนผ่าน" คนนี้ขี้เหร่ไป เดี๋ยวจะทำให้คุณชายไม่สบายตาเอาได้ "" คนนี้สวยดี หน้าตาใช้ได้ แต่ดูแล้วคงมีแต่จะทำให้คุณชายหงุดหงิดใจ "" คนนี้รูปร่างหน้าตาใช้ได้เลย แต่แต่งตัวไปหน่อย ใช่มาสมัครงานแม่บ้านมั้ยเนี่ย "" คนนี้ก็หน้าตาใช้ได้ดูสบายตาดี แต่โหงวเฮ้งบนใบหน้ายังไม่ผ่าน "สุดท้ายเลื่อนมาถึงข้อความของพิม ทำเอาเขาถึงกับขมวดคิ้วด้วยความสงสัยเมื่ออ่านเนื้อหาข้อความก็เกิดสนใจจนเผลอยิ้มออกมาแล้วเอ่ย" นี่ตั้งใจมาสมัครงานมั้ย รูปที่เห็นหน้าชัดๆก็ไม่แนบมา แต่ดูจากเนื้อหาข้อความแล้ว คงจะเป็นคนมีอารมณ์ขัน ดูซื่อตรงดีเอาเธอแล้วกัน ดูสิว่าจะเก่งอย่างที่คุยโม้ไว้หรือเปล่า "แล้วเขาก็พิมพ์ข้อความส่งไปหาพิมว่า( ผมรับคุณเข้าทำงาน พรุ่งนี้เริ่มงานได้เลย )พิมนั่งอ่านข้อความที่ผู้ช่วยคังส่งมาด้วยความงงแล้วเอ่ย" ไว้ใจได้หรือเปล่าเนี่ย ไม่สัมภาษณ์แต่รับเข้าทำงานเลย แบบนี้ก็มีด้วยเหรอ "เพราะเกิดมาเธอไม่เคยเ
ในเช้าวันต่อมา เมื่อเตชินเข้าไปในบริษัท ผู้ช่วยคังก็เข้ามา แล้วรายงานเวลาการประชุมของวันนี้" คุณชาย วันนี้เก้าโมงตรง มีประชุมผู้ถือหุ้น และในตอนบ่าย มีประชุมเกี่ยวกับโครงการใหม่ครับ "เตชินหูฟังตาดู สายตาเขาให้ความสนใจกับเอกสารที่อยู่ในมือเพราะเป็นงานที่เขาต้องตรวจดูอย่างละเอียดก่อนจะจรดปลายปากกาเซ็นชื่อลงไปเมื่อผู้ช่วยรายงานเสร็จเขาเอ่ยตอบผู้ช่วยคังเพียงสั้นๆว่า" อืม " แล้วผู้ช่วยคังก็หันหลังเดินออกไป เตชินเป็นคนที่ละเอียดยิบเคร่งกฎระเบียบของบริษัทพนักงานจึงรู้สึกยำเกรงเมื่อเจอเขา ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะยืนชื่นชมความหล่อบนใบหน้าของเขาเลยสายตาดุจพญาเหยี่ยว ที่สามารถมองเห็นความผิดพลาดเล็กน้อยได้ในระยะไกลทำให้พนักงานต่างก็ต้องเนี๊ยบตั้งใจทำงานเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดเพราะบริษัทนี้ไม่มีโอกาสให้ผิดพลาดได้แม้แต่ครั้งเดียวแต่พนักงานทุกคนกลับยินดีและภาคภูมิใจที่ได้เข้ามาทำงานในบริษัทแห่งนี้นอกจากจะได้เงินเดือนสูงแล้วเมื่อลาออกไป แล้วไปสมัครงานที่บริษัทอื่นเมื่อเขาเห็นประวัติว่าเป็นพนักงานเก่าจากบริษัทของเตชินทุกบริษัทต่างอ้าแขนรับเพราะพนักงานบริษัททุกคนล้วนคัดจากคนเก่งๆหัวกะทิ ท
