“หากเจ้ามีชีวิตรอดกลับมา ข้ารับปากเจ้า จะพบหน้าเจ้า!”จ้านเฉิงอิ้นฉีกยิ้ม น้ำเสียงไม่เคร่งขรึมหรือเศร้าโศกอีกเขาดีใจ น้ำเสียงใสและร่าเริง “ท่านเทพ ท่านตกลงแล้ว?”“ใช่ ข้าตกลงแล้ว!”“ข้าจะมีชีวิตรอดให้ได้ ต้องมีชีวิตรอด!”“ดี ข้าจะรอเจ้า พวกเจ้าจะไปรบแล้ว มีอะไรที่ข้าช่วยได้บ้าง?”“ไม่ต้องแล้วขอรับท่านเทพ ที่ท่านช่วยได้ก็ช่วยแล้ว ตอนนี้เหลือเพียงพวกข้าต้องพึ่งตัวเองเท่านั้น!”“ท่านรอข่าวดีจากข้าได้เลย ไม่ว่าจะต้องข้ามภูเขา แม่น้ำ ทะเลสาบหรือมหาสมุทร ห่างกันหมื่นปี ข้าก็จะไปเจอท่านให้ได้!”เย่มู่มู่เช็ดน้ำตาที่ขอบตา พร้อมฉีกยิ้มอย่างความโศกเศร้ากลายเป็นความสุข “ข้าจะรอเจ้ากลับมา!”“กองทัพมารวมตัวกันแล้ว ข้าเตรียมตัวจะออกเดินทางแล้ว ท่านเทพไว้เจอกันนะขอรับ!”มือของเย่มู่มู่ลูบแจกัน “เจอกัน จ้านเฉิงอิ้น!”หลังจากนั้น ในใจของเธอมีเสียงเต้นตึกตักเล็ก ๆ ขึ้นมาเสียงหนึ่ง“ต้องกลับมาอย่างปลอดภัยนะ!”จนกระทั่ง ไม่ได้ยินเสียงอะไรอีก เย่มู่มู่ก็รู้ทันทีว่าจ้านเฉิงอิ้นไปแล้ว!ไม่รู้ว่าผู้ใดถือแจกันเอาไว้เขาจะต้องปลอดภัย!ในจังหวะนี้เอง มีเสียงความเคลื่อนไหวอยู่ในแจกัน จากนั้นก็มีก
“คุณก็บอกไปว่าส่งไปเมืองนอกไม่ได้เหรอ?”เถ้าแก่ “...”ครั้นเย่มู่มู่เห็นเถ้าแก่ไม่ยอมผ่อนปรนให้ ก็กล่าวขึ้นมาอีกว่า “หกพัน หกพันกระบอกได้แล้วใช่ไหมคะ? ฉันจะจ่ายตามราคาครั้งที่แล้ว ราคาขายของคุณเป็นสองเท่า ฉันต้องการเร่งด่วน คุณว่ามาเถอะค่ะ ออเดอร์นี้จะดีลไหมคะ?”เถ้าแก่ไม่หวั่นไหวคงเป็นเรื่องโกหกหกพันกระบอก ราคาขายของทุกกระบอกหลายหมื่นทีเดียว!นี่ทำเงินได้มากกว่าส่งออกนอกประเทศหลายเท่าตัวเลยทว่า ขายออกไปหกพันกระบอก หากถูกตรวจสอบขึ้นมา เขาต้องติดคุกแน่“ไม่ได้ ผมไม่กล้าเสี่ยง ลูกเมียผมต้องพึ่งผมทั้งนั้น หากติดคุกติดตารางขึ้นมาจะทำยังไง?”เย่มู่มู่คิดว่าต้องสร้างความมั่นใจให้เถ้าแก่!เปิดแอปธนาคารในมือถือของเธอ จากนั้นก็อัดวิดีโอ แล้วส่งวิดีโอให้เถ้าแก่บัตรดำใบหนึ่งของเธอ ตอนนี้มียอดเงินคงเหลือพันกว่าล้านเป็นเงินที่เวินลี่โอนเข้ามาเมื่อหลายวันก่อนเธอกล่าว “ห้าพันกระบอก ในคลังของคุณต้องมีแน่ ฉันรู้ว่าคุณขายส่ง สินค้าของร้านเล็ก ๆ มากมาย ล้วนมาเอาจากคุณทั้งนั้น!”“ลูกกระสุนฉันเหมาหมด นี่เป็นยอดเงินคงเหลือของฉัน ขอแค่คุณขายให้ฉัน ฉันจะจ่ายเงินทันที!”“ตราบใดที่ดองสินค้าเอ
มั่วฝานเก็บกระดาษที่ตกอยู่ขึ้นมา และมองเห็นสิ่งที่เขียนอยู่บนนั้น ปะ...ปืนสองพันกระบอก!กระสุนปืนห้าร้อยกล่องกระสุนห้าร้อยกล่อง มีลูกกระสุนอยู่ทั้งหมดสองหมื่นห้าพันนัดของเหล่านี้เพียงพอที่จะข่มขู่มู่ฉีซิวได้แล้ว!มั่วฝานรู้ดีว่าปืนล่าสัตว์เหล่านี้สำคัญเป็นอย่างมากขอเพียงกองทัพธงเหลืองสามารถถอยทัพกลับไปได้ เผ่าหมานที่เหลือสองแสนคน หากกองทัพตระกูลจ้านของพวกเขาต่อสู้อย่างสุดกำลัง จะต้องสามารถเอาชนะได้อย่างแน่นอนแผนสำหรับสถานการณ์ตอนนี้ คือเขาต้องรีบนำแจกันไปที่แนวหน้าโดยเร็วที่สุดมั่วฝานตะโกนเสียงดัง “หวังเซิ่ง!”ไม่มีผู้ใดขานรับ หน่วยกล้าตายที่อยู่ข้างกายเขาล้วนแต่อยู่ในสนามรบทั้งสิ้นมีเพียงแค่ทหารเด็กจำนวนหนึ่ง และประชาชนในเมืองตงโจวเท่านั้น เหล่าราษฎรถือชามโจ๊กมองมาที่เขามั่วฝานเท้าสะเอว พลางมองไปยังแจกันที่อยู่ตรงหน้าสุดท้ายเขาก็หิ้วแจกันขึ้นมา เดินไปที่ข้างรถกระบะ และพยายามขนถังใบใหญ่ลงมาจากรถด้วยความยากลำบากเขานำแจกันวางไว้ที่ด้านข้างคนขับ คาดเข็มขัดนิรภัย จากนั้นก็สตาร์ทรถและไล่ตามจ้านเฉิงอิ้นไป...จ้านเฉิงอิ้นออกไปได้ประมาณครึ่งชั่วยามแล้ว ความเร็วของเขามากกว
ผิดปกติยิ่งนัก!จ้านเฉิงอิ้นกล่าวกับสวี่หมิง “บินอากาศยานไร้คนขับสำรวจสถานการณ์ของกองทัพธงเหลือง!”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”ตอนที่สวี่หมิงนำท่าอากาศยานไร้คนขับขนาดเล็กออกมาลอยขึ้นสูง แล้วเตรียมที่จะบินไปยังธารน้ำจากภูเขานั้น...ทันใดนั้นเอง ธนูดอกหนึ่งก็ยิงโดนท่ากาศยานไร้คนขับขนาดเล็กจนทำให้เกิดกลุ่มควันและตกลงมาจากท้องฟ้าเฉินอู่ตะโกนเสียงดัง “ทุกคนระวัง!”จ้านเฉิงอิ้นหน้าเปลี่ยนสี สายตามองไปยังทิศทางที่ลูกธนูยิงออกมาแย่แล้ว พวกเขาถูกโอบล้อมแล้ว!พื้นที่เนินเขาที่อยู่เบื้องหน้า มีกองทัพธงเหลืองจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังปีนขึ้นมาจากพื้น พวกเขาและกองทัพตระกูลจ้านอยู่ใกล้กันมาก ระยะห่างเพียงแค่สามสี่ร้อยเมตรเท่านั้นทุกคนล้วนสวมชุดลายพราง ใบหน้าเต็มไปด้วยดินเหลือง ในมือกำลังถือดาบม่อเตาเลียนแบบ...คนจำนวนสองแสนคน กำลังปิดล้อมกองทัพตระกูลจ้านจำนวนสามหมื่นคนเอาไว้ในวงกลมโอบล้อมกองทัพตระกูลจ้านเอาไว้หลายต่อหลายชั้นมู่ฉีซิวกำลังขี่ม้าสีขาว สวมชุดเกราะสีดำ ยืนอยู่เบื้องหน้ากองทัพธงเหลืองจำนวนสองแสนคนเขาผ่ายผอมลงไปมาก จนแทบจะไม่เหลือเค้าเดิมก่อนหน้านี้ยังนับว่ามีใบหน้าที่หล่อเหลา บัดนี