เมื่อได้ยินคำพูดของณัชชา เตชินก็หยุดนิ่งยกยิ้มขึ้นที่มุมปากอย่างเย้ยหยันแล้วหันมามองณัชชาด้วยแววตาดูถูกเหยียดหยามอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเขาค่อยๆเดินเข้ามาหาณัชชาอย่างช้าๆราวกับราชสีห์กำลังข่มขวัญศัตรูอยู่จนทำให้ณัชชารู้สึกเสียใจขึ้นมาที่สติหลุดเผลอพูดออกไปแบบนั้นเขาเดินเข้ามาใกล้เธอ แล้วเอ่ยเสียงเย็นเบาพอได้ยินแค่สองคนด้วยน้ำเสียงราวกับปีศาจร้าย" ณัชชา เธอโตมากับฉัน เธอคิดอะไร นิสัยยังไง อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ การหมั้นที่ไร้สาระครั้งนี้ ใช่แผนการของเธอหรือเปล่า จุดประสงค์เธอคืออะไร ถูกบังคับหรือเปล่านั้นไม่ต้องมาบอกฉันเธอรู้ดีที่สุด อย่าทำให้ฉันหมดความอดทนกับเธอจะดีกว่า "เมื่อได้ยินดังนั้น ณัชชาถึงกับอึ้งไป จนพูดไม่ออก ราวกับถูกตบหน้าแรงๆจนหูอื้อ แววตาเบิกกว้างด้วยความกลัวเธอไม่คิดว่าเตชินจะมองทุกอย่างออกขนาดนี้แต่เมื่อความลับในใจถูกเปิดเผย เธอก็ไม่มีทางเลือกแล้วก็ไม่จำเป็นต้องซ่อนความรู้สึกอีกต่อไปเธอยิ้มขึ้นที่มุมปาก แววตาร้ายกาจ จ้องเตชินอย่างไม่กะพริบแล้วเอ่ยอย่างทะนงตนว่า" ในเมื่อพี่รู้หมดแล้ว ก็ดีค่ะ ต่อไปฉันจะได้ไม่ต้องมากังวลซ่อนความรู้สึกอีก ฉันเป็นคนสำคัญคนห
เมื่อกำหนดการมาถึง เตชินก็ต้องยอมแต่งงานกับณัชชาอย่างจำใจงานแต่งงานถูกจัดขึ้นในโรงแรมอย่างหรูหรา แต่แขกที่เชิญมามีแค่ญาติพี่น้องและเพื่อนสนิทเท่านั้นยิ่งไปกว่านั้นไม่มีเพื่อนของทางฝั่งเจ้าบ่าวเลยสักคน มีเพียงผู้ช่วยคังที่ต้องรับบทเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวในงานผู้คนที่มางานต่างพกรอยยิ้มมาด้วยความชื่นมื่น แต่เตชินกลับนิ่งเงียบแววตาเย็นชาราวกับคนไร้ความรู้สึกณัชชารู้สึกเหมือนเตชินไม่ให้เกียรติและรู้สึกไม่ดีเอามากๆเพราะเกรงแขกในงานจะเอาไปเมาท์สนุกปากเธอจึงกระซิบกับเขาว่า" วันนี้เป็นวันแต่งงานของเรา พี่ช่วยฝืนทำหน้าให้เป็นปกติหน่อยได้มั้ยคะ ขอร้องล่ะ "เตชินยิ้มร้าย มองมายังเธอแล้วเอ่ย" คุณหนูณัชชาอายเป็นด้วยเหรอ กลัวคนรู้หรือไงว่าผมไม่เต็มใจที่จะแต่งงานกับคุณถึงกับต้องเอ่ยขอร้อง ความจริงผมมาแต่งงานให้เป็นบุญแค่ไหนแล้วไม่แน่ผมอาจจะเปลี่ยนใจทิ้งเจ้าสาวกลางงานก็ได้ หลังจากที่ได้บอกความจริงสาเหตุที่ต้องมาแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่ได้รักอย่างคุณ "เอ่ยจบเขาก็โชว์เครื่องบันทึกเสียงให้ณัชชาดูแล้วชี้ไปยังพนักงานคนหนึ่งที่กำลังเดินไปที่หลังเวทีกำลังเข้าไปในห้องควบคุมเครื่องเสียงแล้วเขาก็เอ