ใบหน้าอันหล่อเหลาของจ้านเฉิงอิ้นตึงเครียด ไม่กล่าวอันใดแม้แต่คำเดียวเขามองดูมู่ฉีซิวหัวเราะเสียงดังอย่างอวดดีด้วยแววตาเย็นชา พลางยกมือขึ้นอย่างไม่แยแส...เวลานี้ นักรบมากมายของกองทัพตระกูลจ้าน ได้หยิบปืนออกมาจากด้านหลัง บรรจุกระสุนปืน และเล็งไปที่มู่ฉีซิว...เมื่อมู่ฉีซิวได้เห็นฉากนี้ ก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่งมากขึ้น“ฮ่าฮ่าฮ่า จ้านเฉิงอิ้น เจ้าคิดว่าข้าเบาปัญญากระนั้นหรือ?”“การศึกที่ภูเขาเหมือง ถูกใช้เล่ห์เหลี่ยม จนทำให้ข้าตัดสินใจผิดพลาด ทำให้คนเจ็ดแสนกว่าคนต้องพ่ายแพ้ ถูกคนในใต้หล้าหัวเราะเยาะ!”“ตอนนี้เจ้ายังคิดที่จะมาใช้ไม้นี้อีก คิดว่าข้าปัญญาอ่อนจริง ๆ หรือไร!”จ้านเฉิงอิ้นไม่พูดจาไร้สาระ เมื่อโบกมือ...ปัง~ปืนล่าสัตว์ก็เกิดเสียงดังสนั่น!ลูกกระสุนปืนยิงไปยังมู่ฉีซิวเมื่อมู่ฉีซิวเห็นมือปืนเหนี่ยวไก เสียงหัวเราะก็หยุดลงอย่างกะทันหัน ตกลงมาจากหลังม้าเขาไม่ได้ถูกยิงทว่ายิงโดนหัวของม้าสีขาวม้าล้มลงในทันที ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เลือดสดไหลรินออกมาจากศีรษะ...มันดิ้นรนยืนขึ้นมาสองสามครั้ง แต่เลือดกลับไหลรินออกมามากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไม่คาดคิดเพียงไม่นานมันก็หยุดด
กองทัพธงเหลืองจำนวนไม่น้อยหวาดกลัว พวกเขาไม่เพียงแต่ไม่กล้าพุ่งมาข้างหน้าเท่านั้น ซ้ำยังล่าถอยกันอย่างต่อเนื่องด้วยเมื่อมู่ฉีซิวเห็นฉากดังกล่าว ก็ยกโล่ขึ้นมาอย่างโกรธแค้น พลางตะโกนอย่างควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ว่า “ฆ่าให้หมด สังหารกองทัพตระกูลจ้านให้สิ้น!” “พวกมันมีเพียงแค่สามหมื่นคน พวกเรามีสองแสนคน ต่อให้พวกมันมีปืน แล้วอย่างไรเล่า? พวกมันต้องใช้เวลาในการบรรจุลูกกระสุนปืน ตราบใดที่เร็วพอ โจมตีในระยะประชิดพวกมันก็จะไม่มีเวลาบรรจุลูกกระสุนและยิงปืน”ทว่าเหล่าทหารไม่เข้าใจหลักการของปืนถึงแม้ไม่ได้ล่าถอยต่อไป แต่ก็ไม่มีผู้ใดกล้าบุกไปยังเบื้องหน้าของกองทัพตระกูลจ้านเพราะพวกเขารู้ว่าผู้ใดที่ยื่นหน้าออกมา จะต้องถูกสังหารอย่างแน่นอนในมุมมองของพวกเขา ยังไม่ทันได้สัมผัสเสื้อผ้าของฝ่ายตรงข้าม ก็ถูกฆ่าตายเสียแล้ววิธีการตายเช่นนี้น่าคับข้องใจยิ่งนัก!เนื่องจากทหารกลัวตาย มู่ฉีซิวจึงตะโกนออกไปอย่างมีโทสะว่า “ผู้ใดสังหารกองทัพตระกูลจ้านได้หนึ่งคน ตกรางวัลข้าวโพดหนึ่งกระสอบ สังหารสองคน บุกเข้าไปในวังหลวง ตกรางวัลเป็นทาสสองคน!” “ผู้ที่สังหารกองทัพตระกูลจ้านได้ห้าคนขึ้นไป จะได้เป็นนายกอง และ
“ว้าว...”“รถบรรทุกขนาดใหญ่ นี่มันรถบรรทุกขนาดใหญ่เชียวนะ!”กองทัพตระกูลจ้านระเบิดเสียงโห่ร้องออกมาด้วยความดีใจทุกคนกระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุขทหารผ่านศึกจำนวนไม่น้อยดีใจถึงขนาดกระโดดโลดเต้น!พวกเขานั่งรถบรรทุก โคลงเคลงตลอดทางมาถึงที่นี่หลายคนคิดว่าหากตนเองมีรถบรรทุกเช่นนี้สักหนึ่งคันจะดีสักเพียงใดรถบรรทุกมีโครงใหญ่ ล้อใหญ่ วิ่งได้หนึ่งพันลี้ต่อวัน!อีกทั้งรถคันนี้มีคุณภาพสมน้ำสมเนื้อ จอดห่างออกไปไม่กี่ลี้ไม่เหมือนกับคำมั่นลม ๆ แล้ง ๆ ของมู่ฉีซิว ขุนนางชั้นสูงอันใดกัน?นั่นก็ต้องก่อการกบฏให้สำเร็จ สังหารฮ่องเต้ กำจัดขุนนาง ยึดเอาแผ่นดินต้าฉี่มาให้ได้!รางวัลที่ท่านแม่ทัพใหญ่ให้เป็นสิ่งที่มีอยู่จริง ไม่ผิดสัญญาแม้แต่ครั้งเดียวและ มู่ฉีซิวแห่งกองทัพธงเหลือง ตลอดมาก็อาศัยคำมั่นที่ให้กับทหาร วาดฝันให้กับทุกคน ถึงเดินมาถึงจุดนี้ได้หากพวกเขาสนับสนุนให้มู่ฉีซิวขึ้นสู่บัลลังก์ แล้วคำมั่นที่เขาให้ไม่มีทางเป็นจริงได้เขาก็จะยิ่งประสบกับการแว้งกัดที่รุนแรงยิ่งขึ้น!ตอนนี้ทุกหนทุกแห่งกำลังประสบทุพภิกขภัย ต่อให้ท่านแม่ทัพให้ที่นาเป็นรางวัล ก็จะให้ที่นาที่มีน้ำ มีคนและที่นาเ
ชนทหารกองทัพธงเหลืองที่อยู่ระหว่างทางตายไปไม่น้อยกองทัพธงเหลืองที่เดิมทีถูกปลุกปั่น และกำลังเตรียมพร้อมทำศึกสงครามครั้งใหญ่ จู่ ๆ ก็มีรถกระบะเข้ามาก่อกวนแผนการของพวกเขารถคันนี้ทั้งพุ่งทั้งชนอุตลุด แล้วขับไปอยู่ที่เบื้องหน้าของกองทัพตระกูลจ้าน จนเศษฝุ่นลอยขึ้นมาเดิมทีกองทัพตระกูลจ้านต่างก็ดึงสายหน้าไม้ราชวงศ์ฉินเพื่อเตรียมพร้อม เมื่อเห็นว่ารถกระบะขับเข้ามา ทั้งหมดก็หยุดการเคลื่อนไหวการเผชิญหน้ากันของกองทัพทั้งสองถูกทำลายลงโดยรถยนต์คันหนึ่งมั่วฝานขับรถมาอยู่ตรงหน้ากองทัพตระกูลจ้าน และเหยียบเบรกอย่างรวดเร็วจากนั้น เขาก็เปิดประตูรถ ใช้เสื้อคลุมยาวห่อแจกันเอาไว้ แล้วมาอยู่ตรงหน้าของจ้านเฉิงอิ้น“ปืน ท่านเทพส่งปืนล่าสัตว์มาสองพันกระบอก กระสุนปืนห้าร้อยกล่อง...”เฉินอู่ ซ่งตั๋ว แม้กระทั่งหวังเซิ่งและคนอื่น ๆ ต่างก็ได้ยินคำพูดของมั่วฝาน!“ปะ ปืนล่าสัตว์สองพันกว่ากระบอกงั้นหรือ?”“กระสุนปืนห้าร้อยกล่อง?”“ปืนล่าสัตว์นี้มีอานุภาพในการสังหารรุนแรงมาก ท่านเทพนำมาให้มากมายถึงเพียงนี้เชียวหรือ?”มั่วฝานกล่าวว่า “นางรู้ว่ากองทัพตระกูลจ้านกำลังเผชิญหน้ากับเผ่าหมานสองแสนคน และกองทัพธง
บัดนี้ พวกเขาทุกคนกลายเป็นเชลยศึกพวกเขาทำได้เพียงอ้อนวอน ขอให้กองทัพตระกูลจ้านเมตตาปล่อยผ่าน ขอเพียงได้มื้ออาหารให้มีชีวิตรอดก็เพียงพอ!ซ่งตั๋วสั่งให้เชลยรวบรวมศพทั้งหมดมากองรวมกัน นำไปวางบนไม้แห้ง ราดน้ำมัน แล้วจุดไฟเผาขณะที่เหล่าทหารผ่านศึกต่างเหนื่อยล้า นั่งพักกระจัดกระจายเต็มพื้นสนามรบจ้านเฉิงอิ้นหยิบวิทยุสื่อสารขึ้นมา สอบถามขบวนรถ “พวกเผ่าหมานส่งกำลังมาสนับสนุนกองทัพธงเหลืองหรือไม่?”“ท่านแม่ทัพ ไม่มีขอรับ...พวกเราไม่กล้าดับเครื่องรถเลย กลัวพวกมันจะควบม้าบุกมาเล่นงานเรา แต่แปลกมาก ทั้งที่พวกมันรู้ดีว่ากองทัพธงเหลืองกำลังรบกับพวกเรา”“เสียงระเบิดดังไปไกลขนาดนั้น แต่พวกมันยังนิ่งเฉย ปล่อยให้พวกนั้นตายไปต่อหน้าต่อตา!”จ้านเฉิงอิ้นกล่าว “ข้าเข้าใจแล้ว พวกเจ้าจับตาดูต่อไป หากพวกมันบุกเข้ามา ให้ใช้ระเบิดไล่ต้อน”“รับทราบ ท่านแม่ทัพ!”จ้านเฉิงอิ้นปิดวิทยุสื่อสารก่อนหน้านี้ เขาคิดว่ากองทัพธงเหลืองกับเผ่าหมานม่อเป่ยมีพันธมิตรอันแน่นแฟ้นเมื่อชนเผ่าป่าเถื่อนจับผู้คนมากินเป็นอาหาร และสังหารประชาชนแคว้นต้าฉี่ แต่กองทัพธงเหลืองกลับทำเป็นไม่เห็นเสียอย่างนั้นแต่ดูจากสถานการณ์ตอน
ครั้งนี้ ทันทีที่ได้ยินเสียงซ่งตั๋วประกาศคำสั่ง กองทัพธงเหลืองทั้งหมดต่างพากันทิ้งอาวุธและยอมจำนนทหารกว่าสิบหมื่นนาย นอกจากผู้ที่เสียชีวิตในสนามรบแล้ว!ที่เหลือล้วนแต่ยอมจำนน!พวกเขาคุกเข่าลงอย่างพร้อมเพรียงกัน ชูอาวุธขึ้นเหนือศีรษะ ก้มหน้าลงต่ำด้วยความพ่ายแพ้ ตามธรรมเนียมของสงครามที่ผ่านมา ผู้ที่ถูกจับเป็นเชลยจะมีเพียงสองทางเลือกถูกสังหารในที่นั้น หรือกลายเป็นทาส ใช้ชีวิตอย่างต่ำต้อยเหมือนตายทั้งเป็นแต่พวกเขาอยากเสี่ยงเดิมพัน!พวกเขาทั้งหมดเป็นชาวบ้านผู้หิวโหยที่ไม่มีทางรอด จึงมาสมัครเป็นทหารของกองทัพธงเหลืองเพราะรู้ว่าที่นี่มีเสบียงให้กิน พวกเขาจึงเข้าร่วมหากยังพอมีอาหารให้ประทังชีวิต แม้ไม่ใช่ทาส แม้ต้องลงเหมืองทำงานหนัก พวกเขาก็ยอม!ขอเพียงได้รับค่าตอบแทนตามกำหนด ได้ส่งเงินกลับไปเลี้ยงดูครอบครัวพวกเขายอมทำทุกอย่าง!ซ่งตั๋วสั่งให้ทหารผ่านศึกเข้ายึดอาวุธจากผู้ที่ยอมจำนนให้คนที่ยอมจำนนยืนเข้าแถวทีละคน เตรียมพร้อมสำหรับการตรวจนับจำนวนจ้านเฉิงอิ้นยืนอยู่กลางสมรภูมิที่เต็มไปด้วยบาดแผลแห่งสงคราม ซากศพเกลื่อนกลาดทั่วทุกหนแห่ง~ชนะแล้ว!พวกเขาชนะแล้ว!เดิมที คิดว่า
ความมุ่งมั่นในการต่อสู้ของเขาดูเหมือนจะสลายไปหมดแล้ว เขาคุกเข่าลงกับพื้นอย่างสิ้นหวังไม่ง่ายเลยกว่าเขาจะเดินมาถึงจุดนี้!ไม่ยินยอมยิ่งนัก!ต่อให้เป็นเช่นนี้ เขาก็ยังคงไม่ยอมจำนน คำรามอย่างไม่ยอมแพ้ “ข้าไม่...”ด้านหลังของเขา ซ่งตั๋วรังเกียจที่เขาส่งเสียงดัง จึงใช้ดาบในมือฟาดเขาจนสลบ“ยุ่งยากเสียจริง!”หลีชิงกับสวีจู้กล่าวว่า “ชื่อเสียงของคนผู้นี้ไม่ได้แย่นัก เพียงแต่ไม่รู้ว่า ไยมู่ฉีซิวถึงได้มอบหมายตำแหน่งสำคัญเช่นนี้ให้กับเขา!”ซ่งตั๋วกล่าวว่า “ด้วยความภักดีของเขา สามารถรับตำแหน่งที่สำคัญของมู่ฉีซิวได้ ก็ไม่น่าประหลาดใจอันใด!”ในตอนนี้ ซ่งตั๋วขึ้นไปบนรถคันเล็กของมั่วฝาน นำลำโพงที่อยู่ตรงเบาะหลังของเขา ย้ายไปไว้ที่กระโปรงท้ายรถทั้งหมดหลังจากนั้นก็ขับรถไล่ตามไปยังทิศทางที่ทหารของกองทัพธงเหลืองหลบหนีไปไล่ตามไปด้วย ตะโกนใส่ลำโพงประกาศเสียงขนาดใหญ่ไปด้วย“ผู้ที่ยอมจำนน และมอบอาวุธจะไม่ถูกสังหาร!”“ผู้ที่หันมาพึ่งพิงกองทัพตระกูลจ้านและสร้างผลงาน ไม่มีตำแหน่งขุนนางชั้นสูง ไม่มีที่ศักดินาหนึ่งพันครัวเรือน ที่ดินอันอุดมสมบูรณ์หนึ่งพันหมู่ให้!”“ทหารกองทัพตระกูลจ้านมีอาหารวันละส
เมื่อจ้านเฉิงอิ้นโบกมือ อากาศยานไร้คนขับขนาดเล็กจำนวนสิบลำก็ปรากฏขึ้น ด้านบนผูกดินระเบิดเอาไว้เรียบร้อยแล้วมั่วฝานควบคุมอากาศยานไร้คนขับลำหนึ่ง ลอยขึ้นไปอย่างช้า ๆ ไล่ตามไปทางที่พวกมู่ฉีซิวหลบหนีไปยิ่งไปกว่านั้นเฉินอู่ได้พาทหารผ่านศึกกลุ่มใหญ่ บุกเข้าไปในกลุ่มของกองทัพธงเหลืองเขาตะโกน “เหล่าสหาย สังหาร รถคันใหญ่ของพวกเราหนีไปแล้ว!”“อย่าปล่อยให้พวกมันหนีไปได้เป็นอันขาด!”“หากเอารถคันใหญ่มาไม่ได้ ก็ต้องเอารถยนต์คันเล็กมาให้ได้สักคัน บุก...”กองทัพธงเหลืองที่เดิมทีต่อสู้อย่างดุเดือดอยู่แนวหน้า อยู่ ๆ ก็ละทิ้งชุดเกราะกันเป็นจำนวนมากอย่างไม่มีเหตุผล ทั้งหมดวิ่งหนีไปที่ด้านหลังพวกเขายังไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นจนกระทั่งมีคนตะโกนขึ้นมา “ท่านผู้นำให้ถอยทัพ เร็วเข้า รีบถอยทัพ!”คนพวกนั้นถึงได้มีปฏิกิริยาตอบสนอง วิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิตเวลานี้กองทัพตระกูลจ้านประสมธนู หน้าไม้ราชวงศ์ฉิน และดินระเบิด...เข้าด้วยกันขวัญกำลังใจของพวกเขาเต็มเปี่ยม ทั้งหมดบุกสังหารด้วยท่าทางดุดันทหารกองทัพธงเหลืองวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิตท่านผู้นำยังหนีไปแล้ว ขวัญกำลังใจจึงลดลงไปอย่างมาก เหลือแค่เ
จ้านเฉิงอิ้นขึ้นขี่ม้า สวมหมวกกันน็อก มือถือดาบม่อเตา แล้วขี่ออกมาเพื่อเผชิญหน้าเฉินอู่กับซ่งตั๋วตามติดอยู่ด้านหลังครั้งนี้ เหลือหน่วยกล้าตายส่วนหนึ่งไว้เพื่อปกป้องมั่วฝานมั่วฝานกล่าวว่า “พวกเจ้าไปสังหารศัตรูกันให้หมด ไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงข้า!”เขาขึ้นนั่งบนรถ และขับพุ่งเข้าไปท่ามกลางฝูงชนของกองทัพธงเหลืองการศึกในครั้งนี้ต่อสู้กันอย่างดุเดือดฝ่ายตรงข้ามมีจำนวนคนมากเกินไป พวกเขามาถึงใกล้กับเมืองหลวงแล้ว ไม่ยอมละทิ้งความมั่งคั่งที่ได้มาอย่างง่ายดายต้องการสังหารกองทัพตระกูลจ้านกองทัพตระกูลจ้านมีประสบการณ์ในการรบมากกว่ากองทัพธงเหลือง อาวุธและอุปกรณ์สวมใส่ดียิ่งกว่ากองทัพธงเหลืองอย่างไรก็ดีฝ่ายตรงข้ามมีคนจำนวนมากพวกเขาต่อสู้อย่างยากลำบาก!หน่วยปืนล่าสัตว์ถูกคุกคามอย่างต่อเนื่อง แม้แต่หน่วยหน้าไม้ราชวงศ์ฉินยังทิ้งคันธนูและศร หยิบดาบม่อเตามาต่อสู้กับศัตรู...ในเวลานี้ หวังเซิ่งคิดว่าหากต่อสู้ต่อไป กองทัพตระกูลจ้านจะร่อยหรอสองแสนคนเมื่อเทียบกับสามหมื่นคน มากมายเกินไปจริง ๆ อีกทั้ง พวกเขายังถูกโอบล้อม หากอยากฝ่าวงล้อม มีแต่ต้องสังหารกองทัพธงเหลืองให้สิ้นเท่านั้นเขามอ