ในห้องผ่าตัดหลังจากผ่าตัดเสร็จอยู่ๆพิมก็หยุดหายใจไป เนื่องจากเธอเสียเลือดมากและแท้งบุตรในขณะที่ประสบอุบัติเหตุทำให้ร่างกายไม่สามารถทนพิษบาดแผลไหวในตอนที่เธอยังมีลมหายใจโรยริน จิตสุดท้ายของเธอคล้ายกับรับรู้ได้ว่าตัวเองสูญเสียลูกไปแล้ว คลื่นความเศร้าโศกถาถมความเสียใจเข้ามาสาดใส่ ทำให้เธอไม่มีกำลังใจที่จะอยากมีชีวิตอยู่ต่อ เพราะเธอตั้งใจจะพาลูกของเธอหนีไปอยู่ในที่ปลอดภัย ไม่คิดว่าจะเป็นการพาเขามาตายจากแล้วหมอก็รีบทำการช่วยชีวิตเธออีกครั้งอย่างสุดความสามารถใช้เวลาอยู่นานเธอก็ไม่กลับมาหายใจ คลื่นหัวใจเป็นเส้นตรงไม่ขยับเขยื้อนเลยสีหน้าหมอแสดงถึงความจนปัญหาด้วยความผิดหวังแล้วเอ่ยเสียงเศร้า" แจ้งญาติคนไข้เถอะ "" ค่ะ "พยาบาลเอ่ยตอบแล้วเดินออกไปจากห้องผ่าตัด" ผ่าตัดเสร็จแล้วแท้ๆ ไม่คิดว่าคนไข้จะมาเสียชีวิตในขณะที่เราเพิ่งจะมีความหวังขึ้นมา "พยาบาลสาวคนหนึ่งเอ่ยอย่างผิดหวัง เพราะในตอนแรกพวกเขาก็ทำใจไว้แล้วว่าคนไข้อาจจะไม่รอดแต่พวกเขาต่างก็ตั้งใจช่วยชีวิตพิมอย่างสุดความสามารถมากจนเธอกลับมาหายใจอีกครั้งความจริงพิมหยุดหายใจตั้งแต่ตอนเกิดเหตุแล้วหมอจึงเอ่ยอย่างสุขุมว่า" บางทีจิตสุ
" ไม่ได้นะคุณเตชิน คุณอย่าทำแบบนี้ ปล่อยฉันกับลูกไปเถอะนะ "พิมขอร้องอ้อนวอนให้เขาปล่อยเธอไม่หยุด แต่เขากลับนิ่งเฉย รตีลงจากรถแล้วแอบเดินถามเตชินเข้ามาในโรงพยาบาลก่อนหน้านี้เธอไปหาเตชินที่บ้าน เห็นเตชินขับรถออกจากบ้าน เธอจึงให้คนขับรถ ขับตามเตชินเธอใส่แว่นสีดำปกปิดดวงตาและใส่แมสก์ปกปิดหน้าเอาไว้ไม่ให้เตชินรู้ว่าเป็นเธอพิมที่อยู่ในอ้อมแขนของเตชินเธอทั้งตีทั้งข่วนเขาจนเธอน้ำตาไหลพรากแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครืออย่างจนปัญญาด้วยความหวาดกลัว" คุณเตชิน คุณจะฆ่าเขาไม่ได้ เขาเป็นลูกของคุณไม่ใช่ลูกของคุณป๊อบอย่างที่คุณเข้าใจ เขาเป็นลูกของคุณจริงๆ "ได้ยินดังนั้นเตชินก็หยุดชะงักไป รตีได้ยินก็ช็อกไปเช่นกัน แล้วแววตาของเธอก็กลายเป็นดุร้ายเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาเตชินมองหน้าพิมแล้วเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง" คุณพูดว่าไงนะ "พิมมองเขาแล้วเอ่ยเสียงสั่น" เขาเป็นลูกของคุณ คุณวางฉันลงก่อนได้มั้ยแล้วฉันจะอธิบายให้ฟัง "เตชินวางเธอลง พอเธอเป็นอิสระจากมือของเขาเธอก็วิ่งหนีไปทันทีเตชินเห็นเธอวิ่งหนีไปเขารู้สึกเจ็บใจมากที่ถูกหลอกจึงวิ่งตามเธอออกไปแล้วคว้าข้อมือเธอมาจับไว้นำตัวเธอกลับมาอีกครั้งพร้อ
เมื่อป๊อบเห็นพิมกลับมา เขาก็ปลีกตัวออกจากกลุ่มนักเรียนแล้วเดินมาหาพิมพร้อมกับเอ่ยถามขึ้น" พิมเขาทำอะไรคุณหรือเปล่า "พิมส่ายหน้าแล้วเอ่ย" ไม่ค่ะ "ป๊อบพยักหน้าแล้วเอ่ย" เช่นนั้นก็ดีแล้ว ปิดเทอมนี้เราก็ว่างบ้างแล้วเดี๋ยวผมจะให้เขาเซ็นหย่าให้คุณให้ได้ ต่อไปเขาจะได้ไม่ต้องมายุ่งวุ่นวายกับคุณอีก "พิมมองป๊อบด้วยสีหน้าเหนื่อยใจนึกถึงคำพูดของเตชินก่อนหน้านี้เธอไม่อยากได้แล้วใบหย่า เธอจึงเอ่ยว่า" จะหย่าหรือไม่หย่าฉันไม่สนใจแล้วค่ะ แค่ใบหย่าใบเดียวไม่มีผลอะไรกับชีวิตฉันหรอกค่ะ ฉันไม่อยากข้องเกี่ยวกับเขาอีกแล้วเราอย่าไปใส่ใจกับใบหย่านั่นอีกเลยค่ะ "" ก็ได้ครับ ไว้คุณคลอดลูกแล้วค่อยมาตัดสินใจอีกที "เขาก็ไม่อยากให้พิมติดอยู่กับสถานะสมรสนี้เพราะเขาอยากจะจดทะเบียนสมรสกับเธอใช้ชีวิตฉันสามีภรรยาอย่างถูกต้องเตชินเดินเข้ามาเห็นทั้งสองยืนคุยกันอยู่ เขาจึงเดินผ่านทั้งสองไป แล้วเดินไปยังกลุ่มของนักเรียนถ่ายรูปกับพวกเขา จากนั้นเขาก็เอ่ยถามเด็กนักเรียนว่า" เด็กๆพวกคุณปิดเทอมกันเมื่อไหร่ครับ "" พวกเราปิดเทอมแล้วครับ กลับไปพวกเราจะฉลองแชมป์ปิดเทอมกันครับ คุณเตชินไปฉลองกับพวกเรามั้ยครับ "" โอ้ว
เตชินลากพิมมาที่รถ จากนั้นก็เปิดประตูให้เธอขึ้นไปบนรถ พิมทำตามที่เขาต้องการโดยไม่บ่นอะไรแล้วเตชินก็เข้าไปนั่งข้างๆเธอพร้อมกับเอ่ยถามขึ้นอย่างไม่รีรออีกต่อไป" เด็กในท้องเป็นลูกของใคร "พิมกระเถิบห่างออกไปอย่างระมัดระหวังพร้อมกับเอามือจับท้องของตัวเองไว้แล้วมองเตชินอย่างดุดันด้วยแววตาสู้คนเมื่อเตชินเลื่อนสายตามาจับจ้องท้องของเธอ[ เตชินถามแบบนี้หมายความว่ายังไง หรือเขาจะสงสัยว่าเด็กในท้องเป็นลูกของเขากันนะ ]เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอจึงลองถามหยั่งเชิงดู" เขาก็เป็นลูกของคนที่คุณคิดไง แล้วคุณคิดว่าเขาเป็นลูกใครล่ะ "เธอไม่รู้หรอกว่าเตชินคิดว่าเด็กในท้องเป็นลูกของป๊อบ เธอแค่อยากรู้ความคิดของเขา จึงพูดออกไปแบบนั้นเธอคิดว่าถ้าเขาบอกว่าเด็กในท้องเป็นลูกเขาเธอก็จะได้ปฏิเสธอย่างไม่น่าสงสัยแต่เมื่อเตชินได้ยินเธอพูดดังนั้น เขากลับรู้สึกเหมือนถูกเธอตบหน้าแรงๆ แล้วให้คำตอบอย่างเยาะเย้ยแต่เขาก็พยายามปฏิเสธความคิดของตัวเอง พยายามคิดว่าเด็กในท้องไม่ใช่ลูกของป๊อบแต่เป็นลูกของเขา แต่การคิดแบบนี้ กับระยะเวลาที่ไม่ได้เจอพิมบวกกับภาพความสนิทสนมชิดใกล้กันของพิมกับป๊อบทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังหลอกต
" สวัสดีค่ะคุณป๊อบ คุณพิม คุณเทเท่ "ณัชชาเอ่ยทักขึ้น เทเท่ยิ้มแล้วสวัสดีกลับ" สวัสดีค่ะคุณณัชชาไม่คิดว่าจะได้เจอกันที่นี่ "แล้วป๊อบก็หันมาพร้อมกับเอ่ย" คุณณัชชารู้ได้ยังไงครับว่าวันนี้เรามีแข่งที่นี่ "ป๊อบแค่ถามไปตามมารยาทของคนรู้จักกันส่วนพิมแค่หันมามองแล้วหันกลับไปสนใจเด็กของตัวเองต่อเมื่อทีมก่อนหน้าแข่งจบลง พิธีกรบนเวทีก็เอ่ยขึ้น" จบลงไปแล้วนะคะ ทีม SS ตัวแทนจากภาคใต้ ต่อไปจะเป็นทีม JK ตัวแทนจากภาคเหนือค่ะ ขอให้ทีม JK เตรียมตัวเลยนะคะ ในปีนี้ต้องบอกเลยว่าแต่ละทีมนั้น ทำให้คณะกรรมการของเราหนักใจมากเลยทีเดียว "" ใช่แล้วครับ ในตอนนี้ทีม JK คงจะพร้อมกันแล้วต่อไปเชิญพบกับทีม JK ตัวแทนจากภาคเหนือได้เลยครับ "พิมเรียกนักเรียนให้มายืนเป็นวงหันหน้าเข้าหากันจากนั้นเธอก็แบมือแล้วคว่ำฝ่ามือลงยื่นแขนออกไปข้างหน้า เทเท่ก็วางฝ่ามือทับซ้อนลงบนหลังมือเธอแล้วนักเรียนก็วางมือทับต่อๆกัน" ขอให้พวกเราตั้งใจทำให้ดีที่สุด เพื่อคว้าชัยชนะที่อยู่แค่เอื้อม สู้มั้ย! "" สู้!!! "พิมเอ่ยกระตุ้นสร้างกำลังใจให้นักเรียนมีใจฮึกเหิม แล้วทุกคนก็เก็บมือเตรียมตัว จากนั้นก็เดินขึ้นไปบนเวทีจากนั้นทีมขอ
พิมกับเทเท่นัดแนะกับเด็กในห้องนาฏศิลป์ แล้วแจกใบขออนุญาตเดินทางไปแข่งขัน ให้กับนักเรียนทุกคน ให้เอาไปให้ผู้ปกครองเซ็นอนุญาตยินยอม จากนั้น พิมก็เริ่มเอ่ยกับนักเรียนของตัวเองว่า" นักเรียนคะ พรุ่งนี้เราจะเดินทางไปแข่งที่กรุงเทพแล้ว วันนี้ซ้อมแค่รอบเดียวพอแล้วเก็บแรงไว้เดินทางพรุ่งนี้ จำไว้ว่าเราเป็นตัวแทนของภาคขอให้เราตั้งใจทุ่มเททำให้ดีที่สุดจะได้ไม่เสียใจภายหลัง แต่สิ่งสำคัญคือ เราอย่าลืม