เย่มู่มู่กำลังต่อรองราคากับเจ้าของร้าน อยากจะซื้อปืนล่าสัตว์จำนวนมากเจ้าของร้านจนใจยืนยันคำเดิมอย่างหนักแน่นว่าเขาขายเพียงกระบอกเดียวเท่านั้นเย่มู่มู่เตรียมจะใช้เงินติดสิบน เพื่องัดปากเจ้าของร้านทันใดนั้นเอง ภายในสมองของนางก็ได้ยินเสียงของจ้านเฉิงอิ้นที่แฝงไปด้วยความตื้นตันอย่างชัดเจนว่า “ท่านเทพ บุญคุณในวันนี้ เฉิงอิ้นจะจดจำเอาไว้”“เฉิงอิ้นไม่มีอันใดจะตอบแทน ข้าจะสังหารศัตรูอย่างกล้าหาญ พิชิตกองทัพธงเหลืองให้ได้ และทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ!”เมื่อเย่มู่มู่ได้ยิน ก็กอดแจกันพลางรีบวิ่งเข้าไปในรถเมื่อเจ้าของร้านเห็นดังนั้น ก็ตะโกนไล่หลังนาง “นี่ คุณยังเอาอยู่ไหม นำเข้าจากเยอรมัน นำเข้าจากรัสเซียมีหมด อานุภาพสูง จะล่าหมีก็ไม่มีปัญหา!”“รอเดี๋ยวค่ะ ฉันจะกลับมาซื้อ!”เย่มู่มู่รีบเข้าไปนั่งในรถ กอดแจกันไว้ พลางถามจ้านเฉิงอิ้นด้วยความตื่นเต้น“จ้านเฉิงอิ้น เจ้าเห็นปืนสองพันกระบอกแล้วหรือไม่?”“ขอโทษด้วย ข้าสามารถซื้อมาได้เพียงเท่านี้ เจ้าของร้านเกรงว่าจะถูกตรวจสอบ ไม่ว่าอย่างไรก็ขายให้ข้าได้เพียงเท่านี้!”ภายในแจกัน เสียงแหบและทุ้มต่ำจากสองพันปีก่อนดังออกมา“ท่านเทพ บุญคุณใหญ่หลว
ชนทหารกองทัพธงเหลืองที่อยู่ระหว่างทางตายไปไม่น้อยกองทัพธงเหลืองที่เดิมทีถูกปลุกปั่น และกำลังเตรียมพร้อมทำศึกสงครามครั้งใหญ่ จู่ ๆ ก็มีรถกระบะเข้ามาก่อกวนแผนการของพวกเขารถคันนี้ทั้งพุ่งทั้งชนอุตลุด แล้วขับไปอยู่ที่เบื้องหน้าของกองทัพตระกูลจ้าน จนเศษฝุ่นลอยขึ้นมาเดิมทีกองทัพตระกูลจ้านต่างก็ดึงสายหน้าไม้ราชวงศ์ฉินเพื่อเตรียมพร้อม เมื่อเห็นว่ารถกระบะขับเข้ามา ทั้งหมดก็หยุดการเคลื่อนไหวการเผชิญหน้ากันของกองทัพทั้งสองถูกทำลายลงโดยรถยนต์คันหนึ่งมั่วฝานขับรถมาอยู่ตรงหน้ากองทัพตระกูลจ้าน และเหยียบเบรกอย่างรวดเร็วจากนั้น เขาก็เปิดประตูรถ ใช้เสื้อคลุมยาวห่อแจกันเอาไว้ แล้วมาอยู่ตรงหน้าของจ้านเฉิงอิ้น“ปืน ท่านเทพส่งปืนล่าสัตว์มาสองพันกระบอก กระสุนปืนห้าร้อยกล่อง...”เฉินอู่ ซ่งตั๋ว แม้กระทั่งหวังเซิ่งและคนอื่น ๆ ต่างก็ได้ยินคำพูดของมั่วฝาน!“ปะ ปืนล่าสัตว์สองพันกว่ากระบอกงั้นหรือ?”“กระสุนปืนห้าร้อยกล่อง?”“ปืนล่าสัตว์นี้มีอานุภาพในการสังหารรุนแรงมาก ท่านเทพนำมาให้มากมายถึงเพียงนี้เชียวหรือ?”มั่วฝานกล่าวว่า “นางรู้ว่ากองทัพตระกูลจ้านกำลังเผชิญหน้ากับเผ่าหมานสองแสนคน และกองทัพธง
“ว้าว...”“รถบรรทุกขนาดใหญ่ นี่มันรถบรรทุกขนาดใหญ่เชียวนะ!”กองทัพตระกูลจ้านระเบิดเสียงโห่ร้องออกมาด้วยความดีใจทุกคนกระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุขทหารผ่านศึกจำนวนไม่น้อยดีใจถึงขนาดกระโดดโลดเต้น!พวกเขานั่งรถบรรทุก โคลงเคลงตลอดทางมาถึงที่นี่หลายคนคิดว่าหากตนเองมีรถบรรทุกเช่นนี้สักหนึ่งคันจะดีสักเพียงใดรถบรรทุกมีโครงใหญ่ ล้อใหญ่ วิ่งได้หนึ่งพันลี้ต่อวัน!อีกทั้งรถคันนี้มีคุณภาพสมน้ำสมเนื้อ จอดห่างออกไปไม่กี่ลี้ไม่เหมือนกับคำมั่นลม ๆ แล้ง ๆ ของมู่ฉีซิว ขุนนางชั้นสูงอันใดกัน?นั่นก็ต้องก่อการกบฏให้สำเร็จ สังหารฮ่องเต้ กำจัดขุนนาง ยึดเอาแผ่นดินต้าฉี่มาให้ได้!รางวัลที่ท่านแม่ทัพใหญ่ให้เป็นสิ่งที่มีอยู่จริง ไม่ผิดสัญญาแม้แต่ครั้งเดียวและ มู่ฉีซิวแห่งกองทัพธงเหลือง ตลอดมาก็อาศัยคำมั่นที่ให้กับทหาร วาดฝันให้กับทุกคน ถึงเดินมาถึงจุดนี้ได้หากพวกเขาสนับสนุนให้มู่ฉีซิวขึ้นสู่บัลลังก์ แล้วคำมั่นที่เขาให้ไม่มีทางเป็นจริงได้เขาก็จะยิ่งประสบกับการแว้งกัดที่รุนแรงยิ่งขึ้น!ตอนนี้ทุกหนทุกแห่งกำลังประสบทุพภิกขภัย ต่อให้ท่านแม่ทัพให้ที่นาเป็นรางวัล ก็จะให้ที่นาที่มีน้ำ มีคนและที่นาเ
กองทัพธงเหลืองจำนวนไม่น้อยหวาดกลัว พวกเขาไม่เพียงแต่ไม่กล้าพุ่งมาข้างหน้าเท่านั้น ซ้ำยังล่าถอยกันอย่างต่อเนื่องด้วยเมื่อมู่ฉีซิวเห็นฉากดังกล่าว ก็ยกโล่ขึ้นมาอย่างโกรธแค้น พลางตะโกนอย่างควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ว่า “ฆ่าให้หมด สังหารกองทัพตระกูลจ้านให้สิ้น!” “พวกมันมีเพียงแค่สามหมื่นคน พวกเรามีสองแสนคน ต่อให้พวกมันมีปืน แล้วอย่างไรเล่า? พวกมันต้องใช้เวลาในการบรรจุลูกกระสุนปืน ตราบใดที่เร็วพอ โจมตีในระยะประชิดพวกมันก็จะไม่มีเวลาบรรจุลูกกระสุนและยิงปืน”ทว่าเหล่าทหารไม่เข้าใจหลักการของปืนถึงแม้ไม่ได้ล่าถอยต่อไป แต่ก็ไม่มีผู้ใดกล้าบุกไปยังเบื้องหน้าของกองทัพตระกูลจ้านเพราะพวกเขารู้ว่าผู้ใดที่ยื่นหน้าออกมา จะต้องถูกสังหารอย่างแน่นอนในมุมมองของพวกเขา ยังไม่ทันได้สัมผัสเสื้อผ้าของฝ่ายตรงข้าม ก็ถูกฆ่าตายเสียแล้ววิธีการตายเช่นนี้น่าคับข้องใจยิ่งนัก!เนื่องจากทหารกลัวตาย มู่ฉีซิวจึงตะโกนออกไปอย่างมีโทสะว่า “ผู้ใดสังหารกองทัพตระกูลจ้านได้หนึ่งคน ตกรางวัลข้าวโพดหนึ่งกระสอบ สังหารสองคน บุกเข้าไปในวังหลวง ตกรางวัลเป็นทาสสองคน!” “ผู้ที่สังหารกองทัพตระกูลจ้านได้ห้าคนขึ้นไป จะได้เป็นนายกอง และ