ว่ากว่าแต่ละทีมจะมาถึงจุดนี้ได้ทุกทีมล้วนเป็นคู่แข่งที่เก่งและน่ากลัว ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีที่สุดทุกทีมเราจะประมาทหรือเหลิงโอ้อวดว่าเราเก่งเหนือคนอื่นไม่ได้ในโลกนี้ ในประเทศนี้ยังมีคนที่เก่งกว่าเราอีกตั้งมากมาย ไม่ว่าเราจะได้แชมป์หรือไม่ก็อย่าไปท้อแท้น้อยใจหรือเสียใจเด็ดขาดขอให้เรายอมรับและแสดงความยินดีกับคนที่ได้แชมป์อย่างจริงใจครูเชื่อว่าทุกความตั้งใจทุกความสามัคคีจะนำเราไปสู่ความสำเร็จขอให้เราตั้งใจทำให้เต็มที่ ทำให้สุดกำลังความสามารถเข้าใจมั้ยคะ "" เข้าใจค่ะ/ เข้าใจครับ "นักเรียนทุกคนตอบรับอย่างพร้อมเพรียมเสียงดังชัดเจน แล้วเทเท่ก็นัดแนะเวลามาขึ้นรถที่โรงเรียนต่อ" แล้วพรุ่งนี้นะคะ
บ้านพักครูเป็นบ้านปูนเล็กๆมีเพียงสองห้องนอนหนึ่งห้องน้ำ ตอนกลางคืน ณัชชากับเทเท่ก็ปูเสื่อนอนหน้าทีวี ในห้องที่จัดเป็นห้องนั่งเล่น อยู่ติดกับบันไดที่จะขึ้นไปชั้นสองเมื่อทุกคนเข้านอนแล้วบรรยากาศกลางดึกที่เงียบสงบ เทเท่ก็ลุกขึ้นมา ยื่นมือไปลูบไล้เรียวขาของณัชชาด้วยความหื่นกระหายเขาลูบไล้ขึ้นลงได้สักพัก ณัชชาก็เริ่มรู้สึกตัวเพราะรับรู้ได้ถึงสิ่งผิดปกติเธอค่อยๆขยับแพขนตาแล้วลืมตาขึ้นช้าๆอย่างงัวเงียเทเท่เห็นว่าเธอรู้สึกตัวแล้วเขาก็ขึ้นคร่อมบนตัวเธอทันทีแล้วจับมือเธอไว้ ก้มหน้าลงจูบไปตามคอพร้อมกับเอ่ยเสียงกระเส่า" คุณณัชชาผมต้องการคุณ ผมอดใจไม่ไหวแล้ว ฮอร์โมนส์เพศชายของผมมันกำเริบอีกแล้ว ผมต้องการคุณ "ทีแรกณัชชายังงงๆอยู่ว่าเทเท่คิดจะเล่นอะไร พอได้สติ เธอก็กรีดร้องขึ้นดิ้นรนขัดขืนอย่างสุดชีวิต" กรี๊ด!...ช่วยด้วยๆ ไอ้บ้าออกไปจากตัวฉันนะ ออกไป กรี๊ด... "" ไม่แน่นอนครับ ตอนนี้ฮอร์โมนส์เพศชายของผมมันกำลังคุกรุ่นต้องการร่างกายผู้หญิง "เทเท่เอ่ยพร้อมกับมองหน้าณัชชาด้วยสีหน้าหื่นกระหาย" กรี๊ด...ไม่เอาๆ ปล่อย ไอ้เทเท่ ไอ้บ้า ออกไปจากตัวฉัน ออกไป "แววตาณัชชากลัวจนสั่นไหว เธอกลัวจนหน้าข
ในเช้าวันต่อมา ขณะที่พิมกำลังสอนอยู่ ก็มีเพื่อนครูคนหนึ่งเดินมาบอกว่า" ครูพิมจ๊ะ มีคนมาหาครูพิมจ้ะ ตอนนี้รออยู่ที่หน้าบ้านพักครูพิมแล้ว "" อ้อ ค่ะ "พิมเอ่ยตอบ แล้วแอบพึมพำในใจ[ ใครกันที่มาหาเรา ช่างเถอะให้รอไปก่อนเดี๋ยวค่อยไปดู ]จากนั้นเธอก็หันมาสอนนักเรียนต่อ พอหมดคาบเรียน เธอก็เดินกลับไปที่บ้านพักเห็นหญิงสาวรูปร่างดีนั่งหันหลังให้เธอบนโต๊ะหินอ่อนหน้าบ้านพัก[ ใครกัน? ]เธอเดินเข้าไปใกล้แล้วเอ่ยถามขึ้น" คุณมาขอพบฉัน มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ "ณัชชาหันหน้ามามองเธอแล้วยิ้มขึ้นพร้อมกับเอ่ย" เซอร์ไพรส์ค่ะ คุณพิม "เมื่อเห็นว่าเป็นณัชชาเธอก็รู้สึกแปลกใจจนแสดงออกมาทางสีหน้าและแววตา แล้วเอ่ยถามขึ้น" คุณณัชชา! คุณมาทำอะไรที่นี่ "ไม่ต้องถามก็รู้ว่าณัชชารู้ที่อยู่เธอได้ยังไง เพราะเธอรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นเตชินส่งมาแน่ๆแต่เธอก็ไม่ได้กังวลอะไร เพราะคิดว่าอย่างน้อยดีกว่าเตชินมาเอง เธอแค่อยากรู้ว่าณัชชามาด้วยจุดประสงค์อะไรก็เท่านั้นณัชชาได้ยินพิมยิงคำถามมาแบบนี้ เธอจึงลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ย" ฉันมาเที่ยวน่ะ แล้วรู้มาจากพี่เตชินว่าคุณสอนอยู่ที่โรงเรียนนี้ เลยอยากจะแวะมาทักทาย ขอค้างคืนด้วยสั
ป๊อบพาพิมกลับมานอนพักบนบ้านพัก เขาค่อยๆประคองเธอขึ้นห้องไปอย่างช้าๆเมื่อเข้าไปในห้องเขาก็ประคองเธอไปที่เตียงแล้วพิมก็ขึ้นไปนอนบนเตียงป๊อบเป็นห่วงเธอมาก เพราะเธอพักบ้านพักครูคนเดียวเขาจึงเอ่ยว่า" คืนนี้ผมจะมานอนเป็นเพื่อนคุณนะ "" ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พิมอยู่คนเดียวได้ หากคุณมาอยู่ดูแลพิม เดี๋ยวคนอื่นจะมองไม่ดี จะพากันเข้าใจผิดกันไปใหญ่ "พิมรีบปฏิเสธ เพราะเธอแคร์สายตาและแคร์ความคิดของสังคมภายนอก มากกว่าความความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นภายในกายของตนเองอาจจะเป็นเพราะเธอถูกเลี้ยงมาแบบนี้ อยู่ในสังคมที่แคร์คนอื่น เธอจึงวางตัวดีมาเสมอและไม่ทำให้ตัวเองเสียชื่อเสียงเหมือนที่พ่อแม่เธอสอนไว้ว่า" ให้เป็นคนดี เป็นที่นับถือ ยำเกรง ทำอะไรคิดไตร่ตรองให้รอบคอบ อย่าทำตัวให้เป็นที่ครหานินทา "ป๊อบมองเธอแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มพร้อมกับจัดผ้าห่มมาห่มให้เธออย่างดี" พิมเวลานี้คุณไม่ควรแคร์คนอื่นนะ คุณต้องห่วงสุขภาพตัวเองกับลูกในท้องก่อนการที่ผมมาดูแลคุณแล้วเป็นที่ครหา ผมว่าดีซะอีก คนอื่นจะได้รู้ว่าคุณท้องลูกของผมอยู่ "พิมจ้องหน้าป๊อบที่คิดวางแผนเพื่อปกป้องเธอไม่ให้ถูกคนอื่นกล่าวหาว่าท้องไม่มีพ่อแ